-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 197 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

มะม่วง




หน้า: 6/7


มะม่วงอาร์ทูอีทู คนไทยปลูกส่งผลขายนอก  

จากวันนั้นถึงวันนี้ ปรากฏว่า "มะม่วงอาร์ทูอีทู" ที่ถูกซื้อไปปลูกได้กลายเป็นมะม่วงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่  ผู้ปลูกเก็บผลส่งไปขายยังต่างประเทศสร้างรายได้ เข้าประเทศอย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยมีประเทศหลักๆที่ต้องการ "มะม่วงอาร์ทูอีทู" คือ ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น รัสเซีย และประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น และตลาดในประเทศไม่ต้องสั่งนำเข้าอีก ในต่างประเทศนิยมรับประทานกันมาก "นายเกษตร" ทราบข่าวแล้วเห็นว่า "คนไทยเก่ง" จึงเก็บมาเล่าให้ผู้อ่านไทยรัฐได้รู้ และตอกย้ำว่า หากทำอะไรด้วยความตั้งใจแล้ว สามารถสร้างอาชีพ หรือ สร้างเงินได้อย่างแน่นอน
         
มะม่วงอาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงที่ติดผลดก ใช้เวลาปลูกประมาณ 4-5 ปี สามารถติดผลชุดแรก จึงคุ้มค่ามากถ้าจะปลูกเพื่อเก็บผลขาย อายุการให้ผลิตผลก็ยาวนานเกินกว่า 20 ปีต่อต้น ปัจจุบันทราบว่า เกษตรกรบางรายใช้เทคนิคบังคับทำให้ "มะม่วงอาร์ทูอีทู" ติดผลนอกฤดูกาลได้ อีกด้วย เพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค
         
มะม่วงอาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงที่ปลูกกินผลสุก รสชาติหวานปนเปรี้ยว เนื้อเหนียวละเอียดไม่เละ ไม่มีเสี้ยน ผลสุกเต็มที่สามารถเก็บได้นานกว่า 10 วัน ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งไปจำหน่ายเป็นระยะทางไกลๆ สีของผลแก่จัดเมื่อเก็บไปบ่มจะเป็นสีแดงอมส้มมีนวลงดงามน่ารับประทานมาก ใครที่มีพื้นที่น้อย ปลูก "มะม่วงอาร์ทูอีทู" ไว้เก็บผลรับประทานใกล้ๆบ้าน ต้นหรือสองต้น เมื่อถึงฤดูกาลติดผลสุกดกเต็มต้น ผลถูกแสงแดดทำให้สีของผลเป็นสีแดงอมส้มตลอดทั้งผล จะดูสวยงามตื่นตาตื่นใจแก่เจ้าของและผู้สัญจรผ่านไปมาเป็นอย่างยิ่ง
         
ส่วนใคร ที่ต้องการกิ่งพันธุ์ของ "มะม่วงอาร์ทูอีทู" ไปปลูก ติดต่อ คุณประภาส สุภาผล บ้านเลขที่ 33/4 หมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หรือ โทร. 08-0646-4699 หรือไปซื้อได้ที่งาน "เกษตรมหัศจรรย์" ที่เดอะมอลล์ บางแค ชั้น 4 บูธสวนประภาสไม้ผล จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ.นี้ นัยว่ามีผลนอกฤดูกาลให้ชมด้วย ราคาสอบถามกันเองครับ.



ที่มา  :  ไทยรัฐ




มะม่วงพันธุ์ “ยู่เหวิน"

มีถิ่นกำเนิดที่ไต้หวันและเป็นมะม่วงลูกผสมระหว่างพันธุ์ จินหวง กับมะม่วงพันธุ์ “อ้ายเหวิน” (มะม่วงอ้ายเหวินเป็นมะม่วงสายพันธุ์เดียวกับพันธุ์เออร์วิน) มะม่วงลูกผสมสายพันธุ์นี้ได้มีการนำยอดพันธุ์มาเสียบยอดในประเทศไทยประมาณ 4-5 ปีมาแล้ว
   
คุณเสน่ห์ ลมสถิตย์ เกษตรกร อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้นำมาเผยแพร่ให้เกษตรกรได้ขยายพื้นที่ปลูกเนื่องจากต้นพันธุ์ที่ปลูกในสวนได้เริ่มให้ผลผลิตแล้ว ผลปรากฏว่าเป็นมะม่วงที่มีลักษณะเด่นและรสชาติดี คือ มีผลขนาดใหญ่ น้ำหนักผลเฉลี่ย 1-1.5 กิโลกรัม บริโภคได้ทั้งดิบและสุก ในระยะผลดิบหรือห่ามจะมีรสชาติหวานมัน (ไม่มีเปรี้ยวปน) ระยะผลสุกเนื้อจะมีรสชาติหวานหอม, ไม่เละ, ไม่มีเสี้ยนและไม่มีกลิ่นขี้ไต้ ที่สำคัญสีของผลมีสีม่วงเข้มดึงดูดใจแก่ผู้พบเห็น จัดเป็นมะม่วงแปลกและหายาก ปลูกและให้ผลผลิตได้ ในประเทศไทย
   
คุณเสน่ห์บอกว่ามะม่วงพันธุ์ยู่เหวิน เป็นมะม่วงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ปลูกง่าย และเริ่มให้ผลผลิตเมื่อต้น  มีอายุเฉลี่ยได้ 3-4 ปี จากการสังเกตพบว่าออกดอกและติดผลดีทุกปีแต่ยัง  ไม่มีการทดลองว่าตอบสนองต่อสารแพคโคลบิวทราโซล เพื่อบังคับให้ออกดอกและ ติดผลนอกฤดูได้หรือไม่อย่างกรณีของมะม่วงพันธุ์ต่างประเทศสายพันธุ์อื่น เช่น พันธุ์อาร์ทูอีทูและพันธุ์เคน ซิงตันไพรด์  จากประเทศออสเตรเลีย ปลูกให้ผลผลิตดีและขายได้ราคาดีในบ้านเรา แต่แตกต่างกันตรงที่พันธุ์เคน ซิงตันไพรด์ตอบสนองต่อสารแพคโคลบิวทราโซลบังคับให้ออกนอกฤดูได้และให้ผลผลิตดกมาก ในขณะที่พันธุ์อาร์ทูอีทูไม่ตอบสนองเท่าที่ควรจะต้องปล่อยให้ออกดอกและติดผลตามฤดูกาล แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาราคาผลผลิตของมะม่วง อาร์ทูอีทูไม่เคยตกขายผลผลิตจากสวนได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 40-50 บาท

 ปัจจุบันมะม่วง จัดเป็นไม้ผลที่มีเกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกมากที่สุดชนิดหนึ่งและพื้นที่หลักที่ปลูกพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออกอยู่ที่  จ.ฉะเชิงเทรา,  นครราชสีมา,  อุดรธานี, เชียงใหม่,  ประจวบคีรีขันธ์, พิษณุโลกและพิจิตร เป็นต้น จะต้องยอมรับกันว่าในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองมีราคาดีมากดีกว่าไม้ผลอีกหลายชนิด ทำให้พื้นที่ปลูกมะม่วงกินดิบหรือมะม่วงมันลดน้อยลง ทำให้ในบางปีมะม่วงกินดิบซึ่งคนไทยนิยมบริโภคมีราคาสูงขึ้นอย่างเช่น พันธุ์เขียวเสวย, มันขุนศรี ฯลฯ
   
มีคำแนะนำว่าการขยายพื้นที่ปลูกมะม่วงในอนาคต เกษตรกรควรจะแบ่งพื้นที่ไว้ปลูกมะม่วงกินดิบหรือมะม่วงสายพันธุ์ต่างประเทศบ้างเพื่อลดความเสี่ยงทางการตลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างกรณีของมะม่วงพันธุ์ยู่เหวินจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการปลูกมะม่วงในประเทศไทย.


ทวีศักดิ์  ชัยเรืองยศ


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=482&contentID=78264
              

มะม่วงพันธุ์นี้ มีถิ่นกำเนิดจาก ประเทศไต้หวัน เช่นเดียวกับ มะม่วงอ้ายเหวิน ถูกนำเข้ามาขยายพันธุ์ปลูกในประเทศไทยนานกว่า 4-5 ปีแล้ว มีข้อเด่นคือ ผลใหญ่ รสชาติขณะดิบหรือห่ามมันกรอบหวานไม่มีเปรี้ยวปน ผลสุกหวานหอมไม่มีเสี้ยนและไม่เละ เคี้ยวหนึบอร่อยมาก ที่สำคัญสีของผล “มะม่วงยู่เหวิน” ไม่ว่าจะเป็นผลดิบหรือสุกจะเป็นสีม่วงเข้มสวยงามมาก และจะติดผลดกทำให้เวลาติดผลทั้งต้น แปลกตายิ่ง
 

มะม่วงยู่เหวิน อยู่ในวงศ์ ANACARDIACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-20 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาเยอะ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายกิ่ง ใบเป็นรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบมน ใบจะดูคล้ายใบของมะม่วงพันธุ์เขียวใหญ่ สีเขียวสด ใบดกให้ร่มเงาดีมาก


ดอก ออกเป็นช่อแบบแยกแขนงช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก ดอกเป็นสีเหลืองอ่อน หรือสีเหลืองนวล มีกลิ่นหอม “ผล” เป็นรูปกลมรีคล้ายผลของมะม่วงอ้ายเหวิน หรือผลของมะม่วงจีนหวง ผลมีขนาดใหญ่ โตเต็มที่มีนํ้าหนักเฉลี่ยระหว่าง 1-1.5 กิโลกรัมต่อผล


ผลดิบสีม่วง มีนวลทั่วทั้งผล ผลห่ามมีรสชาติหวานมันกรอบอร่อยมาก ผลสุกเป็นสีม่วงเข้มเกือบดำ เนื้อผลเป็นสีเหลืองเข้ม รสหวานหอม ไม่มีเสี้ยน และไม่เละตามที่กล่าวข้างต้น เคี้ยวหนึบสุดยอดจริงๆ รสชาติ ใกล้เคียงกับมะม่วงนํ้าดอกไม้มัน เมล็ดลีบ ให้เนื้อเยอะ ติดผลปีละครั้ง แต่จะให้ผลดกทั้งต้น
 
ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง และทาบกิ่ง

ปัจจุบัน “มะม่วงยู่เหวิน” ยังไม่มีกิ่งพันธุ์ ออกวางขาย เนื่องจากอยู่ ระหว่างทาบกิ่งกับต้นแม่และรากเพิ่งจะงอกยังไม่แข็งแรงดี “นายเกษตร” ใจร้อนและเห็นว่าเป็นมะม่วงพันธุ์ใหม่ ล่าสุดที่มีความอร่อย และสีของ ผลสวยงามมาก จึงรีบแนะนำให้แฟนคอลัมน์ที่นิยมปลูกไม้ผลได้รู้จักล่วงหน้าทันที

ส่วนใคร ที่ต้องการกิ่งพันธุ์ สามารถติดต่อ “คุณเล็ก” ผู้ขยายพันธุ์ได้ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวน จตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ แผงตรงกันข้ามกับโครงการ 17 หรือ “คุณหลง-คุณก็อต” ตรงกันข้ามกับโครงการ 15 ราคา สอบถามกันเอง และสั่งจองเอาไว้ก่อนป้องกันต้นพันธุ์หมด

การปลูกมะม่วงยู่เหวิน เป็นพันธุ์ที่ปลูกง่าย เติบโตได้ในดินทั่วไป ไม่ชอบนํ้าท่วมขัง หลังปลูกช่วงแรกรดนํ้าพอชุ่มทั้งเช้าและเย็น บำรุงปุ๋ยคอก หรือขี้วัวขี้ควายแห้ง กลบฝังดิบรอบโคนต้นเดือนละครั้ง ระยะปลูก 3-4 ปี จะเริ่มติดผลชุดแรก หลังเก็บผลผลิตต้องตัดแต่งกิ่งพร้อมใส่ปุ๋ยบำรุงต้นสูตร 15-15-15 เดือนละครั้งทันทีจะมีผลดกทุกปีครับ.


ที่มา ไทยรัฐ



กุณฑล เทพจิตรา

ที่นี่ขายลูกกินกันทั้งหมู่บ้าน  มะม่วงโชคอนันต์  ที่บ้านคลองต่าง ทำเงินให้เกษตรกร กว่า 100 ล้านบาท

การปลูกมะม่วงโชคอนันต์ของเกษตรกรบ้านคลองต่าง ตำบลน้ำขุม อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย เริ่มปลูกกันมาประมาณปี 2540 เดิมนั้นเกษตรกรจะปลูกมะม่วงพันธุ์อื่น เช่น น้ำดอกไม้ เขียวเสวย ฯลฯ แต่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการติดดอกออกผลและราคาตกต่ำ เกษตรกรจึงเปลี่ยนมาปลูกมะม่วงโชคอนันต์ ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องราคาและการติดผล ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกมะม่วงโชคอนันต์ประมาณ 2,185 ไร่ เกษตรกร 150 ราย ในด้านผลผลิตจะเก็บเกี่ยวปีละ 3 ครั้ง รวมประมาณ 10,919,000 กิโลกรัม โดยมีมูลค่าผลผลิตต่อปีประมาณ 131.01 ล้านบาท

เทคนิคการผลิตมะม่วงโชคอนันต์ที่บ้านคลองต่าง
การปลูกมะม่วงโชคอนันต์ของเกษตรกรตำบลน้ำขุม จะใช้วิธีปลูกในระยะชิดและจะบังคับทรงพุ่มไม่ให้สูง ซึ่งสะดวกต่อการดูแลและเก็บเกี่ยว โดย 1 ไร่ จะมีจำนวน 150-200 ต้น โดยหวังผลผลิตต้นละ 10-15 กิโลกรัมโดยประมาณ ผลผลิตที่ได้เฉลี่ย 1,500-3,000 กิโลกรัม ต่อไร่

ที่ลุ่มน้ำผ่านหรือนาสะเทือน เหมาะแก่การปลูกมะม่วงโชคอนันต์
สภาพพื้นที่ต้องไม่เป็นที่ดอน แต่ถ้าเป็นที่ลุ่มต้องยกร่องเพื่อไม่ให้น้ำท่วม สำหรับบ้านคลองต่างนั้นเป็นที่ลุ่มน้ำผ่านหรือนาสะเทือน จึงเหมาะสมกับการปลูกมะม่วงโชคอนันต์

วิธีการปลูก เกษตรกรจะใช้มะม่วงตาลหรือกะล่อนเพาะในถุงชำประมาณ 3 เดือน แล้วนำไปปลูกในระยะ 2 คูณ 2 เมตร หรือ 2.50 คูณ 5 เมตร จะได้มะม่วงประมาณ 150-200 ต้น ต่อไร่ จากนั้นจะเลี้ยงต้นตอไว้ประมาณ 3 ปี จึงเริ่มเปลี่ยนพันธุ์เป็นโชคอนันต์ ด้วยวิธีเปลี่ยนยอดโดยเสียบเปลือกข้าง ต้นละประมาณ 3 ยอด และเปลี่ยนยอดสูงจากพื้นดินประมาณ 1.30 เมตร เพื่อไม่ให้ผลมะม่วงที่ออกมาในปีแรกถูกพื้นดินซึ่งจะทำให้ผิวไม่สวย

วิธีดูแลรักษา
การตัดแต่งกิ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะตัดปีละ 1 ครั้ง ประมาณปลายเดือนเมษายน และตัดแต่งเปิดทรงพุ่มให้สูงระดับ 180 เซนติเมตร เพื่อสะดวกในการเก็บเกี่ยว สำหรับมะม่วงที่เปลี่ยนยอดใหม่ เกษตรกรจะไม่ตัดแต่งกิ่งจนกว่าทรงพุ่มจะสูงเลยระดับหัวคนหรือกิ่งชิดกันในแต่ละแถว

การให้ปุ๋ย เกษตรกรจะให้ปุ๋ยปีละ 2 ครั้ง คือประมาณเดือนพฤษภาคมและปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม โดยเกษตรกรจะใช้ปุ๋ยคอกประมาณ 3 กิโลกรัม ต่อต้น และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ในอัตราประมาณ 0.5 กิโลกรัม ต่อต้น หรือ 100 กิโลกรัม ต่อไร่

วิธีการบังคับมะม่วงให้ออก
การราดสารเพื่อบังคับมะม่วงให้ออกช่อ เกษตรกรจะราดสารในต้นเดือนพฤษภาคม โดย 1 ปี เกษตรกรจะราดสาร 1 ครั้ง ในอัตราสารควบคุมการเจริญเติบโต 5 กิโลกรัม ต่อ 5 ลิตร อัตราการใช้ต่อต้น ถ้าอายุมะม่วง 5 ปี อัตราการใช้ 20 ซีซี. ต่อต้น ถ้าอายุ 7 ปีขึ้นไป อัตราการใช้ 30-50 ซีซี ต่อต้น หลังจากราดสารควบคุมการเจริญเติบโตประมาณ 20 วัน เกษตรกรจะใช้สารไทโอยูเรียเพื่อเร่งช่อดอกให้ออกในต้นเดือนมิถุนายน

โรคแมลงที่สำคัญและการดูแลช่อมะม่วง
1. เพลี้ยจักจั่นช่อมะม่วง เกษตรกรจะใช้สารเคมีประเภทดูดซึมไซเพอร์เมทริน
2. เพลี้ยไฟไรแดง เกษตรกรใช้สารเคมีอะบาเม็คติน
3. โรคราดำ เกษตรกรใช้สารเคมีประเภทคาร์เบนดาซิม

การป้องกันกำจัดวัชพืช
- เกษตรกรจะกำจัดวัชพืช 2 ครั้ง ต่อปี โดยใช้ไกลโฟเสตและใช้แรงงานคน การเก็บผลผลิต เกษตรกรจะเก็บผลผลิตได้ปีละ 3 ครั้ง

- ช่วงเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน เกษตรกรจะขายผลผลิตเป็นมะม่วงแก่จัด กิโลกรัมละ 5 บาท

- ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนกันยายน เกษตรกรจะขายผลผลิตเป็นมะม่วงค่อนข้างอ่อน-แก่ไม่จัดในราคา กิโลกรัมละ 10-17 บาท โดยไม่มีการคัดเกรด

- ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม เกษตรกรจะขายมะม่วงอ่อนในราคากิโลกรัมละ 15-23 บาท โดยคัดเกรด

ด้านการตลาด
ผลผลิตมะม่วงโชคอนันต์ของบ้านคลองต่าง จะส่งขายไปยังในตลาดต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น เชียงใหม่ กรุงเทพฯ (ตลาดไท) หาดใหญ่ ปาดังเบซาร์ และส่งออกไปยังสิงคโปร์ มาเลเซีย และยุโรป ผลผลิตรวม 3 ครั้ง ประมาณ 10,919,000 กิโลกรัม ต่อปี ในพื้นที่ปลูกประมาณ 2,185 ไร่

- ผลผลิตปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายนประมาณไร่ละ 1,500 กิโลกรัม ผลผลิตรวม 3,277,500 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 3-5 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 13.11 ล้านบาท

- ผลผลิตปลายเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนกันยายนประมาณไร่ละ 2, 000 กิโลกรัม ผลผลิตรวม 4,364,000 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 10-17 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 58.91 ล้านบาท

- ผลผลิตปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคมประมาณไร่ละ 1,500 กิโลกรัม ผลผลิตรวม 3,277,500 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 15-21 บาท คิดเป็นมูลค่า 58.99 ล้านบาท

ข้อจำกัดของมะม่วงโชคอนันต์
1. มีปัญหาช่วงออกช่อดอกหน้าฝน เพราะถ้าฝนตกชุกจะทำให้ดอกมะม่วงร่วง การติดผลไม่ดี
2. ต้องมีการศึกษาด้านการตลาดและหาตลาดเพิ่มอยู่ตลอดเวลา
3. การราดสารเร่งการออกช่อ ออกดอก ต้องราดปีเว้นปี

คุณเตี่ยน สวัสิ์สลุง เกษตรตำบลดีเด่นของจังหวัดสุโขทัย และ คุณเจือ พุ่มทับทิม ประธานกลุ่มวิสาหกิจผู้ผลิตมะม่วงโชคอนันต์บ้านคลองต่าง ที่เป็นผู้บุกเบิกการปลูกมะม่วงโชคอนันต์ ร่วมให้ข้อมูลว่า กว่าจะประสบความสำเร็จต้องใช้ระยะเวลาถึง 10 ปี และปัจจุบันนี้เกษตรกรสามารถเก็บมะม่วงจำหน่ายได้ทุกวันทุกรุ่น ทั้งมะม่วงอ่อน มะม่วงแก่ สร้างรายได้ให้กับครอบครัวอย่างต่อเนื่อง จน คุณสายชล จันทร์วิไร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านคลองต่าง บอกว่า "ที่นี่ขายลูกกินกันทั้งหมู่บ้าน" (ลูกมะม่วงนะครับ เก็บขายตั้งแต่ลูกเท่า 3 นิ้วมือ จนถึงแก่ อยากได้เงินเมื่อไรก็เก็บขาย สบายใจตลาดต้องการไม่อั้น รับซื้อถึงที่) สนใจรายละเอียดหรือเทคนิคเพิ่มเติมหรือรับซื้อมะม่วง ติดต่อที่ คุณเตี่ยน สวัสิ์สลุง เกษตรตำบลดีเด่นของจังหวัดสุโขทัย โทร. (081) 037-7051


ที่มา  :  เทคโนโลยีชาวบ้าน 




หน้าก่อน หน้าก่อน (5/7) - หน้าถัดไป (7/7) หน้าถัดไป


Content ©