ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 2 DEC

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 2 DEC



**********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

*********************************************************





จาก : (089) 169-44xx
ข้อความ : ขอคำปรึกษาวิธีตัดแต่งกิ่งมะม่วงเพื่อให้ออกดอกแล้วติดผลมากๆ.....เกษตรกรบ้านจัดสรร

ตอบ :
- กิ่งที่ควรตัดออกได้แก่ กิ่งกระโดง. กิ่งคด. กิ่งงอ. กิ่งไขว้. กิ่งชี้เข้าใน. กิ่งชี้ลง. กิ่งหางหนู. กิ่งน้ำค้าง. กิ่งเป็นโรค.
กิ่งในทรงพุ่ม. กิ่งข้ามปี. และกิ่งในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมต่อการออกดอกติดผล. กิ่งพวกนี้เอาออกให้หมด เก็บไว้เปลือง
น้ำเลี้ยง ทรงพุ่มทึบแดดส่องไม่ทั่ว เป็นแหล่งโรคและแมลง

- มะม่วงออกดอกจากปลายยอดที่แตกใหม่ในปีนั้นเสมอ ถ้าในทรงพุ่มก็จะออกที่ท้องกิ่งแก่ หรือที่เปลือกลำต้น

- ปลายกิ่งด้านนอกพุ่ม เพียง 1 ปลายอาจจะมีหลายกิ่งในปลายเดียวกัน เรียกว่า "ฉัตร" กรณีนี้ มะม่วงจะออกดอก
เฉพาะ 1-2 กิ่งด้านบน ที่เหลือเป็นกิ่งด้านล่างจะไม่ออก ให้ตัดทิ้งไป

- มะม่วงใบมาก-ดอกผลจะน้อย ใบน้อยแต่สมบูรณ์-ดอกผลจะมาก ..... การมีใบมากๆ เรียกว่า "บ้าใบ หรือ เฝือใบ"
นอกจากจะไม่ออกดอกติดผล หรือติดดอกออกผลน้อยแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคอีกด้วย

-------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (084) 757-90xx
ข้อความ : เช้านี้อยากให้พูดเรื่องผักกะเฉดต่อ เอารายละเอียดมากๆ ผมอยู่ประจันตคาม น้ำดีตลอดปี....ขอบคุณครับ

ตอบ :

ผักกระเฉด เป็นไม้ล้มลุก สามารถเจริญเติบโตได้ทั้งบนดินและในน้ำ มีอายุหลายฤดู มีลำต้นกลม ยาว อวบน้ำเลื้อยทอดไปบนผิวน้ำ
และบนดินที่แฉะ มีใบแตกจากลำต้นแบบสลับมีรากงอกตามข้อ มีเนื้อเยื่อที่เรียกว่า แอเรนไคม่า (aerenchyma)ซึ่งมีลักษณะคล้าย
ฟองน้ำสีขาว หุ้มปล้องแต่ละปล้อง หรือเรียกว่า “ นม ” ช่วยให้เถาผักกระเฉดลอยน้ำได้ แต่ถ้าเลื้อยบนดินจะไม่มีนม ขยายพันธุ์โดยการ
ปักดำเถา ส่วนที่ใช้รับประทาน คือ ยอด ใบ และลำต้นอ่อน

การปลูก
ไถดิน คราดดิน ให้ละเอียดใส่น้ำเข้าแปลงทำเทือกให้ดี นำยอดผักกระเฉดมาทำเป็นจับ ๆละ 4–5 ยอด แล้วนำไปปักดำในแปลงแบบ
สลับฟันปลา ลึกลงในดิน 6–7 ซม. โดยใช้ระยะปลูกระหว่างต้น 2 เมตร หรือปลูกเป็นแถวเป็นแนวระยะ 1 x 1.5 เมตร แล้วกดดินให้
ส่วนโคนติดแน่นพอสมควร ส่วนปลายยอดจะลอย

ให้ระบายน้ำเข้าและออกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ควบคุมระดับน้ำให้ลึก ประมาณ 30– 33 ซม. เขี่ยยอดของผักกระเฉดสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง
เพื่อไม่ให้ยอดเกยกัน ใส่ปุ๋ยสูตร 16– 20–0 หรือ 18–12–6 อัตรา 10–15 กก./ไร่ สัปดาห์ละครั้ง และใส่ปุ๋ยยูเรียเพื่อเร่งยอดอัตรา 3–5
กก./ไร่ ทุกสัปดาห์

ถ้าไม่ใช้ปุ๋ยเคมี หลังจากปลูกไปได้ 2 สัปดาห์ จนผักกระเฉดลอยน้ำดีแล้ว ให้ใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพผสมน้ำอัตรา 1 ต่อ 500–1,000 ส่วน ฉีดพ่น
ในแปลง ฉีดพ่นสม่ำเสมอ ทุก ๆ 7 วัน เมื่อใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพแล้วผักกระเฉดจะยาวเร็ว มียอดสวย นมใหญ่ ขาวอวบ หวาน กรอบ เป็นที่ต้องการ
ของตลาดมาก

การเก็บเกี่ยว
เมื่อปลูกไปได้ 20 วัน ก็สามารถเก็บขายได้ เมื่อเก็บผลผลิตแล้วก็ให้ฉีดปุ๋ยน้ำชีวภาพได้เลย นับไปอีก 4 วันก็สามารถเก็บผักกระเฉด
ขายได้อีกเรื่อยๆ ซึ่งให้ผลผลิตดีมากและเร็วกว่าวิธีอื่น (ปกติเก็บเกี่ยวสัปดาห์ละครั้ง)

เมื่อเก็บแล้วจะล้างน้ำให้สะอาด สะบัดให้สะเด็ดน้ำ บรรจุใส่ถุงพลาสติกใส ถุงละ 10 กก. ราคาส่ง กิโลกรัมละ10–12 บาท เป็นรายได้
ที่ดี และวิธีการนี้สามารถถ่ายทอดให้ผู้สนใจหรือเกษตรกรรายอื่น ๆ หรือเกษตรกรใกล้เคียงที่สนใจมาดูและสอบถามวิธีการเพื่อนำไป
ปฏิบัติตามได้


โรค–แมลง
ถ้าเห็นผักกระเฉดมีใบหงิกงอแสดงว่าโดนเพลี้ย หรือ หนอนลงทำลายป้องกันได้โดยใช้ “น้ำหมักสมุนไพรขับไล่แมลง” ทำได้ง่าย ๆ โดย
ใช้ใบสะเดา ตะไคร้หอม ขิงข่า พริกสด ยาฉุน โล่ติ๊น บอระเพ็ด อย่างหนึ่งอย่างใด หรือ ผสมกันก็ได้มาทุบหรือตำให้แหลก ใส่น้ำให้ท่วม
หมักทิ้งไว้ 1 คืน กรองเอาแต่น้ำสมุนไพรมาใช้ (ส่วนกากนำไปทำเป็นปุ๋ยหมักได้) ใช้น้ำสมุนไพรนี้ 1 ส่วน ผสมกับปุ๋ยน้ำชีวภาพ 1 ส่วน
ผสมกับน้ำธรรมดา 200–500 ส่วน ฉีดพ่นผักกระเฉดให้ทั่วป้องกันเพลี้ยไฟ, ไรแดง, แมลงต่างๆ ฉีดพ่นทุก 7 วัน จะขับไล่แมลงได้
ผลดีหากปลูกไม่มากนัก

ถ้าพบ หนอน–แมลง–เพลี้ยต่าง ๆ ทำลาย ให้ยกกอที่โดนทำลายขึ้นมากำจัดทิ้งไปเสีย หรือถ้าเจอโรคราน้ำค้าง หรือโรคใบร่วง (ใบเหลือง
แล้วร่วง ยอดกุดหักง่าย) ก็ให้เก็บแยกกอที่เป็นโรคออกมาเผาทำลาย การฉีดพ่นด้วยปุ๋ยน้ำชีวภาพนี้ได้ผลดีมากเมื่อฉีดแล้วจะขับไล่แมลง
และเป็นการเร่งการเจริญเติบโตของผักกระเฉด ทำให้เก็บผลผลิตได้เร็วขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิต อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพน้ำในคูคลองที่
ปลูกผักกระเฉด ทำให้น้ำมีคุณภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย

การปลูกผักกระเฉดปลอดสารเคมี เป็นอาชีพหลักที่ทำรายได้ให้แก่เกษตรกรของตำบลบางโฉลง และตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี มา
เป็นระยะเวลานาน โดยมีตลาดอยู่ที่ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดคลองเตย และมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้าน

เมื่อก่อนนี้จะปลูกผักกระเฉดแบบธรรมดาและฉีดยาฆ่าแมลงเป็นบางครั้ง แต่การปลูกวิธีใหม่นี้ ไม่ใช้สารฆ่าแมลง ทุกวันนี้มีเกษตรกรใน
พื้นที่ใกล้เคียงเดินทางไปดูสวนผักกระเฉดที่นี่อย่างต่อเนื่อง เพราะทำในลักษณะเป็นจุดสาธิต เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ข้างเคียง เข้ามา
ศึกษาดูงานและได้ความรู้การทำปุ๋ยน้ำชีวภาพ แล้วนำมาใช้แทนปุ๋ยเคมี ทำให้ลดต้นทุนการผลิต เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรมาก

ผักกระเฉดยังคงเป็นผักที่อยู่ในความนิยมของผู้บริโภคอยู่มาก ถ้าสนใจเยี่ยมชมแหล่งปลูก หรือขอข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อผู้ใหญ่สมทรง
รักษาธรรม 61 หมู่ 1 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โทร.0-2327-2280 , 01-580-4163


เกตุอร ทองเครือ
กลุ่มสื่อส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร

-------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (085) 398-41xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ทุเรียนนนท์น้ำท่วมตายไปแล้ว 99.99 เศษ 44 ส่วน 100 รวมทั้งของผมด้วย ระหว่างที่รอน้ำลด
ก็คิดไปเรื่อยๆ ต้อง ปลูกใหม่-ปลูกใหม่ และปลูกใหม่ แน่นอน ฝากกำลังใจให้ สมช.เว้บเราด้วยว่าต้องสู้ สู้ต่อไปครับ อยากขอ
คำแนะนำแนวคิดแบบ "คิดนอกกรอบ" กับทุเรียนจากลุงคิมด้วย.......ขอบคุณ ก้านยาวหมอนทองชะนีบางกรวย....

ตอบ :
ถ้าเป็นลุงคิมจะขอสู้อีก คราวหน้าให้ดีกว่าเก่า เล่นทุเรียนเอา ชะนี. ก้านยาว. หมอนทอง. ก็พอแล้ว ชะนีเอาไว้ขายก่อนฤดูกาล
ส่วนก้านยาวกับหมอนทอง อันนี้คนนิยม ไว้ขายในฤดู หรือทำให้ออกนอกฤดูก็จะเหนือชั้นขึ้นไปอีก

ว่ากันว่า ทุเรียนปลูกใหม่ต้องใช้เวลาเลี้ยงนานถึง 7 ปี จึงจะออกดอกติดผล ทุกวันนี้ทุเรียนส่วนใหญ่ปลูกจากกิ่งตอน อาจจะมีบางสวน
ปลูกจากกิ่งทาบ ไม่มีการเสริมราก มีรากเดิมมาแค่ไหนก็แค่นั้น ..... เลยเกิดความคิดเปรียบเทียบว่า

มะยงชิดกิ่งตอนหรือกิ่งทาบ มีรากเดียวที่ติดมากับต้นพันธุ์ ต้องเลี้ยง 5 ปี จึงจะออกดอกติดผล แต่ถ้ามีการเสริมราก 1 ราก เลี้ยง 4 ปี ออก
ดอกติดผล เสริมราก 2-3 ราก เลี้ยงแค่ 2 ปี ออกดอกติดผลได้.....จากหลักการนี้ ถ้าเราลงต้นพันธุ์ทุเรียนจะเป็นกิ่งตอนหรือกิ่งทาบลงไป
ก่อน เลี้ยงต้นพันธุ์ดี 1 ปี แล้วเสริมด้วยรากทุเรียนป่า 1-2-3 ราก อายุการออกดอกติดผลของทุเรียนน่าจะสั้นลงนะ

- ทุเรียนมีรากแก้ว ทนน้ำท่วมขังค้างนานได้ดีกว่าทุเรียนไม่มีรากแก้ว
- ทุเรียนที่มีรากมาก (+ รากเสริม) ย่อมมีสารอาหารไปเลี้ยงต้นมากกว่า

- ทุเรียนมีรากแก้ว ไม่มีผลต่อการบังคับด้วยฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนบังคับทุเรียนฉีดพ่นที่ท้องกิ่ง ไม่ได้ราดลงดินโคนต้น

- สวนทุเรียนที่โป่งน้ำร้อน จันทบุรี ตัดแต่งทรงพุ่ม กว้าง X สูง 5 ม. ทำให้การบำรุงรักษาทำง่ายขึ้น คุณภาพผลผลิต 90% ส่งออก......
ด้วยระยะปลูกเพียงเท่านี้ ลงทุเรียนไป 50 ต้น/ไร่ เอาแค่ 3 ไร่ ได้ 150 ต้นก็พอแล้ว ขอให้คุณภาพเกรด เอ. ขนาดจัมโบ้. โกอิน
เตอร์. ขึ้นห้าง. ออกนอกฤดู. รับรองไม่พอขายแน่.....ว่ามั้ย

ติดตามข่าวน้ำท่วมทุเรียนนท์ สวนเก่าสวนแก่ เจ้าของเก่ากว่า (ความิด) แก่กว่า (อายุ) บอกว่า ก้านยาวนนท์ลูกละ 2,000 ต้นหนึ่ง
ได้ 10 ลูก แบบนี้จะไม่เรียกว่าความคิดเก่าได้ไง เคยทำยังไงก็ทำยังงั้น เคยได้แค่ไหนก็แค่นั้น เคยเห็นแต่แปลงที่เขาได้ต้นละ 10 ลูก
ไม่เคยไปดูแปลงที่เขาทำได้มากกว่านี้ ใครบอกใครพูดก็ว่า "เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้" อยู่อย่างนี้นี้ ..... ดต.สุชินฯ สวนทเรียน
นนท์เหมือนกัน ก้านยาวทั้งสวนอายุต้น 20 ปี เหมือนแปลงข้างบ้าน อดีตเคยได้ 10 ลูก/ต้นเหมือนกัน พอเปลี่ยนมาบำรุงตามแนว
ทางที่เราแนะนำ รุ่นที่แล้ว (ก่อนน้ำท่วม) บางต้น ต้นเดียวได้ 100 กับ 2 ลูก ไซส์ใหญ่ 2 (+) กก. ไม่พอขาย

นายดาบฯ บอกว่า ก้านยาวลูกใหญ่มาก ขายไม่ออก ลุงคิมก็ว่า ก้านยาวคงไม่ใหญ่ขนาดหมอนทองหรอกนะ ถึงจะขายไม่ออก
มันก็ใหญ่ตามประสาของก้านยาวนี่แหละ อาจจะใหญ่กว่ามาตรฐานสายพันธุ์ซัก 20-30% ครั้นบำรุงตามแนวทางที่แนะนำ ปรากฏว่า
ก้านยาวไซส์ 2-2 กก.กว่าๆ ไม่พอขาย จึงยอมรับ MOTTO ที่ว่า "ใหญ่กว่าเป็นต่อ" คราวหน้าจะทำก้านยาว 3 กก.

แม้แต่ทุเรียน เหนือ - ตะวันออก - ใต้.....ทำไมได้ 50-100 ผล/ต้น ทั้งๆที่เป็นก้านยาวเหมือนกัน หรือว่าก้านยาวนนท์ กับก้านยาว
ตะวันออก คนละก้านกัน

-------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (089) 980-38xx
ข้อความ : ลุงครับ ปราชญ์ชาวบ้านแนะการทรมาณมะนาวให้ออกดอกติดผลแบบแปลกๆ ให้เอากรัมม็อกโซนฉีดให้ใบร่วง เมื่อผลัดใบ
แล้วค่อยบำรุง มันแปลกดี ผมไปได้ยินมา และการเสริมรากต้นไม้มี 3 วิธี ซึ่งไม่เหมือนวิธีของลุงเลย ชวนให้ลองทำดู แปลกๆ น่าคิด
แต่ผมยังไม่กล้าทำ วิธีเสริมราก ให้ตัดรากออกให้หมด แล้วทิ้งไว้สักระยะค่อยเสริมราก.....ขอบคุณครับลุง

ตอบ :
- เรื่องการใช้ "กรัมม็อกโซน" บังคับมะนาวให้ออกดอก ถ้าจะให้เดา ขอเดาว่าในกรัมม็อกโซน.มีฮอร์โมน 2-4 D ฮอร์โมนตัวนี้
มีประสิทธิภาพในการเปิดปากใบพืช แต่ใช้ในอัตราน้อยมากๆ ถ้าใช้มากหรือเกินอัตรา ปากใบจะเปิดตลอดไม่ยอมปิด ทำให้พืช
ต้องคายน้ำตลอดเวลา จนกระทั่งน้ำในต้นหมดจึงตาย ด้วยประสิทธิภาพตรงนี้นี่แหละ นักวิชาการเชิงพานิชจึงเอามาทำ "ยาฆ่าหญ้า"
ซะเลย โดยการเติมฮอร์โมนตัวนี้แล้วใช้ในอัตราเกิน

- ใช้ฮอร์โมน 2-4 D ฉีดพ่นทางใบแก่ พริก-มะเขือ โอ้โฮ คุณเอ๊ย มันออกดอกติดผลทุกข้อใบเลย ดกมากๆ แต่ได้ผลผลิตแค่
รุ่นเดียวนะ หมดรุ่นนี้แล้วก็ตาย

- เคยตั้งข้อสังเกตุไหม ปราชญ์ชาวบ้าน-เกษตรกรดีเด่น ไม่รู้จัก แคลเซียม โบรอน, ไม่รุ้จักแม็กเนเซียม. ไม่รู้จักสังกะสี.
ไม่รู้จักธาตุรอง/ธาตุเสริม...... เป็นปราชญ์แล้วไม่รู้จัก แล้วที่พวกเรารู้จักล่ะ พวกเราเป็นอะไร.....

- เรื่องวิธีการเสริมรากอย่างที่บอกมา ไม่อยากออกความเห็น เพราะในธรรมชาติไม่มีตัวเลข ไม่มีสูตรสำเร็จ ที่แน่ๆ ไม่ใช่สูตรของลุงคิม
ลุงคิมก็เอามาจากคนอื่นเหมือนกัน ..... ทำเถอะ ถ้ารากติดก็ถือว่า O.K. ถ้ารากไม่ติดก็ NO.K. แค่นี้แหละ

-------------------------------------------------------------------------------------------


.