-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - เกษตรสัญจร1 เทียวบ้านกะเหรี่ยง - มะเขือเทศพันธุ์พื้นเมือง
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

เกษตรสัญจร1 เทียวบ้านกะเหรี่ยง - มะเขือเทศพันธุ์พื้นเมือง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 17/05/2014 9:18 pm    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย


สกู๊ปพิเศษ.....สีสันจากยอดดอย...ปลายร้อนต้นฝน


กระทู้นี้เงียบหายไปนาน ความจริงมีเรื่องกาแฟค้างอยู่ แต่ภารกิจแยะ และ เรื่องมันยาววววว


เพื่อนกระเหรี่ยงส่งรูปจากยอดดอยมาให้ดู เขียนมาบอกว่า

โอ๊ะมื่อโซเปอ เนอะ โอ๋ ชู่ อะ.....
สวัสดีค่ะพ่อ สบายดีนะคะ

(ตั้งแต่ไปเรียน ราชภัฏ นี่ กระเหรี่ยงพูดเก่งขึ้นแยะเลยครับลุง)


หนูส่งรูปปลายร้อนก่อนเข้าฝนบนยอดดอยมาให้พ่อดูค่ะ ....





รูปที่ 197 คงจำตรงนี้ได้ดีนะคะพ่อ น้ำยังพอมีไม่แห้ง.... อีกไม่นานฝนคงตกน้ำคงแยะเหมือนเดิม





รูปที่ 198 พี่โชเล่บอกว่า(แปลเป็นไทย)... ถ้าอาปาไม่ห้ามไว้ ป่านนี้ไม่เหลือแล้ว (ยอดอาหารโปรตีนของชาวดอยครับ)





รูปที่ 199 ต้นไม้บริเวณนี้ยังร่มรื่น และอยู่สบายดีค่ะพ่อ





รูปที่ 200 เห็นเห็ดขอนนี้แล้ว คิดถึงต้มยำเห็ดที่พ่อเคยทำให้กินค่ะ.....




(201) (ผมไม่แน่ใจครับว่า ต้นไม้ที่มีดอกจะใช่ กุหลาบพันปีกชหรือเปล่า)



(202)



(203)

รูปที่ 201 – 203 มุมมองสวย ๆ จากพื้นที่ลาดเอียงบนยอดดอย อากาศยังเย็น ๆ (แบบว่าหนาว) กลางวันเย็นสบาย ๆ อีกไม่นาน ฝนคงจะมา....อยากให้พ่อมาเห็นตอนที่เปลี่ยนฤดูจากร้อนเป็นฝนค่ะ ต้นไม้จะค่อย ๆ เขียวทีละน้อย จนเขียวไปหมดทั้งดอย....มันสวยอธิบายไม่ถูกค่ะ



(204)



(205)



(206)



(207)

รูปที่ 204 – 207 ….ของที่ฝากส่งมาได้รับแล้วด้วยความตื่นเต้น ...ไม่นึกว่าจะได้สัมผัสและจับต้องใกล้ ๆ

แกะกล่องออกมา ทุกคนตื่นเต้นเพราะไม่เคยเห็น แม่ถามว่า ลูกอะไรทำไม่มีตาข่ายคลุมรอบ ๆ หรือเค้าทำยังไง....หนูเคยเห็นที่เชียงใหม่ แต่ไม่กล้าจับ..... สุด ๆ เลยค่ะพ่อ....

. พอบอกราคาแม่ตกใจมาก ร้อง โอย ๆๆ ลูกอะไรทำไมมันแพงจัง แม่กับเจ้า ชามอ อุ้มพาตระเวนอวดไปทั่วหมู่บ้านเลยนะพ่อ .....พ่อหลวงกลับมา บ่นพึมพำ.....อาปาทำเกินไป ทำได้ยังไง

หนูบอกแม่กับพ่อหลวงว่า ที่พ่อส่งมาให้ครั้งนี้ หนูรู้ว่าพ่อจะให้พวกหนูทำอะไร เพราะตอนที่พ่ออยู่ พ่อเคยพูดให้ฟังบ่อย ๆ แต่หนูไม่กล้าคิด แต่ตอนนี้ หนูกับพี่โชเล่จะลองทำแน่ ๆ ค่ะ

--------

ผมเคยคุยกับเพื่อนกระเหรี่ยงนานแล้วว่า น่าจะลองปลูกเมล่อนญี่ปุ่น เพราะเป็นผลไม้ราคาดี ..คงไม่ยากที่จะปลูกบนดอย ทุกอย่างเอื้ออำนวย …เพื่อนอาจคิดว่าทำยาก โดยเฉพาะ แค่ค่าเมล็ดพันธุ์ก็คิดหนักแล้ว เกิดมันไม่งอกล่ะ....คิดหนัก เลยไม่กล้าทำ....

ตามในรูปเป็นเมล่อนของ เจียไต๋ฟาร์ม ครับ เป็นเกรดส่งออก ที่ได้มาเพราะเพื่อนลูกสาวจัดให้ น้ำหนักแต่ละลูกไม่เกิน 1.25 กก.

ถ้าใครอยากจะปลูกจริง ๆ ขอเข้าโครงการ Contract Farming ของเจียไต๋ คงไม่ยาก เพราะเพื่อนของลูกสาว เป็นเจ้าหน้าที่บริหารอยู่ที่นั่น ...คงเป็นลักษณะเดียวกับที่ ตาเลอะ กระเหรี่ยงที่แม่สะเรียง ปลูกกาแฟส่งให้ สตาร์บั๊ค....

เข้าโครงการเพื่อศึกษาและหาประสบการณ์....ระหว่างเข้าโครงการ ก็ทดลองทำของตัวเองไปด้วย เล่นไม่ยาก.....หรือไม่ก็ปลูกเอง ขายเอง ก็น่าจะทำได้ จุดขายบนดอยดีอยู่แล้ว....หรือไม่ก็ทำขายในเน็ต ไม่ยากอีกนั่นแหละ

ลักษณะเดียวกับของ Safty Farm ที่ลำปางทำขายในเว็ปอย่างเดียว แต่ละรุ่นทำตาม Order รุ่นนึงประมาณไม่เกิน 1,000 ลูก ๆ ละ 300 (ควบคุมน้ำหนักให้ได้ลูกละ 1.25 กก) ค่าขนส่งเป็นของคนซื้อ สั่งจองครบจำนวนแล้วจึงปลูกตามขำนวนนั้น และในแต่ละรุ่นจะไม่ทำเกินกว่านั้น นั่นคือจุดขายที่ทุกคนที่อยากกินต้องรอ




(208)



(209)

(208 – 209) เป็นสตรอเบอร์รี่ กับหม่อน ที่พ่อปลูกไว้บริเวณบ้านพักที่ปาย คนปลูกอดกิน คนไม่ปลูกได้กิน อิอิ....ถ่ายวันที่ลงไปเอากล่องเมล่อนกับพี่โชเล่ที่
ปายค่ะ....





(210) พี่ สว. ฝากไปให้พี่โชเล่ บอกว่าพี่โชเล่เป็นคนปลูกไว้ข้างบ้านจันทร์สว่างเมื่อปีที่แล้ว พี่ สว.บอกว่า เป็นกล้วยน้ำว้าจากนครปฐม ....บนดอยเอาไปปลูกทีหลังยังไม่ออกลูกค่ะ





(211) มะเขือเทศพันธุ์พื้นเมือง ลูกเล็ก ๆ กลับมาเป็นที่นิยมก่อนที่จะสูญพันธุ์ กลิ่นหอม ฉุน ใช้ทำน้ำเงี๊ยว เปรี้ยว กลิ่นหอมฉุน ๆ เป็นกลิ่นเฉพาะตัว อร่อยมากค่ะ




(212)



(213)

(212 - 213) แปลงมะเขือเทศราชินี(เชอร์รี่) ของแม่ กับพี่มิโส่ยค่ะ ปลูกไว้ประมาณ 2 ไร่ ปลูกแล้วปล่อยหญ้าขึ้นคลุมตามสูตรของพ่อเป๊ะเลย ส่วนใหญ่จะเป็นพืชตระกูลถั่วค่ะ พอยาวมากก็ใช้เครื่องตัดยอดหญ้าออก.ใบถั่วก็กลายเป็นปุ๋ย ..

แม่บอกทำตามที่อาปาบอก(ไม่ใช้สารเคมี ไม่ฉีดยาฆ่าแมลง) ลูกออกมากดีจัง มีแม่ค้าที่สะเมิงขึ้นมารับไปส่งเข้าโครงการหลวงเอาไปทำมะเขือเทศอบแห้งค่ะ

ตอนแรกพ่อหลวงเห็นหญ้าขึ้นคลุมบอกแม่ว่า จะได้กินลูกหรือเปล่า ให้ตัดหญ้าออก

แม่บอกว่า เชื่ออาปา ทำตามที่อาปาบอก สุดท้าย ออกลูกมาดกมาก นี่เก็บเป็นรุ่นที่สามแล้วค่ะ





(214 ) ปลูกถั่วเขียวในแปลงนา แม่ก็ทำตามที่พ่อบอกอีกนั่นแหละ นาแปลงนี้แม่ปลูกข้าวหอมนิลไว้ให้พ่อปีละ 1 ไร่ทุกปี แต่พ่อขอเป็นข้าวกล้องแค่กระสอบเดียว...ที่เหลือแม่ขายเอาเงินไปทำบุญสร้างโบสถ์ที่วัดตามที่พ่อบอก ....พ่อหลวงบอกว่า ...อาปามันคนบ้า ให้อะไรไม่เคยเอา...





(215) พ่อคงจำลูกท้อนี่ได้นะ วันที่พ่อขึ้นไปบ้านวันแรก ถามว่า มีแยะไปหมดทำไมไม่เก็บไปขาย ...

เป็นท้อลูกเล็ก ที่ทางราชการไปส่งเสริมให้กระเหรี่ยงปลูก ปลูกกันทุกบ้าน ต่อจากนั้น เมื่อมีลูก ไม่รู้จะไปขายใครที่ไหน ....ปล่อยทิ้งเป็นอนุสาวรีย์ที่รอการโค่นทิ้งเมื่อต้องการใช้พื้นที่.....





(216) หนูไปเห็นบ้านนี้มา มีกอไผ่ล้อมรอบสวยน่ารักมาก ๆ เลย ทรงกระเหรี่ยงก็ไม่ใช่ ทรงไทยก็ไม่เชิง





(217) ผีเสื้อราตรีค่ะ ตัวใหญ่มากเลย ชอบมาเล่นแสงไฟตอนกลางคืน


ทุกคนคิดถึงพ่อ อยากให้พ่อขึ้นมาเร็ว ๆ และอยู่กับพวกเรานาน ๆ
....เจ้าชามอบอกว่า นิทานสนุก ๆ ที่พ่อเล่าให้ฟัง มันเล่าให้เพื่อนฟังซ้ำจนเบื่อแล้ว.......
แม่เก็บเมล็ดเมล่อนเอาไว้ จะทดลองเพาะดู ไม่แน่ใจว่าจะงอกหรือไม่...ถือว่าเป็นการทดลองทำ.......

คี เลอะ นา เน่อ เก๊อะ บะ ต่า โช่ เง
ขอให้พ่อโชคดีมีสุขภาพแข็งแรง


ด้วยความเคารพรักและขอบคุณอีกครั้งค่ะพ่อ ....





..........
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 22/05/2014 11:50 pm    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย ตอน สีสันจากยอดดอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย

สกู๊ปพิเศษ.....ตอน 2 สีสันจากยอดดอย...


เพื่อนกระเหรี่ยงส่งรูปจากยอดดอยมาให้ดู ชุดที่ 2 ครับ




(218 )



(219)

(218 – 219) ความสวยต้องห้าม จากยอดดอย




(220)



(221)



(222)

(220 – 222) ซากุระเมืองไทย – พญาเสือโคร่งแย้มกลีบเบ่งบาน





(223) ธรรมชาติสร้างสรรค์ ดอกเสาวรสกำลังบานครับ





(224) ควีน สิริกิตติ์ จากนครปฐม ขึ้นไปเบ่งบานบนยอดดอย





(225) กุหลาบป่า อย่าคิดว่าไร้ค่า กลีบดอกที่ตากแห้ง กิโลละเป็นพันบาท





(226) แก้เก็กซิม




(227)



(228 )

(227 – 228 ) จำได้มั๊ยครับ ดอกเรนเจอร์ ที่ศูนย์วิจัยข้าว แม่ฮ่องสอน เมล็ดแห้ง ใช้สกัดน้ำมัน





(229) ดอกลิลลี่....





(230) ไม่รู้จักชื่อครับ ไม้ตัดดอกคล้ายเบญจมาศ.....




(231)




(231 – 232) เยอบีร่าตัดดอก....





(233) ดาวเรืองตัดดอก





(234) คุณคิดว่า เธอผู้นี้กำลังเก็บลูกอะไร.....ให้ผมทาย




(235)


[img]2http://upic.me/i/6g/236--2.jpg[/img]
(236)

(235 – 236) เธอกำลังเก็บ ลูกราสเบอร์รี่ป่าครับ




(237)



(238 )



(239)

(237 – 239) สตรอเบอร์รี่ พันธุ์พระราชทาน ..เมืองปาย 80 ลูกใหญ่มาก ได้ชิมแล้วครับ หวานฉ่ำอร่อยมาก ๆ สมราคาถุงละ 120





(240) ไม่ว่าจะอยู่ทุ่งนา หรือป่าเขา บนภู หรือบนดอย ภายใต้ร่มธงผืนนี้ ที่นี่ประเทศไทยครับ




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 24/05/2014 8:32 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย

สกู๊ปพิเศษ.....ตอน 3 มะเขือเทศราชินี...(มะเขือเทศเชอรี่)

เพื่อนกระเหรี่ยงส่งรูปจากยอดดอยมาให้ดู ชุดที่ 3 ครับ




(241)



(242)



(244) เค้าเก็บใส่ย่าม หรือกระชุ นี่เก็บใส่มือ....สงสัยเก็บไปเล่นขายของ ว่ะ



(245)



(246)



(247)

(241 – 247) มะเขือเทศราชินี หรือมะเขือเทศเชอรี่ ปลูกบนดอย ....คนพื้นราบรวมกลุ่มกันไม่ได้ แต่คนบนดอย ร่วมมือกันปลูก

คัดแยกเกรด ....ส่งเข้าโรงงานมะเขือเทศแปรรูปของโครงการหลวงที่สะเมิง (มีรถขึ้นไปรับ)





(248)



(249)



(250)

(248 – 250) ...14 พค.57 ได้รับของฝากจากยอดดอย เป็นน้ำมันงาสกัดเย็น....สีอำพันใสปิ๊ง...

..จากยอดดอยมาถึงผมได้ยังไง......ก็ผมยังฝากของจากข้างล่าง ขึ้นไปให้คนข้างบนได้ แล้วทำไมของจากข้างบนจะมาถึงผมไม่ได้ ...

..แต่ไม่ได้มาโดย บริการของ กสท.ก็แล้วกัน เพราะอะไร
ลองดูผลงานไปรษณีย์ไทย ครับ สุดยอด(เลว)

https://www.facebook.com/photo.php?v=654103701331060&set=vb.477160919025340&type=2&theater

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น....หัวหน้ามันไม่ดี ลูกน้องมันก็เลยทำตาม



.


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 26/05/2014 6:24 pm    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย

สกู๊ปพิเศษ.....ตอนที่ 4 เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก

เพื่อนกระเหรี่ยงส่งรูปจากยอดดอยมาให้ดู เป็นชุดที่ 4





(251)



(252)



(253)



(254)

(251 – 254) ผมกับญาติ ๆ และเพื่อนบางคน รวบรวมเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้แล้ว ซักสะอาดอย่างดี เอาขึ้นไปฝากคนบนดอย By Hand …From Hand to Hand . แจกเดี๋ยวนั้น แกะใส่กันเดี๋ยวนั้น..คนแจกบอกว่า .
...แกะถุงแกะกล่องออกมา หอมจังเลย....

.แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยจากคนกลุ่มเล็ก ๆ แต่ทุกคนที่ฝากของขึ้นไป เมื่อเห็นรูป มันรู้สึกเต็มปลื้มครับ.....เห็นแน่ ๆ ว่า ถึงมือผู้รับแน่ ๆ






(255) เอาลูกฟุตลบอลไปฝากด้วย พวกก็ไล่เตะกันเดี๋ยวนั้น






(256) ยานซิ่งบนเขา ภูมิปัญญาชาวดอย ...ตีนไม่ถึงอย่าเสี่ยง(ใช้เท้าบังคับเลี้ยว) ใช้มือบังคับเบรก ถ้าสายเบรกขาด กระเหรี่ยงบอกว่า

คี เลอะ นา เน่อ เก๊อะ บะ ต่า โช่ เง
แปลว่า.... ขอให้คุณจงโชคดี


ตอนขาลงสบาย....แต่ตอนขาขึ้น ลากขึ้นยังไงหว่า ....



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 27/09/2014 1:48 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย ตอน ครั้งหนึ่งในชีวิ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกระเหรี่ยงบนดอย ตอน ครั้งหนึ่งในชีวิต ของ ชามอ


สกู๊ปพิเศษ.....ตอนที่ 5 ....ให้ชามอนั่งเครื่อง


....ผมเคยสัญญากับเจ้าชามอว่า จะต้องให้ได้มากรุงเทพฯ และได้นั่งเครื่องซักครั้ง ซึ่งเจ้าชามอก็ตั้งตาคอยว่าเมื่อไหร่จะได้สมความปรารถนาซักที

พอดีว่าลูกสาวขึ้นไปปาย ทีแรกผมจะขึ้นไปด้วยแต่ติดธุระหลายเรื่องเลยไม่ได้ไป....แต่ได้โทรติดต่อคุยกับพ่อหลวง เจ้าชาชา และเจ้าโชเล่ไว้แล้วว่าจะ เซอร์ไพร้ส์เจ้าชามอ ให้ได้นั่งเครื่องซักครั้ง โดยบอกว่า ให้โชเล่กับชาชา พาชามอลงมาที่ปาย แล้วให้นั่งรถตู้ลงมาคอยที่เชียงใหม่ ขากลับให้นั่งเครื่องกลับพร้อมผึ้ง .

..พ่อหลวงบ่นตามเคยว่า ตามใจเจ้าชามอไม่เข้าเรื่อง...
ผมบอก เรื่องของเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ห้ามยุ่ง ห้ามพูด ห้ามบอก แค่นั้นพอ....

แกถามผมว่า เมื่อไหร่จะขึ้นมา
...ผมบอกว่า ยังตอบไม่ได้

..แต่เจ้าโชเล่ ปอดแหก ไม่กล้านั่ง กลัวเมาเครื่อง ก็เลยตกลงนัดหมายให้ ชาชา กับเจ้าชามอนั่งรถตู้ลงมาคอยที่เชียงใหม่ โดยให้บอกเจ้าชามอว่า จะลงมาธุระแล้วจะพาเที่ยวเชียงใหม่ด้วย

นัดหมายวันเวลากันเรียบร้อย ก็ให้ผึ้งจองตั๋วเครื่องบิน เชียงใหม่ – ปาย 3 ที่นั่ง (เครื่องจากเชียงใหม่ ไปปาย และ ปาย มาเชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นสายการบิน กานต์แอร์(Kan Air) นะครับ เป็นเครื่องใบพัด ขนาดนั่งได้ 24 ที่นั่ง ใช้เวลาบินจากเชียงใหม่ไปปายประมาณ ชั่วโมงกว่า ๆ ค่าเครื่องบินคนละ พันแปดร้อยกว่าบาท)


ชาชาบอกว่า ....หลังจากเจอกันตามวันนัดหมาย ผึ้งกับชาชาพาเจ้าชามอเที่ยวเชียงใหม่พอได้เวลา ก็พาไปสนามบิน โดยผึ้งบอกว่า จะไปรับเพื่อนที่สนามบิน.


..ชาชาเล่าให้ผมฟัง เจ้าชามอไปถึงสนามบินก็บ่นว่า
... พ่อบอกว่าจะพาชามอนั่งเครื่องเมื่อไหร่จะได้นั่งซักทีก็ไม่รู้...

พอเค้าประกาศว่าใกล้เวลาเครื่องเชียงใหม่ – ปายจะออก พี่ผึ้งก็เอาตั๋วเครื่องบินให้ชามอ กับหนู ถือคนละใบ

พี่ผึ้งบอกว่า ..พ่อฝากมาให้ วันนี้ ชามอจะได้นั่งเครื่อง.....เท่านั้นแหละ มันตื่นเต้นแหกปากตะโกน ไชโย ลั่น จนคนหันมามอง หนูต้องหยิกแขน...มันถามหนู(ภาษาปกากะญอ)ว่า

พี่โชเล่กับพี่ชาชารู้เรื่องนี้หรือปล่าว
หนูบอกว่ารู้

พ่อหลวงกับแม่ และพี่มิโส่ย รู้หรือปล่าว
หนูบอกว่ารู้ ...

รู้นานหรือยัง ...
รู้นานแล้ว เพราะต้องนัดวัน เวลากับพี่ผึ้งเรื่องจองตั๋วเครื่องบินต้องจองล่วงหน้า...

โหทุกคนปิดเงียบเลย มีหนูคนเดียวที่ไม่รู้เรื่อง พ่อนี่ เซอร์ไพรส์สุด ๆ ...

หลังจากที่โทรคุยกัน ...เจ้าชามอบอกขอบคุณผม .
.พ่อทำเซอร์ไพรส์สุด ๆ เลย .เมื่อไหร่พ่อจะขึ้นมา ทำไมพ่อไม่มากับพี่ผึ้ง...

พ่อติดธุระ คงมีโอกาสได้ขึ้นมา ...พ่อทำตามสัญญาแล้วนะ ตั้งใจเรียนหนังสือ ห้ามเกเร ห้ามเถียงพ่อแม่และพี่ ๆ ต้องช่วยงานพ่อแม่และพี่ ๆ เป็นไง... ตื่นเต้นดีมั๊ยล่ะ... เอ้าเดินทางปลอดภัย ฝากความคิดถึงให้ทุกคนด้วย.....

...ตื่นเต้น ดีใจสุด ๆ เลยค่ะพ่อ หนูจะถ่ายรูปส่งไปให้พ่อดู และจะเขียนคำบรรยายเองด้วย ....




(257) หน้าสนามบินเชียงใหม่ค่ะ.....





(258 ) เครื่องที่จะไปปายค่ะ.....(นี่แหละครับเครื่อง 24 ที่นั่งของ กานต์แอร์)





(259) ไม่น่าเชื่อว่าจะบินขึ้นมาได้เลย......นักบินบอกว่า..ทางแยก ซ้ายมือทางขึ้นปาย ตรงไปข้างหน้า ไปเชียงดาวค่ะ




(260)



(261)

(260 – 261) ทางบนยอดดอย โอ๊ย มันสวยบอกไม่ถูกค่ะ อยู่ข้างล่างก็รู้ว่าทางมันโค้งไปโค้งมา อยู่ข้างบนเห็นชัดเลย




(262)



(263)



(264)

(262 – 264) ตรงนี้ตรงไหนไม่รู้เพราะนักบินไมได้บอกค่ะ





(265) นักบินบอกว่าใกล้จะถึงสนามบินปายแล้วค่ะ บินมาได้แค่เกือบชั่วโมงเดียว นั่งรถตั้ง 4 ชั่วโมง





(266) ถึงเมืองปายแล้วค่ะ





(267) กำลังบินวนเข้าสนามบินค่ะ





(268 ) เห็นสนามบินแล้ว กำลังจะบินลงค่ะ





(269) พุทโธ ธัมโม สังโฆ เพี้ยง.....ปลอดภัย ๆ ....ลงพื้น...รอดแล้วค่ะ กำลังวิ่งเข้าที่จอด





(270) ...เรือบินไม่ดับเครื่องค่ะ จอดส่งคนที่มา ลงจากเครื่อง คนที่จะกลับขึ้นต่อ ..





(271) พี่โชเล่มารอรับ พอออกมาพ้นสนามบินเครื่องก็บินกลับค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะบินขึ้นได้เลย




(272)



(273)

(272 - 273) ...ชาชาบอกว่า หลังจากกลับถึงบ้านเจ้าชามอ ยิ้มหน้าบาน คุยไม่หยุด คุยอวดทั่วทั้งหมู่บ้าน พ่อหลวงกับแม่ บ่นพึมพำ ๆ ๆ .....เจ้าชามอไม่สนใจฟัง

ชามอถ่ายรูปไว้แยะมาก เอาการ์ดฝากให้หนูไปอัดรูป หนูคัดบางรูปส่งมาให้พ่อเท่านั้น มันบอกว่า ถ้าพ่อขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ พ่อให้ทำอะไร จะบริการทำให้พ่อสุดฝีมือเลย แต่ยังติดค้างเรื่อง มากรุงเทพฯ...





(274) ตอนที่ชาชามากรุงเทพฯ แล้วบินกลับ ตอนนั้นเจ้าชามอไม่ได้มาด้วย งอน ไม่พูดไม่จา หน้าหงิกหน้างอ




(275)



(276)

(275 – 276) เวลาผ่านมาเกือบ 2 ปี ชามอโตขึ้นแยะ หลังจากได้นั่งเครื่อง สมใจนึก ...ยิ้ม หน้าบานเป็นจานเชิง...ไอ้ตูดหมึกเอ๊ย





(277) ...ไก่อบฟาง ฝีมือเจ้าชามอ ....พี่โชเล่บ่นอุบ หนังไหม้หมด กินได้แต่เนื้อ




(278 )




(279)

(278 – 279) พี่โชเล่ฝากส่งมาให้พ่อ กลัวพ่อจะลืมพวกเราค่ะ อาหารบ้านป่า คนดอย...….(ใครจะลืมความประทับใจแบบนี้ได้ล่ะครับ)





(280) นกนี้มา แสดงว่า ฤดูทำนามาถึงแล้วค่ะ





(281) และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องลาจาก ...ทุกคนคิดถึงพ่อค่ะ รอวันเวลาที่พ่อจะขึ้นมา และอยู่กับเรานาน ๆ

…เย่อ ซะ เก่อ ยื่อ บะ นา ….ด้วยความคิดถึงค่ะ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 16/04/2015 1:44 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย


ตอนที่ 1 ....สงกรานต์ปี 58 ปาย - บ้านกะเหรี่ยง


ความจริงผมมีเรื่องที่จะนำเสนอในกระทู้นี้มาตั้งแต่ปลายปี 57 ต่อต้นปี 58 แต่ไม่สะดวกด้วยหลายประการ.....จึงได้ยั้งไว้ก่อน…


วันนี้ ขอลัดคิวพาเที่ยวสงกรานต์ที่ปาย....แล้วเลยไปบ้านกระเหรี่ยง แบบรวบรัดก็แล้วกันนะครับ...เวลามันมีน้อยครับ


ถ้านั่งรถทัวร์ไปเชียงใหม่ ค่ารถเกือบ 700 นั่งกันทั้งคืน.จะลุก นั่ง เข้าห้องน้ำก็ค่อนข้างจะลำบาก เกรงใจคนที่กำลังหลับ.....





(1) ปัจจุบัน ค่าเครื่องบินไปเชียงใหม่ 900 กว่าบาท ถึง พันกว่าบาท ....เพิ่มตังค์อีกนิดหน่อย เพียงงีบหนึ่งก็ถึงแล้ว....เมื่อมีสปอนเซ่อร์ ออกค่าตั๋วให้ สปอนโง่ ขอเอาสบายไว้ก่อนละกัน...Go Ahead…





(2) สโลแกนการบินไทยบอกว่า....เพียงงีบหนึ่งก็ถึงแล้ว...แต่นี่มันนกแอร์จ้า...แค่ล้อพ้นพื้นก็หลับไปซะแล้ว......




(3)



(4)



(5)

(3 – 5) ไหน ๆ ก็ไหน ๆ นาน ๆ ครั้ง ขอสบายให้ถึงสุดปลายทางที่ปายก็แล้วกันเนาะ...แต่เวลาโดนลม มันสั่น โยกเยก โยกเยก เสียวเหมือนกันแฮะ ....มองลงไป มีแต่ป่าทั้งนั้น..มีอะไรขึ้นมา จะหาพิกัดเจอมั๊ยเนี่ย...แต่ก็มาถึงจนได้.....

ไปเที่ยวสงกรานต์ที่ปายด้วยกันครับ

14 เมย.58

งานนี้ พี่ไม่ต้อง น้องขอถ่ายเอง.....ตามฮะบายเลยน้อง...

..แต่ขอบอกครับ งานนี้ เจ๊ของผมไม่ยอมให้ใครถ่ายรูปตัวเองเด็ดขาด..พูดน้อย ต่อยหนัก เพราะ...โดนผึ้งต่อยปากบวมตอนลงสนามบินที่ปายน่ะซี เหล็กในติดคาเด่เลย ดีไข้ไม่ขึ้น.... ผมเลยสบายหูไปหลายวันเชียวแหละ....






(6) เค้าจะมีการแห่พระพุทธสิหิงส์ ที่จะอัญเชิญจากวัดศรีดอนชัย วัดแรกของอำเภอปาย เป็นวัดเก่าแก่ตามประวัติบอกว่าอายุ 700 ปี....เชิญท่านขึ้นรถ





(7) ริ้วขบวนก็แห่จากวัดไปวนรอบอำเภอปาย ระยะทางหลายกิโลเหมือนกันครับ เพื่อให้สาธุชนสรงน้ำ ทั้งพระพุทธ และพระสงฆ์ที่เดินนำขบวนด้วย




(8 ) เบื้องหน้า



(9) เบื้องหลัง

(8 – 9) ขบวนนี้เป็นสาว(ไม่ใช่นางสาวนะครับ)ไทใหญ่. ไม่มีไทอัสสัม หรือไทอาหมปนมา จะมีก็ไทยแลนด์ครับ ที่ สทร. ทุกที่ทั่วไทย..

...มีคนบอกว่า ผมเขียนคำว่า ไทใหญ่ผิด ต้องใช้ไทยใหญ่...คนไทใหญ่เค้าบอกว่า ของเค้าต้องเขียนว่า ไทใหญ่เป็นการถูกต้องแล้ว เพราะในคัมภีร์โบราณเขียนไว้อย่างนั้น...เพราะคำว่า ไท หมายถึงความเป็นไท เป็นอิสระไม่ขึ้นกับใคร...เข้าใจ๋....






(10) คนสรวมหมวก คือป้าคำ คู่ชีวิตลุงรัตน์ กะเหรี่ยงจากสะเมิง...ผู้ทิ้งรถ แลนโรเวอร์ ของ ออป. หนีตามป้าคำมาอยู่ปาย เมื่อ 30 ปีก่อนปู๊นนนน...ฟังแกเล่าถึง ชีวิตรักกะเหรี่ยงดอยแล้ว สนุกสุด ๆ พร้อมกับได้อะไร ๆ หลายอย่างจากแก.....คนใส่เสื้อสีน้ำเงิน...คุณผึ้ง ลูกสาวผมครับ....





(11) มาแว๊วครับ รถที่อัญเชิญพระพุทธสิหิงส์ พระคู่บ้านคู่เมืองของเมืองปาย.....

ป้าคำเล่าว่า เคยมีท่านผู้มีอำนาจ อัญเชิญไปเป็นของส่วนตัว....ปีนั้นมีขบวนแห่ไม่มีองค์พระ แต่ชาวบ้านก็ยังรถน้ำกันตามประเพณี โดยถือว่า ยังมีองค์พระมาด้วยในขบวน...

..และในกาลต่อมา ท่านผู้มีอำนาจผู้นั้นต้องเอามาคืน....โดยพูดคำเดียวว่า.....ผมต้องเอามาคืน ผมต้องเอามาคืน และผมต้องเอามาคืน..

..จากนั้นอีกไม่นาน ก็สิ้นอสัญแดหวา.....เอาอะไรไปไม่ได้ แม้แต่กระดูกของตัวเอง....ป่านนี้คงไปอยู่กับท่านยมบาล สบายไปแล้ว ขุมไหนไม่รู้ครับ.....





(12) เตรียมรดน้ำองค์หลวงพ่อ




(13)



(14)



(15)

(13 – 15) มือยาวไม่ถึง ต้องให้คนบนรถช่วย เอ้า ฮึบ...





(16) รายนี้ล่นยกกันทั้งขันเลยแหละ....ทั้งเปียก ทั้งแฉะก็ว่ากันไป....





(17) ไม่ได้มีแต่ไทใหญ่นะครับ พม่า รามัญ แขก ฝรั่ง มีหมด




(18 )



(19)



(20)

(18 – 20) หลังจากขบวนสรงน้ำพระผ่านไป ใครผ่านมาเป็นอันว่า โดนเต็ม ๆ





(21) มันต้องแบบนี้ครับถึงจะสะใจ อบต.ไม่ว่า ตำรวจไม่จับ....กรุงเทพฯ มีแบบนี้อ๊ะป่าว





(22) อย่าคิดว่าหน้าร้อน แต่น้ำประปามาจากบนภูเขา น้ำมันเย็นเหลือใจเลยคุณเอ๊ย....แสบสองตัวนี้ สั่นเป็นลิงเลยก็แล้วกัน.....ไปไหนไปกัน มันทุกที่....ไปไหนไปด้วย ไม่ได้ช่วยซักบาท...

พอก่อนสำหรับวันนี้................




15 เมย.58.....ไหน ๆ ก็มาแล้ว ถ้าไม่ได้ไป เหมือนมันขาดอะไรไป....แวะไปบ้านกะเหรี่ยงกันซักหน่อยมั๊ย





(23) บ้านกะเหรี่ยง เค้าก็มีการทำบุญ สรงน้ำพระกันเหมือนกัน....ก็แหม เค้าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปู่ ย่า ตาย ทวด นับเป็น 100 กว่าปีแล้วนี่ครับ....จะไล่ให้เค้าไปอยู่ที่ไหนล่ะ




(24)



(25)

(24 – 25) ก็ฟังพระท่านสวดมนต์ แล้วก็ใส่บาตรกัน





(26) อ้าวนี่ ใครกันล่ะนี่ เด็กหลงอ๊ะป่าว.....





(27) หลังจากพระฉันจังหันเสร็จ อาหารที่เหลือพระ ก็เป็นหน้าที่ของ ขโยม(อ่านว่า ขะโยม แปลว่า ลูกศิษย์พระ) ช่วยกัน ขยุ้ม.....





( 28 ) วันนี้ สาว ๆ ไปไหนกันหมดไม่รู้ มีแต่สาวตัวน้อย ๆ




(29)



(30)



(31)



(32)

(29 – 32) มีคนเค้ามาเรียกผมบอกว่า เอาะเม... (แปลว่า กินข้าว)

...เห็นกับข้าวแต่ละอย่างแล้ว น่ากิน น่าลิ้มลองทุกอย่าง แต่แหม....เห็นสีสันแล้ว....มันเผ็ดแสบสันต์ เลยก็แล้วกัน

29 - ไข่เจียวใส่พริก(แดงแจ๋เลย)

30 – น้ำปลาพริก

31 – ผัดใบพริก ใส่พริก

32 - ต้มยำไก่ ใส่พริก



ก็เลยตอบไปว่า......ตะบลือ.....ขอบคุณคร๊าบบบบ... พรุ่งนี้เช้า แสบก้นตายโหงแน่ ๆ กรูเอ๊ย


ยามดึก....อุณหภูมิบนดอย ก็ประมาณ 24 องศา พอ ๆ กับในห้องแอร์....กลิ่นดอกมะลิป่าหน้าร้อน หอมตลบอบอวนชื่นใจดีแท้.....

…เย่อ ซะ เก่อ ยื่อ บะ นา ….ด้วยความคิดถึงเพื่อนสมาชิกทุกคนครับ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 17/04/2015 5:32 pm    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 - ปาย....หลังวันสงกรา ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย

ตอนที่ 2 ....ปาย....หลังวันสงกรานต์ปี 58


(1) หลังวันสงกรานต์ที่ปาย....เงียบ อ้างว้าง วังเวง


(2) เงียบสงบ สันโดษ ตามวิถีคนดอย.............



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 15/06/2015 9:24 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 องุ่นเมืองปาย(ฝากป้า ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
สวัสดีครับลุงคิม ...ป้าห่าน....และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 องุ่นเมืองปาย

สกู๊ปพิเศษ 2 องุ่นเมืองปาย ฝากป้าห่าน

โอ๊ะมื่อโชเปอ…..เนอะ โอ๋ ชู่ อะ
สวัสดีค่า.....สบายดีกันอยู่มั๊ยค๊า

เจ้า ชาชา น้องสาวเจ้า โชเล่ เพื่อนกะเหรี่ยง อ่านเว็ปลุงคิม เจอข้อความที่ป้าห่านโพสต์ว่า สนใจเรื่องปลูกองุ่น ก็เลยฝากข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกองุ่นที่เมืองปายมา

ย้ำด้วยว่า ฝากให้ป้าห่าน
(ชื่อนี้ ดังไปถึงยอดดอยเชียวรึนี่)...ผมเลยรีบลงมาให้ดูก่อน เพื่อเป็นกำลังใจ และเพิ่มเกิดกิเลสให้เกิดความอยากที่จะปลูกองุ่นต่อไป........

เนื่องจากผมนิสัยไม่ดีตรงที่ว่า พืชอะไรที่ไม่ชอบ ก็ไม่ค่อยจะสนใจที่จะเรียนรู้แล้วก็ไม่ชอบที่จะปลูก....เช่น อ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทานตะวัน ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง องุ่น....ไปจนถึง มะเขือพวง .....

เมื่อไม่ชอบมะเขือพวงแล้วปลูกทำไม

ผมไม่ชอบกินมะเขือพวง ....แต่มะเขือพวงมันดันชอบผม เห็นมันงอก ก็ถอนมาจิ้ม ๆ ส่งเดชมันเกิดเจริญเติบโต งอกงาม แล้วก็ขายได้สตางค์ ก็เลยต้องศึกษาและให้ความสนใจ แต่ก็ปลูกด้วยความจำใจจริง ๆ....

ในเรื่องขององุ่น ผมไม่มีความรู้เอาเลยละครับ....เมื่อเค้าส่งรูปมาให้ ก็นำเสนอเพื่อป้าห่าน และเพื่อนสมาชิกได้ศึกษา เผื่อว่า คิดอยากจะปลูกไว้ดูเล่นบ้าง ....องุ่นสวนนี้ อยู่ใกล้วัดป่าเวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ห่างจากบ้านพักที่ อ.ปายไปไม่ไกลนัก ....เวลาผมไปปาย ก็ขี่รถผ่านบ่อย ๆ แต่ไม่ได้สนใจ ข้อมูลเป็นข้อความสั้น ๆ บอกว่า


(1)

(2)

(3)

(4)

(5)
(1 - 5) ปลูกองุ่นใช้พื้นที่เยอะ เพื่อให้มันเลื้อย ต้องคอยตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้แตกยอดจะได้มีช่อดอกออกมา

องุ่นโรคแยะ แมลงเยอะ แต่สวนนี้เค้ากางมุ้งให้มัน และไม่ใช้ยาค่ะ ปลอดสารพิษ อินทรีย์ชีวภาพ 100 % สีขาวๆ ที่ติดลูก ไม่ใช่ยานะคะ มันเป็นธรรมชาติขององุ่นค่ะ แบบเดียวกับ.ที่ขาว ๆ บนใบกล้วย..... ลูกที่เห็นอยู่นี้ มีคนสั่งจองหมดแล้วค่ะ
อุ ว๊าว.........

ถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม....คงต้องรบกวนลุงคิมละครับ.....แต่ถ้าอยากดูรูป หรือข้อมูลแบบใกล้ชิดกว่านี้ รอให้ผมขึ้นไปปายครั้งต่อไปนะครับ....จะเก็บข้อมูลมาฝาก

…เย่อ ซะ เก่อ ยื่อ บะ นา ….ด้วยความคิดถึงเพื่อนสมาชิกทุกคนครับ




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 15/06/2015 2:16 pm    ชื่อกระทู้: Re: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 องุ่นเมืองปาย(ฝา ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

DangSalaya บันทึก:



ในเรื่องขององุ่น ผมไม่มีความรู้เอาเลยละครับ....เมื่อเค้าส่งรูปมาให้ ก็นำเสนอเพื่อป้าห่าน และเพื่อนสมาชิกได้ศึกษา เผื่อว่า คิดอยากจะปลูกไว้ดูเล่นบ้าง ....องุ่นสวนนี้ อยู่ใกล้วัดป่าเวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ห่างจากบ้านพักที่ อ.ปายไปไม่ไกลนัก ....เวลาผมไปปาย ก็ขี่รถผ่านบ่อยๆ แต่ไม่ได้สนใจ ข้อมูลเป็นข้อความสั้นๆ บอกว่า
COMMENT :
ไม่มีความรู้.... "คลิก" :
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=117
องุ่น....

ปลูกองุ่นที่ ปาย. ไม่ใช่เรื่องแปลก....เพราะ
เหนือเชียงรายขึ้นไปในจีน องุ่นพันธุ์กินผลสด ราคาในห้างไทย กก.ละ 200 (+)
ต่ำกว่านราธิวาสลงไปมาเลเซีย อินโดเนเซีย ยกเว้นสิงค์โปร์ ปลูกองุ่่นได้
อุบลถึงเมืองกาญจน์ ในเขตไทยปลูกองุ่นได้ โดยเฉพาะปากช่อง ปลูดองุ่นได้ดี
แต่ในเขมรต่อไปเวียดนาม ในพม่าต่อไปบังคลาเทศ ปลูกได้/ไม่ได้ ไม่มีข้อมูล

สรุป :
ประเทศไทยปลูกองุ่นได้ทุกจังหวัด....
นครปฐม/ราชบุรี ปลูกองุ่นทำไวน์ ต้องซอยผลออก ทำให้สูญเสียไช่น้อย
น่าน/ปากช่อง ปลูกองุ่นกินผลสด ไม่ต้องซอยผลให้สูญเสีย ไม่สิ้นเปลืองแรงงาน


ปลูกองุ่นใช้พื้นที่เยอะ เพื่อให้มันเลื้อย ต้องคอยตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้แตกยอดจะได้มีช่อดอกออกมา
COMMENT :
เปรียบเทียบยังไง....
ระหว่าง องุ่น น่าน/ปากช่อง/เชียงราย ปลูกบนแปลงยกร่องแห้ง .... เปรียบเทียบกับองุ่น นครปฐม/ราชบุรี ปลูกบนแปลงยกร่องน้ำหล่อ .... แบบไหนใช้เนื้อที่มากกว่ากัน

องุ่น ออสเตรเลีย/ยุโรป อายุต้นนับ 100 ปี ไม้เลื้อยเหมือน ไม่ต้องทำค้างแบบองุ่นไทย
องุ่น ออสเตรเลีย/ยุโรป อายุต้นนับ 100 ปี ใช้แรงงานน้อยแต่ราคาแพงลิบลิ้ว

ชาวสวนองุ่นไทย (นครปฐม/ราชบุรี) ไม่ใช่น้อย "เลิก" เพราะสู้แรงงาน พรุนกิ่ง/ซอยผล ไม่ไหว
ชาวสวนองุ่นไทย (นครปฐม/ราชบุรี) ไม่ใช่น้อย "เลิก" เพราะสู้ไซฮวงไม่ไหว



องุ่นโรคแยะ แมลงเยอะ แต่สวนนี้เค้ากางมุ้งให้มัน และไม่ใช้ยาค่ะ ปลอดสารพิษ อินทรีย์ชีวภาพ 100 % สีขาวๆ ที่ติดลูก ไม่ใช่ยานะคะ มันเป็นธรรมชาติขององุ่นค่ะ แบบเดียวกับ.ที่ขาว ๆ บนใบกล้วย..... ลูกที่เห็นอยู่นี้ มีคนสั่งจองหมดแล้วค่ะ อุว๊าว.........
COMMENT :
ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มีศัตรูพืชประจำเผ่าพันธุ์....
ไม่มีสารเคมี ไม่มีสารสมุนไพร ใดๆในโลกนี้ทำให้ส่วนของพืชที่ถูกทำลายไปแล้วฟื้นคืนดีอย่างเดิมได้ เสียแล้วเสียเลย

ฆ่าหนอน/กำจัดแมลง/พิชิตเชื้อโรค สำเร็จ ได้แค่ "สะใจ" .... กูเก่ง กูแน่
แต่ ผลผลิต/พืช เสียไปแล้ว .... สรุป : เสียทั้งเงิน เสียทั้งผลผลิต เสียทุกอย่าง

โรค V.S. แมลง คนละตัวกัน เกิดกินแก่เจ็บตายขยายพันธุ์ต่างกัน แยกให้ออก
โรคแมลงคือเหตุ ความเสียหายของพืชคือผล .... ผลมาจากเหตุ แก้ที่ต้นเหตุ แก้แบบป้องกัน น่าจะดีกว่ามั้ง

กางมุ้ง :
ข้อดี .......... ไม่มีหนอน เพราะแม่ผีเสื้อตัวโตเข้าไปวางไข่ไม่ได้
ข้อเสีย ........ แมลงแม่ผีเสื้อเข้าไม่ได้ แต่ "เพลี้ยไฟ-ไรแดง" ยังเข้าได้ เพราะตัวเล็กกว่าช่องรูตาข่าย เพราะฉะนั้น ในมุ้งจึงต้องใช้กับดักสีเหลืองกาวเหนียวดักเพลี้ยไฟด้วย กรณีนี้ ชาวสวนกล้วยไม้รู้จักดี .... แมลงช่วยผสมเกสรเข้าไปไม่ได้ .... ในมุ้งอุณหภูมิสูงกว่านอกมุ้ง 4 องศาเสมอ อุณหภูมิสูงกว่าปกติระดับนี้ส่งเสริมให้เชื้อโรคในดิน (ไฟธอปเทอร์ร่า-พิเทียม-ฟูซาเลียม-สเคลโรเทียม-ไรซ็อคโทเนีย-ไส้เดือนฝอยรากปม-ฯลฯ) เจริญพัฒนาดีมาก เป็นเหตุให้เชื้อโรคในดินในมุ้งมีมากกว่านอกมุ้ง แล้วจะเกิดอะไรขึ้น .... อากาศไม่ถ่ายเท คนเดือดร้อนแน่ เชื่ีอว่าต้นไม้ต้นพืชก็เดือดร้อนด้วย .... สิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ

สรุป (1) :
- ข้อเสียมากกว่าข้อดี .... อยากให้ข้อดีมากกว่าข้อเสีย ก็จงติดตาข่ายมุ้งซ้อน 2-3-4 ชั้นนั่นแล

- สีขาวๆที่ติดลูก คือ "นวลใบ" เหมือนกับพืชอื่นๆ .... พืชอื่นมีชื่อเรียก แต่องุ่นไม่ยักกะมีชื่อนวลใบมีหน้าที่ป้องกันเชื้อโรค เหมือนหนังกำพร้าคนที่ป้องกันเชื้อโรค ....สังเกตุคนที่ผิวหนังถูกไฟไหม้

- เหตุใดไย ศ.ดร. แห่ง ม.เกษตร วิทยาเขตอัตตะปือ ภูมิลำเนาอยู่นครสวรรค์ มือขายระดับแหวนเพชร ไปทัวร์ ตปท.ทุกปี เป็นวิทยากร (นักวิชาเกินเชิงพานิช) ส่งเสริมให้ใช้สารจับใบ (ไดเร็คเซลล์) ล้างนวลใบพืช ....โถ โถ โถ น้ำยาล้างจานก็แทนสารจับใบได้ (อ้างอิง : ม.ราชภัช ธัีญญะบุรี) พืชที่สมควร (ถ้าอยากใช้จริงๆ....ไม่ใช้ก็ได้) มี 3 พืช ได้แก่ บัว-เผือก-ดอกรัก เท่านั้น เพราะนวลใบมากกว่าพืชอื่นๆ

สรุป (2) :
- วันนี้เหลือผักกางมุ้งกี่เจ้า ................... อยู่ที่ไหน ?
- คนทำผักกางมุ้ง ............................ ฉิบหายไปเจ้าละเท่าไหร ?
- ผักดอกเตอร์ที่รังสิต ขาดทุนนับสิบล้าน ..... ไม่รู้เลยเหรอ ?

- ผักกางมุ้งที่ทับยายเท้า นครปฐม ส่งออกสวิสเซอร์แลนด์ กางมุ้ง วันไหน จนท.จะมาตรวจเอาชายมุ้งลง ไม่มีใครมาตรวจเอาชายมุ้งขึ้น

- ผักยังไม่กางมุ้ง ย่านช่อง 3 บางแค เนื้อที่ 3 ไร่ ลงทุนซื้อตาข่ายมาทำมุ้ง 5 แสน จ้างแรงงาน 20 คน กางมุ้งเสร็จในวันเดียว ตกลางคืนพายุพัดโรงเรือน 6 หลังพังพาบลงมากองเอ๊าะเยาะกับพื้น งานนี้เบ็ดเสร็จขาดทุนไปเกือนล้าน สาบส่งชีวิตนี้ไม่เอาอีกแล้ว ไปขายเต้าฮวยดีกว่า


ถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม....คงต้องรบกวนลุงคิมละครับ.....แต่ถ้าอยากดูรูป หรือข้อมูลแบบใกล้ชิดกว่านี้ รอให้ผมขึ้นไปปายครั้งต่อไปนะครับ....จะเก็บข้อมูลมาฝาก
COMMENT :
ทุกคำตอบอยู่ข้างตัว เหมือนหูอยู่ข้างหัว
รู้ว่ามีหู แต่ไม่เคยเห็นตรงๆ ต้องส่องกระจก หรือถามคนอื่น




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
hans
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 28/04/2013
ตอบ: 146

ตอบตอบ: 15/06/2015 9:22 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
สวัสดีค่ะ ลุงคิม ทิดแดง และสมาชิกทุกๆๆท่าน ฝากฮาโหลถึงบนดอยด้วย

ขอบคุณหลายๆๆ สำหรับองุ่นที่ฝาก เรามันคนสมาธิสั้น อยากปลูกไปหมดเหมือนที่ลุงเคยว่าปลูกไว้โชว์ แต่เอาจริงนาถึงจะแค่โชว์ก็อยากโชว์ที่สวยงาม คืบหน้าองุ่นป้าโดน "แมงอีนูนขี้หมา" สกรัมซะบอบช้ำไม่เหลือใบ ตอนนี้กะลังแตกยอดอ่อน

ป้าต้มสมุนไพรทุกอย่าง ฝาด-เผ็ด-ขม-เบื่อเมา เอาแบบผสมน้ำครึ่งๆๆ เอาไม่อยู่ แต่เบาบาง พอเก็บออกทุกคืน ไว้ใบงามแล้วจะส่งรูปให้ดูเด้อ ปลูกเล่นๆๆต้นเดียวเอง อยากมีไว้เพื่อนลุงที่เมืองนอกลุ้นกันใหญ่


ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เอาใจช่วย
ป้าห่าน



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 16/06/2015 12:15 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

hans บันทึก:


สวัสดีค่ะ ลุงคิม ทิดแดง และสมาชิกทุกๆๆท่าน ฝากฮาโหลถึงบนดอยด้วย

ไม่ต้อง ฝากฮาโหลหรอกครับ คนบนดอยเค้าเปิดอ่านอยู่แล้ว เค้ายังบอกมาว่า ป้าห่าน ชอบเล่น Face จริงป่ะ.....


ขอบคุณหลายๆๆสำหรับองุ่นที่ฝาก เรามันคนสมาธิสั้น อยากปลูกไปหมดเหมือนที่ลุงเคยว่าปลูกไว้โชว์ แต่เอาจริงนาถึงจะแค่โชว์ก็อยากโชว์ที่สวยงาม


คืบหน้าองุ่นป้าโดนแมงอีนูนขี้หมาสกรัมซะบอบช้ำไม่เหลือใบ
ตอนนี้กะลังแตกยอดอ่อน ป้าต้มสมุนไพรทุกอย่างฝาด เผ็ด ขมและเบื่อเมา เอาแบบผสมน้ำครึ่งๆๆ เอาไม่อยู่แต่เบาบางพอเก็บออกทุกคืน


ป้าเอามุ้งเขียว คลุมบน ล่าง ข้าง ซ้ายขวา หน้าหลัง ตามในรูป....ถ้าทำเสร็จแล้ว ลองเอา ด่างทับทิม ใส่ถ้วย ตั้งไว้หลาย ๆ จุด แล้วเอา ฟอร์มาลีน เทใส่ลงไป จากนั้นรีบเผ่นออกมานอกมุ้ง มิฉะนั้นจะแสบตา แสบจมูก รับรองว่า ไม่ว่าจะแมงอีนูน หรือเชื้อโรคต่าง ๆ จะค่อยๆ หายสาบสูญแน่ ๆ

ไว้ใบงามแล้วจะส่งรูปให้ดูเด้อ ปลูกเล่นๆๆต้นเดียวเอง

ต้นเดียว ถ้ามันเลื้อย จะคลุมรอบบ้านนกของลุง Hans แน่ ๆ เวลามันออกลูกห้อยระย้า นะป้าห่านเอ๊ย.....ต๊กใจตื่นมาเสียได้....เฮ๊อ เข้าห้องน้ำ ปวดฉี่....ฝันสลายเมื่อใกล้รุ่ง เสี่ยดายจัง.....


อยากมีไว้เพื่อนลุงที่เมืองนอกลุ้นกันใหญ่ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เอาใจช่วย

ป้าห่าน


ก็ว่ากันไป.....

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 16/06/2015 6:19 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

hans บันทึก:


ขอบคุณหลายๆๆ สำหรับองุ่นที่ฝาก เรามันคนสมาธิสั้น อยากปลูกไปหมดเหมือนที่ลุงเคยว่าปลูกไว้โชว์ แต่เอาจริงนาถึงจะแค่โชว์ก็อยากโชว์ที่สวยงาม คืบหน้าองุ่นป้าโดน "แมงอีนูนขี้หมา" สกรัมซะบอบช้ำไม่เหลือใบ ตอนนี้กะลังแตกยอดอ่อน

ป้าต้มสมุนไพรทุกอย่าง ฝาด-เผ็ด-ขม-เบื่อเมา เอาแบบผสมน้ำครึ่งๆๆ เอาไม่อยู่ แต่เบาบาง พอเก็บออกทุกคืน ไว้ใบงามแล้วจะส่งรูปให้ดูเด้อ ปลูกเล่นๆๆต้นเดียวเอง อยากมีไว้เพื่อนลุงที่เมืองนอกลุ้นกันใหญ่

COMMENT :

แมลงกินนูน..... ว่านน้ำ พริกไทย หนอนตายหยาก หางไหล มะเขือเทศ พริกสด
แมลงนูนหลวง... ว่านน้ำ น้อยหน่า พริกสด สาบเสือ หนอนตายหยาก หางไหล
แมลงสิง....... สะเดา บอระเพ็ด มะกรูด พริกสด น้อยหน่า ทุเรียนเทศ

แมลงคำหนาน... น้อยหน่า พริกสด สาบเสือ มะกรูด พริกสด ทุเรียนเทศ
แมลงบ่วง...... สะเดา บอระเพ็ด สาบเสือ ดาวเรือง น้อยหน่า ทุเรียนเทศ
แมลงหล่า...... สะเดา หางไหล หนอนตายหยาก บอระเพ็ด สาบเสือ ดาวเรือง

แมลงแกง...... สะเดา น้อยหน่า หนอนตายหยาก หางไหล พริกสด
แมงค่อมทอง.... สาบเสือ มะกรูด พริกสด น้อยหน่า ดาวเรือง ยี่โถ
แมลงหวี่ขาว..... สาบเสือ ดาวเรือง กระเทียม น้อยหน่า ยาสูบ พริกสด สะเดา

แมลงชีปะขาว.... สาบเสือ ดาวเรือง มะระ น้อยหน่า มะกรูด ข่า พริกสด
แมลงกะเจ๊า...... สาบเสือ ยาฉุน ยาสูบ น้อยหน่า ข่า พริกสด บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร
แมลงวันทอง..... ว่านน้ำ หางไหล สะเดา ยาสูบ

แมลงวันแดง...... ว่านน้ำ หางไหล สะเดา ยาสูบ

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=2443\

ถามเพิ่มอีกหน่อย (เหมือนหมอถามคนไข้) :
- ฉีดกี่ครั้งตั้งแต่เริ่มเกิด ?
- ชื่อเฉพาะสมุนไพร ชื่ออะไร ?
- ทำไม่ลอง IPM บ้างล่ะ ?






.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
hans
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 28/04/2013
ตอบ: 146

ตอบตอบ: 18/06/2015 10:15 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
สวัสดีค่ะลุง ทิดแดง และสมาชิกทุกๆๆท่าน

ที่ลุงถามฉีด อาทิตย์ละครั้งค่ะตอนใหม่ๆๆงามมาก มีรอยกัดเล็กน้อยฉีดสมุนไพรรวม มาพลาดตอนที่แม่เสียไม่ได้เหลียวแลเลยเพราะยุ่งมาก งานศพทางอิสานจะไม่เหมือนภาคกลาง กิน เล่น บ้านงานเจ้าภาพก็ต้องเตรียมอาหารไว้ให้ผู้คนที่มา ทั้งยุ่งและเหนื่อยมากเลยไม่ได้ดูแล แมงอีนูนก็เลยมากันใหญ่คงติดใจอะไรก็เอาไม่อยู่ พอเสร็จงานองุ่นก็จะม้วยมรนา

สมุนไพรเอาไม่อยู่จริงค่ะลุง ป้องกันไม่ทันจริงๆๆ เห็นไหมค่ะอุปสรรค ตอนนี้ฉีดทุกวันไมผสมน้ำด้วยซ้ำ พรุ่งนี้จะหาสมุนไพรเฉพาะที่ลุงบอกลองอีก แล้วจะแจ้งผลค่ะ


ป้าห่าน

ปล.
ก็เล่นอยู่เฟส ยามว่างจ้า เป็นเพื่อนกันคนบนดอย และแถวคอนถม



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 17/09/2015 12:06 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 ตอน 1 เสียงเพรียกจากย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม .....และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 ตอน 1 เสียงเพรียกจากยอดดอย

สกู๊ปพิเศษ 3 ตอน 1 อยากรู้ให้ขึ้นมาดูเอง

โอ๊ะมื่อโชเปอ…..เนอะ โอ๋ ชู่ อะ
สวัสดีค่า.....สบายดีกันอยู่มั๊ยค๊า


ปลายฝน ต้นหนาว ใกล้จะถึง High season (ธันวา – ต้นมีนา)ที่ปายเริ่มจะคึกคัก ....

แต่ใครอยากเที่ยวปายให้สดใสมีสีสัน ต้องไปเที่ยวตอนปลายฝนต้นหนาวนี่แหละครับ.....อากาศเย็นแบบสบาย ๆ ภูมิทัศน์เขียวสดชื่น อาหารการกินพืชพันธุ์ธัญญาหารจากป่าอุดมสมบูรณ์.....ประมาณกลางเดือน ตุลา ก็คงจะเริ่มเตรียมการต่าง ๆ ที่จะรับแขกที่จะขึ้นไปเที่ยวกัน

ปีนี้ที่พักแต่ละแห่ง คงจะไม่อยากต้อนรับ ทัวร์จากจีน..เข็ดขยาดมาก ๆ .. ขอบอกตามตรงว่า รูปสวย แต่รวยความสกปรกและโสโครก ขึ้นป้ายตัวโต ๆ ไว้เลยว่า FULL
เจ้า ชาชา น้องสาวเจ้า โชเล่ เพื่อนกะเหรี่ยง ส่งข้อความถามมาว่า

....พ่อจะขึ้นมาพร้อมพี่ผึ้งหรือเปล่า จะได้ลงมารับขึ้นไปพักที่บ้านซักระยะก่อน มีรูปฝากมาให้หน่อยนึงค่า ...
คำตอบคือ ...สิ้นเดือนกันยา จะให้คำตอบ...


(1) มุมหนึ่งที่ริมแม่น้ำปาย ฝนกำลังตกมองเห็นไกล ๆ


(2)..มีข้อความว่า ไม่บอกว่าอะไร..อยากรู้ให้พ่อขึ้นมาดูเอง
....ก็ไม่ถามเหมือนกันว่าสิ่งนี้คืออะไร ถึงเวลาไปก็รู้เอง....


(3) น่าจะเป็นมุมหนึ่งในร้านกาแฟนะ....


(4) เป็นจุดที่มองจากมุมสูงจุดชมวิวที่ กิ่วลม ห่างจากเมืองปายออกไปราว ๆ 20 กม.ครับ ตรงจุดนี้เป็นช่องเขาบนดอย ลมค่อนข้างแรง เค้าจึงให้ชื่อว่า กิ่วลม ครับ


(5) แต่ก่อนเป็นทางลูกรัง ไปมาลำบาก ตอนนี้เทคอนกรีตใหม่แล้ว นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกขึ้น..พวกฝรั่งมันเที่ยวกันทั้งปีไม่เลือกฤดูกาล ค่าเช่าแมงกะไซด์ขนาดนี้ วันละ 100 เดียว


(6)

(7)
(6 - 7) สงสัยงบหมดเลยยังเทคอนกรีตไม่หมด ต้องเดินผ่านป่าสนและผ่านทุ่ง การเที่ยวป่า เขาลำเนาไพร มันได้อารมณ์ตรงนี้แหละครับ ถ้าให้สนุกกว่านี้ ต้องลุยป่า ถึงจะมัน อากาศสดชื่น ไร้มลพิษ หายใจได้เต็มปอด ที่สำคัญ เข้าป่ากับกะเหรี่ยงไม่ต้องกลัวอด ของกินในป่ามีเพียบ


(8 ) เห็นน้ำตกนี่ แสดงว่า ใกล้โป่งน้ำร้อนเข้าไปแล้วนิ....น้ำตกไปเจอกับโป่งน้ำร้อน ก็กลายเป็น Hot Spring แบบอุ่น ๆ ลงแช่ได้สบาย ๆ


(9) นี่แหละครับ โป่งน้ำร้อนไทรงาม ฝรั่งทั้งนั้น ลงแช่โป่ง ผมถึงบอกว่า ไปเที่ยวปาย ต้องไปช่วงปลายฝนต้นหนาว คนไม่แยะ ไม่ต้องแย่งกันกิน ไม่ต้องแย่งหาที่นอน ถึงจะมีแต่ใบไม้ที่ไร้ดอก แต่บรรยากาศก็เขียวสวยสดใส


(10) ...จะเป็นตะวันชิงพลบ หรือ จะรุ่งสุริยา ก็เหลือเดา....แต่ผมขอจบลงด้วยคำว่า ....เสียงเพรียกจากยอดดอย......ครับ


…เย่อ ซะ เก่อ ยื่อ บะ นา ….ด้วยความคิดถึงเพื่อนสมาชิกทุกคนครับ

.





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 19/09/2015 6:00 pm    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย
ภาค 3 ตอนที่ 1 (1) การเดินทางครั้งใหม่

นาน ๆ ครั้งที่จะมีโอกาสขึ้นไปบ้านกะเหรี่ยง ....กลัวจะลืม เดี๋ยวอดกินข้าว ต้องฟื้นความจำ

โอ๊ะมื่อโชเปอ…..เนอะ โอ๋ ชู่ อะ …เอาะเม
สวัสดีครับ.....สบายดีกันอยู่มั๊ย ผมหิวข้าวครับ


ความจริงผมจะนำเสนอเรื่องนี้มาตั้งแต่หลังปีใหม่ 58 แต่ต้องขออภัยในความไม่สะดวกด้วยหลายประการ.....จึงได้ยั้งไว้ก่อน…เมื่อมีเวลาคุย จะคุยสั้น ๆ ก็ไม่สนุก จะคุยยาวเกินไป มันก็ไม่ดี เอาเป็นว่า คุยยาวพอดี ๆ ก็แล้วกัน จะได้เห็นแง่มุม หรือมุมองต่าง ๆ ซึ่งมีบางอย่างที่บางคนบอกว่า

....ปายน่ะนะ กูไปมาไม่รู้กี่ครั้ง เที่ยวซะพรุนแล้ว....

อันนี้อย่ามาคุยครับ ...เพราะบางแง่มุม หรือบางสถานที่ คุณไม่มีทางจะได้เข้าไปเห็น อย่างเช่น ..วันชาติของกองกำลังไทใหญ่กู้ชาติ ...ซึ่งต้องขึ้นเขา ข้ามชายแดนเข้าไปฝั่งพม่า เป็นจุดที่กลุ่มไทใหญ่เค้าอยู่กันที่นั่น ถามหน่อยว่า ใครจะกล้าหน้าแหลมเข้าไปได้ ....


(1) เย็น 4 มค นั่งรถทัวร์ไป.....7 โมงเช้าถึงเชียงใหม่....ลงรถมาก็เจอ วนิพกพเนจร ผูกผมจุกซะด้วย ไม่กล้าเข้าไปถ่ายใกล้กว่านี้ กลัวโดนเตะ


(2) 7.30 นั่งรถตู้จากเชียงใหม่ขึ้ดอยไปปาย.....


(3) ยอดดอยที่เห็นลิบ ๆ คลุมด้วยหมอกจาง ๆนั่นคือเมืองปายอยู่บนนั้น


(4) ชะแว๊บ แป๊บเดียวมาถึงทางแยกแม่มาลัย เลี้ยวซ้ายไปนั่นคือทางขึ้นปาย


(5) ทางขึ้นดอย....ลดเลี้ยง เคี้ยวคด ไปตามทางนี้แหละ ระยะทาง 100 กม. รถตู้ใช้เวลาวิ่ง 3 ชม.ครึ่ง...


(6) ประมาณ 9 โมงเช้า ถึงจุดพักรถครึ่งทาง 50 กม.จากเชียงใหม่ (ออก 7.30 มาถึง 9.00 – ชั่วโมงครึ่ง ได้ทาง 50 กม.)


(7) หมอกเริ่มมีแบบจาง ๆ


(8 ) ตรงนี้มีหมอกแยะ.....


(9) ฮี่ท่อ นึกว่าหมอก ที่แท้คนดูดยากาแร๊ต


(10) รถคันนี้คงขึ้นไปที่ค่ายทหาร น่าจะใช่ เพราะเป็นรถทหาร มีค่ายอยู่ที่ปาย


(11) ดอกบัวตองยังพอมีให้เห็นข้างทาง แต่โหรงเหรง ใกล้จะโรยรา


(12) ดอกสวย ๆ ก็พอมีให้เชยชม...มันอยู่ที่คนมอง


(13) ลุยต่อ ตั้งแต่จุดพักรถไปนี้คุณเอ๊ย คนไม่เคยทาง(โค้ง) เตรียมถุงเอาไว้รองของเก่าได้เลย...เพราะรถตู้ ลุยไม่ยั้ง


(14) งีบไปแพล็บเดียว มาถึงสะพานประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นสร้างไว้สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อจะเดินทางจากเชียงใหม่ ผ่านปาย เข้าไปเมืองมะละแหม่ง แดนหม่อง…....จากจุดนี้ อีก 10 กม.ถึงปาย


(15) 11 โมงนิด ๆ มาถึงปายโดยสบายดี....3 ชั่วโมงครึ่งจากเชียงใหม่


(16) เจอเพื่อนเก่าที่เคยพาไปลุย


(17) ตรงนี้เค้าเรียกว่า สี่แยกปายหนาว มีป้ายเขียนบอกไว้ ที่เค้าเคยมาถ่ายหนัง


(18 ) ลูกเค้าบอกว่า จะเอารถเปิดประทุนมารับ มาคราวนี้ ได้นั่งรถ(ซาเล้ง)เปิดประทุน มองได้ 360 องศาสมใจ ขับช้า ๆ หน่อย หนาวว่ะ


(19)

(20)
(19 – 20) สะพานข้ามแม่น้ำปาย มาทีไรก็ถ่ายตรงเนี๊ยะ ก็บ้านอยู่ทางนี้นี่หว่า อีกจิ๊ดเดียวก็ถึงที่พัก แต่ หนาววววววอ่ะ....มุมมองจริง ๆ วิวมันสวย แต่คนถ่ายมันห่วย รูปเลยออกมาไม่ดี


(21)

(22)
(21 – 22) แม่น้ำปายมองไปทางเหนือ กับทางใต้อ่ะจ้า


(23) ถึงป้ายบ้านโฮ่งนี่ ก็แสดงว่าถึงที่พักแล้ว


(24) มีศาลาทรงไทย แต่ฝีมือช่างไทใหญ่ เลยออกมาเป็นทรง ไทยอาหม


(25) ดอกไม้ที่รอวันบาน


(26)

(27)

(28 )
(26 – 28 ) ศาลานั่งเล่น....จะนอนก็ได้ครับ


(29)

(30)
(29 – 30) กระท่อมจันทร์สว่าง ส่วนตั๊ว ส่วนตัว...ใครไปปาย หาที่พีกไม่ได้บอกนะครับ ยินดีสละให้ รับรองว่า หน้าร้อนนอนสบาย หน้าหนาว อาจจะแข็งตาย ..

จะเห็นต้นกล้วยไข่จากไร่กล้อมแกล้มปลูกอยู่ด้านหน้า (เจ๊รองแกขโมยขุดมานะครับลุง ผมแค่คนปลูก )


(31) กล้วยไข่จากไร่กล้อมแกล้ม สุกทั้งเครือ รอรับ ลูกโตเท่ากล้วยหอมละมั๊ง


(32) อาหารมื้อแรกที่ปาย แกงแคสูตรไทใหญ่ ที่ป้าคำยกมาต้อนรับ
....กินให้หมดเลยนะพ่อ

ก็เลยตอบไปว่า......ตะบลือ.....ขอบคุณคร๊าบบบบ...

เห็นพริกในชามแล้ว สะอึก พรุ่งนี้เช้า แสบก้นตายโหงแน่ ๆ กรูเอ๊ย

…เย่อ ซะ เก่อ ยื่อ บะ นา ….ด้วยความคิดถึงเพื่อนสมาชิกทุกคนครับ

ยังไม่จบนิ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 14/11/2015 3:01 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย(2) ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย (2)
ภาค 3 ตอนที่ 1 (1.2) ....6 มค. สัญจรรอบ ๆ ที่พัก


(1)

(2)
(1 - 2) เช้านี้ที่ปาย อากาศเย็นแค่ 16 องศาซีเอง….พอสบาย ๆ


(3) อรุณรุ่ง รุ่งอรุณ ท้องฟ้าสดใส


(4) บรรยากาศก็ดีนะครับ แต่ สำหรับผม มีงานเข้าแล้วละ....ต้องออกกำลังตัดหญ้าอ่ะครับ


(5) ยังเช้าอยู่ จะรีบไปไหน....เข้าเมือง(อำเภอ) หาของกินก่อนมิดีกว่ารึ


(6)

(7)
(6 - 7) เลยบ้านพักมาหน่อย มีคนปลูกข้าว กำลังตากเกสร


(8 )

(9)
(8 -9) จะเข้าเมืองก็ต้องข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปาย ถ้าไม่ไปทางนี้ก็ต้องอ้อมไปอีกทาง


(10) โจ๊กเจ้าอร่อย อยู่หน้าศาลจังหวัด ปาย ครับ


(11) เมนูอิ่น ๆ ก็เหมือนที่อื่น ที่แปลกคือ รายการที่ 7 ไข่ต้มน้ำแร่ ....ใช่แล้วครับ ที่ปายมีบ่อน้ำแร่ หรือบ่อนำร้อนอยู่ที่ ท่าปาย อยู่แถว ๆ สะพานประวัติศาสตร์ ห่างจากปาย 10 กม. ร้อนขนาดว่า ต้มไข่สุกก็แล้วกัน .....ผมถามพี่ไล คนขายว่า....
....ต้องเอาไข่ไปต้มที่ท่าปายเลยหรือ....

คำตอบที่ทำให้ผมหน้าแตกคือ
โง่จิ คายจาอาวข่ายปายโต้ที่น่า....ก็ปายอาน้าที่ท่าปาย ส่ายถา 20 ลี้สอสามถามาเก่ว้า โต้ด้าหลาวา โหม่แล้ก็ปายอาหม่าจิ
(โง่จิ ใครจะเอาไข่ไปต้มที่นั่น ก็ไปเอาน้ำที่ท่าปาย ใส่ถัง 20 ลิตรสองสามถังมาเก็บไว้ ต้มได้หลายวัน หมดแล้วก็ไปเอามาใหม่จิ)


(12) นี่แหละครับ หน้าตาของไข่ต้มน้ำแร่ ใครชอบสีไหนเชิญลิ้มลองครับ ...อร่อยกว่าไข่ต้มน้ำธรรมดาตรงไหน...ตรงที่ ไข่ต้มน้ำธรรมดา ใบละ 5 บาท พอเอาไข่ไปต้มในน้ำแร่ กลายเป็นใบละ 7 บาทไงล่ะ....


(13) ไก่ทอดสูตร ยูนนาน ชิ้นละ 30 เอง ..อร่อยมั๊ย....อร่อยกว่า KFC ก็แล้วกัน


(14) คนอยู่ไม่สุข ตาชอบสอดส่าย....อุว๊าว กระเช้าสีดา หลังร้าน ขึ้นบนหลังคา ไร้คนเหลียวแล แต่งอกงามดีแท้ ๆ ผมเอามาปลูกที่นครปฐม ประคบประหงมซะอย่างดี น้องดา แห้งลง ๆ ในที่สุดก็แห้งตาย....ลุงคิมพูดบ่อย ๆ สายพันธุ์ ดิน น้ำ ลม อุณหภูมิ แสงแดด ....ต้องเพิ่ม ความสูงจากระดับน้ำทะเลด้วยมั๊ง เพราะความหนักเบาของอากาศก็เกี่ยวด้วย


(15) ต้นเฟิร์นในรอยต้นไม้อกแตกหลังศาล...ดูสวยไปอีกแบบ


(16)

(17)

(18 )
(16 -18 ) หาซื้อของฝากหลาน ๆ ที่นครปฐม ซื้อไว้ก่อนที่เงินจะหมด....คนขายบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านพัก รู้จักกัน จากตัวละ 100 เหลือตัวละ 70 ซื้อยกโหล คิด 800 ซื้อเสร็จแวะไปรษณีย์ แพคใส่กล่องส่งกลับนครปฐม ขากลับจะได้ไม่ต้องหอบหิ้ว อีกสามวันหลาน ๆ ก็ได้ใส่แล้ว


(19) ขากลับที่พัก ผมอ้อมไปอีกทางหนึ่ง จะแวะไปหาเพื่อนชาวไทใหญ่ที่ปาย .....ทางลัดต่างจังหวัดจะเป็นแบบนี้แหละครับ คนพื้นที่เค้าใช้เดินไปมาหาสู่กัน เก็บผักหักหญ้าติดมือกลับบ้านเพื่อเป็นอาหาร เดินมาถึงทางสามแพร่ง นาน ๆ มาที จะไปทางไหนล่ะหว่า


(20) ผมจำได้ว่าเคยไปทางซ้าย แต่กลายเป็นทางตันซะแล้ว มีคนมาปลูกบ้านบนเนิน กั้นรั้วซะอีกด้วย


(21) งั้นก็ต้องไปทางขวา ชัวร์ เพราะมีรอยคนย่ำเป็นเทือก แต่ทางเข้าบ้านเค้ารึเปล่าหว่า


(22)

(23)

(24)
(22 – 24) เลี้ยวโค้งออกมาก็เจอแปลงปลูกถั่วเหลือง......ดินก็ดี อากาศก็ดี ความชื้นก็มี...แต่ทำไมถั่วถึงเป็นแบบนี้....เพราะเหตุว่า.....หลังไถทำแปลงแล้ว ฉีดยาคุมฆ่าหญ้าด้วย หมาดำ พิษสงของ หมาดำ ทำให้เป็นเช่นนี้แลฯ ....ผมคุยกับลุงรัตน์ แกบอกว่า พิษของหมาดำ จะตกค้างอยู่อีกนานเป็นปี หญ้าไม่มีขึ้น แต่ก็ปลูกอะไรไม่ได้ผล....

ลุงรัตน์ยังบอกอีกว่า ถั่วแปลงนี้ ถ้าไม่โดนยาฆ่าหญ้า จะได้เงินเป็นแสน....แต่ตอนนี้ก็ได้แล้วมากกว่าแสน....คือแสนสาหัส ไงล่ะครับท่าน....


(25) เลยแปลงถั่วเงินแสนก็เข้าดงไผ่ เจออาหารป่าครับ...แกงป่าก็ได้ ต้มข่าก็ดี....แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ใครจะเป็นคนลงมือทำล่ะ งั้นก็ปล่อยมันไว้อย่างนี้ก็แล้วกัน......


(26)เข้ามาถึงบ้านเกลอ...ไม่มีใครอยู่ แต่ก่อไฟทิ้งเอาไว้...แสดงว่าไปไม่ไกล ผิงไฟเอาไออุ่นซักหน่อยก่อน.....


(27) นั่นแน่....มีปลารมควันซะด้วย...เสียดายไม่ใช่ปลาเทร้าต์ แต่เป็นปลาสวาย....


(28 ) แม่บ้านเพื่อนเกลอมาฝัดข้าวอยู่หลังบ้านนี่เอง แชะ ๆๆๆๆ ยิงภาพไม่เลี้ยง ได้ดีเพียง 1 เดียว ถามแล้วได้ความว่า เกลอผมแกขึ้นดอยไปหา ว่านหัวสืบ เป็นว่านชนิดหนึ่งที่หัวจะแก่ และขุดได้ในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น...เอามาต้มกินน้ำ ทำให้ร่างกายอบอุ่น ผมเคยกินนะครับ คือกินแล้วมันรู้สึกร้อนจนเหงื่อซึมเลยแหละ นี่แหละครับภูมิปัญญาชาวบ้าน ....เมื่อเพื่อนไม่อยู่ก็กลับซินะ


(29) ผมวกกลับออกมาอีกทาง มาเจอต้นไอ้นี่....เค้าเรียกว่า ถั่วแปบ ครับ


(30)

(31)

(32)
(30 – 32) ดอกถั่วแปบจากต้นเดียวกัน แต่มีดอกได้หลากหลายสีสัน ไม่เหมือนกัน เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างครับ


(33) จากดอกก็จะกลายเป็นฝักอ่อน....


(34) ฝักอายุขนาดนี้ครับ ที่เอามายำถั่วแปบ ....ป้าคำแกเคยยำแบบสูตรของไทใหญ่ ใส่อะไรบ้างผมไม่รู้ ที่รู้ก็ต้องมีถั่วแปบเป็นหลัก แกรู้ว่าผมกินเผ็ดไม่ได้ แกยำแบบไม่เผ็ด แต่ให้ผมใส่พริกเอาเอง...มันอร่อยบอกไม่ถูก...



ยังมียำใบมะขามอ่อนอีกอย่าง ที่ป้าคำยำให้ผมกิน มันอมเปรี้ยว อมฝาด ใส่แคบหมูด้วย อร่อยลืมโลกเลยทีเดียว....

หมายเหตุ...คำว่าไท ในความหมาย ของไทใหญ่ จะเขียนว่า ไท เฉย ๆ ไม่มี ย.ยักษ์สะกดว่า ไทย นะครับ ป้าคำบอกว่า ความหมายคือ ความเป็น ไท เป็นอิสระที่ไม่ขึ้นแก่ใคร


(35)

(36)
(35 - 36) เดินเรื่อยมา ก็มาเจอดอกไอ้นี่ คล้ายดอกมะเขือ แต่ไม่ใช่มะเขือ


(37) ไทใหญ่ และคนเหนือเรียก บ่าแข้ง คนไทย เรียกว่า มะแว้ง....กินแก้ไข้ แก้ไอ ดีนักแล แต่ว่า มันขมเหมือนบอระเพ็ด และ ฟ้าทะลายโจร คนไทใหญ่เค้าจะเอาลูกอ่อนดิบ ๆ มาเผาไฟ จิ้มน้ำพริก อร่อยแบบขม ๆ ครับ


(38 ) มือไปกดอะไรที่กล้องไม่รู้...ถ่ายรูปออกมากลายเป็น ขาว – ดำ ไปได้....


(39) กดไปกดมา กลับมีสีออกมาได้อย่างเก่า....ยุค ไอที มันดีอย่างนี้เอง


(40) หยดน้ำค้างที่ขอบใบไม้ เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่อง หยดน้ำนี้ก็จะระเหยหายไป


(41)ก่อนจะออกพ้นรั้วบ้าน มาเจอเจ้านี่...ส้มโอ เลยตะโกนบอกแม่บ้านเพื่อน ...ขอชิมซักแก่นเน๊อ....
คำตอบคือ เก็บเอาเต๊อะ มันส้มหนา....(ส้ม แปลว่า เปรี้ยว ครับ)
ส้มโอ มันก็ต้องมีเปรี้ยวมั่งละน่า เก็บมาปอกกินที่บ้าน เกิดมาไม่เคยกิน ส้มโอบ้าอะไร เปรี้ยวแบบโคตร ๆ เลย เปรี้ยวใช้แทนมะนาวได้เลย....จริงอย่างที่แม่บ้านเพื่อนบอกจริง ๆ ....มันส้มหนา มันก็เลยเปรี้ยวอย่างหนา


(42) แบบนี้เค้าเรียกว่า จูบแล้วจาก ใช่ป่ะ ดูดความหวานจากเค้าไปแล้ว ก็จรจากเค้าไป ...

....การสัญจรวันนี้ก็คงพอแค่นี้ละครับ....บอกตั้งแต่แรกแล้วว่ามีงานที่รอคิวให้ทำ ตัดหญ้า ปลูกต้นไม้ ล้างบ่อน้ำ ขุดทรายในลำเหมือง(ลำธาร) ….

ก็แปลกนะครับ มันเป็นลำธารเล็ก ๆ แยกมาจากธารใหญ่ ไหลผ่านที่ลงแม่น้ำปาย น้ำไหลมาจากบนเขา น้ำที่ไหลก็ดูใสดี แต่น้ำเย็นเจี๊ยบ เวลามีทรายเต็มเหมือง ก็ขุดจนเป็นร่องน้ำลึกกว่าหัวเข่า แต่ไม่ช้าไม่นาน จะมีทรายเอ่อขึ้นมาเต็มอีก ต้องตักทรายขึ้นอยู่เป็นประจำ ไม่รู้ว่าทรายมาจากไหน

ผมคงต้องอยู่อีกหลายวันละครับ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 01/12/2015 8:12 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย (3) ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

3002
สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย (3)
ภาค 3 ตอนที่ 1 (1.3) ....7 มค. ชมภู ทำเซอร์ไพร้ส์

เรื่องที่กล่าวถึงตอนนี้ ผมได้นำรายละเอียดลงไว้ในกระทู้ 4563 (Chompooกระทู้ กล้วยไม้มือใหม่)เมื่อวันที่ 06/02/2015 เพื่อให้เรื่องการพาเที่ยวบ้านกะเหรี่ยงในกระทู้นี้ต่อเนื่องกัน ผมขอนำมาฉายซ้ำพอเป็นสังเขป...หนัง / ละคร บ้านทรายทอง ฉายซ้ำ เล่นซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ยังได้นี่นา




(1) หลังจากผมขึ้นดอยมาได้สองวัน วันที่ 7 มค.58 ตอนบ่ายแก่ ๆ คุณชมภู อุตส่าห์แอบไปหาผมที่ปาย...ดันทะลึ่งทำ เซอร์ไพร้ส์ ไปโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ดีว่ามีห้องว่างเหลือ ไม่อย่างนั้นมีหวังได้นอนกางเต็นท์ รับลมหนาวกันมั่งละน่า ตอนเช้า 15 องศา ตอนกลางดึก คงประมาณ 10 องศา...

...ผมก็เลยหลอกพาขึ้นดอย ลุยดงกะเหรี่ยงโดยไม่บอกล่วงหน้าซะให้เข็ด เจอทางโค้งวกวน เจอหมอกเข้าหน่อยเดียว นั่งสั่นเป็นเจ้าเข้า เงียบเป็นเป่าสาก

..ไปทำเก้ ๆ กัง ๆ ในแดนกะเหรี่ยง เกือบจะโดน แมงมุม-แม่หม้ายดำ งาบไปกินซะแล้ว.....

พาไปดูรั้วบ้านปลูกฟ้ามุ่ย ก่อนพาไปก็บอกแล้วว่า รับรองไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน พอเห็นเข้าจริง ๆ ...พูดเป็นอยู่คำเดียวว่า โอ้โฮ ๆ ๆ

อยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม
..http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4563&postdays=0&postorder=asc&start=75

แล้วพลิกไปที่วันที่ 06/02/2015



(2)


(3)

(2 – 3) คุณชม ภู ถามว่า นี่กล้วยไม้อะไร..กลิ่นหอมอ่อน ๆ
.เป็นกล้วยไม้ป่า ตระกูลแวนด้า ชื่อเข็มขาว มันเกาะอยู่บนต้นไม้ริมทาง การไฟฟ้าตัดกิ่งทิ้ง ไม่มีใครสนใจ ผมเลยเก็บเอามามัดติดกับต้นไม้ปลูกไว้ที่ข้างบ้านพัก...




(4)


(5)



(6)

(4 – 6) ฟักทองญี่ปุ่น.....เนื้อจะบางกว่าฟักทองพันธุ์ไทย เหมือน ปูโพรก เนื้อเละกินไม่อร่อย แต่ค่านิยมคนญี่ปุ่น ต้องกินของญี่ปุ่น ส่วนพี่ไทยต้องกินของนอกถึงจะหะรูหะรา ลูกเท่ากะป๋อย ลูกละ 60 บาท ซื้อฟักทองไทยลูกขนาดเดียวกันนี้ได้ 3 ลูก เนื้อแน่น เหนียวนุ่ม แทบจะไม่มีโพรงตรงกลาง



(7)


(8 )

(7 – 8 ) เมื่อญี่ปุ่นชอบกินของญี่ปุ่น เราก็เก็บเมล็ดเอาไว้ปลูก เพื่อขายให้ญี่ปุ่นที่มาเที่ยวปาย แต่เวลาเราจะกินฟักทองก็ซื้อฟักทองไทยกิน มันอร่อย เหนียวนุ่มอร่อยลิ้นกว่ากันแยะ....




(9)


(10)


(11)


(12)


(13)

(9 – 13) คุณชม ภูถามว่า นี่มะนาวอะไร ดกจัง ลูกใหญ่น่าดู....กระซิบ ๆ ....อย่าไปบอกใคร..นี่มะนาวผมตอนกิ่งมาจาก RKK เอามาทดลองปลูกขยายพันธุ์ที่ปาย ออกดอกลูกดก ที่เห็นนี่ยังไม่แก่ เปลือกหนายังกับครก ไม่ต้องฉีดฮอร์โมน ออกลูกทั้งปี ลูกใหญ่มาก...กินไม่ทัน ไล่แจกคนแถวนี้ จนเวลาคนเดินผ่านบ้าน เค้าจะเดินก้มหน้าไม่กล้าสบตา กลัวโดนแจกมะนาว ....

นี่ นั่น โน่น และ นู่น มาจาก RKK ทั้งนั้น ถามน้าทิดจริง ๆ ว่า มีอะไรที่ไม่ได้มาจาก RKK มั่ง
...ก็ผมนี่ไง ...คืองี้นะ ผมเคยซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์สี่ มาปลูก ออกลูกมามันกลายเป็นน้ำดอกอุตพิษ ผมไปที่ RKK ขอลุงตอนกิ่งมา ยังไง ๆ ก็ได้พันธุ์แท้ เอาไว้ตอนกิ่งแจก...แบ่ง ๆ กันไป อย่างน้อย ๆ พันธุ์จาก RKK ได้มาเบ่งบานอวดโฉมถึงยอดดอย


ทำไมไม่ตอนขายล่ะ....
โห คุณท่าน....ผมได้มาฟรี ๆ ผมอายตัวเองที่จะตอนขาย...อีกอย่าง ถ้าขายแล้วก็จบแค่นั้น แต่การแจกเป็นการแบ่งปัน มีอะไรแปลก ๆ ก็มาแลกกัน ผมได้เพื่อน มันอบอุ่นกว่าได้เงิน ปากต่อปาก เค้าบอกต่อ ซึ่งมีหลายเผ่าพันธุ์ กะเหรี่ยง ไทใหญ่ ลีซู มูเซอ ยูนนาน จากเวียงเหนือ ถึงตาลเจ็ดต้น แม่นาเติง ท่าปาย มีศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์อยู่ที่แม่นาเติง ตอนกิ่งแล้วก็เอาไปฝากอาจารย์ไว้ที่ศูนย์ฯ ใครอยากได้ก็หยิบเอาไป แค่กิ่งพันธุ์กิ่งเดียว ผมไปไหนไม่อดตาย แวะกินข้าวได้ทุกเผ่า


(14)


(15)


(16)


(17)



(18 )


(19)


(20)

(14 – 20) Mulburry หม่อนกินลูก ต้นนี้ได้กิ่งพันธุ์มาจากโครงการหลวง ดอยไหนจำไม่ได้ ลูกสาวเป็นคนเอามาให้ปลูก ...ออกลูกตลอดปี กิ่งที่อยู่เตี้ย ๆ ถ้ามีลูกสุกดำไม่ทันเด็ก ตอนเช้า ๆ เด็กเดินไปโรงเรียนผ่านมาก็เก็บที่ดำ ๆ ไปกิน ขากลับตอนเย็น มันก็เก็บกันอีกรอบ



(21)



(22)

(21 – 22) ลูกที่มันอยู่สูง เด็กเก็บไม่ถึง ....ผมเก็บเอาไปทำน้ำปั่น ช่อที่เป็นสีแดง ยังไม่แก่ แต่เด็กมันเก็บช่อสีดำ มือคงไปโดนช่อสีแดงมันร่วง ผมเก็บรวม ๆ มา เอาลงเครื่องปั่น ใส่เกลือนิด น้ำตาลหน่อย เปรี้ยวเค็มหวานสามรส..กินแล้วรสชาดเป็นยังไง....ต้องถามคุณ Chompoo

โห น้า ฝีมือหม่อนปั่นของน้าเด็ดจริง ๆ ผมลุกเข้าห้องน้ำทั้งคืน แต่ดีนะ ผมไม่ได้ขับถ่ายมาสามวันแล้ว....

จะเอา Lemon Soda ปั่นแถมอีกซักแก้วมั๊ยล่ะ รับรอง วิตามิน ซี เพียบ
พอเหอะน้า แค่นี้ก็หมดแรงแล้ว ว่าแต่ว่า วันนี้จะพาผมไปไหนล่ะ....

เออน่า เฉยไว้แล้วดีเอง...



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 15/10/2016 1:28 am, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 02/06/2016 9:12 am    ชื่อกระทู้: ถามปัญหา อาโวกาโดครับ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม

ตอนนี้ ผมอยู่ที่อ.ปาย. ใช้มือถือส่งข้อมูลไม่ถนัด. มีปัญหาถามเรื่องอาโวกาโด. ฝากรูปคุณน้ำส้มมาแล้วครับ.

ขอบคุณครับลุง




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
somboonyang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 27/04/2011
ตอบ: 89

ตอบตอบ: 02/06/2016 10:30 am    ชื่อกระทู้: ลุงแดงถามว่าสาเหตุของผิวที่เป็นลายๆนี่เกิดจากอะไรและขอทราบวิ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
คลิกที่รูป ดูรูปขนาดใหญ่ สมส่วนของรูป :


1.

2.

3.
1-3 อาโวกาโด ที่ปาย. ปลูกมาสี่ปีกว่า ออกลูกเป็นครั้งแรกครับ



4. ลูกนี่แก่. หล่น. แต่ผิวเป็นจุดแบบนี้. ลูกบนต้นก็เป็นแบบนี้ครับ



5. มีรอยไก่จิก ฝานที่เสียออก เนื้อในครับ



6.

7.

8.

9.
6-9 ไม่มีหนอน แต่เนื้อเป็นจุดๆ


สาเหตุ เกิดจากอะไร และขอทราบวิธีแก้ไข
ส่วนลูกเด่าคงปล่อยเลยตามเลย

ขอบคุณครับ...
พิมพ์จากมือถือ ไม่สะดวก ผิดพลาดขออภัย ขอบคุณครับ

หมายเหตุ
ระยะนี้ฝนตก ความชื้นค่อนข้างสูง อุณหภูมิเฉลี่ย กลางคืน 22 กลางวัน 27 องศา. C. มีเมฆครึ้มและแดด สลับกัน



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 02/06/2016 11:57 am    ชื่อกระทู้: Re: ลุงแดงถามว่าสาเหตุของผิวที่เป็นลายๆนี่เกิดจากอะไรและขอทร ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

somboonyang บันทึก:

.
.

1.

2.

3.
1-3 อาโวกาโด ที่ปาย. ปลูกมาสี่ปีกว่า ออกลูกเป็นครั้งแรกครับ
COMMENT :
ปีแรกยังขนาดนี้
ปีหน้า ปีต่อ ๆๆ ๆๆ ไป จะหนักยิ่งกว่านี้

ไม่มีอะไรที่ไม่มีปัญหา
แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ก่อนเกิด โดย ป้องกันไม่ให้เกิด
ดีกว่า แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เกิดแล้ว แก้คืนอย่างเดิมไม่ได้ เสียแล้วเสียเลย



4. ลูกนี่แก่. หล่น. แต่ผิวเป็นจุดแบบนี้. ลูกบนต้นก็เป็นแบบนี้ครับ
COMMENT :
ทิ้งไปเถอะ.....



5. มีรอยไก่จิก ฝานที่เสียออก เนื้อในครับ
COMMENT :
ทิ้งไปเถอะ.....



6.

7.

8.

9.
6-9 ไม่มีหนอน แต่เนื้อเป็นจุดๆ
COMMENT :
โรคพืชมี 2 แบบ...
- โรคมีเชื้อ .... เกิดจากศัตรูพืช (หนอน แมลง โรค) แก้ไขด้วยการฉีดพ่นสารที่มีสรรพคุณ กลิ่น/รส/ฤทธิ์ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ทั้งป้องกันและกำจัด ตรงตามชนิดของศัตรูพืช

- โรคไม่มีเชื้อ .... เกิดจากการขาดสารอาหาร แก้ไขด้วยการบริหารจัดการปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับพืชตระกูลอะโวคาโด คือ ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค

- การบำรุงต้นให้สมบูรณ์อยู่เสมอ (ความสมบูรณ์สะสม) จะทำให้ต้นสมบูรณ์ นอกจากช่วยให้ต้นเกิดภูมิต้านทานสู้กับศัตรูพืชได้ดีแล้ว ยังช่วยให้ต้นให้ผลผลิตดีอีกด้วย

- ศัตรูพืชชอบเข้าหาพืชต้นที่อ่อนแอมากกว่าต้นที่สมบูรณ์แข็งแรงเสมอ .... ศัตรูพืชที่เข้าไปแล้ว ในต้นที่อ่อนแอจะแพร่ขยายพันธุ์ (สร้างความสูญเสียแก่พืช) ได้มากกว่าและรุนแรงกว่าในต้นที่สมบูรณ์แข็งแรง (สารคดีดิสคัพเวอรี่)

*** ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มีศัตรูพืชประจำเผ่าพันธุ์ วันนี้ยังไม่มีเพราะยังไม่มา
*** ไม่มีสารเคมีใดในโลกนี้ ไม่มีสารสมุนไพรใดในโลกนี้ ไม่มี ไอพีเอ็ม. ใดในโลกนี้ ทำให้ส่วนของพืชที่ถูกทำลายไปแล้ว ฟื้นคืนสภาพเหมือนเดิมได้ เสียแล้วเสียเลย ประมาณนั้น

*** มาตรการที่ดีที่สุด คือ “กันก่อนแก้” เท่านั้น คือ “ป้องกัน” ไม่ให้ปัญหาเกิดนั่นเอง


สาเหตุ เกิดจากอะไร และขอทราบวิธีแก้ไข ส่วนลูกเด่าคงปล่อยเลยตามเลย
COMMENT :
* โรคประจำพืชตระกูลอะโวคาโด :
- โรครากเน่า : คือ ไฟธอปเทอร์ร่า อยู่ในดิน เกิดเองตามธรรมชาติเมื่อดินเป็นกรดจัด ถ้าดินไม่เป็นกรดจัด เชื้อโรคตัวนี้จะไม่เกิด นอกจากไม่เกิดแล้ว ถ้ามีก็ตาย .... ดินที่ไม่เป็นกรดจัด นอกจากไม่เกิดชื้อไฟธอปเทอร์ร่าแล้ว ยังมีประโยชน์อย่างสูงต่อพืชอีกด้เวย

วิธีแก้โดยใช้เชื้อ "ไตรโคเดอร์ม่า (ราเขียว)" เนื่องจากเชื้อไตรโคเดอร์ม่าไม่ถูกกับดินที่เป็นกรดจัด ทันทีที่ใส่ลงไปแล้วเจอดินเป็นกรดจัดเชื้อจะตาย ทั้งๆที่ยังไม่ได้ต่อสู้กับไฟธอปเทอร์ร่าเลยด้วยซ้ำ (อ้างอิง : ดร.จิระเดช แจ่มสว่าง เจ้าของลิขสิทธิ์ไตรโคเดอร์ม่า)

วิธีกำจัดเชื้อไฟธอปเทอร์ร่าที่ดีที่สุด คือ ใส่เชื้อไตรโคเดอร์ม่าตั้งแต่ดินยังไม่เป็นกรดจัด (ใส่ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ และ/หรือ สารปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อกันก่อนแก้) ควบคู่กับปรับสภาพดิน (ลด/ละ/เลิก ใส่ตัวต้นสาเหตุของดินเป็นกรด คือ ปุ๋ยเคมี มากกิน/ผิดสูตร, สารเคมียาฆ่าแมลง, ยาฆ่าหญ้า, น้ำขังค้าง, ฯลฯ แล้วใส่ ปุ๋ยอินทรีย์ จุลินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ) ให้หายจากการเป็นกรดจัดก่อน เมื่อดินหายจากการเป็นกรดจัด เชื้อไฟทอปเทอร์ร่า นอกจากจะตายเองลัว ยังได้จุลินทรีย์ที่ดีมีประโยชน์เกิดขึ้นมาอีกด้วย

- โรคจุดดำหรือแอนแทรคโนส : โรคใบจุดเกิดจากเชื้อรา Diplorcarpon rosae เกิดได้ในเขตที่มีอากาศร้อนชื้น เกิดได้ตลอดปี ทำให้ใบเหลืองร่วง แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว .... ป้องกันกำจัด ปรับทรงพุ่มให้โปร่ง ควบคู่กับฉีดพ่นด้วยสมุนไพร “เผ็ดจัด-ร้อนจัด”

- โรคใบจุด : คือเชื้อรา ปลิวมากับลม มักเกิดกับใบแก่ ถ้าสภาพแวดล้อมเหมาะสมจะขยายกว้างขึ้นเป็นแผลใหญ่ ทำให้ใบแห้ง .... ป้องกันกำจัดโดย ปรับทรงพุ่มให้โปร่ง ควบคู่กับฉีดพ่นด้วยสมุนไพร “เผ็ดจัด-ร้อนจัด”

- โรคแคงเคอร์ : เป็นเชื้อแบคทีเรีย มีแมลงแม่ผีเสื้อเป็นพาหะ ระบาดมากช่วงหน้าฝน เชื้อโรคตัวนี้ไม่ชอบด่าง แนะนำให้ฉัดพ่นด้วยน้ำปูนใส

* หนอน/แมลงศัตรู :
- ด้วงงวงกัดกินใบ : ด้วงคือด้วง กัดกินใบเป็นอาหารเพราะชอบ กลิ่น/รส ของพืชนั้นๆ ป้องกัน/กำจัดโดยฉีดพ่นสารสมุนไพร “กลิ่นจัด/ขม/เบื่อเมา” ก็จะไม่กัดกินเอง

- หนอนผีเสื้อ : หนอนคือหนอน ป้องกันกำจัดโดยฉีดพ่นสารสมุนไพร “ขม-เบื่อเมา”


หมายเหตุ
ระยะนี้ฝนตก ความชื้นค่อนข้างสูง อุณหภูมิเฉลี่ย กลางคืน 22 กลางวัน 27 องศา. C. มีเมฆครึ้มและแดด สลับกัน
COMMENT :
- ฝนตก ความชื้นสูง สถาพอากาศแบบนี้เหมาะสำหรับ "โรค" (รา แบคทีเรีย ไวรัส)
- อุณหภูมิ ระหว่าง 22 กับ 27 ไม่ต่างกัน ศัตรูพืชอะไรที่ชอบอุณหภูมิที่ต่างแบบนี้ ศัตรูพืชตัวนั้นก็จะเกิด ตัวที่ไม่ไม่ชอบก็ไม่เกิด นอกจากไม่เกิดแล้วยังไม่ขยายพันพันธุ์แถมตายอีกด้วย





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
somboonyang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 27/04/2011
ตอบ: 89

ตอบตอบ: 03/06/2016 11:04 am    ชื่อกระทู้: เพิ่มเติม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)




กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 03/06/2016 8:49 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
....


สวัสดีครับลุงคืม


2 รูปหลังสุด
หลังจากลอกเปลือกนอกออกแล้ว รอยขรุขระที่เปลือก ไม่ซึมถึงเนื้อด้านใน ครับ



ขอบคุณครับลุง



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 03/06/2016 9:26 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ชัดเจน นี่แหละ ขาด ธาตุรอง/ธาตุเสริม อย่างรุนแรง
โดยเฉพาะ แม็กเนเซียม. สังกะสี. แคลเซียม โบรอน. น้ำตาลทางด่วน.

พูดอยู่เรื่อยๆ "ความสมบูรณ์สะสม" ไง ได้ให้หรือเปล่า

จะฉีดพ่นด้วยมือ ลากสายยาง สะพายเป้ ..... หรือ
สปริงเกอร์ หม้อปุ๋ยหน้าโซน ถังปุ๋ยที่ปั๊ม ทำครั้งเดียวใช้ได้ตอดชีวิต ถึงลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย อนาคตจะได้มีประเทศไทย

ขายอะโวคาโด (คุณภาพ-ปริมาณ เพิ่ม .... ต้นทุนลด) รุ่นเดียวก็ได้ทุนคืน



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 15/09/2016 2:51 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม และเพื่อนสมาชิก....


ผมกำลังใชความพยายาม โพสต์รูปในกระทู้ที่ขาดหาย ไม่ง่ายเลย...ขอเวลาค่อยทำค่อยไป เท่าที่มีเวลาพอจะทำได้...


ขอบคุณครับลุง



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 15/10/2016 12:07 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(3) 14 ตค.59 ชาวดอยส่งเสด็จฯ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(3) 14 ตค.59 ชาวดอยส่งเสด็จฯ สู่สวรรคาลัย

(3002) ภาค 3 ตอนที่ 1(1.4)




วันที่ 14 ต.ค.59 ทุกที่ทั่วแคว้นแผ่นดินไทย ต่างก็จัดงานพระราชพิธีฯ พระบรมศพ




(1)


(2)


(3)


(4)


(5)


(6)


(7)

(1 - 7) ถึงจะไม่ได้เห็น แต่ก็มากันด้วยใจ เพราะใจสั่งให้ต้องมา มืดฟ้ามัวดิน....อย่าว่าแต่ชาวดินรักในหลวงเลยนะครับ...

.ชาวดอยเค้าก็รักในหลวงเช่นกัน เค้าทำอะไรกันบ้าง




(8 ) เส้นทางอันยาวไกล สู่ยอดดอย



(9)


(10)


(11)


(12)


(13)

(9 – 13) พสกนิกรบ้านน้ำบ่อสะเป่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าลีซูร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห้วสู่สวรรคาลัย เบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ ณ รร.ตชด.บ้านน้ำบ่อสะเป่ ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จว.แม่ฮ่องสอน



(14)


(15)

(14 – 15 ) พิธีกรรมของชาวปกากะญอ




(16) พิธีกรรมของชนเผ่าอีกกลุ่มหนึ่ง



คนไทยทุกคนรักในหลวงครับ....แต่ก็มีบางคนกิดมาเสียชาติเกิด

ขอบคุณภาพถ่าย (1 - 7) จากเฟสบุค
(8 - 16) จากครู รร.ตชด. ครับ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3, 4  ถัดไป
หน้า 3 จากทั้งหมด 4

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©