-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - มะลิดอกเล็ก....ขายไม่ได้
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

มะลิดอกเล็ก....ขายไม่ได้

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kritsadalampang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 12/01/2010
ตอบ: 51

ตอบตอบ: 13/01/2010 12:38 am    ชื่อกระทู้: มะลิดอกเล็ก....ขายไม่ได้ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน

คือผม "หัดปลูกดอกมะลิ" ครั้งแรกโดยใช้พันธ์ ราชบูรณะ ซึ่งได้ปลูกเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม
2552 ซึ่งผมใช้การดูแลต้นมะลิด้วย ระบบ "อินทรีย์ชีวภาพ" ซึ่ง "ไม่ได้ใช้เคมี" ช่วยใดๆทั้ง
สิ้น เรื่องปุ๋ย ผมได้ใช้ "สูตรของกรมพัฒนาที่ดิน" โดยใช้ปุ๋ยน้ำสูตร พด.2 ซึ่งได้ใช้วุตถุดิบตามนี้

เศษปลาที่แม่ค้าขายปลาสดในตลาดทำการตัดทิ้ง คือ ชิ้นส่วนต่างๆเช่น ขี้ปลา เครื่องในปลา 30
กิโลกรัม ซึ่งเป็นปลาน้ำจืด
ผลไม้สุกจัด คือ กล้วยน้ำว้า มะละกอ ฟักทอง สัปรด รวมทั้งหมด 10 กิโลกรัม
กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม
น้ำ 10 ลิตร
สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 1 ซอง

และปุ๋ยโบกาฉิ มูลค้างคาว หมักเอง โดยขี้ค้างคาวผมไปขนมาจากถ้ำเองโดยใช้วัตถุดิบดังนี้
ขี้ค้างคาว 1 กระสอบปุ๋ย
ฟางข้าวแห้ง 1 กระสอบปุ๋ย
รำละเอียด 1 กระสอบปุ๋ย
em 20 cc.
กากน้ำตาล 20 cc.

โดยระบบน้ำที่ผมใช้จ่ายให้ต้นมะลิคือ ระบบน้ำหยด โดยผมใช้ หัวน้ำหยด 3 หัวต่อ 1 ต้น ผมมี
แท้งค์เก็บน้ำได้ 1500 ลิตร ผมจะผสมปุ๋ยน้ำ พด.2 กับน้ำในแท้งค์ ในอัตราส่วน 1 ต่อ 500 ผม
จึงใช้ปุ๋ยน้ำ พด.2 จำนวน 3 ลิตร ในการผสมน้ำแต่ละครั้ง ซึ่งเทคนิคทั้งหมดเรื่องการทำปุ๋ย และ
ส่วนผสมในการใช้ปุ๋ยผมได้ปรึกษากับหมอดิน ของกรมพัฒณาที่ดิน และท่านเคยปลูก ดอก
มะลิมาก่อนเช่นกัน โดยในทุก 5 วัน ผมจะปล่อยน้ำให้ต้นมะลิ 1 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งผมก็จะผสมปุ๋ย
น้ำ พด.2 และ ทุก 5 วันผมก็ใช้ผสม ปุ๋ยน้ำ พด.2 ใส่กระป๋องสพายหลังทำการพ่นให้ปุ๋ยทางใบ
อัตราส่วน 1 ต่อ 500

ปุ๋ยโบกาฉิมูลค้างคาว ผมจะใส่ 3 จุดใน 1 ต้น คือ ผมใช้กระบวยตักใส่จุดละประมาณ 1 ใน 4
ของกระบวย เพราะกลัวมันจะเยอะเกินไปกลัวจะเป็นอันตรายต่อต้นมะลิ ตามหลักการขี้ค้างคาวมัน
ค่อนข้างแรงกว่าขี้สัตว์ตัวอื่น และยิ่งทำการหมักมันยิ่งมีจุลินทรีย์เข้มข้นมากมาย ผมจึงใช้อัตรา
ส่วนแค่นี้ โดยเทไว้บนพื้นแล้วเอาหัวน้ำหยดปักไว้เหนือบริเวณที่เทโบกาฉิมูลค้างคาว ซึ่งจนถึงวัน
ที่ผมได้ตั้งกระทู้นี้ ผมใส่โบกาฉิ แค่ 1 ครั้งเท่านั้น

ผมได้สังเกตุผลการปลูก โดยทั่วไป ต้นมะลิใบเขียวเป็นมันดี การแตกยอด แตกดอก ดีมาก
และตามต้นมีอาการ โรคแอนแทรคโนส บ้างนิดๆคือใบมันมีอาการต้นละนิดหน่อยไม่มาก มี
อาการ หนอนเจาะดอก คือดอกตามต้นมีสีม่วงๆ มีอาการใบแหว่งเกิดจากหนอนกินใบ และ ดอกมี
อาการน่าจะโดนเพลี้ยไฟ คือใบหงิกงอม้วนเข้ามาเป็นคลื่นๆ

นั่นเพราะผมไม่ได้หมักสมุนไพรไล่แมลงและป้องกันโรค ผมจึงทำการหมักสมุนไพรสูตร พด.7
โดยใช้วัตถุดิบดังนี้
ขิงแก่ 10 กิโลกรัม
ขมิ้นชันแก่ 10 กิโลกรัม
ยาสูบ 3 กิโลกรัม
บอระเพ็ด 3 กิโลกรัม
ฝักคูณแก่ 3 กิโลกรัม
ใบยี่โถ+ใบสาบเสือ+หนอนตายหยาก 1 กิโลกรัม โดยรวมทั้งหมดได้ 1 กิโลกรัม

ซึ่งที่จริง ผมอยากได้ ผลลำโพง กับ รากหางไหลแดง ผสมด้วย แต่ที่ลำปางระแวกที่ผมอาศัยหา
วัตถุดิบไม่ได้ ผมเลย ไปขอกิ่ง ต้นลำโพง จากคนรู้จักกันมาปักชำไว้ในสวน เพื่อในกาลครั้งหน้า
หวังได้ผลของลำโพงมาผสมน้ำหมัก และได้ซื้อต้นกล้าหางไหลแดง จากศูนย์รักษ์สมุนไพรลำปาง
นำมาปลูก 1 ต้น หวังอีก 4 ปี จะได้มีวัตถุดิบตัวนี้ไว้หมัก
น้ำ 50 ลิตร
กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม
สารพด.7 1 ซอง

ซึ่งผมเพิ่งหมักเมื่อ 2 มกราคม 2553 จึงยังไม่ทราบผลว่าจะใช้กับต้นมะลิได้ผลดีเพียงใด แต่ตัว
สมุนไพรที่ใช้หมักผมได้หาข้อมูลจากตำราสมุนไพรว่าตัวไหนมีผลอย่างไรเช่น โรคใบจุด ใช้
กระเทียม ข่า ขิง ตัวใดตัวหนึ่งเลือกเอาเลยแต่หมอดินแนะให้ใช้ขิงเพราะมันแรงมากๆ หนอนเจาะ
ดอก ใช้ ยี่โถ สะเดา ขมิ้นชัน คูน เลือกเอาอันใดอันหนึ่งแต่หมอดินแนะ ขมิ้นชัน หนอนกินใบ
ใช้ ยี่โถ สะเดา เลือกเอาอันใดอันหนึ่งแต่หมอดินแนะให้ใช้ ยี่โถ หนอนเจาะต้น ใช้ สะเดา ใบ
มะเขือเทศ คูน เลือกเอาอันใดอันหนึ่งแต่หมอดินแนะให้ใช้ คูน โดยใช้ส่วนที่เป็นเมล็ดใช้จากการ
นำฝักที่แก่ๆทั้งฝักเลยมาหมัก เพลี้ยไฟ ใช้พวก ยาสูบ หญ้าสาบเสือ

ตอนนี้ที่ผมกลุ้มใจคือ ดอกมะลิขนาดมันเล็กเก็บขายไม่ได้ ผมจึงปรึกษาหมอดิน ท่านให้
เหตุผลว่า ต้นมะลิของผมมันยังเล็ก ยังไม่สมบูรณ์ิ เพราะอายุมันแค่ 4 เดือนกว่าๆเอง ต้องรอให้มัน
ครบ 1 ปี ดอกมันถึงจะใหญ่ปกติ ซึ่งเมื่อก่อนที่ท่านปลูกมะลิท่านก็เป็นแบบนี้ดอกใช้ประโยชณ์ใน
การขายไม่ได้

ผมขอถามท่านลุงคิมครับ ว่ามันจริงไหมที่ต้นมะลิ อายุ 4 เดือนกว่า ดอกมันดกแต่ขนาดมันเล็ก
ต้องรอให้ครบ 1 ปี จึงจะเก็บดอกใช้ในการขายได้ และตารางการดูแลเรื่องการให้ปุ๋ยของผมควร
จะปรับปรุงไหม หรือควรแก้ปัญหาอย่างไรเรื่องดอกเล็กไม่สามารถจะนำไปขายได้

ซึ่งผมเชื่อมั่นในเกษตรอินทรีย์ชีวภาพมากว่ามันดีจริง แต่ผมยังใช้และจัด
ตาราง ในการดูแลต้นมะลิยังไม่ดีพอ ซึ่งทุกวันนี้ผมในสายตาของผู้ใหญ่คือ ลุง ป้า และ แม่ของผม
เอง มองว่าผมโง่ที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและใช้ยาฆ่าแมลงเคมี ทำให้พลาดโอกาสในการขายช่วง วันพ่อที่
ผ่านมา ผมไม่รู้จะทำไงดีเพราะไม่เคยทำเกษตรมาก่อนแบบจริงจังนี่คือครั้งแรกที่ทำหวังผลค้า
ขาย ขอคำปรึกษาด้วยครับ


ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 13/01/2010 7:03 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คุณบอกว่า "หัดปลูกมะลิ" ครั้งแรกในชีวิต แล้วประสบความล้มเหลวหรือเกิดปัญหาอย่างที่ว่ามา
นั้น ลุงคิมว่า "ดี" นะ เพราะ "ความล้มเหลว คือ ความสำเร็จ" ลุงคิมพูดมานานแล้ว และทุก
วันนี้ก็ยังพูดอยู่ อาทิ.....

..... การวางแผนใด ควรศึกษาส่วนที่จะ (เน้นย้ำ...จะ) เป็นปัญหาก่อน แล้วจึง
ศึกษาส่วนที่จะ (เน้นย้ำ...จะ)เป็นความสำเร็จ
......จะปลูกมะลิ ต้องรู้จักลักษณะนิสัย ธรรมชาติ และ เทคนิคพิเศษ สำหรับมะลิ พูดง่ายๆก็
คือ "พูดภาษามะลิรู้เรื่อง...." ประมาณนั้น
..... มะลิ คือ พืช ทุกพืชต้องอาศัยปัจจัยพื้นฐาน ว่าด้วย "ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล/
สารอาหาร/สายพันธุ์/โรค" ในทุกมิติที่เกี่ยวเนื่องกับมะลิหรือพืชที่ปลูก
..... ปลูกกินต้องตามใจแม่คุณทูนหัว-ปลูกขายต้องตามใจแม่ค้า..... การตลาดนำการผลิต....
เกรด เอ. จัมโบ้. ออกนอกฤดู. โกอินเตอร์
..... เกษตร อินทรีย์ตกขอบ-เคมีบ้าเลือด.... ทำตามกระแส ตามข้างบ้าน ตามโฆษณา ตาม
นักส่งเสริมเชิงพานิช...... ฯลฯ


เห็นคุณพูดว่า "อินทรีย์ชีวภาพ" ก็อยากจะถามย้อนว่า "อินทรีย์" ที่ว่าคือ อะไร และ "ชีวภาพ" ที่
ว่า คือ อะไร......

พืชต้องการสารอาหาร ประกอบด้วย ธาตุหลัก-ธาตุรอง-ธาตุเสริม-ฮอร์โมน-และอื่นๆ ..... ใน
อินทรีย์ของคุณ มีสารอาหารเหล่านี้หรือไม่ เท่าไร เพราะพืชทุกชนิดหมายรวมถึงมะลิด้วย ต้อง
ใช้สารอาหารเพื่อพัฒนาการเจริญเติบโตทั้งสิ้น เมิ่อไม่มีสารอาหารหรือมีไม่พอแล้วเขาจะเจริญ
เติบโตได้อย่างไร

ข้อมูลความรู้เรื่อง "อินทรีย์ชีวภาพ" มีมากมายหลากหลายสำนัก ทำไมคุณจึงยึดติดแต่จาก
สำนักเดียว ในเมื่อแต่ละสำนักต่างก็มี "ข้อดี/ข้อเสีย...จุดเด่น/จุดด้อย....จุดแข็ง/จุด่อน" ถ้า
เราไปเก็บข้อมูลจากหลายๆสำนักแล้วเลือกเอาเฉพาะ "ข้อดี/จุดเด่น/จุดแข็ง" ของแต่ละสำนัก
นั้นมาเป็น "ของตัวเอง" ย่อมดีกว่าของแต่ละสำนักเดิม....ว่ามั้ย

แม้แต่ที่นี่ "เว็บหน้าแรก - ในเมนูอินทรีย์ชีวภาพ - ในเมนูภูมิปัญญาพื้นบ้าน" ต่างก็มีข้อมูลเกี่ยว
กับอินทรีย์ชีวภาพ คุณจำแนกออกไหมว่าของ "ที่นี่ - ที่อื่น" ต่างหรือเหมือนกันอย่างไรหรือไม่


การบ้าน....
1.....คุณมีเหตุผลอย่างไรจึง "ปฏิเสธปุ๋ยเคมี" ..... ระหว่าง "ปุ๋ยเคมี"
กับ "สารเคมีฆ่าแมลง" แตกต่างกันอย่างไร และตัวไหนเป็นโทษต่อคนและสิ่งแวดล้อมมากกว่า
กัน
2.....คุณเข้าใจคำว่า อินทรีย์ นำ - เคมี เสริม .... ตามความเหมาะสม" ว่าอย่างไร



ไม่ใช่ตำหนิ แต่เป็นกำลังใจ
ลุงคิมครับผม


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 14/01/2010 1:30 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kritsadalampang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 12/01/2010
ตอบ: 51

ตอบตอบ: 13/01/2010 10:17 pm    ชื่อกระทู้: มะลิดอกเล็ก....ขายไม่ได้ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม

ผมเข้าใจตามที่ได้อ่านจากข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับอินทรีย์ชีวภาพ ซึ่งผมคิดว่า มันคือการใช้
จุลินทรีย์ที่ดีที่ได้จากธรรมชาติ นำมาใช้ประโยชน์ในการเกษตร โดยทำ
จากวัตถุดิบต่างๆ ที่หาได้จากธรรมชาติซึ่ง มันทำให้ลดต้นทุนในการต้องซื้อปุ๋ยเคมี ที่ทำให้เราต้อง
แบกภาระในการผลิตสินค้าเกษตรพวกพืชต่างๆ ทำให้เรามีเงินเหลือจากส่วนที่ต้องจ่ายค่าปุ๋ยเคมี
และ มีผลทำให้ผืนดินที่เราใช้ปลูกพืช มันดี มีชีวิต อุดมด้วยธาตุอาหารจากวัตถุดิบธรรมชาติ และมี
จุลินทรีย์ที่ดีคอยช่วยย่อยสลายวัตถุดิบต่างๆให้เกิดประโยชน์ในผืนดิน และผมจึงชอบหลักการทำ
เกษตรอินทรีย์ชีวภาพเพราะเหตุผลนี้เป็นหลัก และพวกยาเคมีฆ่าแมลง ผมคิดว่ามันไม่ปลอดภัย
ต่อสิ่งมีชีวิตคือตัวผม และบุคคลต่างๆในครอบครัวผม ตลอดจนลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์การเกษตร
จากผมไป ผมจึงฝึกฝนหาความรู้ในการหมักสมุนไพรไล่แมลง

ซึ่งในการที่ผมได้ทำปุ๋ยตามหลักการกรมพัฒนาที่ดิน นั่นก็เนื่องจากผมได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับการ
ทำปุ๋ยชีวภาพจากแหล่งข้อมูลหลายๆ ที่ ซึ่ง มันช่างมากมายหลายสูตรยิ่งนัก ผม
เลือกไม่ถูกจริงๆ
มันประจวบเหมาะกับ ที่ทางจังหวัดลำปางจัดงานเกี่ยวกับการเกษตร
ผมจึงไปเที่ยวงานและได้เห็นทางกรมพัฒนาที่ดินเขาจัดสถานที่สาธิตเกี่ยวกับประโยชน์ของปุ๋ย
ชีวภาพ และมีการแจกเอกสารวิธีทำ ผมได้ติดตามต่อเนื่องโดยไปถึงสถานที่ตั้งของหน่วยกรม
พัฒนาที่ดินของจังหวัดลำปาง ก็มีบุคลากรให้ความรู้เป็นอันดียิ่ง เลยทำให้ผมคิดจะทำครั้งแรกด้วย
ตัวเองตามหลักการที่เขาได้แนะนำซึ่งเขาได้ชี้แจงว่าสูตรต่างๆทางกรมพัฒนาที่ดินได้ทำการ
ทดลองและวิจัยมาแล้วมันให้ผลดีจึงทำการแนะนำให้เกษตรกรนำไปใช้

นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงใช้การหมักปุ๋ยแบบนี้ โดยส่วนตัวผมไม่ยึดติดว่าจะต้องหมักแบบสูตร
ไหน อย่างไร เพราะผมเชื่อว่าทฤษฎีการหมักปุ๋ยต่างๆมันเขียนขึ้นเช่นไรก็ได้ตามความเข้าใจของ
มนุษย์ ตามภูมิปัญญาแต่ละคน แต่ที่ผมคิดก็คือ แมวสีอะไรก็ได้ถ้าเลี้ยงแล้วมัน
จับหนู
ให้ผมได้เก่งๆ ผมรักมันยิ่งนักชอบที่จะเลี้ยงบำรุงให้มันรักษาที่อาศัยของเราไม่
ให้มีหนูมากวน

เพราะเหตุผลนี่เองทำให้ผมพยายามหาวิธีที่จะทำให้ ต้นมะลิของผม มันเติบโต และให้ดอกออก
ผล แบบสมบูรณ์ตามแนว เกษตรอินทรีย์ที่ชอบ แล้วผมก็มาเจอเวปของคุณลุงคิมแห่งนี้ ผมคิดว่า
ที่นี่เขาได้มีการใช้ปุ๋ยชีวภาพที่นำไปปฏิบัติได้ผลจริง ควรที่จะมาขอคำปรึกษาเรื่องการหมักปุ๋ยที่จะ
นำไปใช้กับต้นมะลิของผมได้

ผมจึงใคร่ขอความเมตตาจากคุณลุงคิม ขอวิธีหมักปุ๋ยชีวภาพที่ใช้กับต้นมะลิ
ด้วยครับ ว่าควรใช้การหมักสูตรไหน และการจัดตารางในการให้ปุ๋ยว่าควรให้ระยะเวลา
เช่นไร ถี่ขนาดไหน เพื่อสานฝันของผมให้มันเป็นความจริงสักคน กับเอาดีทางเกษตรอินทรีย์ มัน
เป็นความภูมิใจมากเลยครับคุณลุงคิม ถ้าผมสามารถทำได้สำเร็จ ผมจะได้พยายามชวนให้ลุง ป้า
และเกษตรกรท่านอื่นๆในละแวกบ้านผมให้หันมาทำเกษตรอินทรีย์กันแบบจริงจัง เื่พื่อทุกๆคนจะ
ได้มีเงินเหลือจากการทำเกษตรแบบเดิมที่เงินหมดไปกับปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลงเคมีิ และชีวิตเขาทั้ง
หลายจะได้แข็งแรงจากเคมีต่างๆ

สุดท้ายนี้ผมหวังอย่างยิ่งที่คุณลุงคิมคงไม่ทอดทิ้งให้เกษตรหัดใหม่แบบผมเดินทางสายนี้แบบคน
ตาบอดไร้ซึ่งจุดหมายแห่งความสำเร็จในชีวิตเกษตรอินทรีย์ ผมขอ ฝากตัวเป็นลูก
ศิษย์
คุณลุงคิมด้วยสักคนนะครับ

ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
devilbatscafe
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 30/11/2009
ตอบ: 5

ตอบตอบ: 14/01/2010 12:27 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

มันทำให้ลดต้นทุนในการต้องซื้อปุ๋ยเคมี

ลด ในที่นี้ ไม่ได้เลิกใช้ครับ เเต่ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สูตรของลุงคิมเขาบวกเข้าไปในปริมาณ
ที่เหมาะสมเท่าที่พืชต้องการ เเละถูกกลุ่ม

ผมก็มือใหม่เริ่มทำมาได้ซักพักเมื่อก่อนทำงานเงินเดือน ไม่มีเิงินเก็บ ตอนนี้พอมีนิดนึงเเล้วไม่ได้
เยอะอะไรหรอก เเต่มันเหลือ .....คุณเดินไม่ผิดทางหรอกครับ

ลองอ่านดู เว้บนี้มีหลายตัวครับ ลองดูที่หน้าแรกๆ ส่วนระยะการใช้ อันนี้ต้องรอผู้รู้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 14/01/2010 1:55 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

TO K.KRITSADALAMPANG.....

คุณน่าจะรับ (อ้อน) พิจารณา "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง" ดูบ้างนะ ดูซิว่าในส่วนผสมต่างๆนั้น
แต่ละตัวมีสารอาหารพืชอะไรบ้าง กรรมวิธีในการหมัก แล้วเปรียบเทียบกับสูตรของหน่วยงานที่
คุณไปได้มา การเปรียบเทียบต้องยึด "พืช" เป็นหลัก

ในสูตรระเบิดเถิดเทิง หากต้องการความเป็น "อินทรีย์ หรือ สารอินทรีย์" แท้ๆโดยไม่มีเคมีหรือ
สารสังเคราะห์ปนเปื้อนก็สามารถทำได้ โดยปรับเพิ่ม "วัสดุส่วนผสมบางอย่าง และ กรรมวิธี" ใน
การทำ ถึงระดับนี้ก็ยังยืนยันอีกว่าปริมาณสารอาหารจะมีเพียง 1-2-3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ปริมาณนี้
อาจจะพอเพียงสำหรับพืชบางชนิด สำหรับกินเองใช้เอง แต่จะไม่พอเพียงสำหรับบางชนิดสำหรับ
กินเอง ใช้เอง หรือเมื่อต้องการเกรด เอ. จัมโบ้. ถึงเกรดที่ตลาดต้องการ


ปุ๋ยเคมีไม่ใช่สารเคมีฆ่าแมลง.....ความเป็นพิษต่อมนุษย์
และสภาพแวดล้อมต่างกัน เมื่อคุณปฏิเสธปุ๋ยเคมี ฮอร์โมน
วิยาศาสตร์ แล้วผลผลิตคุณตกเกรดตลาดไม่รับ...คุณจะ
ได้อะไร


แนวทางเกษตรแบบ "อินทรีย์ นำ - เคมี เสริม....ตามความเหมาะสม" เช่น
ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 30-10-10 สำหรับ บำรุงต้น, เรียกใบอ่อน
ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24 สำหรับ สะสมตาดอก, บำรุงดอก
ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 21-7-14 สำหรับ ขยายขนาดผล - ดอก - ใบ
ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 13-13-21 สำหรับ เพิ่มความหวาน
ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 10-5-35 สำหรับ พืชหัวในดิน และสับปะรด


ลุงคิมครับผม


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 14/01/2010 5:01 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kritsadalampang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 12/01/2010
ตอบ: 51

ตอบตอบ: 14/01/2010 4:49 pm    ชื่อกระทู้: มะลิดอกเล็ก....ขายไม่ได้ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่านและสวัสดีครับคุณลุงคิม

ผมจะนำสิ่งที่เพื่อนๆได้ให้คำปรึกษาที่ดีแก่ผมไปปรับปรุงปุ๋ยผมครับ ซึ่งลุงคิมแนะสูตรระเบิด
เถิดเทิง ผมก็จะนำไปใช้ตามที่คุณลุงคิมให้คำปรึกษาเรื่องปุ๋ยหมัก โดยจะทำตามสูตรที่ลุงคิมแนะ
นำไว้ในเวปนี้ครับ ผลการปฏิบัติเป็นเช่นไรผมจะนำมาเสนอให้เพื่อนๆและลุงคิมได้ พิจราณาครับ

ขอบคุณมากครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Pitipol
เว็บมาสเตอร์
เว็บมาสเตอร์


เข้าร่วมเมื่อ: 22/07/2009
ตอบ: 332
ที่อยู่: 114/2 ม.11 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง

ตอบตอบ: 14/01/2010 5:35 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอให้กำลังใจครับผม เส้นทางสายนี้มีคนประสบความสำเร็จมาแล้ว
แปลว่าคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จเช่นกัน...
_________________
เกษตรกรฝึกหัด
โอ ระยองครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์ เข้าชมเว็บไซต์ MSN
kritsadalampang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 12/01/2010
ตอบ: 51

ตอบตอบ: 15/01/2010 9:39 pm    ชื่อกระทู้: มะลิดอกเล็ก....ขายไม่ได้ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่านและลุงคิม

ผมควรซื้อปุ๋ยเคมี ยี่ห้อไรดีครับเพื่อจะนำมาใช้ตามลุงคิมแนะนำ 8-24-24, 21-7-14
วันนี้ไปซื้อมาได้แค่ 8-24-24 ส่วน 21-7-14 ทำไมที่ลำปางไม่มีขายเลย ทุกร้านบอกว่าไม่เคย
นำมาขายเพราะไม่เคยมีใครใช้เลยในลำปาง ผมจะหาซื้อได้ในแหล่งใดดีครับที่ใกล้ๆลำปาง

ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 15/01/2010 9:49 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ปุ๋ยเคมีสูตร 21-7-14 ที่ใช้ทางดิน มียี่ห้อเรือใบไวกิ้งอยู่อย่างเดียวครับ หรือที่หน้ากระสอบเขียน
YARA(ยี่ห้อเดียวกัน) เมื่อก่อนแถบระยองมีขายเยอะมากเพราะชาวสวนยางนิยมเอาไปใส่
ยางพารากัน คุณลองหาตามร้านที่เป็นเอเย่นต์ปุ๋ยเรือใบนะครับ หรือหาเบอร์โทรข้างกระสอบแล้ว
โทรไปถามบริษัทก็ได้ครับ

ott_club
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
mixfeed
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 04/08/2009
ตอบ: 29

ตอบตอบ: 16/01/2010 8:23 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เหมือนที่บ้านผมเลยครับ 21-7-14 หาไม่ได้เลย ส่วนใหญ่ร้านบอกไม่นำมาขายแล้ว หรือนำมา
ขายแล้วขายออกได้ช้ามากเลยไม่สั่งมาขายอีก เลยอยากสอบถามลุงคิมครับว่าจะใช้สูตรแก้ขัด
แบบนี้ได้หรือไม่ครับ โดยผมใช้ 46-0-0 กับ 13-13-21 ในอัตราส่วน 3 : 5 ผสมแล้วได้อัตรา
ปุ๋ยเป็น 20.3 - 6.5 - 10.5 ได้เรโช เป็น 3.12 : 1 : 1.615 โดยจะขาด K อยู่ส่วนหนึ่ง ถ้า
สามารถใช้ได้จะได้ใช้แก้ขัดไปก่อนครับ นำไปบำรุง ตะไคร้ น่ะครับ ยังไม่มีเวลาไปแยกบางแพเลยครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 16/01/2010 9:46 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

mixfeed บันทึก:
เหมือนที่บ้านผมเลยครับ 21-7-14 หาไม่ได้เลย ส่วนใหญ่ร้านบอกไม่นำ
มาขายแล้ว หรือนำมาขายแล้วขายออกได้ช้ามากเลยไม่สั่งมาขายอีก เลยอยากสอบถามลุงคิม
ครับว่าจะใช้สูตรแก้ขัดแบบนี้ได้หรือไม่ครับ โดยผมใช้ 46-0-0 กับ 13-13-21 ในอัตราส่วน
3 : 5 ผสมแล้วได้อัตราปุ๋ยเป็น 20.3 - 6.5 - 10.5 ได้เรโช เป็น 3.12 : 1 : 1.615 โดยจะ
ขาด K อยู่ส่วนหนึ่ง ถ้าสามารถใช้ได้จะได้ใช้แก้ขัดไปก่อนครับ นำไปบำรุงตะไคร้น่ะครับ ยังไม่มี
เวลาไปแยกบางแพเลยครับ


คำณวนตัวเลขเก่งจริงๆ เลยนะครับ

ที่คุณคิดขึ้นมาเรโชก็ใกล้เคียงกับ 3:1:2 ฉนั้นผมคิดว่าก็น่าจะพอแก้ขัดไปก่อนได้นะ หรืออาจ
จะดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะในธรรมชาติไม่มีตัวเลข ไม่มีสูตรตายตัว คุณลองผสมแล้วใช้กับตะไคร้ดู
คุณก็จะได้พบกับคำว่า"...ทำกับมือ"

แต่ติดปัญหาตรงที่ว่า ปุ๋ยที่คุณผสมขึ้นมานั้นในภาษาปุ๋ยเคมีเรียกว่า "ปุ๋ยผสมแบบคลุกเคล้า"
(bulk blend ) ความสม่ำเสมอของธาตุอาหารจะไม่คงที่ เช่นคุณหยิบปุ๋ยขึ้นมา 1กำมือ คุณจะรู้
ได้อย่างไรว่าคุณจะได้ N: P:K = 3:1:2 เพราะการออกฤทธิ์และเสริมฤทธิ์ของธาตุอาหารจะ
เป็นไปอย่างที่เราต้องการก็ต่อเมื่อพืชได้รับเรโชที่ถูกต้องซึ่งเราจะเรียกปฎิกิริยานี้ว่า "ปฎิกิริยาหนุนเสริม"

ปุ๋ยเรือใบ
บริษัทไฮโดรไทย จำกัด
205,207 ถ.สมเด็จประปิ่นเกล้า เขตบางพลัด กรุงเทพ 10700
โทร 0 2434 0080-9,0 2883 0909

สถานที่ผลิต 1/1 หมู่ 1 ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โทร 0 3528 3382-3


ด้วยความเคารพ

ott_club
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
mixfeed
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 04/08/2009
ตอบ: 29

ตอบตอบ: 16/01/2010 10:05 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผมไม่ได้ผสมคลุกเคล้าครับใช้วิธีที่เคยถามลุงคิม ตวงปุ๋ยให้ได้ตามต้องการแล้วละลายน้ำผสมกับ
ระเบิด แล้วฉีดพ่นเข้ากลางกอเลยครับ การละลายน้ำผมคิดเองน่ะน่าจะทำให้การให้ปุ๋ยเกิดความ
สม่ำเสมอ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกหรือผิดคงต้องสอบถามลุงคิมน่ะครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 17/01/2010 9:27 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ตะไคร้น่ะใช้ "30-10-10" หรือ "25-7-7" หรือ "16-8-8" ดีตามลำดับ แล้วก็น่าจะดีกว่า
21-7-14 ด้วยนะ.....ใช้ "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 30-10-10" ซี่ ใช้แล้วไม่ต้องใส่ปุ๋ย
เคมีเลยแม้แต่เม็ดเดียว (ประหยัดเงิน - ยืดอายุดิน) แค่ตะไคร้ต้องใส่ปุ๋ยเคมีแบบหว่านโคนต้น
ด้วยเหรอ.....


ลุงคิมครับผม

ป.ล.
กระทู้นี้เริ่มต้นที่ "มะลิ" ถึงตอนท้ายวันนี้กลายเป็น "ตะไคร้" ได้ไง....งง (ว่ะ)
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mixfeed
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 04/08/2009
ตอบ: 29

ตอบตอบ: 17/01/2010 9:48 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
ถ้าคุณจะใช้ "ระเบิดดิบ" ละก็ไม่ต้องใส่ "ธาตุรองธาตุเสริม" เพิ่ม
เพราะใส่ให้แล้ว.....อ่านรายละเอียดเรื่อง "น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง" ที่หน้าแรกซี่ นั่นคือ
ส่วนผสมใส่ให้แล้ว.....แล้วทำไมต้องใส่เพิ่มให้สินเปลืองด้วย....ถ้าคุณสั่งซื้อก็ได้ตามนั้น....แต่
ถ้าทำเองคุณใส่อะไรก็ได้อันนั้น ไม่ได้ใส่ก็ไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง

ช่วงต้นแล็กใช้ "ระเบิดเถกิดเทิงดิบ + 25-7-7" ถูกต้องแล้ว ถึงระยะต้นโตเห็นลำต้นแล้ว
เปลี่ยน "25-7-7" เป็น "21-7-14" หรือจะข้ามไป "8-24-24" เลยก็ได้.....ทุกสูตรอัตรา
ใช้เดียวกัน ฉีดใส่ใจกลางกอนั่นแหละ....ทั้ง 2 สูตรนี้ 15-20 วัน/ครั้งก็ได้

ส่วน "ฮอรโมนน้ำดำ" กับ "แคลเซียม โบรอน" อยากจะให้เมื่อไหร่ก็ให้ไป เรียกว่า "ให้เมื่อ
ขยัน" ประมาณนั้น

เป็นห่วงต้นทุนน่ะ
ลุงคิมครับผม


ลุงทำให้ผมงงแล้วครับ ผมเลยลอกที่ลุงเคบตอบมา สรุปว่าจะบำรุงตะไคร้สูตรไหนดีครับ เพราะทั้ง
สองแบบก็ของลุงทั้งนั้นเลยครับ เริ่มสับสนแล้วครับ

ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 17/01/2010 9:59 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

O.K. ยืนยัน....ตะไคร้ใช้ 30-10-10 หรือ 25-7-7 หรือ 16-8-8 แน่นอน คราวนี้
ตอบคำถามหลายสื่อ บางครั้งก็ตีกันเองเหมือนกัน (ว่ะ)....เห็นบางคนใช้แค่น้ำล้างเขียงปลาก็ได้
ตะไคร้กอเบ้อเริ่มแล้ว เลือดสัตว์ก็ได้นะ น้ำหนักดี

ไม่แน่นะ ดินคุณอาจจะเหมาะกับ 21-7-14 หรือแม้แต่ 46-0-0 ก็ได้ เรื่องนี้ทดลองซี่แล้วจะ
ได้คำตอบที่ถูกต้องที่สุดเอง..... ก.ทำกับมือ

ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mixfeed
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 04/08/2009
ตอบ: 29

ตอบตอบ: 17/01/2010 10:07 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ได้ข้อมูลแน่ชัด มีแรงฮึดลุยอีกแล้วครับ ขอบคุณลุงมากครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kritsadalampang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 12/01/2010
ตอบ: 51

ตอบตอบ: 17/01/2010 10:18 pm    ชื่อกระทู้: มะลิดอกเล็ก....ขายไม่ได้ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับทุกท่านและลุงคิม

ตอนนี้ ผมยังคงหาซื้อ 21-7-14 ซึ่งผมจะพยายามหาให้ได้เพื่อทดลองสูตรที่ลุงคิมได้เมตตาชี้
แนะให้ผม แต่ตอนนี้ผมคงหมักปุ๋ยใหม่ไม่ทันแน่ๆ ผมจึงจะนำ 8-24-24 ผสมน้ำใส่ถังไว้ให้เป็น
ปุ๋ยน้ำเคมี และผสมเพิ่มอีก 1 ถังโดยใช้ 21-7-14 โดยลอกจากอัตราส่วนที่ลุงคิม ลงไว้ในการ
บำรุงมะนาวคือ ปุ๋ยเคมี 400 กรัมต่อน้ำ 100 ล. เพราะฉนั้นผมจะมีน้ำปุ๋ยเคมี 8-24-24กับ21-
7-14 อย่างละ 100 ล. แล้วผมใช้ระบบน้ำหยด โดยปกติผสมปุ๋ยน้ำชีวภาพลงในถังเก็บน้ำ ซึ่งมัน
จุได้ 1500 ล. โดยผสมปุ๋ยในอัตราส่วน 1ต่อ500 ผมจึงผสมปุ๋ยในแต่ละครั้ง 3 ลิตร

ผมขอคำชี้แนะจากลุงคิม ว่า ในอัตราส่วน 3 ลิตร ที่ผมจะใช้ผสมน้ำในแท้งค์เก็บน้ำ ผม
ควรใช้ปุ๋ยเคมีน้ำที่ผมเตรียมไว้แล้วในขนาดเท่าไรดีครับเพื่อผสมรวมกับปุ๋ยอินทรีย์น้ำชีวภาพที่ผม
ได้หมักไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ผมกะปริมาณไม่ถูกจริงๆ หรือว่าใส่อย่างละ 1.5 ลิตรดีไหมครับ คือปุ๋ย
น้ำชีวภาพ 1.5 ลิตร ปุ๋ยเคมีน้ำ 1.5 ลิตร มันก็จะได้ 3 ลิตร เพื่อผสมกับน้ำในแท้งค์และจะได้จ่าย
ไปยังแปลง ดอกมะลิ ขอบคุณครับ

ช่วงนี้ผมก็กำลังเตรียมหาวัตถุดิบหมัก สูตรระเบิดเถิดเทิง จำใจต้องใช้ของเดิมไปพลางๆก่อน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 18/01/2010 5:29 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อย่างที่ว่าให้ฟังนั่นแหละ....ธรรมชาติไม่มีตัวเลข ธรรมชาติไม่มีสูตรสำเร็จ ตัวเลขที่ชอบอ้างถึง
กันนั้น เขามีไว้หลอกเด็ก.....ในความเป็นจริง คือ ทุกอย่างในธรรชาติต้องมีปัจจัยเสริมซึ่งกัน
และกัน

ประสบการณ์ตรง :
หน่อไม้ฝรั่งช่วงบำรุงหน่อ แนะนำให้ใช้ 21-7-14 ผลออกมาดีมาก.....อีกคน
หนึ่งใช้ 21-7-14 บ้าง กลับไม่ดีจึงเปลี่ยนไปใช้ 25-7-7 ปรากฏว่าดี....อีกคนหนึ่งใช้ 21-7-
14 แล้วไม่ดี ใช้ 25-7-7 ก็ไม่ดี หันไปใช้ 18-18-18 ปรากฏว่าดี.....แม้แต่ใช้ 13-13-21
แล้วดีก็มี.....นี่คื่อ อะไร ?

คำตอบก็คือ "ดิน" ทั้งนี้ ดิน คือ ตัวกำหนด.... เราไม่รู้ว่าในดินมีธาตุอาหารพืชอะไรบ้าง
ระหว่างธาตุอาหารตัวเดิมที่มีอยู่ในดินก่อนแล้วผสมกับธาตุอาหารตัวใหม่ที่ใส่เติมลงไป แล้วกลาย
เป็นธาตุอาหารตัวใหม่.....การผสมกันมิได้หมายถึงเพียงทำปฏิกิริยากันเท่านั้น แม้แต่อัตราส่วน
ระหว่างธาตุอาหารแต่ละตัว ที่เรียกว่า "เรโช" ก็มีส่วนทำให้ประสิทธิภาพหรือคุณสมบัติที่มีต่อพืช
เปลี่ยนแปลงไปได้เหมือนกัน



สังเกตุ + เฉลียวใจ :
1.....ปุ๋ยสารพัดสูตรทุกสูตรต่างก็ผ่านงานวิจัยโดยนักวิชาการจนสามารถยืนยันได้
มาแล้วทั้งนั้น ซึ่งสูตรปุ๋ยส่วนใหญ่วิจัยโดยนักวิชาการต่างประเทศ ในประเทศอากาศหนาว
มากกว่าประเทศอากาศร้อน

2.....ปุ๋ยสูตรสั่งตัด หมายถึง การเลือกปุ๋ยที่จะใส่ให้แก่ต้นพืชมีอัตราเรโช. หรือสูตร. หรือชนิด
ที่สอดคล้องกับปุ๋ยเดิมที่มีอยู่ในดินก่อนแล้ว โดยให้ปุ๋ยเดิมกับปุ๋ยใหม่ผสมผสานกันแล้วได้เรโช.
ตรงตามที่พืชต้นนั้น (เน้นย้า....ต้นนั้นๆ) ต้องการอย่างแท้จริง ทั้งชนิดและปริมาณ.....การที่จะรู้
ได้ว่า ในดินมีปุ๋ยเดิมอะไรอยู่บ้าง ต้องใช้วิธี "ตรวจวิเคราะห์" ในห้อง LAB. เท่านั้น ซึ่งจะ
สามารถให้คำตอบระดับตัวเลขได้....ตรวจว่า อะไรมีอยู่แล้ว มี/ไม่มี-มาก/น้อย ถ้ามีอยู่แล้วก็ไม่
ต้องให้ ถ้ามีน้อยก็ให้เพิ่ม ทุกอย่างขึ้นกับพืชเป็นหลัก

3.....วิเคราะห์ธาตุอาหารภายในต้น โดยนำส่วนของพืช (ใบอ่อน-กลางอ่อนกลางแก่-แก่-ฯลฯ)
ตามชนิดพืชมาตรวจวิเคราะห์ในห้อง LAB. ก็สามารถรู้ได้ว่าต้นพืชขาดธาตุหารตัวใด จากนั้นจึงให้
ธาตุอาหารเฉพาะตัวที่ขาด....บ่อยครั้งที่ผลการวิเคราะห์จากต้นระบุว่า ต้นพืชขาดธาตุอาหารตัวนั้น
ตัวนี้ แตครั้นวิเคราะห์ดินแล้ว ปรากฏว่าไม่ขาดหรือในดินมีธาตุอาหารตัวนั้นตัวนี้แล้ว ในปริมาณ
ที่เพียงพอ แต่ต้นพืชไม่สามารถนำไปใช้ได้เพราะ ธาตุอาหารตัวนั้นถูกธาตุอาหารอีกตัวหนึ่งตรึง
หรือยึดเอาไว้ สาเหตุนี้ส่วนใหญ่เกิดจาก เรโช.หรืออัตราส่วนระหว่างธาตุอาหารแต่ละตัว กับทั้ง
เกิดจากปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเจริญเติบโตของพืช อันได้แก่ "ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดู
กาล-ฯลฯ" ไม่เหมาะสมอีกด้วย



สรุป
โบราณว่า "รู้น้อยพลอยรำคาญ....รู้มากยากนาน....รู้มั่งไม่รู้มั่งกำลังดี" เพราะ
ฉนั้นอย่ากังวล อยากให้คิดเรื่อง "ต้นทุน" เพียงอย่างเดียวก็พอ ถึงยังไง ผลผลิตที่ดีเลิศ
ประเสริฐศรีสักเพียงไร ราคาก็ไม่ได้สูงลิบลิ่วกว่าเกรดรองจนเทียบกันไม่ติดหรอก จึงให้ดูต้นทุน
ไงล่ะ

ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน ให้ถือหลัก "พอประมาณ" อย่าสุดโต่ง อย่าหลงกระแส อย่าเชื่อข้างบ้าน
อย่าเชื่อโฆษณา อย่างเชื่อเธ่าแก่เส็ง แต่จงเชื่อตัวเอง เชื่อคนในกระจก....จงเชื่อในสิ่งที่ทำและ
ทำในสิ่งที่เชื่อ


ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 18/01/2010 5:42 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

อืมมม.....ลุงคิมว่า เรื่องมันกำลังยุ่งอิรุงตุงนังจนดูไม่ออก จากมะลิ ไปตะไคร้
แล้วกลายเป็นมะนาว อันนี้คนถาม (เจ้าของกระทู้) คงพอค้นหาคำตอบได้ แต่คนที่ไม่ได้ถามเขา
จะรู้ได้อย่างไรว่ามีเรื่องนี้ที่เขากำลังสนใจอยู่ตรงนี้


เว้บนี้ไม่ใช่ 5-FI ที่ตอบโต้กันไปกันมาโดยไม่มีหัวข้อประเด็น....เมื่อเริ่มเรื่องพืชตัวใหม่ น่าจะ
ตั้งขึ้นมาเป็น "กระทู้ใหม่" ทั้งนี้ อยากให้เอาพืชเป็นหลักเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่เอาตัวเองเป็น
หลัก เพราะลุงคิมต้องการคุยกับทุกๆคน ไม่ใช่คุณคนเดียว ถ้าจะคุยกับคุณคนเดียวก็ใช้โทรศัพท์
ซะเลยไม่ดีกว่าหรือ



ไม่ใช่ตำหนิ แต่ต้องการให้ปรับเพื่อสังคมส่วนรวม
ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kritsadalampang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 12/01/2010
ตอบ: 51

ตอบตอบ: 18/01/2010 11:59 am    ชื่อกระทู้: มะลิดอกเล็ก....ขายไม่ได้ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับทุกๆท่านและลุงคิม

สุดยอดจริงๆครับ บทสรุปหัวใจการเกษตรที่คุณลุงคิม นำมาชี้แนะแก่ทุกๆท่าน ผมชอบมากจริงๆ
ครับ คือ เคล็ดลับคำว่า ทำต้นทุนให้ต่ำเข้าไว้ แต่ยังได้ผลดี ผมจะพยายามนำหลักการนี้มาใช้
ร่วมกับการหมักปุ๋ยและการใช้ปุ๋ย เพื่อจะได้ประหยัดต้นทุนในการผลิต แต่คงไว้ซึ่งคุณภาพที่ดีของ
ผลิตผล ดอกมะลิของผม และจะพยายามทดลองอัตราส่วนการผสมใช้ปุ๋ยระหว่างเคมีกับชีวภาพ
เพื่อให้ได้จุดที่สมดุลย์ คือปริมาณที่ลงตัวไม่มากเกินไปสำหรับการบำรุงดอกให้ใหญ่ สวยงาม แล้ว
ผมจะได้นำผลที่ได้จากการทดลองนี้มาเผยแพร่แก่ทุกๆท่านที่ปลูก ดอกมะลิเหมือนผม


ซึ่งช่วงนี้ที่ จ.ลำปาง มีการจัดงาน ลำปางอุตสาหกรรมแฟร์ โฆษณาซะดีว่าจะมีการถ่ายทอดเทคนิค
การเกษตร และ มีผู้เชี่ยวชาญการเกษตรมาถ่ายทอดความรู้การเกษตรใหม่ๆ แต่ผมไปเที่ยวแล้ว
ผิดหวังมาก ที่งานเน้นด้านขายผลิตภัณฑ์ทางเกษตรเป็นหลัด เช่น ปลาช่อนแดดเดียว พืชผัก
ปลอดสารพิษ รถไถ มีซุ้มของวิทยาลัยเกษตรราชมงคลล้านนา จ.ลำปาง แค่ซุ้มเดียว ที่มีการนำ
ตัวอย่างน้ำหมักชีวภาพ มาโชว์และขาย ผมก็เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นนักศึกษา ส่วนครูไม่
อยู่ประจำซุ้ม นับเป็นการทำงานที่แค่ผักชีโรยหน้าจริงๆ หวังผลด้านหาความรู้ลึกๆไไม่ได้เลย เพราะ
คุยกับนักศึกษาเขาก็พูดแค่เรื่องที่เขารู้ จะถามหาความรู้เรื่องการผสมปุ๋ย เขาก็ไม่รู้เรื่อง ผมว่าคำ
ปรึกษาในเวปแห่งนี้แน่นปึ๊กกว่าในงานมากๆ มีท่านผู้รู้ที่ได้ผลจากการปฏิบัติจริง เป็นประโยขน์
มากสำหรับบุคคลที่สนใจการเกษตร โดยสามารถสอบถามในสิ่งที่ไม่รู้ได้คำตอบที่ใช้ได้จริง นับว่า
ผมโชคดีมากที่ ได้เป็นสมาชิกเวปนี้


ขอบคุณครับคุณลุงคิมที่ท่านได้ก่อตั้งเวปไซด์ที่ดีมากเช่นนี้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©