-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - 10 กุมภา วันแม่เจ็บเจียนตาย
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

10 กุมภา วันแม่เจ็บเจียนตาย

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 17/02/2017 6:15 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
** ลูกผู้ชายสายเลือดทหาร A MAN CALL KIM ZA GASS **




1. รับคำสั่ง ทำทันที ทำดีที่สุด :

26 มี.ค. 37 -10 โมงตรง KIM ZA GASS นายทหารยศ พ.ท. ตำแหน่ง น.ประชาสัมพันธ์ ยืนส้นเท้าชิด มือชิดข้างขา ท่าตรง ด้วยความเคารพ ตามแบบธรรมเนียมทหาร รายงานตัวอยู่หน้าโต๊ะทำงาน พล.ท.สำเภา ชูศรี ผบ.นปอ. เสียงแรกเรียกชื่อ CALL SING แทนชื่อจริงด้วยความรักและสนิมสนมนำขึ้น บนแววตาที่ยิ้มๆ ว่า

ผบ.นปอ. : (เงยหน้ามองหน้า KIM ZA GASS ยิ้ม แล้วพูด) เฮ่ยยยย.... คำสั่ง ทบ.ให้หน่วยที่มีสถานีวิทยุ ผลิตรายการแล้วก็ดำเนินรายการเอง ด้วยกำลังพลของหน่วยเอง เวลามีภารกิจสำคัญเร่งด่วนจาก ทบ. จะได้ทำได้ทันที ไม่ต้องไปขอร้องขอแรงนักจัดรายการพลเรือน .... งานนี้ ตำแหน่งนายทหารประชาสัมพันธ์ รับเนื้อๆ
KIM ZA GASS : (มองหน้าตรงผู้บังคับบัญชา เอ่ยเสียงเบาๆ รับคำสั่ง) .... ครับ

ผบ.นปอ. : วันละ 2 เวลา เที่ยงตรง 1 ชั่วโมง กับ 2 ทุ่มตรงอีกครึ่งชั่วโมง
KIM ZA GASS : (เหลือบสายตามองเอกสารบนโต๊ะ แล้วรับคำสั่ง) .... ครับ

ผบ.นปอ. : เริ่มพรุ่งนี้เลยนะ
KIM ZA GASS : (ก้มหน้ามองพื้น แล้วรับคำสั่ง) .... ครับ

ผบ.นปอ. : (ผบ. เอนหลังพิงเก้าอี้ ยิ้มๆ แล้วให้เสียง) .... จะทำรายการอะไรล่ะ ?
KIM ZA GASS : (เพราะมั่นใจความเป็นนักเขียนเก่า กับอ่านหนังสือสารคดีมาเยอะ เงยหน้าแล้วตอบทันที) .... รายการสารคดีปกิณณกะครับ

ผบ.นปอ. :เอาซี่ เริ่มได้เลยนะ เดี๋ยวหัวหน้าฝ่ายรายการจะจัดผังเวลาให้
KIM ZA GASS : (คิดหนักขึ้น เตรียมเรื่องออกอากาศ แล้วรับคำสั่ง) .... ครับ

ผบ.นปอ. : (ผบ. เรียกซ้ำ) เฮ้ยยย KIM ZA GASS เดี๋ยว....
KIM ZA GASS : (กลับหลังหันทั้งๆ ที่ยังก้มหน้า คิดเรื่องรายการวิทยุ) .... ครับ

ผบ.นปอ. : ทำรายการเกษตรซี่
KIM ZA GASS : (ชัดเจนทุกคำ ดังก้องในหู ประสาททุกส่วนตื่นตัว ได้ยินแล้วคิด เกษตร-เกษตร เกษตร คือ อะไร ? กระนั้นก็ยังรับคำสั่ง) .... ครับ


2. ปรามาส :

26 มี.ค. 37 - บ่ายโมงตรง KIM ZA GASS ยืนเท้าชิด มือชิดข้างขา ท่าตรง ด้วยความเคารพ ตามแบบธรรมเนียมทหาร อยู่หน้าโต๊ะทำงาน พ.อ.หน.ฝ่ายรายการ สถานีวิทยุ พล.ปตอ. น้ำเสียงที่เรียกชื่อ CALL SING แทนชื่อจริงนั้น แฝงด้วยปรามาสแกมเยาะเย้ย ไม่ปรากฏแววตาที่ยิ้มบนใบหน้า เยี่ยงผู้บังคับบัญชาพึงมีต่อผู้ไต้บังคับบัญชา สะท้อนบอกให้เห็นความ “ไม่ชอบขี้หน้า” ชัด

หน.ฝ่ายรายการ : มึงกับกูก็เคยไปรบชายแดนที่อรัญมาด้วยกัน มึงอยากทำรายการวิทยุ ทำไมไม่บอกกูก่อน ข้ามไปบอกนายเลย แล้วกูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ?
KIM ZA GASS : ขออนุญาตครับ ผมไม่ได้อยากทำรายการวิทยุหรอกครับ แล้วก็ไม่ได้ไปขอทำรายการวิทยุด้วยครับ แต่เป็นคำสั่งกองทัพบก ให้หน่วยเราผลิตรายการวิทยุเอง แล้วก็ดำเนินรายการเอง แล้ว ผบ.นปอ.ท่านบอกว่า หน้าที่นี้ตรงกับตำแหน่งของผม ท่านเลยให้ผมรับผิดชอบครับ

หน.ฝ่ายรายการ : (จ้องหน้า KIM ZA GASS เขม็ง ไม่ยิ้ม) .... แล้วมึงเคยทำรายการวิทยุเหรอ ? มึงจะทำได้เหรอ ?
KIM ZA GASS : ไม่เคยครับ

หน.ฝ่ายรายการ : อ้าว แล้วมึงรับปาก ผบ.นปอ. มาทำไม ?
KIM ZA GASS : เป็นคำสั่งก็ต้องรับ ทำไปก่อน ทำได้คือได้ ทำไม่ได้ก็จะมารายงานท่านว่าทำไม่ได้ครับ

หน.ฝ่ายรายการ : (เงียบ เหลือบสายตามองข้างฝา) .... ก็ได้ กูว่าไม่เกิน 3 วัน มึงก็หมดเรื่องพูด
KIM ZA GASS : ครับ

หน.ฝ่ายรายการ : มึงไม่ได้เรียนเกษตรมา มึงมีความรู้เรื่องเกษตรเหรอ ?
KIM ZA GASS : ครับ ตอนนี้ยังไม่มีครับ

หน.ฝ่ายรายการ : แล้วมึงมีแผนการยังไงบ้าง ?
KIM ZA GASS : ยังไม่ทราบเลยครับ ขอผมไปดูลาดเลาที่สถานวิทยุก่อนครับ

หน.ฝ่ายรายการ : ก็ได้ .... ออกไปได้

ภารกิจเดียวกัน เมื่อวานนี้เดินออกมาจากห้อง ผบ.นปอ. ด้วยอาการก้มหน้ามองพื้น สมองหัวใจคิดหนัก เกษตร เกษตร และเกษตร .... แต่วันนี้เดินออกมาจากห้อง หน.ฝ่ายรายการ ด้วยอาการเชิดหน้ามองเพดาน สมองหัวใจคิด เอาชนะ เอาชนะ และเอาชนะ แว้บหนึ่งแห่งอดีตผุดขึ้นมา คำพูดของ พ.ท.วินิต เทศวิศาล ผบ.ปตอ.พัน 4 ว่า “.. คนอิจฉา ดีกว่าคนสงสาร คนอิจฉาเพราะเรามีดีกว่า คนสงสารเพราะเรามีด้อยกว่า..”


3. ON AIR วันแรก :

27 มี.ค. 37 - 10 โมงตรง KIM ZA GASS ในเครื่องแบบปกติ เยื้องกายเข้าสู่สถานีวิทยุ พล. ปตอ. อาคารไม้สักเก่า อายุกว่า 50 ปี สร้างมารุ่นเดียวกันกับบ้านพักนายทหารระดับผู้ใหญ่ และบ้านพัก ร.ท.เจ้าฟ้าประชาธิปรก (ร.7) เมื่อครั้งยังไม่ได้รับการสถาปนาให้เป็นพระมหากษัตริย์

แม้จะรับราชการอยู่ในรั้วเดียวกัน แต่เป็นคนละหน่วย คนละหน้าที่ความรับผิดชอบ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเข้ามาในหน่วยนี้ ทันทีที่เข้ามาก็พบกับอัทธาศรัยของทหารเพื่อนรุ่นน้อง นักจัดรายการวิทยุที่เป็นพลเรือน ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย

ทุกอนูแห่งบรรยากาศในสถานีวิทยุ ท่ามกลางเสียเพลงลูกทุ่งที่กำลังแพร่คลื่นอยู่นั้น หัวใจ KIM ZA GASS เต้นตูมๆ ๆๆ เกษตร-เกษตร เกษตร คือ อะไร ? ใจลอยสะบัดตัวเองนั่งบนเก้าอี้หน้าห้อง ON AIR ขณะเห็นนักจัดรายการกำลังเจื้อยแจ้วแว่วเสียงเพลงแคนอิสาน มือฉวยได้ น.ส.พ.เดลินิวส์ ข้างตัว แล้วพลิกด้านในด้วยความเคยชินมากกว่าเจาะจงเจตนา ทันใดนั้นก็พบคอลั่มน์การเกษตร ของชมรมเกษตรธรรมชาติ เขียนโดย อ.ดีพร้อม ชัยวงค์เกียรติ แล้วบอกกับตัวเองทันที นี่ไงเกษตร นี่แหละเกษตร นี่คือเกษตร ปากไวกว่าความคิด สั่งเพื่อนรุ่นน้องประจำสถานีวิทยุทันที

“.... เอาหนังสือพิมพ์เก่า ทุกฉบับ ทุกวัน มาให้หน่อย...”

ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า น.ส.พ.รายวันอย่าง เดลินิวส์ ไทยรัฐ แนวหน้า มติชน จะมีคอลั่มน์การเกษตรอยู่ในนั้น มากบ้างน้อยบ้างก็ว่ากันไป รวมแล้วกว่า 10 กรอบ

เที่ยงตรง ถึงเวลา ON AIR จนท.ควบคุมเสียงเปิดสวิทช์โชว์สัญญาณไฟ พร้อมกับพยักหน้าให้สัญญาณ “เริ่มได้” .... บอกตามตรงว่า ไม่มีอาการตื่นเต้นหรือประหม่าใดๆ

“....สร้างสันสังคม ส่งเสริมคนดี พัฒนาชีวิตให้มีคุณภาพ.... สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก....ฯลฯ....”

มือใหม่หัด ON AIR จริงๆ มารู้ทีหลังว่า เสียงพลิกหน้ากระดาษ น.ส.พ. ดังคว่ากๆ ออกอากาศดังไปทั่วประเทศ เรื่อง 1 กรอบใช้เวลาอ่านราว 3-5 นาที เบ็ดเสร็จใช้เวลาราวครึ่ง ชม.กว่าๆ เรื่องที่จะอ่านหมดแล้วแต่เวลายังเหลือ ต้องสวมวิญญาณกามนิตหนุ่ม เอากรอบเก่ามาอ่านซ้ำทันที กระทั่งหมดเวลาจนได้ .... ออกจากห้อง ON AIR จนท.ควบคุมเสียงบอก

“.... ผู้พัน เปิดเพลงคั่นระหว่างเรื่องก็ได้นี่ครับ...”
“.... ดี ได้ THANK YOU .... กูรู้ละ พรุ่งนี้เอาใหม่ ....”



4. หนังสือ คือ โรงเรียน :

27 มี.ค. 37 - บ่าย 2 โมง KIM ZA GASS ในเครื่องแบบครึ่งท่อน ปรากฏร่างขึ้นที่ “แพร่พิทยา” ถิ่นเก่ามาประจำติดตามข่าวแวดวงหนังสือ ร้านขายหนังสือในห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ด้วยเวลาที่รวดเร็วราวแมลงกระพือปีกก็ได้พบกับ เกษตร เกษตร และเกษตร

ไม้ผล50มะ ผักสวนครัว30ผัก พืชไร่20พืช ไม้ดอกไม้ประดับ30ดอก ไม้ใช้สอย20ต้น นาข้าว นาบัว นากะเฉด นาแห้ว สารพัดเห็ด สารพัดสัตว์น้ำกุ้งหอยปูปลากบเต่าจระเข้ตะพาบ สารพัดสัตว์บกวัวควายไก่เป็ดห่านนกหนูหมูหมาม้าเก้งกวางนกกระจอกเทศ

จาก ... พืช-สัตว์-เห็ด สดใหม่จากฟาร์ม มาสู่ “แปรรูป” สร้างมูลค่าเพิ่ม ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ
จาก ... รูปแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน มาสู่ เทคโนโลยีชาวบ้าน และเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์
จาก ... แนวคิดแบบชาวบ้านๆ ทำแค่พออยู่พอกิน มาสู่ ทำขาย มุ่งเอากำไรเป็นหลัก

ทั้งที่เป็น POCKET BOOK เป็น MAGAZINE น่าสนใจอย่างมาก คือ หนังสือตำราเรียนระดับมหาลัย นี่คือ เกษตรทั้งนั้น แค่วันแรกซื้ออย่างละเล่มๆ สิริรวมแล้วเป็นเงินเกือบ “ครึ่งหมื่น” ต้องพึ่งรถเข็น 4 คัน กับเด็กในห้างเอาของมาส่งที่รถ

อีก 3 วันไปแพร่พิทยาอีกครั้ง ทำ CHECK LIST หนังสือที่มีแล้ว กับหนังสือเล่มที่ยังไม่มี แล้วซื้อมาอีก ก็แค่อย่างละเล่มๆ เหมือนกัน จึงไม่แปลกที่ค่าใช้จ่ายก็ต้องเกือบ “ครึ่งหมื่น” เหมือนกัน

วันแรกครั้งแรกของการออกอากาศเมื่อตอนเที่ยงนั้น สาระน้อยเวลามาก ถึงค่ำวันนี้ตอนสองทุ่ม เป็นการออกอากาศครั้งที่สอง รู้เลยว่า เวลาน้อยแต่สาระมาก จนท.ควบคุมเสียงปรารถนาดี เตรียมแผ่นเพลงไว้ กะเปิดแทรกระหว่างห้อข้อเรื่อง ครั้นเอาจริงเข้า จนท.ควบคุมเสียง ถึงกับเซ่อกิน เพราะเวลาครึ่งชม.ไม่พอให้พูด (อ่าน) บางครั้งบางเรื่องต้องต่อมื้อรุ่งขึ้น ต่อ 2มื้อ ต่อ 3มื้อ

ตั้งแต่ก่อนวันแรกจะ ON AIR เคยถูกปรามาสว่า “.... กูว่าไม่เกิน 3 วัน มึงก็หมดเรื่องพูด...” นั้น ขนาดระหว่างพูดไม่มี เอ้อนะครับอ้า-อ้านะครับเอ้อ จนถึงวันนี้แล้วก็วันต่อๆไป รวมเวลากว่า 2 ทศวรรษ เวลายังไม่พอให้พูดเลย .... ไม่ได้โม้มมมม

หนังสือที่เขียนโดย ดร. ที่สอนในมหาลัย เมื่อเราอ่านหนังสือเล่มนั้น เท่ากับเราได้เรียนกับ ดร. ท่านนั้นเช่นกัน .... ใช่มั้ย

เรียนในมหาลัยมี ดร.มาสอนเพียงท่านเดียว แต่เราอ่านหนังสือที่เขียนโดย ดร. 10 เล่ม เท่ากับได้เรียนกับ ดร. 10 ท่าน .... ใช่มั้ย


5. วางปืน จับมีดจับจอบ :

วันไหน เดือนไหน ปีไหน จำไม่ได้ ไปธุระที่อิสาน บนเส้นทางผ่านถือโอกาสย้อนกลับไปหาเพื่อนเก่าที่บ้านภูผีโห่ กุฉินารายณ์ กาฬสินธุ์ วันนี้เพื่อนเรามีลูกสาว ชื่อ “เหวิ่ง” อารมณ์ดี พูดคำหัวเราะคำ อาชีพทำเกษตรผสมผเส ใครปลูกฉันปลูก ใครไม่ปลูกฉันไม่ปลูก ปลูกขาย ปลูกกิน

สาวเหวิ่ง : พ่อบอกว่า เมื่อตอนหนุ่มๆ ลุงเคยมาปราบ ผกค. ที่ภูผีโห่ด้วยเหรอ ? ฉันเกิดไม่ทัน เล่าให้ฟังหน่อยเซ่
KIM ZA GASS : พ่อมึงก็รู้ดี เพราะเป็น ทส.ปช.ของที่นี่ ปฏิบัติการด้วยกัน เลยรู้จักกันดีมาตั้งแต่ตอนหนุ่มๆ ลุงมาตั้งฐานรถถังอยู่ที่นี่ร่วม 3 เดือนมั้ง มี ตชด.ร่วมด้วยนะ จำได้ตอนนั้นลูกทีมทหารคนนีง ชื่อจ่ารำไพ ลาดตระเวนไปถึงภูผีโห่ เข้าไปในถ้ำแล้วได้พระมาด้วย สงสัยถ้ำนั้นคงจะเป็นกุพระเก่านะ

สาวเหวิ่ง : ป่านนี้คงหมดแล้วหละลุง .... ลุง พ่อบอกว่าลุงเก่งเรื่องเกษตรมาก งั้นขอปรึกษาหน่อยว่า กาฬสินธุ์ปลูกอะไรดี ?
KIM ZA GASS : ปลูกกินหรือปลูกขาย ?

สาวเหวิ่ง : (ท่าทางเอาจริง) ทั้งกินทั้งขาย เอาสองอย่างเลย
KIM ZA GASS : (หัวเราะในลำคอ) ไม่ค่อยงกเลยเนาะมึงเนี่ย .... ปลูกกินถามคนในบ้าน ปลูกขายถามคนซื้อ

สาวเหวิ่ง : (ทำคิ้วย่น) ทำไมต้องงี้ด้วยล่ะลุง
KIM ZA GASS : อ้าว....ปลูกกิน ถ้าคนในบ้านไม่ชอบกิน แม่บ่นจนไม้ต้นนั้นตาย ปลูกขาย ถ้าไม่มีคนรับซื้อไปขายต่อ คนปลูกก็บ่นจนไม้ต้นนั้นตาย ไงล่ะ

สาวเหวิ่ง : แล้วกาฬสินธุ์ปลูกมะพร้าวน้ำหอมได้ไหม ?
KIM ZA GASS : ได้ แต่ต้องมีน้ำ มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวแกง ต้องการน้ำมาก ทำสวนยกร่องน้ำหล่อ แล้วให้น้ำหมักกล้อมแกล้มประจำๆ เดี๋ยวดีเอง

สาวเหวิ่ง : ลุง ข้าวหอมมะลิอิสาน ทำยังไงถึงจะได้มากๆ เท่าที่ลำพูน พิจิตร ?
KIM ZA GASS : ง่ายนิดเดียว ก็ทำแบบเขาซี่

สาวเหวิ่ง : ลุงรู้เหรอ เขาทำยังไง
KIM ZA GASS : ที่ลำพูนไม่รู้ แต่ที่พิจิตร แล้วก็ที่สามพราน นครปฐม อันนี้รู้ เพราะเขาทำตามที่ลุงบอก

สาวเหวิ่ง : (หยิบกระดาษ ปากกา เตรียมจด) ทำไงล่ะลุง บอกหน่อยซี่
KIM ZA GASS : บอกมากๆก็ได้ แต่ต้องมีเวลา เปิดเน็ตแล้วทำตามโผซี่

สาวเหวิ่ง : ลุง อยากให้ผักกาด ผักคะน้าโตเร็วๆ ใช้ปุ๋ยตัวไหนดี ?
KIM ZA GASS : 21-7-14 + นมสด อย่าลืม + ยาสมุนไพรด้วย ทุก 5 วัน เดี๋ยวโตเอง

สาวเหวิ่ง : ปุ๋ยสูตรนี้ใช้อยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ลองใส่นมสดด้วย .... ลุง ไก่ชนพ่อชอบเป็นโรคห่าทุกปีเลย เอาสมุนไพรตัวไหนดีล่ะ
KIM ZA GASS : บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร ลูกไต้ใบ เสลดพังพอน เอามาต้มน้ำ แล้วเอาน้ำต้มนั้นให้ไก่กินตั้งแต่เป็นลูกเจี๊ยบเลย .... สูตร อ.ดีพร้อม ชัยวงศ์เกียรติ

สาวเหวิ่ง : (เหลียวไปมองหน้าพ่อ แล้วหันมาถามต่อ) ลุง ทำยังไงเกษตรกรถึงจะรวย ?
KIM ZA GASS : (หัวเราะในลำคอ) ก็ขายแล้วให้มันได้กำไรเยอะซี่ ก็วันนี้มันขายแล้วขาดทุน ทั้งขาดทุนจริงๆ ขาดทุนกำไร แล้วจะเอาที่ไหนมารวยล่ะ

สาวเหวิ่ง : (เหลียวไปมองหน้าพ่อ แต่ไม่พูดอะไร)
KIM ZA GASS : มึงไม่ต้องไปมองหน้าพ่อมึงหรอก ที่พ่อมึงเป็นหนี้ทุกวันนี้ก็เพราะเอาเงินมาเลี้ยงมึงนี่แหละ

สาวเหวิ่ง : ลุงไม่ต้องพูด .... หนูถามหน่อย ลุงเป็นทหาร ทำไมไม่รบต่อ นี่มันเหมือนลุงวางปีนแล้วมาจับเกษตรแทน ลุงชอบเกษตรเหรอ ?
KIM ZA GASS : อืมมม ที่ไม่รบ ก็เพราะไม่มีข้าศึกมาให้รบด้วย ส่วนเกษตรเนี่ยเพราะเป็นคำสั่ง แบบนี้เขาเรียกว่า วางปืน จับมีดจับจอบ ไงล่ะ

สาวเหวิ่ง : ก็ดีนะลุง ช่วยเหลือเกษตรกร
KIM ZA GASS : ถ้าคิดว่าดีก็จงทำ ทำให้รวยก่อนที่ลุงกับพ่อตาย


6. สำคัญที่ใจ :

เหมือนลงสนามแข่งขันโดยไม่ผ่านรอบชิงเหรียญทองแดง เหรียญเงินมาก่อนแต่ลงแข่งรอบ FINAL ชิงเหรียญทองเลย เปรียบดั่งคนไม่ได้เรียนเกษตรมาโดยตรง แล้วมาทำงานส่งเสริมการเกษตรผ่านรายการวิทยุ ที่มีแต่เสียงไม่มีภาพเหมือน ทีวี. โดยมีเกษตรกรผู้ฟังเป็นเป้าหมาย เกษตรกรเขาไม่รู้หรอกว่า ผู้ส่งเสริมเป็นใคร มาจากไหน มีความพร้อมเพียงใด ข้อมูลเรื่องราวที่ออกอากาศไปนั้น ผิด/ถูก ใช่/ไม่ใช่ เขาไม่รู้ แต่เขาทำตามทันที บางคนประสบความสำเร็จ บางคนล้มเหลว ผู้ส่งเสริมก็แยกไม่ออกอีกว่า ระหว่าง “ความสำเร็จกับความล้มเหลว” อะไรเป็นสาเหตุ

เพราะประวัติชีวิตการทำงานไม่เคยล้มเหลว ทุกอย่างประสบความสำเร็จ แม้ไม่มากก็ถือว่าสำเร็จตามนโบยบายที่ ผบ.ชา กำหนด มางานนี้ เกษตรกรที่ล้มเหลวเป็นดั่งหนามไผ่ทิ่มแทงใจ หลายครั้งอยากบอก “ศาลา” ขอเลิกแล้วกลับไปนั่งโต๊ะทำงานที่เก่า

พลันเหมือนเสียงคำพูดที่เต็มไปด้วยกำลังใจจาก ผบ.นปอ.สั่งการ “ทำรายการเกษตรซี่ ทำรายการเกษตรซี่....” กับเสียงคำพูดที่เต็มไปด้วยคำปรามาสจาก หน.ฝ่ายรายการ “กูว่า ไม่เกิน 3 วัน มึงก็หมดเรื่องพูด....” สะท้อนเข้ามาในจิตรสำนึกของลูกผู้ ชายชาติทหาร

เลือดชายคนนี้มีพ่อเป็นทหาร มีตาเป็นทหาร เรียนชั้นประถมจากโรงเรียนในกรมทหาร เรียนมัธยมจากโรงเรียนใกล้กรมทหาร เรียนจบมัธยมข้ามภูเขาไปเรียนโรง เรียนนายสิบทหารปืนใหญ่ จบโรงเรียนทหารปืนใหญ่ทำงานหน่วย 1 ปี สอบแข่งขันไปรบเกาหลี กลับจากเกาหลีไปรบเวียดนาม รบลาวต่อ เสร็จจากรบลาวมารบกับ ผกค.ในประเทศศึกแรกที่หินร่องกล้า รบไปเรื่อยๆกระทั่ง “ศึกร่มเกล้า” เป็นศึกสุดท้าย

คิด/วิเคราะห์ : ไม่มีช่วงใดของชีวิตเกี่ยวข้องกับการเกษตรเลย....ระหว่างรับราชการทหารมีการศึกษาเพิ่ม
วิทยะฐานะ เฉพาะหลักสูตรที่น่าจะ (เน้นย้ำ...น่าจะ) เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร อาทิ หลักสูตรปฏิบัติการจิตรวิทยา นายทหารกิจการพลเรือน รบร่วมอากาศพื้นดิน

คิด/วิเคราะห์ : ไม่มีหลักสูตรใดเกี่ยวข้องกับการเกษตรเลย...คำถามใหม่เกิดขึ้นมา มนุษย์เงินเดือน ทำงานบริษัท โรงงาน ไม่ได้ร่ำเรียนวิชาที่ตรงกับงานที่ทำ แล้วทำไมประสบความสำเร็จอย่างสูงได้....กับคนที่เรียนมาทางทหารแล้วมาทำงานด้านเกษตร จะประสบความสำเร็จไม่ได้....”

ใครก็ตามที่อ่านหนังสือออก ลองไปอ่านหลักการบริหาร 6M เสริมด้วยหลัก SMART FARM แล้ว คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ/ประยุกต์ โดยมีเกษตรเป็นตัวตั้ง ก็สามารถประสบความสำเร็จในงานเกษตรได้


7. ไตรมาสแรกของงานส่งเสริมการเกษตร :

จากสโลแกนของตัวเอง รับคำสั่ง-ทำทันที-ทำดีที่สุด ถึงคำสั่ง ผบ.นปอ. ที่ ส่ง เสริม/สนับสนุน ให้ผู้ไต้บังคับบัญชาทุกคนทุกระดับชั้นได้ใช้ความสามารถจนเต็มที่ กระทั่งสำเร็จภารกิจ กับ หน.ฝ่ายรายการ สถานีวิทยุ ผู้มีอคติหรือไม่ชอบขี้หน้าเป็นต้นทุน เมื่อเข้ามาจับงานนี้แล้วควรเดินหน้าตาม ผบ.นปอ. หรือถอยหลังตาม หน.ฝ่ายรายการ จะเป็นด้วยนิสัยประจำตัว หรือเพราะกรรมเก่าก็สุดแท้ งานนี้ คิดเอง-ทำเอง-ถามเอง-ตอบเอง KIM ZA GASS ตัดสินใจแน่วแน่เดินหน้าบนเส้นทางเกษตร

ทุกวัน วันละ 24 ชม. ต่อเนื่องอาทิตย์ละ7 วัน ถึงเดือนละ 30 วัน พูดในวิทยุวันละ 2 ชม. เที่ยงค่ำ กับอ่านอ่าน และอ่าน วันละ 10-15 ชม. ตัดเวลากินขี้ปี้นอนออกเท่านั้น

สัจจะธรรมจากการอ่านที่ไม่อาจปฏิเสธ คือ ยิ่งอ่านมาก ยิ่งรู้น้อย-ยิ่งไม่รู้มาก นั่นคือ รู้แค่ที่อ่าน อ่านกี่เล่มกี่เรื่องก็รู้แค่นั้น แต่เล่มหรือเรื่องที่ยังไม่ได้อ่านก็คือยังไม่รู้ ที่ยังไม่ได้อ่านปริมาณจำนวนมันมากกว่า มากมายมหาศาล นี่คือ LEARNING ALL THE LIFE การเรียนรู้ต้องตลอดชีวิต นั่นเอง


บนความไม่รู้แล้วอยากรู้ จึงเกิดคำถาม ยิ่งอ่านยิ่งเจอคำถาม อาทิ :

หัวใจของการเกษตร .............................................. คืออะไร ? อยู่ที่ไหน ?
อาหาร คน-สัตว์-พืช-จุลินทรีย์ ................................... ตัวเดียวกันหรือไม่
คนมีปัจจัย 4 เพื่อการดำรงชีวิต ................................... มีปัจจัยอะไรบ้าง ?
สัตว์-พืช มีปัจจัยเพื่อการดำรงชีวิต ................................ มีปัจจัยอะไรบ้าง ?
พืชมีวงจรชีวิตการเจริญเติบโตที่แน่นอน ........................... อย่างไร ? หรือไม่ ?

ปุ๋ยมีกี่ชนิด ? กี่ประเภท ? กี่สูตร ? กี่แบบ ? ...................... ?
ปุ๋ยตัวเดียวกันกับพืชเดียวกัน คนหนึ่งใช้ได้ผล คนนึ่งใช้ไม่ได้ผล .... เพราะอะไร ?
ปุ๋ยใส่ลงดิน จุลินทรีย์ใส่ลงดิน เหมือนกันหรือต่างกัน ................ อย่างไร ?

ทำแล้วขาย ขายแล้วขาดทุน เพราะอะไร ? ......................... แก้ไขอย่างไร ?
ที่พูด พูด และพูด ออกอากาศทุกวัน ๆละ 2 เวลา .................. ผู้ฟังรู้เรื่องมั้ย ?
ส่งเสริมทหาร กับส่งเสริมเกษตร ต่างกันหรือเหมือนกัน .............. ตรงไหน ?
ทุกคำถามมีคำตอบ ................................................. อยู่ที่ไหน ?

หะแรก ต้องการที่ 50 ไร่ สู้ตะลอนๆ ไปหลายที่ทั่วประเทศ ได้รู้ยุทธจักรเจ้าของที่ดิน หลากหลายรูปแบบ เห็นแล้วรู้แล้ว ให้ฟรียังไม่เอาเลย กระทั่งมาเจอะเจอที่ดินไร่กล้อมแกล้ม มีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนด ติดจำนอง ธ.ก.ส. ก่อนตอบตกลงซื้อ ไปกับ 5 สิงห์กล้อมแกล้ม ดูสภาพที่ดิน สิ่งแรกที่มองหา คือ “น้ำอยู่ไหน น้ำอยู่ไหน น้ำอยู่ไหน....?” กระทั่งเห็นน้ำ น้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ น้ำบาดาลไต้ดิน มีตลอดปีแน่นอน จึงตัดสินใจฟันธงซื้อแปลงนี้ ซื้อเงินสดไถ่ถอนจาก ธ.ก.ส. มูลค่าล้านห้าถ้วนๆ ....

ที่ดินแปลงนี้ ชาวบ้านย่านนั้นซุบซิบบอกด้วยความหวังดีหรือหวังร้ายก็ไม่รู้ว่า ที่ดินแปลงนี้ให้เช่าทำนา ค่าเช่าไร่ละถัง ไม่มีใครเช่า เพราะดินตรงนี้ปลูกข้าวไม่ได้ ปลูกอะไรก็ไม่ได้ ดินมันไม่ดี ด้วยระยะเวลาเพียง 3 ปีผ่านไป ชาวบ้านที่เคยบอกว่า ปลูกข้าวไม่ได้ ปลูกอะไรก็ไม่ได้ ดินก็ไม่ดีนั้น ต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่ ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง “ผู้พันทำได้ยังไง....” ทุกอย่างเป็นอย่างที่เห็นๆ ณ วันนี้กับระยะเวลาขึ้นปีที่ 6 นี่แหละ

จากประวัติการศึกษา ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรเลย แต่วันนี้พูดเรื่องเกษตร ชนิดไม่มีเอ้อนะครับอ้า ไม่มีอ้านะครับเอ้อ 3 วัน 7 คืนได้ เขียนหนังสือเป็นเล่มๆได้ เพราะการอ่าน อ่าน อ่าน นี่แหละ คุณเรียนจบปริญญาสอนโดยศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ที่หน้าห้อง แต่ลุงคิมอ่านหนังสือที่ศาสตราจารย์ดอกเตอร์ท่านนั้นเขียน อ่านที่บ้าน อ่านในแปลงเกษตร คุณว่ามันต่างกันตรงไหน ลุงคิมไม่ได้อ่านแค่หนังสือของศาสตราจารย์ดอกเตอร์ท่านนั้นเขียนคนเดียว อ่านอีก 10 ศาสตราจารย์ดอกเตอร์ คุณว่า มิเหนือกว่ารึ ผมว่างานส่งเสริมการเกษตรที่คุณทำกับที่ผมทำคงไม่ต่างกัน ผมเคยตะลอนๆไป สอนเกษตรกรถึงที่ เรียกว่า "โครงการสีสันสัญจร" ประมาณ 10 ปี เคยไปอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน แยกจากถนนพหลโยธินไป 50 กิโล 500 โค้งข้อศอก เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง งานนี้สอนเสร็จโดนพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยด่าเสียคน "อู้อันหยังบ่อฮู้เฮื่อง มีแต่ปาษาปะกิ๊ด" คุณคิดดู วิชาเกษตรไม่มีภาษาไทย มีแต่ภาษาอังกฤษ ผมทดลองให้พ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยพูดตาม "ฟอสฟอรัส ไฟธอปเทอร์ร่า" เอาแค่พูดตามยังพูดไม่ได้เลย แล้วคุณจะสอนเขายังไงให้รู้เรื่อง แค่พูดตามยังพูดไม่ได้

งานนี้ต้องคิดใหม่ ในเมื่อการพูดเฉยๆ TALK SHOW ให้เขาฟัง มันเหมือนเขียนหนังสือบนอากาศให้คนอ่าน เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ขั้นพื้นฐาน ปัญหานี้ "คนสอน" ต้องปรับตัวเอง ปรับตัวเข้าหาคนรับการสอน คือ ครูปรับตัวเข้าหานักเรียน ว่าแล้วก็เปลี่ยนวิธีการสอนแบบวิชาการมาเป็นการปฏิบัติแทน สอนให้ทำกับมือเลย เรียกว่า "LEARNING BY DOING" การปฏิบัตินำ วิชาการเสริม ทุกเรื่องทุกขั้นตอนมีอุปกรณ์ประกอบการสอนครบ ปัญหาภาษาอังกฤษปล่อยไป บ้านคุณเรียกว่าอะไรก็ให้เรียกตามนั้น O.K. ม้ั้ย


8. บารมีพระองค์ดำ :

ช่วงหนึ่งของชีวิตลูกผู้ชายคือ “บวช” ภารกิจชีวิตนี้ คิม ซา กัสส์ ได้ประพฤติ เมื่อครั้งยศทหาร ส.อ. อายุ 25 ปี เบญจเพสพอดี เข้าสู้ร่มร่มกาสาวพัตร์ ณ วัดชีป่าสิตาราม อยู่เต็มพรรษาครบ ประเพณีบวชบอกว่า ฤกษ์บวชไม่สำคัญ แต่ฤกษ์สึกสำคัญกว่า ออกพรรษาแล้วบอกหลวงพ่ออุปัชฌาย์ ขอฤกษ์ “นเรศวรออกศึก” ได้ดังใจ เมื่อวันที่สึกครบกำหนดลาบวชตามระเบียบกลาโหม 120 วันพอดี

สึกออกมาทำงานที่กองร้อย 6 เดือน ได้สอบเลื่อนยศ ส.อ. เป็น จ่า. จำนวน 360 คน เอา 2 คน ได้ที่ 2 ชนะคนได้ที่ 3 คะแนนเดียว ....

เป็น จ่า. 2 ปี เปิดสอบเลื่อนยศเป็น ร.ต. จำนวน 480 เอา 6 คน ได้ที่ 1 คนในกองทัพบกงง จบ ร.ร.นายสิบ ติดยศ ส.ต. ถึง จ.ส.อ. เพียง 8 ปี แล้วติด ร.ต. เมื่ออายุ 28 ปี

วันที่ POCKETBOOK “ปุ๋ยน้ำชีวภาพ สูตรกล้อมแกล้ม (ทำเอง)” วางตลาดวันแรกที่ อนุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวร มหาราช ดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี .... จากประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงหนังสือมาทราบว่า หนังสือที่มีคนเข้าคิวซื้อ ถ้าจัดเรียงแถวจะยาวกว่า 200 คน คือ หนังสือ “นายอิน ผู้ปิดทองหลังพระ” มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่วันนั้นคน “เข้าคิว” ซื้อหนังสือ “ปุ๋ยน้ำชีวภาพ สูตรกล้อมแกล้ม (ทำเอง)” ยาวกว่า 100 คน


9. อานิสงวิทยาทาน :

บนเส้นทางชีวิตรับราชการทหาร ช่วง 10 ปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ เป็นนักจัดรายการวิทยุโดยตำแหน่งนายทหารประชาสัมพันธ์ กองกิจการพลเรือน ตามคำสั่ง ทบ. ทั้งนี้รูปแบบรายการไม่ห้ามการมี “สปอนเซอร์” คงเป็นเพราะรายการดีมั้ง จึงมีสปอนเซอร์เข้ามา ว่าจ้างโฆษณาสินค้า นอกจากในรายการวิทยุแล้วยังให้สัญจรไปสอนเรื่องการเกษตรตามต่างจังหวัดด้วย เกมส์นี้ผู้สนใจไม่จำกัดสาขาอาชีพเข้าฟังฟรี แถมบางครั้งมีเอกสารแจกด้วย ไม่น่าเชื่อว่ารายได้พิเศษนอกจากเงินเดือน พ.ท.แล้ว ได้จาก

- วิทยุ ปตอ. เดือนละ 30,000 (รายการสด)
- วิทยุ สทร. ทหารเรือ สัตหีบ เดือนละ 30,000 (รายการสด)
- วิทยุ มก. ม.เกษตรศาสตร์ เดือนละ 30,000 (รายการเทป)
- วิทยุเสียงอดิศร ศม. เดือนละ 30,000 (รายการเทป ส่งเทปไปออกวิทยุที่สกลนคร)
- จากสัญจรตระเวนไปสอนชาวบ้าน อาทิตย์ละ 20,000 ทุกอาทิตย์ทุกเดือน

สิริรวมรายได้จาก “วิทยุ+หนังสือในเครือเกษตรใหม่” รวมทั้งสิ้นน่าจะ (เน้นย้ำ....น่าจะ) 10 ล้าน และนี่คือ ที่มาของ RKK ....



** ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณผู้ฟัง ขอบคุณผู้อ่าน ... ขอบคุณอย่างจริงใจ **



----------------------------------------------------------------------------------



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 17/02/2017 6:26 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 17/02/2017 6:16 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.

นิทานเรื่องนี้ ไม่ได้โม้-ไม่ได้โว-ไม่ได้โอ้อวด แต่เป็นประสบการณ์ตรง
ของตัวเองแท้ๆ เอามา บอก/สอน ให้รู้แล้วเอาไป คิด/วิเคราะห์ ว่า....

* คนเราแพ้ชนะกันที่โอกาส โอกาสไม่มาหาเรา เราต้องเข้าหาโอกาส หรือโอกาสไม่เกิด เราก็ต้องสร้าง

* วันนั้นถ้าไม่รับทำรายการวิทยุ อ้างว่า ทำไม่เป็น-ไม่เคยทำ ก็คงไม่ได้เป็นนักจัดรายการวิทยุไปตลอดชีวิต

* เพราะเริ่มจาก "วิทยุ" พัฒนาเป็น "หนังสือ" 10ปี ได้มา10ล้าน
* จาก วิทยุ+หนังสือ=RKK ทำวิกฤตให้เป็นโอกาส ใช้สมองแทนกำลัง
* สมการชีวิต วิทยุ+หนังสือ+RKK=เพื่อน ถึงลูกหลานเหลนโหลน

* ความสำเร็จเกิดจาก พรสวรรค์1% พรแสวง99%
* ความสำเร็จเกิดจาก วิชาการ1% ประสบการณ์99%
* เส้นทางชีวิต พระเจ้าลิขิต1% มนุษย์ลิขิตเอง99%

* คนเอาชนะคนไม่ได้ คนที่แพ้เพราะ "ดูถูกตัวเอง" ต่างหาก
* ฯลฯ




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
auntunauntum
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 17/02/2017
ตอบ: 12

ตอบตอบ: 17/02/2017 6:42 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
วันนั้นได้มาร่วมงานด้วยค่ะ ได้มีเสียงกล่าวขานว่าทำไมลุงคิมดูหนุ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่อัศจรรย์
แต่มีเสียงตอบว่า ท่านเป็นแต่ผู้ให้มาตลอด ผลบุญจึงส่งให้ท่านสุขใจ

แต่ถึงยังงัยก้อต้องการคำตอบจากท่านเป็นคำตอบสุดท้าย



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 17/02/2017 7:12 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
น่าจะเป็นความรู้สึกส่วนตัวของบางคนที่มองลุงคิมใน "แง่ดี" ซะมากกว่า
เพราะ ก็มีบางคนทัก "ปีนี้ลุงคิมแก่ขึ้นนะ...." นั่นเขามองความจริง

ในคนๆเดียวกัน ตกลง ลุงคิม แก่หรือหนุ่ม
ส่วนตัวลุงคิมเอง บอกตรงๆว่า ไม่รู้สึกว่า "แก่หรือหนุ่ม" มันเฉยๆ น่ะ



น่าจะพูดว่า อยากให้ลุงคิมเล่าประสบการณ์ตรง เรื่อง "ชีวิตกับโอกาส" ให้ฟัง (อ่าน)
หรือ น่าจะตั้งคำถาม "ลุงคิมเคยสร้างโอกาสอะไรให้แก่ตัวเองอย่างไรบ้าง ?" นะ
เผื่อว่า บางคนอาจจะ (เน้นย้ำ...อาจจะ) เอาไปเป็น "CASE STUDY" ว่ามั้ัย


นานๆ จะมีคนหลงเข้ามาถามซักคน
เถอะ ไงๆก็ THANK YOU



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©