-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - เก็บตกงานสัญจรวัดอัมพวันสุพรรณบุรี (๕) * ทำยาน็อคให้แรงขึ้น
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

เก็บตกงานสัญจรวัดอัมพวันสุพรรณบุรี (๕) * ทำยาน็อคให้แรงขึ้น

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 16/09/2022 5:50 am    ชื่อกระทู้: เก็บตกงานสัญจรวัดอัมพวันสุพรรณบุรี (๕) * ทำยาน็อคให้แรงขึ้น ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 16 ก.ย.

***********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า
ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ..... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ...... ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปา ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน . ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 17 ก.ย. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดท่าตำหนัก ถ.เพชรเกษม (ขาล่อง) ก่อนถึงแยกนครชัยศรี 200 ม. นครชัยศรี นครปฐม.... งานนี้ ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....

*****************************************************************************
*****************************************************************************

เก็บตกงานสัญจรวัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี 10 ก.ย. (๕)

สมช. :
ลุงครับ มาขอความรู้เรื่องสารสมุนไพรฆ่าแมลง จากยาน็อคที่ใช้กันนี่ เราจะทำให้มันแรงขึ้น แรงมากๆตามที่เราต้องการ ทำได้ไหมครับ ?
ลุงคิม : ด้ายยยย .... ปัญหามีให้แก้ ไม่ใช่มีให้กลุ้ม ถามก่อน ใช้ลองใช้ยาน็อคบ้างหรือยัง ?

สมช. : ใช้ครับ ใช้มานานแล้วด้วย บอกได้เลยว่า ได้ผลครับ
ลุงคิม : อืมมม นี่แหละที่เขาเรียกว่า ต่อยอด/ขยายผล จากธรรมดาๆทำให้เป็นซุปเปอร์ เหนือชั้นขึ้นไปอีก

สมช. : ครับ ทำนองนี้แหละครับ
ลุงคิม : เรื่องง่ายๆ พื้นๆ ธรรมดาๆ .... ยาน็อคเป็นสูตรรวมมิตร สู้กับหนอนแมลงโรค รวมกันเลย ทางออกสำหรับปัญหาหรือแนวคิดนี้มีหลากหลาย เน้นย้ำหลากหลาย เช่น เสริมฤทธิ์สมุนไพรเฉพาะตัวในยาน็อค, ทำใหม่เป็นสูตรเฉพาะ, สูตร+สารเคมี, ใช้ร่วมกับ ไอพีเอ็ม ป้องกันกำจัดแบบผสมผสาน,

สมช. : ครับ หลายอย่างผสมผสานกัน
ลุงคิม : สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทุกยี่ห้อ ทุกบริษัท สรรพคุณเดียวกันหมด นั่นคือ “กลิ่น รส ฤทธิ์” เพียงแต่อย่างไหนจะแรงกว่าอย่างไหนเท่านั้น ในขณะที่สารสมุนไพรก็สรรพคุณเดียวกันอีก นั่นคือ “กลิ่น รส ฤทธิ์” เหลือแต่ว่า เราสามารถทำให้สรรพคุณในสารสมุนไพรแรงๆ แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้ ทำได้ไหมเท่านั้น ?

สมช. : เอางี้ได้ไหมครับ เรามียาน็อคเป็นพื้น แล้วเอาสมุนไพรสูตรฆ่าแมลงโดยเฉพาะ จากยาน็อคสูตรรวมมิตรธรรมดาๆก็จะกลายเป็นยาน๊อคสูตรฆ่าหนอน
ลุงคิม : เป๊ะเลย นี่แหละยาน็อคซุปเปอร์ละ

สมช. : ครับ จากสูตรฆ่าหนอน เปลี่ยนเป็นสูตรฆ่าศัตรูพืชตัวอื่น ใส่สารสมุนไพรสำหรับฆ่าอะไร จากยาน็อคสูตรรวมมิตรกลายเป็นยาน็อคกำจัดศัตรูพืชตัวนั้น
ลุงคิม : ช่ายยยย

บ่น
** ต้นทุนค่าสาร ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืช 30%
** ทั่วโลกมีพืช 2,400 ชนิด เป็นสารสมุนไพรกำจัดโรคพืชได้
** สารออกฤทธิ์ในสมุนไพร คือ กลิ่น - รส - ฤทธิ์

** อเมริกา ซื้อลิขสิทธิ์ราติโนน ในหนอนตายหยาก
** เยอรมัน ซื้อลิขสิทธิ์อะแซดิแร็คติน ในสะเดา
** ฝรั่งเศส ซื้อลิขสิทธิ์แค็ปไซซิน ในพริก

** ศัตรูพืช ในพืชอ่อนแอ แพร่ระบาดรุนแรงกว่าในพืชสมบูรณ์แข็งแรง
** ไม่มีพืชใดในโลก ที่ไม่มีศัตรูพืชประจำเผ่าพันธุ์
** ไม่มีสารเคมีในโลก ไม่มีสารสมุนไพรใดในโลก ทำให้ส่วนของพืชที่ถูกทำลายไปแล้ว ฟื้นคืนดีอย่างเดิมได้ เสียแล้วเสียเลย มาตรการที่ดีที่สุด คือ “กันก่อนแก้”

** งานวิจัยสมุนไพร ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืช โดยนักวิชาการไทยกว่า 10 งานวิจัย ไม่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุน แม้โดยหน่วยราชการที่นักวิจัยสังกัดก็ไม่ส่งเสริม

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=6532
รวมงานวิจัยเรื่องสารสมุนไพรฯ

** สารเคมี .... คนใช้รับ 10 เท่า - คนกินรับ 1 เท่า



คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม

หลากหลายสูตรการหมักสมุนไพร :
สูตรเฉพาะ :

หมายถึง การเลือกใช้พืชสมุนไพรเพียง 1 อย่าง ที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับชนิดของแมลงโดยเฉพาะ หรือตรงกับชนิดของหนอนโดยเฉพาะ หรือตรงกับชนิดของโรคโดยเฉพาะ นำมาสกัดตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยแยกพืชสมุนไพรแต่ละชนิด ไม่ปะปนกัน เช่น
ถัง-1 สกัด "สะเดา" อย่างเดียวเพื่อใช้กำจัดหนอน
ถัง-2 สกัด "ขมิ้นชัน" อย่างเดียวเพื่อใช้กำจัดเพลี้ย ไร
ถัง-3 สกัด "มังคุด" อย่างเดียวเพื่อใช้กำจัดรา แบคทีเรีย
เมื่อสกัดพืชสมุนไพรตัวใดก็จะได้เฉพาะสารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรตัวนั้นเท่านั้น เป็นสารออกฤทธิ์ที่ตรงกับชนิดของศัตรูพืช และมีความเข้มข้นมากที่สุด สูตรนี้เหมาะสำหรับการกำจัดและทำลายโดยตรง....เรียกว่า "สูตรตัวต่อตัว"

สูตรรวมมิตร :
หมายถึง การเลือกพืชสมุนไพร 2-5 ชนิด ที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับหนอนเหมือนๆกัน หรือตรงกับแมลงเหมือนๆกัน หรือตรงกับโรคเหมือนๆกัน นำมาสกัดเอาสารออกฤทธิ์ตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยแยกสกัดพืชสมุนไพรแต่ละชนิดไม่ปะปนกัน เช่น
ถัง-1 สกัดว่านน้ำ ตะบูน กระเทียม ร่วมกันเพื่อใช้กำจัดเชื้อรา
ถัง-2 สกัดใบน้อยหน่า สะเดา หางไหล ร่วมกันเพื่อใช้กำจัดแมลง
ถัง-3 สกัดฝักคูน แมงลักคา โหระพา ร่วมกันเพื่อใช้กำจัดไข่แม่ผีเสื้อ
แบบนี้จะทำให้ได้สารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรหลายชนิดที่ตรงกับโรคและแมลงศัตรูพืชเพียงตัวเดียว ส่งผลให้ได้ประสิทธิ์ภาพสูง สูตรนี้ใช้ได้ทั้งป้องกันและกำจัด .....เรียกว่าสูตร "ตัวต่อตัวมีรุม"

สูตรรวมมิตรแบบผสม :
หมายถึง การเลือก....
- ใช้พืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์กำจัดหนอนโดยตรง 3-5 ชนิด
- ใช้พืชสมุนไพรประเภทที่มีสารออกฤทธิ์กำจัดแมลงโดยตรง 3-5 ชนิด
- ใช้พืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์กำจัดรา แบคทีเรีย ไวรัส โดยตรง 3-5 ชนิด
นำพืชสมุนไพรทั้ง 3 ประเภท มาสกัดรวมกันตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน ในถังเดียวกัน พร้อมๆกัน และด้วยวิธีการเดียวกันแบบนี้จะทำให้ได้สารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรทุกตัวที่สามารถป้องกันกำจัดหนอน แมลง และโรค ได้ในครั้งเดียวกันซึ่งเหมาะสำหรับการใช้เพื่อป้องกันมากกว่าเพื่อกำจัด เรียกว่า "สูตรตะลุมบอน"

สูตรข้างทาง :
หมายถึง การเลือกพืชทั้งที่กินได้ และวัชพืช ที่ขึ้นตามพื้นที่ทั่วไป เช่น ข้างถนน ในสวนในป่า ชายน้ำ บนภูเขา ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวตามธรรมชาติ เช่น กลิ่นฉุน/เหม็น รสฝาด/ขม/เผ็ด/ร้อน มียางมากอวบน้ำ ไม่มีโรค หนอนและแมลงรบกวน ซึ่งแสดงว่าในพืชนั้นมีสารออกฤทธิ์บางอย่างที่คุ้มครองตัวมันเองได้ เมื่อนำพืชที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมาสกัดตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้านก็จะได้สารออกฤทธิ์นั้นในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชได้ เรียกว่า "สูตรเหมาจ่าย"

หมายเหตุ :
- มีพืชสมุนไพรเพียงจำนวนน้อย ที่ผ่านงานวิจัยโดยนักวิชาการ และผ่านการรับรองทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ในขณะที่ยังมีพืชสมุนไพรอีกจำนวนมากที่ยังไม่ผ่านงานวิจัย และยังไม่มีการรับรองใด แต่ก็ยังมีการใช้และยินยอมให้ใช้ได้โดยผ่านกรรมวิธีแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน

- เกษตรกรทั่วโลกรู้จักและเคยใช้สารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรทดแทนสารเคมี ทั้งในการป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืชและในกิจกรรมเพื่อการดำรงชีวิตอื่นๆมานานแล้ว และวันนี้สารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรกำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

- มร.สตอลล์ แกสบี้.นักวิชาการเยอรมัน ร่วมกับ ศ.ดร.ขวัญชัย สมบัติสิริ ศึกษาวิจัยสะเดา และพืชสมุนไพรอื่นๆ อีกกว่า 30 ชนิดในประเทศไทยจนประสบความสำเร็จ ข้อมูลเรื่องนี้รัฐบาลเยอรมันได้ตีพิมพ์เป็นภาษาต่างๆทั่วโลก 14 ภาษา ยกเว้นภาษาไทยเพราะเห็นว่าประเทศไทยมีนักวิจัยร่วมอยู่ด้วยแล้ว

- เมื่อราว 3-5 ปีที่แล้ว เยอรมันได้สั่งนำเข้า หนอนตายหยากจากไทย. สะเดาจากอินเดีย. หางไหลจากอินโดเนเซีย. นำไปสกัดเอาสารออกฤทธิ์ด้วยเทคโนโลยีสูง จนสามารถ Q.C. คุณภาพ และปริมาณของสารออกฤทธิ์ได้ตามต้องการ

วิธีสกัดพืชสมุนไพรแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน
1. หมักน้ำเปล่า
วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :

เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบดละเอียดปริมาณ 1-2 กก. น้ำที่ออกมาอย่าทิ้งใส่ลงในถังพลาสติก เติมน้ำเปล่า 10-20 ล. คนให้เข้ากันดี

ทิ้งไว้ 24-48 ชม. ระหว่างนี้ให้คน 2-3 รอบ ครบกำหนด 24-48 ชม. ก็จะได้สารสกัดสมุนไพรเข้มข้น พร้อมใช้งาน

หมักต่อไป 15-20 วัน หรือเมื่อเห็นว่าพืชสมุนไพรเปื่อยยุ่ย นอนก้นถังดี ให้กรองเอากากออก เก็บน้ำใสไว้ใช้งานจะดีมาก กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง เก็บไว้ใช้รองก้นหลุมปลูก หรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี

สูตรนี้ไม่แนะนำให้เก็บไว้นานเพราะจะเน่าหรือบูด กรณีพืชสมุนไพรประเภทหัว ซึ่งมีแป้งเป็นส่วนผสมหลักจะบูดเน่าเร็วกว่าสมุนไพรประเภทใบ/ดอก/ผล ดังนั้นจึงควรทำครั้งละเพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้ง แต่หากต้องการเก็บนานให้เติมเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์ อัตรา 1 ล.ต่อน้ำสกัด 10 ล. แอลกอฮอร์จะช่วยแก้อาการบูดเน่าได้

2. สูตรหมักเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์ :
วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :

เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบดละเอียดปริมาณ 1-2 กก. น้ำที่ออกมาอย่าทิ้ง ใส่ลงในถังพลาสติก เติมเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์ (อย่างใดอย่างหนึ่ง)1-2 ล. เติมน้ำส้มชายชู 1 ล. อัตราเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์กับน้ำส้มสายชูให้ได้พอท่วมสมุนไพร ถ้าไม่ท่วมให้เติมน้ำเปล่าเพิ่มจนกระทั่งพอท่วม คนเคล้าให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ 24-48 ชม.ระหว่างนี้ให้คน 2-3 รอบ เพื่อให้แอลกอฮอร์กับน้ำส้มสายชูจะสกัดเอาสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรออกมา ครบกำหนด 24-48 ชม.แล้วให้เติมน้ำเปล่า 10-20 ล.ก็จะได้สารสกัดสมุนไพรเข้มข้น พร้อมใช้งาน

หมักต่อไป 15-20 วัน หรือเมื่อเห็นว่าพืชสมุนไพรเปื่อยยุ่ย นอนก้นถังดี ให้กรองเอากากออก เก็บน้ำใสไว้ใช้งานจะดีมาก กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง เก็บไว้ใช้รองก้นหลุมปลูกหรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี

3. สูตรแช่น้ำร้อน :
วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :

เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบดละเอียดปริมาณ 1-2 กก. น้ำที่ออกมาอย่าทิ้ง ใส่ลงในถังพลาสติกที่มีน้ำต้มเดือดแล้ว 10-20 ล. คนให้เข้ากันดี ทิ้งไว้ 24-48 ชม. ระหว่างนี้ให้คน 2-3 รอบ ครบกำหนด 24-48 ชม. ก็จะได้สารสกัดสมุนไพรเข้มข้น พร้อมใช้งาน

หมักต่อไป 15-20 วัน หรือเมื่อเห็นว่าพืชสมุนไพรเปื่อยยุ่ย นอนก้นถังดี ให้กรองเอากากออก เก็บน้ำใสไว้ใช้งานจะดีมาก กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง เก็บไว้ใช้รองก้นหลุมปลูกหรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี

สูตรนี้ไม่แนะนำให้เก็บไว้นานเพราะจะเน่าหรือบูด กรณีพืชสมุนไพรประเภทหัว ซึ่งมีแป้งเป็นส่วนผสมหลักจะบูดเน่าเร็วกว่าสมุนไพรประเภทใบ/ดอก/ผล ดังนั้นจึงควรทำครั้งละเพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้ง แต่หากต้องการเก็บนานให้เติมเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์ อัตรา 1 ล.ต่อน้ำสกัด 10 ล. แอลกอฮอร์จะช่วยแก้อาการบูดเน่าได้

4. สูตรต้มพอร้อน :
วัสดุส่วนผสม :

เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบดละเอียดปริมาณ 1-2 กก.น้ำที่ออกมาอย่าทิ้ง ใส่ลงในถังโลหะ (ปี๊บ)ที่มีน้ำ 10-20 ล. คนให้เข้ากันดี ยกขึ้นตั้งไฟ ต้มพอเดือด เสร็จแล้วยกลงปล่อยให้เย็น ก็จะได้สารสกัดสมุนไพรเข้มข้น พร้อมใช้งาน

เมื่อน้ำต้มเย็นลงแล้วให้กรองเอากากออก เก็บน้ำใสไว้ใช้งาน กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง เก็บไว้ใช้รองก้นหลุมปลูก หรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี

สูตรนี้ไม่แนะนำให้เก็บไว้นานเพราะจะเน่าหรือบูด กรณีพืชสมุนไพรประเภทหัว ซึ่งมีแป้งเป็นส่วนผสมหลักจะบูดเน่าเร็วกว่าสมุนไพรประเภทใบ/ดอก/ผล ดังนั้นจึงควรทำครั้งละเพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้ง แต่หากต้องการเก็บนานให้เติมเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์ อัตรา 1 ล.ต่อน้ำสกัด 10 ล. แอลกอฮอร์จะช่วยแก้อาการบูดเน่าได้

5. สูตรต้มเคี่ยว
วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :

เลือกพืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ สภาพสดหรือแห้ง ส่วนที่มีสารออกฤทธิ์มากที่สุด อายุและสภาพแวดล้อม ตามต้องการหรือตามหลักวิชาการ สับเล็กหรือบดละเอียดปริมาณ 1-2 กก. น้ำที่ออกมาอย่าทิ้ง ใส่ลงในถังโลหะ (ปี๊บ)ที่มีน้ำ 10-20 ล. ยกขึ้นตั้งไฟ

ต้มครั้งที่ 1 : ให้เดือดจัด เสร็จแล้วใช้ตะแกงกรองเอาสมุนไพรที่ต้มแล้วออกทิ้งไป ใส่สมุนไพรตัวเดิม ปริมาณเท่าเดิมลงไปแทน เตรียมต้มรอบ 2

ต้มครั้งที่ 2 : เดือดจัดแล้วใช้ตะแกงกรองเอาสมุนไพรที่ต้มแล้วออกทิ้งไป ใส่สมุนไพรตัวเดิม ปริมาณเท่าเดิมลงไป เตรียมต้มรอบ 3

ต้มครั้งที่ 3 : เดือดจัดแล้วใช้ตะแกงกรองเอาสมุนไพรที่ต้มแล้วออกทิ้งไป ใส่สมุนไพรตัวเดิม ปริมาณเท่าเดิมลงไปแทน แล้วต้มจนเดือดจัดเป็นครั้งสุดท้าย เสร็จแล้วยกลง ปล่อยให้เย็น แล้วให้กรองเอากากออกก็จะได้หัวเชื้อน้ำต้มสมุนไพรเข้มข้นพร้อมใช้งาน

กากก้นถังที่ได้นำไปตากแห้ง เก็บไว้ใช้รองก้นหลุมปลูก หรือโรยหน้าดิน ช่วยป้องกันแมลงในดินได้เป็นอย่างดี

สูตรนี้ไม่แนะนำให้เก็บไว้นานเพราะจะเน่าหรือบูด กรณีพืชสมุนไพรประเภทหัว ซึ่งมีแป้งเป็นส่วนผสมหลัก จะบูดเน่าเร็วกว่าสมุนไพรประเภทใบ/ดอก/ผล ดังนั้นจึงควรทำครั้งละเพียงพอต่อการใช้ 1 ครั้ง แต่หากต้องการเก็บนานให้เติมเหล้าขาวหรือแอลกอฮอร์ อัตรา 1 ล.ต่อน้ำสกัด 10 ล. แอลกอฮอร์จะช่วยแก้อาการบูดเน่าได้

หมายเหตุ :
สูตรต้มเคี่ยวทำได้ 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 : ต้มเคี่ยวครบ 3 รอบแล้วกรองเอากากออกได้น้ำใสเท่าไรก็ได้เท่านั้น ใช้งานได้เลย ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์มีเท่าไรก็มีเท่านั้น

แบบที่ 2 : ต้มเคี่ยวครบ 3 รอบ กรองเอากากออกจนได้น้ำใสแล้ว ให้ต้มเคี่ยวต่อโดยไม่ต้องเติมพืชสมุนไพรอีก ต้มเคี่ยวจนกระทั่งน้ำระเหยไปไอหายไป เหลือ 1 ใน 4 ของครั้งแรก เสร็จแล้วปล่อยทิ้งให้เย็น ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์จะแรงขึ้น

6. สูตรกลั่น
ถังกลั่น :

- เป็นถังโลหะทรงสูง
- ใส่น้ำเปล่าก้นถัง ปริมาณตามความเหมาะเมื่อเทียบกับปริมาณของพืชสมุนไพรที่จะกลั่น ไม่ควรเกิน 1 ใน 4 ของความสูงถัง

- มีตะแกงติดในถัง ณ ระดับความสูง 3 ใน 4 จากก้นถังของความสูงถัง
- มีฝาปิดสนิทป้องกันไอระเหยออกได้
- ที่ฝาปิดมีท่อให้ไอระเหยผ่านไปสูงระบบควบเย็นได้สะดวก
- ท่อนี้จะผ่านระบบควบเย็น ส่วนปลายดัดแปลงให้แทงเข้าไปในถังกลั่น เพื่อให้ไอระเหยที่ถูกควบเย็นจนกลายเป็นน้ำแล้วกลับเข้าไปกลั่นซ้ำในถังอีกครั้ง

ส่วนผสมและวิธีทำ :
เลือกพืชสมุนไพรประเภทสกัดด้วยวิธีกลั่นโดยเฉพาะ มีสารออกฤทธิ์ตรงกับชนิดศัตรูพืช สดหรือแห้ง สับเล็กหรือบดละเอียด การกลั่นทำได้ 2 แบบ

แบบที่ 1 : กลั่นแบบต้มเหล้าป่า (ชาวบ้านแอบทำ /เหล้าเถื่อน)หรือเหล้าขาว (รัฐบาลทำ)การกลั่นแบบนี้ต้องอาศัยความร้อนสูง น้ำที่ต้มเพื่อเอาไอระเหยต้องเดือดจัด 100 องศาเซลเซียส ทำให้ได้ "น้ำ + สารออกฤทธิ์" ซึ่งจะมีน้ำ 70 เปอร์เซ็นต์ สารออกฤทธิ์ 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าน้ำที่ต้มเพื่อเอาไอระเหยร้อน 60-70 องศาเซลเซียส จะทำได้เปอร์เซ็นต์ของสารออกฤทธิ์สูงขึ้น อัตราส่วน น้ำ 30 เปอร์เซ็นต์ สารออกฤทธิ์ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่เนื่องจากความร้อนเพียงเท่านี้ไอน้ำจะไม่พุ่งออกมาสู่ระบบควบเย็นได้ แก้ไขโดยการใช้ตัวดูดไอระเหย (แว็คกั้ม)....... สารออกที่ได้ใช้งานได้เลย หากต้องการเก็บนานให้เติมแอลกอฮอร์ 10-20 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำกลั่นสารออกฤทธิ์

แบบที่ 2 : กลั่นซ้ำ เป็นการกลั่นแบบให้ความร้อนสูงเดือดจัด ไอระเหยที่ถูกควบเย็นแล้วผ่านท่อที่ดัดแปลงเป็นการเฉพาะไหลกลับเข้าไปในหม้อกลั่นอย่างเดิมรวมกับน้ำก้นถังกลั่นอีกครั้ง แล้วถูกต้มกลายเป็นไอระเหยสูงขึ้นสู่ระบบควบเย็นซ้ำโดยอัตโนมัติ น้ำจะถูกกลั่น
เป็นไอน้ำ ถูกควบเย็นเป็นน้ำไหลกลับเข้าถังกลั่น หมุนเวียนซ้ำอย่างนี้จนเป็นที่พอใจ น้ำก้นถังกลั่น คือ น้ำกลั่นสารออกฤทธิ์ มีน้ำกับสารออกฤทธิ์ 1 : 1 ใช้งานได้เลย

แบบที่ 3 : กลั่นด้วยเครื่องกลั่นเฉพาะแบบ "แยกน้ำ-แยกน้ำมัน" น้ำมันที่ได้เป็นสารออกฤทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีน้ำปน สารออกฤทธิ์ที่ได้ใช้งานได้เลย และสามารถเก็บนานได้โดยไม่ต้องเติมแอลกอฮอร์

ประสบการณ์ตรงที่ไร่กล้อมแกล้ม
สูตรข้างทางต้มพอเดือด :
เลือกเก็บพืชสมุนไพรที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ สภาพสดใหม่ สมบูรณ์ มีงานวิจับรองรับ ในพื้นที่ทั่วๆไป เช่น

เก็บจากข้างถนน : สาบเสือ. สบู่ต้น. แมงลักคา. สะเดา. ผกากรองป่า. ว่านน้ำ. กะเพราผี. ฝักคูน. ชุมเห็ด.

เก็บจากหลังบ้าน-หน้าบ้าน-ในครัว : ตะไคร้. ข่า. พริก. กระชาย. กะเพรา. โหระพา. แมงลัก.

เก็บในสวนตัวเอง-สวนเพื่อนบ้าน : ใบน้อยหน่า. บอระเพ็ด. ฟ้าทะลายโจร. ลูกใต้ใบ. ใบฝรั่ง. เสลดพังพอน.

เก็บมาอย่างละกำมือใหญ่ๆ ปริมาณเท่าๆ กัน ทุกอย่างสดใหม่ อัดลงปี๊บได้ประมาณ 3 ใน 4 ของความจุ ใส่น้ำให้เต็มปี๊บ ยกขึ้นตั้งไฟ เร่งไฟอ่อนๆ (เร่งมากเปลืองแก๊ส) ระหว่างต้มคนพอเป็นพิธี ต้มพอเดือดปุดๆ เสร็จแล้วดับไฟ ยกลง ทิ้งให้เย็น....เย็นแล้วกรองกากออกเอาไปใส่โคนไม้ เท่านี้ก็ได้สารสกัดสมุนไพรสูตรข้างทาง เป็นสารสกัด "เข้มข้น" พร้อมใช้งาน....ถ้าจะใช้เลย ให้เจือจางกับน้ำเปล่า 3-4 เท่า

ถ้าต้องการเก็บนาน ให้เติมแอลกอฮอร์ 1-2 ส่วนต่อน้ำต้มสมุนไพร 10 ส่วนและเติมน้ำส้มสายชู 1-2 ส่วนต่อแอลกอฮอร์ 10 ส่วน....อัตราใช้ 20-50 ซีซี./น้ำ 20 ล.

หมายเหตุ :
- เลือกพืชสมุนไพรอะไรก็ได้ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว เผ็ด/ร้อนจัด. ขมจัด. ฝาดจัด. มีฤทธิ์เบื่อเมา.
- น้ำพริกแกงเผ็ดซึ่งมี พริก. มะกรูด. ตะไคร้. สามารถพัฒนาให้เป็นสารสกัดสมุนไพรได้ โดยเติมเพิ่ม ข่า. ขิง. ขมิ้น. ไพล. ฯลฯ

- พืชปลูกบางชนิดเมื่อสัมผัสกับแอลกอฮอร์แล้วเกิดอาการใบกร้าน ให้เลิกใช้แอลกอฮอร์แล้วใช้เหล้าขาวแทน

- ปุ๋ยทางใบที่มีกากน้ำตาล. หรือกลูโคส.เป็นส่วนผสม เนื่องจากความหวานของสารดังกล่าวอาจจะเป็นตัวเรียกเชื้อราเข้ามาได้ แก้ไขโดย ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบช่วงกลางวัน แล้วฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรกำจัดเชื้อราในช่วงเย็นหรือค่ำของวันเดียวกัน


สารสมุนไพร สารออกฤทธิ์หรือตัวยา อาจจะไม่ค่อยแรง ต้องฉีดบ่อยๆ จะฉีดบ่อยๆได้ต้องมีเครื่องทุ่นแรง โดยเฉพาะ สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ย ตัวนี้ช่วยได้มาก ฉีดพ่นสารสมุนไพรวันละ 2-3-4 ครั้ง เช้าสายเที่ยงบ่ายค่ำ ทำได้

ที่จริง สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ย นี่ ไม่ใช่แค่ให้น้ำได้อย่างเดียว ให้ น้ำ+ปุ๋ยทางใบ+ปุ๋ยทางราก+ยาสมุนไพร+ยาเคมี+ฮอร์โมน ไปพร้อมกันทุกตัว หรือไปเฉพาะบางตัว ทำได้ทั้งนั้น ประหยัดเวลา แรงงาน พลังงาน ที่สำคัญประหยัดอารมณ์ ไม่เครียด .... คิดดู

ปั๊มไฟฟ้า 3 แรงม้า ใช้ไฟฟ้าบ้านปกติธรรมดาๆ ติดสปริงเกอร์เป็นโซนๆ
* แปลงผัก 1 ไร่ 1 โซน ใช้เวลาแค่ 5 นาที คิดดู 10 ไร่ 10 โซน ใช้เวลาแค่ 50 นาที คือแค่ชั่วโมงเดียว

* แปลงไม้ผล 1 โซน 50 ต้น ให้ทางใบใช้เวลาแค่ 5 นาที ให้ทางรากโซนละ 15 นาที ถ้าไม้ผล 10 โซน 500 ต้น ใช้เวลา 150 นาที คือแค่ 3 ชม. ด้วยแรงงานคนเดียว....

ประหยัดสุดประหยัดเลยนะ ว่ามั้ย กลับไปบ้าน ยุให้พ่อติด สปริงเกอร์-หม้อปุ๋ย ซี่




7. หม้อต้มเหล้าป่า กลั่นสมุนไพร


8. สมุนไพรสูตร "ในครัว"


9. สาบเสือสาบเสือ .... สมุนไพร 500 ชื่อ แต่ละบ้านแต่ละที่แต่ละคนตั้งชื่อเอง ลงท้ายคุยกันไม่รู้เรื่อง
..... ชื่อที่นี่ "ง่องแง่ง" ชื่อทางราชการ "สาบเสือ"



8. ยาน๊อค 5 ล.


10. ยาน็อค 1 ล.










10. พร้อมทำเอง สอนวิธีทำ.... พร้อมซื้อ สอนวิธีซื้อ บางอย่าง ซื้อถูกกว่าทำเอง .... ว่ามั้ย ?


11.


12.


13.


14.


15.


16.


17.


18.


19.


20.


21.




22. ตัวสมุนไพร หาไม่ยาก.... หายาก คือ ขวด 5 ล. ไซด์ทรงเดียวกัน ตระเวนไปตามร้านของเก่าได้มาครั้งละ 3ขวด 5ขวดกว่าจะได้ 50 ขวด ใช้เวลาเป็นเดือน....ต้นทุนค่าน้ำมันรถแพงกว่าค่าขวด


23. สมการ ปุ๋ย/ยา คิดเอง .... คิดได้ไง !

--------------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©