-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 4 พ.ย. *ผักอินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเคมี ใช้ปุ๋ยลุงคิมสูตรไหน
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 4 พ.ย. *ผักอินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเคมี ใช้ปุ๋ยลุงคิมสูตรไหน

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 04/11/2022 6:13 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 4 พ.ย. *ผักอินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเคมี ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 4 พ.ย.

***********************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย-ยา-ไฟฟ้า-เวลา-ค่าแรง-ค่าที่-อารมย์-เทคนิค-เทคโนฯ-โอกาส-ตลาด-ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ
เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า
ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ....... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ..... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ..... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ........ ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปา ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน ... ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

- ทุกวันจันทร์ เฉพาะวันจันทร์ สมช.สีสันชีวิตไทย “คุณล่า” (081) 944-8494 ไปที่ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสะดวก ราชบุรี พร้อมกับ ระเบิดเถิดเทิง. ไบโออิ. ไทเป. ยูเรก้า. ยาน็อค. กับหนังสือหัวใจเกษตรไทย มินิ ไปจำหน่าย.... ด้วยประสบการณ์เกือบ 20 ปี พบเห็นทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวมามากมาย ใครสนใจใคร่รู้ก็ไปคุยกัน แล้วจะรู้ว่า อ้อออ เป็นอย่างนี้นี่เอง

- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 5 พ.ย. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน
ไปวัดไปวัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี ....
งานนี้ ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....


***********************************************************************
***********************************************************************

จาก : 09 510x 781x
ข้อความ : ผักสวนครัวอินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเคมี ไม่สารเคมี ต้องใช้ปุ๋ยลุงคิมสูตรไหน

จาก : 08 472x 820x
ข้อความ : อาหารพืช มีในกระสอบ ในครัว ในสวน ข้างทาง ข้างบ้าน ข้างป่าช้า ข้างเมรุ สะใจสุดสุดเลยครับ

MOTIVATION แรงบันดาลใจ :

สินค้าออแกนิกส์ในจีน :

ยุคสมัยนี้ต้องยอมรับว่า คนกำลังเข้าหาธรรมชาติมากขึ้นทุกวัน คงเป็นเพราะมลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากฝีมือคนด้วยกันเอง ทำให้มีความพยายามเฟ้นหาสินค้าประเภทธรรมชาติบำบัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นยารักษาโรคด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ผักไร้สารพิษหรือ "ออร์แกนิค ฟู้ดส์" ซึ่งก็คือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ที่ไม่มีการใช้สารเคมีเข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่การเตรียมการปลูก การดูแล ไปจนถึงเข้าสู่กระบวนการประกอบอาหาร เรียกว่าตั้งแต่ปลูกไปจนถึงโต๊ะอาหารต้องไม่มีสารเคมีใดๆ อย่างสิ้นเชิง

ปัจจุบันในประเทศจีนมีการปนเปื้อนของสารเคมีในอาหารอยู่มาก ที่ผ่านมามีการตีแผ่เกี่ยวกับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ข่าวสารเมลามีนปนเปื้อนในนมผง และอาหาร GMO ในประเทศ ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนตระหนักถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และมีความวิตกกังวลกับสารปนเปื้อนในอาหารที่บริโภคในชีวิตประจำวัน จึงทำให้กระแสของอาหารออร์แกนิคนั้น เริ่มจะมีคนหันมาสนใจมากขึ้น


ตลาดสินค้าออแกร์นิกส์ในจีน :
อาหารออแกนิกส์ในจีนเพิ่งได้รับความสนใจเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องที่คนให้ความสนใจมากที่สุดใน ปี 2008 คือ ข่าวสารเมลามีนปนเปื้อนในนมผง หลังจากนั้นเหล่าบรรดาผู้ประกอบการอาหารออร์แกนิคในจีน ก็เริ่มโปรโมทผลิตภัณฑ์นมผงออร์แกนิคออกมาตีตลาด ผลก็คือยอดขายผลิตภัณฑ์นมผงออร์แกนิคพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะการนำเข้าผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก หลังจากนั้นมีการตีแผ่เรื่องสารเคมีปนเปื้อนในอาหารอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ความเสี่ยงด้านสุขภาพจึงเป็นแรงสนับสนุนกระแสอาหารออร์แกนิคในประเทศจีน แม้ผู้ผลิตสินค้าออร์แกนิคในจีนจะมีอยู่ไม่มากเมื่อเทียบกับขนาดและประชากรของประเทศ แต่เหตุใดจีนถึงถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 5 ของประเทศที่มีการปลูกพืชออร์แกนิคมากที่สุดในโลก ซึ่งเนื่องมาจากสถิติการวัดตามพื้นที่เพาะปลูกเป็นเอเคอร์นั่นเอง แม้ว่าจีนจะถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตสินค้าออร์แกนิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่การหาซื้ออาหารออร์แกนิคในจีนกลับเป็นไปได้ยาก เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคอาหารออร์แกนิคมีเพียงกลุ่มเล็กๆ

ตอบ :

คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม :


ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ไม่มีปัญหา ปัญหามีให้แก้ไม่ใช่มีให้กลุ้ม ก่อนแก้ปัญหาตีโจทย์ให้แตก แล้วตอบโจทย์ ทีละข้อ-ทีละประเด็น-ทีละเรื่อง อย่างมีหลักการและเหตุผล

ปลูกผักสวนครัวก็เหมือนกับการปลูกพืชอย่างอื่น ทุกชนิด ไม่มีพืชใดในโลกที่หลีกพ้นปัจจัย พื้นฐานเพื่อการเพาะปลูก ดิน-น้ำ-แสง แดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค ไปได้ หากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งมีปัญหาหรือไม่ถูกต้องเหมาะสมสำหรับพืชที่ปลูก ย่อมหมาย ถึงความล้มเหลว

ตัวความล้มเหลวจริงๆ คือ ไม่เจริญเติบโต ไม่ให้ผลผลิต ผลผลิตไม่มีคุณภาพ ศัตรูพืชมาก
“ผักสวนครัว ? .... ชนิดผัก”
- กินใบ กินผล กินยอด กินดอก กินหัว
- อายุสั้นฤดูกาลเดียว อายุยืนนานหลายปี
- แปลงเล็ก แปลงใหญ่
- บนดิน ในน้ำ ในอากาศ

“แบบอินทรีย์แท้ ? ..... อาหารสำหรับพืช ”
- มีสารอาหารเพียงพอ ครบ/ปริมาณ
- ชนิด น้ำ/แห้ง, ประเภท ทางใบ/ทางราก
- เปอร์เซ็นต์เนื้อสารอาหารน้อย แก้ด้วยการให้บ่อยๆ

“ไม่ปุ๋ยเคมี .... อะไรแทน ? ”
- ใช้อินทรีย์ (น้ำ แห้ง ทางใบ ทางราก) แทน
- ใช้ฮอร์โมนเขียว แทน
- สร้าง/สะสม อาหารอินทรีย์ไว้ในดิน

“ไม่สารเคมี .... อะไรแทน ?”
- ใช้สารสมุนไพร (สูตรรวมมิตร = ป้องกัน, สูตรเฉพาะ = กำจัด)
- ฉีดพ่นบ่อยๆ วันต่อวัน วันเว้นวัน วันเว้นสองวัน (ให้พร้อมกับ น้ำ+ปุ๋ย เพื่อประหยัดเวลา)
- ไอพีเอ็ม. (กับดักกาวเหนียว แสงไฟล่อ, ปลูกพืชไล่ศัตรูพืชแซมแทรก)

“ใช้ปุ๋ยลุงคิมสูตรไหน ?”
ทางใบ : ใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล (ฟาจีก้า) ฮอร์โมนธรรมชาติ
ทางราก : ใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (ดิบ) สูตรเหมาจ่าย

เตรียมดิน-เตรียมแปลง : ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ พรวนดินให้คลุกเคล้าเข้ากันดี ยกแปลงเป็นลูกฟูก หญ้าแห้งคลุมสันแปลงหนาๆ รดด้วยน้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิงสูตรปรับโมเลกุล ให้น้ำวันเว้นวันพอหน้าดินชื้น ปล่อยทิ้งไว้ 15-20 วัน เพื่อบ่มดิน ระหว่างนี้ให้หมั่นถอนวัชพืช จึงลงมือปลูก

การบำรุง : ให้น้ำ 20 ล. + น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล (ฟาจีก้า) (50 ซีซี.) + นมสด 50 ซีซี.” รดบนใบลงพื้นโคนต้นโชก ทุก 5-7 วัน ให้น้ำปกติวันเว้นวันพอหน้าดินชื้น .... ฉีดพ่นสารสมุนไพร สูตรรวมมิตร เพื่อป้องกัน ทุก 3-5 วัน ฉีดพ่นสารสมุนไพรสูตรเฉพาะศัตรู พืช เพื่อกำจัด ทุก 3-5 วัน

การป้องกันกำจัดศัตรูพืช :
วิธีเขตกรรม :
หมายถึง การปลูกพืชหมุนเวียน การปลูกพืชผสมผสาน ปรับปรุงบำรุงปัจจัยพื้นฐาน ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดู กาล-สารอาหาร-สายพันธุ์ ให้เหมาะสมเพื่อให้ต้นพืชสมบูรณ์แข็งแรง มีภูมิต้านทานโรคได้ด้วยตัวเอง

ใช้สารธรรมชาติ : หมายถึง การใช้สารออกฤทธิ์ในพืชสมุนไพร และ/หรือ อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่สารเคมียาฆ่าแมลง

ชีววิธี : หมายถึง การใช้เชื้อปฏิปักษ์ หรือเชื้อโรคของโรคพืช เช่น บูวาเลีย บาซิลลัสส์ ไตรโคเดอร์ม่า เอ็นพีวี การใช้สัตว์ธรรมชาติกำจัดศัตรูพืช

วิธีกล : หมายถึง การใช้กับดักกาวเหนียว กับดักกาวเหนียวแสงไฟล่อ กับดักกาวเหนียวกลิ่นล่อ

หลักการและเหตุผล :
- สารอาหารสำหรับพืช คือ “ปุ๋ย” มี 2 อย่าง คือ ปุ๋ยอินทรีย์ กับ ปุ๋ยเคมี
- เมื่อคิดจะไม่ใช้สารอาหารจากปุ๋ยเคมีก็ต้องใช้สารอาหารจากแหล่งอื่นแทน ทั้งชนิดและปริมาณ ที่เพียงพอต่อการเจริญเติบ โตของต้นผัก ในกรณีที่จะได้เกรด เอ. จัมโบ้ ซูพรีม พรีเมียม

- ในอินทรีย์วัตถุก็มีสารอาหารพืช มีทั้ง ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน วิตามิน มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ ชนิดของอินทรีย์วัตถุ และวิธีการใช้

- จากสารอาหารที่เกิดเองตามธรรมชาติ สามารถนำมา เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก/ปรับ ให้เป็น “ซุปเปอร์” ตามความต้องการได้ด้วยวิธี การแบบธรรมชาติๆ โดยไม่ส่งผลเสียใดๆต่อพืช

- เกี่ยวกับอาหารพืชประกอบด้วย .... ธาตุหลัก/ธาตุรอง/ธาตุเสริม/ฮอร์โมน/วิตามิน .... ประ เภทให้ ทางใบ-ทางราก .... ชนิด น้ำ/เม็ด/เกร็ด/ผง .... สถานะทางวิทยาศาสตร์ เคมีชีวะ และเคมีสังเคราะห์

- เคมีชีวะ คือ ธาตุอาหารพืชที่เกิดเองตามธรรมชาติ มีชื่อเรียกและมีคุณสมบัติเป็นธาตุอาหารชัดเจน เกิดเองตามธรรมชาติ เช่น

** ในน้ำมะพร้าวอ่อนมีจิ๊บเบอเรลลิน กลูโคส ฯลฯ
** ในน้ำมะพร้าวแก่มี โซเดียม โปแตสเซียม แคลเซียม แม็กเนเซียม เหล็ก ทองแดง ฟอสฟอรัส ไซโตโคนิน กลูโคส ฯลฯ มีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้น ความสม บูรณ์ของต้นขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานฯ มีโมเลกุลขนาดเล็กที่พืชสามารถรับทางปากใบ และรับทางปลายรากเข้าสู่ต้นได้เลย

** ในปลาทะเลมีมีธาตุอาหาร หลัก/รอง/เสริม ครบ 14 ตัว ที่มีมากเป็นพิเศษ คือ แม็กเมเซียม สังกะสี โซเดียม ฟลาโวนอยด์ ควินนอย โพลิตินอล ฮิวมัส ซึ่งในปลาน้ำจืดไม่มี ธาตุเหล่านี้เกิดมาจากกระบวนการย่อยสลาย
(ENZIME) โดยจุลินทรีย์ มีโมเลกุลขนาดใหญ่พืชสามารถรับได้ทางปลายรากทางเดียว มีทั้งชนิดน้ำและชนิดแห้ง .... หากต้องการให้ทางใบต้องปรับโมเลกุลให้เป็นโมเลกุลเดี่ยวก่อนการใช้

** อาหารคน อาหารสัตว์ อาหารพืช ทุกตัว คือ ตัวเดียวกัน เช่น คนต้องการธาตุแคลเซียม พืชและสัตว์ก็ต้องการธาตุแคลเซียม, ต้องการธาตุเหล็ก พืชและสัตว์ก็ต้องการธาตุสังกะสี หากคนสัตว์พืชหรือจุลินทรีย์ขาดธาตุอาหารตัวใดตัวหนึ่งจะเกิดโรค “ทุโภชนา หรือ ขาดสารอาหาร” ร่างกายจะชะงักการเจริญเติบโต

** ในเศษซากสัตว์และพืชมี ธาตุหลัก-ธาตุรอง-ธาตุเสริม-ฮอร์โมน-วิตามิน ครบทุกตัว มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของเศษซากนั้น ธาตุอาหารเหล่านี้จะเปลี่ยนรูปทางเคมี (ภาษาวิชาเคมี) มาอยู่ในรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ ต้องถูกหรือได้รับการย่อยสลายจากจุลินทรีย์ ภายไต้สภาวะแวด ล้อมที่เหมาะสม

** ในมูลสัตว์จะมีธาตุอาหารอะไร มากหรือน้อย พิจารณาจากอาหารที่สัตว์นั้นกิน และระบบย่อยอาหารของสัตว์นั้น เช่น วัวไล่ทุ่งกินหญ้าเป็นหลัก ในมูลจึงมี N ที่มาจากหญ้ามาก ส่วนวัวเนื้อวัวนมอยู่ในฟาร์ม กินอาหารที่คนเลี้ยงจัดสรรให้เป็นการเฉพาะ ในมูลจึงมีธาตุอาหารครบมากกว่าวัวไล่ทุ่ง และ/หรือ ในมูลของสัตว์ปีก มี P และ K มากกว่าสัตว์สี่เท้า โดยมูลค้างคาวกินแมลง มีธาตุอาหารมากที่สุด .... ข้อมูลในสารคดีดิสคัพเวอรี่ บอกว่า มูลนกทะเล มีธาตุอาหารพืชมากที่สุด เนื่องจากนกทะเลกินแต่ปลาทะเลนั่นเอง

- เคมีสังเคราะห์ คือ (เคมี-มนุษย์สร้าง) ได้จากสารอนินทรีย์ หรืออินทรีย์สังเคราะห์ ซึ่งมีธาตุอาหารหลัก NPK โดยมีขบวนการตั้งต้นมาจากก๊าซแอมโมเนีย (NH3) ซึ่งได้จากการสังเคราะห์น้ำมันปิโตเลียม (ในโรงกลั่นน้ำมัน .... น้ำมันปิโตเลียม กลั่นเอาน้ำมันเชื้อเพลิงต่างแล้ว ยังทำน้ำมันอีกสารพัดชนิด ที่น่าคิดก็คือ นำมาทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องได้อีกกว่า 50 ชนิด ผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องตัวท้ายสุด คือ แอสฟัลส์ หรือยางมะตอย นั่นเอง) และเมื่อนำมารวมกับกรด ผ่านขบวนการทางเคมี จะได้ธาตุ N P K ออกมาเป็นแม่ปุ๋ยสูตรต่างๆ แล้วแต่ว่าจะใช้กรดชนิดใดในการทำปฏิกิริยา (ดังนั้นหากใช้ปุ๋ยเคมีไม่ถูกวิธีจะทำให้ดินเป็นกรด) หรือได้มาจากการผลิต หรือสังเคราะห์ทางอุตสาหกรรมจากแร่ธาตุต่างๆ ในธรรมชาติ หรือเป็นผลพลอยได้จากโรงงานอุตสาหกรรมบางชนิด

ผักอินทรีย์ : หมายถึง ผักที่ผลิตจากวัตถุธรรมชาติ 100% ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้สารเคมียาฆ่าแมลงและสารกำจัดวัชพืช ไม่ใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ ไม่ใช้เมล็ดพันธุ์ดัดแปลงพันธุกรรม

ปุ๋ยอินทรีย์ : หมายถึง สารอาหารพืชที่ได้จากการวัสดุธรรมชาติ ที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างถูกต้องเหมาะสม จนพืชสามารถรับได้ ทั้งทาง และ/หรือ ทางราก เช่น น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง (วัสดุธรรมชาติ : กุ้งหอยปูปลาทะเล เลือด ไขกระดูก นม น้ำมะพร้าว มูลค้างคาว)

ฮอร์โมนเขียว : หมายถึง สารอาหารพืชในตัวพืชที่พืชใช้พัฒนาตัวเอง เช่น น้ำคั้นไชเท้า น้ำมะพร้าว น้ำคั้นผักสด น้ำเต้าหู้ นมสด นมน้ำเหลือง น้ำก้นหม้อก๋วยเตี๋ยว น้ำนึ่งปลา น้ำหอยเผา น้ำล้างเขียงปลา
(อ้างอิง : ดร.โช /เกาหลี ใช้น้ำคั้นผักกาดสดๆ รดให้แก่ผักกาดแล้วผักกาดต้นนั้นเจริญเติบโตดีมาก เพราะผักกาดต้นนั้นได้รับ สารอาหาร/ฮอร์โมน จากผักกาดโดยตรงนั่นเอง)

ผักปลอดสารพิษ หมายถึง ผักที่ไม่มีสารเคมียาฆ่าแมลงตกค้าง ในผลผลิตมีสารตกค้างไม่เกินระดับมาตรฐานที่กำหนด

ผักไร้สารพิษ หมายถึง ผักที่ไม่ใช้สารเคมียาฆ่า หรือปุ๋ยเคมี แต่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ในผลผลิตต้องไม่มีสารพิษใดๆตกค้าง ทั้งสิ้น

ผักอนามัย หมายถึง ผักที่ใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช ใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อการเจริญ เติบโตได้ มีสารตกค้างไม่เกินปริมาณที่กำหนด มีวิธีการปฏิบัติก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว การขนส่ง และการบรรจุหีบห่อ มาตรฐาน

เกษตรธรรมชาติ ได้แก่
1. ไม่ไถพรวน การไม่ไถพรวน คือ พื้นฐานของเกษตรธรรมชาติ เนื่องมาจากธรรมชาตินั้น พื้นดินมีการไถพรวนโดยตัวของมันเองอยู่แล้ว โดยการแทรกชอนของรากพืช และการกระทำของจุลินทรีย์ทั้งหลาย รวมถึงสัตว์เล็กๆ และไส้เดือน

2. งดเว้นการใส่ปุ๋ย การปล่อยให้ดินอยู่ในสภาพของมันเอง ดินจะรักษาความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นไปตามวงจรพืชและสัตว์อย่างเป็นระเบียบเกษตรยั่งยืนแบบไร้สารพิษ

3. ไม่มีการกำจัดศัตรูพืช วัชพืช ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน และช่วยให้เกิดความสมดุลในสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ

4. ไม่ใช้สารเคมี ในสภาพของเกษตรธรรมชาตินั้น หากปล่อยไว้ตามลำพังจะอยู่ในสภาพที่สมดุล แมลงที่เป็นอันตราย และโรคพืชมักมีเสมอ แต่ไม่เคยเกิดขึ้นในธรรมชาติ จนถึงระดับที่ต้องใช้สารเคมีที่มีพิษเกษตรยั่งยืนแบบไร้สารพิษ หมายถึง ระบบการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีเพื่อป้องกันหรือปราบปรามศัตรูพืชหรือปุ๋ยเคมีทุกชนิด จะใช้แต่ปุ๋ยอินทรีย์ทั้งหมดและผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้ว ต้องไม่มีสารพิษใดๆ ทั้งสิ้น
(“สาระน่ารู้” เทคโนโลยีชาวบ้าน. 2545 : 55)


-------------------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©