รถตีนตะขาบ ปั่น-ย่ำ–แปลงข้าวดีด..5 มค.60 ผ่านไป 1 เดือน

[DangSalaya]

สวัสดีครับ ลุงคิม และ ยัยเฉิ่ม

ใช้รถตีนตะขาบ ปั่นดิน - ย่ำเทือก – ลูบเทือก โดยไม่ต้องไถ



color=darkred] ลุงคิมพูดถึงการทำนาแบบนาอินทรีย์นำ เคมีเสริม โดยไม่เผาฟาง ไม่ไถ ไม่ฉีดยาฆ่าหญ้า ใช้รถไถเดินตาม ติดอีขลุบ ย่ำเทือกเลย ซึ่งลุงคิมพูดซ้ำ ย้ำนักย้ำหนา แต่หลายคนฟังแล้ว เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา เข้าหูหมา
ทะลุหูแมว [/color]....

ลุงคิมยังบอกอีกว่า การเตรียมดินก่อนหว่านหรือดำนา ให้ย่ำ 3 เที่ยว ผมว่าย่ำ 3 เที่ยวมันน้อยไป จึงได้นำเสนอรูปการย่ำเทือกถึง 5 เที่ยว อยากเห็นให้เปิดดูในกระทู้ ยัยเฉิ่มจะเป็นชาวนา .....กูทำกับมือ อยากเห็นว่าเค้าทำยังไง ลองไปเปิดดู แต่ว่า

การย่ำโดยใช้อีขลุบ ติดกับรถไถเดินตามแบบนั้น ล้าสมัยไปแล้วครับ เพราะว่ามันทำงานได้ช้า กว่าจะเสร็จนาซัก 10 – 20 ไร่ เสียเวลานาน ที่สำคัญ เปลืองค่าแรงงานและค่าน้ำมัน จากข้อมูลที่ผมได้มา...

ค่าจ้างไถ ไร่ละ 250.-บาท
ค่าย่ำ ไร่ละ 130 ย่ำสองเที่ยว ก็ตกไร่ละ 260.-บาท
ค่าทำเทือกอีก ไร่ละ 130.-บาท
รวมเบ็ดเสร็จ ก็ตกไร่ละ 640.- บาท

ทำไมมันถึงแพงขนาดนี้ ยังไม่รวมค่าน้ำมันกับค่าอาหาร เซ่นไหว้ คนไถนา คนทุบนา เลยนะครับ แล้วเวลาเรียกมาทำงาน เล่นตัวยิ่งกว่าเชิญเจ้าซะอีก ไม่ว่างมั่งละ สารพัดจะอ้าง

ต่อไปนี้ มือปืนรับจ้างทั้งหลาย เตรียมตกงานกันเถอะ นวัตกรรมใหม่ ๆ ย่อมมีออกให้เห็นกันมาเสมอ คราวนี้ผมขอนำเสนอเครื่องมือใหม่

เป็นการใช้รถตีนตะขาบ ปั่นดิน ย่ำเทือก แล้วลูบเทือก ทำพร้อมกันไปที่เดียวโดยไม่ต้องไถ

รูปชุดนี้ ถ่ายที่นครปฐม ห่างจาก ศาลายา ไปทางบางเลนประมาณ 12 กม. เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2555 เวลาประมาณ 7 โมงเช้า


ผมคิดว่าคงมีชาวนาอีกหลาย ๆ คนอาจยังไม่เคยเห็นแน่ ๆ ขนาดว่า นครปฐม กับ โพธาราม อยู่ห่างกันประมาณ 75 กม. คนโพธารามยังไม่เคยเห็น รถตีนตะขาบที่ว่านี้ เป็นภูมิปัญญาเกษตรกรคนไทยระดับ ป.4 ดัดแปลงจากของเก่าที่ใช้งานไม่ได้ เอามาปะติดปะต่อทำออกมา จนสามารถใช้งานในนาของตัวเอง นา 50 ไร่ ทั้งย่ำ ทั้งปั่น ทั้งลูบ ใช้แรงงาน 2 คน ทำเสร็จในเวลา 6 ชั่วโมง ใช้น้ำมันโซล่าไม่ถึง 30 ลิตร (เพราะรถมันวิ่งช้ามาก)

เจ้าของรถบอกว่า ตอนทำออกมาใหม่ ๆ ได้รับเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากเพื่อนบ้าน และมืออาชีพที่รับจ้าง ไถ ทุบ ย่ำ ทำเทือก ด้วยรถไถเดินตาม …แต่ปัจจุบัน เค้าทำออกมา 3 คัน รับงานแทบไม่มีเวลาว่าง...ที่มาให้ผมได้ถ่ายรูปนี่ ลัดคิวมาให้ เพราะเป็นนาของญาติ ๆ กัน แล้วก็เคยทำกันมาประจำ....

ผมคิดว่า จะนัดจองคิวให้ ยัยเฉิ่ม เพื่อเอาไปลุยในนา 25 ไร่ ที่ยัยเฉิ่มทำนาอยู่ (ให้ดูรูปพื้นนา ในกระทู้ ยัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา) เอาให้มันดังระเบิด ร่ำรือกันไปทั้งบางเลยว่า... ยัยเฉิ่มใช้รถตีนตะขาบ ทุบ ย่ำ ลูบเทือก พร้อมกับรื้อคันนาให้เป็นนาผืนเดียว ลูบเทือกให้ได้ระดับเสมอกันทั้งแปลง นา 25 ไร่ จะทำเสร็จภายในเวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมง ค่าจ้างถูกกว่าที่ยัยเฉิ่มเคยจ้างเค้าทำ ครึ่งต่อครึ่ง

งานนี้อนุญาตให้ ยัยเฉิ่ม ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วนางแก้วกับเตาปูน คนจะได้แห่มาดูกันแยะ ๆ เก็บค่าดูคนละ 20 บาท ก็ได้เกินค่าจ้างรถแล้วละน้องเอ๊ย ....ผมอาจจะ Interfere ไปเองโดยเจ้าตัวไม่เห็นด้วย แต่ก็เพียงว่า จะช่วยให้ ยัยเฉิ่ม ได้ลดต้นทุน ลดการถูกเอาเปรียบ และใช้หนี้ได้หมดสิ้นเท่านั้น หากยัยเฉิ่มไม่ต้องการ บอกด้วย เพราะเจ้าของรถบอกว่า แค่นี้ก็งานผมก็เข้า
คิวยาววววเต็มแอ่ด จนแทบจะไม่มีเวลานอนกับเมียอยู่แล้ว (ยังจำหน้าเมียได้ก็ยังบุญแล้วนะทิดศักดิ์)

มาดูรูปกันครับ




(1) แบบนี้ใช้กันมาตั้งแต่โบราณกาล ปัจจุบันก็ยังมีใช้อยู่เป็นบางแห่ง สำหรับที่ดินน้อย ๆ ในชนบทหรือพื้นที่ลาดเอียง
และบนดอยสูง





(2) รถไถเดินตาม นี่ก็ใช้กันมานานกว่า 40 ปี มั๊ง ปัจจุบันก็ยังจำเป็นต้องใช้กันต่อไปอีกตราบนานเท่านาน





(3) นี่ครับ มันต้องคันนี้ครับ รถตีนตะขาบ ที่ผมบอก เพิ่งนำมาใช้เมื่อประมาณ 3 ปีมานี่เอง ชาวนา ป.4 นำเอาของเก่าที่ใช้งานไม่ได้ เอามาปะติดปะต่อ จนกลายเป็นรถที่สามารถ ย่ำ ปั่นดิน ทำเทือก ลูบเทือกปรับหน้าดิน ทำไปพร้อมกันที่เดียวโดยไม่ต้องไถ ด้วยการใช้รถตีนตะขาบ รวดเร็ว ประหยัดดีกว่าใช้รถไถเดินตาม หญ้า ฟาง แหลกละเอียดถูกย่ำจมดินแทบไม่มีเหลือ เจ้าของบอกว่า คันนี้เป็นคันเก่า คันใหม่ที่ทำออกมา ห้องคนขับติดแอร์ด้วย ชะอุ๊ย ขับรถไถนาติดแอร์





รูปที่ 4 ด้วยพลังอันมหาศาลของของเครื่องยนต์รถแบคโฮ.. คนย่ำ – ปั่น คนแรกจะบรรจงค่อย ๆ ขับไปช้า ๆ พร้อมกับปั่นหญ้าและฟางแล้วย่ำ พร้อมกับปาดหน้าดินไปด้วย





(5) - ทำงานแบบ 3 in 1 ตัวปั่นอยู่หน้า ตัวย่ำอยู่กลาง ตัวลูบปาดหน้าดินให้เสมอเป็นแผ่นเหล็กมีฟันอยู่ท้าย ...หญ้าและตอซังข้าวหลังเกี่ยวที่เห็นในรูปสูงประมาณ 1 ศอกแขน ส่วนฟางมีคนมาซื้อเพื่ออัดเป็นท่อน เอาไปใส่แปลงปลูกผัก





(6) นี่เป็นการปั่นและย่ำแค่รอบแรกเท่านั้นครับ เมื่อย่ำหมดทั้งแปลงแล้ว รอบต่อไปจะใช้มือโปรอีกคน ปั่น-ย่ำ-ลูบ ครั้งที่สอง





(7) รอยเทือกที่ถูกปั่น ย่ำ และลูบปาดหน้า ทำไปพร้อมกัน





(8 ) ภาพนี้เป็นการปั่น – ย่ำครั้งแรก วนรอบแรกนะครับ





รูปที่ 9 คนขับใจเย็นมาก ค่อย ๆ เดินเครื่องช้า ๆ ค่อย ๆ ไป ดูแล้วประณีต เนียนมาก





(10) เป็นไงครับ หญ้า และฟาง ที่โดนตัวปั่น ตัวย่ำ ตัวปาด ก็เริ่มจะเรียบเป็นพื้นระดับเดียวกัน ผมคุยกับเจ้าของรถ เค้าบอกว่า จะต้องย่ำ ทำเทือกและปาดหน้าอีกครั้ง คือต้องทำอีกรอบทำจนแทบจะไม่มีที่ลุ่ม ไม่มีที่ดอน เผลอๆ ถ้า
คันนาเล็กๆ อยากจะล้มคันให้ผืนนาเป็นผืนเดียวกัน บอกได้ เดี๋ยวผมจัดให้





(11) วนมาอีกรอบ ดูพื้นนาซีครับ มันจะราบเรียบ ดีกว่า เร็วกว่า เรียบเสมอดีกว่า ประหยัดกว่า ใช้รถไถเดินตาม

สำหรับการปั่น ย่ำเทือก ปาดหน้า รอบแรกก็มีรูปให้ดูแค่นี้ เจ้าของรถบอกว่า อีกซักประมาณ 9 โมงกว่า ออกมาดูใหม่เป็นการปั่นและย่ำรอบที่ 2 ซึ่งจะใช้อีกคนหนึ่งเป็นคนทำ คุณจะเห็นนาข้าง ๆ ด้านขวามือในรูป เพิ่งหว่านไปเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ก็ใช้บริการรถตีนตะขาบของเจ้านี้แหละครับ





(12) ประมาณ 9 โมงกว่า ผมออกมาอีกครั้ง เค้ากำลัง ปั่น - ย่ำ – และลูบ ครั้งที่สอง





(13) พื้นราบดีนะครับ แต่ยังไม่เรียบ เพราะงานยังไม่เสร็จ





(14) นาผืนนี้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ แต่ก่อนนี้ก็แบ่งเป็น 4 แปลง เจอรถตีนตะขาบเข้าลุยทีเดียว รวมเหลือเป็นแปลงเดียว เจ้าของนาบอกว่า ได้ข้าวเพิ่มขึ้นมาอีกตั้งร่วมเกวียน




(15)


(16)

(15 – 16) แค่ปั่น – ย่ำ – ลูบ รอบที่ 2 ก็ราบเรียบแบบนี้ เวลาตอนนี้เพิ่งจะ 10 โมง ใช้เวลาจากตอนเช้า 7 โมง ถึง 10 โมงก็ 3 ชั่วโมง นา 50 ไร่ก็ราบเรียบแบบที่เห็น เจ้าของรถบอกว่า ยังไม่เสร็จครับ ประมาณ บ่ายโมงกว่าโน่นแหละ ถึงจะเสร็จการ ปั่น ย่ำ ลูบ ครั้งที่สอง




(17)


(18 )


(19)


(20)

(17 – 20) ประมาณ 14.30 น. งานก็เสร็จตามที่ตกลงกันว่า จะปั่น ย่ำ และลูบเทือกให้ 2 รอบ หน้าดินเรียบเสมอกันทั้งแปลง ผมถามเจ้าของนาว่า ทำไมไม่ให้ย่ำและลูบซักอีกรอบ เค้าบอกว่า
....โหน้า แค่สองรอบนี่ คนรับจ้างฉีดยาพ่นปุ๋ยไม่อยากจะลงเดิน เพราะมันจะลึกเกือบถึงหัวเข่า ที่สำคัญรถเกี่ยวไม่อยากลง เพราะรถเกี่ยวมันจะจม ปั่นแค่สองรอบพอแล้ว เพราะเดี๋ยวหนูต้องปล่อยแช่หมักไว้อีกสองวัน แล้วจะปาด และลูบหน้า ปล่อยน้ำออกแล้วชักร่องอีกรอบ ถึงตอนหว่านข้าว เดินลงไปดินจะลึกเกือบ ๆ ครึ่งหน้าแข้ง.....





(21) อันนี้เป็นแปลงนาที่อยู่ติดกัน ประมาณ 50 ไร่เช่นกัน หว่านไปได้ไม่ถึง 10 วัน เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนาที่ กำลังย่ำเทือก และ...จากตรงมุมนี้ มองไปตรงดงมะพร้าวยาวเหยียดที่เห็นข้างหน้านั่นแหละครับ นา(หรืออดีต คือสวน)ของผมอยู่ตรง
นั้น ....เรื่องการปลูกข้าว ผมยังมีประสบการณ์น้อย ไม่กล้าคุย เพิ่งจะทำเป็นปีที่ 2 เอง เดิมเป็นสวน โดนน้ำท่วม ต้นไม้ตายเกือบหมด เลยล้มสวนทำนา...




(22)


(23)

(22 – 23) นี่เป็นผลงานจากการทำนาครั้งที่สอง ที่ดินมีแค่กะป๊อยเดียวแค่แมวดิ้นตาย




(24)


(25)

(24 – 25) นาแปลงนี้ ไม่มียูเรีย 46-0-0 ไม่มี 16-20-0 ไม่มียาฆ่าหญ้า เพราะมีแต่ 30-10-10 + ไบโออิ + ปุ๋ยปลาทะเลหมักเอง + 16-8-8 แล้วก็มีไอ้โน่นนิด ไอ้นี่หน่อย เรียกว่าสูตรรวมมิตร

น้ำที่เอาใช้ผสมปุ๋ย เป็นน้ำต้มจาก สาบเสือ + ชิงช้าชาลี(แทนบรเพ็ด) +เปลือก-ใบสะเดา + เอื้องหมายนา + ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ขาด น้ำปลา พริก มะนาว ไม่งั้นกลายเป็นต้มยำให้ข้าวกินไปแล้ว




(26)


(27)

(26 – 27) ดูใกล้ ๆ จะเห็นว่า น้ำแยะไปหน่อย จะปล่อยออกก็เกรงใจนาที่อยู่ติดกัน เค้าเพิ่งหว่านข้าว ต้องปล่อยน้ำแห้งหน้าดินหน่อย ร่องระบายน้ำเป็นของผม แต่ที่อยู่ติดกันขืนผมเปิดน้ำออก ก็อาจมีน้ำตามรูปู รูปลาไหล ซึมเข้าแปลงนาของเค้า มันก็ไม่ดีนะครับ ก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ที่สำคัญ เค้าเป็นพี่เลี้ยงในเรื่องการปลูกข้าวให้ผมด้วย ....






ขอแค่นี้ก่อนนะครับ ต้องรีบส่งก่อนที่เน็ตจะหลุด



.

[teeen2005]

สวัสดีครับคุณ DangSalaya และเพื่อน สมช


เยี่ยมมากเลยรถแบบนี้ (เสียเวลาไม่มาก) เคยเห็นรถแบบนี้แต่ในเวบ ไม่เคยเห็นตัวจริง แถวบ้านผมหายากครับ (ไม่มี
ให้เห็นเลยดีกว่า) ผมเห็นราคารถนี้ในเวบ ก็ราคาใกล้รถเกี่ยวข้าวเลย



ถ้ารถไถเดินตามแล้วติดขลุบคงใช้เวลานาน



ผมคิดว่าจะดัดแปลงขลุบติดท้ายรถแทรกเตอร์ 45 แรง ติดขลุบสัก 3 อัน (ระนาบเดี่ยวกัน) ย่ำฟาง 2 รอบ แล้วหมัก
ฟางทิ้ง7-10 วัน น่าจะ ok ไหมครับ









เมื่อฟางยุ่ยดีแล้ว ก็ตามด้วย โรตารี่






คุณ Dang Salaya คิดว่าอย่างไรครับ


.

[jukgree]

สุดยอดเลยครับ พี่ DangSalaya ทำงานได้ไวมากเลยครับ ปัจจุบันเจ้าของทำขายมั้ยครับ คนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใด
ในโลกจริงๆครับ





.

[kimzagass]

.... ย่ำเทือก 7 รอบ V.S. 3 รอบ .....


วัตถุประสงค์ในการย่ำเทือก ตามลำดับดังนี้ :
ลำดับ 1 ...... เพื่อกำจัดวัชพืช
ลำดับ 2 ...... พรวนดิน ให้เป็นเลน
ลำดับ 3 ...... คลุกเคล้าเศษซากวัชพืชให้เข้ากับเนื้อดิน
ลำดับ 4 ...... เติมอ็อกซิเจนให้แก่จุลินทรีย์ ทั้งที่ใส่เพิ่มและประจำถิ่น
ลำดับ 5 ...... ตรวจสอบความเรียบเสมอกันของหน้าดินในแปลง
ลำดับ 6 ...... สภาพโครงสร้างดินไม่เสีย
ลำดับ 7 ...... อื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อต้นข้าว (แปลงเขาแปลงเรา ไม่เหมือนกัน)




ความจำเป็นของการย่ำเทือกหลายรอบ :

หลักการและเหตุผล :
วัชพืช (พืชที่ไม่ต้องการ) ที่งอกจากเมล็ด เมื่องอกขึ้นมาเป็น ต้น/ใบ แล้ว ถูกทำลาย จะไม่สามารถงอกใหม่ซ้ำสอง
ได้อีก.....วัชพืชที่งอกจาก หัว/เหง้า/ไหล เมื่องอกขึ้นมาเป็น ต้น/ใบ แล้ว ถูกทำลายยังสามารถงอกใหม่ซ้ำ 2-3-4
รอบได้อีก ทุกครั้งที่งอกขึ้นมาแล้วถูกทำลายซ้ำซาก รอบแล้วรอบเล่า ทำให้ไม่มีใบใหม่สังเคราะห์อาหาร ระหว่างนี้
ต้นวัชพืชพวกนี้จะใช้สารอาหารที่สะสมไว้ใน หัว/เหง้า/ไหล กระทั่งหมด เมื่อสารอาหารไม่มี หัว/เหง้า/ไหล ก็จะเน่า
ฝ่อ ไม่สามารถสร้างต้นใหม่ขึ้นมาได้ นั่นคือ ตายสนิทแน่นอนนั่นเอง

ต่อการยำเทือกครั้งแรก (เปิดซิง) ในแปลงที่มีวัชพืชหนาแน่น แม้ต้องย่ำหลายรอบ 3-4-5-6-7 รอบก็ต้องยอมลงทุน
ก่อนลงมือย่ำเทือกรอบใหม่แต่ละรอบทุกรอบ ควรรอเวลาให้วัชพืชงอกขึ้นมาให้เห็นเสียก่อน ซึ่งน่าจะใช้ระยะเวลา
ประมาณ 7-10 วัน/รอบ เรียกว่า "หลอก/ล่อ ให้งอก" จะทำให้การกำจัดวัชพืชได้ผลอย่างแท้จริง

การใช้เทคนิคย่ำเทือกหลายๆรอบเพื่อกำจัดวัชพืชแบบนี้ เพราะนาบางพื้นที่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำที่ทุกแปลงต้องลงมือ ดำ/
หว่าน/หยอด พร้อมกัน จึงต้องกะระยะเวลาให้ "สอดคล้อง/เหมาะสม" กับวันลงมือ ดำ/หว่าน/หยอด ของแปลงข้าง
เคียงด้วย ..... การย่ำเทือกหลายๆรอบ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาหลายอาทิตย์นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องย่ำ "ล่วงหน้า" แล้ว
กะให้การย่ำรอบสุดท้ายเสร็จสิ้นตรงกับวัน ดำ/หว่าน/หยอด ของแแปลงข้างเคียงให้ได้ จึงจะได้ผลดีทั้งตนเองและสังคม
คนข้างบ้าน


หลังจากย่ำเทือกครั้งแรกหลายๆรอบ กระทั่งบรรดาวัชพืชทั้งหลายในแแปลงสิ้นซากไปแล้ว มาตรการต่อไป คือ ระวัง/
ป้องกัน/กำจัด โดย....
- วัชพืชที่เกิดใหม่จากเมล็ดวัชพืชที่เหลือตกค้างเพราะยังไม่งอกเนื่องจากยังอยู่ในระยะพักตัว.....รอให้โตแล้ว
กำจัดโดยการถอน
- เมล็ดวัชพืชจากแหล่งอื่นที่มาโดยนกเป็นพาหะ.....รอให้โตแล้วกำจัดด้วยการถอน
- เมล็ดวัชพืชจากต้นวัชพืชบนคันนา.....ใช้ไม้เรียวฟาดก้านดอกให้หัก หรือตัดต้นไม่ให้โตถึงระยะออกดอก


หลังจากย่ำเทือกหลายๆรอบในครั้งแรกผสมผสานกับการกำจัดด้วยการถอนในภายหลังแล้ว ในการย่ำเทือกสำหรับ
ทำนารุ่นต่อๆไป และต่อๆไป จะสามารถลดจำนวนรอบในการทำเทือกลงได้ อาจจะเหลือเพียง 1 หรือ 2 รอบเท่านั้น
(พิจารณาจากจำนวนวัชพืช) นอกจากไม่มีวัชพืชแล้วยังได้ระดับความลึกของขี้เทือก และสารอินทรีย์แก่ต้นข้าวอีกด้วย


การลงทุนด้วยเทคนิคนี้ เป็นการลงทุนครั้งแรกเพียงครั้งเดียว แล้วได้ประโยชน์อย่างยั่งยืน (ดีขึ้นเรื่อยๆ ดีต่ออย่าง
เนื่อง) ในนารุ่นหน้า ซึ่งนอกจากจะส่งผลถึงต้นทุนแล้ว ยังส่งผลไปถึงคุณภาพและปริมาณผลผลิตที่ได้รับอีกด้วย .....



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม คุณTeen2005 ยัยเฉิ่ม และเพื่อน สมช.

[cherm]

สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง และสมช.ทุกท่าน

คนไทยทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก จริงค่ะ
ยัยเฉิ่ม ดูรูปแล้วสุดยอด ประหยัดค่าใช่่จ่ายได้มาก แล้วก้ไม่เสียเวลาด้วย ถ้ามาลงนาข้าวของยัยเฉิ่ม คงเป็นที่ฮือฮา
ไม่ต้องเก้บค่าเข้าชมหรอกค่ะทิดแดง เอาแค่ไม่โดนเค้าว่า "บ้าไม่เลิกไม่ราสองก็พอแล้วค่ะ

ยังไง ทิดแดงช่วยอนุเคราะห์ติดต่อให้ด้วยนะค่ะ นายัยเฉิ่ม จะทำอีกครั้งประมาณกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2556 โน้น
แหนะค่ะ

ยัยเฉิ่ม ค่ะ

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม ยัยเฉิ่ม และเพื่อน สมช.ทุกท่าน

เมื่อ 10 ธค.55 เวลา 17.45 น. กลับจากรับนักเรียน เจอกับรถตีนตะขาบ ปั่น ทุบ ย่ำ ลูบ เทือกระบบ 3 in 1 คันแรก
ที่ ทิดศักดิ์ เจ้าของรถทำออกมาเล็ก กระะทัดรัด คล่องตัวกว่า คันที่ 2 ที่ผมนำเสนอไปคราวก่อน ใช้บรรทุกรถเทรล
เล่อร์ 10 ล้อ ขับมาคนเดียว ....ลงช้าไปหน่อยเพราะ เน๊ตมันล่มมาหลายวันครับ

มาถึงนาก็ยกเทรคลง ปีนขึ้นติดเครื่องรถตีนตะขาบ ถอยลงจากรถ กำลังจะลงลุย พอมือถือผมส่งซ่อม เลยไม่มีกล้อง
บอกเด็กนักเรียนให้ช่วยถ่ายให้หน่อย เวลา ใกล้จะหกโมงเย็น และตากล้องบอกหิวข้าวด้่วย เลยไม่มีอารมณ์ที่จะ
ถ่ายให้ รูปที่ออกมาเลยดูมืดไปหน่่อย.....ก็คิดว่าดูพอเป็นสังเขปก็แล้วกันนะครับ

พื้นนาแปลงนี้เนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ เท่าของยัยเฉิ่ม ผมถามเจ้าของนาตอนเช้าว่า เสร็จกี่โมง เค้าบอกว่า เริ่มลุย
ตั้งแต่ตอนที่ผมมาถ่ายรูป ประมาณ หกโมงเย็น ปั่น ย่ำ ทุบ ลูบ สองรอบ แล้วเสร็จประมาณ 4 ทุ่ม ....นา 25
ไร่ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง อัตราค่าจ้าง ไร่ละ 120.- บาท เป็นเงิน 3,000 บาท พื้นนาเรียบ เละ หญ้าที่เห็นรกรุงรัง
หายเกลี้ยง แถมคันนา ตรงแหน๋ว น่าใช้บริการ น่าหามาใช้ซักคันมั๊ยครับ รับงานปีเดียวเกินคุ้ม ดูรูปกันครับ ชัดบ้าง
ไม่ชัดบ้าง ขออภัย
























สำหรับนายัยเฉิ่ม ใช้คันนี้คงพอครับ ติดต่อให้แล้วด้วย ใกล้ ๆ กุมภา กำหนดวันให้แน่ ๆ อีกที จะล้มคันนาหรือ
ไม่ล้ม คุยกันเอง นะจ๊ะ นะจ๊ะ





และถ้าจะติดสปริงเกลอร์ ต้องใช้ระบบปั๊มน้ำแบบนี้นะคร๊าบบบบ


.

[toodtoo]

สวัสดัครับลุง, พี่ทิดแดง, และ .....


ขอรบกวนพี่ทิดแดง ผม (และอีกหลายคน) อยากเห็นรถตีนตะขาบทำเทือกแบบชนิด ใกล้ชิด น่ะครับ

ขอความกรุณาลงภาพให้ดูด้วยนะครับ ถามแถวบ้านผมแล้ว ไม่มีใครเคยเห็นกันเลยครับ


ขอบคุณครับ


.

[DangSalaya]

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม เจ้าตุ๊ดตู่ และ สมช.ที่อยากเห็นรถย่ตีนตะขาบย่ำเทือก แบบใกล้ชิด

ที่เจ้าตุ๊ดตู่อยากเห็นใกล้ ๆ น่ะ ถ้ามีแนวคิดจะดัดแปลงทำเอง ขอบอก ทำได้เลยนะ

แต่บอกก่อนนะว่า คันนี้เจ้าของบอกว่าเป็นคันแรกที่ทำออกมาเมื่อ ปีโน้น ก่อนน้ำท่วมมหาวินาศ ดูเชย ๆ Option ยังไม่ค่อยมีมาก

เค้าบอกว่า ที่คิดทำออกมาเพราะค่าจ้างไถนา ค่าจ้างทุบ ค่าจ้างทำเทือก ไร่หนึ่งตก สามสี่ร้อย ยังจะต้องมีค่าเลี้ยงดู อาจจะถึงขั้นปูเสื่ออีกด้วย แล้วบางครั้งจะให้มีไถแต่ละครั้ง แทบจะต้องจุดธูปเชิญ แล้วบางครั้งทำงานวันเดียวไม่เสร็จ อาจต้องสอง ถึง สามวัน ....เนื่องจากรถไถของตัวเองไม่มี แต่ความที่เค้าเป็นคนขับรถแบ๊คโฮมาก่อน ก็เลยคิด เอาเจ้าแบ๊คโฮ ที่ปลดระวางแล้ว แต่ระบบ ไฮครอลิคยังพอใช้ได้บ้าง ก็ถอดเอาเครื่องบนออก เอาเครื่อง HINO เก่าจากรถทัวร์ที่ปลดประจำการแล้วเหมือนกัน เอามาปะติดปะต่อ เติมไอ้โน่นิด ต่อไอ้นี่หน่อย ใส่เข้าไป กลายเป็นรถไถนา ย่ำเทือก ทำเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว ผลงานดีกว่าใช้รถไถเดินตามเป็นร้อยเท่า

มาดูรูปกันเลยไอ้น้อง


รูปที่ 1 ด้านหน้ารถตีนตะขาบ ไถนา ทุบ ย่ำเทือก Three in One ...นา 50 ไร่ ย่ำสองรอบ แล้วเสร็จภายในไม่เกิน 8 ชั่วโมง พื้นนาเรียบรายเป็นหน้ากลอง ใช้คนเพียง สองคน จากค่าจ้างรถไถเดินตาม ไร่ละ 300 บาท ใช้รถคันนี้รับจ้างคิดเพียง ไร่ละ 150 บาท

เจ้าของบอกว่า คันนี้เป็นคันแรก ใช้งานมานานเกินคุ้ม คงต้องปลดระวาง แต่จะขัดสีฉวีวรรณให้ดีหน่อยแล้วเก็บเข้าโรงเก็ยเป็นที่ระลึก




รูปที่ 2 เป็นด้านซ้ายของรถ อย่าถามผมนะครับว่าอะไรเป็นอะำไร รู้แต่เพียงว่ามีตีนตะขาบ(TRACK) กับท่อไอเสีย ส่วนตัวที่มีสายพานนั้นจะเป็นหม้อลมหรือเปล่าไม่แน่ใจ คนที่เป็นช่างคงดูออกนะครับ




รูปที่ 3 คราวนี้มาด้านซ้ายบ้าง ไอเดียบรรเจิดมาก ติดตั้งเครื่องยนต์เอาตัวขับเคลื่อนเพลามาไว้ข้างหน้า ยกเพลารถออกมาไว้ด้านข้าง ใช้สายพานหมุนขับเคลื่อนเพลา ต่อไปหม้อไฮดรอลิค(ใช่หรือเปล่าหว่า)



รูปที่ 4 ด้านข้างซ้าย อีกมุมมมองหนึ่ง




รูปที่ 5 น่าจะเป็นระบบไฮดรอลิค กับปั๊มลมละน้า




รูปที่ 6 เลยมาด้านท้าย จะเห็นแผงสำหรับลูบเทือก ซึ่งอยู่หลังตัวปั่นดิน ซึ่งสามารถใช้ไฮดรอลิคกด ทั้งตัวปั่นดินและแผงลูบเทือกให้จมลงดินได้ เกินกว่า 1 ฟุต ซึ่งรถไถเดินตามไม่สามารถทำได้ เวลาลูบเทือกก็ใช้แผงนี้ปรับระดับหน้าดินไปพร้อมกับการปั่นดิน




รูปที่ 7 ผมลืมถามว่า ไอ้ซี่เล็ก ๆ แหลม ๆ เอาไว้ทำอะไร แต่จะเห็นกระบอกลูกสูบไฮดรอลิคเพื่อทำหน้าที่ปรับแผงให้สูง ต่ำ สำหรับการปรับหน้าดิน เนื่องจากคันนี้เป็นคันแรก ยังไม่มีลูกเล่นมากนัก คันที่ 4 ห้องคนขับติดแอร์ และมีระบบ เซ็นเซอ่ร์ ควบคุมการปรับหน้าดินให้เรียบเสมอกันโดยอัตโนมัติ วันที่ผมไปถ่ายรูป มีคันนี้จอดอยู่คันเดียว อีก 3 คันรับงานข้างนอกเต็มแทบไม่มีวันหยุด

สำหรับยัยเฉิ่ม ติดต่อ คิวโดด ให้เอ็งแล้ว แต่ขอให้กำหนดวันที่จะย่ำเทือกให้แน่นอนอีกครั้ง ไม่งั้น กินแห้ว เจอค่าไถ ทุบ ทำเทือก ไร่ละ 400 ไม่รู้ด้วยนะว๊อย




รูปที่ 8 มองจากด้านหลัง จะเห็นแผงเหล็กทางด้านซ้าย ซึ่งด้านขวาไม่มี ....อันว่ารถไถเดินตาม ปกติที่ผมเคยเห็นเค้าจะไถวนซ้าย แต่รถตีนตะขาบ ไถวนขวาครับ และแผงเหล็กที่เห็นด้านซ้าย เค้าเอาไว้ปั้นคันนาครับ เวลาลูบเทือกติดคันนา ดินมันจะถูกดันล้นออกมา แผงเหล็กนี้จะปาดดินขึ้นบนคันนา ๆ จะ ตรงแหน๋วเลยละครับ




รูปที่ 9 กระบอกไฮดรอลิคตัวนี้แหละครับที่เป็นตัวดึง กด และ ดัน ตัวปั่นดินให้สูง - ต่ำ ...ผมถามว่า เคยเห็นปั่นแค่สองรอบ ถ้าให้ปั่นสามรอบจะได้ไหม ....เค้าบอกว่า ได้ แต่คนรับจ้างพ่นปุ๋ย พ่นยา จะไม่ลงนา และรถเกี่ยวจะไม่ลงเกี่ยว เพราะแค่ปั่นสองรอบ ดินจะลึกถึงหัวเข่า เวลาเกี่ยว รถเกี่ยวจะจม...มีบางคน ให้ปั่นรอบเดียวก็มี




รูปที่ 10 พอจะมองเห็นใบมีดที่ใช้ปั่นดินนะครับ อาจดูไม่ชัดนัก




รูปที่ 11 ดูกันชัด ๆ จะเห็นใบมีดที่ทำจาก แทรกรถแบ๊คโฮ ดูซีครับว่า มันใหญ่โตมโห ราฬแค่ไหน ใบไหนชำรุด ถอดเปลี่ยนได้ ...เค้าบอกว่า อันนี้เป็นชุดที่สอง ชุดแรก ใช้ระบบการเชื่อมเป็นเนื้อเดียวติดกับจาน ปรากฎว่า ไม่ดีนัก เพราะเวลาชำรุดเปลี่ยนใบมีดยาก ...ผมทึ่งในความสามารถของ วิศวกรจบ ประถม 4 อย่างยิ่ง คิดได้ยังไงวะ รถไถ คูโบตุ้ม น่ะเรอะ ชิดขวาหลบข้างทางไปเลยน้อง ก็เลยดัดแปลงทำใหม่ขันใบมีดติดกับจาน จะดีกว่า ....แบบนี้ ทั้งหญ้า ฟาง และอื่น ๆ ในนาจะเหลือเรอะ




รูปที่ 12 ใบมีดดูจากอีกด้านหนึ่ง ใบมีดใหญ่ดีแท้ ๆ ... ผมถามว่า แกนเพลาที่ติดใบมีดทำจากอะไร ...เค้าบอกว่า จากแกนเพลาใบพัดเรือเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 คืบ (6 นิ้ว)




ลองเปรียบเทียบกับใบมีดที่มีคนทำออกมา(หลอก)ขายอันนี้ ดูนะครับ คนละรุ่น คนละเรื่องเดียวกันเลยแหละ




รูปที่ 13 แกนเพลาที่ต่อไปใช้ขับเคลื่อนใบมีด ซึ่งต่อโดยตรงไม่ได้ แรงไม่พอปั่น ต้องต่อเข้าระบบเฟืองทดเพื่อให้เกิดแรงในการปั่น(ดูกล่้องที่ใส่เฟืองทดในรูปที่ 6 ครับ)


เป็นไง เจ้าตุ๊ดตู่ จะต่อไว้ใช้รับงานซักคันมั๊ย คันนี้เค้าบอกว่า เมื่อหลายปีก่อน 7 แสนเอง ส่วนคันใหม่ล่าสุด ไฮเทค ห้องคนขับติดแอร์ สองล้านห้า ผมยังไม่เคยเห็น
ถ้าจะต่อไว้รับงานรับรองว่า ปีเดียวเกินคุ้ม

มีข้อแนะนำว่า
แบ๊คโฮเก่าของอิตาลี เครื่องยนต์ SCANNIA เก่าจากรถทัวร์(ของเจ๊เกียว) รับรอง ทรงพลังยิ่งกว่า แร่ด + ช้าง

ผมขออนุญาตเค้าขึ้นไปดูที่ห้องคนขับ ...เค้าอนุญาต แต่บอกว่า พี่ คันนี้แม่ย่านางแรงนะ ...โอเค ผมก็แค่ยกมือไหว้บอกขออนุญาต ก็แค่นั้น

ต้องขออภัยที่ไม่อาจถ่ายรูปที่หน้าปัทม์ ห้องคนขับได้ เพราะเค้าบอกว่า เค้าจดสิทธิบัตรอุปกรณ์บางอย่างที่นอกเหนือจากอุปกรณ์ของรถแบ๊คโฮเอาไว้



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุง....หวัดดียัยเฉิ่ม....

เตรียมตัว เตรียมใจ พร้อมหรือยัง....

อีกไม่กี่วันจะเอา รถตีนตะขาบ ไปลุยที่โพธารามแล้วนะจ๊ะ หมักดินไว้ดีหรือยัง ....จะออกจากบ้าน ตีสาม ไปถึงลุยเลยนะ ไม่กลัวมืด เพราะมี สปอตไลท์

อดใจรออีกวันสองวันนะ ตอนนี้กำลังเปลี่ยนระบบไฮดรอลิค เพิ่มแรงอัด (กด) ตัวปั่นดิน และลูบเทือกให้ได้ลึกขึ้น ...รับรองว่าเทือกลึกถึงเอวแน่ ๆ น้องเอ๊ย...

.

[kimzagass]

[cherm]

สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง และ สมช.ทุกท่าน


ซ้ายพร้อม ขวาพร้อม เตรียมปฏิบัติค่ะ

นาเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ ใส่น้ำหมักระเบิดของลุงคิม + น้ำหมักปลา+เป็ด+หมู ไร่ละ 3 ลิตร ใส่เมื่อวันเสาว์ที่ 2 มี.ค.56

ยัยเฉิ่ม เจ้าค่ะ


.

[DangSalaya]

[cherm]

สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง

อ่านแผนที่แล้วทะลุบรุโปรงเลยค่ะ แต่ขอแจมหน่อยหนึ่งค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าคลองให้เข้าถนนเส้นลาดยาง วิ่งตรงไปสุดถนนราดยาง เลี้ยวขวาตรงไปประมาณ 100 เมตรค่ะ ถึงแปลงนายัยเฉิ่ม แน่นอน

ขอบคุณ ลุงคิม และทิดแดง ค่ะ
ยัยเฉิ่ม เจ้าค่ะ


.

[DangSalaya]

[KunGid]

สอบถามหน่อยครับ

ถ้าผมจะลองทำนาสัก 16 ไร่ จะให้มายำทำเทือก จะได้มั้ยครับหรือมีเบอร์ติดต่อมั้ย อยู่แถววัดเสถียรครับ



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับ ลุงคิม และ สมาชิกทุกท่าน

ใช้รถตีนตะขาบ ปั่นดิน - ย่ำเทือก – ลูบเทือก โดยไม่ต้องไถ

ตอน...บุกนา ยัยเฉิ่ม ..7 มีนาคม 2556

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 56 ผมได้นำรถตีนตะขาบไปปั่นดิน ทำเทือก ที่ โพธาราม...ตามคำร้องขอ...

หลังจากปั่นเสร็จแล้ว เทือกลึกดีตามความเหมาะสม ....ลึกเสมอกันทั้งผืนเลยหรือ....ไม่ใช่ครับ เป็นบางจุด ทั้งนี้เพราะนาแปลงนี้เคยปั่นดินด้วยรถ คูโบตุ้ม... พื้นนาจึงไม่เสมอ ลุ่ม ๆ ดอน ๆ สาเหตุมาจากนา 20 ไร่ รถ คูโบตุ้ม ใช้เวลาปั่น 2 ชั่วโมงเสร็จ(ค่าปั่นแบบลุ่ม ๆ ดอน ๆ อย่างเดียว ไร่ละ 280 บาท) แต่รถตีนตะขาบเรื่มลงนาตั้งแต่ 07.25 น. เสร็จงานเอาเมื่อเวลาประมาณ บ่ายสามโมงเย็น ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง (พักกินข้าว 1 ชั่วโมง) คิดค่าปั่น ไร่ละ 150 บาท เกินคุ้มสำหรับเจ้าของนา

การที่รถ คูโบตุ้ม ปั่นเร็วแบบสายฟ้าแบบนั้น ถ้าเป็นที่ลุ่มก็ดีไป ถ้าเป็นที่ดอน ดินแข็ง เจ้าของนาไม่คอยดูแลกำกับ คนปั่นก็ทำตามใจชอบ ทำลวก ๆ เอาเร็วเข้าว่า แม้จะมาลูบเทือกที่หลัง มันก็กดดินไม่ลง ดินในนามันก็แข็ง ๆ อ่อน ๆ ลุ่ม ๆ ดอน ๆ อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผลผลิตข้าวที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร .......

เนื่องจากผมไม่ใช่คนพื้นที่นี้ ไม่มีข้อมูลของที่นาตรงนี้ เคยได้แต่เดินดูรอบ ๆ และดูจากรูปถ่าย แต่ไม่ได้สัมผัสโดยใกล้ชิด และคนที่ทำนาตรงนี้ก็ไม่ได้บอกข้อมูลโดยละเอียดให้ ผมจึงคาดการผิดพลาดไปหลายอย่าง พื้นที่นาแปลงนี้เป็นพื้นนาลาดเอียง จากทิศใต้(ดอน) ไปทิศเหนือ(ลุ่ม) ความลาดเอียง สูงต่ำกว่ากันเกือบจะเป็นศอกแขน แต่ก็ทำให้รู้ว่า การทำนาในพื้นที่ลาดเอียง ควรจะต้องทำอย่างไร เพราะนาของผมที่นครปฐมก็เป็นพื้นลาดเอียง แต่ไม่เอียงเท่านาแปลงนี้



1- แปลงนาด้านทิศใต้ครับ มีรอยรถเกี่ยวย่ำเอาไว้ ดูไม่จืดเลย เจ้าของนาบอกว่า ได้ใช้ระเบิด 30-10-10 กับน้ำหมักปลาราดเอาไว้หลายวันแล้ว





2- 07.19 น. ถอยรถตีนตะขาบลงจาก เทรลเล่อร์ เจ้าของนาถามว่า....ทำไมคันใหญ่จัง ..นึกว่าคันเล็ก ๆ ...ก็เอารถ แบคโฮ ขนาดใหญ่มาดัดแปลง คันมันก็ใหญ่เท่าแบคโฮ ขนาดใหญ่ เท่านั้นเอง





3- ดูใบมีดที่ใช้ปั่นดินใกล้ ๆ กันอีกครั้ง ใบมีดทั้ง ใหญ่ และ ยาว แค่ไหน แบบนี้ หญ้าและฟางจะเหลืออะไร





4- ลงจากรถ ไม่มีการพักให้เสียเวลา ลงนาเพื่อลุยเลยละครับ





5 - 07.25 น. เนื้อที่นาประมาณ 25 ไร่ แบ่งเป็นแปลงเล็ก 6 แปลง ๆ ละประมาณ 4 ไร่...เริ่มลุยแปลงตะวันตกเฉียงใต้ก่อนครับซึ่งเจ้าของบอกว่า นาแถบด้านนี้ อยู่ทิศใต้ เป็นที่ดอน





6.- ดูรอยปั่น และรอยเทือกที่ถูกลูบ ครั้งแรกนะครับ ทั้งหญ้า ทั้งฟาง ถูกปั่น ย่ำ กดลงดิน ราบเป็นหน้ากลอง





7- เวลา 07.35 น. วนกลับมา ณ จุดริ่มต้น ปั่นวนรอบแรกใช้เวลา 10 นาที





8- เวลา 07.54 วนกลับมาอีกรอบ .รอบนี้ใช้เวลา 20 นาที ให้สังเกตหน้าดินที่รถปั่นแล้วปาดหน้าดินไปด้วย พื้นจะเรียบ หญ้า ฟางจะถูกกดลงดิน





9 08.16 ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง แปลงที่ 1 ใกล้จะเสร็จ





10 – เสร็จจากแปลงที่ 1 ก็เข้ามาปั่นแปลงที่ 2


11-


12-


13-


14-

11 - 14 ปั่นแปลงที่ 2 นาแปลงนี้ น้ำค่อนข้างแยะมากไปหน่อย(ดูรูป 14 )ขี้เลนแยะดี แต่ขี้เทือกอาจไม่ดีนัก หญ้าไม่จมดิน อาจมีปัญหาเรื่องหญ้าขึ้นเป็นแน่แท้




15-


16-


17-


18-


19-


20-


21-


22-


23-


24-


25-

15 – 25 เข้ามาปั่นแปลงที่ 3 ...ฟาง หญ้า จะถูกปั่น แล้วถูกกดจมลงในดิน ใช้ แทร๊คด้านหลัง กดดิน แล้วลูบหน้าดินให้เรียบ(เท่าที่จะทำได้)





26 นาแปลงที่ 2 (ซ้ายมือ) จะมีน้ำมากกว่า นาแปลงที่ 3 (ขวามือ) จะเห็นหญ้าลอยตุ๊บป่อง




27-


28-


29-


30-


31-


32-


33-

27 – 33 นาแปลงที่ 4 นาแปลงนี้ค่อนข้างจะ ลุ่ม มาก เจ้าของนาบอกว่า เป็นทางระบายน้ำออกจากนา............ยังเหลือนาที่ยังไม่ได้ปั่นอีก 2 แปลงครับ เนื้อที่ 25 ไร่ ถ้ารวมเป็นผืนเดียวได้ จะทำงานสะดวกและรวดเร็วมากกว่านี้
จากรูป 33 หลังปั่นแล้ว ลองย้อนกลับไปดูเทียบกับรูป 27 ก่อนปั่น ครับ





34 เป็นรูปนาข้างเคียงติดกัน ใช้รถ คูโบตุ้ม ปั่นก่อน แล้วใช้รถไถเดินตามลูบเทือก ชักร่อง ปล่อยน้ำแห้งเพื่อหว่านข้าว ....ดูลักษณะขี้เทือก เปรียบเทียบกับ นาที่ปั่นด้วยรถตีนตะขาบครับ




35-


36-


37-


38-

35 – 38 กำลังปั่นแปลงที่ 4 ครับ





39 ถนน ข้างคลองชลประทาน นาแปลง 3 ที่ปั่นเสร็จแล้วจะอยู่ด้านขวาของคลองชลประทาน....
นาแปลงนี้ต้องคอยน้ำชลประทาน.เหมือนข้าวคอยฝน.. ณ วันที่ไปปั่น น้ำในคลองเริ่มแห้ง





40 จากหญ้าในนาที่ขึ้นรก ....จากพื้นที่นาไม่ราบเสมอกัน หลังจากถูกปั่น หญ้าหายไป ระดับดินราบ เรียบ ดีกว่าเดิมขึ้นมาหน่อยนึง ต้องปั่นอีก 3 ครั้งแหละครับ ถึงจะราบเรียบดีกว่านี้ และจะให้ดี ต้องล้มคันนา ปรับพื้นที่ให้เสมอกัน ผลที่ได้จะดีกว่านี้




41


42-


43-


44-


45-


46-


47


48-


49-

41 – 49 เข้ามาปั่นนาข้างบ้าน เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ดินเป็นหล่ม รถไถเดินตามลงไม่ได้...รถจมเลน...ขอให้สังเกต ดินขี้เทือกนาแปลงนี้ ลึกมาก ๆ แทร๊คของรถปั่นดิน จมดินเกือบจะมิดแทร๊ค.





50 16.40 น. เสร็จภารกิจ ปั่นดินที่ โพธาราม





51. โปรดสังเกต คนขับรถที่กำลังเขี่ยเศษฟางที่ติดแทร็ค ยืนริมนาที่ลุงคิมบอกว่า ขี้เทือกลึกครึ่งหน้าแข้ง มันเป็นยังไง




52


53

52 – 53 ขับขึ้นรถเทรลเล่อร์ เตรียมตัวกลับ




54-


55-

54 - 55 ดูใบมีดที่ปั่นดินชัด ๆ อีกครั้งครับ ว่ามันใหญ่โตมโหฬารแค่ไหน





56 16.55 เตรียมเดินทางกลับ นครปฐม

ถ้าจะปรับพื้นนาแปลงนี้ให้ราบเสมอกันมากกว่านี้ ต้องปั่นอีกอย่างน้อยสาม – สี่ ครั้ง และควรจะล้มคันนา ให้เหลือคันเดียว... อาจจะได้ข้าวเพิ่มขึ้นอีกเป็นเกวียน......ก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของนาละครับ

ออกจากนายัยเฉิ่มประมาณ 5 โมงเย็นกว่า ถึงนครปฐม สองทุ่มครึ่ง มีคนมานั่งรอที่บ้านเจ้าของรถตีนตะขาบ ...ผมขอตัวกลับบ้าน ...รุ่งขึ้นเจ้าของรถโทรมาบอกว่า เมื่อคืน ไปปั่นดินต่ออีก 40 ไร่ จากสามทุ่มครึ่ง เสร็จงานเมื่อประมาณ ตีสี่กว่า ๆ ได้นอนพักแป๊บเดียว 10 โมงเช้าต้องออกอีกแล้ว ....งานเข้าทุกวัน ....

ต้องจองคิวล่วงหน้ากันเป็นเดือน ...ผมจองคิวไปนา ยัยเฉิ่ม ไว้ตั้งแต่ วันที่ 6 ธันวาคม 55 กะว่าจะไปปั่นปลายเดือนกุมภา 56 ต้องเลื่อนไปต้นเดือนมีนา....

เกือบหลุดคิวซะแล้ว ยัยเฉิ่มเอ๊ย ถ้าเลยไปละก็ ปีนี้ ยัยเฉิ่มไม่ได้ทำนาแน่ ๆ หรือไม่ก็ โดนรถ คูโบตุ้ม แขกหัวโน... ขนาดนี้ยังโดน ค่าลูบเทือก ไปอีกหลายตังค์ เข้าทำนอง ..รำไม่ดี หมูไม่กิน... เวรกรรมจริง ๆ เลยว่ะ


.

[DangSalaya]

สวัสดีครับ ลุงคิม และ สมาชิกทุกท่าน

ใช้รถตีนตะขาบ ปั่นดิน - ย่ำเทือก – ลูบเทือก โดยไม่ต้องไถ

ตอน...ปั่นนา ทิดใบ ..1 เมษายน 2556


เมื่อตอนบ่าย วันที่ 1 เมษายน 56 ผมเดินมาดู ยัยสวิง เกี่ยวข้าว นาแปลงที่ใช้รถตีนตะขาบมาปั่นดินเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2555 (รูปรถตีนตะขาบที่ผมนำเสนอเป็นครั้งแรกนั่นแหละ...)

พอดีทิดใบ(ทิดทองใบ) นาติดกับนายัยสวิง กำลังใช้รถตีนตะขาบมาปั่นดิน...ผมก็เลยเดินมาดู ...ไม่ใช่รถของทิดศักดิ์ แต่มีส่วนคล้ายกันมาก คันเล็กกว่า เครื่องเล็กกว่า ....ก็เลยโทร.ไปถามหาข้อมูลจากทิดศักดิ์....

ได้ความว่า รถคันนี้เป็นรถคันแรกที่ทิดศักดิ์ต่อขึ้นมาเมื่อ 5 ปีก่อน มีคนดอนแฝก ขอซื้อมาแล้วขายต่อให้คนคลองเจ๊ก ใช้หนี้กันยังไม่หมดเลย....เรื่องนี้ รับทราบ แต่ผมไม่เกี่ยวด้วยนะ



รูปที่ 1 รถคันแรกที่ต่อออกมา ก็มักจะโล่ง ๆ ลูกทุ่งเหมือน รถสปอร์ต แบบนี้แหละครับ รถและเครื่องยนต์เล็กกว่าคันที่เอาไปนายัยเฉิ่ม






รูปที่ 2 แทร๊คด้านหลังคล้ายกับของทิดศักดิ์ อุปกรณ์คล้ายกัน แต่ ฝีมือ คนทำงาน ต่างกัน คนละเรื่องเดียวกันเลย





รูป 3


รูป 4



รูปที่ 3 – 5 จะสังเกตว่า เทือกที่ปั่นแล้วถูกลูบ ไม่เนียน เพราะรถคันเล็ก แรงกดจึงน้อยกว่า เข้าทำนองที่ลุงคิมชอบพูด...ใหญ่กว่าเป็นต่อ ...จริงซะด้วย .ทิดใบบ่นอุบว่า

....ริมคันนาก็ไม่เก็บงานให้กู ....

คือไม่ปาด ไม่ลูบดินริมคันนาให้เค้า เพราะรถคันที่ทิดใบเอามาปั่นดิน ขับวนซ้าย ...มันต่างกับขับวนขวาอย่างไร.....





รูปที่ 6 คือยังงี้นะครับ ปกติรถตีนตะขาบคันที่ทิดศักดิ์ขับ จะขับวนขวา ให้สังเกตด้านซ้ายตรงแผ่นปาดดินจะมีแผ่นเหล็กตั้งฉากอยู่ 1 แผ่น




รูปที่ 7 แผ่นเหล็กตั้งฉากนี้ จะมีกระบอกไฮดรอลิคเล็ก ๆ อยู่ เวลาขับเข้าข้างคันนา จะใช้ ไฮดรอลิค ดึงให้เฉียงนิด ๆ เพื่อเวลาขับชิดคันนา แผ่นนี้จะปาดดินข้างคันนาให้เรียบเป็นแนวตรง





รูปที่ 8 จะเห็นว่า ข้างคันนาที่ถูกปาด จะเรียบเป็นแนวตรงไปคามรูปคันนา อันนี้เป็นการปาดดินริมคันนา....ส่วนเวลาลูบเทือก คนขับจะดันไฮดรอลิค ให้แผ่นเหล็กนี้ราบกับพื้นเพื่อใช้ลูบเทือก ...(ดูรูปที่ 9) คนขับรถที่ทำนาด้วยจึงจะรู้เทคนิคอันนี้ .......แต่รถคันที่มาปั่นให้ทิดใบ ขับวนซ้าย จึงไม่สามารถปาดดินข้างคันนาให้เรียบได้





รูปที่ 9 จะเห็นแผ่นเหล็ก ถูกดันให้ราบลงกับพื้นเพื่อช่วยลูบเทือก ด้วยเหตุนี้ ผลงานที่ออกมาจึงผิดกัน

ผมถามทิดใบว่า

.... ไร่เท่าไหร่....
.... 130 น้ำมันออกเอง...

.... ทำไมไม่เอารถทิดศักดิ์ล่ะ ไร่ 130 น้ำมันเขา ....
.... ถามแล้ว คิวยาวไม่ว่าง รอไม่ได้...

.... ทำไมไม่นัดไว้ก่อน...
.... มัวแต่ยุ่งๆ เลยลืม...


ผมเห็นผลงานแล้ว รถเปลี่ยนมือ เปลี่ยนเจ้าของ ไม่เข้าตากรรมการเอาซะเลย...

เวลานี้แถวบ้านผมเท่าที่เห็น ก็มีคนต่อรถตีนตะขาบออกมา 5 คัน รวมของทิดศักดิ์ อีก 2 คัน เป็น 7

ทิดศักดิ์กำลังต่อออกมาใหม่อีก 2 คันได้ข่าวว่า ห้องคนขับติดแอร์ซะด้วย ก็รวมเป็น 9 คัน ผลงานของทิดศักดิ์กินขาดหมด

ผมก็มีรูปรถคันที่มาปั่นนาทิดใบเพียง 5 รูป ส่วนรูปที่ 6 – 9 เป็นรถคันของทิดศักดิ์ ใช้งานอยู่ ผมเอามาเปรียบเทียบให้ดู ....ถ้าคุณจะเอารถไปปั่นดิน ถ้าบอกว่ามาจาก ดอนแฝก หรือคลองเจ๊กละก็ อย่าเอาไปเลย จะได้ไม่ผิดหวัง ต้องรถของ วัดนราภิรมย์ครับ ถึงจะ ชัวร์







.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม ... และเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน

ใช้รถตีนตะขาบ ปั่นดิน - ย่ำเทือก – ลูบเทือก โดยไม่ต้องไถ

ตอน...ปั่นนา ทิดจีน(120 ถัง/ไร่) ..6 เมษายน 2556

ขอเล่าให้ฟังว่า นาทิดจีน อยู่ติดกับนาของผม(เดิมทำสวน) ห่างกันแค่ คูน้ำ และมีดงมะพร้าวกั้น ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันและกันมานาน ตั้งแต่รุ่นพ่อ เขาทำนา เราทำสวน พอน้ำท่วม สวนล่ม ผมก็หันมา..ทดลอง..ทำนา ..

ยกเว้นท่านปรมาจารย์ คิม ซากัสส์ แล้ว ผมก็ได้คำแนะนำจากทิดจีนนี่แหละ เป็น 1 ใน 4 จอมยุทธที่ผมยกให้เป็นปรมาจารย์เรื่องข้าวให้กับผม ….
1 ทิดจีน(120 ถัง/ไร่) ..
2. ชุบ - ทองม้วน..130 ถัง/ไร่..
3. ยัยสวิง (120 ถัง/ไร่) ...
4. ยัยถนอม...7 ไร่ได้ 5.5 เกวียน..

..ที่ถือยัยหนอมเป็นปรมาจารย์ ....เราก็เอาสิ่งที่ดีของค้ามาใช้ สิ่งไม่ดีก็อย่าไปเอามาใช้ .ก็แค่นั้น...เรื่องนี้คงต้องเอาไว้คุยในเรื่องนาข้าว...

มาดูรถตีนตะขาบกันต่อครับ.......

หลังจากทิดจีนเกี่ยวเมื่อวันที่ 20 มีค.56 ก็เผาฟางไปบ้างบางส่วน ก็ขึ้นน้ำ พร้อมกับใช้เครื่องหว่านปุ๋ย หว่านปุ๋ยหมักเพื่อหมักฟาง ไว้ 15 วัน

พอบ่ายวันที่ 6 เมษายน 56 ก็เอารถทิดศักดิ์มาปั่นดิน งานนี้ ทิดศักดิ์นำรถมา 2 คัน ช่วยกันปั่น นา 15 ไร่ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง เสร็จ


รูป 1


รูป 2


รูป 3


รูป 4


รูป 5


รูป 6

รูปที่ 1 – 6 ถ้าจะบอกว่า ผลงานของรถตีนตะขาบเจ้าเก่า รูปอาจจะซ้ำ ๆ ดูแล้วเบื่อว่ะ....แต่อยากให้ดูและพิจารณาครับว่า พื้นนาที่จะให้รถตีนตะขาบปั่นดิน แล้วย่ำทำเทือกให้ดีที่สุด หญ้าหรือตอซังข้าวควรจะสูงแค่ไหน และระดับน้ำที่ควรให้มีในนา ควรจะมากน้อยแค่ไหน เมื่อเวลาปั่น ย่ำ กดอัดลงดินแล้ว เศษหญ้า ฟาง จะจมลงดินไปได้เกือบหมด ...

....อันนี้คือสิ่งที่ผมจะเรียนรู้เพื่อเอามาใช้กับนาของผม ....นาเคมีได้ 120 ถัง/ไร่ แล้ว นาอินทรีย์นำเคมีเสริม ตามความเหมาะสม จะทำบ้างไม่ได้ให้มันรู้ไป .....




รูป 7


รูป 8

รูปที่ 7 – 8 ใช้ 2 คันคู่ คันหนึ่งขับวนซ้าย อีกคันขับวนขวา …หลังทิวต้นมะพร้าวที่เห็น ที่นาของผมอยู่ตรงนั้นแหละ





รูปที่ 9 คันนี้ขับวนซ้าย ไอ้ตัวแผงเหล็กก็จะอยู่ข้างขวา ในรูปจะเห็นว่า คนขับจะดันลงมาให้ราบกับพื้น เพื่อใช้ปาดดิน





รูปที่ 10 คันนี้ขับวนขวา ไอ้ตัวแผงเหล็กก็จะอยู่ข้างซ้าย ในรูปจะเห็นว่า คนขับจะดันลงมาให้ราบกับพื้น เพื่อใช้ปาดดิน เช่นเดียวกัน ...ทิดศักดิ์ จบแค่ ป.4 คิดได้ยังไง....




รูป 11


รูป 12

รูปที่ 11 – 12 คันหนึ่งวนไปซ้าย





รูปที่ 13 อีกคันก็วนไปทางขวา





รูปที่ 14 ผลงานส่วนหนึ่งของคันที่ขับวนขวา





รูปที่ 15 ผลงานส่วนหนึ่งของคันที่ขับวนซ้าย





รูปที่ 16 ฝีมือในการเดินเครื่องยนต์ ที่สามารถคุมรถให้มาเจอกันในแต่ละรอบในเวลาใกล้เคียงกัน แสดงถึงสมรรถนะของคนขับได้หลายอย่าง
1 การขับเร็ว รถจะกินน้ำมันมากกว่าคันที่ขับช้า และผลงานจะแตกต่างกัน
2 การขับช้าเกินไป งานเสร็จช้า เสียเวลา เพราะหลังจากเสร็จงานนานี้แล้ว ยังมีงานที่จะต้องไปปั่นดินในเวลากลางคืนอีกแห่งหนึ่ง....
3 นอกจากคนขับจะได้เงินเดือนแล้ว จะได้ส่วนแบ่งพิเศษจากงานทีทำ ไร่ละ 15 บาท วันหนึ่งถ้าปั่นได้ 100 ไร่ ก็ได้เงินพิเศษ 1,500 บาท แล้วงานมีทุกวัน เดือนหนึ่งได้เท่าไหร่ I don’t know.




รูป 17


รูป 18

รูปที่ 17 – 18 รถคันนี้ขับวนซ้าย จะเห็นแผงปาดดินถูกไฮดรอลิค ดันลงมาแนบพื้นเพื่อปาดดิน ในขณะเดียวกัน ตัวแผงเหล็กแผงใหญ่ ก็จะทำหน้าที่ปาดดินไปด้วย ซึ่งคนขับที่ชำนาญจะรู้ว่า ตรงนี้เป็นที่ดอนต้องกดหนัก ตรงนี้ที่ลุ่ม ก็กดเบา ๆ





รูปที่ 19 ใกล้ 15 น. ผมมีภาระกิจ ขอเก็บรูปการปั่นดินนาทิดจีนเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2556 ไว้แค่นี้ครับ




รูป 20


รูป 21


รูป 22


รูป 23


รูป 24

รูปที่ 20 – 24 หลังจากปั่นดินได้ 2 วัน พอวันที่ 8 เมษายน 56 ทิดจีนก็เอารถไถเดินตาม ติด สกี มาลูบเทือก เพื่อชักร่องหว่านข้าว





รูปที่ 25 หลังจากลูบเทือกเสร็จ ก็ปล่อยน้ำเข้าเพื่อหมักดินไว้ รูปนี้ผมถ่ายเมื่อ 10 เมษายน 56




รูป 26


รูป 27


รูป 28


รูป 29

รูปที่ 26 – 29 วันที่ 11 เมษายน 56 ทิดจีนปล่อยน้ำออก แล้วชักร่องเพื่อจะหว่าน พอถึงวันที่ 13 เมษายน 56 ทิดจีนหว่านข้าว วันสงกรานต์พอดี





รูปที่ 30 เมล็ดข้าวที่หว่าน ...ทิดจีนใช้พันธุ์ข้าว กข47 ครับ

เนื่องจากกระทู้นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ รถตีนตะขาบ ปั่นดิน ทำเทือก....เรื่องการบำรุงรักษา ให้ปุ๋ย ฉีดยา ผมคงต้องศึกษาต่อเอาเอง คงจะมานำเสนอในกระทู้นี้ได้ไม่มากนัก



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม ... และเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน

ตอน...ปั่นนา ทิดโส ..16 เมษายน 2556

นาทิดโส อยู่ห่างจากบ้านผม 2 กม.เศษ เช้าวันที่ 16 เมษายน 56 ผมอกมาตลาดและไปใส่บาตรตอนเช้า ขากลับมาเจอทิดโส กำลังจะปั่นดิน เห็นรถคันนี้ดูแปลกดี เล็กกะทัดรัด ดัดแปลงเอาเครื่องรถ 6 ล้อมาใส่กับรถแบคโฮขนาดเล็ก นับว่ามีความคิดสร้างสรรค์ดัดแปลงได้ดีไม่น้อย ...แต่ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ได้ผลงานออกมาไม่ดีเลย ....น่าจะดัดแปลงใช้ลูบเทือก ชักร่องแทนรถไถเดินตามจะเหมาะกว่า



รูปที่ 1 ทิดโสบอกว่า นาแปลงนาเป็นนาลุ่ม หล่มลึก ขนาดนาลุ่ม พื้นนาเป็นหล่ม แทร็ครถคันนี้ยังลอยหน้าดิน แสดงว่า รถมีน้ำหนักเบาเกินไป





รูปที่ 2 รถคันนี้ขับวนซ้าย เพราะมีแผ่นเหล็กปาดดินอยู่ด้านขวา แต่ตัวปาดดิน เป็นแผ่นเหล็กกว้างประมาณ 12 นิ้ว แกนเพลาขับใบมีด และตัวใบมีดปั่นดินเล็กเกินไป ดินที่ออกมาท้ายใบมีด ย่อยไม่ละเอียด





รูปที่ 3 ปั่นวนมารอบที่ 2 ขี้เทือกออกมาไม่ละเอียด ก้อนใหญ่เกินไป มาถึงตรงนี้ ติดหล่มซะแล้ว ...เอวัง ฯ

...ทำไมทิดโส ไม่เอารถทิดศักดิ์ ....
...ทิดศักดิ์ไม่ว่าง...

...ยัยหวิงเพิ่งปั่นไปเมือวานนี้เอง ทิดโสน่าจะข้ามไปบอก ไหน ๆ ก็มาถึงที่แล้ว ขอให้มาปั่นต่อที่นี่หน่อย ย้ายรถมานิดเดียวเอง ...น่าจะบอกกันซักคำ....
…เกรงใจ ไม่กล้า กลัวเค้าไม่มา ....

...รถคันนี้อยู่ที่ไหน....
...ดอนแฝก บางกระจัง ...

...ไร่เท่าไหร่....
...150 น้ำมันเขา....

...รถทิดศักดิ์ แถวบ้านเราน้ำมันเขา ไร่ 130 เอง คันนี้เครื่องมันเล็กเกินไป กำลังไม่พอ แล้วรถก็เบาด้วย หน้าหนัก ท้ายลอย. ใบมีดกดได้ไม่ลึก ดินขี้เทือกไม่ละเอียด ขนาดรถเบา ๆ ยังติดหล่มเลย.น่าจะเอาไว้ใช้ตอนลูบเทือก ชักร่องจะเหมาะกว่า ….
....มันต้องรีบทำ เดี๋ยวไม่ทันเข้าราคาประกัน....


เนื่องจาก ลุงเปลี่ยนโฉมหน้าเว็ปใหม่ ดูสดใสกว่าเดิม แต่ยังมีปัญหาตรงที่ เวลาคลิ๊กที่ กระดานข่าว จะกลายเป็นเข้าไปที่หน้า เข้าระบบสมาชิก...
แต่ผมก็อุตส่าห์ เอาเรื่องมาลงกระทู้นี้ เพื่อจะให้จบตอนของรถตีนตะขาบปั่นดิน ย่ำเทือก โดยไม่ต้องไถ ....


ขอบคุณครับลุง




.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม ... และเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน

ตอน...ย่ำเทือก - ปั่นนา ทิดป่อง ..21 เมษายน 2556

นาทิดป่อง อยู่ติดกับนาทิดจีน กับนายัยสวิง ไปทางตะวันตก ห่างจากนาผมประมาณ 100 เมตร...ผมนึกว่าแถวนี้จะไม่มีใครปั่นดิน ย่ำเทือกกันแล้ว ...ลืมนึกถึงนาทิดป่องไป

บ่ายสี่โมงเย็นวันที่ 21 เมย.56 (วันที่นำเสนอนี่แหลธ)ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ เลยเดินออกมาดู รถปั่นดินกำลังปั่นนาทิดป่อง.......เสียงเครื่องยนต์รถตีนตะขาบปั่นดิน ไม่เหมือนเสียงรถอื่น เสียงคล้ายเครื่องยนต์รถเกี่ยวข้าว แต่เสียงรถปั่นดินจะหนักแน่นกว่า ...

ผมลืมกล้องถ่ายรูป เลยใช้กล้องจากมือถือแทน ภาพอาจไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากแสงแดดตอนบ่ายสี่โมงเย็น ตะวันเริ่มเอียงคล้อยต่ำลง ด้านหนึ่งจะมืด ด้านหนึ่งจะสว่าง แต่พอดูออก…



รูป 1


รูป 2

รูปที่ 1 – 2 รถคันนี้ดูไกล ๆ แลว่าใหญ่ ที่นั่งคนขับปิดมิดชิด





รูปที่ 3 มองดูว่าใหญ่ แต่เครื่องยนต์เล็ก ที่ดูใหญ่เพราะห้องคนขับ




รูป 4


รป 5

รูปที่ 4 – 5 โปรดสังเกต Module ห้องคนขับ ติดแอร์ครับ....แต่เครื่องยนต์เล็กนิดเดียว แผ่นปาดดินและลูบเทือกด้านหลังแคบไปหน่อย แต่ดีตรงที่ว่า แผ่นปาดดินมีสองข้างซ้าย ขวา ซึ่งสามารถปาดดินได้ทั้งซ้ายและขวา คือจะขับวนซ้ายหรือวนขวาย่อมได้...





รูป 6


รูป 8


รูป 9


รูป 10

รูปที่ 6 – 10 วนมาอีกรอบ รถคันนี้ขับวนซ้ายครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับความถนัด ไม่ว่าจะวนซ้ายหรือวนขวา จะมีแผ่นปาดดินข้างคันนาทั้งสองข้างอยู่แล้ว เวลาจะลูบปาดดิน ก็กดแผ่นนี้ลงราบกับพื้นทั้งสองข้างดินที่ถูกปั่นแล้ว ก็จะถูกลูบและราบไปกับหน้าดิน





รูปที่ 11 รอบดินที่ถูกปั่น และผ่านการลูบไปแล้ว ความรู้สึกของผม มองดูว่า ไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควร





รูปที่ 12 ขี้เทือกของดินที่ถูกปั่น และลูบไปแล้ว ตั้งข้อสังเกตได้ว่า หญ้า ฟาง ไม่ถูกกดให้จมลงดิน อาจเป็นเพราะ ใบมีดปั่นดิน เล็ก และสั้นเกินไป และแผ่นกดดินด้านท้ายรถ กดเทือกไม่ลึก ทำให้มองเห็นเศษหญ้าติดอยู่หน้าดิน ...ฉีดยาคุมหญ้ากันอานเลย

รถคันนี้อยู่ ลานกระทุ่ม เลยจากบ้านผมไปทางบางเลน ราคาค่าปั่น ไร่ละ 130 บาท + ค่าน้ำมันอีกไร่ละ 50 บาท รวมเป็น ไร่ละ 180 บาท ที่ผ่านมาทั้งหมด ..คิดว่ารถทิดศักดิ์ ดีที่สุดในเวลานี้ ครับ.

เวลานี้ ทิดศักดิ์มีรถตีนตะขาบ 2 คัน แกบอกว่า " กำลังต่อใหม่อีก 2 คัน ว่าง ๆ ไปดูซี่ " ....ไปแน่ จะไปดูซิว่า 2 คันใหม่นี้ ไฮเทค แค่ไหน




.

[teeen2005]

สวัสดีครับลุงคิม ทิดแดง และสมชทุกท่าน

เรื่องมันๆ ตามแบบฉบับทิดแดง พร้อมรูป ทิดแดงอย่าลืมเอารูปรถต่อใหม่ของทิดศักดิ์มาให้ดูน่ะครับ อยากชม ว่าจะไฮเทคขนาดไหน บางคันที่เห็นจาก youtube ติดผานดันข้างหน้าด้วย หรืออนาคตติดผานไถเลยได้น่าจะดีมากๆ ครบเครื่องทดแทนเทรคเตอร์คูโบต้า รูปด้านล่างขนาดเล็กไปน่ะครับ





ลองเอารูปมาให้ดูหน่อยน่ะครับ เผื่อไปสั่งต่อสักคัน มารับจ้างแถวบ้านผม
ออถามอีกนิด ท้ายถตีดิน แบบไหนดีเรื่องตีคินระเอียด และย่ำฟางลงดินกว่ากัน
แบบ 1


แบบ 2

ขอบคุณครับ

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม คุณteeen2005 และสมาชิกที่สนใจทุกท่าน

คุณteeen2005 ช่างสรรหารถตีนตะขาบย่ำเทือกไถนามาลงให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน
ผมไม่ทราบว่าแต่ละคันราคาคันละเท่าไหร่ และที่แน่ ๆ บอกได้เลยว่า ที่เค้าทำออกมาขาย ราคาย่อมสูง แต่คุณภาพไม่แน่ใจ เพราะเมื่อใช้งาน รถจะต้องถูกขี้ดิน ขี้เลน ล้างยังไงก็ไม่หมด อย่างรถของทิดศักดิ์ ใช้งานจนแทบไม่มีเวลาหยุดพักเลย แต่ละชิ้นส่วนของรถที่คุณเอารูปมาลงให้ดู ใช้ของเก่าเอามาประกอบ เก่าแค่ไหนก็ไม่รู้ เอามาอ๊อก พ่นสีทับแล้วก็ขาย

ขอเล่าที่มาที่ไปของทิดศักดิ์ก่อน

พื้นเพของทิดศักดิ์ เรียนจบแค่ ป.6 แล้วเลิกเรียนเพื่อให้น้องได้เรียนต่อ จากนั้นก็ช่วยพ่อทำนา อาหารที่ชอบที่สุดคือ มันแกว ทำไมถึงชอบกินมันแกว ทิดศักดิ์บอกว่า เพราะตอนโน้นแกจน กินข้าวต้องมีกับข้าว มันเปลือง กินมันแกวได้ประโยชน์ Three in one...ได้แป้งจากมันแกว ได้น้ำจากมันแกว ได้น้ำตาลจากมันแกว ขับรถไปกินไปไม่เสียเวลาหยุดพักกินข้าว...โห คิดได้ไงวะเพื่อน

เวลาว่างก็รับจ้างขับรถไถฟอร์ด และรถแบคโฮขุดดินทำร่องมาตั้งแต่อายุ15 จึงรู้พฤติกรรมระบบการทำงานของรถไถและรถแบคโฮเป็นอย่างดี

จากการที่ถูกเอาเปรียบในการทำนาด้วย รถไถเดินตาม ไถ ทำเทือก ลูบเทือก....ไร่ละ 350 - 400 ไม่รวมน้ำมัน ต้องเสียค่าน้ำมัน ต้องเลี้ยงอาหารพร้อมเหล้ายาปลาปิ้งอีก บางครั้งจะหว่านข้าว เจ้ารถไถไม่มาทำให้ตามนัด หรือทำไม่ดีเท่าที่ควร ตกอยู่ในภาวะจำยอม

จึงคิด เอาฐานรถแบคโฮเก่า ถอดเครื่องยนต์ และชุดกระบวยตักดินออก เหลือแต่ระบบไฮดรอลิค เอาเครื่องรถทัวร์เก่าใส่(เครื่องรถสิบล้อใช้ไม่ดี กินน้ำมันและกำลังไม่พอ) ต่อสายพานแบบรถเกี่ยวข้าวและตกแต่งระบบควบคุม...ต่อแกนเพลามาใช้กับตั้วปั่นดิน พัฒนาเปลี่ยนโน่น ใส่นี่ ซึ่งก็ยังไม่เป็นที่พอใจ รถคันแรกที่ต่อออกมาขายให้เพื่อนไป 700,000.- รถคันที่ 2, 3 ต่อมาหลายปีแล้วราคาตอนโน้นคันละ ล้านกว่าบาท กำลังต่อใหม่คันที่ 4, 5 เห็นบอกว่า คันหนึ่งเกือบจะ สองล้านแล้วมั๊ง ผมยังไม่ได้เห็น โทรไปก็ไม่ค่อยจะรับสาย บอกว่างานล้นมือ วันหนึ่งย่ำเทือกเกือบ 200 กว่าไร่ ไร่ละ 150 บาท + ค่าน้ำมันด้วยก็ไร่ละ 250 เอง เดินเครื่องรอบต่ำเร่งประมาณ 10-15 % เฉพาะจ้างคนขับ 2 คน ค่าจ้างคนละ พันกว่าบาทต่อวัน

ตั้งแต่รถตีนตะขาบย่ำเทือกออกมา รถไถเดินตามในรัศมี 150 - 200 กม แทบจะตกงาน ผลงานออกมาดีกว่า เนียนกว่า เทือกลึกกว่า ราคาถูกกว่า ใครจะไปจ้างรถไถเดินตาม

ผมขอเปรียบเทียบแต่ละรูปของคุณ teen2005 กับรถของทิดศักดิ์นะครับ




รูปที่ 1 รถคันนี้ เครื่องยนต์เล็กนิดเดียว ไม่น่าจะใช้กับนาดินเหนียวได้ดี อาจจะได้แต่ใช้ผานหน้าดันดินเหนียวไม่ได้หนักแรง ต้องใช้ลูบปาดถอยหลัง น่าจะใช้กับนาดินปนทราย ใบมีดปั่นดินมองไม่ชัดแต่ค่อนข้างเ้ล็ก ก้านไฮดรอลิคแทนที่จะใช้กดดิน กลับใช้ดันตัวใบมีดปั่นดิน ไม่เห็นผลงาน คงให้คำตอบไม่ได้





รูปที่ 2 รถในรูปที่ 1 น่าจะเทียบได้กับรถคันแรกของทิดศักดิ์คันนี้ คันเล็ก เครื่องยนต์เล็ก แต่ทำงานคล่องตัวมาก ตัวไฮดรอลิดหลังที่นั่งคนขับ ใช้กดใบมีดปั่นดินให้จมเพื่อปั่นได้ลึกมากขึ้น




รูป 3



รูป 4



รูป 5

รูปที่ 3 - 5 เป็นรถอีกคันหนึ่ง เครื่องยนต์ใหญ่ เดินเครื่องรอบต่ำ วิ่งช้า ๆ ปั่นดินพร้อมกับลูบเทือก ตัวไฮดรอลิค กดใบมีดอยู่ใต่ฝาครอบท้ายรถ ดินที่ถูกปั่นจะถูกแผงเหล็กท้ายรถลูบให้ราบ





รูปที่ 6 กรณีที่ดินผืนใหญ่ผืนเดียว 30 - 50 ไร่ จะใช้รถสองคันทำงานไปพร้อม ๆ กัน





รูปที่ 7 ขนาดของรถถคันนี้น่าจะใกล้เคียงกับรถของทิดศักดิ์ คงแตกต่างกันในรายละเอียด แต่แผ่นลูบเทือกด้านท้าย ถ้าดินที่ปั่นออกมาเป็นก้อนใหญ่ แผ่นนี้ไม่สามารถจะย่อยดินให้แตกออกเป็นก้อนเล็ก ๆ ได้





รูปที่ 8 แผ่นลูบเทือกของทิดศักดิ์จะเป็นซี่ ๆ คล้ายหวี กรณีที่ดินที่ปั่นออกมาเป็นก้อนใหญ่ ซี่อันนี้จะทำหน้าที่เหมือนคราด จะคราดให้ดินแตกออกเป็นก้อนเล็ก ๆ




รูป 9



รูป 10

รูปที่ 9 - 10 ให้สังเกตดินที่ออกมาท้ายแผง จะเป็นก้อนเล็ก ๆ ละเอียด จะเห็นได้ชัดในรูปที่ 9





รูปที่ 11 สังเกตที่ใบมีดปั่นดิน ทำงอเป็นมุมฉาก ทิดศักดิ์เคยทำมาแล้ว เวลาปั่น หญ้าและฟางจะติดใบมีด ใบมีดสั้น ปั่นได้ไม่ลึกนัก เหล็กที่ใช้ดูบอบบาง ไม่น่าจะทนงานสมบุกสมบัน




รูป 12



รูป 13



รูป 14



รูป 15

รูปที่ 12 - 15 ใบมีดของทิดศักดิ์กว้าง ใหญ่ ยาว ทำเป็นรูปโค้งแบบมีด และดัดให้โค้งงอ เวลาใบมีดหมุน จะตัดหญ้าและฟางให้ขาด สามารถกดให้ลึก ตื้น ได้ตามต้องการ แกนเพลาที่ติดใบมีดทำจากก้านเพลาใบพัดเรือ เหล็กที่ใช้ในส่วนอื่น เน้นความแข็งแรง ทนทานต่องานสมบุกสมบัน





รูปที่ 16 คันนี้น่าจะเหมาะกับนาดินปนทราย





รูปที่ 17 แทรคสูงเกือบถึงเอว




รูปที่ 18 เจอนายัยเฉิ่ม เทือกเกือบมิดแทรค คนที่มาดู กลัวรถจะจม ลุ้นกันน่าดู แต่ด้วยกำลังมหาศาล สามารถผ่านไปได้สบาย ๆ





รูปที่ 19 ดูความใหญ่โตมโหราฬครับ


ถ้าคุณ teeen2005 อยากจะต่อไว้ใช้ ศึกษาให้ดีก่อนว่า คุณจะเอาไปใช้ในพื้นที่นาแบบไหน แล้วลองไปถามราคา รถแบคโฺฮเก่าที่สภาพระบบไฮดรอลิค กับปั๊มลมที่อยู่ในสภาพดี 75 - 80 % กับเครื่องยนต์ สแกนเนียจากรถทัวร์เก่าสภาพ 65 - 75 % ถามที่อู่เชิดชัยของเจ๊เกียวก็ได้ แล้วก็ระบบเฟือง โซ่ สายพาน และ แกนเพลาเรือลากอวนขนาด 6 - 8 นิ้ว แล้วก็การบำรุงรักษาว่ามีอะไรบ้าง ...แค่ใส่แทรคแต่ละข้าง แล้วก็ดึงให้ความตึงเท่ากัน ก็มึนแล้วครับ แทรคสองข้างตึงไม่เท่ากันก็มีผลต่อหลาย ๆ อย่างที่จะตามมา

ถ้าจะบอกว่ารถของทิดศักดิ์คันใหม่ราคาเกือบ 2 ล้าน เพราะทำเอง ใช้งานเอง จะเน้นของที่มีคุณภาพ คงทน

ถ้าจะซื้อที่เค้าทำออกมาขาย ก็ดูให้ดี ๆ นะครับ เพราะผมเห็นแต่ละคันแล้ว เหล็กที่ทำ Option ต่าง ๆ บ๊าง บาง


.



.

[teeen2005]

สวัสดีครับ ลุงคิม และขอขอบคุณทิดแดงมากครับ ที่บอกเล่าเก้าสิบ ให้เข้าใจพร้อมรูปด้วย

ผมก็มีความคิดแบบทิดศักดิ์น่ะครับ ที่ชาวบ้านรวมผมด้วย ถูกเอาเปรียบ เรื่องรถไถ ทั้งกราบกราน ขอร้อง กว่าจะมาก็ช้า ชาวบ้านก็ไม่รู้จะไปจ้างใคร ยิ่งเขาคนนั้นเป็นผู้ใหญ่ กำนัน ยิ่งต้องก้มลงกราบที่เท้าเลยก็ว่าได้

สิ่งที่เจอมากับตัว ผลงานที่ทำแต่ล่ะครั้งก็ห่วย พูดบอกว่าทำแบบนี้ ก็บอกว่าเคยทำแบบนี้ทำให้แค่นี้แหละ(ที่จริงเป็นการเอาเปรียบกัน) ต้องทำให้ทันเวลา กลัวคนอื่นแย่งลูกค้า คนจ้างมาก(ก็พี่น้องภายในหมู่บ้านนั้นแหละ) จ่ายเต็มด้วย+ผลงานห่วย คนถูกจ้างขี่คอคนจ้าง และ รถเกี่ยวปัจจุบัน มันวิ่งเร็ว ชิบ...ไม่รู้มันจะวิ่งเร็ว หรือแข่ง(ปารีสดากก้า)กับอะไร ข้าวตกหล่นมากมาย แทบไม่ต้องหว่านข้าวอีกเลย แค่สูบน้ำเข้านาก็มีข้าวงอกแล้ว บอกพวกมันว่าขับช้าๆ ก็ช้าไปสักพัก แล้วก็ขับเร็วเหมือนเดิม ภาวะจำทนของชาวนา



แนวคิดผม จะเก็บข้อมูลหลายๆส่วน หลายอย่างวางแผน คือ
ช่วงแรกว่า จะซื้อรถไถ 50-60แรง (ไม่เอาคูโบต้า คนบอกมาว่าห่วย) ติดผาน +จอบหมุน +ผานหน้า และรถไถเดินตามเก่าสักคัน พร้อมอุปกรณ์ต่าง ทำข้าวพร้อม ทำแคลตาลูป แตงโม ข้าวโพด เก็บเงินไปก่อน





ช่วง2 เก็บเงินจากการทำนา+ผลไม้ในทีนา สัก 2-3 ปี ก็ซื้อรถตีดิน แต่อยากได้แบบ รถตีดิน แต่น่าจะเอาแบบมีออปชั่นเสริม คือผานหน้า ตีดิน ไถได้ด้วย



ช่วง 3 ก็รถเกี่ยวขนาดเล็ก เอาแบบของ ไทยประกอบนี่แหละ หาของซ่อมง่ายดี ไม่เอาคูโบต้า คนบ่นกันมาก ที่จริงตรงนี้จำเป็นไหมที่ต้องซื้อรถเกี่ยวข้าวเอง ไม่จำเป็นสำหรับชาวนาทำข้าวขาย แต่ถ้าเราจะข้ามไปสู้การทำข้าวขายเมล็ดพันธ์ก็ต้องมีและการสูญเสียเมล็ดข้าว ช่วงเกี่ยวก็จะมีไม่มาก







ส่วนเรื่องรับจ้างนั้น ยังไม่คิด เพราะแค่คิดโครงการที่ทำทั้งปี ก็หมดเวลาแล้ว สำหรับไปรับจ้างเขา ทำงานใช้หนี้ชีวิตพ่อแม่ดีกว่า

ส่วนเงินลงทุนเยอะ พยายเก็บ แต่ทำได้แน่ๆ คงอีกนาน ต้องยืนอยู่บนลำแข้งตัวเอง โอกาสยังมีอีกมากสำหรับเกษตรไทย