-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 8 พ.ย... * ปลูกข้าวตามใจต้นข้าว ไม่ตามใจคน
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 8 พ.ย... * ปลูกข้าวตามใจต้นข้าว ไม่ตามใจคน

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 07/11/2022 4:48 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 8 พ.ย... * ปลูกข้าวตามใจต้นข้าว ไ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 8 พ.ย.

***********************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย-ยา-ไฟฟ้า-เวลา-ค่าแรง-ค่าที่-อารมย์-เทคนิค-เทคโนฯ-โอกาส-ตลาด-ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ
เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า
ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ....... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ..... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ..... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ........ ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปา ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน ... ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

- ทุกวันจันทร์ เฉพาะวันจันทร์ สมช.สีสันชีวิตไทย “คุณล่า” (081) 944-8494 ไปที่ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสะดวก ราชบุรี พร้อมกับ ระเบิดเถิดเทิง. ไบโออิ. ไทเป. ยูเรก้า. ยาน็อค. กับหนังสือหัวใจเกษตรไทย มินิ ไปจำหน่าย.... ด้วยประสบการณ์เกือบ 20 ปี พบเห็นทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวมามากมาย ใครสนใจใคร่รู้ก็ไปคุยกัน แล้วจะรู้ว่า อ้อออ เป็นอย่างนี้นี่เอง

- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 12 พ.ย. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน
ไปวัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี .... งานนี้ ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม
แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม


***********************************************************************
***********************************************************************

จาก : 06 592x 382x
ข้อความ :
1. นาข้าวรัฐประกัน 10000 โรงสีตัดราคาแล้วจ่าย 8000 ลงทุน 6000 สรุปได้กำไร 2000
2. ต้นข้าวกินปุ๋ย 10 กก.ต่อไร่ ชาวนาใส่ 100 กก. ผิดอัตรา ผิดสูตร เพราะความเคยชิน
3. ชาวนา ปลูกข้าวตามใจคน ไม่ตามใจต้นข้าว ลงท้ายคือขาดทุน
4. คนในกระจกบอกว่า แถวนี้ไม่มีคนทำ พ่อไม่ไม่นำทำ อยากให้ลุงทำแปลงนาสาธิตให้เป็นตัวอย่าง

MOTIVATION แรงบันดาลใจ :

นาข้าว : โครงการ 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสนบาท :

เป็นโครงการริเริ่มของภาคเอกชนโดยหอการค้าไทย ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่อาสาเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยการประยุกต์และปรับใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งสามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน

หลักการเบื้องต้นของโครงการ คือ การเพิ่มรายได้ การลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิตและเรื่องราวของสินค้า และการสร้างความยั่งยืน โดยโครงการนี้จะเป็นการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูก 1 ไร่ ให้ได้ประโยชน์และประสิทธิภาพมากที่สุดตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงตัวเองผ่านการส่งเสริมการทำเกษตรแบบผสมผสาน ลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมี และสร้างองค์ความรู้ใหม่ในการทำการเกษตร โดยดำเนินการผ่าน 3 วิชา ได้แก่ ด้านกสิกรรม คือ ปลูกข้าว ผักสวนครัว พืชไร่ ไม้ผล ด้านปศุสัตว์ เลี้ยงเป็ด ไก่ และด้านประมง เลี้ยงปลา กบ หอย กุ้ง ปู เป็นต้น โดยแบ่งพื้นที่เพาะปลูกออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ คันนาปลูกพืชผักสวนครัว ร่องน้ำสำหรับทำการประมง พื้นที่ปลูกข้าว และพื้นที่อยู่อาศัยในสัดส่วน 30 : 30 : 30 : 10 เพื่อให้ระบบนิเวศเกื้อกูลต่อกัน

โครงการนี้มีพื้นที่นำร่องอยู่ที่บ้านหนองแต้ บ้านบ่อ และบ้านกุดเชียงมี ตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการอย่างเต็มรูปแบบมีรายได้เฉลี่ยถึง 150,000-200,000 บาท ขณะเดียวกันต้นทุนของการทำนา 1 ไร่จากเดิม 10,000 บาท ลดลงหลายเท่าตัวเหลือเฉลี่ยเพียง 2,292 บาทต่อไร่ ทำให้จังหวัดขอนแก่นได้กลายเป็นแหล่งกรณีศึกษาสำหรับเกษตรกรจากทั่วประเทศที่ต้องการเยี่ยมชมแปลงต้นแบบและต้องการศึกษาข้อมูลพื้นฐานการทำนาที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน โครงการ 1 ไร่ 1 แสน ได้ขยายพื้นที่ดำเนินการไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย อาทิ นนทบุรี ปทุมธานี ตรัง และยะลา เป็นต้น


https://sdgs.nesdc.go.th/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-1 %E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%88-1-%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99/


ตอบ :
นาข้าวแบบเหมาจ่าย ....

- ให้ไบโออิ อย่างเดียวตั้งแต่ระยะกล้าถึงเกี่ยว ห่างกัน 7-10 วัน ....ทุกครั้งที่ให้ทางใบ + ยาน็อค สารสมุนไพรร่วมด้วยทุกครั้ง

ป้องกันศัตรูพืช :
มาตรการ “กันก่อนแก้” : คือ แม็กเนเซียม. สังกะสี. ช่วยสร้างภูมิตานทานให้แก่ต้นข้าวเป็นพื้นฐาน แถมฉีดพ่นสารสมุนไพรทับเข้าไปอีก นี่คือ 2 เด้ง
มาตรการ “ป้องกัน + กำจัด” : ถ้าแปลงข้างๆกำลังเกิดระบาด ช่วงว่างระหว่าง 7-10 วัน ให้ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ 2-3 รอบ ห่างกันวันเว้นวัน

ขั้นตอนการบำรุงต้นข้าวแบบประณีต :
ระยะกล้า :
ทางใบ :

- ให้น้ำ 100 ล.+ ไบโออิ 100 ซีซี.+ ยาน็อค 200 ซีซี. 1 รอบ ให้แคลเซียม โบรอน 1 ครั้ง โดยฉีดพ่นพอเปียกใบ

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
- ระยะเวลาให้ปุ๋ยทางใบ แต่ละครั้งห่างกัน 5-7 วัน
- ให้แคลเซียม โบรอน ตัวสุดท้ายก่อนต้นกล้าเข้าสู่ระยะแตกกอ

ทางราก :
- ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
- ไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยเคมี เพราะช่วงนี้ต้นข้าวจะได้รับอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในดินซึ่งให้ไว้ก่อนตั้งแต่ช่วงทำเทือกแล้ว

หมายเหตุ :
- เริ่มบำรุงเมื่อต้นข้าวอายุได้ 20-30 วัน
- การให้ 46-0-0 แก่ต้นข้าวจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะนอกจากจะทำให้ต้นอวบอ้วนใบเขียวตองอ่อน ใบบางและเล็กแล้ว ยังล่อให้เพลี้ยและแมลงอื่นๆเข้ามากัดกินใบข้าวอีกด้วย

- หลังหว่าน/ดำ 3 วัน ช่วงนี้รากกำลังเจริญยาวยังเกาะยึดเนื้อดินไม่แน่น ควรงดให้น้ำหรือปล่อยน้ำเข้านา ปล่อยให้ต้นกล้าใช้น้ำจากเทือก (เตรียมเทือกดี)ไปเรื่อยๆจนกระทั่งหน้าดินเริ่มตึงผิวจึงปล่อยน้ำเข้า ถ้าเตรียมเทือกดีต้นกล้าข้าวสามารถเจริญเติบโตดีต่อเนื่องสมบูรณ์ แข็งแรง (เขียวเข้ม) ดีกว่าต้นกล้าที่มีน้ำขังหล่อหน้าดินตลอดเวลา แม้ว่าหน้าดินแห้งจนแตกตะโก้แล้วก็ยังเจริญเติบโตต่อเนื่องได้

ช่วงหลังปักดำ 3 วันนี้ ถ้ามีฝนตก เม็ดน้ำฝนจะกระแทกต้นกล้าจนล้มได้ ก็ให้รีบปักดำซ่อมต้นที่เสียหายนั้น

- ช่วงอายุ 1 เดือนหลังปักดำ อาจจะพิจารณาถอนแยกต้นกล้าจากกอที่มี 2-3 ต้นมาปลูกซ่อมแทนบางกอที่เสียหายได้ ต้นข้าวที่อายุช่วงนี้ยังสามารถเจริญเติบโตทันกันแล้วให้ผลผลิตเป็นรุ่นเดียวกันได้

- เทคนิคการถอนต้นกล้าจากกอแม่ให้มีดินหุ้มรากติดมาด้วย เมื่อนำไปปักดำใหม่รากจะไม่ชะงักการเจริญเติบโตหรือเจริญเติบโตต่อได้เลย

- ปักดำซ่อมแทนต้นที่ตายหรือเสียหายด้วยกรณีอื่นๆ

ระยะแตกกอ :
ทางใบ :

- ให้น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยาน็อค 200 ซีซี.ทุก 5-7 วัน โดยฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ให้น้ำ 100 ล. + แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี. + ยาน็อค 200 ซีซี. 1 ครั้ง เมื่อเริ่มเข้าสู่ระยะแตกกอ
- ฉีดพ่นยาน็อค ทุก 2-3 วัน

ทางราก :
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (เน้น..มูลค้างคาวหมัก) 5 ล.+ 16-8-8 (5 กก.)/ไร่ โดยผสมน้ำแล้วฉีดลงพื้นให้กระจายทั่วแปลง

- ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
- สำรวจลักษณะต้น เช่น ปริมาณแตกกอ ขนาดลำต้น ความสูงต่ำของต้น ขนาดของใบ สี และอื่นๆของต้นที่แตกต่างจากต้นอื่นๆส่วนใหญ่ทั้งแปลง พบแล้วให้ถอนทิ้งเพราะนั่นคือต้นข้าวปน

หมายเหตุ :
- เริ่มบำรุงเมื่อต้นข้าวเริ่มแตกกอ...เป็นการใส่ปุ๋ยเคมีครั้งที่ 2 (ครั้งแรกใส่เมื่อตอนทำเทือก)
- ให้ทางใบด้วยฮอร์โมน เอ็นเอเอ.หรือ ไซโตคินนิน. เดี่ยวๆอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างๆละเท่ากัน 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน โดยฉีดพ่นให้เปียกโชกทั่วทั้งต้นลงถึงพื้นดิน จะช่วยส่งเสริมให้ต้นข้าวแตกกอได้จำนวนลำมากขึ้น

- การใส่ “ฮิวมิค แอซิด และ ฮอร์โมนบำรุงราก” ไว้ก่อนล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเตรียมเทือก เมื่อต้นข้าวโตถึงระยะแตกกอก็จะแตกกอดีมาก ถ้าไม่ได้ใส่ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเตรียมเทือกก็ให้มาใส่ในช่วงตกกล้าก็ได้ หรือถ้าไม่ได้ใส่ไว้ล่วงหน้าทั้งช่วงเตรียมเทือกและช่วงตกกล้าก็ขอให้มาใส่ช่วงแตกกอแทนโดยฉีดพ่นลงดินโดยตรงโชกๆก็ได้เหมือนกัน

- การให้สารอาหารต่างๆโดยการฉีดพ่นให้โชกจนเปียกใบแล้วลงไปถึงพื้นกระจายทั่วแปลง จะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพของสารอาหารที่ให้เหนือกว่าการฉีดพ่นทางใบอย่างเดียว

- ต้นข้าวในน้ำน้อยพอเฉอะแฉะหน้าดินจะแตกกอดีกว่าต้นข้าวน้ำขังค้างหน้าดิน

ระยะตั้งท้อง (แต่งตัว) :
ทางใบ :

- ในรอบ 7 วัน ให้น้ำ 100 ล. + ไทเป + ยาน็อค 200 ซีซี. 1-2 รอบโดยการฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรยาน็อค ทุก 2-3 วัน

ทางราก :
- ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
- สำรวจแปลง พิจารณารูปร่างลักษณะของต้นข้าว ต้นที่แตกกอมาก/น้อย ต้นที่โต/เล็ก ขนาดต้นสูง/ต่ำ รูปร่างอวบอ้วน/ผอมเรียว ที่ผิดเพี้ยนไปจากต้นข้าวส่วนใหญ่ทั้งแปลง ตรวจพบแล้วให้ถอนทิ้งเพื่อป้องกันข้าวปน

หมายเหตุ :
- เริ่มบำรุงเมื่อต้นข้างถึงระยะตั้งท้องหรือแต่งตัว
- การให้ไบโออิ. ไทเป. นอกจากช่วยสะสมแป้งและน้ำตาลเหมือนอาการอั้นตาดอกในไม้ผลแล้วยังช่วยให้ส่วนลำต้นต้นไม่สูงอีกด้วย.....ลำต้นไม่ขยายขนาดทางสูงแต่จะขายขนาดทางข้าง ทำให้ลำต้นใหญ่ขึ้นแล้วส่งผลให้ต้นไม่ล้ม

- อาจพิจารณาให้ทางใบด้วยแคลเซียม โบรอน 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน จะส่งผลให้ต้นได้สะสมแคลเซียมไว้ล่วงหน้าซึ่งจะส่งให้ได้ผลผลิตที่ดียิ่งขึ้นเมื่อถึงระยะน้ำนม

ระยะออกรวง :
ทางใบ :

- ในรอบ 7 วัน ให้น้ำ 100 ล.+ ไทเป 200 ซีซี. + เอ็นเอเอ.100 ซีซี + สารสมุนไพรยาน็อค 200 ซีซี. 1 รอบกับให้น้ำ 100 ล. + ไทเป 100 ซีซี. + ยาน็อค 200 ซีซี. อีก 1 รอบ โดยการฉีดพ่นพอเปียกใบ

- ฉีดพ่นสารสมุนไพรยาน็อค ทุก 2-3 วัน

ทางราก :
- ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
- สำรวจแปลงสังเกตต้นที่ออกดอกเร็ว/ช้า ช่อดอกยาว/สั้น ขนาดดอกเล็ก/ใหญ่ ดอกพัฒนาเร็ว/ช้า และลักษณะอื่นๆของดอกในบางต้นที่ผิดเพี้ยนไปจากดอกของต้นอื่นส่วนใหญ่ทั้งแปลง พบแล้วให้ถอนทิ้งเพื่อป้องกันข้าวปน

หมายเหตุ :
- เริ่มบำรุงเมื่อช่อดอก (หางแย้) โผล่พ้นกาบขึ้นมาได้ประมาณ 1-2 ซม.
- ช่วงออกดอกให้สำรวจแปลง ถ้าดอกออกพร้อมกันทั้งแปลงดีให้ฉีดพ่น 2 รอบ แต่ถ้าดอกออกไม่พร้อมกันก็ให้ฉีดพ่น 3 รอบ ทั้งนี้ปุ๋ยทางใบสูตรเปิดตาดอกหรือกระตุ้นการออกดอกนอกจากจะช่วยให้ต้นข้าวออกดอกดีแล้วยังช่วยบำรุงดอกให้สมบูรณ์ แข็งแรงและ โตเร็วทันกันได้อีกด้วย

ระยะน้ำนม :
ทางใบ :

- ในรอบ 7-10 วัน ให้น้ำ 100 ล. + ยูเรก้า 100 ซีซี.+ ยาน็อค 200 ซีซี. 2 รอบ สลับครั้งกับให้น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยาน็อค 200 ซีซี. อีก 2 รอบ โดยการฉีดพ่นพอเปียกใบ ให้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงระยะพลับพลึง

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน

ทางราก :
- ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
- ขั้นตอนนี้ถ้าได้ใส่ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 5 ล.+ 21-7-14 (5 กก.)/ไร่ จะช่วยบำรุงเมล็ดข้าวให้มีขนาดใหญ่ เมล็ดเต็ม ใสแกร่ง ไม่เป็นท้องปลาซิว น้ำหนักดี

- สำรวจแปลงสังเกตการออกรวงของต้นข้าว รวงสั้น/ยาว เมล็ดเล็ก/ใหญ่/ยาว/สั้น/กลม สีของเปลือกหุ้มเมล็ดที่มีลักษณะผิดเพี้ยนไปจากต้นข้าวส่วนใหญ่ทั้งแปลง ตรวจพบแล้วให้ถอนทิ้งเพื่อป้องกันข้าวปน

หมายเหตุ :
- เริ่มบำรุงเมื่อเมล็ดเริ่มขึ้นรูป หรือเมื่อบีบเมล็ดแล้วมีน้ำในเมล็ด (สีขาวนวลหรือขาวอมเหลืองเหมือนนมสด)

- ช่วงเมล็ดเริ่มๆ เป็นน้ำนม ให้ “แคลเซียม โบรอน + ไคตินไคโตซาน” 1 รอบ จะช่วยบำรุงให้เมล็ดข้าวสมบูรณ์ขึ้น มากกว่าที่ไม่ได้ให้อย่างเห็นได้ชัด

- ตลอดระยะน้ำนม การให้ทางใบด้วยแม็กเนเซียม.จะช่วยให้ใบข้าวเขียวสดถึงวันเกี่ยว....การให้สังกะสี.จะช่วยสร้างแป้ง....และการให้แคลเซียม โบรอน.จะช่วยคุณภาพเมล็ดข้าวดี...เมื่อให้รวมครบทุกตัวแล้วจะช่วยให้เมล็ดข้าวเปอร์เซ็นต์แป้งสูงเมล็ดแกร่งเปอร์เซ็นต์ข้าวหักน้อย ไม่เป็นท้องปลาซิว เมล็ดใสน้ำหนักดี กลิ่นดี

- ต้นข้าวที่มีความสมบูรณ์เนื่องจากได้รับสารอาหารครบสูตร (ธาตุหลัก-ธาตุรอง-ธาตุเสริม-ฮอร์โมน และ อื่นๆ) สม่ำเสมอตรงตามระยะพัฒนาการในแต่ละระยะ ลำต้นจะยังคงตั้งตรงในขณะที่รวงจะโค้งโน้มลง

- ธาตุอาหารที่ช่วยบำรุงให้เมล็ดเต็ม แกร่ง ใส ไม่เป็นท้องปลาซิว น้ำหนักดีเปอร์เซ็นต์แป้งสูงคือ “ธาตุรอง/ธาตุเสริม/ฮอร์โมน” ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ชาวนาจะต้องให้อย่างสม่ำเสมอให้ได้ ทั้งการใส่เตรียมไว้ในดินล่วงหน้า (ช่วงเตรียมเทือก) และให้ทางใบภายหลังเมื่อต้นข้าวโตแล้ว

- ต้นข้าวที่เมล็ดเป็นน้ำนมแล้ว ถ้าให้ทางใบด้วย 14-7-21 เมล็ดจะหยุดขยายขนาดแล้วกลายเป็นเมล็ดแก่ (พลับพลึง-เมล็ดแกร่งใส) พร้อมเกี่ยวทันที กรณีนี้เหมาะสำหรับการบำรุงเพื่อเร่งให้เมล็ดแก่ทันเก็บเกี่ยวตามกำหนด ณ เวลาที่ต้องการหรือเกี่ยวก่อนครบอายุ

ระยะก่อนเกี่ยว (พลับพลึง) :
ทางใบ :

- ในรอบ 10 วัน ให้น้ำ 100 ล.+ ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี. + ยาน็อค 200 ซีซี. 1 รอบกับให้น้ำ 100 ล.+ นมสด 100-200 ซีซี.+ ยาน็อค 200 ซีซี. อีก 1 รอบ ฉีดพ่นพอเปียกใบ 1 รอบ ก่อนเกี่ยว 10 วัน

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน

ทางราก :
- ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
- สำรวจแปลงสำรวจลักษณะต้นข้าว สังเกตอาการโค้งงอลงของรวง โค้งลงต่ำมาก/น้อย ขนาดและรูปร่างของรวง ขนาดเมล็ดเล็ก/ใหญ่/ยาว/สั้น/กลม/แบน สีเปลือกหุ้มเมล็ด ความแก่/อ่อน และอื่นๆ ที่ผิดเพี้ยนไปจากลักษณะของเมล็ดข้าวส่วนใหญ่ในแปลงแปลง ตรวจพบแล้วถอนทิ้งเพื่อป้องกันข้าวปน

- งดน้ำเด็ดขาดก่อนลงมือเกี่ยว 7-15 วัน

หมายเหตุ :
- ช่วงปลายรวงเริ่มก้มหรือปลายโค้งลงเนื่องจากน้ำหนักของรวงนั้น ใบธงจะเริ่มเหี่ยวเหลืองเนื่องจากใกล้หมดอายุขัย เมื่อใบเริ่มเหลืองนั่นหมายความว่าใบเริ่มเลิกการสังเคราะห์อาหารแล้ว ในขณะที่เมล็ดส่วนปลายรวงยังเป็นน้ำนมอยู่ จึงทำให้เมล็ดส่วนปลายรวงไม่ได้รับสารอาหาร ส่งผลให้เป็น "เมล็ดลีบ" กรณีนี้แก้ไขด้วยการให้ "แม็กเนเซียม + สังกะสี + แคลเซียม โบรอน" 1-2 รอบ โดยแบ่งให้ตลอดระยะน้ำนม

- การให้มูลค้างคาวสกัดจะทำให้ขั้ว (ระแง้คอรวง)เหนียว เครื่องนวดข้าวในรถเกี่ยวจะสลัดเมล็ดข้าวออกจากรวงไม่ได้หรือสลัดออกมาไม่หมด เมล็ดข้าวส่วนนี้จะปลิวไปกับเศษฟาง เพราะฉะนั้นการให้มูลค้างคาวสกัดจะต้องให้ด้วยความระมัดระวัง อย่าให้มากเกินอัตราที่ต้นข้าวสามารถรับได้ หรือหากเห็นว่าเมล็ดแกร่งใสดีแล้วก็ไม่ต้องให้มูลค้างคาวสกัดก็ได้

- การให้นมสด 1 รอบ นอกจากช่วยลดความชื้นในเมล็ดข้าวหลังเก็บเกี่ยวได้ดีแล้ว ยังช่วยลดปริมาณไนเตรทในเมล็ดข้าวได้อีกด้วย

- ลักษณะต้นข้าวระยะพลับพลึงที่สมบูรณ์แข็งแรง ลำต้นจะยังคงสีเขียวอยู่ ใบบางส่วนยังเป็นสีเขียวแต่บางส่วนเริ่มเหลือง รวงข้าวยังไม่แห้งสนิทหรือสีออกเขียวเล็กน้อย

- ต้นข้าวที่สมบูรณ์แข็งแรง เนื่องจากได้รับ “ธาตุรอง/ธาตุเสริม” ถูกต้อง และสม่ำเสมอ ลำต้นจะแข็งแรงตั้งตรงไม่ล้ม และรวงข้าวระยะพลับพลึงจะโค้งลงไม่มากนัก หรือ โค้งลงน้อยกว่าต้นที่ไม่สมบูรณ์ การที่ต้นไม่ล้มและรวงโค้งลงไม่มากนี้จะช่วยให้รถเกี่ยวทำงานได้ง่าย เปอร์เซ็นต์ความสูญเสียเมล็ดข้าวก็น้อยด้วย

- ต้นข้าวระยะพลับพลึง (ก่อนเกี่ยว) แต่ใบยังเขียวหรือเขียวอมเหลือง บ่งบอกถึงความสมบูรณ์สูงของต้น ซึ่งจะส่งให้เมล็ดข้าวคุณภาพดี

- ให้น้ำ 100 ล.+ น้ำคั้นใบเตยสด 250-300 ซีซี.+ กลูโคสน้ำ 100 ซีซี. ฉีดทางใบ ก่อนเกี่ยว 5-7 วัน จะช่วยบำรุงให้ข้าวมีกลิ่นหอมดีขึ้น

- การให้ "แม็กเนเซียม + สังกะสี" ตั้งแต่ช่วงระยะกล้า 1-2 รอบ กับให้ช่วงระยะน้ำนม 2 รอบ....แม็กเนเซียมจะช่วยบำรุงให้ใบข้าวเขียวถึงวันเกี่ยว และสังกะสีจะช่วยสร้างแป้ง ทำให้ต้นสมบูรณ์. เมล็ดเต็ม. ใส. แกร่ง. แข็ง.

สรุปขั้นตอนทำนาข้าวอย่างประณีต :
ขั้นตอนที่ 1 ......... เตรียมแปลง
ขั้นตอนที่ 2 ......... เตรียมเทือก
ขั้นตอนที่ 3 ......... เตรียมเมล็ดพันธุ์
ขั้นตอนที่ 4 ......... เตรียมเพาะกล้า

ขั้นตอนที่ 5 ......... บำรุงระยะกล้า
ขั้นตอนที่ 6 ......... บำรุงระยะแตกกอ
ขั้นตอนที่ 7 ......... บำรุงระยะตั้งท้อง (แต่งตัว)
ขั้นตอนที่ 8 ......... บำรุงระยะออกดอก
ขั้นตอนที่ 9 ......... บำรุงระยะน้ำนม
ขั้นตอนที่ 10 ....... บำรุงระยะก่อนเกี่ยว (พลับพลึง)

.... แปลง-เทือก-พันธุ์ .... กล้า-กอ-ท้อง ... ดอก-นม-เกี่ยว ....

----------------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©