หน้า: 6/7
มะม่วงอาร์ทูอีทู คนไทยปลูกส่งผลขายนอก
|
จากวันนั้นถึงวันนี้ ปรากฏว่า "มะม่วงอาร์ทูอีทู" ที่ถูกซื้อไปปลูกได้กลายเป็นมะม่วงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ ผู้ปลูกเก็บผลส่งไปขายยังต่างประเทศสร้างรายได้ เข้าประเทศอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยมีประเทศหลักๆที่ต้องการ "มะม่วงอาร์ทูอีทู" คือ ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น รัสเซีย และประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น และตลาดในประเทศไม่ต้องสั่งนำเข้าอีก ในต่างประเทศนิยมรับประทานกันมาก "นายเกษตร" ทราบข่าวแล้วเห็นว่า "คนไทยเก่ง" จึงเก็บมาเล่าให้ผู้อ่านไทยรัฐได้รู้ และตอกย้ำว่า หากทำอะไรด้วยความตั้งใจแล้ว สามารถสร้างอาชีพ หรือ สร้างเงินได้อย่างแน่นอน
มะม่วงอาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงที่ติดผลดก ใช้เวลาปลูกประมาณ 4-5 ปี สามารถติดผลชุดแรก จึงคุ้มค่ามากถ้าจะปลูกเพื่อเก็บผลขาย อายุการให้ผลิตผลก็ยาวนานเกินกว่า 20 ปีต่อต้น ปัจจุบันทราบว่า เกษตรกรบางรายใช้เทคนิคบังคับทำให้ "มะม่วงอาร์ทูอีทู" ติดผลนอกฤดูกาลได้ อีกด้วย เพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค
มะม่วงอาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงที่ปลูกกินผลสุก รสชาติหวานปนเปรี้ยว เนื้อเหนียวละเอียดไม่เละ ไม่มีเสี้ยน ผลสุกเต็มที่สามารถเก็บได้นานกว่า 10 วัน ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งไปจำหน่ายเป็นระยะทางไกลๆ สีของผลแก่จัดเมื่อเก็บไปบ่มจะเป็นสีแดงอมส้มมีนวลงดงามน่ารับประทานมาก ใครที่มีพื้นที่น้อย ปลูก "มะม่วงอาร์ทูอีทู" ไว้เก็บผลรับประทานใกล้ๆบ้าน ต้นหรือสองต้น เมื่อถึงฤดูกาลติดผลสุกดกเต็มต้น ผลถูกแสงแดดทำให้สีของผลเป็นสีแดงอมส้มตลอดทั้งผล จะดูสวยงามตื่นตาตื่นใจแก่เจ้าของและผู้สัญจรผ่านไปมาเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนใคร ที่ต้องการกิ่งพันธุ์ของ "มะม่วงอาร์ทูอีทู" ไปปลูก ติดต่อ คุณประภาส สุภาผล บ้านเลขที่ 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หรือ โทร. 08-0646-4699 หรือไปซื้อได้ที่งาน "เกษตรมหัศจรรย์" ที่เดอะมอลล์ บางแค ชั้น 4 บูธสวนประภาสไม้ผล จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ.นี้ นัยว่ามีผลนอกฤดูกาลให้ชมด้วย ราคาสอบถามกันเองครับ.
ที่มา : ไทยรัฐ
|
มะม่วงพันธุ์ “ยู่เหวิน"
มีถิ่นกำเนิดที่ไต้หวันและเป็นมะม่วงลูกผสมระหว่างพันธุ์ จินหวง กับมะม่วงพันธุ์ “อ้ายเหวิน” (มะม่วงอ้ายเหวินเป็นมะม่วงสายพันธุ์เดียวกับพันธุ์เออร์วิน) มะม่วงลูกผสมสายพันธุ์นี้ได้มีการนำยอดพันธุ์มาเสียบยอดในประเทศไทยประมาณ 4-5 ปีมาแล้ว
คุณเสน่ห์ ลมสถิตย์ เกษตรกร อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้นำมาเผยแพร่ให้เกษตรกรได้ขยายพื้นที่ปลูกเนื่องจากต้นพันธุ์ที่ปลูกในสวนได้เริ่มให้ผลผลิตแล้ว ผลปรากฏว่าเป็นมะม่วงที่มีลักษณะเด่นและรสชาติดี คือ มีผลขนาดใหญ่ น้ำหนักผลเฉลี่ย 1-1.5 กิโลกรัม บริโภคได้ทั้งดิบและสุก ในระยะผลดิบหรือห่ามจะมีรสชาติหวานมัน (ไม่มีเปรี้ยวปน) ระยะผลสุกเนื้อจะมีรสชาติหวานหอม, ไม่เละ, ไม่มีเสี้ยนและไม่มีกลิ่นขี้ไต้ ที่สำคัญสีของผลมีสีม่วงเข้มดึงดูดใจแก่ผู้พบเห็น จัดเป็นมะม่วงแปลกและหายาก ปลูกและให้ผลผลิตได้ ในประเทศไทย
คุณเสน่ห์บอกว่ามะม่วงพันธุ์ยู่เหวิน เป็นมะม่วงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ปลูกง่าย และเริ่มให้ผลผลิตเมื่อต้น มีอายุเฉลี่ยได้ 3-4 ปี จากการสังเกตพบว่าออกดอกและติดผลดีทุกปีแต่ยัง ไม่มีการทดลองว่าตอบสนองต่อสารแพคโคลบิวทราโซล เพื่อบังคับให้ออกดอกและ ติดผลนอกฤดูได้หรือไม่อย่างกรณีของมะม่วงพันธุ์ต่างประเทศสายพันธุ์อื่น เช่น พันธุ์อาร์ทูอีทูและพันธุ์เคน ซิงตันไพรด์ จากประเทศออสเตรเลีย ปลูกให้ผลผลิตดีและขายได้ราคาดีในบ้านเรา แต่แตกต่างกันตรงที่พันธุ์เคน ซิงตันไพรด์ตอบสนองต่อสารแพคโคลบิวทราโซลบังคับให้ออกนอกฤดูได้และให้ผลผลิตดกมาก ในขณะที่พันธุ์อาร์ทูอีทูไม่ตอบสนองเท่าที่ควรจะต้องปล่อยให้ออกดอกและติดผลตามฤดูกาล แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาราคาผลผลิตของมะม่วง อาร์ทูอีทูไม่เคยตกขายผลผลิตจากสวนได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 40-50 บาท
ปัจจุบันมะม่วง จัดเป็นไม้ผลที่มีเกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกมากที่สุดชนิดหนึ่งและพื้นที่หลักที่ปลูกพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออกอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา, นครราชสีมา, อุดรธานี, เชียงใหม่, ประจวบคีรีขันธ์, พิษณุโลกและพิจิตร เป็นต้น จะต้องยอมรับกันว่าในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองมีราคาดีมากดีกว่าไม้ผลอีกหลายชนิด ทำให้พื้นที่ปลูกมะม่วงกินดิบหรือมะม่วงมันลดน้อยลง ทำให้ในบางปีมะม่วงกินดิบซึ่งคนไทยนิยมบริโภคมีราคาสูงขึ้นอย่างเช่น พันธุ์เขียวเสวย, มันขุนศรี ฯลฯ
มีคำแนะนำว่าการขยายพื้นที่ปลูกมะม่วงในอนาคต เกษตรกรควรจะแบ่งพื้นที่ไว้ปลูกมะม่วงกินดิบหรือมะม่วงสายพันธุ์ต่างประเทศบ้างเพื่อลดความเสี่ยงทางการตลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างกรณีของมะม่วงพันธุ์ยู่เหวินจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการปลูกมะม่วงในประเทศไทย.
ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=482&contentID=78264