กล้วยไม้มือใหม่ ตอน ฝากให้ดูเล่น

[hans]

.
สวัสดีค่ะลุงคิม ทิดแดงและสมชทุกๆๆท่าน

อะห้า ไม่ผิดหวังจริงๆๆ ออกดอกหละ 55555 ที่นี่เขาออกช่อใหญ่ สีไม่จ๊าด แต่มีเสน่ห์นา

ตามป่าที่นี่พอหาได้ไม่ยาก สีเขาไม่สวยคนก็เลยเมินต่อไปคงจะสูญพันธ์ คงต้องเอาไปฝากให้คนแถวโน้นเลี้ยงไว้

จะไปเกี่ยวข้าวช่วยญาติ เขาบอกมีเยอะแต่จะขึ้นเอาได้ไหมต้องรอ การส่งหีบห่อเข้าใจแล้วคงจะไม่พลาดอีก จะมองหาอย่างอื่นด้วย ลุ้นกัน


ป้าห่านจ้า


.

[DangSalaya]

[hans]

.
.
สวัสดีค่ะ ลุงคิม ทิดแดงและสมาชิกทุกๆๆท่าน

แดงจ๋าไปเลยไปเลย ::::::::: ถึงเซก็คงเซอย่างมีมาดเผื่อป้าด้วย
เดี๋ยวนะจะให้ชิมสาวลาวว่าจะแซบส่ำสาวไทยบ่อ ถ่าก่อนเด้อป้าบ่อว่างเลยทั้งเกี่ยวข้าวทั้งจัดเตรียมบ้านเพื่อนลุงจะมาเยี่ยม เลี้ยงเก่งอย่างงี้ต้องเจอฝากเลี้ยงอีรกเยอะแน่ๆๆๆๆๆ ป้าขอชื่นชมจากภาพถ่ายก็มีความสูขแล้ว

ป้าห่านจ้า


.

[Wildcat]

สวัสดีครับลุง น้าทิดแดง คุณชมภู พี่ตู่ คุณออร์คิด ป้าห่าน


ระยะนี้ผมงานยุ่งครับ เพียงแค่เข้ามาอ่าน...ยังไม่สะดวกคุย.....ด้วยเหตุว่า งานหลวง หมดงบฯ เก่า เปิดงบฯ ใหม่ งานเก่ามา ทับซ้อน งานใหม่ ค่อนข้างไม่สนุก และวุ่นวาย ครับ

ทั้งนี้เนื่องมากจาก คนเก่าที่อายุ 60 หมดวาระออกไป คนใหม่มาจากหน่วยอื่น ใส่หัวโขนของคนเก่า ซ่าส์เข้ามาแทน ทั้งก๋า และกร่าง แต่ไม่เก่ง สั่งงานจนลูกน้องทำไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำตามที่สั่งได้ยังไง เพราะเคยทำมาดี ๆ อย่างนี้ ถูกสั่งเปลี่ยนแปลงให้ทำอีกอย่าง วุ่นวายครับ.....คุยเรื่องกล้วยไม้ดีกว่า.....

น้าทิดแดง Comments ไว้ตอนท้ายเอื้องดอกมะขามของป้าห่านออกดอก เมื่อวันที่ 9/10/14 ว่า

ผมจะลองเอาเกสรตัวผู้ของเอื้องดอกมะขาม หรือข้าวเหนียวลิงของป้าห่าน มาผสมกับต้นนี้ดู(หมายถึง หวายคิง)....มีหนังการ์ตูนอยู่เรื่องนึงชื่อว่า.....Lion King....ถ้าผมเอา ข้าวเหนียวลิง ไปผสมกับหวายคิง เกิดติดฝักมีเมล็ด เอาไปเพาะจนถึงออกดอก อาจจะให้ชื่อว่า Monkey King ก็ได้นะป้า

วันที่ 10 ผมโทรไปหาน้าทิดแดง มีเสียงเด็กรับสายบอกว่า น้าทิดไปบางใหญ่ ลืมเอาโทรศัพท์ไปด้วย จะโทรอีกครั้งก็เกรงใจแล้วก็ลืมไปเลยและไม่แน่ใจว่าจะกลับจากบางใหญ่แล้วหรือยัง

เอาเป็นว่า จากข้อความข้างต้น......อยากให้น้าทิดแดง สาธิต วิธีการผสมกล้วยไม้ให้ดูน่ะครับ....เอาแบบทำง่าย ๆ แบบคนไม่บ้าไม่กล้าทำ แบบนักวิชาเกิน หรือแบบชาวบ้าน ๆ นะครับ

ขอบคุณครับ.




ปล. ระบายสีตัวหนังสือได้แล้ว ขอบคุณคุณชมภู คุณออร์คิด ที่แนะนำครับ



.


.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม...คุณแคท คุณชมภู คุณออร์คิด ป้าห่าน ไอ้ตู่ และ ฯลฯ เพื่อนสมาชิก(ประเภทขี้อาย ซ่อนหลังไมค์แยะ)



ระยะนี้ ผมก็มี Job เล็ก ๆ หลายงานครับ ไม่ค่อยมีเวลาตอบกระทู้ ต้อง วิ่งเข้า วิ่งออก คอนถม – บางใหญ่ - เจริญนคร.....เนื่องจาก…..พูดไม่ถูก...

เอาเป็นว่า......

สำหรับเรื่องสาธิตวิธีผสมพันธุ์กล้วยไม้ ผมผสม และเก็บข้อมูลเอาไว้แล้ว แต่เรื่องต้องคุยยาว ขอเวลาหน่อยนะครับคุณ แคท.....

ถ้าใจร้อน ไม่อยากรอผม เปิดอ่านใน กระทู้ 3991 วันที่ 8/12/2013….มีคำถามเรื่อง ผสมพันธุ์แคทลียา...คลิกเลยจร้า.....

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3991

สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์) 08/12/2013
ข้อความ : ผสมพันธุ์ดอกกล้วยไท้แคทลียา ทำอย่างไร....?

ตอบ :
- เลือกดอกที่ต้องการให้เป็นต้นแม่ ดอกสมบูรณ์ ต้นสมบูรณ์ ลักษณะพันธุ์ตามต้องการ และเกสรตัวเมียพร้อมรับการผสม
- เลือกดอกที่ต้องการให้เป็นต้นพ่อ ดอกสมบูรณ์ ต้นสมบูรณ์ ลักษณะพันธุ์ตามต้องการ และเกสรตัวผู้พร้อมผสม

- ใช้กรรไกรตัดปากดอก (กลีบ) ของต้นแม่ทิ้งไป
- ลักษณะดอกของต้นแม่หรือต้นพ่อ บางสายพันธุ์อาจมีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน ถ้าเป็นเช่นนี้ ให้ตัดเกสรตัวผู้ในดอกต้นที่จะเป็นต้นแม่ทิ้งไป .... ถ้ามีเกสรเพศเดียวก็ไม่ต้องตัดออก

- ใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ยเกสรตัวผู้เอาเกสรตัวผู้ของต้นพ่อ ไปใส่ให้กับเกสรตัวเมียของต้นแม่
- ผสมเกสรแล้วใช้ถุงไยสังเคราะห์ห่อดอกไว้ เพื่อป้องกันการผสมซ้ำจากเกสรตัวผู้พันธุ์อื่นๆ นาน 3-5 วัน จึงถอดถุงห่อดอกออก

- บำรุงเลี้ยงตามปกติ กระทั่งผลแก่จึงเอาเมล็ดมาดำเนินการเพาะต่อไป
- ต้นใหม่ที่เกิดจากเมล็ดจะเป็นแคทลียาพันธุ์ใหม่ต่างไปจากต้นพ่อต้นแม่ (กลายพันธุ์) ซึ่งจะดีกว่า หรือด้อยกว่า ไม่มีโอกาสรู้ล่วงหน้าหรือกำหนดได้



ขอบคุณครับ....ขอบคุณครับลุง....อีกไม่กี่วันจะเข้าหน้าหนาวแล้ว ขอให้ลุงสดใส สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ครับ ....ไปชมบรรยากาศสุดสวย ปลายฝนต้นหนาว กินอาหารจีนยูนนานขนานแท้ จิบชาอู่หลง หรือจะกินข้าวสีดำกะเหรี่ยง(บือโปะโล๊ะ บือพะทอ) ที่ปายกันมั๊ยครับ.....ผมอาจจะขึ้นปาย วันที่ 24 ตค. นี้ครับ



.

[toodtoo]

สวัสดีครับลุง พี่ทิดแดง คุณชมภู คุณออร์คิด คุณแคท ป้าห่าน และเพื่อน ๆ


หงุดหงิดน่ะทิด
ทิดบอกว่า...

ระยะนี้ มี Job เล็ก ๆ หลายงาน ไม่ค่อยมีเวลาตอบกระทู้ ต้อง วิ่งเข้า วิ่งออก คอนถม – บางใหญ่ - เจริญนคร.....เนื่องจาก…..พูดไม่ถูก

ฉันอ่านแล้ว ก็รู้ว่าระยะนี้ ทิดมีงานหลายอย่าง ต้องวิ่งรอกบ้านคุณปู่กับ บางใหญ่ ... แต่ตรงอีคำที่ว่า เนื่องจาก...พูดไม่ถูก .....แล้วหยุดไว้แค่นี้มันทำให้ค้างคาใจ มันคิดไปได้หลายแง่หลายมุมน่ะทิด ถ้าเป็นเรื่องดี มันก็สบายใจ ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี มันก็ไม่สบายใจ และถ้าเป็นเรื่องหนักหนา ฉัน ทิดบัคิ ไอ้หริ่ง ก็ยังพอแบ่งเบาได้บ้างนะทิดนะ....โทรติดต่อทิดก็ไม่ค่อยจะรับสาย ..
.โทรถามป้าใหญ่ แกก็ว่า ..
...พักนี้..เค้าอยู่ไม่ติดบ้านว่ะ เห็นขนไม้ไป ๆ มา ๆ บ้านคุณปู่กับบางใหญ่ เป็นเจว็ดอยู่นี่แหละ ....

ถามเจ๊ร้อง แกก็ว่า
...ข้าก็ไม่เห็นเค้ามีเรื่องอะไร วิ่งเข้า วิ่งออกอยู่สองสามแห่งนี่แหละ สงสัยจะร้อนวิชามั๊ง....

ถามใครก็ไม่รู้เรื่อง.....ฉันถามจริง ทิดกำลังทำอะไรอยู่..แล้วตอนท้าย ๆ บอกว่า

อาจจะ ขึ้นปายวันที่ 24 ตค.
แถมชวนลุงไปกินข้าวดำกะเหรี่ยงซะด้วย....
ไปต่อตีน ต่อมือ ที่บ้านกะเหรี่ยง หรือที่ศูนย์วิจัยข้าว มส. รึไง

..ฉันก็อยากรู้เรื่องการผสมพันธุ์กล้วยไม้แบบเดียวกับคุณแคท เหมือนกัน อ่านจากที่ลุงอธิบาย ก็พอรู้บ้างละ... แต่อยากเห็นการสาธิตเป็นภาพด้วยน่ะทิด ...คุณ ชมภู กับคุณ ออร์คิด ไม่อยากเห็นรูปวิธีผสมพันธุ์กล้วยไม้บ้างเรอะ....เงียบกันไปหมด กลับจาก ต่างจังหวัดกันหรือยังล่ะ

ผมผ่าแยกแคทไว้ตอนหน้าฝน.....เน่าไปหลายกระถางเหมือนกัน (โดนทิดแดงเทศน์กัณฑ์ ชุมนุมเทวดา สบายไปแล้วด้วย)


ปล....วันที่ 19 ฉันจะไปส่งของ ขากลับตอนบ่าย จะแวะเข้าไปที่บางใหญ่...ถ้าทิดไปที่ร้าน คอยฉันก่อนแล้วกัน ...มีของดีไปฝาก....?...




คุณ ชมภู อยู่มั๊ย ว่างป่ะ ถ้าว่างออกไปคุยกันหน่อยนะ รู้จัก และเคยเห็นที่ถือในมือหรือเปล่า.....ของดี หายาก....



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม...คุณแคท คุณชมภู คุณออร์คิด ป้าห่าน ไอ้ตู่ และ ฯลฯ เพื่อนสมาชิก


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน จับลิงป้าห่านมาผสมพันธุ์


5.2.1 - สาธิตการผสมพันธุ์กล้วยไม้


วันที่ 19 ตค. คุณ ชมภู ไปหาที่บางใหญ่ตั้งแต่ตอนสาย ๆ ไอ้ตู่ มาตอนใกล้เที่ยง...แนะนำให้สองคนรู้จักกันแล้วก็กินข้าวเที่ยง ง่าย ๆ สบาย ๆ ต้มยำขาหมู ไข่เจียว ผัดผักบุ้ง... เสร็จแล้วก็เสวนากันตามประสาคนไม่ได้เจอกันนาน....

ปี่กับขลุ่ย เข้ากันได้ฉันใด ไอ้ตู่กับคุณชมภู ก็เข้ากันได้ดีฉันนั้น ....ส่วนมาก คุณชมพู ฟังไอ้ตู่ ฝอย และนั่งหัวเราะซะมากกว่า

ผมบอกมันว่า ที่ผมบอกพักนี้ งานยุ่ง ๆ น่ะเรื่องมันเป็นยังไง . ..ไอ้ตู่ เอาไข่เต่านามาฝากผม ผมก็เตรียมเอามะพร้าวแห้งฝากไปให้แม่มันด้วย....ส่วนคุณชมภู ขอบคุณสำหรับแก้วมังกร ของโปรดเจ๊รองแกเลยละนั่น.....

..ไอ้ตู่ทำพิเรน ดันเอาข้าวหมากเกินอายุ เกือบจะ 10 ห่อ ใกล้จะออกเปรี้ยว บีบเอาแต่น้ำ ผสมเบียร์...กินสองคนกับคุณชมภู พักเดียวเป็นเรื่อง....คุณชมภู พอรู้ตัวว่า ตึง ๆ ขอตัวกลับก่อน ส่วนไอ้ตู่ ล่อเข้าไปเต็มพิกัด ฟุบ หลับ ต้องนอนค้างที่บางใหญ่....จะโทรไปบอกเจ๊ศรี เราก็ไม่รู้เบอร์ พอดีตอนดึกแกโทรมาเพราะเป็นห่วง บอกว่าจะแวะมาหาผม แต่ดึกดื่นแล้วยังไม่ถึงบ้าน .. เลยบอกไปว่า

....มันเมาน้ำข้าวหมากผสมเบียร์ ให้มันหลับอยู่ที่ฉันนี่แหละ เจ๊ศรีไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ค่อยให้มันกลับ

ตามที่ผมบอกไว้ว่า จะลองเอาเกสรตัวผู้ของเอื้องดอกมะขาม หรือเอื้องข้าวเหนียวลิงของป้าห่าน มาผสมกับ หวายคิง

ส่วนจะผสมติดหรือไม่ ตอบไม่ได้ครับ....เพราะทั้งสองชนิด เป็นกล้วยไม้สกุลหวายด้วยกันก็จริง แต่มันอยู่คนละกลุ่ม (Species) เหมือน ไก่ กับ นก นั่นแลฯ....

วิธีการทำก็ตามที่ลุงคิม อธิบายไว้ในกระทู้ 3991 นั่นแหละครับ ผมขอนำเสนอรูปให้เห็นชัดอีกครั้งก็แล้วกัน




(1)



(2)



(3)



(4)



(5)

(1 – 5) ใครบอกว่า เอื้องดอกมะขามไม่สวย ดูซะใหม่.....

เนื่องจากเอื้องดอกมะขามหรือเอื้องข้าวเหนียวลิงของป้าห่าน ต้นก็ยังเล็ก และมีจำนวนแค่ 5 ดอก คงจะใช้เป็นต้นแม่พันธุ์ไม่ได้ จะเด็ดดอกมาสาธิตดอกก็เล้กจิ๊ดเดียว และก็เสียดาย เพราะเป็นกล้วยไม้ป่าไม่ใช่จะออกดอกกันได้บ่อย ๆ ขอเก็บไว้ดูให้ชื่นใจนาน ๆ หน่อย จนกว่าจะเหี่ยวไปเอง

....งั้นก็เอาเป็นต้นพ่อพันธุ์ก็แล้วกัน




(6)



(7)

(6 - 7) หวายเก่าแก่ของพ่อ....หวายคิง....ดอกเล็ก สีสดใส แดงเหมือนสีทับทิม ออกดอกครั้งละหลายช่อ ผมจะใช้เป็นต้นแม่




(7.1) ดูรากซะก่อนครับ ยาวเป็นเมตร เกือบจะระดินอยู่แล้ว





(8 ) ต้นนี้จำชื่อไม่ได้ ดอกเล็กออกดอกครั้งละหลายช่อ สีสวยน่ารักดีเหมือนกัน ผมคงต้องใช้ ดอกของเจ้าต้นนี้กับ ดอกหวายคิง เพื่อการสาธิตนะครับ





(9) มาดูกันครับว่า การผสมพันธุ์กล้วยไม้ เค้าทำยังไง รูปชุดนี้ผมถ่ายไว้เมื่อวันที่ 10 ตค.57 เป็นวันที่ผมผสมพันธุ์ แต่......

ผมเตรียมเอากล้วยไม้ไปจากนครปฐม เพื่อให้คุณชมภู กับไอ้ตู่ ดูจากของจริงทุกขั้นตอน แล้วให้ลงมือทำเองด้วย ทั้งสองคนจึงได้รับรู้สบายแฮไปแล้ว

ส่วนคุณ ออร์คิด กับคุณ แคท ดูจากรูปและคำอธิบายไปก่อน ถ้าสงสัย อะไรยังไม่ชัดเจน ถามมาก็แล้วกัน


ปกติต้องผสมบนต้นนะครับ ต้นหนึ่งจะเป็นต้นพ่อ อีกต้นจะเป็นต้นแม่....แต่ในการสาธิต ผมเด็ดดอกออกมาเพื่อถ่ายรูปให้ดูวิธีการชัด ๆ และดูง่าย ๆ ขึ้น

ผมสมมุติว่า หวายสีขาวปากแดงดอกเล็ก เป็นต้นพ่อพันธุ์ มีสัญลักษณ์ แสดงความเป็นตัวผู้คือ วงกลมมีลูกศรชี้เฉียงขึ้นไปทางขวานิดนึง....

ส่วนหวายคิงผมใช้เป็นต้นแม่ มีสัญลักษณ์แสดงความเป็นตัวมียคือ วงกลม มีขีดลงมาและมีแขนออกสองข้าง

ความจริง ดอกกล้วยไม้เป็นดอกที่ สมบูรณ์เพศ คือมีทั้งเกสรตัวผู้ และรังไข่อยู่ในดอกเดียวกัน เกสรตัวผู้จะอยู่บนจะงอยปากมดลูกหรือรังไข่ของตัวเมีย ภาษากล้วยไม้เค้าเรียกว่า เส้าเกสร มีฝาครอบเกสรตัวผู้ปิดอยู่ ดูตรงลูกศรชี้ในรูปที่ 9 นั่นแหละ




(10)



(11)

(10 – 11) ดูให้ชัดขึ้นอีกนิด ตรงที่ลูกศรชี้นั่นแหละครับ อับเกสรตัวผู้ของกล้วยไม้ มีฝาครอบปิดอยู่ รูป 10 คือดอกเอื้องเงิน บานทนมาเป็นแรมเดือนแล้ว รูป 11 คือดอกแวนด้าลูกผสม




(12)



(13)

(12 – 13) ใช้ปลายไม้แหลม ค่อย ๆ เขี่ยที่ฝาครอบเกสรตัวผู้ เอามือรองไว้ด้วย เพราะเกสรตัวผู้ของกล้วยไม้สกุลหวาย จะอยู่ในฝาครอบ

ในรูป 12 จะเห็นฝาครอบเกสรตัวผู้อยู่ด้านข้างและด้านบน ส่วนเกสรตัวผู้ สีเหลือง ติดอยู่ที่ปลายไม้แหลม





(14) เกสรตัวผู้ของกล้วยไม้สกุลแวนด้า จะมีฐานรองเกสรเอาไว้เวลาเขี่ยออกมา จะติดปลายไม้เพราะมีเมือกเหนียว ส่วนเกสรตัวผู้ของกล้วยไม้สกุลหวายจะไม่มี เขี่ยไม่ดีมีหวัง หล่นหาย..

ความจริง เวลาเขี่ยเกสรตัว เอาปลายไม้แหลมเกี่ยวที่ใต้ปากมดลูก เกี่ยวแล้วดึงขึ้นนิดนึง ฝาครอบจะหลุดออก เอามือรองไว้...ค่อย ๆ เขี่ยเกสรตัวผู้ออกมา ใช้เวลาไม่ถึง 3 วินาทีผสมเสร็จแล้ว ....

.นี่แหละครับ เกสรตัวผู้ ไม่ว่าคน สัตว์ พืช จะมีสองเม็ด ทำไมจึงเป็นเช่นนี้
โอมายก๊อด ไปถามพระเจ้าผู้สร้างโลกครับ..

พูดง่าย ๆ ถ้ามีเม็ดเดียว เกิดมันมีอันเป็นไป คุณก็จะกลายเป็นขันที หรือ บัณเฑาะ โดยปริยาย ....

....และไอ้สองเม็ดเล็ก ๆ ของกล้วยไม้นี่นะครับ พ่อผมเคยบอกว่า สมัยเมื่อ 40 ปีก่อนเคยมีการซื้อขายกันเป็นล้าน ถ้าไม่เชื่อ ลองโทรไปถามท่าน ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก ดูได้ครับ





(15) ผมฉีกกลีบดอกที่จะใช้เป็นแม่พันธุ์ออก เพื่อให้เห็นรังไข่ของตัวเมีย...





(16) ผมก็ใช้ปลายไม้แหลม ๆ เช่นไม้จิ้มฟัน ดีที่สุด เขี่ยเกสรตัวผู้ออกมา ห้ามใช้คีมเหล็กปลายแหลมนะครับ อยากรู้ว่าทำไมถึงห้าม ก็ลองใช้ดูเองครับแล้วจะรู้.....





(17) จากรูป 16 จากนี้ก็เอาเกสรตัวผู้ แตะลงที่ปากมดลูกของตัวเมียเบา ๆ ครับ

..ตรงปากมดลูกจะมีน้ำต้อยเหนียว ๆ อยู่ เบา ๆ มือนะครับ เพราะถ้าเกสรตัวผู้แตะที่ปลายรังไข่ ก็จะแตะถูกน้ำต้อยเหนียว ๆ เกิดอาการ ฮิตาชิ แตะปุ๊บติดปั๊บ ไม่มีทางแกะออกได้ เหนียวจริง ๆ แบบเดียวกับเสียงที่รถไอติมมันร้อง....อมแล้วดูด ....

ถ้าใช้เกสรตัวผู้จากต้นเดียวกัน หรือเวลาผึ้งหรือแมลงมาดูดน้ำหวาน เกสรตัวผู้ก็จะหลุดติดขาผึ้งออกมา เกิดการผสมขึ้น เรียกว่าเป็นการผสมตัวเอง ลูกที่ออกมา จะมีลักษณะด้อย มากกว่าลักษณะเด่น..

..ส่วนมากจะผสมข้ามต้น นอกจากว่า คุณมีกล้วยไม้อยู่ต้นเดียว ก็ต้องผสมตัวเอง ก็เป็นธรรมดาที่ต้องทำใจ เพราะลูกออกมา จะ แอ๊ปแบ๊ว เพี้ยนจากพ่อแม่…..แต่มีคนทำนะครับ

คือชั่ว F1 ออกมามันมีเพี้ยนบ้างไม่เพี้ยนบ้าง ....เค้าก็เลือกเอา F1 –ของคู่ผสมที่ 1 กับ F1 ของคุ๋ผสมที่ 2 เอามาผสมกัน ลูกที่ออกมาคือ F2

เค้าก็ทำแบบนี้ จนประมาณ F4 หรือ F5 ลูกที่ออกมาก็จะกลายเป็น กล้วยไม้แคระ....ต้นเล็กนิดเดียว ออกดอกซะแล้ว...ขายแพงอีกด้วยเพราะคนนิยมเอาไปเป็นไม้ประดับตามโต๊ะทำงาน ดีกว่า ทนกว่า สวยกว่า ดอกไม้กำ





(18 ) ก็ทำง่าย ๆ แบบชาวบ้าน ๆ แค่นี้ จากนี้ก็ รอ
ถ้าผสมไม่ติด ดอกก็จะร่วงโรยรา
ถ้าผสมติด ตรงที่ลูกศรชี้ คือรังไข่ ก็จะอูมออกมา แล้วก็จะกลายเป็นฝักในรูป 19





(19) .ปกติฝักกล้วยไม้สกุลช้างอายุประมาณ 12 เดือน ฝักถึงจะแก่ ในรูปนี้ อายุฝักประมาณ 9 เดือน หมดหน้าฝนคงตัดไปเพาะฝักอ่อนได้แล้ว....และเพื่อที่ เดือนมกรา จะได้ดูดอกช้างอีกครั้ง

....อย่าปล่อยให้ฝักแก่จนแตกนะครับ
ผมเสียดายตอนที่ป้าห่านส่งกล้วยไม้ช้างไปให้ผม มีฝักติดไปด้วย แต่ว่าฝักมันแก่เกินแกง แถม อบ ไปในกล่อง ฝักแตก เมล็ดร่วงหล่นเกลื่อนไปหมด ผมพยายามเก็บจากฝักที่แตกน้อยที่สุด เอาไปที่ LAB ไม่นานนัก เค้าออกมาบอกว่า Sorry เสียใจ เชื้อราเต็มไปหมด...เค้ารู้ได้ยังไง...ที่ LAB เค้ามีกล้องจุลทัศน์ครับ

ถ้าเป็นแบบนั้น เพาะไม่ได้แล้ว เชื้อราเข้า แล้วกล้วยไม้ป่าเกิดได้อย่างไร เกิดแบบนี้แหละครับ ต้นไหนที่รอดแสดงว่า เมล็ดรอดจากถูกเชื้อราทำลาย ดังนั้น กล้วยไม้ที่เกิดเองตามธรรมชาติ จึงเกิดได้น้อยมาก

ปัจจุบันนานมาแล้ว เค้ามีวิธีการเพาะฝักอ่อน อายุประมาณ 8 เดือนขึ้น ก็ย่นเวลาไปได้อีกสองสามเดือน
ทำไมไม่เอากล้วยไม้สกุลช้าง หรือกล้วยไม้ต้นดี ๆ ไปปั่นตา จะได้ปริมาณมาก ๆ คนบ้าสุด ๆ เค้าจึงจะทำแบบนั้น ผมบ้าไม่พอครับ คุณจะนั่งดูดอกช้าง หรือกล้วยไม้ต้นสวย ๆ ต้นเดียวเหมือนกันกันทั้งสวนหรือครับ การปั่นตาเค้าจะทำกับกล้วยไม้ตัดดอกเท่านั้นแหละ

ผมไม่ใช่นักวิชาการ ทำอะไร ชอบทำง่าย ๆ แบบชาวบ้าน ๆ อย่าไปทำอะไรให้ยุ่งยาก วิชาการใช้เป็นแนวทาง แต่ปฎิบัติการเป็นอีกเรื่องหนึ่ง วิชาการบอกมา ว่าทำยังงี้ ๆๆๆ บางทีทำตามที่บอกแล้วมันทำไม่ได้ ต้องเลี้ยวไปทางโน้น อ้อมมาทางนี้ถึงจะทำได้





(20) ของเล่นอันใหม่ มีด ผ่า – ตัด เอนกประสงค์ คมกริ๊บ ลับกับหินลับมีดโกนได้ พับเก็บได้ ผมกับคุณชมภู ได้รับเป็นอภินันทนาการจาก ไอ้ตู่...

...เล่มละเท่าไหร่วะ...
...ของมีคม มันจะบาดใจ .เอามาคนละบาทเดียวทิด..คุณชมภูด้วย

กำเอิน กำเสี่ย Thank you ตะบลือ(ขอบคุณ-ภาษากะเหรี่ยง) ขอบคุณหลายเด๊อ ก็เลยไม่รู้ราคาจริง ๆ ...




.

[Wildcat]

.
.

สวัสดีครับลุง น้าทิดแดง พี่ตู่ คุณชมภู คุณออร์คิด ป้าห่าน และเพื่อน ๆ


ขอบคุณครับที่นำรูปและวิธีการผสมพันธุ์กล้วยไม้มาให้ดู.....
แค่อ่านผ่าน ๆ ขอไปทำงานไปก่อน ตอนเย็นกลับมาค่อยดูใหม่....

พี่ตู่ กับคุณชมภู ออฟไซด์ไปก่อนเลยนะครับ ได้เห็นของจริงและลงมือทำเองด้วย.....



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม...คุณแคท คุณชมภู คุณออร์คิด ป้าห่าน ไอ้ตู่ และ ฯลฯ เพื่อนสมาชิก


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน ลิงป้าห่าน ไร้น้ำยา ผสมไม่ติด


5.2.2 – (1) ฟ้าหลังฝน


น้อง ๆ งานยุ่งกระมังครับ หายเงียบ ๆ กันไป ..... คุณชมภู กับไอ้ตู่ ตั้งแต่เจอกันวันก่อน ที่ไอ้ตู่เมาน้ำข้าวหมากแล้วก็เงียบไปเหมือนกัน


จะบอกว่า เอื้องดอกมะขาม หรือเอื้องข้าวเหนียวลิงของป้าห่าน ผสมกับหวายคิง ไม่ติดฝักซะแล้ว..



ไม่รู้ว่า นาค ให้น้ำกี่ตัว....ในนี้มีสองตัว












เรื่องของเรื่องคือ
..พอดีว่าฝนมันตกตั้งแต่เย็นวันที่ 3, มาตอนเช้า และเย็นวันที่ 4 พย. ฝนตกได้น้ำซะไม่มี ได้เป็น ห่า ละมั๊ง...

เดี๋ยวจะว่าผมพูดไม่สุภาพอีก....คนรุ่นใหม่ รู้จักกันมั๊ย.... คำว่า ห่า เป็นการวัดปริมาณน้ำฝนของคนโบราณ .....น่าเอาไปออกข้อสอบ โอเน็ต ดีกว่าคำถาม แอ๊บแบ๊ว บ้า ๆ บอ ๆ ไม่ได้เรื่องได้ราว

ฝนตก 1 ห่า หรือน้ำฝน 1 ห่า ปริมาณน้ำมากแค่ไหนรู้กันบ้างหรือเปล่า....ปริมาณน้ำฝน 1 ห่า คือ เอาบาตรพระขนาดกลางที่พระใช้บิณฑบาต ปากบาตรกว้าง 8 นิ้ว ไปตั้งไว้กลางแจ้ง ถ้าน้ำฝนตกลงมาเต็มบาตรพระ 1 บาตรเมื่อไหร่ นั่นคือปริมาณน้ำฝนเท่ากับ 1 ห่า...กว่าน้ำฝนจะตกเต็มบาตร มากขนาดไหนคิดเอาเอง (ถ้าเป็นบาตรเณร กว้าง 7 นิ้ว ถ้าบาตรพระธุดงค์กว้าง 9 – 10 นิ้ว ทำไมถึงใหญ่ขนาดนั้น....เอาไว้ใส่ผ้าไตรได้ 1 ชุด กับของจุกจิกอีกนิดหน่อย ซิบอกให่..)

กล้วยไม้ฟ้าหลังฝนมันเป็นยังไง....ไปดู รากกล้วยไม้หลังฝน กันครับ......





(1)



(2)



(3)




(4) รูปนี้เป็นรากกล้วยไม้ของคุณ Boonsue ที่ฝากเลี้ยงครับ



(5)

(1 – 5) รากกล้วยไม้ เมื่ออยู่ในสภาพปกติ ปลายรากที่สมบูรณ์จะอยู่ในลักษณะแห้ง แต่ต้องสดใสพร้อมที่จะดูดสารอาหารและน้ำแบบในรูป 1 – 6 นี้ครับ

ถ้าเป็นปลายรากแบบ กุด ๆ ไม่มีสีเขียวอ่อนสดใส การดูดสารอาหาร จะกระทำได้ด้วยการ ดูดซึม หรือที่เรียกว่า Osmosis ผ่านเส้นรากที่แก่ แต่จะสู้การดูดซึมจากปลายรากอ่อน ๆ ไม่ได้ ....สาวรุ่น กับ สาวแก่ ใครดีกว่ากันครับ





(6)



(7)



(8 )



(9)



(10)



(11)



(12)



(13)



(14)



(15)



(16)



(17)

(6 – 17) เมื่อได้รับน้ำ ยิ่งได้รับน้ำฝน รากจะบวมออกเพื่อดูดน้ำ หรือสารอาหาร ให้สังเกตปลายรากที่โดนน้ำจะมีเมือกคล้ายวุ้น ซึ่งจะเป็นตัวดูดซับสารอาหารเข้าสู่ลำต้น..รากต้นไม้อื่น ๆ ที่อยู่ในดินก็จะเป็นลักษณะนี้เช่นกัน...

.รอหน่อย ผมจะขุดรากกล้วยขึ้นมาให้ดูปลายรากว่ามันเป็นยังไง ขออภัยที่ผมไม่ใช่นักวิชาการ ก็อธิบายได้แค่นี้ ให้ดูจากรูปเพื่อเปรียบเทียบนะครับ....เลี้ยงกล้วยไม้ ต้องพยายามทำให้ปลายรากใส ปิ๊ง แบบนี้นะครับ เพราะจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า กล้วยไม้ของคุณ สมบูรณ์แข็งแรงหรือไม่...




(18 )



(19)

(18 – 19) ทุกส่วนของพืช สามารถดูดซึมน้ำเข้าสู่ลำต้นได้ครับ แต่จะผ่านเข้าได้มากที่สุดก็ทางราก และทางปากใบ




(20)



(21)

(20 – 21) ขาวสดใสหลังฝน.....หลังจากนี้ก็ได้เวลา พ่นยากันเชื้อรา...พ่นแล้วผ่านไปซัก 1 ชั่วโมง ก็พอลุ้น.....

....ถ้าฝนตกกลางคืนแล้วหยุดตกล่ะ จะพ่นยาเชื้อราตอนไหน ....
...พ่นตอนเช้ามืดครับ....ถึงผมจะบ้า แต่ก็ไม่บ้าพอที่จะพ่นยากันเชื้อรากลางดึกหรอกครับ กลัวนางไม้จะ งาบ เอาไปทำพันธุ์....






(22) เป็นแมงมุมกินแมลงชนิดหนึ่งครับ....เข้าใกล้ได้แค่นี้ครับ ตัวเล็กนิดเดียวแต่กัดปวดน่าดู...


เนื่องจากถ่ายรูปตอนเย็น หลังฝนตก อากาศเลยมืดมัวไปหน่อย การถ่ายรูประยะใกล้ ถ้าใช้ แฟลช รูปจะขาวเว่อร์ ดูไม่เป็นธรรมชาติ


ปล. คุณชมภู อ่านหลังไมค์ครับ...


.

[Chompoo]

สวสัดีครับคุณลุง น้าทิดแดง พี่ตู่ คุณออร์คิด ป้าห่าน คุณแคท


แก้ไขให้แล้วครับ ตั้งแต่เจอกันวันที่ 19 (วันที่พี่ตู่เมาน้ำข้าวหมาก 555)แล้วงานเข้า ต้องหอบงานมาทำบ้านด้วย ได้แต่เปิดเข้ามาอ่าน ไม่มีเวลาคุยเลยครับ

รูปรากกล้วยไม้พองหรือบวมเมื่อโดนน้ำ พร้อมคำอธิบาย แจ่มชัดเจนดีจังเลบครับ แล้วก็รูปพญานาคให้น้ำ ฝนตกเป็นห่า ขำกลิ้งเลย เข้าใจหารูปมาประกอบมุขจริง ๆ แล้วเวลาที่น้าทิด กับพี่ตู่คุยกัน เป็นเรื่องที่คนฟังนั่งขำ แต่มีสาระ รับมุข ส่งมุขกันสนุกจริง ๆ ผมได้ความรู้แปลก ๆ อีกแยะเลย

ทำให้เข้าใจได้เลยว่า ทำไมพวกพี่ ๆ ในกลุ่มน้าทิดมีใครบ้างล่ะที่น้าทิดกับพี่ตู้พูดถึง มีพี่หนูหริ่ง พี่หนาน ? ลืมชื่อ พี่ทิดบัติ ..ถ้าเข้า เซท กัน คงคุยสนุกกว่านี้..มองเห็นชัดเลยว่า การที่น้าทิดกับพี่ ๆ คุยกัน ใช้คำว่า เอ็ง ข้า มึง กู มันสนิทแน่นแฟ้นกันแค่ไหน

..ฟังที่เล่าถึงเรื่องที่น้าทิดและพี่ ๆ ไปศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอนชนิดครบทีมแล้ว....สนุกกว่าที่น้าทิดเขียนในเว็ป.....เพราะมีบางเรื่องที่น้าทิดบอกว่า มีหลายเรื่องที่แม้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องตัดออก เขียนลงไปไม่ได้ แล้วบางเรื่องถ้าเล่าเฉย ๆ ก็ไม่สนุก ต้องมี Action ประกอบด้วย....เสียดายที่คุณออร์คิท ไม่ได้มาร่วมฟังด้วย

ขอแค่นี้ก่อน ต้องเตรียมตัวไปทำงานแล้ว...

..ขอบคุณน้าทิด ที่แบ่ง ไข่เต่า ที่พี่ตู่เอามาฝากน้าทิดให้ผม ทีนี้แหละ ถ้าเจอไข่เต่าที่ไหน ไม่เหลือแน่ ๆ เคยเจอแถวบ้านผมมีแยะด้วย

และขอบคุณพี่ตู่ที่ให้สูตร น้าข้าวหมากเกินอายุผสมเบียร์ มันมีรสชาดที่อร่อยสุด ๆ เบียร์ก็ไม่ใช่ กระแช่ก็ไม่เชิง .มันนุ่ม.. ผมว่าถ้าค่อย ๆ จิบไปเรื่อย ๆ คงไม่ฟุบแบบพี่ตู่.อิอิ..แต่ก็ไม่แน่เพียงแค่นึกก็เมาซะแล้ว..

สุดท้ายก็ขอขอบคุณเจ๊รอง สำหรับข้าวปลาอาหารหวานคาว ยำไข่เต่า ต้มยำพุงปลา ถั่วพูหั่นชุบไข่ทอด(เพิ่งเคยกินเป็นครั้งแรก) น้ำฟักข้าว+เสาวรส อาหารพื้น ๆ ธรรมดา ๆ แต่อร่อยมากครับ

..โอกาสหน้านัดเจอกันใหม่นะครับ





.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม...ป้าห่าน คุณแคท คุณชมภู คุณออร์คิด และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ

กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน ลิงป้าห่าน ไร้น้ำยา ผสมไม่ติด

5.2.2 – (2) หวายคิง x เอื้องข้าวเหนียวลิง ....ผสมไม่ติด


เนื่องจาก ระยะนี้ ใกล้จะสิ้นปี.. น้อง ๆ ...คุณแคท คุณชมภู คุณออร์คิด และ อีกหลายคนส่งข่าวมาว่า ไม่ค่อยว่าง แต่ละคนมีงานเร่งด่วนที่ต้องทำ....เรื่องราวกระทู้ต่าง ๆ ในเว็ปลุงคิม ก็เลยต้องขาด ๆ หาย ๆ ไปด้วย

ผมเองก็เดินสาย นครปฐม – บางใหญ่ – คลองสาน ...ร่ำ ๆ ว่า ลูกสาวจะลากให้ขึ้นไปช่วยที่ปายอีกรอบ...

และเมื่อ..เจ้าของไม่ค่อยอยู่บ้าน....ต้นหมากรากไม้ทั้งรอบ ๆ บ้านและในสวนก็พลอยหงอยเหงาไปด้วย

ตามที่ผมเคยบอกไว้ว่า
การผสมพันธุ์กล้วยไม้ หวายคิง กับ เอื้องดอกมะขามหรือเอื้องข้าวเหนียวลิง จะผสมติดหรือไม่ ตอบไม่ได้ครับ...
.เพราะทั้งสองชนิด เป็นกล้วยไม้สกุลหวายด้วยกันก็จริง แต่มันอยู่คนละกลุ่ม (Species) เหมือนจับ ไก่ มาผสมกับ นก คงผสมกันไม่ได้นั่นแลฯ....

มา ณ วันนี้(หลายวันมาแล้ว) จะบอกว่า เอื้องดอกมะขาม หรือเอื้องข้าวเหนียวลิงของป้าห่าน ผสมกับหวายคิง ของผมไม่ติดฝักซะแล้ว..ไปดูกันครับ...





(1) หวายคิง ต้นที่ใช้ทำแม่พันธุ์....





(2) เอื้องข้าวเหนียวลิง ของป้าห่าน ที่ใช้ทำพ่อพันธุ์




(3)



(4)

(3 – 4) หลังจากผสมได้สองสามวัน กะเปาะรังไข่ ก็ดูว่า อูม ๆ บวมออกมา





(5) ในระยะเวลาประมาณไม่เกิน 7 วัน กรณีที่ผสมไม่ติด ดอกจะเหี่ยวลงแบบนี้ครับ
จากนี้ดอกก็จะหลุดร่วงไป





(6) รูปนี้เป็น Chart หรือ Diagram แสดงการทดลองผสมพันธุ์ของ เมนเดล หลักการอันนี้ใช้ในการผสมพันธุ์มนุษย์ สัตว์ และพืช ใช้ได้หมดครับ

แต่ ในรูปนี้เป็นแค่ตัวอย่างการผสมพันธุ์ที่เกิดจาก ยีนส์ คู่เดียวครับ

....ในความเป็นจริงแล้ว ยีนส์ ของ มนุษย์ สัตว์ และพืช มีเป็นหมื่นเป็นแสนล้านคู่ ดังนั้นเมื่อผสมออกมาแล้ว ผลที่ได้จะดี หรือ เลว ...คงจะเป็นไปตามพุทธพจน์ที่ว่า.....สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม.....

เมื่อผสมไม่ติด ผมก็ทดลองหาคู่ผสมใหม่....ทำดูเล่น ๆ ไม่เห็นจะเป็นอะไร.....





(7) พอดีว่า มีหวายฟอร์มใหญ่ ที่กำลังบานพร้อมกับหวายคิงอยู่หลายต้น ..ผมก็เลยจะลองเอาต้นนี้...เป็นแม่พันธุ์ ต้นนี้มีชื่อว่า ชมพูนครินทร์ น้อง ๆ เคยเห็น เคยได้ยินชื่อมั๊ยครับ สีชมพู หวานแหว๋ว.....สวย แต่ไม่หมวยอึ๋ม....

กล้วยไม้หวายพันธุ์ "ชมพูนครินทร์" เป็นชื่อที่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประทานนามให้

ดอกมีสีโอรส (สีขาว อมชมพู อมส้ม) ปากดอกสีชมพูแดง สวยงามและบานคงทน

กล้วยไม้หวาย พันธุ์ “ชมพูนครินทร์” ( Dendrobium “Pink Nagarindra” ) เป็นกล้วยไม้ลูกผสมระหว่างต้นพ่อพันธุ์ “บลัชชิ่ง” (Dendrobium Blushing) และต้นเม่พันธุ์ “เอริก้า” (Dendrobium “Arica”) โดยนายสวง คุ้มวิเชียร (แอร์ออร์คิด& แล็บ) เป็นผู้พัฒนาพันธุ์

ให้ดอกครั้งแรกเดือนกุมภาพันธุ์ 2546 และได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์





(8 ) หวายคิง (Dendrobium superbiens) ตามตำราของอาจารย์ ท่านบอกว่า

หวายคิง (Dendrobium superbiens) เป็นลูกผสมเกิดในธรรมชาติระหว่างหวายฟาเลนอปซิส กับ หวายดิสคัลเลอร์

ดอกมีขนาดกึ่งกลางระหว่างพ่อแม่ ฟอร์มดอกไม่กลมนัก สีดอกมีสีแดงทับทิม ฤดูกาลออกดอก ยาวขึ้นรวมทั้งอายุการปักแจกันยาว สามารถปลูกตัดดอกได้ แต่ดอกมีขนาดเล็ก ไม่สวยเด่นนัก

จากลักษณะของหวายคิง ชี้ให้เห็นว่าลักษณะขนาดดอกและฤดูกาลออกดอกป็นลักษณะที่ถ่ายทอดทางปริมาณ (quantitative inheritance) ซึ่งถูกควบคุมโดยยีน (gene) หลายคู่ ส่วนลักษณะสีดอกจะเห็นได้ว่าสีม่วงข่มสีเหลืองอมน้ำตาล แสดงว่าเป็นลักษณะที่ถ่ายทอดทางคุณภาพ (qualitative inheritance) ซึ่งถูกควบคุมโดยยีน ไม่กี่คู่

ซึ่งได้ตั้งชื่อในปี ค.ศ. 1929(พศ. 2475 – ปีนี้ 2557 - 82 ปีมาแล้ว) โดยบริษัทกล้วยไม้ในประเทศฝรั่งเศส

สำหรับรายละเอียดของแต่ละพันธุ์มีดังนี้

หวายฟาเลนอปซิส (Dendrobium phalaenopsis Fitzg.)

หวายฟาเลนอปซิส (Dendrobium phalaenopsis Fitzg.) เป็นกล้วยไม้ป่าที่มีถิ่นกำเนิดแถบรัฐควีนแลนด์ประเทศออสเตรเลีย ให้ช่อดอกยาวได้ถึง 50 ซม. สีดอกมีตั้งแต่ม่วงเข้มจนถึงม่วงอ่อนและสีขาว ฟอร์มดอก ค่อนข้างกลมมีกลีบเลี้ยง (sepal) และกลีบดอก (petal) กว้าง ช่อดอกสวยสะดุดตา แต่อายุการปักแจกันสั้นไม่เหมาะสมเป็นไม้ตัดดอก ออกดอกในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม

หวายดิสคัลเลอร์ (Dendrobium discolor Lindl.) เป็นกล้วยไม้ป่าที่มีถิ่นกำเนิดทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลียและในหมู่เกาะปาปัวนิวกินี ช่อดอกมีขนาดยาวตั้งแต่ 20 ถึง 60 ซม. และมีดอกประมาณ 30-40 ดอก เส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 3-8 ซม.

สีดอกมีสีเหลืองปนสีน้ำตาล กลีบเลี้ยงและกลีบดอกยาวประมาณ 2.5-3.5 ซม. บิดเป็นเกลียว ช่อดอกไม่สวยสะดุดตา และกลีบดอกแคบ แต่มีข้อดีคือ อายุการปัก แจกันยาว ออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม

ตามประวัติบอกว่า หวายคิง เป็น ปู่ ของหวาย มาดาม ปอมปาดัวร์ กล้วยไม้ตัดดอกยอดฮิตเมื่อสมัย สาม สี่ สิบปีก่อนนู๊น กล่าวคือ

หวายฟาเลนอปซิส x หวายคิง ออกมาเป็น หวายหลุยส์แบเรียโอท์
หวายหลุยส์แบเรียโอท์ x หวายฟาเลนอปซิส ออกมาเป็น หวายมาดาม ปอมปาดัวร์

ซึ่งได้ตั้งชื่อในปี ค.ศ. 1934 โดยบริษัทกล้วยไม้ของฝรั่งเศส




(9)



(10)

(9 – 10) ตามความคิดเห็นของผม โดยหลักพันธุกรรม... ถ้าผมจะเอาหวาย ชมพูนครินทร์(รูปที่ 7) ผสมกับหวายคิง(รูปที่ 8 )

สีดอกของลูกผสมที่ออกมา ถ้าไม่เป็นสี แดงอมม่วงในรูปที่ 9 ก็อาจเป็นแดงอมชมพู ในรูปที่ 10

เพราะสายเลือดสีแดงทับทิม ของหวายคิง แรง เข้มข้นยิ่งนัก ...กล้วยไม้สีแดงมีให้เห็นดาดดื่นมากแล้ว..

..เปลี่ยนคู่ผสมใหม่จะดีกว่า........ลองทำดูเล่น ๆ ซัก สองดอก...





(11) ดอกหนึ่ง.....ก็คงจะใช้ ชมพูนครินทร์ เป็นแม่พันธุ์





(12) และผมจะใช้ ขาวสนาน เป็นพ่อพันธุ์.....




(13)



(14)



(15)

(13 – 15) สิ่งที่มุ่งหวังคือ ลูกผสมที่ออกมา ถ้าเป็นไปตามหลักของ เมนเดล.....

จำนวน 50 – 70 % อาจจะเป็นตามในรูปที่ 15 – 17
แต่ส่วนหนึ่ง(15 – 20%) อาจจะเหมือน ชมพูนครินทร์ และ
อีกส่วนหนึ่ง(15 – 20 %) อาจจะมีดอกสีขาวล้วนแซมมา ...
และอีกจำนวนหนึ่ง.....ดอกออกมา ห่วยแตก ไม่เอาไหน.....





(16 ) อีกดอกหนึ่ง.....ก็คงจะใช้ ชมพูนครินทร์ เป็นแม่พันธุ์เช่นกัน





(17) และจะใช้ ไวโอเล็ต สตาร์ ...ไม้ No Name เป็นพ่อพันธุ์




(18 )



(19)

(18 - 19) ลูกผสมที่ออกมา ...คาดเดาว่า ถ้าไม่ใกล้เคียงรูปที่ 18 ก็รูปที่ 19....




(20)



(21)



(22)

(20 - 22) หลังจากผสมผ่านไปได้ 18 วัน ผลที่ออกมา มีฝักติด 2 ฝักแบบนี้ครับ....จากนี้ก็ร้องเพลง รอ...

ฝักกล้วยไม้สกุลหวาย ไม่ต้องรอให้ฝักแก่ (8 - 10 เดือน)สามารถเพาะฝักอ่อนได้ เมื่อฝักมีอายุประมาณ 3 - 4 เดือนขึ้นไป


เรื่องต่อไปที่จะนำเสนอ....

นวัตกรรมด้านพันธุ์และการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้


.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม...ป้าห่าน คุณแคท คุณชมภู คุณออร์คิด และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน ศัตรูตัวร้าย ภัยเงียบ คืนเดียวโกร๋น


5.2.2 – (3) ใบอ่อน รากอ่อน แค่คืนเดียวถูกกินเรียบ



ระยะใกล้สิ้นปี น้อง ๆ ...คุณแคท คุณชมภู คุณออร์คิด ส่งข่าวบอกว่า ที่เงียบหายไป เพราะทุกคน มีงานเต็มมือ ไม่ค่อยว่าง

….ผมเองก็เดินสายตลอด...ถ้าไปบางใหญ่ ไม่มีคอมฯ มีแต่มือถือ ผมก็ทำงานไม่ถนัด โดยเฉพาะเวลาพิมพ์...ไม่สะดวกเลย....คงต้องยกคอมไปไว้ซักตัว...ตอนกลางคืนจะได้มีเวลาพูดคุยในเว็ปได้........

ว่าจะนำเสนอเรื่อง.....นวัตกรรมด้านพันธุ์และการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้

บังเอิญ รากอ่อน และยอดอ่อน ของกล้วยไม้ และต้นไม้ ของผมบางต้น โดนศัตรูตัวร้าย ภัยเงียบเข้าทำลาย คิดไม่ถึงว่า คืนเดียว รากหาย ใบกุด.. โกร๋นเป็นแถบ

...เลยจะขอนำเรื่องนี้มาแนะนำก่อน.... เพื่อที่ว่า เพื่อน ๆ ได้เข้ามาอ่าน จะได้หาทางป้องกันไว้ก่อน.....ไปดูกันว่า ศัตรูตัวร้าย ภัยเงียบ คืออะไร ..




(1)



(2)

(1 – 2) เจ้าตัวนี่แหละครับ....ตัวร้าย ภัยเงียบ มันมาเงียบ แล้วก็กัดกินแบบเงียบ ๆ จริง ๆ.....





(3) (มึงแหลก)เพลินเลยนะเพื่อน.....ผมนั่งดูมันกินใบไม้ ไม่ถึง 5 นาที เป็นรูได้ขนาดนี้
แล้วถ้ามีให้มันกินทั้งวัน ทั้งคตืนล่ะ ...จะขนาดไหน




(4)



(5)



(6)

(4 – 6) รอยที่มันเดิน ต้องถ่ายย้อนแสงนิด ๆ ถึงจะเห็น....ผมจับมาปล่อยให้มันเดิน
ไม่ได้นั่งเฝ้านะครับ ตั้งเวลาเอาไว้ ....ชั่วโมงกว่า ๆ ที่มันเดิน รอย วกไปเวียนมา
วัดระยะทางคร่าว ๆ ได้เกือบ 20 เมตร...แล้วก็ ตัวมันหายไปไหนไม่รู้ หาไม่เจอครับ......





(7)



(8 )



(9)

(7 – 9) ไปดูรอยของมันใกล้ ๆ กันครับ....รอยที่มันเดินจะเป็น จุด ๆ แต่ละรอยจะมีเมือก
เมื่อเมือกนี้แห้ง จะมีลักษณะเป็นเสมือน แผ่นฟิล์มบาง ๆ เคลือบตรงรอยนี้
หลังจากที่มันเดินผ่านไปได้ประมาณ 1 ฟุต รอยเคลือบนี้จะแห้งติดคลุมหน้าวัสดุที่มันเดินผ่าน
มีสีขาวขุ่นเป็นเงาวาว ๆ คล้ายสีมุก




(10)



(11)

(10 – 11) กล้วยไม้ต้นนี้ อุทิศเพื่อเธอ....กำลังแตกใบอ่อน ปลายรากสดใส กำลังงาม .....
โดนกินซะปลายรากกุด ใบโกร๋น เห้ยนเตียน





(12) ต้นที่มันเข้าทำลาย เวลามันเดินผ่านไป มันก็จะปล่อยเมือก(รอยตีน)ไว้ที่วัสดุที่มันผ่าน
ทำให้เหมือนมีแผ่นฟิล์มเคลือบบริเวณนั้นเอาไว้ และน่าจะมีสารบางอย่าง เพราะวันต่อ ๆ มา
ใบจะเริ่มเหลือง ต้นจะค่อยโทรมลง




(13)



(14)

(13 – 14) ใบอ่อนของฤาษีผสม และใบอ่อนของต้นจิก....โดนมันกัดกินซะแหว่ง.....

ก่อนที่จะมาเป็นหอยตัวใหญ่ขนาดนี้ มันก็มาจากหอยตัวเล็ก ๆ

ที่ผมเคยเห็นในวัสดุกาบมะพร้าวที่ใช้ปลูกกล้วยไม้ จะเป็นหอยลักษณะนี้แหละ
ตัวโตประมาณ 2 – 5 มิลลิเมตร และเคยใช้ เบียร์ ผสมน้ำฉีดพ่น มันก็จะหายไประยะหนึ่ง
แล้วก็จะมีมาอีก….หอยพวกนี้ จะมีมาในระยะปลายฝนต้นหนาวนี่แหละครับ


บางสวนกล้วยไม้เค้าจะใช้ปราบหอยด้วย...ยาที่มีชื่อสามัญว่า มาลาไธอ้อน...
ฉีดพ่น แต่กลิ่นมันจะเหม็นตลบอบอวน เวียนหัวไปหลายวัน...

..แค่เอาเบียร์ฉีดพ่นก็จะเมาแย่แล้ว.....หอยกรึ๊บ คนฉีดกรึ๊บ..

.ถ้าเอาน้ำข้าวหมากผสมด้วยละก็ คงเมาหัวทิ่มแบบ ไอ้ตู่...เป็นแน่แท้
(วันนั้น คุณชมภู กลับไปเมาต่อที่บ้านหรือเปล่าไม่รู้ ไม่ได้ติดตามถามข่าว)



@ คุณชมภู ...หลังไมค์ครับ



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... คุณชมภู ป้าห่าน คุณแคท คุณออร์คิด และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ

กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน จะถูกจะแพง ขอให้แดงไว้ก่อน

5.5.1 – (1) ว่าด้วยดอกสีแดง




ตามที่บอกว่า ระยะใกล้สิ้นปี น้อง ๆ ..ทุกคน มีงานเต็มมือ ไม่ค่อยว่าง ….ผมเองก็ไม่อยู่ติดที่ เดินสายตลอด..


ว่าจะนำเสนอเรื่อง.....นวัตกรรมด้านพันธุ์และการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้


บังเอิญ ข้อมูล ขอลาป่วย....เกิดการขัดข้องทางเทคนิค....พูดไปก็กลายเป็นการแก้ตัว......เอาเป็นว่า ดูรูปกล้วยไม่ที่ทั้งสวย และไม่สวยไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ





(1)



(2)



(3)



(4)

(1 - 4) เป็นสกุลกล้วยไม้ดิน สามารถเป็นกล้วยไม้ส่งออกได้ เช่นเดียวกับกล้วยไม้สกุล ม้าวิ่ง และสกุล นางอั้วครับ




(5)



(6)



(7)



(8 )



(9)

(5 - 9) เป็นกล้วยไม้สกุลแคทลียา ที่มีดอกโทนสีแดงครับ




(10)



(11)



(12)



(13)

(10 - 13) เป็นกล้วยไม้สกุลแคทลียา ที่มีดอกโทน ม่วงสีแดงครับ



@ คุณชมภู ...หลังไมค์ครับ


.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... คุณชมภู คุณออร์คิด ป้าห่าน คุณแคท และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน นวัตกรรมด้านพันธุ์และการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้


5.2.2 – 2 (4) พูดแบบภาษาชาวบ้าน คือ การผสมพันธุ์กล้วยไม้ให้ดีขึ้น


ลุงคิมบอกว่า คนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ..ตัวใครก็ตัวมัน เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ครับ...

...........แต่ถ้าใครอยากรู้หลักเกณฑ์ วิธีการในการผสมพันธุ์กล้วยไม้ เพื่อให้ได้ลูกผสมที่ดีขึ้น. ควรอ่านบทความต่อไปนี้ และต้องอ่าน มิฉะนั้นคุณจะไม่รู้เรื่อง...

รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม เพื่อเป็นประสบการณ์..... ถ้ารู้แล้วเผยแพร่ ก็เป็นวิทยาทาน แต่รู้แล้วเก็บไว้กับตัว....คุณก็ มืดบอดอยู่คนเดียวก็แล้วกัน……



หลังจากผมเอากล้วยไม้ของป้าห่านมาผสมกับกล้วยไม้ของผมแล้วมันไม่ติดฝัก.....ผมก็เลยผสมใหม่ ใช้ต้นที่กำลังออกดอก 2 ต้น จับมาผสมกัน.....มันก็ติดฝัก





1) ด้วยรักและผูกพัน..... รูปนี้ดูเข้าท่าดี แต่ เขียนผิดสูตรไปหน่อยครับ..

..ต้องเอา วงกลม ขีดลงมา มีแขนกางออกสองข้าง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ แทน ตัวเมีย....ไว้ข้างหน้า..แล้วจึงเอา วงกลม มีลูกศรขีดทแยงไปทางขวา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ แทน ตัวผู้ ไว้ข้างหลัง....

.....ถ้าเขียนแบบในรูป หมายความว่า .....พี่ไม่ต้อง น้องทำเอง..ถ้าใช้กับคน....อีนี่ทำได้น่ะนายจ๋า.....แต่ใช้กับพืชและสัตว์ มันทำไม่ได้ครับ.....คุณจะเอาเกสรตัวเมีย หรืออวัยวะเพศเมีย ไปไล่จิ้มกับเกสรตัวผู้ได้ยังไง




(2)



(3)

(2 – 3) หลังจากที่ผมเคยลงรูปฝักกล้วยไม้สองฝักนี้ในข้อ 5.2.2 (2) ไปแล้วนั้น...มาถึงวันที่ 24-11-57 ฝักมันก็โตขึ้น กลีบดอกก็เริ่มแห้งลง.....




(4)



(5)

(4 – 5) มาถึงวันที่ 6-12-57 ฝักก็โตขึ้นอีกหน่อย...กลีบดอกก็แห้งลงไปอีก...รอไปอีกประมาณ 4 เดือนคงเอาเข้าห้องแลป เพาะฝักอ่อนได้แล้ว.....จะมีเมล็ดหรือไม่มี ต้องลุ้นกันหน่อย.....




(6)



(7)



(8 )



(9)

(6 – 9) ถ้ามีแต่เนื้อเรื่อง ไม่มีรูปให้ดู...มันรู้สึกเซ็ง ๆ ..ยิ่งเป็นเรื่องวิชาการด้วยแล้ว อ่านได้สามสี่บรรทัด ก็ง่วงแล้วครับ

ดูรูปสวย ๆ กันหน่อยดีกว่า จะดูเล่นเพื่อคลายเครียด....หรือจะ Copy เอาไปเป็น Wall Paper ประดับหน้าจอก็ได้ รับรองว่า สวย....





(10) นี่ไงครับ ผมเอาจาก 1 ใน 4 มาเป็น Wall Paper หน้าจอเครื่องคอมของผม


นวัตกรรมด้านพันธุ์และการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้

โดยรองศาสตราจารย์ ดร. ครรชิต ธรรมศิริ
ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนพระรามที่ 6 เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 E-mail: scktr@mahidol.ac.th

(ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ อาจารย์)


กล้วยไม้ในธรรมชาติหรือกล้วยไม้ป่า มีความหลากหลายสวยงามในด้านรูปทรง โดยเฉพาะดอกที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตในแต่ละภูมิภาคของโลก

มนุษย์มีความสนใจในการสร้างพันธุ์กล้วยไม้ให้ แปลกจากธรรมชาติ เพื่อการประกวดและการค้า โดยการผสมข้ามสกุล ชนิดและพันธุ์ ทำให้ได้พันธุ์ใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก

ต้นกล้วยไม้จะมีราคาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ การปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้จะต้องดำเนินต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากกล้วยไม้เป็นผลิตผลสำเร็จรูป ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย และควรมีพันธุ์หลายๆพันธุ์ที่มีความแตกต่าง กว้างขวางเพียงพอ เพื่อตอบสนองตลาดในสังคมต่างๆที่มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ในเรื่องของรสนิยมและค่านิยม

ความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้เหมือนกับพืชอื่นๆ ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยหลัก 3 ประการได้แก่

• ความรู้เกี่ยวกับการผสมเกสรและการถ่ายทอดลักษณะต่างๆ เช่น รูปทรง ขนาดดอกและช่อดอกรวมทั้งฤดูกาลออกดอก ลูกผสมส่วนใหญ่จะมีลักษณะอยู่ระหว่างต้นแม่และต้นพ่อ
สำหรับสีดอก สีชมพู หรือสีม่วงแดง จะข่มสีขาว....
ดอก สีขาวจะข่มสีเหลือง และ
ดอก สีชมพู หรือสีม่วงแดงจะข่มสีเหลือง
• ความคุ้นเคยและรู้นิสัยการเจริญเติบโต กล้วยไม้แต่ละชนิดต้องการการปลูกเลี้ยงดูแลให้เจริญเติบโตและออกดอกที่แตกต่างกัน ผู้ที่คุ้นเคยและมีประสบการณ์กับกล้วยไม้ชนิดนั้นจะสามารถปลูก เลี้ยงได้จนครบวงจรชีวิต ซึ่งมีความสำคัญมากในการสร้างพันธุ์ใหม่

• โชคหรือดวง ต้นลูกผสมเกิดจากการรวมตัวของเซลล์สืบพันธุ์จากต้นแม่และต้นพ่อ จึงขึ้นอยู่กับโอกาส ถ้าคัดเลือกต้นแม่และต้นพ่อที่ให้ลูกผสมที่มีลักษณะดีและปลูกต้นลูกผสมจำนวนมาก ก็มีโอกาสสูง ที่จะได้ลูกผสมที่มีลักษณะดี เหมาะสมที่จะปลูกเลี้ยงเป็นพันธุ์การค้าต่อไป


• การปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้ทำได้หลายวิธี เช่น การคัดเลือกต้นมาผสมเกสร การฉายรังสี การทำให้กลายพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและพันธุวิศวกรรม

• แต่วิธีที่ใช้กันแพร่หลาย ค่าใช้จ่ายต่ำ และได้ผลดีคือการผสมเกสร เนื่องจากกล้วยไม้เป็นพืชผสมข้าม (open-pollinated crop) โดยธรรมชาติ จึงมักไม่ได้เป็น พันธุ์แท้ มีวงชีวิตประมาณ 3-5 ปี การสร้างพันธุ์ใหม่จึงใช้เวลานานแต่สามารถขยายพันธุ์โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อได้ดี

ดังนั้นวิธีการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้ที่เหมาะสมที่สุดคือ การคัดเลือกต้นพ่อแม่พันธุ์โดยพิจารณาจากลักษณะต่างๆ และมีประวัติว่าให้ลูกที่ดี แล้วนำมาผสมเกสร จากนั้นจึงคัดเลือกต้นลูกผสมที่มีลักษณะ เหมาะสมตามวัตถุประสงค์ เช่น เป็นไม้ตัดดอกหรือไม้กระถาง แล้วจึงทำการขยายพันธุ์ต้นลูกผสมที่ได้คัดเลือกไว้โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อปลูกเป็นพันธุ์การค้าต่อไป

องค์ประกอบสำคัญในการประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้
การประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้นั้น ควรจะมีองค์ประกอบสำคัญดังต่อไปนี้
• มีใจรักและสนใจกล้วยไม้
• มีเวลาให้พอสมควร
• เลือกประเภทและสกุลกล้วยไม้ที่สนใจ
• กำหนดเป้าหมายที่แน่นอน เช่น เพื่อปลูกตัดดอก เพื่อปลูกขายต้น หรือเพื่อดูเล่นและประกวด
• เลือกต้นที่มีลักษณะตามต้องการใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ มักเน้นความสวยงาม
• สอบถามผู้รู้และหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ว่าพันธุ์ใดให้ลูกที่ดี

ข้อควรรู้ในการผสมเกสร

1. กลุ่มแวนด้าและกลุ่มแคทลียาผสมข้ามสกุลในแต่ละกลุ่มได้อย่างกว้างขวาง
2. ขนาดและรูปทรงของต้น ใบและดอก จะมีลักษณะโดยรวมเฉลี่ยจากต้นแม่และต้นพ่อ
• ส่วนสีดอกนั้น สีม่วงแดงจะข่มสีอ่อนกว่าและสีขาว ... สีขาวจะข่มสีเหลือง
3. ควรผสมเกสรมากกว่า 1 ดอก ในแต่ละคู่ผสม และควรผสมสลับพ่อแม่
4. ควรผสมเกสรดอกที่เพิ่งบานเต็มที่ และมีตำแหน่งอยู่ที่ส่วนโคนก้านดอก
• ติดป้ายชื่อ (ชื่อต้นแม่ x ชื่อต้นพ่อ และวันเดือนปี ที่ผสมเกสร) คล้องไว้ที่ก้านดอกต้นแม่ที่ผสมเกสร
• เก็บผล (ฝัก) เมื่อปลายผลเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือผลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
• จดบันทึกรายละเอียดของผลและให้เบอร์คู่ผสมลงในสมุดบันทึก
• นำผลไปเพาะเมล็ดลงบนอาหารสูตรที่เหมาะสมในสภาพปลอดเชื้อ
• หลังจากต้นและรากเจริญเติบโตในขวดเป็นอย่างดีแล้ว นำต้นออกจากขวดแล้วปลูกในโรงเรือนที่มีความชื้นสูงและความเข้มแสงไม่มากนัก
• เมื่อต้นโตขึ้น ย้ายปลูกให้ได้รับแสงแดดเพิ่มขึ้นเป็น 30-40 %
• บันทึกการเจริญเติบโตจนกระทั่งออกดอกและคัดเลือกต้นที่มีลักษณะตามต้องการ เพื่อขยายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (ปั่นตา) และปลูกเป็นการค้าต่อไป


ขั้นตอนการปฏิบัติในการผลิตกล้วยไม้ตัดดอก ของกรมวิชาการเกษตร

ขั้นตอนการปลูกและการปฏิบัติดูแลรักษากล้วยไม้ ตัดดอกสกุลหวาย

การเตรียมต้นพันธุ์
• เลือกพันธุ์ที่ตลาดต้องการ
• ใช้ต้นพันธุ์ปลอดโรคที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

การอนุบาลหรือชำตะเกียงในโรงเรือน
• อนุบาลต้นอ่อนที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
• ชำตะเกียงที่ได้จากกล้วยไม้แปลงเก่า

การปลูกในโรงเรือน
• ปลูกต้นพันธุ์บนกระบะอัดกาบมะพร้าว 4 ต้นต่อกระบะ
• ปลูกกล้วยไม้ที่ได้จากการแยกลำ / ชำตะเกียง

การให้ปุ๋ย
• ให้ปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโตของกล้วยไม้
• พ่นปุ๋ยทุก 7 วัน
• ช่วงเปลี่ยนฤดูต้องเพิ่มอัตราปุ๋ยเพื่อลดการฝ่อของดอก

การให้น้ำ
• ต้องตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ
• ให้น้ำในช่วงเช้า

การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
• โรคที่สำคัญ (โรคปื้นเหลือง)
• แมลงศัตรู (เพลี้ยไฟ/บั่วกล้วย/หนอนกระทู้ผัก/ไร)
1 สำรวจแปลงปลูกทุกสัปดาห์
2 เก็บใบ ต้นเป็นโรคออกจากแปลง
3 พ่นสารป้องกันกำจัดเมื่อพบการระบาด

การป้องกันกำจัดวัชพืช
• กำจัดวัชพืชบนแปลงปลูกด้วยแรงงาน ก่อนวัชพืชออกดอก ทุก 20 วัน

การเก็บเกี่ยวดอก
• ตัดดอกในช่วงเช้า
• ระยะตัดดอกที่เหมาะสม คือ ดอกบานไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของช่อดอก
• ทำความสะอาดกรรไกรหรือมีดด้วยแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้งก่อนและหลังการใช้งาน
• นำช่อดอกมาคัดเกรดตามขนาดที่บริษัทกำหนด
• เก็บช่อดอกกล้วยไม้ในภาชนะที่สะอาดและวางไว้ในที่ร่มเพื่อรอรถบริษัทมารับ

กล้วยไม้สกุลหวายตัดดอกจะให้ดอกตลอดปี มีช่วงให้ดอกมากในระหว่าง สิงหาคมถึงมีนาคม และมีดอกน้อยในระหว่าง เมษายนถึงกรกฎาคม
การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้สกุลหวาย จะได้ดอกดังนี้
• ปีที่ 1 จะได้ดอก 2-3 ช่อต่อต้น แต่จะเป็นดอกช่อสั้น
• ปีที่ 2 - 4 จะให้หน่อ 2 ล่า ได้ดอกประมาณ 5 – 6 ช่อต่อลำ ดังนั้นจะได้ดอก 10-12 ช่อต่อต้น ต่อปี
• ปีที่ 5 หากปฏิบัติดีและเหมาะสม จะได้เช่นเดียวกันกับปีที่ 2 – 4



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... คุณชมภู คุณออร์คิด ป้าห่าน คุณแคท และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน กล้วยไม้ไม่น่าสนใจ แต่ส่งออกได้


5.2.2–(5) การผลิต กล้วยไม้สกุล ม้าวิ่ง และนางอั้ว ในเชิงการค้า

ใครที่สนใจคิดว่าจะปลูกเพื่อการค้าหรือส่งออก ลองอ่านดูนะครับ




(1)



(2)



(3)
(1 - 3) กล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง แดงอุบล หรือม้าบิน


ขั้นตอนการปฏิบัติในการผลิตกล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง ในเชิงการค้า
ของกรมวิชาการเกษตร


เทคนิคการผลิตกล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง (DORITIS SPP.)
กล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง (Doritis) เป็นกล้วยไม้กึ่งดิน ลักษณะต้นสั้นช่อดอกแข็งยาวตรง ช่อดอกมีดอก ๘ – ๒๐ ในประเทศไทยสำรวจพบ ๑ ชนิด ๓ พันธุ์ คือ

ม้าวิ่ง Doritis pulcherrima Lindl.
แดงอุบล Dorits pulcherrima var. buyssoniana และ
ม้าบิน Doritis pulcherrima var. choompornensis

ขนาดดอกของม้าวิ่งมีขนาดเล็กที่สุด ม้าบินและแดงอุบลมีขนาดดอกใหญ่ขึ้นตามลำดับ เป็นกล้วยไม้ไทยที่มีศักยภาพในการส่งออกเป็นไม้กระถางเช่นเดียวกับกล้วยไม้สกุลฟาแลนน็อบซิส

ปัจจุบันกล้วยไม้ทั้ง ๓ พันธุ์ สามารถขยายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อได้แล้ว ซึ่งต้นที่ได้จะมีการเจริญเติบโตที่ต่างกันอย่างชัดเจน โดยพบว่า ม้าวิ่งและม้าบินจะสามารถมีดอกได้หลังปลูก ๒ – ๓ ปี แต่ในกล้วยไม้แดงอุบลจะเริ่มออกดอกใน ๔ - ๕ ปี

การปลูกกล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง
• กล้วยไม้สกุลม้าวิ่งมีใบตลอดปี เว้นแต่ช่วงแล้งจัดหากขาดน้ำจะทิ้งใบทั้งหมด (เดือนมีนาคม-เมษายน)
• ในช่วงเดือน พฤษภาคม จะเริ่มแทงช่อดอก
• ดอกจะเริ่มบานในเดือน มิถุนายน – กันยายน


แผนการทำงานในโรงเรือนกล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง

ขั้นตอนการปลูกม้าวิ่ง
• การแยกต้น เมื่อกล้วยไม้ม้าวิ่งหลังออกดอก ต้นจะเริ่มแตกกอและต้นหลักจะยืดมีรากแตกใหม่สามารถแยกปลูกได้
• การเตรียมวัสดุปลูก ใช้วัสดุปลูกที่ประกอบด้วย ปุ๋ยหมักถ่านหยาบ หรืออิฐหัก อัตรา ๑ : ๑
• ขนาดกระถาง กล้วยไม้ม้าวิ่ง และม้าบินใช้กระถางขนาด ๔ – ๖ นิ้ว กล้วยไม้แดงอุบล ใช้กระถางขนาดไม่น้อยกว่า ๖ นิ้วขึ้นไป (ตามขนาดหัว)
• การให้แสง การปลูกในโรงเรือนพรางแสง ๕๐ % โดยมีหลังคากันฝน และวางบนโต๊ะเพียงป้องกันโรคและศัตรูมารบกวน


การใส่ปุ๋ย
การใส่ปุ๋ยแบ่งเป็น ๒ ช่วงคือ
• ช่วงที่ ๑ ต้นอ่อนถึงเริ่มแทงช่อดอกใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่มีปริมาณไนโตเจนสูง เช่น ๓๐-๒๐-๑๐ อัตรา ๒๐ กรัม ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
• ช่วงที่ ๒ เริ่มแทงช่อดอก ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรปริมาณฟอสฟอรัสสูง เช่น ๑๓-๕๒-๑๗ อัตรา ๒๐ กรัมต่อน้ำ ๒๐ ลิตร


การจัดการโรค-แมลง
กล้วยไม้ม้าวิ่งรากอากาศ ที่ขึ้นบนดิน มีความทนต่อโรค และแมลงมากกว่าเป็น กล้วยดิน มีโรคที่สำคัญ ดังนี้
• โรคเน่าดำ หรือโรคยอดเน่า หรือโรค เน่าเข้าไส้ (Black rot) เกิดจากเชื้อรา Phytophthora palmivora (Butl) Butl. มีการจัดการที่เหมาะสมดังนี้
• ควรปลูกกล้วยไม้สกุลม้าวิ่งภายใต้ โรงเรือนที่หลังคาพลาสติกกันฝน
• เวลารดน้ำ ระวังไม่ให้ขังบนใบเป็นเวลานาน
• เมื่อใบเริ่มมีจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลเข้ม ให้ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อราดังกล่าว ทุก ๓-๕ วัน ติดต่อกัน ๒ -๓ ครั้ง
• หากมีต้นที่มีอาการจุดสีดำขนาดใหญ่ หรือต้นเหี่ยวอย่างรวดเร็วให้แยกต้นออก จากพื้นที่ หรือทำลายทิ้งทันที


การจัดการแมลงที่เหมาะสม ดังนี้
เพลี้ยไฟ เป็นศัตรูที่สำคัญที่สุดของกล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง เป็นศัตรูจำพวกปากดูดมีขนาดเล็กมาก มักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มทางด้านใต้ใบ ต้นที่ถูกทำลายจะมี ลักษณะแคระแกรน ช่อดอกมักจะฝ่อแห้งตามลำต้น และใบจะมีจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ ก ร ะ จ า ย ทั่ว


มีการจัดการ ที่เหมาะสมดังนี้
• เมื่ออากาศร้อนชื้นให้ระบายอากาศในโรงเรือนให้โปร่ง เย็นสบาย
• ไม่ควรวางต้นกล้วยไม้ให้ชิดกันเกินไปจนใบติดกัน
• เมื่อใบ ต้น ช่อดอก เริ่มมีจุดเล็กๆสีน้ำตาล ให้ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟทันทีทุก ๓-๕ วัน ติดต่อกัน ๒-๓ ครั้ง


การจัดการเก็บเกี่ยวผลผลิต
• งานที่ต้องทำ ควรจำหน่วยเมื่อกล้วยไม้สกุลม้าวิ่งมีดอกตูมขนาดใหญ่ ถึงเริ่มบาน ๕๐ %


.-----------------------------------.




(4)



(5)



(6)
(4 - 6) กล้วยไม้สกุล นางอั้ว.....


ขั้นตอนการปฏิบัติในการผลิตกล้วยไม้สกุลนางอั้วในเชิงการค้า
ของกรมวิชาการเกษตร


เทคนิคการผลิตกล้วยไม้สกุลนางอั้ว (PECTIELIS SPP.)
กล้วยไม้สกุลนางอั้ว เป็นกล้วยไม้ดิน มีดอกสวยงาม มักมีหัวฝังในดินหรือบริเวณใกล้ผิวดินในช่วงแล้ง เมื่อเข้าฤดูฝนจะออก ในประเทศไทยพบเพียง 3 ชนิด คือ
1. นางอั้วสาคริก (Pecteilis hawkesiana (King & Pantl.) C.S. Kumar )
2. เอื้องตีนกบ (Pecteilis susannae (L.) Rafin ) และ
3. Pecteilis henryi Schlechter เหมาะจะพัฒนาเป็นไม้กระถางเช่นเดียวกับทิวลิป


การปลูกกล้วยไม้สกุลนางอั้ว
• กล้วยไม้สกุลนางอั้วเป็นกล้วยไม้ดินที่มีการพักตัวในฤดูแล้ง
• เมื่อพ้นการพันตัวแล้วจะแทงยอดอ่อนให้ย้ายปลูก
• เดือนพฤษภาคม จะเริ่มงอก
• เดือนกรกฎาคม จะเริ่มแทงช่อดอก
• ดอกจะเริ่มบานในเดือน มิถุนายน – สิงหาคม
• หลังเดือนกันยายน กล้วยไม้นางอั้ว เริ่มพักตัว โดยต้นจะเหลืองและแห้งลงในที่สุด
• หลังต้นพักต้นให้เก็บหัวพันธุ์ ทำความสะอาด และเก็บไว้ในทรายชื้น
• ไม่ควรเก็บไว้ในที่อุณหภูมิต่ำ จะทำให้หัวพันธุ์เสียหายได้



แผนการทำงานในโรงเรือนกล้วยไม้สกุลนางอั้ว ขั้นตอนการปลูกนางอั้ว
• การปลูกหัวพันธุ์
• เมื่อกล้วยไม้นางอั้วพ้นการพักตัวจะเริ่มงอกต้นอ่อน
• การเตรียมวัสดุปลูก ใช้วัสดุปลูกที่ประกอบด้วย ทราย ปุ๋ยหมัก ถ่านหยาบ หรืออิฐหัก อัตรา ๑ : ๑ : ๑
• ขนาดกระถาง กล้วยไม้นางอั้ว สาคริก ใช้กระถางขนาด ๖ นิ้ว
กล้วยไม้เอื้องตีนกบ ใช้กระถางขนาดไม่น้อยกว่า ๖ นิ้วขึ้นไป (ตามขนาดหัว)
• การให้แสง การปลูกในโรงเรือนพรางแสง ๕๐ % โดยมีหลังคากันฝน และวางบนโต๊ะเพียงป้องกันโรคและศัตรูมารบกวน


การใส่ปุ๋ย
• การใส่ปุ๋ยแบ่งเป็น ๒ ช่วงคือ
ช่วงที่ ๑ ต้นอ่อนถึงเริ่มแทงช่อดอกใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่มีปริมาณไนโตเจนสูง เช่น ๓๐-๒๐-๑๐ อัตรา ๒๐ กรัมต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
ช่วงที่ ๒ เริ่มแทงช่อดอกใช้ ปุ๋ยเคมีสูตรปริมาณฟอสฟอรัสสูง เช่น ๑๓-๕๒-๑๗ อัตรา ๒๐ กรัม ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร


การจัดการโรค-แมลง
ในธรรมชาติของกล้วยไม้สกุลนางอั้ว มีวงจรการเจริญเติบโตเพียง ๕ – ๖ เดือน โดยจะเริ่มแทงยอดในเดือนพฤษภาคม- มิถุนายน ออกดอกใน เดือนสิงหาคม และเริ่มพักตัวในเดือนตุลาคม ทาให้วงจรการเจริญเติบโตทั้งหมดเกิดขึ้นในฤดูฝน มีโรค และแมลงศัตรูที่สำคัญ ดังนี้

โรคเน่าดา หรือโรคยอดเน่า หรือโรคเน่าเข้าไส้ (Black rot) เกิดจากเชื้อราPhytophthora palmivora (Butl) Butl. มีการจัดการที่เหมาะสมดังนี้
• ควรปลูกกล้วยไม้สกุลนางอั้ว ภายใต้โรงเรือนที่หลังคาพลาสติกกันฝน
• เวลารดน้ำ ระวังไม่ให้ขังบนใบเป็นเวลานาน
• เมื่อใบเริ่มมีจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลเข้ม ให้ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อราดังกล่าวทุก ๓-๕ วัน ติดต่อกัน ๒ -๓ ครั้ง
• หากมีต้นที่มีอาการจุดสีดำขนาดใหญ่ หรือต้นเหี่ยวอย่างรวดเร็วให้แยกต้นออกจากพื้นที่ หรือทำลายทิ้งทันที



การจัดการแมลงที่เหมาะสม ดังนี้
• ไรแมงมุมแดงกล้วยไม้ เป็น ศัตรูที่สำคัญที่สุดของกล้วยไม้ เป็นศัตรูจำพวกปากดูดมีขนาดเล็กมาก แต่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเป็นจุดสีแดงเล็กๆ เคลื่อนไหวได้ ไรแดงมีสี ต่างๆ เช่น สีแดง สีเหลืองอมเขียว สีเหลืองและส้ม รูปร่างค่อนข้างกลม มักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มทางด้านใต้ใบ

ต้นที่ถูกทำลายจะมีลักษณะแคระแกรน ช่อดอก มักจะฝ่อ แห้ง ตามลำต้น และใบจะมีจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ กระจายทั่ว

มีการจัดการที่เหมาะสมดังนี้
• เมื่ออากาศร้อน ชื้น ให้ระบายอากาศในโรงเรือนให้โปร่ง เย็นสบาย
• ไม่ควรวางต้นกล้วยไม้ให้ชิดกันเกินไป จนใบติดกัน
• เมื่อใบและต้นเริ่มมีจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาล ให้ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดไรแมงมุมแดงทันที ทุก ๓-๕ วัน ติดต่อกัน ๒ -๓ ครั้ง


การจัดการเก็บเกี่ยวผลผลิต
ควรจำหน่วยเมื่อกล้วยไม้นางอั้วดอกตูมขนาดใหญ่ ถึงเริ่มบาน ๕๐ %
ดอกกล้วยไม้สกุลนางอั้วจะบานได้ ๒๐ - ๓๐ วัน แล้วแต่ความสมบูรณ์ของดอก


บทความเรื่อง นางอั้ว ของท่าน อจ.ระพีสาคริก
https://www.facebook.com/permalink.php?id=461091197241853&story_fbid=759899907360979


ที่มาของ นางอั้ว - สาคริก
http://web3.dnp.go.th/botany/detail.aspx?words=%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%A7&typeword=group



@ คุณชมภู หลังไมค์ครับ

.

[Chompoo]

สวัสดีครับคุณลุง....น้าทิดแดง พี่ตู่


คุณลุง แข็งแรง สบายดีแล้วนะครับ เพราะเสียงเจื้อยแจ้วทางรายการวิทยุเหมือนเดิม

ผมไม่ได้เข้ามาหลายวัน งานมาจากไหนไม่รู้ ทำไม่ทัน...

เรื่องกล้วยไม้ก็ได้แต่ ดู ๆ อ่าน ผ่าน ๆ ไปก่อน เลยปีใหม่ไปแล้วคงได้พักบ้างละครับ ค่อยว่ากันใหม่....

พี่ตู่โทรมาหาบอกว่า พรุ่งนี้(13 ธค.) จะแวะไปหาเจ๊รองที่บางใหญ่....และผมเปิดมาอ่านเจอในกระทู้ 3223 เรื่องมะเขือพวง....น้าทิดบอกว่า วันที่ 13 จะไปบางใหญ่เหมือนกัน....ไม่แน่ใจว่า พี่ตู่จะรู้หรือเปล่าว่าน้าทิดจะไปที่บางใหญ่พรุ่งนี้

ยังไง ๆ พรุ่งนี้เจอกันนะครับ


ขอบคุณครับ.


.

[toodtoo]

สวัสดีครับลุง...พี่ทิดแดง คุณชมภู

มาดึกไปหน่อย เตรียมของขึ้นรถเพิ่งเสร็จ

ลุงสบายดีนะครับ.....ระยะนี้ เจอเรื่องแปลก ๆ มาตามลมตามแล้งลองของอยู่เรื่อย ๆ ...ตกม้าตายตั้งแต่ยังไม่ออกรบครับ.....

พรุ่งนี้เจอกันครับคุณชมภู ไม่ก่อนเที่ยงก็หลังเที่ยง ทนหิวกันนี๊ดนึง....นะครับ


ขอบคุณครับ

.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... คุณชมภู ป้าห่าน คุณแคท คุณออร์คิด และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน ชมพูหวานแหว๋ว


5.5.1 – (3) ว่าด้วยดอกสีชมพู..สีวันอังคาร


ยังไม่มีสมาธิที่จะเขียน เพราะไม่ค่อยจะว่าง..

......เอาเป็นว่า ดูรูปกล้วยไม้สีชมพู ไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ





(1)



(2)



(3)



(4)



(5)



(6)



(7)



(8 )



(9)



(10)



(11)



(12)



(13)



(14)



(15)


.




.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... คุณชมภู ป้าห่าน คุณแคท คุณออร์คิด และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน สีแสด สุดแสบ


5.5.1 – (3) ว่าด้วยดอกสีแสด



...... ดูรูปกล้วยไม้สีแสด สีประจำวันพฤหัสบดี ไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ





(1)



(2)



(3)



(4)



(5)



(6)



@ คุณชมภู ..ขอบคุณครับ

.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... คุณชมภู ....คุณออร์คิด.... คุณแคท และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน วันจันทร์ สีเหลืองสดใส

5.5.1 – (4) ว่าด้วยดอกสีเหลืองสดใส


น้อง ๆ (คุณชม ภู....คุณออร์คิด....คุณแคท)....ส่งข่าวมาว่า ยังไม่มีเวลาว่างพอจะเข้ามาคุย..... ผมก็เหมือนกันว่ะ....ยังไม่ว่างจะเขียน......ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า มันมีงานอะไรกันนักกันหนา....แต่มันก็เป็นงานที่ต้องทำ ...


ขอต้อนรับวันจันทร์อันสดใสด้วยดอกแคทลียาสีเหลืองครับ





(1)



(2)



(3)



(4)



(5)



(6)



(7)



(8 )



(9)



@ คุณชมภูครับ


.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... คุณชมภู ....คุณออร์คิด.... คุณแคท และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน ชมพูแสบสันวันอังคาร


5.5.1 – (2.1) ว่าด้วยดอกสีชมพู



ระยะนี้ ดูรูปไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ

ขอต้อนรับวันอังคารที่แสบสัน ด้วยดอกฟาแลนอปซีส สีชมพูเข้มครับ





(1)




(2)




(3)




(4)




(5)




(6)




(7)




(8 )



ขอบคุณ คุณ ชมภู ...ไม่มีเวลาคุย.....
.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... คุณชมภู ....คุณออร์คิด.... คุณแคท และ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน ดอกสีเขียว สัญญลักษณ์วันพุธ


5.5.1 – (3.0) ดอกสีเขียว...สีแห่งความสงบ ..ชุ่มเย็น



ขอต้อนรับวันพุธ ด้วยดอกกล้วยไม้สีเขียวครับ

... ดอกกล้วยไม้สีเขียว มีด้วยเหรอ.....

...มีครับ...ไม่ได้เขียวปี๋เหมือนเขียวใบไม้ แต่เป็นโทนสีเขียวตองอ่อน....จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ ไม่ชอบสีนี้ .....แต่ สวิสเซอร์แลนด์ และแถบสแกนดิเนเวีย เมืองคนรักสงบ ชอบมั่ก ๆ ....เค้าบอกว่า มันดูสงบ ชุ่มเย็น.....ไปดูกันครับ....






(1)



(2)



(3)



(4)




(5)



(6)



(7)



(8 )




(9)





@ คุณชมภู ครับ


.

[Chompoo]

.
.

สวัสดีครับคุณลุง น้าทิดแดง พี่ตู่ คุณออร์คิด คุณแคท และเพื่อนสมาชิก


ผมกำลังจะเข้าบ้าน ได้รับข้อความจากน้าทิดสั้น ๆ ....เหมือนเดิม ไอ้น้อง....

ยังไม่ได้เปลี่ยนชุด เปิดคอมขึ้นมาดูก่อนเลย....ทุกครั้งก็แค่ดู และตื่นตากับดอกกล้วยไม้สีแปลก ๆ น้าทิดเล่นสีตามวันเลยนะครับ.....ผมกำลังนึกอยู่ว่า พอถึงวันพุธ น้าทิดจะเอาดอกอะไรมาลงแทนกล้วยไม้......

พอเปิดมาเจอ......ว๊าวววว ดอกกล้วยไม้สีเขียวก็มีด้วยว่ะเฮ๊ย....ขออนุญาต Print เอาไปอวดเพื่อน ๆ นะครับ ...ใช้ทำ ส.ค.ส. น่าจะได้......

ขอแค่นี้ก่อนนะครับ.....และแก้ไขให้แล้วครับ......




.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... คุณ Boonsue ป้าห่าน ไอ้ตู่ คุณชมภู คุณออร์คิด คุณแคทและ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ

กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น ตอน ช้างสาวจากพิจิตร ออกดอกแล้ว


บทที่ 5 ตอน 3.2 ..26 ธค.57 ช้าง ? จากพิจิตร ออกดอก






(1) เมื่อวันที่ 4 มิย.57 ...6 เดือนเศษผ่านมาแล้ว ผมได้รับอนุเคราะห์จากคุณ Boonsue เป็นกล้วยไม้จากพิจิตร...1 กล่อง....มีกล้วยไม้ป่าหลากหลาย.....มี กล้วยไม้สกุล ช้าง ติดมาด้วย




(2)




(3)

(2 - 3) จากวันนั้น ถึงวันนี้ ผมเฝ้าทนุถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูกล้วยไม้ชุดนี้มาด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดี..แบบว่า ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ปล่อยเทวดาดูแลบ้าง เพราะต้องเดินสาย นครปฐม – บางใหญ่ – เจริญนคร....วน ๆ เวียน ๆ อยู่แค่นี้


บังเอิญคุณ Boonsue เข้าไปอ่านกระทู้ 4755 ว่าด้วย เกษตร IT ผมจึงได้บอกข่าวดีไปในกระทู้นั้น

แต่เนื่องจากผม ไม่มีกระทู้เรื่องกล้วยไม้ของตัวเอง อาศัยเป็นกาฝาก เรื่องกล้วยไม้ ในกระทู้ของคุณชม ภู . และบอกไว้ว่า ........คอยติดตามข้อมูลในกระทู้ 4563 ของคุณ Chompoo .เดี๋ยวจะหาว่า ให้มาแล้วทำลืม....ข่าวดีที่ผมบอกคุณ Boonsue (ณ วันที่ 26 ธค.57) คือ

..ช้างพิจิตร แทงช่อดอกออกมาแล้วแล้วคร่า ตัวเอง....เท่าที่เห็น มี 2 ช่อ ยังจะมีอีกรึเปล่าไม่รู้...... ลุ้นซะตัวโก่ง.....นึกว่าจะไม่ออกซะแล้ว......




(4)



(5)

(4 – 5) ส่วนช้างอุดรของป้าห่าน....ยังเล่นตัว ทำเฉยอยู่..ไม่มีวี่แววว่าจะมีช่อดอก โผล่ออกมาให้เห็น

คงจะเป็นเพราะ โทรม ตอนที่ส่งมาในกล่อง.. .แต่ว่า....ปลายรากสดใส ปิ๊ง ดีจัง ความจริงช่วงหน้าหนาว ปลายรากกล้วยไม้ส่วนมากจะกุด
คงเนื่องมาจาก... ธาตุรอง / ธาตุเสริม / ธาตุแซม เป็นแน่แท้ทีเดียวเจียว....... แต่ก็ยังเชื่อว่า ยังไง ๆ คงต้องออกแน่ ๆ ไม่ปีนี้ก็ปีหน้า.....





(6)



(7)



(8 )



(9)



(10)

(6 – 10) ทั้งช้างกระ ช้างประหลาด ช้างพลาย ออกดอกให้เห็นเป็นแถว.....และมีฝักที่ผสมเอาไว้ ยังไม่แก่ก็หลายต้น





(11) ช้างแดงก็มีดอกออกมาให้เห็น




(12)



(13)

(12 – 13) ช้างแดง 2 ต้นนี้รอลุ้นดอก... แยกหน่อจาก ต้นในรูป 11




(14)



(15)



(16)



(17)

(14 – 17) ช้างแดง ลูกผสม ในกระถางเจี๊ยบ อีกเมื่อไหร่จะได้ดูดอก.....





(18 ) ผมไร้ฝีมือ.....เป็นกล้วยไม้ที่ทดลองปลูกในปากขวดโค๊ก..ตั้งแต่วันที่ 25 เมย.57 ...8 เดือนมาแล้ว ยังอยู่แค่นี้แหละ.....ไม่ตาย แต่ก็ไม่โต.....เก็บไว้ดูเล่นครับ




(19)



(20)



(21)

(19 - 21) เป็นกล้วยไม้ทดลองในกระถางเบอร์ 5 ปลูกเมื่อวันที่ 25 เมย.57 เหมือนกัน แต่ออกดอกมา 3 – 4 ช่อแล้ว แตกหน่อใหม่ ชูใบอันแข็งแกร่งเบ่งรับแสงแดดให้เห็น เขียวมันระยับ






(22) หวายตัดดอก เอียสกุล ธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาเพราะสีเข้ม จัดจ้าน





(23) หวายตัดดอกสีชมพูต้นใหม่ ที่จะเข้ามาเป็น คู่ขนาน กับหวายเอียสกุล




@ คุณชมภู ....ขอบคุณ ที่เข้ามาแก้ไข Heading ตั้งแต่เรื่องยังไม่ได้ลง..มี Line ติดต่อก็สดวกดีเหมือนกันเนาะ

...อย่าลืมวันที่ 2 เรามีนัดเจอกันในงาน วันคนบ้า ..อย่าลืมชวน ผบ.ทบ. มาด้วย......คงจะพร้อมหน้า มี ไอ้ตู่ ไอ้หริ่ง หนานปัน คุณออร์คิด(บอกว่าจะหิ้ว กระแช่ บางกระเจ้า พระประแดงมาด้วย)

คงขาดทิดบัติ ส่งข่าวมาเมื่อเช้าบอกว่า บังเอิญ พี่เมียเกิดมาล้มตายหายจาก และขาดคุณ แคท ที่ติดงานของชุมชน.....



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม... ป้าห่าน คุณ Boonsue ไอ้ตู่ คุณชมภู คุณออร์คิด คุณแคทและ เพื่อนสมาชิก ฯลฯ


กล้วยไม้สำหรับผู้เริ่มต้น - ช้างอุดรของป้าห่าน...ออกดอกแล้วเหมือนกัน





(1) เมื่อวันที่ 29 พค.57 ..7 เดือนล่วงมาแล้ว ผมได้รับกล้วยไม้จากป้าห่าน – ซาอุดร 1 กล่อง มีกล้วยไม้ไทยหลากหลาย.....มีกล้วยไม้ ช้าง ติดมาด้วย





(2) เนื่องจาก ผมเห็นจากในรูป ป้าห่านชอบปลูกกล้วยไม้แบบธรรมชาติ คือเอาผูกมัดติดกับต้นไม้....ผมก็ทำเลียนแบบป้าห่านโดยเอา กล้วยไม้ช้างของป้าห่าน มัดติดกับต้นไม้




(3)



(4)

(3 – 4) เนื่องจากกล้วยไม้ป้าห่าน ค่อนข้างจะบอบช้ำจากการเดินทาง ใช้เวลาในการฟื้นตัวช้าหน่อย ผลสุดท้ายก็ แตกรากออกมาให้เห็น




(5)



(6)

(5 – 6) เวลาผ่านมา 7 เดือน วันที่ 29 ธค.57 ช้างอุดร ของป้าห่านก็ออกดอกมาให้เห็น





(7) ขนาดกำลังออกดอก แต่ปลายรากยังใสปิ๊ง....แสดงว่า ต้นแข็งแรง ไม่ธรรมดา ซึ่งปกติ กล้วยไม้สกุลช้าง เวลาออกดอก ปลายรากจะกุด ไม่สดในแบบนี้ ...


บอกได้ว่า กล้วยไม้สกุลช้าง จากพิจิตร จากอุดร ซึ่งหน้าหนาว อากาศจะหนาวเย็น สามารถมาปลูกและออกดอกได้ที่ นครปฐม ซึ่งหน้าหนาว อากาศจะเย็นน้อยกว่า พิจิตรและอุดร....


ผมขอขอบคุณป้าห่าน แลคุณบุญซื่อ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาส ศึกษา และ ลุ้นกล้วยไม้ที่เคยอยู่ในเขตอากาศหนาวเย็นสองต้นนี้ มาออกดอกได้ที่นครปฐมซึ่งอากาศ อบอุ่นกว่า


และขอขอบคุณ ...ไบโออิ ไทเป ยูเรก้า และ T/E ซึ่งผมใช้ทั้งสามสูตร มาดัดแปลงส่วนผสม เพิ่ม เสริม เติม ตัด....เติมไอ้โน่นนิด ไอ้นี่หน่อย ลุ้นจนทำให้กล้วยไม้สกุลช้างออกดอก โดยต้นไม่โทรม(รากไม่กุด)

ต่อจากนี้ก็รอดูผลว่า สีสันจะเป็นอย่างไร แต่ปีนี้ ช่อดอกคงไม่ยาว เพราะการกระทบกระเทือนจากการขนส่ง....ซึ่ง ช้างของทั้งป้าห่านและคุณบุญซื่อ ช่อดอกยาวประมาณ 12 นิ้ว(ดูจากช่อดอกเก่าที่แห้งติดต้นไป)




(8 )



(9)

(8 – 9) เนื่องจากเข้าหน้าหนาว ใบกล้วยไม้ เอื้องข้าวเหนียวลิงของป้าห่านจึงเหลืองทิ้งใบ แม้จะเหี่ยวเฉา แต่ก็ดูสวยเหมือนเจ้าของ(ดูให้เป็น ศิลป์ นะคร๊าบบบ...)





(10)



(11)

(10 – 11) 22 ธค.57 ป้าห่านอุตส่าห์ ส่งกล้วยไม่ป่าให้ผมอีก 1 กล่อง ....ผมขอน้อมรับด้วยความยินดี.....แต่ว่า ป้าเล่นส่งให้ผมหน้าหนาว...ซึ่งเป็นเวลาที่กล้วยไม้มันนอนหลับ หยุดการเจริญเติบโต และกำลังจะแตกตาดอกซะด้วย....ผมคงต้องลุ้นกันตัวโก่งละครับงานนี้.....

อย่างไรก็ตาม ผมยังทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้ ทำได้แต่เพียง เก็บไว้ในที่ร่ม ให้ความชื้นนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น รอให้น้อง ๆ เค้าตื่นก่อน ก็คงจะกลาง ๆ เดือนกุมภา หรือต้นมีนา โน่นแหละ ...

...จะรู้ได้ยังไงว่าเค้าตื่นหรือยัง...
..สังเกตที่ปลายรากครับ...






(12) ต้นไม้ หรือต้นกล้วยไม้ เวลานอนหลับ หรือหยุดการเจริญเติบโต ส่วนใหญ่ ปลายรากจะกุด.......

แต่ถ้าอยู่ในสภาพปกติ หรือจะทำให้กล้วยไม้ไม่นอนหลับในหน้าหนาว ต้องทำให้ปลายรากสดใสเป็นตามในรูปนี้ครับ ...




.