Fish Emulsion Fertilizer-ทำปุ๋ยหมักจากปลาทะเล

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม


บทที่ 1 ตอน 1


ตั้งแต่ที่ฟังลุงพูดถึง 30-10-10 หมักจากปลาทะเล แล้วก็เพิ่มสารอาหาร ฯลฯ ...ผมเตรียมเรื่องปุ๋ยหมักจากปลาทะเลนี้ไว้นานแล้ว ยังไม่ได้จังหวะ พอดีสมาชิก คุณ PP ถามเกี่ยวกับเรื่องการใช้ปุ๋ยปลาหมักฉีดพ่นทางใบ ก็เลยรวบรวมเพื่อจะนำมาลงในเว็บของลุง แต่ก็ยังไม่ได้ลงซักที เพราะติดภารกิจหลายอย่างตั้งแต่กลางเดือนมิถุนา 55 จนถึงวันที่ 10 สิงหา 55

เริ่มจากไปธุระทางอีสานมาครึ่งเดือนกว่า กลับมาก็ต้องมีธุระไปทำต่อที่ปาย เลยถือโอกาสขึ้น ไปเยี่ยมชาวปกากะญอ (กะเหรี่ยง) เพื่อนเก่า (เป็นผู้ใหญ่บ้าน) ที่บ้านวัดจันทร์ ซึ่งหาโอกาสไปได้ยากยิ่งนัก แล้วก็ได้พำนักพักพิงกินนอนอยู่ที่นั่นอย่างแสนสุข

จนถึงกลางดึกคืนวันที่ 25 กรกฏา 55 ก็มีวิทยุจากปายเรียกตัวให้กลับด่วนเนื่องจาก พ่อ ป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาล ความจริงท่านก็เข้าๆ ออกๆ ห้อง ไอซียู มาหลายครั้ง และทุกครั้งหมอบอกลูกหลานให้ทำใจ จนลูกหลานทุกคนทำใจมาได้จนเป็นปกติ ผมบอกลูกสาวให้จองตั๋วเพื่อจะกลับเข้า กทม.

ตอนสายวันที่ 26 ผมขับรถลุยหมอกจากบ้านวัดจันทร์ลงมาที่ปาย ระยะทาง 75 กม ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ถ้าจะถามว่า ทำไม 75 กม. ใช้เวลาขับรถตั้ง 4 ชั่วโมง รายละเอียด โปรดติดตามในเว็บลุงคิมในหัวข้อเรื่อง เกษตรสัญจร ครับ


วันที่ 27 กค. ถึงกรุงเทพฯก็ไปที่ รพ.ก่อน พอกลางดึกวันที่ 31 กค. พ่อก็สิ้นลมด้วยอาการอันสงบ รวมอายุ 95 ปี ลูกๆ และหลานๆ ก็ได้จัดการตามประเพณี ฌาปนกิจวันที่ 8 ไปลอยอังคารเช้าวันที่ 9 ที่ปากอ่าว กระดูกส่วนที่เหลือรอบรรจุเข้าเจดีย์ซึ่งกำลังซ่อมปรับปรุงใหม่ กำหนดบรรจุวันที่ 25 ส.ค. 55 นี้ครับ..... ชีวิตที่สิ้นแล้วก็หยุดภารกิจทุกอย่างลงแค่นั้น ส่วนที่ยังไม่สิ้นก็ดิ้นรนกันไปจนกว่าจะถึงที่สุด




การที่ผมขออนุญาตลุงคิม ยกเรื่องปุ๋ยหมักจากปลาทะเล มาเป็นกระทู้ใหม่ ก็เพื่อที่จะได้รวมเรื่องการหมักปุ๋ยปลาไว้ในที่เดียวกัน เพราะเรื่องนี้ยาว และเกรงใจคุณ PP แก เพราะแกถามแค่ ปุ๋ยปลาหมักจะฉีดทางใบให้ยางพาราได้หรือไม่ ซึ่งลุงก็ตอบไปแล้ว จากนั้น ผม, ทิดบัติ, ยัยเฉิ่ม, ลุงคิม, แล้วก็มีคุณนเรศวร. อีกท่านหนึ่ง ก็ระบายสีสันชีวิตไทยลงในกระทู้ของคุณ PP ซะเปรอะไปหมด เกรงว่า คุณ PP กับคนที่เข้ามาอ่านจะงง เลยขออนุญาตลุงเปิดเป็นกระทู้ใหม่ให้เป็น เรื่อง ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล หรือเอาปลาทะเลหมักให้เป็นปุ๋ย โดยเฉพาะเลย [size=18]ซึ่งลุงบอกว่า ให้ผมลุยได้เลย เจ๊สั่ง (เจ๊ไหนก็ไม่รู้) นอกจากนี้ก็มีเอกสารอ้างอิง เป็นภาษาต่างด้าวซะอีก เปิดดิกแปลกันโงกเลย [/size]




มาเข้าเรื่องการทำปุ๋ยหมักจากปลาทะเลกันดีกว่า


ผมขอขอบคุณ คุณนเรศวร เป็นอย่างยิ่ง ที่กรุณาช่วยแปลอังกฤษเป็นไทยจาก กูเกิ้ล ถือว่าเป็นการร่วมด้วยช่วยกัน ลำพังผมแปลเองคงเปิด Dict. มือเป็นลิง .. แต่กูเกิ้ล แปลจากอังกฤษเป็นไทยแบบตรง ๆ ตัว อ่านแล้วจับใจความไม่ได้ ไม่รู้เรื่อง เช่นเดียวกับที่เราบอกให้ฝรั่งพูดคำว่า ใคร ขาย ไข่ ไก่ ...ฝรั่งจะไม่มีทางพูดได้เป็นอันขาด อย่างดีก็ Kli kai kai kai สำเนียงออกมาก็จะเป็น ไคล ไค ไค ไค ภาษาไทย เป็นภาษาเดียวที่มี พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และตัวสะกดคำ สามารถออกเสียงได้ทุกภาษาในโลก มีผลไม้ไทยอยู่อย่างนึง ที่ฝรั่งต้องเอาคำที่คนไทยออกเสียงมาตั้งเป็นชื่อผลไม้ อันนี้คือ MANGOSTEEN คือ มังคุด มีที่มาที่ไป คือ แต่ก่อนที่ฝรั่งมาเมืองไทยใหม่ ๆ สมัยอยุธยามั๊ง ไปเจอแม่ค้าขายลูกมังคุด ไม่เคยเห็นก็ชี้มือที่ลูกมังคุด ถามแม่ค้าว่า
“ What ? “ (วัต) แม่ค้าก็บอก “ วัดอยู่โน่นจ้า “ พร้อมกับชี้มือไปที่วัด ฝรั่งก็ว่า
“No. No. No. ชี้มือที่ลูกมังคุดพร้อมกับว่า “ What” แม่ค้าก็ว่า “ อ๋อ มังคุด ลูกมังคุด จ้า” ฝรั่งก็ว่า
“ Mangoo “ (แมงกู๊) แม่ค้าก็บอก “ มังคุด ไม่ใช่ แมงกู๊ “ ฝรั่งก็ว่า
“Mangoo” แม่ค้าก็บอก “ มังคุด เค้าเรียกลูกมังคุด ไม่ใช่แมงกู๊ “ ฝรั่งก็ยังว่า
“Mangoo” “ Mangoo” พูดอยู่อย่างนั้นจนแม่ค้ารำคาญ แม่ค้าเลยบอกว่า “ แมงกู๊ซ่นตีน แน่ะ ไอ้ห่ะพูดไม่รู้เรื่อง ฝรั่งเลยบอก
“ Oh I see MANGOSTEEN “ นับแต่นั้นมา คำว่า MANGOSTEEN ก็ถูกบันทึกไว้ใน Encyclopaedia (สาราณุกรม) ของฝรั่ง หมายถึง ผลไม้ที่เรียกว่า มังคุด เป็นผลไม้ที่อร่อย อันดับสองรองจากทุเรียน เป็นผลไม้ส่งออกทำเงินปีละหลายร้อยล้าน ...ปัจจุบันแทบจะไม่มีส่งออก เพราะ สวนผลไม้แถวเมืองจันทร์ เมืองระยอง พอถึงหน้าผลไม้เค้าจะเปิดสวนเป็น HOMESTAY (แปลว่าไรหว่า บ้านที่ไปๆมาๆ เอาเป็นแปลว่า บ้านพักชั่วคราวก็แล้วกันนะ ....แล้วเมียเช่าล่ะ ฝรั่งเรียกว่าอะไร เออ ...WifeStay ฝรั่งยกมือโบกเลยบอกว่า “ No no no . That’s onlyone for me. นั่นแน่ หนึ่งเดียวของข้า พูดกันท่านี่หว่า ...เค้าบอกว่า Temp.Wife – Temporary Wife …โอ้โฮ เฮ้ย ตรงตัวเด๊ะเลย ยังกะ Temporary File – ขยะในคอมพิวเตอร์แน่ะว่ะ )


การเปิดสวนเป็น Homestay เพื่อนชาวสวนของผมที่ หนองระลอก จ.ระยอง บอกว่า รายได้เป็นกอบเป็นกำ ดีกว่าเก็บไปกองขาย ได้ค่าบ้านพักคืนละพัน ได้ค่าหัวจากฝรั่งหัวละ 500 มี Snack bar – ขายน้ำขายอาหารเบาๆ เป็นรำไพ่ให้ลูกๆ หลานๆ ถ้ามีคนเข้าวันละ 100 คน วันหนึ่งได้เท่าไหร่... ให้เอ็งเดินเลือกเก็บกินเอาไม่อั้นจนกว่าจะพอใจ ชนิดที่ว่า แหล็กจงแหล็กไม่เข้า แค่นี้ก็เหลือจะเกินพอ คนนึงอย่างมากก็กินไม่เกิน 10 กิโล ทุเรียนก็แค่ หมอนทอง ชะนี ลูกนึงจะซักเท่าไหร่กัน ส่วนก้านยาวก็ติดป้าย SOLD OUT จบ แค่นี้ฝรั่งไม่กล้าแตะ แต่ถ้าพี่ไทย ก็จะต้องแปลงสัญชาติเป็น อีลัก อีหยิบ ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ชาวสวนก็แน่เหมือนกัน เอาแป้งละลายน้ำ ฉีดพ่นให้ลูกทุเรียนซะขาวว็อก ติดป้าย มีขวดยาแขวนไว้เลยว่า “ ฉีดพ่นด้วยยากะโหลกไขว้ ไม่กลัวตายเชิญเก็บกิน” แค่นี้มีหรือหน้าไหนใครจะกล้า แล้วที่พักพอรึ เหลือจะพอ เพราะที่รกร้างมีแยะ ไม่ต้องถาง ถางเฉพาะที่จะปลูกกระต๊อบมีห้องน้ำสะอาดมิดชิด ปล่อยแบบ Vergin มีไฟฟ้า น้ำประปา ติดแอร์พร้อม ทำทางเดินแบบทางเดินในป่า มียาม (ถือปืน) รักษาความปลอดภัย ที่ใครที่มัน ฝรั่งชอบแบบนี้ละครับ และขอบอกในวันข้างหน้าไม่นานเกินรอ สวนผลไม้ที่จะจัดเป็น HOMTSTAY ดีกว่าเมืองจันทร์และระยอง คือ ศรีสะเกษ ครับ เพราะว่า สวนผลไม้ที่นั่น สุดยอด แล้วบรรยากาศต่างกัน ...ที่เมืองจันทร์และระยอง ต้องร้อง ฮิ ตลอด คือ ยุงแยะ อยู่นานๆ จะเหนียวตัว เพราจะได้ไอเค็มจากทะเล ต้องอาบน้ำบ่อยๆ แต่ที่ศรีสะเกษ แจ๋วทุกอย่าง รวมทั้ง Temp.Wife หาได้ไม่ยาก ผมร่ายมาซะยาว ยังไม่ข้าเรื่องซักที .....


เอาเป็นว่า.... ผมขอแปลไทยจากกูเกิ้ล มาเป็นไทยแบบไทยพื้นบ้าน ซึ่งไม่เป็นภาษาวิชาการ โดยคัดลอกคำแปลของกูเกิ้ลมาไว้ด้วย ....แต่ว่า ลุงคิม ค้นหาเรื่อง ปุ๋ยปลามาลงต่อเพิ่มอีกหลายเรื่อง คุณนเรศวร จะช่วยแปลจากกูเกิ้ลให้ด้วยก็ดี จะได้เอาไว้เทียบกัน....... ขอบคุณครับ




(1) ปุ๋ย Fish Emulsion ของบริษัท แอทลาส ผมเก็บไว้นานกว่า 30 ปีมาแล้ว




(2) ปุ๋ย Fish Emulsion ของบริษัท แอทลาสเช่นกัน แต่เป็นการเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ เนื้อปุ๋ยภายในเหมือนเดิม




(3) เป็นปุ๋ยปลาของ บริษัท อลาสก้า

ปุ๋ยปลาทะเลมีแยะครับ ของไทยก็มีนะ นี่เป็นแค่ตัวอย่าง เพราะปุ๋ยของ แอทลาสทำขายมานานกว่า 60 ปีแล้วครับ รูปลักษณ์คงเดิมเปลี่ยน โลโก้ นิดหน่อย


[size=18]1 - How to Make Fish Emulsion Fertilizer

By eHow Contributor(ผู้สนับสนุน) | updated(ปรับปรุงให้ทันสมัย) September 02, 2011

1 – มาทำปุ๋ยปลาหมักกันดีกว่า ....หรือ
มาหมักปุ๋ยปลาไว้ใช้กันดีกว่า

ให้เสียงภาษาไทยโดย งูดิน

สนับสนุนโดย eHow (eHow – เป็นชื่อผู้สนับสนุนรายการ อ่ะ ครับ) |
ปรับปรุงแก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 กันยายน 2011


Fish emulsion (และ ๆ เขละ ๆ ) is one of the most powerful organic fertilizers that you can feed your plants. It provides a quick boost(เพิ่ม,เร่ง) of usable nitrogen, phosphorus and potassium to plants. While the product has a powerful aroma (กลิ่นหอม)as well -- it is made from the remains of fish -- you may find nutrient benefits(ประโยชน์ของสารอาหาร) to your plants, outweigh (เกินดุล เกินพิกัด) the temporary unpleasant smell.
Read more: How to Make Fish Emulsion Fertilizer | eHow.com http://www.ehow.com/how_5100132_make-fish-emulsion-fertilizer.html#ixzz1pO7GmzxY

(กูเกิ้ล) อิมัลชันปลาเป็นหนึ่งในปุ๋ยอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่คุณสามารถป้อนโรงงานของคุณ (feed your plants) จะให้เพิ่มอย่างรวดเร็วของไนโตรเจนที่ใช้งาน, ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่พืช ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน - มันถูกสร้างขึ้นมาจากซากของปลา - คุณอาจพบประโยชน์ของธาตุอาหารพืชของคุณมีค่าเกินกลิ่นชั่วคราว


(งูดิน) ปุ๋ยปลาหมัก เป็นสุดยอดปุ๋ยอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่คุณสามารถนำไปใช้บำรุงพืชของคุณื (feed your plants) ซึ่งจะช่วยเพิ่มธาตุอาหาร คือ ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ให้กับพืชอย่างรวดเร็วทันตาเห็น ....ขณะเดียวกัน (ผลิตภัณฑ์หรือปุ๋ยปลา) ที่หมักได้ที่แล้วจะต้องมีกลิ่นไม่เหม็นรุนแรงจนเกินควร (aroma - แปลว่ากลิ่นหอม แต่ปุ๋ยปลาหมักจะไม่มีทางที่กลิ่นจะหอมได้ เลยขอแปลว่ากลิ่นไม่เหม็น คือ มันต้องมีกลิ่นเหม็นบ้าง มากหรือน้อยว่ากันไป) ทั้งนี้ เนื่องจากมันนำเอาเศษซากปลามาหมัก...แต่ทว่า พืชของคุณจะได้คุณประโยชน์จากสารอาหารอย่างเต็มประสิทธิภาพ มากเกินกว่ากลิ่นที่ไม่พึงปรารถนาชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น (เรียกว่า ทนเหม็นเอาหน่อยก็แล้วกัน)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : วิธีการทำปุ๋ยปลาหมักที่ | eHow.com http://www.ehow.com/how_5100132_make-fish-emulsion-fertilizer.html # ixzz1pO7GmzxY



Instructions - วิธีทำo
1 Add fresh fish parts to a blender(เครื่องปั่น)with warm water and emulsify(ทำให้เป็นส่วนผสม). Avoid using canned fish(ปลากระป๋อง) for the fertilizer, since these tend to contain extra preservatives.(สารกันบูด)
กูเกิ้ล 1 เพิ่มส่วนปลาสดจะน้ำอุ่น blender with และล่วนผสมของ หลีกเลี่ยงการใช้ปลากระป๋องสำหรับใส่ปุ๋ยตั้งแต่เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีสารกันบูดเสริม

1. ใส่ปลาสดที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำอุ่นลงไป แล้วก็ปั่นจนเละเป็นเนื้อเดียวกัน .... อย่าใช้ปลากระป๋องมาทำปุ๋ยปลาหมักเป็นอันขาด เพราะมันมีส่วนผสมของสารกันบูดอยู่มาก (สารกันบูดจะทำให้จุลินทรีย์ไม่สามารถย่อยสลายเศษปลาให้เป็นปุ๋ยได้ นะน้องท่าน)....


2. Fill the bottom of a 5-gallon bucket(ถัง USA ใช้ Buket UK ใช้ Drum) with dried leaves, straw(ฟาง), dried grass, newspaper, and/or sawdust. These will help to control the smell and absorb extra nitrogen from the fish.
กูเกิ้ล 2. กรอกด้านล่างของถังแกลลอน 5 -มีใบแห้งฟางหญ้าแห้งหนังสือพิมพ์และ / หรือขี้เลื่อย เหล่านี้จะช่วยในการควบคุมกลิ่นและดูดซึมไนโตรเจนเสริมจากปลา

2. หาเศษใบไม้แห้ง, เศษฟาง หญ้าแห้ง, กระดาษหนังสือพิมพ์ และ/หรือ ขี้เลื่อย ใส่รองก้นถังขนาด 5 แกลลอน (ประมาณถัง 20 ลิตรน่ะนะ) วัสดุพวกนี้จะช่วยดับกลิ่นและดูดซึมธาตูไนโตรเย่นจากปลาเอาไว้

3. Add molasses (unsulfured or dry) to the fertilizer bucket as well. This helps to control the fish emulsion smell and also build up the microbes(จุลินทรีย์) in order to speed up (เร่ง...ให้เร็วขึ้น) the process of decomposition
กูเกิ้ล 3. เพิ่มกากน้ำตาล (unsulfured หรือแห้ง) เพื่อถังปุ๋ยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยในการควบคุมกลิ่นปลาอิมัลชันและยังสร้างจุลินทรีย์เพื่อเร่งกระบวนการของการย่อยสลาย

3. ใส่กากน้ำตาลที่ไม่มีส่วนผสมของ กำมะถัน หรือกากน้ำตาลแห้ง ลงในถังปุ๋ย เพื่อช่วยดับกลิ่นปลาที่หมัก และเป็นการสร้างจุลินทรีย์เพื่อช่วยเร่งกระบวนการย่อยสลายให้เร็วขึ้น

4. Add fresh or dried seaweed to the container (optional).ส่วนเกิน - จำเป็น
(กูเกิ้ล) 4. เพิ่มสาหร่ายทะเลสดหรือแห้งเป็นคอนเทนเนอร์ (optional จำเป็น)
(หมายเหตุจาก งูดิน) ถ้าต้องใส่สาหร่ายทะเลเป็นตู้คอนเทนเนอร์ละก็ จะต้องใช้ปลากี่พันตันครับ

4. ใส่สาหร่ายทะเลสดหรือแห้งลงไปในถังหมักด้วยก็ได้ (ถ้ามีก็ใส่ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้อง)

5. Add 1 to 2 tbsp. of Epsom salts(ดีเกลือฝรั่ง). This adds needed magnesium and sulfur.กูเกิ้ล 5. เพิ่ม 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะ ของเกลือ Epsom นี้จะเพิ่มแมกนีเซียมและกำมะถันที่จำเป็น

5. ใส่ดีเกลือฝรั่งลงไป 1–2 ช้อนโต๊ะ ถ้าของไทย ก็คือ ดีเกลือ หรือ Magnesium Sulfate (ตราคนขี่ช้างจับตั๊กแตน) ที่กินเป็นยาถ่ายอย่างดีนั่นแหละ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มธาตุแมกนีเซี่ยม กับกัมมะถัน (คือ ธาตุรอง ธาตุเสริม ยังไงล่ะครับ ไหนนักวิชาการบอกไม่จำเป็น แต่ฝรั่งเค้าใช้กันมาตั้งนานแล้วละลุ๊ง)





(4) EPSOM SALT หรือดีเกลือฝรั่ง หรือ Magnesium Sulfate รูปนี้เป็นเกรดสำหรับใช้ในงานเกษตรกรรม ของไทยก็ใช้ดีเกลือธรรมดาก็หรูแล้วครับ

6. Add the lid and stir the fish emulsion once or twice a day and let the concoction sit for at least two weeks.
กูเกิ้ล 6. เพิ่มฝาและคนอิมัลชันปลาครั้งหรือสองครั้งต่อวันและให้ผสมนั่งเป็นเวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

6. ปิดฝาถัง แต่ต้องหมั่น (เปิด) คนปุ๋ยปลาที่หมักอย่างน้อยวันละครั้ง หรือสองครั้ง แล้วปล่อยทิ้งให้ปุ๋ยนอนก้นอย่างน้อย 15 วัน


7. Dilute the fish emulsion fertilizer to a 1-to-5 ratio and add to your plants, or spray on the leaves as a foliar fertilizer.
กูเกิ้ล 7. เจือจางปุ๋ยปลาอิมัลชันอัตราส่วน 1-to-5 และเพิ่มให้กับโรงงานของคุณ (your plants) หรือสเปรย์บนใบเป็นปุ๋ยทางใบ

7. เวลาจะใช้กับพืชก็ผสมปุ๋ยปลาที่หมักได้ที่แล้วให้เจือจางในอัตราส่วน 1 : 5 หรือจะใช้ฉีดพ่นเป็นปุ๋ยทางใบก็ย่อมได้ (1 ต่อ 5 ....ปุ๋ยปลา 1 ลิตร ต่อน้ำ 5 ลิตร นี่ส่วนผสมเข้มไปหรือเปล่า )

ความเห็นของ งูดิน .- อ่านดูแล้ว จะดูเหมือนว่าฝรั่งมีการกั๊ก บอกไม่ละเอียดเท่าที่ควร พูดง่ายๆ คือ บอกไม่หมดเปลือก แต่เค้าก็บอกในตอนต้นไว้แล้วว่า (ถ้าอยากรู้ก็) ให้อ่านเพิ่มเติมจาก E-How.com


แปลผิดถูกอย่างไร อ่านไม่เข้าใจก็ดำน้ำกันเอาเองมั่งนะครับ งูดินก็มีปัญญาเปิด ดิกชันนารี่ แปลได้แค่นี้แหละ ….


ยังมีต่อครับ.....




.

[cherm]

สวัสดี ค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง และสมช.ทุกท่าน


ปลาวาฬ และ พญานาค มาแล้ว


ยัยเฉิ่ม จะเป็น ชาวนา

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม …ยัยเฉิ่ม และเพื่อน สมช.ทุกท่าน


กำลังจะส่ง เน็ตหลุดเป็นครั้งที่สี่แล้วนะครับ
เนื่องจากว่าเน็ตของ TOT ทำสัญญาความเร็ว 7 Mb สอบความเร็วจริงได้แค่ไม่ถึง 3 Mb แล้วมันหลุดบ่อยจนน่าเบื่อ กำลังพิมพ์ หลุด กำลังจะส่ง หลุด กำลังรับ หลุด ...... เลยทำให้การนำข้อมูลมาลงในเว็ปต้องล่าช้าไปด้วย

ผมฟังรายการเกษตร และก็ซื้อที่เขาโฆษณาขายทางวิทยุมานับไม่ถ้วน ... ของบางซ้าย-อยุธยา เอย, ของดอนไฟไหม้ สุพรรณ เอย, ของ PA อยู่แถวสวนหลวง เอย แสนจะแพง ฉีดพ่นโดยไม่ต้องใส่ปุ๋ย แล้วก็ของ EM, TM, DMO และสารพัดสูตรของปราชญ์ชาวบ้าน ใช้มาหมดแหละ แต่เชื่อเถอะครับว่า วิธีการใช้นั้นน่ะ เขาบอกคุณไม่หมดเปลือกหรอก ขืนบอกหมดเค้าก็ขายไม่ได้น่ะซีครับ เวลาเรามาใช้มันก็งั้นๆ ไม่สมดังคำโฆษณา พอไปต่อว่า เขาก็บอกว่า “ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวน้องเปลี่ยนให้ใหม่“ ... หยิบเอาขวดเก่าคืนไป เดินหายไปหลังบ้าน เอาขวดใหม่ให้มา บอกว่า "....อันนี้เป็นตัวปรับปรุงใหม่ ดีกว่าเดิม ยังไม่ได้ปิดฉลาก กำลังจะวางตลาดอยู่พอดีเลย” ..... พอเอามาใช้ อ๊ะ ขวดนี้เจ๋งว่ะ พอหมดขวด ก็ไปซื้อที่ร้านขาบปุ๋ย บอก ... .เอารุ่นใหม่นะน้อง .... ที่ร้านก็หยิบมาให้ .... อ้อ ราคาเก่า แต่เปลี่ยนป้ายฉลากใหม่ ....พอใช้แล้วมันก็ไม่เจ๋งเหมือนขวดที่เค้าให้มาเลยพับผ่า ทุกยี่ห้อเหมือนกันหมด .

ผมก็ได้แต่เก็บความสงสัยว่าทำไม ? เพราะอะไร ? ถามใครก็ไม่มีโครตอบได้ ก็มากระจ่างใสเอาเมื่อมาฟังรายการ สีสันชีวิตไทย นี่แหละ .... มีเบอร์โทรบอกนี่หว่า มีข้อสงสัยโทรถามลุงเลย ดูซิว่า จะรับสายแล้วจะตอบมั๊ย ? ... .เพราะไอ้ที่เค้า โคตร สะ นา บอกว่า มีอะไรสงสัยโทรไปคุยกันได้ พอโทรไป ขออภัยติดต่อไม่ได้ในขณะนี้ For English pleas press NINE หรือไม่ก็ กรุณาฝากข้อความ ...... ฝากให้ตายก็ไมมีทางโทรกลับ แล้วก็ไม่ต้องโทรให้เมื่อย เค้าไม่รับสายของคุณหรอก .... แต่โทรหาลุง ๆรับสายแล้วคุยด้วย ดีใจแฮะ ได้คุยกับ DJ เป็นครั้งแรก ... .เสียงหล่อกว่าในวิทยุซะอีก .


ผม....หวัดดีครับลุง ผม แดง ศาลายา ครับ....
ลุงคิม ...เออ โทรมาต้องบอกชื่อก่อนงี้ซีวะ...

ผม... อ้าวแล้วคนอื่นเค้าไม่บอกชื่อลุงก่อนเหรอ ...
ลุงคิม... ไม่บอกว่ะ ลุงถามว่า มีอะไร .... ก็เล่าให้ลุงฟังตามข้างต้นนั่นแหละ ลุงฟังแล้วหัวเราะก๊าก เสียงแสบแก้วหู ร้องเพลงเลย ...ไปโดนเค้าหลอกอีกแล้ววววว ...แล้วบอกว่า เอ็งโดนเค้าหลอกแล้ว ...พร้อมกับบอกว่า ค่าความเข้มข้นเนื้อสารออกฤทธิ์มักต่างกัน ....

ผม ฟังแล้ว งง เป็นอันมาก ก็ถามไปว่า ...มันเป็นยังไงครับ....
ลุง.... อั้ยที่เค้าเอามาขาย มันเข้มข้นธรรมดาแล้วก็โฆษณาว่า ดีวิเศษ แต่ที่เค้าเปลี่ยนให้เอ็งน่ะ เค้าเติมหัวเชื้อสารออกฤทธิ์เข้าไปอีกนิด มันก็เข้มข้นขึ้น ใส่สารแยะ ขายแล้วมันก็กำไรน้อย แต่เติมให้เอ็งแค่ขวดเดียวก็นิดเดียวจะซักเท่าไหร่กัน ให้เอ็งดูข้างขวด มันจะมีบอก ค่าเป็น % ของ W / V EC มีมั๊ย...

ผม....มีครับ 18% W / V EC ….
ลุง....ความหมายก็คือ ไอ้ยาตัวนี้ จะมีสาร xxx.(สารออกฤทธิ์) ที่มีความเข้มข้น 1.8% หรือ ในสารละลาย 100 มิลลิลิตร(cc) จะมีสาร ..xxx.. 1.8 กรัม ฉะนั้น ใน 1000 CC เค้าก็เอาสารตัวนี้เติมในขวดที่ให้เอ็งมาอีกซัก 10 CC ก็เหลือแหล่...เอาแค่นี้นะ ....
คุยแป๊บเดียวเอง ยังมึนตึ๊บอยู่เลย ระดับ DJ คงเป็นแบบนี้มั๊ง รีบร้อนจัง นัดกิ๊กไว้รึเปล่าก็ไม่รู้

ผม...ขอบคุณครับลุง (Clear แต่ยังไม่ Clean)


ผมก็เก็บเรื่องไอ้ตัว W / V EC ค้างคาใจเอาไว้ มันอะไรกันหว่า เราก็ลืมถามลุงว่ามันคืออะไร. ตอนนั้นจะถามมากก็ไม่กล้า ...จะไปยากอะไร ค้นหา ไม่นาน ก็ได้ความว่า ....

“W / V หมายถึง Weight per Volume …น้ำหนัก ต่อ ปริมาตร
ถ้าเป็น W / W ก็ Weight per Weight …น้ำหนักต่อน้ำหนัก

EC ย่อมาจากคำว่า Electric Conductivity หมายถึง ค่าการนำไฟฟ้าของเกลือ (ใน ไฮโดรโพนิกส์ จะหมายถึงเกลือของธาตุอาหาร)


ถ้าใครอยากรู้เรื่องต่อ ให้เปิดดูจากที่นี่นะครับ .....
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-นานาสาระเรื่องเกษตร...หน้า 12 สรรพวิชาการเกษตรอยู่ในนี้เพียบ บอกชนิด เจาะลึก ตีแผ่หมดเปลือกถึงกึ๋นเลย ไม่มีใครเค้าบอกคุณขนาดนี้หรอก



พูดถึงยาฆ่าแมลง
ไม่นานมานี้มีเรื่อง ยัยถนอม (ปริญญา ปม.) คนข้างบ้าน ซื้อยามาฉีดข้าว ฉีกป้าย ฉีกฉลากออก ถ่ายยาใส่ขวดยาธาตุน้ำแดง ซุกเอาไว้ชั้นล่างตู้กับข้าว ผัวปวดท้องหายากิน ค้นเจอขวดยาธาตุ เปิดฝายกดื่มเลย ...ก็เลยเรียบร้อย กุศลา ธัมมา เผาที่เมรุวัดมะเกลือสบายไปแล้ว........ ใครก็ตามที่ชอบทำแบบนี้ อย่าทำเป็นอันขาด ไม่ตัวคุณเองก็อาจเป็นคนที่คุณรัก อาจจะต้องเป็นแบบนี้ แล้วก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน..

โห ... .มันจะอะไรกันนักหนา วิชาความรู้ หวงกันไว้ทำมาย รู้อะไรก็แบ่งปันกัน ตายไปแล้วจะไปเล่าให้เทวดาหรือยมบาลที่ไหนฟัง .... จาคะ คือ การให้ การแบ่งปัน .... ” เป็นสิ่งดีสองชั้นพลันปลื้มใจ แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล“ .... ”ให้ท่าน ท่านจักให้ ตอบสนอง“ .... ให้ของเค้าไป เค้ายกมือไหว้ บอกแค่ขอบคุณครับ....แค่นี้ ทั้งเขาและเราก็ปลื้มใจพอแล้ว



มาเข้าเรื่องการทำปุ๋ยหมักจากปลาทะเลต่อกันดีกว่า
2 - How to Make Fish Fertilizer
By Lisa Russell, eHow Contributor

2 – วิธีการทำปุ๋ยปลา
โดย ลิซ่า รัสเซลล์, eHow ผู้สนับสนุนรายการ


Organic fish fertilizer is one of the most powerful fertilizers you can find. Learn how to make a fish emulsion at home. Fish emulsion fertilizer is easy to make and use when you follow these simple instructions.

Read more: How to Make Fish Fertilizer | eHow.com http://www.ehow.com/how_2325703_make-fish-fertilizer.html#ixzz1pO9Fi7pS


(กูเกิ้ล)2 - วิธีการทำปุ๋ยปลา
โดย ลิซ่า รัสเซลล์, สนับสนุนวิธี

ปุ๋ยอินทรีย์ปลาเป็นหนึ่งในปุ๋ยมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่คุณสามารถหา เรียนรู้วิธีที่จะทำให้อิมัลชันปลาที่บ้าน ปุ๋ยปลาอิมัลชันเป็นเรื่องง่ายที่จะทำและใช้เมื่อคุณทำตามคำแนะนำง่ายๆเหล่านี้

ปุ๋ยอินทรีย์หมักจากปลา เป็นสุดยอดปุ๋ยอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่คุณสามารถหามาใช้ โดยเรียนรู้วิธีการว่าจะทำปุ๋ยปลาหมักเองที่บ้านของคุณได้อย่างไร การจะทำปุ๋ยปลาหมักนั้นแสนจะง่าย และการใช้ก็ง่าย ให้คุณมาติดตามวิธีการทำแบบง่ายๆ กันได้เลย


อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : วิธีการทำปุ๋ยปลา |จาก eHow.com http://www.ehow.com/how_2325703_make-fish-fertilizer.html # ixzz1pO9Fi7pS

Instructions - วิธีทำ
How to Make Organic Fish Emulsion Fertilizer




จะทำปุ๋ยอินทรีย์หมักจากปลาได้อย่างไรo

1 Liquefy (ทำให้เหลว) the fish and or seaweed by placing it in a blender with warm water and blending thoroughly until you've created an emulsion.

คำแนะนำ
(กูเกิ้ล) วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ปลาอิมัลชัน
1. ของเหลวปลาและสาหร่ายทะเลหรือโดยวางไว้ในเครื่องปั่นด้วยน้ำอุ่นและการผสมอย่างทั่วถึงจนกว่าคุณจะได้สร้างน้ำนม

1. เอาปลา และ/หรือ สาหร่ายทะเล ใส่ลงในเครื่องปั่นพร้อมกับใส่น้ำอุ่น แล้วก็ปั่นจนกระทั่งมันเละรวมเป็นเนื้อเดียวกัน

o 2 Pour the fish emulsion into a 5 gallon bucket. Be sure to use a bucket that has a lid which can be sealed tightly.
2. เทอิมัลชันปลาลงในถังแกลลอน 5 ให้แน่ใจว่าได้ใช้ถังที่มีฝาปิดที่สามารถปิดผนึกอย่างแน่นหนา

2. เทปลาที่ปั่นจนเละแล้วลงในถังขนาด 5 แกลลอน (ถัง 20 ลิตร) ให้มั่นใจว่าได้ใช้ถังที่สามารถปิดฝาได้สนิทแน่นหนา

3 Add shredded newspapers, dried leaves, sawdust or brown grass clippings to the bucket to feed your fish emulsion fertilizer as it decays.(สลายตัว)
3. เพิ่มหนังสือพิมพ์หั่น, ใบแห้ง, ขี้เลื่อยหรือคลิปหญ้าสีน้ำตาลถังปุ๋ยให้อาหารปลาอิมัลชันของคุณเป็นมันสลายตัว

3. ใช้เศษกระดาษหนังสือพิมพ์, เศษใบไม้แห้ง, ขี้เลื่อย หรือหญ้าแห้งที่สับเป็นท่อนสั้นๆ ใส่ลงในถังเพื่อช่วยให้ปุ๋ยปลาหมักเกิดการย่อยสลาย

o 4 Pour molasses into the bucket to control odor(กลิ่น) and contribute healthy microorganisms to your organic fish emulsion fertilizer.
4. เทกากน้ำตาลลงในถังเพื่อควบคุมกลิ่นและมีส่วนร่วมจุลินทรีย์เพื่อสุขภาพปลาปุ๋ยอินทรีย์อิมัลชันของคุณ

4. เทกากน้ำตาลลงในถัง เพื่อช่วยดับกลิ่นและเพื่อสนับสนุนให้จุลินทรีย์ย่อยสลายปลาที่หมักให้เป็นปุ๋ยได้ดียิ่งขึ้น

o 5 Open the bucket each day and stir the fish fertilizer. Opening the bucket also helps "burp"(เรอ) the fish emulsion as it's decaying.
5. เปิดถังในแต่ละวันและคนปุ๋ยปลา เปิดถังยังช่วยให้ "เรอ" อิมัลชันปลาที่มันสลาย

5. เปิดถังปุ๋ยปลาที่หมักวันละครั้งเพื่อคนให้เนื้อปุ๋ยปลาเข้ากัน การเปิดถังเป็นการช่วยระบายอากาศ ซึ่งเกิดจากกระบวนการย่อยสลายของปุ๋ยปลานั้น

o 6 Wait 2 weeks until the entire mixture has turned dark brown before using. If you want to get rid of the fishy odor, you can add brown sugar,(น้ำตาลทรายแดง) molasses or pureed fruit(ผลไม้ที่ขยำจนเละ) to the mixture and ferment (เดือดปุด ๆ แบบหมักเหล้า) a few days longer.
6. รออีก 2 สัปดาห์จนส่วนผสมทั้งหมดได้หันสีน้ำตาลเข้มก่อนที่จะใช้ ถ้าคุณต้องการที่จะกำจัดกลิ่นคาวคุณสามารถเพิ่มน้ำตาล, กากน้ำตาลหรือผลไม้ที่ผสม pureed และหมักไม่กี่วันอีกต่อไป

6. ก่อนนำไปใช้ ต้องหมักทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน จนกระทั่งส่วนผสมเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลไหม้ .... ถ้าคุณไม่ต้องการให้มีกลิ่นเหม็นคาวปลา คุณสามารถใช้น้ำตาลทรายแดง, กากน้ำตาล หรือผลไม้ที่ขยำจนเละ เอาใส่ลงในส่วนผสม (ควรจะคนให้เข้ากันด้วย) มันจะเดือดปุดๆ กลิ่นจะเหมือนการหมักเหล้า แล้วก็หมักต่ออีกซักสองสามวัน (จึงค่อยเอามาใช้)

ข้อสังเกต สงสัยมั๊ยครับว่า ทำไมผลไม้ต้องใช้วิธีขยำจนเละ ทำไมไม่ใช้วิธีการปั่นด้วยเครื่อง อันนี้เป็นเทคนิคครับ แบบเดียวกับการปรุงน้ำพริกแกง ถ้าใช้มือตำด้วยครก กับการใช้เครื่องบด รดชาดจะผิดกัน การตำด้วยครก สารอาหารปรุงรสจาก พริก ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด จะออกมาเพิ่มกลิ่นและรสชาติของอาหาร ในขณะที่การบดด้วยเครื่อง ห่วยแตกกินไม่เป็นรส (ม. ม. ด.) การขยำผลไม้ด้วยมือจนมันเละ มันจะมีสารอาอาหารบางอย่างจากผลไม้ออกมา ช่วยให้จุลินทรีย์ทำงานได้ดียิ่งขึ้น





................ เน็ตมันหลุดบ่อยครับ ต้องลงทีละน้อย .......




.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม …ยัยเฉิ่ม และเพื่อน สมช.ทุกท่าน

มาดูวิธีหมักปุ๋ยจากปลาทะเล(ของฝรั่ง)กันต่อเลยครับ

3- How to Make Fish Fertilizer Out of Fish Scraps

By Jeffrey Brian Airman, eHow Contributor

You can make a powerful fish emulsion fertilizer at home using fish parts and scraps. Homemade fish fertilizer often works better than store-bought varieties because it is often made from higher quality fish scraps that contain more bone meal and oils. Adding a few other natural ingredients(ส่วนประกอบอื่น ๆ จากธรรมชาติ) to the fertilizer mix enhances bacterial activity to make the fish emulsion even more effective. Save fish heads, tails and bone scraps to make an inexpensive organic fertilizer that works.

Read more: How to Make Fish Fertilizer Out of Fish Scraps | eHow.com http://www.ehow.com/how_6517806_make-fertilizer-out-fish-scraps.html#ixzz1pOBlZMPg

3 – วิธีการทำปุ๋ยปลาออกจากข้อความที่ฝากไว้กับปลา
โดยนักบินเจฟฟรีย์ไบรอัน, เว็บไซต์ผู้สนับสนุน
(กูเกิ้ล)แปลได้สุดยอดเลยจริง ๆ

วิธีการทำปุ๋ยปลาจากเศษปลา

โดย เจฟเฟอรรี่ ไบรอัน แอร์แมน , eHOW ผู้สนันสนุน



รูป เศษไส้ปลา หัวปลา เลือดปลา กระดูกปลา ไขมัน ฯลฯ จากปลาทะเลนะครับ ที่นำมาบดแล้วหมักปุ๋ย รูปขวา เลือดปลาและกระดูกป่น น.น. 2.5 กก ราคา $ 16.99 ฝรั่งทำขาย แต่เกษตรกรและชาวนนาไทย กินปลาแทบจะทุกวัน เอาของดีทิ้งหมด เฮ

(กูเกิ้ล)คุณสามารถทำให้ปลาที่มีประสิทธิภาพปุ๋ยอิมัลชันที่บ้านโดยใช้ชิ้นส่วนและเศษปลา ปุ๋ยปลาโฮมเมดมักจะทำงานได้ดีกว่าเก็บซื้อ-พันธุ์เพราะมันมักจะทำจากเศษปลาที่มีคุณภาพสูงที่มีอาหารมากขึ้นกระดูกและน้ำมัน การเพิ่มส่วนผสมจากธรรมชาติเพียงไม่กี่อื่น ๆ ในการผสมปุ๋ยช่วยเพิ่มกิจกรรมของแบคทีเรียที่จะทำให้อิมัลชันปลาประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น บันทึกหัวปลาหางและเศษกระดูกที่จะทำให้ปุ๋ยอินทรีย์ราคาถูกที่ทำงาน

คุณสามารถทำปุ๋ยปลาที่มีประสิทธิภาพใช้เองที่บ้านโดยใช้ชิ้นส่วนและเศษปลา มีบ่อยครั้งที่ปุ๋ยปลาที่คุณทำใช้เองที่บ้าน จะใช้งานได้ดีกว่าที่คุณซื้อมากจากร้านค้าต่าง ๆ เพราะว่าบางครั้งเศษปลาที่คุณนำมาหมักจะมีคุณภาพจากสารอาหาร จากกระดูก เนื้อ และน้ำมัน ที่สูงกว่า และการเพิ่มส่วนประกอบอื่น ๆ จากธรรมชาติเพียงเล็กน้อยลงในปุ๋ยจะช่วยเพิ่มการขยายตัวของแบคทีเรียซึ่งจะทำให้ปุ๋ยปลาที่เราหมักเองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถ้าจะหมักแบบประหยัดด้วยการใช้ หัวปลา หาง และเศษกระดูก จะทำให้ได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีราคาถูกลง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: วิธีการทำปุ๋ยปลาออกจากข้อความที่ฝากไว้กับปลา | eHow.com ixzz1pOBlZMPg http://www.ehow.com/how_6517806_make-fertilizer-out-fish-scraps.html #

Instructions

o 1 Drop fish scraps into a food processor and pulse the blade to chop the parts into a fishy mush. Add the chopped fish scraps(เศษปลาสับ) to a 5-gallon plastic bucket until it is approximately half full. The fish will decompose(เปื่อย) into fertilizer faster when more surface area is exposed.(สัมผัส)
คำแนะนำ
o 1 เศษปลา Drop ลงในอาหารโปรเซสเซอร์และชีพจรใบมีดเพื่อตัดชิ้นส่วนที่เป็นข้าวต้มคาว เพิ่มเศษปลาสับไป 5-แกลลอนถังพลาสติกจนกว่าจะมีประมาณครึ่งหนึ่ง ปลาจะย่อยสลายเป็นปุ๋ยได้เร็วขึ้นเมื่อพื้นที่ผิวสัมผัสมากขึ้น

1.ใส่เศษปลาลงในเครื่องบด(คราวนี้ต้องใช้เครื่องบด ใช้เครื่องปั่นไม่ได้นะครับ)ปรับใบมีดเพื่อที่จะตัดชิ้นส่วนของเศษปลาให้ละเอียดเหมือนข้าวต้มเละ ๆ(แบบโจ๊ก) จากนั้นก็เอาเศษปลาที่บดละเอียดแล้วใส่ลงในถังพลาสติคขนาด 5 แกลลอนประมาณครึ่งถัง ปลาจะย่อยสลายเป็นปุ๋ยได้เร็วขึ้นเมื่อพื้นที่ผิวสัมผัสมากขึ้น

o 2 Fill the bucket to within an inch of the rim with small scraps of newspaper, dry brown leaves or sawdust. This dry material will aerate(ผึ่งลม) the decomposing fish and absorb released nitrogen to speed the decay process.
o 2 เติมถังที่ภายในนิ้วของขอบที่มีเศษเล็ก ๆ ของหนังสือพิมพ์ใบสีน้ำตาลแห้งหรือขี้เลื่อย นี้วัสดุที่แห้งจะผึ่งลมปลาย่อยสลายและดูดซึมไนโตรเจนออกเพื่อเพิ่มความเร็วในกระบวนการสลายตัว

2.ใช้เศษกระดาษหนังสือพิมพ์, เศษใบไม้แห้ง, ขี้เลื่อย ใส่ลงในถังหนาประมาณ 1 นิ้ว วัสดุแห้งที่กล่าวนี้จะช่วยบังลมทำให้ปุ๋ยปลาหมักเกิดการย่อยสลายและดูดซับไนโตรเจนที่ปลาปล่อยออกมาซึ่งจะเร่งให้การย่อยสลายเร็วขึ้น

3 Pour the entire jar of molasses into the bucket before sealing the lid securely. A small amount of Epsom salt adds the magnesium and sulfur that are common additives in commercial fish fertilizers. The sugars in the molasses will generate more aerobic bacteria activity and keep down the smell of the rotting fish.(กลิ่นปลาเน่า)
o 3 เทโถทั้งหมดของกากน้ำตาลลงในถังก่อนที่จะปิดผนึกฝาอย่างปลอดภัย จำนวนเล็กน้อยเกลือ Epsom เพิ่มแมกนีเซียมและกำมะถันที่มีสารเติมแต่งที่พบในปุ๋ยปลาเชิงพาณิชย์ น้ำตาลในกากน้ำตาลจะสร้างแบคทีเรียแอโรบิกมากขึ้นในกิจกรรมและให้ลงกลิ่นของปลาที่เน่าเปื่อย

3. เทกากน้ำตาลลงในถังก่อนที่จะปิดฝาให้แน่นพร้อมกับใส่ ดีเกลือลงไปนิดหน่อยเพื่อเพิ่มสารอาหารแมกนีเซียมและกำมะถัน ซึ่งเป็นสารปรุงแต่ง(ธาตุรองธาตุเสริม)ที่พบในปุ๋ยปลาที่ขายในเชิงพาณิชย์ (ความหวานของ)น้ำตาลในกากน้ำตาลจะสร้างแบคทีเรียที่ต้องการอากาศให้มากขึ้นและจะช่วยลดกลิ่นของปลาที่กำลังเน่าเปื่อยลง

o 4 Shake the sealed bucket in every direction as briskly as possible to mix the contents thoroughly. Do this once a day to keep the bacteria working throughout the decaying matter.

o 4 เขย่าถังที่ปิดสนิทในทิศทางที่ทุกคนเป็นเหยงที่เป็นไปได้ในการผสมเนื้อหาอย่างละเอียด ทำเช่นนี้วันละครั้งเพื่อให้แบคทีเรียที่ทำงานตลอดทั้งเรื่องเนื้อที่

4จับถังเขย่าไปทางไหนก็ได้ให้เขย่าอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ส่วนผสมในถังเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ทำแบบนี้วันละครั้งเพื่อให้แบคทีเรียทำการย่อยสลายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

o 5 Store the sealed bucket in a warm place that is out of direct sunlight for two weeks with daily openings and agitation.(ความยุ่งยาก) Burping( and shaking the bucket daily releases gas buildup and remixes the decaying material.
o 5 เก็บถังที่ปิดสนิทในที่อบอุ่นที่จะออกจากแสงแดดโดยตรงเป็นเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเปิดทุกวันและ Burping กวน (และเขย่าถังก๊าซทุกวัน buildup เผยแพร่และผสมวัสดุที่ผุ

5 เก็บถังไว้ในที่อบอุ่น แต่อย่าให้โดนแสงแดดโดยตรง ประมาณ 15 วัน (เมืองฝรั่งอากาศหนาว บ้านเราเก็บในร่มก็พอ) แต่ว่าจะมีความยุ่งยากคือ จะต้องเปิดฝาถังเพื่อให้มีการระบายอากาศ และกวนหรือเขย่าถังทุกวัน เพื่อให้ส่วนผสมคลุกเคล้าปุ๋ยที่กำลังย่อยสลาย

6 Dilute 1 qt. of the two-week-old fish emulsion with 1 gallon of water before applying the fertilizer to plants. Using the fish fertilizer at full strength will kill or damage young plants.

o 6 เจือจาง 1 qt ของอิมัลชันปลาสองสัปดาห์กับ 1 แกลลอนน้ำก่อนที่จะใช้ปุ๋ยกับพืช การใช้ปุ๋ยปลาที่แข็งแรงสมบูรณ์จะฆ่าหรือความเสียหายพืชเล็ก

6หลังจาก 15 วันผ่านไป (การนำมาใช้งาน) ก่อนใช้กับพืชผัก ให้นำปุ๋ยปลา 1 ควอต (เกือบ ๆ จะ 1 ลิตร) ผสมกับน้ำ 5 แกลลอน การใช้ส่วนผสมที่เข้มข้น จะฆ่าหรือทำลายต้นพืชที่ยังเล็กอยู่ได้

o 7 Continue to contribute an equal amount of fish scraps and dry brown matter like leaves and sawdust as the emulsion is used. Introducing the new material to the old will jumpstart the fermentation(การหมัก) process and give you a nearly endless supply of concentrated fertilizer.o 7 ดำเนินการต่อเพื่อร่วมจำนวนเงินเท่ากับเศษปลาและไม่ว่าสีน้ำตาลแห้งเหมือนใบไม้และขี้เลื่อยเป็นอิมัลชันที่ใช้ แนะนำวัสดุใหม่เพื่อเก่าจะเริ่มต้นอย่างรวดเร็วกระบวนการหมักและให้คุณอุปทานสิ้นสุดเกือบปุ๋ยเข้มข้น

7การขยายปริมาณปุ๋ยให้เพิ่มขึ้น ให้ใช้เศษปลาและวัสดุสีน้ำตาลเช่นใบไม้แห้ง ขี้เลื่อย อย่างละเท่า ๆ กัน มีข้อแนะนำว่า ควรใช้วัสดุที่หมักไว้นานแล้ว จะช่วยให้กระบวนการหมักเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้ผลที่ได้เป็นปุ๋ยที่มีความเข้มข้นสูงเช่นเดียวกัน

ยังมีต่อครับ บอกแล้วว่า เรื่องนี้ ยาววววววว

ผมมีรูปมายั่วกิเลสของสมาชิกที่ใฝ่รู้เรื่องกรรมวิธีในการหมักปุ๋ยปลาทะเล มันตรงกับที่ลุงคิมเคยพูดไว้ทุกประการเลยแหละ ดูรูปให้งงแล่นไปพลาง ๆ ก่อนก็แล้วกัน



ถ้า สมช.ท่านใดพอจะรู้ว่ารูปนี้คืออะไร กรุณาพาตัวออกมาจากหลังกำแพงสู่โลกภายนอก โลกแห่งการแบ่งปันเถอะครับ คุณจะมีความสุขทางใจจากการเป็นผู้ให้
ผมขอมอบให้ท่านผู้รู้ที่ปิดขังตัวเองอยู่หลังกำแพงความรู้

Keep your heart free from hate, your mind free from worry.
Live simply, expect little, give much.
Fill your life with love.
Scatter sunshine.
Forget self, think of others.
Do as you would be done by.
It’s the way to happiness.
Try this for a week and you will be surprised.

ปุ๋ยปลาทะเลยังมีต่อครับ

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม …ยัยเฉิ่ม และเพื่อน สมช.ทุกท่าน




Dramatic Organic Fertilizer (เรื่องน่าทึ่งของปุ๋ยอินทรีย์)

ขณะที่ผมกำลังค้นหาเรื่องปุ๋ยหมักจากปลาทะเล (Fish Emulsion Fertilizer) บังเอิญไปเจอรูปนี้เข้า แล้วก็เห็นว่าสอดคล้องกับที่ลุงคิมพูดย้ำนักย้ำหนาถึงเรื่องปุ๋ยหมักจากปลาทะเล แล้วก็จำเป็นต้องหมักไว้ข้ามปี หมักหลายๆ ปียิ่งดี เพื่อให้เกิดสารอาหาร (occurring amino acids, vitamins, hormones and enzymes กรดอะมิโน, วิตามิน, ฮอร์โมน และเอนไซม์) และของฝรั่งที่หมักออกมาแล้ว ลิตรละเกือบ 1,000 แต่ของลุงคิม ลิตรละ 100

ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับลุงคิม การจะใช้ปุ๋ยก็ต้องเสียเงินซื้อ แต่ชอบคำพูดที่ตรงไปตรงมา ผมเคยใช้มาหลายยี่ห้อ ก็งั้นๆ ฉีดพ่นมะเขือเปราะพันธุ์ธรรมดา ที่ปลูกแล้วงามที่สุดลูกก็โตแค่ไม่เกิน 2 ข้อนิ้วมือ พอมาลองใช้ปุ๋ยของลุงคิม ฉีดแล้วลูกโตประมาณ เกือบ 3 ข้อนิ้วมือ ( 2 &frac12 ; นิ้วไม้บรรทัด) ในขณะเดียวกัน สมัยที่ผมเป็นเด็ก พ่อเคยเอาปุ๋ยปลา (Fish Emulsion Fertilizer) ซึ่งกลั่นจากปลาทะเลของบริษัท ATLAS เอามาฉีดพ่นกล้วยไม้มันงามอย่าบอกใคร (เคยลงรูปให้ดูแล้ว )และเมื่อมาได้ยินลุงคิมพูด ก็อยากจะรู้ว่า ปุ๋ยหมักจากปลาทะเลมันดีอย่างไร ก็ค้นหา ก็ได้ข้อมูลมาแบ่งปันกัน ใครเชื่อก็เชื่อ ใครไม่เชื่อก็ไม่เสียหายอะไร ไม่ลองก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า ถ้าซื้อปุ๋ยปลาของ แอท ลาส แกลลอนละเกือบสองพัน กับซื้อของลุงคิม แกลลอนละ ห้าร้อย แล้วระหว่างจุลินทรีย์เมืองหนาวกับจุลินทรีย์เมืองร้อน อะไรมันควรจะดีกว่ากัน ช่วยไม่ได้ถ้าใครคิดว่าของฝรั่งดีไปหมด อยาก โง่ ซื้อของแพง อันนี้ก็ไม่ว่ากัน แต่ใช้แล้วผลได้ไม่ต่างกัน เผลอๆ ดีกว่าของฝรั่งด้วยซ้ำไป

ลุงคิมเคยพูดว่า รูปภาพ 1 รูปแทนคำอธิบายได้ 1,000 คำ ในขณะเดียวกัน ผมขอเรียนว่า รูปภาพ 1 รูป หากไม่มีคำอธิบายประกอบ รูปภาพนั้นก็ไร้ความหมาย หากว่า มีทั้งรูปและคำอธิบายประกอบด้วย รูปภาพนั้นจะมีความหมายมากเกินกว่าคำบรรยาย



ผมขอยกภาพประกอบนี้มาอีกครั้ง เพื่อขยายความ ประกอบคำอธิบาย



ในภาพแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านบนเป็น ภาพที่ 1 Figure A ..... ด้านล่าง เป็นภาพที่ 2 Figue B แต่ละรูปย่อย จะมีคำอธิบายสั้นๆ ประกอบ บอกวิธีทำว่า จะทำตามแต่ละขั้นตอนทำได้อย่างไร ถ้าอยากทดลองทำเอง ทำได้เลยครับ จะได้พูดได้เต็มปากว่า กูทำกับมือ ศัพท์ ง่ายๆ แปลไม่ยาก


คำบรรยายจากภาพ ฝรั่งเค้าบอกไว้ว่า
For centuries, fish have been recognized as an excellent fertilizer source. For this reason we have developed multiple all natural liquid fish formulas for organic and conventional crop production.

เป็นเวลาหลายศตวรรษมาแล้ว ที่ปลาได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งปุ๋ยที่ดีเยี่ยมที่สุด ด้วยเหตุนี้เรามีการพัฒนาปุ๋ยปลาหลายสูตร ด้วยวิธีธรรมชาติทั้งหมด สำหรับใช้ในการผลิตพืชอินทรีย์ตามฤดูกาล

We make our fertilizers from fresh fish carefully processed at low temperatures to maintain the integrity of naturally occurring amino acids, vitamins, hormones and enzymes. The raw material is then stored in digestion tanks to liquify the product. This method produces a product called a "hydrolysate." (Fig. A.)

เราทำปุ๋ยของเราจากปลาสดตามกระบวนการด้วยความพิถีพิถันที่อุณหภูมิต่ำเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่จะทำให้เกิด กรดอะมิโน, วิตามิน, ฮอร์โมน และเอนไซม์ วัตถุดิบจะถูกเก็บในถังย่อยๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์คงสภาพเป็นของเหลว โดยวิธีนี้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการนี้ เรียกว่า "ไฮโดรลีเซท." (หมายถึง กระบวนการสลายตัวอย่างช้าๆ ของสารประกอบอย่างหนึ่งไปเป็นสารประกอบอื่นโดยการเติมน้ำ ปฏิกิริยาจากการรวมตัวของน้ำกับเกลือเพื่อทำให้เกิดกรดและเบส) ผมเรียกวิธีนี้ว่า วิธีการหมักเย็น ครับ ( รูป A)

Dramatic fish hydrolysates contain the natural oils and proteins of fish, which break down slowly to become available over a longer period of time.

เป็นเรื่องที่น่าทึ่งที่กระบวนการ ไฮโดรลีเซท จากปลา จะมีน้ำมันตามธรรมชาติและโปรตีนจากปลา ซึ่งสลายตัวออกมาอย่างช้าๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอันยาวนาน (หมักข้ามปี หมักทิ้งไว้หลายๆ ปี) เพื่อให้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า (กรดอะมิโน, วิตามิน, ฮอร์โมน และเอนไซม์) ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้

In contrast, the majority of fish fertilizers on the market today are known as "emulsions." First the fish is cooked and the oil removed for paints and cosmetics. Then the protein is removed and dried to make fish meal for livestock feeds. The remaining wastewater is condensed into a brown, thick liquid called an "emulsion."(Fig. B.)

ในทางตรงกันข้ามส่วนใหญ่ของปุ๋ยปลาในตลาดทุกวันนี้เป็นที่รู้จักที่เรียกกันว่า "อีมัลชั่น." นั้น ประการแรก เอาปลามาอบให้สุก น้ำมัน (ปลา) จะถูกสกัดออกมาก่อน เพื่อนำไปใช้ในการทำสีทาบ้านและเครื่องสำอาง ต่อจากนั้นโปรตีนจะถูกสกัดออกมา แล้วจึงทำให้แห้งเพื่อทำเป็นอาหารที่ทำจากปลาสำหรับใช้เลี้ยงปศุสัตว์ ส่วนน้ำเสียที่เหลือ จะถูกทำการควบแน่น (กลั่น - ไล่น้ำออกให้ใกล้จะแห้งเหลือแต่เนื้อ) จนรวมตัวเป็นของเหลวสีน้ำตาลข้น ซึ่งเรียกว่า "อิมัลชั่น." (รูป B)


หมายเหตุ เมื่ออ่านคำอธิบาย และดูจากรูปประกอบแล้ว คุณสามารถที่จะทำเองได้ทั้งสองวิธีตามที่กล่าวข้างต้น..... ยกตัวอย่างปุ๋ยสูตร 30-10-10 หรือสูตรสั่งตัด (21-7-14 ฯลฯ) ของลุงคิม ก็ใช้วิธีหมักตามวิธีที่ 1 ครับ คือ วิธีการหมักเย็น หมักไว้ข้ามปี อย่างน้อยลุงคิมบอกว่า หมักสามปี

To Be Continue.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม และเพื่อน สมช.สีสันชีวิตไทย

รายการที่แปลจากกูเกิ้ล 3 ตอน จบไปแล้ว ต่อจากนี้ก็แปลโดย กูกลิ้ง(มั่ว-ของกูเอง) ผิดถูกอย่าว่ากัน แปลเอาแค่พอรู้เรื่อง อ่านแล้วคุณสามารถเอาไปทำเองได้ จะไปยากอะไรนักหนา กะอีแค่เอาปลามาหมักทำปุ๋ย จะเป็นปลาอะไรก็มีวิธีหมักเหมือน ๆ กัน ทำให้ดี ทำถูกวิธีมันก็ไม่เหม็นหรือเหม็นน้อย ทำไม่ดี ทำไม่ถูกวิธี มันก็เหม็น แล้วก็อย่ามองแค่เอา ปลามาหมัก จะเป็น กุ้ง หอย ปู ใช้หมักได้หมด ยิ่งหมักรวมกันหลาย ๆ อย่างยิ่งดี ถ้าอยากได้ปลาทะเลราคาถูกเอามาหมักปุ๋ย ลองหาดูจาก

1.ท่าปลาหรือแพปลาทะเลทุกแห่งที่ใกล้บ้าน ถ้าหาไม่ได้ไปที่..
2.ตลาดขายปลาทะเล ไปหาซื้อตอนเย็น ๆ ใกล้ตลาดจะปิด คือปลาสดที่ขายไม่หมด วันที่สอง วันที่สาม วันที่สี่ พอไหว ถ้าวันที่ห้า ไม่ไหวแล้ว ปลาใกล้จะเน่า ปลาทะเลเน่าเร็วกว่าปลาน้ำจืด หมักแล้วมัน จะเหม็นเน่า ปลาทะเลเน่าจะเหม็นกว่าปลาน้ำจืดเน่า หรือสั่งแม่ค้าปลาไว้ก็ได้ บอกไว้เลย.....เจ๊ เย็นนี้ปลาท้องแตก 30 โล นี่คือ ภาษาที่รู้กันว่า ปลาท้องแตกคือปลาที่หมดสภาพขายเป็นปลาสด ถ้าไม่มีคนซื้อ ทิ้ง ลูกเดียว เมื่อมีคนซื้อ เราก็เลือกเอาที่มันดูดีหน่อย จาก กก.ละ 80 – 100 ก็จะเหลือแค่ 10 - 20 บาทดีกว่าทิ้ง เผลอ ๆ มีของแถมด้วย ...น้า วันนี้มี 50 โล เอาไปเลย 400 เฉลี่ยโลละ 8 บาทเอง
นี่คือการแบ่งปัน การร่วมด้วยช่วยกัน ยังมีเปลือกสับปะรดที่แม่ค้าอยากจะทิ้งอีกถุงเบ้อเริ่ม สับ ๆๆ ใส่หมักในถัง 200 ลิตร แน่นเอี๊ยดเลย ถ้าเปื่อยเป็นปุ๋ยจะข้นคลั่กเลยก็แล้วกัน ...
3. ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ลุงคิมเคยบอกว่า ใช้ปลาป่นที่เอามาทำอาหารสัตว์นั่นแหละใช้ได้ ดีด้วยเพราะมันมี กุ้ง หอย ปู และปลา สารพัดอย่างรวมอยู่ทั้งหมด ลองทำดูนะครับ
4. วิธีการหมักแบบไทย ๆ ตามแบบของ แดงศาลายา เอาไว้บอกตอนที่พูดถึงปุ๋ยหมักจากปลาทะเลแบบไทย ๆ นะครับ ตอนนี้ แปลให้จบการหมักปุ๋ยปลาทะเลแบบของฝรั่งก่อนนะครับ

มาเริ่มกันเลย

How to Mix Fresh Fish in Soil to Make Fertilizer

จะผสมปลาสดใส่ลงในดินเพื่อทำให้เป็นปุ๋ยได้ยังไง


Fish emulsion -- a natural fertilizer made from rotted fish -- provides nitrogen and small amounts of other elements that promote plant growth. If applied properly to healthy plants, the fertilizer safely enriches trees, shrubs, flowers, vegetables and other garden plants. Due to its strong temporary odor, it is best to apply fish emulsion fertilizer exclusively to outdoor plants. Does this Spark an idea ?

เมื่อพูดถึงปุ๋ยปลาหมัก - เป็นปุ๋ยธรรมชาติที่ทำจากปลาที่เริ่มเน่า – แต่ก็สามารถให้ธาตุไนโตรเจน และสารอาหารอื่น ๆ แม้จะในปริมาณน้อย ๆ แต่ก็ช่วยให้พืชเจริญเติบโต ซึ่งถ้าหากนำไปใช้อย่างถูกต้อง จะทำให้พืชแข็งแรงสมบูรณ์ ปุ๋ยจะเสริมสร้างต้นไม้ให้เจริญเติบโตได้อย่างปลอดภัย รวมถึงไม้พุ่ม, ไม้ดอก, ผักและพืชสวนอื่น ๆ ด้วย แต่เนื่องจากกลิ่นปุ๋ยที่หมักจากปลา จะมีกลิ่นเหม็นที่รุนแรง ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือการใช้ปุ๋ยปลาที่ผ่านการกลั่นแล้วเฉพาะกับพืชที่อยู่กลางแจ้ง ....คุณไม่คิดที่จุดประกายวิธีการนี้หรือ?


Instructions ; วิธีทำ

1. Contact your local county or university extension service for a soil testing kit. Take several samples of the soil you want to fertilize, and submit the samples to the extension. The extension will analyze the samples and give you information about how much fertilizer to use with your specific soil, and how often to fertilize.

1 ติดต่อบริการในท้องถิ่นของคุณ หรือมหาวิทยาลัย(เกษตร)ที่เค้ามีบริการสำหรับการทดสอบดิน คุณต้องส่งตัวอย่างดินที่คุณต้องการใส่ปุ๋ยหลาย ๆ ตัวอย่าง และส่งตัวอย่างให้เจ้าหน้าที่เพื่อทำการวิเคราะห์ตัวอย่าง แล้วก็แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใส่ปุ๋ยให้กับดินให้คุณโดยเฉพาะและจะบอกวิธีการที่จะใส่ปุ๋ยบ่อยครั้งแค่ไหน ....
บริการอันนี้เมืองไทยน่าจะไม่มี จะมีก็ให้คุณต้องส่งตัวอย่างดินไปที่เกษตรอำเภอให้เค้าวิเคราะห์ให้ แต่คอยไปเถอะ ชาติหน้าบ่าย ๆ โน่นแหละถึงจะรู้ผล

2. Mince fish wastes. Fill a bucket or drum 1/3 of the way with the fish. Fill the rest of the drum with water. Make the mixture in winter so it will be ready for fertilizing in spring.

2 สับเศษปลาที่ไม่ใช้แล้ว ใส่ในถัง(20 ลิตร)หรือถัง(200 ลิตร)ประมาณ 1/3 ถังหรือเท่าที่มีปลา ใส่น้ำลงไปในถัง ให้หมักในฤดูหนาว เพื่อที่จะพร้อมใช้ปุ๋ยในฤดูใบไม้ผลิ..........
ถ้าเป็นเมืองไทยคงต้องทำหน้าหนาว เอามาใช้ตอนหน้าร้อน

3. Set the bucket or drum in a covered, ventilated location so the odor of decomposing fish won't bother family members and neighbors or attract wildlife. Wait for the mixture to rot fully.

3 ตั้งถังไว้ในที่โล่ง ที่มีอากาศถ่ายเท เพื่อที่จะควบคุมกลิ่นปลาที่กำลังย่อยสลายไม่ให้รบกวนคนในบ้านและเพื่อนบ้าน หรือดึงดูดสัตว์ป่า ที่รอให้ส่วนผสมเน่าเปื่อยอย่างเต็มที่(การหมักปลากับน้ำเปล่า ๆ กลิ่นคงเหม็นน่าดู)

4. Mix the emulsion and add it to a garden sprayer in early spring, right before planting.

4 ผสมปุ๋ยที่หมักได้ที่แล้ว ผสมลงในเครื่องพ่นสารเคมีลงในสวน ให้ทำในต้นฤดูใบไม้ผลิก่อนที่จะปลูกพืช

5. Spray the emulsion evenly over your soil according to the advice given by your extension service. An average application is 3 gallons per 100 square feet. Sandy, fast-draining soils require more fertilizer, and hard clay soils require less.

5 ให้พ่นปุ๋ยอย่างทั่วถึงครอบคลุมดินรอบบริเวณที่ดินของคุณตามที่เจ้าหน้าที่เกษตรแนะนำ การประยุกต์ใช้ โดยเฉลี่ยคือ 3 แกลลอนต่อ 100 ตารางฟุต ถ้าเป็นดินปนทรายจะระบายน้ำได้อย่างรวดเร็วจำเป็นต้องใช้ปุ๋ยมากขึ้น แต่ถ้าเป็นดินเหนียว ดินแข็งต้องใช้น้อยลง

Tips & Warnings

Do not apply any fertilizers to plants that appear unhealthy until you diagnose the problem with a soil test; in most cases, fertilizer will exacerbate the problem.

เคล็ดลับ และ คำเตือน (คำแนะนำ)
อย่าใส่ปุ๋ยกับต้นไม้ที่ยังอ่อนแอ (เช่น ต้นไม้ที่ปลูกใหม่ ๆ, ต้นยังเล็ก, หรือต้นที่โทรม-ใกล้จะตาย) ...ให้ดูที่ดินซะก่อนว่าเป็นยังไง ...(แห้ง เปียก ชื้น ชุ่ม โชก แฉะ แช่) แล้วก็ ถ้าขืนให้ปุ๋ยในตอนนี้ ต้นไม้จะโทรมหนักยิ่งขึ้น(ถ้าต้นเล็ก ๆ หรือที่ปลูกใหม่ก็จะตายไปเลย)

Heavy applications of fish emulsion fertilizer can cause leaf burn.

การผสมปุ๋ยปลาหมักที่เข้มข้นมากเกินไป อาจทำให้พืชเกิดอาการใบไหม้ได้

Fish emulsion fertilizer may attract wild animals and dogs.

(กลิ่นของ) ปุ๋ยปลาหมัก อาจดึงดูดสัตว์ป่าและสุนัข

(จากที่ผมเคยทดลอง เอาใบสาบเสือ เปลือกกุ้ง และ กบ [Frog] สับใส่ลงหมักไปด้วย สุนัขหรือหมา ไม่เข้าใกล้หรอกครับ แต่แมว ไม่แน่ เพราะกลิ่นใบสาบเสือชื่อก็บอกกลิ่นมันทะแม่ง ๆ เสือกับหมาไม่ถูกกัน แล้ว หมาไม่กินกุ้งกับกบนะครับ)


Why Do My Aquarium Plants Turn Brown or Transparent? How to Make Fish Emulsion Fertilizer

ทำไมต้นไม้ในสวนใต้น้ำของผม มันกลายเป็นสีน้ำตาลแล้วก็ดูโปร่งใส? (ถ้าอยากรู้ ให้มาดูวิธีการทำปุ๋ยหมักจากปลาทำอย่างไร)..มันเกี่ยวกันตรงไหนหว่า

More to Explore ข้อควรวินิจฉัยเพิ่มเติม

How to Compost Dinner Scraps (mom.me) Gardening for Kids Tips for Gardening with Your Kids (parenting.com) What's this? This content unit connects website visitors with interesting articles, stories and videos. View Privacy Policy

จะเอาเศษอาหารมื้อเย็นที่เหลือมาหมักได้อย่างไร * (mom.me แม่กับผม)....การทำสวนสำหรับเด็ก ๆ .. เคล็ดลับการทำสวนกับลูก ๆ ของคุณ (ดูจาก parenting.com) สิ่งนี้คืออะไร? ..นี้คือข้อจำกัดของผู้เข้าชม ในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ ที่มีบทความ เรื่องราวและ วิดีโอ ที่น่าสนใจมากมาย ให้ดูนโยบายความเป็นส่วนตัว (นะจ๊ะ)

* อาหารเย็นของฝรั่ง เป็นอาหารมื้อหนัก ส่วนมื้อเช้า กาแฟ ขนมปัง มื้อสาย และบ่าย เบรคกาแฟ ส่วนอาหารกลางวัน อาหารจานด่วน ส่วนของไทย หนักทุกมื้อ แถมมื้อดึกและก่อนนอนก็ยังมี

http://www.ehow.com/how_8161164_mix-fish-soil-make-fertilizer.html



ยังมีต่อครับ

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม และสมช.ทุกท่าน

มาคุยกันเรื่อง วิธีทำปุ๋ยหมักจากปลาทะเล ต่อกันนะครับ

4-Homemade Fish Emulsion
By Cat McCabe, eHow Contributor



Fish were used by Native Americans to fertilize crops.
The first settlers of New England were taught by Native Americans to use dead fish to nourish poor soils and increase the yield of their vegetable gardens. Simply burying a dead fish and allowing it to decay near a corn plant could double its rate of growth. Fish emulsion made from scratch is one of the stinkiest and most effective fertilizers you can produce at home. Does this Spark an idea?

ชาวอเมริกันพื้นเมืองนำปลามาใช้ทำปุ๋ยใส่พืชมานานแล้ว

คนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานครั้งแรกที่นิวอิงแลนด์ได้รับการสอนโดยชาวอเมริกันพื้นเมืองที่ใช้ปลาตายเพื่อบำรุงดินที่ไม่ดี ให้ดีขึ้น และเพิ่มผลผลิตในสวนผักของพวกเขา เพียงทำง่าย ๆ โดยฝังปลาตายลงในดินข้าง ๆ ต้นข้าวโพดและปล่อยให้มันเน่าเปื่อย ทำให้อัตราการเจริญเติบโตเพิ่มเป็นสองเท่า ปุ๋ยปลาหมักที่ทำจากปลาที่ขูดให้เป็นริ้ว เป็นปุ๋ยมีกลิ่นเหม็นอย่างที่สุด แต่ก็เป็นปุ๋ยมีประสิทธิภาพมากที่สุด ที่คุณสามารถทำเองที่บ้าน ไม่คิดที่จะจุดประกายความคิดนี้บ้างหรือ ?

Read more: Homemade Fish Emulsion | eHow.com http://www.ehow.com/how_6521506_homemade-fish-emulsion.html#ixzz24qw62v2f

Instructions วิธีทำ

1 Put on rubber gloves before handling dead or rotting fish. Collect fish scraps, fish innards and fish bones, whether they're from a fishing excursion or the leftovers from dinner.

ใส่ถุงมือยางก่อนที่จะหยิบจับปลาตายหรือปลาที่เน่าเปื่อย ด้วยการเก็บเศษปลา อวัยวะภายในปลา(ตับ ไต ไส้ ปอด)และกระดูกปลาไม่ว่าจะได้จากคนหาปลาหรือที่เหลือจากอาหารมื้อเย็น

2 Place the fish scraps in a 5-gallon container that has a ventilated lid. An empty, plastic cat litter bucket with holes punched in the top is a perfect container for your fish emulsion.


ใส่เศษปลาในถังขนาด 5 แกลลอน เมื่อปิดฝาแล้ว ให้มีที่ว่างสำหรับการระบายอากาศได้, ถังพลาสติกที่มีรูเจาะด้านบนสุดเป็นภาชนะที่สมบูรณ์แบบสำหรับบรรจุปุ๋ยหมักจากปลาของคุณ

3 Add water to the fish scraps in a ratio of 2 parts water to 1 part scraps. Cover the bucket with the
lid and place in a shed or garage where animals cannot get to it and to prevent the smell from invading your home.

เติมน้ำลงในเศษปลา อัตราส่วน น้ำ 2 ส่วน ต่อเศษปลา 1 ส่วน ปิดฝาถังและเก็บไว้ในที่ร่มหรือโรงรถที่สัตว์ไม่สามารถรบกวนได้และเพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นเข้ารบกวนเข้าไปในบ้านของคุณ

4 Allow the emulsion to rot for about two weeks. Uncover it, holding your nose or breathing just through your mouth to avoid the stench.

หมักทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน(สองสัปดาห์) เวลาเปิดฝา ให้ปิดจมูกของคุณหรือหายใจผ่านทางปากเพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นเหม็น

5 Spread the fish emulsion at a ratio of 3 gallons per 100 square feet to get the maximum benefit and to avoid over-fertilizing or "burning" plant roots with too much nitrogen. Let it soak into the soil.
The smell may be intense at first but will dissipate quickly.

ใช้ปุ๋ยปลาในอัตราส่วน 3 แกลลอนต่อ 100 ตารางฟุต สาดให้ทั่ว ซึ่งจะทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุดและเพื่อหลีกเลี่ยงการใส่ปุ๋ยเกินพิกัด ซึ่งจะทำให้รากพืชเกิดอาการไหม้จากการที่ได้รับไนโตรเจนมากเกินไป ปล่อยให้มันแช่ซึมลงไปในดิน กลิ่นอาจจะรุนแรงในตอนแรก แต่มันจะสลายไปได้อย่างรวดเร็ว


Tips & Warnings

If your sense of smell is too sharp for this type of fertilizer, dot a little menthol creme underneath each nostril before opening a container of fish emulsion.

หากมีความรู้สึกว่าปุ๋ยหมักแบบนี้ กลิ่นมันเหม็นเกินไป ให้ทาครีมเมนทอลที่จมูกก่อนที่จะเปิดฝาถังปุ๋ย

หมายเหตุ ยังมีวิธีการหมักอีกหลายวิธี แต่ผมมีความรู้สึกว่า การหมักปุ๋ยปลาตามแบบของฝรั่งนี้ ดู ๆ มันจืดชืด เรียบง่าย แม้ว่าจะนำมาใช้งานได้ดี แต่มีปัญหาเรื่องกลิ่นอันไม่พึงปรารถนา จะมีอยู่สองสามวิธีเท่านั้นที่ดูดี คือวิธีแรก กับวิธีที่เอาปลามากลั่น และวิธีหมักเย็น จะสังเกตได้ว่า ฝรั่งไม่ค่อยชอบใช้กากน้ำตาลมาช่วยในการหมัก แต่จะใช้ ดีเกลือ หรือ Epsom Salt ผสมลงในการหมักเพื่อเพิ่มธาตุ แมกนีเซี่ยมกับกำมะถัน

ทำไมฝรั่งไม่ชอบใช้กากน้ำตาล เพราะในการหมักปุ๋ยอินทรีย์น้ำ หากมีส่วนผสมจากกากน้ำตาล ถ้าหมักไม่ได้อายุ หรือใช้กากน้ำตาลที่ไม่มีคุณภาพ อาจมีโอกาสเกิดเชื้อราจะเป็นอันตรายต่อพืชได้ ดังนั้นหากจะใช้ ต้องใช้แต่กากน้ำตาลจากแหล่งที่มีคุณภาพ(ที่ไม่ใส่โซดาไฟ)เท่านั้น ...และถ้าผมจะใช้กากน้ำตาลในการหมักปุ๋ย ผมจะใช้กากน้ำตาลจากโรงงานน้ำตาลแถบราชบุรี สังเกตได้จากน้ำที่ออกจากโรงงานลงคลองระบายน้ำ จะมีหนอนแดง ซึ่งราคาแพงครับ ใช้เป็นอาหารของปลาสวยงามเช่น ปลารันชู

การหมักปุ๋ยจากปลาทะเลของไทย จะมีโรงงานทำออกมาสำเร็จรูปแล้ว โรงงานอยู่แถวหลังสวน ชุมพรครับ ลองเข้าไปเปิดดูตามเว็ปนี้นะครับ

http://www.facebook.com/langsuan หรือWWW.paknamlangsuan.com



สูตรการหมักอย่างคร่าว ๆ ของโรงงานนี้มีดังนี้

วิธีทำปุ๋ยอินทรีย์น้ำ จากปลาทะเล ไว้ใช้เองอย่างง่าย

1. ใช้ปลาสดทั้งตัว 60 กิโลกรัม แนะนำว่า ถ้าสะดวกให้ไปซื้อที่หน้าแพปลา จะราคาถูกและปลามีคุณภาพ นำปลามาเข้าเครื่องบดละเอียด เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการย่อย

2. เตรียมกากน้ำตาล 45 กิโลกรัม ,ส่าเหล้า 15 ลิตร ,น้ำ 50 ลิตรและจุลินทรีย์ ? หลังจากนั้นนำมาคลุกเข้าด้วยกัน ในถัง 200 ลิตร แล้วคนให้เข้าด้วยกันอีกครั้ง

3. เพิ่มอากาศโดยการกวนทุกๆ วัน หรือจะติดตั้งเครื่องปั๊มลมเพิ่มอากาศก็จะสะดวกขึ้น ประมาณ 15 วัน เนื้อปลา จะถูกย่อยสลาย ส่วนก้างปลาจะถูกย่อยสลายไปภายใน 30 วัน

4. หมักไว้ประมาณ 3 - 4 เดือน และกวนจนกว่าจะครบกำหนดโดยสังเกตจากสีและกลิ่น จึงสามารถนำมาใช้ได้ แต่ให้ระวัง ถ้าหมักไม่ครบอายุอาจเกิดเชื้อราได้ครับ และค่า pH อยู่ประมาณ 3.5 - 5

5. หลังจากหมักปุ๋ยปลาได้ที่แล้วนำไคโตซาน(ในรูปอนุพันธ์ที่ไม่มีปฏิกิริยาและเข้ากันได้เป็นเนื้อเดียวกับปุ๋ยอินทรีย์น้ำ) เพื่อเป็นสูตรปุ๋ยปลาผสมไคโตซาน

6. ง่ายกว่า ถ้าไม่อยากรอ ดูแล้วจุกจิก เรายินดีให้คำปรึกษา โทรมาเลย 077-541347 , 083-1062524


TO Be Continue เด๊อ....

นอกจากนี้แล้ว ยังมีวิธีการหมักที่ผมเคยทำตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก เรื่อยมาเลย จนถึงสมัย ปราชญ์ชาวบ้าน ยุคปัจจุบันที่ผมอ่านตำราของเค้าแล้ว ...มึงลอก (เลียนแบบ) กู กู (ลอกเลียนแบบ) มึง อย่างที่ลุงคิมเคยพูด ลอกกันไป ลอกกันมา ทำเสร็จออกมากลายเป็น "สูตรของกูเอง"



.

[spyman]

.


ติดตามอ่านตลอด ตั้งแต่หน้าสุดท้าย (กระทู้แรกๆ) ยันหน้าแรก (กระทู้ท้ายๆ)

ขอขอบคุณ ลุงคิมและทุกท่านที่เข้ามาให้ความรู้ กระทู้นี้ผมรอคนแปลตั้งแต่เดือนที่แล้ว

เข้ามาอ่านไม่ผิดหวัง แต่ผิดหวังตรงที่สูตรลุงคิม (ดูจะ) เหนือชั้นกว่าฝรั่ง

ปลาทะเล-ปลาทะเล คนเหนืออย่างผม ซื้อปลาทะเลได้แค่ปลายหางในราคาเดียวกับซื้อทั้งตัวที่ท่าน้ำ

แต่ไหนๆก็จะทำแล้วก็ต้องรีบทำเพราะเหมือนปลูกต้นไม้ อย่างน้อยอีกเป็นปีกว่าจะได้ใช้ (ใช้ได้)



ขอติดตามต่อไปครับ



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม คุณ spyman และเพื่อน สมช.

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน
ปุ๋ยหมักจากปลาทะเลของลุงคิมนั้น ไม่ต้องพูดถึง เพราะเหนือชั้นกว่าสูตรของใคร ๆ เท่าที่เคยเห็นมา

และสูตรของฝรั่ง ผมบอกไว้แล้วว่า ก็งั้น ๆ จืดชืด แค่ขั้น Basic เท่านั้น เพียงแต่ที่ผมมาเป็นกระทู้ก็เพียงเพื่อให้เห็นว่า ฝรั่งใช้ปลาทะเลหมักเป็นปุ๋ยมานานกว่า 60 ปีแล้ว ดูจากแกลลอนปุ๋ยปลา (Fish Emulsion) ของ ATLAS

กรรมวิธีในการหมักก็ธรรมดา แต่เค้ามีการเพิ่มสารอาหารที่ลุงคิมเคยพูด คือ ธาตุรองธาตุเสริม เข้าไปด้วย แต่ผมยังไม่ได้นำข้อมูลที่เขาเขียนไว้ข้างแกลลอนมาบอกเล่าให้ฟังเท่านั้น มีเพียงแค่เค้าเอา แมกนีเซี่ยมซัลเฟต หรือดีเกลือ ที่เรียกว่า Epsom Salt ผสมลงไปด้วย

แมกนีเซี่ยมซัลเฟต ที่กองคาราวานสีสันชีวิตไทยนำมาขายก็คือ แมกซ์ สปีด ครับ ดีกว่า เหนือชั้นกว่า แมกนีเซี่ยมซัลเฟต หรือ Epsom Salt เพราะการใช้แมกนีเซี่ยมซัลเฟต ต้องหมักก่อนถึงจะใช้งานได้เนื่องจาก โมเลกุลมันใหญ่เกินกำลังที่พืชจะดูดไปใช้ได้ทันที แต่ แมกซ์ สปีด เป็นแมกนี่เซี่ยม คีเลท ละลายปุ๊บฉีดปั๊บไปที่พืช ๆ จะดูดซึมได้ทันที เหมือนคนป่วยให้น้ำตาลผ่านเส้นเลือดไม่ได้ แต่ให้น้ำเกลือ คือ กลูโคส ให้ผ่านเส้นเลือดได้นั่นแหละ

คุณอยู่เหนือ อยู่ที่ไหน น้องผมอยู่เชียงราย คุยแล้วยาว พอดีผมกำลังจะเดินทางไปโคราช เค้าเรียกขึ้นรถแล้ว เอาเป็นว่า กลับมาก่อนแล้วจะ ร่ายยาวให้ฟัง ตอนนี้แนะนำว่า เอาปลาป่นที่มีขายเป็นอาหารสัตว์แถวบ้านคุณนั่นแหละ เอามาหมักแทนปลาทะเลไปก่อน เพราะปลาป่น คือ รวมปลาสารพัดปลา มีกุ้ง หอย ปู แถมมาด้วย แล้วก็มีสารพัดแร่ธาตุอาหาร ลุงคิมยืนยันแล้วว่าใช้ได้ ถูกกว่าปลาทะเลอีกด้วย 1 กระสอบปุ๋ยก็หมักได้ในถัง 200 ลิตรแล้ว สับบ่าเต๊ดดิบ ใส่ลงไปซักสามสี่ลูก หมักไม่เกิน 3 เดือนปลาจะเปื่อยเป็นวุ้น เละตุ้มเป๊ะแล้ว


ยังมีต่อครับ


.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม และเพื่อน สมช.ทุกท่าน


อ่านกระทู้ของคุณ PP แล้ว อ่านต่อด้วยกระทู้นี้ครับ



.

[DangSalaya]

.....





.

[noo-ring]

[teeen2005]

DangSalaya บันทึก:

สวัสดีครับลุงคิม คุณ spyman และเพื่อน สมช. ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ปุ๋ยหมักจากปลาทะเลของลุงคิมนั้น ไม่ต้องพูดถึง เพราะเหนือชั้นกว่าสูตรของใคร ๆ เท่าที่เคยเห็นมา และสูตรของฝรั่ง ผมบอกไว้แล้วว่า ก็งั้น ๆ จืดชืด แค่ขั้น Basic เท่านั้น เพียงแต่ที่ผมมาเป็นกระทู้ก็เพียงเพื่อให้เห็นว่า ฝรั่งใช้ปลาทะเลหมักเป็นปุ๋ยมานานกว่า 60 ปีแล้ว ดูจากแกลลอนปุ๋ยปลา (Fish Emulsion) ของ ATLAS กรรมวิธีในการหมักก็ธรรมดา แต่เค้ามีการเพิ่มสารอาหารที่ลุงคิมเคยพูด คือ ธาตุรองธาตุเสริม เข้าไปด้วย แต่ผมยังไม่ได้นำข้อมูลที่เขาเขียนไว้ข้างแกลลอนมาบอกเล่าให้ฟังเท่านั้น มีเพียงแค่เค้าเอา แมกนีเซี่ยมซัลเฟต หรือดีเกลือ ที่เรียกว่า Epsom Salt ผสมลงไปด้วย แมกนีเซี่ยมซัลเฟต ที่กองคาราวานสีสันชีวิตไทยนำมาขายก็คือ แมกซ์ สปีด ครับ ดีกว่า เหนือชั้นกว่า แมกนีเซี่ยมซัลเฟต หรือ Epsom Salt เพราะการใช้แมกนีเซี่ยมซัลเฟต ต้องหมักก่อนถึงจะใช้งานได้เนื่องจาก โมเลกุลมันใหญ่เกินกำลังที่พืชจะดูดไปใช้ได้ทันที แต่ แมกซ์ สปีด เป็นแมกนี่เซี่ยม คีเลท ละลายปุ๊บฉีดปั๊บไปที่พืช ๆ จะดูดซึมได้ทันที เหมือนคนป่วยให้น้ำตาลผ่านเส้นเลือดไม่ได้ แต่ให้น้ำเกลือ คือ กลูโคส ให้ผ่านเส้นเลือดได้นั่นแหละ คุณอยู่เหนือ อยู่ที่ไหน น้องผมอยู่เชียงราย คุยแล้วยาว พอดีผมกำลังจะเดินทางไปโคราช เค้าเรียกขึ้นรถแล้ว เอาเป็นว่า กลับมาก่อนแล้วจะ ร่ายยาวให้ฟัง ตอนนี้แนะนำว่า เอาปลาป่นที่มีขายเป็นอาหารสัตว์แถวบ้านคุณนั่นแหละ เอามาหมักแทนปลาทะเลไปก่อน เพราะปลาป่น คือ รวมปลาสารพัดปลา มีกุ้ง หอย ปู แถมมาด้วย แล้วก็มีสารพัดแร่ธาตุอาหาร ลุงคิมยืนยันแล้วว่าใช้ได้ ถูกกว่าปลาทะเลอีกด้วย 1 กระสอบปุ๋ยก็หมักได้ในถัง 200 ลิตรแล้ว สับบ่าเต๊ดดิบ ใส่ลงไปซักสามสี่ลูก หมักไม่เกิน 3 เดือนปลาจะเปื่อยเป็นวุ้น เละตุ้มเป๊ะแล้ว ยังมีต่อครับ .

สวัสดีครับลุงคิม ทิดแดง

สะดุดเลยเลยเฮียแดง กำลังอ่าน และเก็บข้อมูลเลย แล้วข้อมูล กุ้ง (ลอบเตอร์เลยไหมน้ำลึกเลย) หอย (เอาแต่เนื้อหรือทั้งเปลือกด้วย) ปู (เอาทั้งตัวเลยไหม) ปลา แล้วจะเอาจากไหน ไทยหรือเทศ และที่เติมสาหร่ายทะเล ด้วยไหมครับ

ถ้าหมักจริงๆ ก็คงต้องไปขอซื้อหัวเชื้อเดิมๆ หรือปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง จากลุงคิมสักหน่อยมาใส่ถังที่หมักเพื่อให้กระบวนการย่อยเร็วขึ้น


ขอบคุณครับ




.

[DangSalaya]

[toodtoo]

สวัสดีครับลุง....ทิดแดง และเพื่อนสมาชิก

พอดีผมไปค้นเจอ....จะเป็นปุ๋ยตัวเดียวกับที่ลุงพูดถึงหรือเปล่าครับ ....งานนี้คงจะเป็น เคมีนำ อินทรีย์เสริม ตามความเหมาะสม...เรียนภาษามานาน ไม่ค่อยได้ใช้ เลยกลับคืนสู่เหย้าไปสู่อาจารย์ที่สอนหมดแล้ว ไม่กระดิกหูเอาซะเลย.....ลุง และทิดแดง ได้โปรดเมตตา สงเคราะห์ด้วยครับ ....


(1) Calcium, Magnesium & Sulfur for Plants
Calcium, magnesium and sulfur are called secondary nutrients because they are not needed by plants in as large of quantities as the primary nutrients of nitrogen, phosphorus and potassium. Moreover, they are usually supplied by the soil in sufficient quantities for good growth, and gardeners rarely have to supplement with fertilizers including these nutrients. Adding bone meal and organic matter such as compost and well-rotted manure to your soil is always beneficial, however, and will help prevent deficiencies.


Nutrients and Plant Growth
Plants manufacture their own food -- the carbohydrates and proteins they need to build tissue -- in their leaves by the process of photosynthesis, using the energy of the sun. To do this, however, they need the building blocks, the elements absorbed by the roots and transferred to the leaves through the stems and branches. Sometimes, growth is limited by the lack of one or more elements needed. Nitrogen, for instance, is often in short supply in cold spring soils so gardeners apply fertilizers to help plants get going. Symptoms of the lack of a particular nutrient may be difficult to identify and a professional soil test is your best aid in identifying any deficiency.


Calcium
Calcium is used by a plant to build strong cell walls. When dolomite lime is added to a soil to counteract acidity and bring the pH up to the level appropriate for vegetables, large amounts of calcium and magnesium are added. Other sources of calcium are superphosphate and gypsum. Using too much fertilizer high in potassium will reduce the ability of plants to take up both calcium and magnesium.


Magnesium
Magnesium is needed to create chlorophyll, the green substance that plays an essential part in photosynthesis. It also plays a role in enzyme activation. A deficiency of magnesium produces white stripes between the green veins of the leaves. Dolomite lime is one of the best sources, but organic matter and soil minerals contain magnesium also.


Sulfur
Sulfur is essential to protein formation and in the production of chlorophyll. Adequate amounts improve seed production, root growth, plant vigor and cold resistance. It is taken up by plants as a sulfate ion, soluble in water and easily leached from the soil. A deficiency is shown by a tendency toward spindly, yellowed growth and is most common in sandy soils that are low in organic matter. Sources of sulfur include rainwater, gypsum and the decomposition in the soil of organic matter such as manure and compost.


(2) How to Give Plants Calcium
By Mary Francis,


Calcium deficiency can be a problem in agricultural crops and the home garden. Signs of calcium deficiency in vegetables include cavity spot in carrots, blossom end rot in peppers and tomatoes, internal tip burn in cabbage and blackheart in celery. On ornamental plants, it manifests in chlorotic, strap-like leaves and growth tips that fail to develop. It is relatively simple to add calcium to the soil to correct calcium deficiency. Calcium is available in several forms for whatever type of plants you are treating.

Instructions
1. Send a soil sample to a lab or to your local extension service for pH testing. Use the type and amount of calcium recommended in the results. Use lime for acid soils and gypsum for alkaline soils.

2 Spread the recommended amount of calcium on top of the soil from the trunk to the drip line of the plants. Use a turning fork or rake to spread and turn it into the top of the soil. Turn the calcium in as deeply as possible to ensure it does not run off during watering.

3 Water the calcium into the soil well. Check the pH after 14 days to be sure it is within the limits recommended on the soil test and add more calcium if needed. Determine the desired pH by the requirements of the plants you are growing. For example, azaleas and tomatoes thrive in acid soil, where lilacs and clematis prefer alkaline soil.


(3) How to Add Nitrogen to Plants
By Shara JJ Cooper, eHow Contributor


Plants require three major nutrients in order to grow -- nitrogen, phosphorus and potassium. If soil is lacking in one of the nutrients, the plant grows poorly or dies. The soil needs to be supplemented to prevent this. Nitrogen supplements are either organic or synthetic. Organic supplements are beneficial because they add more complex nutrients to the soil and encourage natural bacteria to grow as they decompose. Synthetic fertilizers act quickly and are usually cheaper than organic. Gardeners usually prefer organic fertilizers when applied to plants used for food.



Instructions
1. Mix hoof and horn meal into the soil around the plant. Do this before the plant is in the ground or mix it into the surrounding dirt. The nitrogen in hoof and horn meal is slow-releasing and takes a minimum of four weeks to work. It remains in the soil for 12 months. Add at a maximum ratio of 4 lbs. per 100 sq. ft. It is made from slaughterhouse waste.

2. Add blood meal to the plant's soil at a ratio of 3 lbs. per 100 sq. ft. Blood meal releases quickly and starts working in a few days. It lasts four months and also repels prey animals like rabbits. It is made from slaughterhouse waste.

3. Work fish meal into the soil at a ratio of 5 lbs. per 100 sq. ft. Fish meal is a middle-ground fertilizer. It releases at a moderate rate and lasts up to eight months. It is made from fish-processing waste.

4. Dilute urine at a ration of one part urine and 20 parts water and pour it around the soil of a plant. Urine is a very concentrated source of nitrogen, which is why straight urine from pets kills grass. Human and animal urine works.

5. Add a commercial, synthetic fertilizer. Synthetic fertilizers work very quickly compared to some organic fertilizer. They may burn the plant if too much is used, and they often need to be reapplied frequently. However, they are a quick source of nitrogen and often come in liquid form, so they are easily applied to an established plant.


(4) How to Use Fish Emulsion for Vegetables
Fish emulsion is made by liquefying whole fish or gutting waste and turning this into a powerful organic fertilizer. Fish emulsion is high in nitrogen and is popular for foliage spraying, especially when the weather is chilly. In cool weather, the plants can more quickly absorb nutrients in this form than from other organic soil fertilizers which may be breaking down more slowly in the cold earth. Fish emulsion is readily available at many home and garden stores.



Instructions
1. Mix two ounces of fish emulsion with one gallon of water. If you are only fertilizing a few plants, you may want to just use one tablespoon of fish emulsion and one quart of water. Fish emulsion is quite stinky and should be mixed at the time of use instead of left lying around.

2. Pour the water and fish emulsion mix into a sprayer or mister. Keep the spray light - if the particles are too big they may not be absorbed by the plants.

3. Spray the mix onto the leaves of the plants, covering them until it runs off. Do this in the early morning or the evening, so that the hot sun does not evaporate the solution.

4. Repeat for two weeks.



(5) How Often Should You Apply Fish Emulsion to Vegetables ?
Twice a Week Is Effective
• North Carolina State University Extension Service studied the effects of applying a solution of 1/2 oz. of fish emulsion to 1 gallon of water, and found that application twice per week had the biggest impact on plant growth, when compared with bi-weekly or weekly applications.
More Might Be Better

• The study did not apply fish emulsion to plants any more often than twice a week. Sandy or overcultivated soil requires more fertilization than other soils.
Bottom Line

• While fish emulsion is a complete, balanced fertilizer, the Arizona Cooperative Extension Service has found that overapplication of it can burn plants. Since twice weekly application has been found to be effective without burning, gardeners should not apply it any more often than that.



(6) How to Fertilize Vegetables With Fish Emulsion
By Lorraine O'Neil, eHow Contributor

Fish emulsion is an organic fertilizer that is high in nitrogen. If you are growing organic vegetables or just need a simple fertilizer for your home vegetable garden, fish emulsion may be a good option. This fertilizer is released rapidly, so it is useful early in the season, when delayed-release fertilizers are not yet effective. Fish emulsion is more expensive than synthetic nitrogen fertilizers, but synthetic fertilizers cannot be used in organic gardens.


Instructions
1. Mix one tablespoon of fish emulsion with one gallon of water.

2. Pour the diluted fertilizer solution over the soil around your vegetables. Fertilize in the morning or evening, but not during the hottest part of the day.

3. Water your vegetables thoroughly after fertilizing. You can fertilize your vegetables with fish emulsion once a week, or as needed, throughout the summer.


(7)How to Fertilize Vegetable Garden Soil
Growing vegetable gardens is rewarding work but is difficult to do in poor soil. Find out what nutrients your soil needs by taking a soil sample to a lab for analyzing. Some garden supply stores will test the soil for you. Fertilizers are available in a formula that consists of three numbers. Each number represents nitrogen, phosphorus and potassium respectfully. Different plants have different requirements. Leafy vegetables need a soil with 12-12-12 nutrient levels, root vegetables need 6-24-24. Find out what your garden is lacking and add fertilizer to compensate for it. Manure is rich in nitrogen, ash has potassium and phosphorus, and compost generally has a mix of


Instructions
1. Till fertilizer into the soil after the gardening season is finished in the fall or before planting in the spring. Add 1 to 2 inches of compost to the garden and till it into the earth using either a hand till or a motorized one. Aged manure is also a good fertilizer that can be tilled into the garden. If your garden doesn't drain well, you can add sand to increase drainage.

2. Apply a mulch such as lawn clippings to the surface of the garden once it is established. As the mulch starts to degrade, the nutrients leach into the soil and act as a fertilizer. Dry lawn clippings in the sun before adding them to the garden so they don't grow mildew. Mulching works well on perennial vegetables or plants that have a long growing season.

3. Apply a liquid fertilizer to vegetables that need an extra boost of fertilizer. Use a commercially available liquid fertilizer or make your own, using compost ingredients steeped in water. Pour the fertilizer onto the soil or spray it on the leaves and allow it to run into the soil. This type of fertilizer isn't as common but works well in container gardens for plants that need extra nutrients.


Read more: http://www.ehow.com/how_8253129_use-fish-emulsion-vegetables.html#ixzz2rntwAIZM



.

[DangSalaya]

สวัสดีครับลุงคิม



ขออนุญาต แก้ไขรูปที่ขาดหายครับ

[Wildcat]

สวัสดีครับลุง น้าทิดแดง..คุณออร์คิด

ป่านนี้ ปลาที่หมักไว้ มิเน่าหมดแล้วหรือครับ....

.

[orchid]

[kimzagass]

.....