-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ล้มสวนทำนา รุ่น ๑๒– ข้าวหอมกระดังงา ปัตตานี กก.ละ 500
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ล้มสวนทำนา รุ่น ๑๒– ข้าวหอมกระดังงา ปัตตานี กก.ละ 500
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ล้มสวนทำนา รุ่น ๑๒– ข้าวหอมกระดังงา ปัตตานี กก.ละ 500
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 13, 14, 15 ... 18, 19, 20  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 02/06/2014 12:25 am    ชื่อกระทู้: ข้าวนอกนา...เจอข้าวลีบ ขายเป็นข้าวปลูกทำพันธุ์ไม่ได้ซะแล้วคร ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม เพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน

ข้าวนอกนา เจอข้าวลีบ หารูจมูกข้าวไม่เจอ ขายเป็นข้าวปลูกทำพันธุ์ไม่ได้ซะแล้วครับ


เวรกรรมจริงจริ๊ง....นึกว่าจะใช้เป็นข้าวปลูกทำพันธุ์ซะหน่อย.....ดันเป็นข้าวลีบ หารูจมูกข้าวไม่เจอ ใช้ทำพันธุ์ไม่ได้ซะแล้ว ....


ฝนมันตก ๆ หยุด ๆ ฟ้าก็เปรี๊ยง ๆๆๆ ไปไหนก็ไม่ได้ กับข้าวก็หมด ต้มมาม่ากินพอประทัง 4 ห่อหาร 3 .....

ฝนตกกระปริบ กระปรอย แต่เน็ตดันไม่ล่ม เวลาโดนแค่สายลมเป่า หลุดแล้วหลุดอีก เอากะมัน

เปิดเน็ตเจอ ข้าวลีบ....ครับ

ผมชื่อ นายทรงยศ รัตนาวรรณ ผม อ๊ะ หนู ขอรายงานตัวครับ ค่ะ ฮะ ฮ่ะ ....
ไม่รู้จะไปทางไหน เดินไม่เป็นเลยก็แล้วกัน....ดูแก้เซ็งครับ...



























....เคยฟังเพลงอยู่เพลงนึง....

....คนอาไร สวยตลอดปี ถึงมีลูกถี่ เธอก็ยังสวย.....

สวยแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เลี้ยงลูกกันตายโหงเลย.....


ดูเพลิน ๆ นะครับ โลกนี้วุ่นวายจริงหนอ โอม มณี ปัทมา ฮุม ...อมิตพุทธ...



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 03/06/2014 11:38 pm    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ตอน...ว่าด้วยถังหยดปุ๋ยปรับปรุงดิน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6


บทที่ 2 – ตอนที่ 2 ว่าด้วยถังหยดปุ๋ยปรับปรุงดินท้ายรถตีนตะขาบ และ / หรือ ท้ายรถไถเดินตาม


มีสมาชิกถามถึงวิธีการทำถังหยอดปุ๋ยวางท้ายรถตีนตะขาบ ว่าทำยังไง(ขอให้ทำทีละขั้น) เพราะอ่านที่ผมเขียนแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ และหากจะดัดแปลงให้วางท้ายรถไถเดินตาม จะทำได้หรือไม่

ทำใส่ท้ายรถอะไร ทำได้ทั้งนั้นแหละครับ....ไม่น่าเชื่อว่า..ยังอุตส่าห์มีคนสนใจผลงานของคนบ้าเหมือนกันแฮะ ....


ผมก็ไม่ใช่ช่างมืออาชีพซะด้วย เป็นแค่ช่างเถอะ ..

วิศวะฯ ก็ไม่ได้เป็น เป็นแค่ วิศโว๊ย... เผลอ ๆ เป็นแค่ วิศแหวะ (อ๊วก)

ศัพท์เทคนิคภาษาช่าง ก็หามีความรู้ไม่

มาตราชั่ง ตวง วัด ก็พอได้แค่เป็นกิโล เป็นเมตร เป็นนิ้ว

คณิตศาสตร์ ก็พอรู้ จบ ป.6 ตก ป.4 ... 1 + 1 ไม่เท่ากับ 2 เพราะเคยทำแล้ว ยังไง ๆ ก็ไม่ได้ บางครั้ง ได้ 0 ( ได้ สูญ นะครับ ไม่ใช่ ศูนย์) และบางครั้ง ติดลบ อีกด้วย

ทำไม 1 + 1 มันควรจะได้ 2 แต่ผมคำนวณยังไงถึงไม่ได้ 2

ปลูกมะละกอเอาไว้ 80 ต้น พรวนดิน รดน้ำ ให้ปุ๋ย มะละกอโตวันโตคืน งามป๊อ ฝันหวานว่า มันติดลูกแล้วควรจะได้อย่างนั้นอย่างนี้ ..... แม่ค่ารับซื้อมาถึงสวน ชื่อน้อง สา (จะสาสม หรือสาแก่ใจ เค้าไม่ได้บอก)..

..น้ามีเท่าไหร่ หนูเหมาหมด ..


.ให้เบอร์โทรไว้ด้วย 080 – 0246 XXX (ใครอยากขายมะละกอ ติดต่อมาเลย จะบอกน้องสาให้ ไม่มีค่านายหน้า เป็นรายการสังคมแห่งการแบ่งปัน ร่วมด้วยช่วยกัน)

เวลาผ่านไป มะกอออกดอกแล้ววุ๊ย ออกดอกโดยไม่ต้องเอาสากกะเบือมาทิ่มที่ต้น ไม้ต้องเอาชายผ้าถุง(ขโมยเมีย)มานุ่ง ...มีคนทำจริง ๆ ด้วยนะครับ ....ผมมีรูปให้ดูด้วย....(คุณ boonsue ดูแล้วจะบอกว่า น้านี่สุดยอด...)






(1) ถ่ายเมื่อ 3 มิย.57 -16.55 น. มะกอไม่ยอมออกลูก เอาผ้าถุงเมียมานุ่งให้ต้นมะกอ....อยู่บ้านข้าง ๆ บ้านผมนี่แหละ






(2) จากที่มันไม่ออกลูก มันก็ออกนะ แต่ลูกแค่กระป๊อยเดียว ....สงสัยจะต้องเอา บีกินนี่ มานุ่งให้ซะละมั๊ง....ไม่เชื่อก็ไม่ว่า แต่ แอบ ถ่ายมาจากของจริง เดี๋ยวเจ้าของมาเห็นเค้าจะด่าผมว่ามาทำอะไรกับต้นมะกอของเค้า....






(3) กล้วยหอมป้าห่าน ผมผ่าหน่อชำเอาไว้ ขึ้นมาแล้ว 5 ต้น ตัวอะไรไม่รู้กัดกินไปซะต้นนึง ตอนนี้เลยเหลือ 4 ต้น


ย้อนมาที่มะกอของผมกำลังออกดอกติดลูกกันตรึมเลย
นั่งมองดูแล้ว ตัวผู้ซะ 3 ต้น ตัวเมีย 17 ต้น นอกนั้นเป็นกระเทยแปลงเพศ 60 ต้น ต้นตัวผู้กับตัวเมีย เก็บไว้ก็รก ฟันทิ้งไปเลย เหลือแต่กระเทย สวย ๆ อวบ อั๋น ทั้งน๊านเลย



โทรบอกน้องสาเลย .....ติดลูกแล้ววุ๊ย นับวันมาขนได้เลย ...ผ่านไป สิบกว่าวันไม่ได้เข้าสวน(ติดประชุมอ่ะ) มะละกอแสนสวยเป็นอะไรไปหว่า ใบเหลืองกราวรูด ลูกหล่นเกลื่อนกราด.....


เดินออกไปดูข้างร่องน้ำด้านเหนือลม เพราะเห็นหญ้ามันเหี่ยว มีกลิ่น แปลก ๆ ลอยตามลมมาทางนั้น ....หญ้าริมคูน้ำ เหี่ยวเฉาเป็นทางยาว กระป๋อง RED DOG – หมาดำ อยู่ตรงนั้น ใบแคเป็นจุด ๆ ไปทั้งแถบ แต่มะกออยู่ห่างจุดที่ฉีดยาหมาดำ เกือบ 50 เมตร มีอันเป็นไป ตามด้วย มะเขือพวง ใบเป็นจุด ๆ จากนั้นเหลือง แล้วก็ร่วงหล่นไปตามกาลเวลา.... โทรบอกน้องสาว่า

...หนู่ไม่ต้องมาแล้ว มะกอน้า ตายพรายเรียบ....
น้องสาไม่เชื่อใจนึกว่าเราจะขายให้คนอื่น ต้องตามมาดูให้รู้แจ้ง ..
...แบบนี้ ฟ้องได้นาน้า ....

คำพูดลุงคิม จำฝังใจ ...อย่าทะเลาะกับคนข้างบ้าน มันจะมองหน้ากันไม่ติดไปอีกนานแสนนาน ยันลูกบวช....

...ไม่เป็นไรหนู แค่นี้เอง มันตายเราก็ปลูกใหม่ แต่ถ้าทำอะไรลงไป มันจะมองหน้ากันไม่ติดอีกยาวไกล โอกาสหน้าว่ากันใหม่แล้วกัน ขอบใจที่อุตส่าห์มาดู

เห็นหรือยังครับ 1 + 1 ไม่ได้ 2 และงานนี้ ติดลบอีกด้วย เพราะ ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่าไฟปั๊มน้ำ ค่าลงแรงถางหญ้า Gone with the RED DOG. อะไรไม่สำคัญเท่า ความหวัง และกำลังใจที่ทุ่มเทลงไป มันกำลังงามป๊อ ใจมันแป้ว...ไหลลงไปอยู่ที่ ตาตุ่ม เฮ้อ ได้แต่ถอนหายใจ ยาวววว


เรื่องติดถังปุ๋ยท้ายรถตีนตะขาบ นักวิชาเกินอย่างผม ถ้าเขียนอธิบาย เพื่อน ๆ อ่านแล้วคงมึนอีกนั่นแหละ.....ดูจากภาพจากของจริงกันดีกว่า คงพอมองออกนะครับ.....





(4)



(5)



(6)

(4 – 6) ถ้าจะติดตั้งบนรถตีนตะขาบ ... บริเวณท้ายรถหลังคนขับ จะมีแทรคสองข้าง ซ้ายและขวา จุดนี้คือจุดที่เอาไม้กระดานหน้า 8 - 3 แผ่น ความยาว ให้ยาวเลยแทรคออกไปประมาณ 7 นิ้ว ตีประกบด้วยไม้หน้า 3 ทั้งสองข้าง เพื่อวางคร่อมลงพอดีให้ร่องแทรคด้านนอก เจาะรูที่ไม้กระดาน ใช้ลวดมัด โยงไปมัดติดกับโคนก้านแทรค หลังที่นั่งคนขับ ทั้งสองข้างกันไม้ไหล เลื่อน หลุด

เมื่อเอาไม้พาดบนแทรคแล้ว เอาถัง 200 ลิตรวางบนแผ่นไม้นี้ ยึดถังติดกับที่นั่งหลังคนขับ เพื่อป้องกันถังเลื่อนไหล แล้วก็วัดระยะให้พอดีก้นถัง ตีไม้หน้าสามกับไม้กระดานด้านบน ล๊อกก้นถังกันไหลลื่น...

วิศโว๊ยทำ ก็ง่าย ๆ แบบนี้ ไม่ต้องถึงมือวิศวะ มันก็ใช้งานได้ สะดวกดีซะด้วย การติดตั้งก็ง่าย ๆ เลิกใช้งานงานก็ ยกออก ล้างทำความสะอาดซะหน่อย แล้วก็เก็บ.....เรียกว่าเป็นแบบ ออโต้ มือติก






(7) สิ่งที่ต้องเตรียมคือถัง 200 ลิตร 1 ใบ ตามในรูปแบบนี้แหละ ถังขนาด 200 ลิตร มีฝาเปิดได้ 2 ข้าง แบบนี้ แจ่มเลย หรือใครมีถังเป็นรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้ายิ่งดีใหญ่






(8 ) ที่ตัวถัง 200 ลิตร เจาะรูใกล้ก้นถัง ต้องเจาะรูให้ฟิตหน่อย เพื่อเอาท่อ PVC 4 หุน สรวมด้วยข้อต่อตรงเกลียวนอก หมุนเกลียวขันให้ติดกับถัง ใช้ก้อนขี้หมา(ที่ใช้ปิดท่อแอร์)อัดปิดด้านนอก กันน้ำซึม






(9) ท่อที่ออกจากถังด้านนอก ติดวาล์ว ปิด – เปิด น้ำ ขนาด 4 หุน เอาปลายท่อต่อกับท่อสามทาง ปลายท่อสามทาง ด้าน ซ้าย ขวา ต่อกับท่อ PVC 4 หุน






(10) มองจากด้านหน้า จะเห็นเป็นรูปตัว ที






(11) มองจากด้านข้าง จะเห็นเป็นแขนที่ต่อจากข้อต่อสามทางออกสองข้าง ยาวข้างละประมาณ 1.25 เมตร

ท่ออันนี้เจาะรูเล็ก ๆ โตประมาณ 1/8 นิ้ว ห่างกันประมาณ 30 – 40 ซม. เพื่อให้น้ำปุ๋ยหยด จิ๊ก ๆๆๆๆ ปลายท่อใช้ที่อุดท่อปิดกันน้ำปุ๋ยไหลออก






(12) ใช้ Cap ปิดปลายท่อทั้งสองข้าง เพื่อกันน้ำไหลออก






(13) มี Cap ปิดปลายท่ออยู่อันเดียว ออกตลาดไป – กลับ ก็อีก 4 กิโล... ก็ต้องดัดแปลงหาจากสิ่งใกล้ตัวมาทดแทน ง่าย ๆ ไม่ยาก ผมใช้ปากขวดน้ำอัดลมครับ ตัดปากออกมาเลย





(14) เอาไปลนไฟให้อ่อนตัว(นิ่ม) จับสวมลงที่ปลายท่อ ใช้ผ้าจับบีบให้แน่น ถ้าไม่กลัวมือพองจนหนังลอก คุณจะเอามือบีบก็ไม่มีใครว่า เมื่อบีบจนคิดว่าแน่นดีไม่หลุดแน่ ๆ แล้ว ขณะที่พลาสติกยังร้อน เอาลงจุ่มน้ำ พลาสติกจะหดตัวรัดท่อให้แน่น อย่างไม่มีวันพรากจากกันได้อีก







(15) เอาฝาจุกชวดน้ำอัดลมปิดเข้าไปอย่างเก่า แค่นี้ก็ที่อุดท่อไม่ให้รั่วได้แล้ว แถมปิด เปิดได้ซะอีกด้วย






(16) ใช้เชือกรัดที่ฝาถังทั้งสองข้าง แล้วเอาไปมัดติดที่หลังที่นั่งคนขับ กันถังเลื่อนไหล ซึ่งจะมีหูให้ใช้เชือกมัดได้






(17) เจาะรูที่มุมฝาถัง ใช้ไม้รวกยาว 2 เมตรวางพาดฝาถัง เอาลวดมัดไม้รวกติดกับฝาถัง ทั้งสองข้าง ตามในรูป





(18 )



(19)

(18 – 19) ใช้เชือกรั้งดึงแขนท่อทั้งสองข้างมัดติดกับไม้รวกเพื่อกันท่ออ่อน หลังจากใส่ปุ๋ยในถัง และเปิดน้ำปุ๋ยลงดิน ดูตามรูปครับ





(20) หลังจากเลิกใช้งาน ก็ถอดออก






(21) จะเหลือข้อต่อตรงเกลียวนอก ที่ติดอยู่กับถัง





(22)



(23)

(22 – 23) เวลาจะใช้งาน ก็เตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ปุ๋ย และ อื่น ๆ(มีด พร้า จอบ ... ใส่รถเข็น





(24)




(24 – 25) ยกถังขึ้นรถเข็น แค่นี้เอง One Man Show ....คนเดียวทำได้สบายมาก ปั๊มน้ำสำหรับดูดน้ำใส่ถังผสมปุ๋ยล่ะ ....ไม่ต้องยุ่ง ....บนรถตีนตะขาบมีปั๊มหอยโข่ง 2 นิ้ว มีท่อดูด และท่อส่งน้ำ ยาวพอสมควร

หลังติดตั้งเสร็จ ใส่น้ำปุ๋ยพร้อม เปิดวาล์วน้ำ ปรับน้ำปุ๋ยที่หยอดเอาเองว่าจะให้หยดมากน้อยแค่ไหน เมื่อรถวิ่งปั่นดิน น้ำปุ๋ยก็จะหยดลงหน้าใบมีดปั่นดินในรูปที่ 4 พอดี ๆ .......ทำง่าย ๆ แค่นี้แหละครับ
..หลังจากเลิกใช้งานก็ถอด Option ชุดนี้ออก ล้างทำความสะอาด เก็บไว้ใช้งานคราวหน้าต่อไป......


ลุงคิมไม่เคยทำ แต่ "ฝัน" ว่า ไม่มีรถตีนตะขาบ ใช้รถไถเดินตามก็ได้เหมือนกัน


ถ้าเป็นการติดตั้งบนรถไถเดินตาม (ขอขอบคุณ ทิดแคน แห่งทุ่งนาศรีประจันต์ ที่เอื้อเฟื้อภาพครับ)

เรื่องรถไถเดินตาม ผมไม่ถนัด กลัวจะโดนมันถีบเอาเหมือนน้องชาย แต่ดูจากรูปแล้ว น่าจะทำติดตั้งเองได้ ไม่ยาก...






(26) ถ้าจะวางถังบนกระดานลูบเทือก อาจจะทำได้ แต่ดูแล้วเมื่อวางถังผสมปุ๋ยลงไป อาจทำงานไม่ถนัด....ถ้าอย่างนั้น





(27) ถ้าเป็นรถปั่นดินแบบเนี๊ยะ วางถังขนาด 100 ลิตร 2 ข้าง บนที่นั่ง ข้างคนปั่นดิน
ถังปุ๋ยก็ทำแบบเดียวกับติดตั้งบนรถตีนตะขาบ อาจจะดัดแปลงบ้างเพื่อความเหมาะสม เล็กน้อย

จากนั้นก็ปล่อยน้ำปุ๋ยลงให้ตรงกับใบปั่นดิน จะใช้ถังข้างละ 100 ลิตรหรือ 200 ลิตรก็ไม่มีใครว่า น่าจะเฉลี่ยน้ำหนักได้พอดี ๆ ..

.เวลาเลี้ยวรถ แขนมันติดถัง

โถพ่อเจ้าประคุณลุนช่อง เวลาจะเลี้ยวรถ ก็ยืนเอี้ยวตัวซะหน่อยจะเป็นไรมี จะเสียหล่อรึไง.... รถไถมันไม่ใช่รถเฟอรารี่ มันวิ่งช้า เวลาเลี้ยวต้องค่อย ๆ เลี้ยวอยู่แล้ว

ส่วนจะดัดแปลงอย่างไร จะติดตั้งอย่างไร ผมว่า ทำได้ง่ายกว่าติดตั้งบนรถตีนตะขาบ

ผมว่าเกษตรกรหลายคน เก่ง ๆ ทั้งนั้นแหละ แต่แกล้งอมภูมิไปงั้นเอง



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 04/06/2014 11:09 pm    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 เจาะรูถัง 200 ลิตร ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...คุณทรงพล และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6


บทที่ 2 – ตอนที่ 3 เจาะรูถัง 200 ลิตร ..ใช้อะไรเจาะ เจาะยังไง ?



มีคำถามมาหลังไมค์จากคุณ songpon03122526

ผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิก(ที่สนใจบางท่าน) ผมขอยกมาตอบหน้าไมค์นะครับ
(คุณทรงพล เข้ามาอ่านกระทู้คนบ้าเหมือนกันเนาะ)





1 จากรูป เจาะถัง 200 ลิตร ใช้อะไรเจาะ เจาะยังไงครับ




(1) ใช้อะไรเจาะ ...
ของกล้วย ๆ ถ้าจะตอบแบบกำปั้นทุบดินก็ต้องบอกว่า ใช้มือเจาะ ....เพราะยังไง ๆ ก็ต้องใช้มืออยู่แล้ว...

...จากรูป มีลูกศรชี้ บอกว่า ใช้ท่อเหล็กที่เล็กกว่าหัวเกลียวข้อต่อตรง ....ถ้าไม่มีหรือหาไม่ได้ ก็ใช้เหล็กก่อสร้าง โตขนาดนิ้วก้อย ยาวฟุตกว่า ๆ ...... หรือถ้าหาอะไรไม่ได้จริง ๆ ก็ใช้ท่อเหล็กจากที่พ่นยา ที่เห็นวางในรูปนั่นแหละ ใช้แก้ขัดได้(ที่ไม่ได้ใส่ลูกศรชี้เพราะ ใช้ในกรณี เพื่อแก้ขัด)



เจาะยังไง....นี่ละคือปัญหา ....

[color=red]วิธ๊ที่ 1
เอาท่อเหล็ก ยาวประมาณ ฟุตกว่า ๆ ตามในรูป ไปเผาไฟจากเตาแก๊ส เผาให้ร้อนจนแดง จากนั้นก็เอามาจี้ตรงจุดที่ทำเครื่องหมายเอาไว้

พลาสติกจากถัง โดนความร้อนจากท่อเหล็กที่ลุกจนแดง ก็จะละลาย จิ้มเข้าไป พอทะลุก็ค่อย ๆ หมุนให้รู้โตขึ้น คะเนว่า อย่าให้โตกว่าเกลียวข้อต่อเป็นอันขาด ต้องให้เล็กกว่าเกลียว .....มิฉะนั้นพอเอาเกลียวข้อต่อตรงสรวมเข้าไปมันจะหลวม

ในขณะที่พลาสติกถูกความร้อน บริเวณที่ถูกท่อเหล็กมันจะละลาย รอบ ๆ มันจะนิ่ม ค่อย ๆ เอาข้อต่อเกลียวใส่เข้าไป แล้วหมุนเข้าไปช้า ๆ ทั้งนี้เพื่อให้เกลียวตัวผู้จากข้อต่อตรง ทำให้รูที่ถังซึ่งกำลังนิ่ม กลายเป็นเกลียวตัวเมียโดยอัตโนมัติ

เวลาทำงาน ให้เอาท่อ 6 หุนต่อกับข้อต่อตรงไว้ด้วย มันจะทำงานง่ายขึ้น ถ้าไม่ใส่ท่อเข้ากับข้อต่อตรง มันจะทำงานไม่ถนัดและไม่สะดวก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของคุณ

.ลืมบอกไปว่า ก่อนจะเอาเกลียวข้อต่อใส่เข้ารู ให้เอาก้อนขี้หมาที่ติดท่อแอร์ ติดตรงรอบโคนเกลียวไว้ก่อนด้วย พอหมุนเกลียวเข้าไป ก้อนขี้หมาถูกความร้อนมันจะนิ่ม พอหมุนเกลียวสุด ให้หมุนข้อต่อให้ยึดติดกับถัง ก้อนขี้หมาก็จะกลายเป็นวัสดุกันรั่วซึม

.ไม่มีก้อนขี้หมา ใช้ยางมะตอยก็ได้ แต่ใช้กาวซิลิโคนไม่ดี มีโอกาสหลุด ...หรือใช้ อีพ๊อกซี่ ชนิดแห้งเร็ว ทาโคนเกลียว พอหมุนดันข้อต่อตรงเข้าไปสุดเกลียว มันจะช่วยยึดติดกับถัง ได้แน่นสนิท ..

...แต่ถ้าจะให้แน่นจริง ๆ คุณต้องเปิดฝาถัง เพื่อเอาเกลียวตัวเมียขันติดกับเกลียวตัวผู้ของข้อต่อตรง ก็ต้องให้เด็กลงไปในถังเพื่อจับเกลียวตัวเมีย แล้วก็จะเข้าตำรา คบเด็กสร้างบ้าน กว่าเด็กมันจะรู้ทำตามที่เราบอกว่าจะต้องทำยังไง ปวดกบาล
ชิบโหง

อธิบายซะยาวยืดยาว ทำจริง ๆ แว๊ปเดียวเอง ป่านนี้เจาะเสร็จไปแล้ว
[/color]





(2) วิธีที่ 2 ใช้หัวแร้งไฟฟ้าแบบปืนตามในรูป จี้ตรงจุดที่จะเจาะจนกว่าถังจะเป็นรู จากนั้นก็ทำตามวิธีที่ 1

บอกแค่นี้สมาชิกบางคน ถึงบางอ้อ แต่บางคนยัง เง็ง ๆ


วันนี้มาคุยต่อครับ ....ความจริงเน็ตมันไม่ได้หลุด แต่ผมกินยาแก้น้ำมูกมันเลยง่วง มือปัดไปโดนสาย USB มันดัง ตุ่งตุ๊ง สายมันคงหลวมเลยมีอาการเหมือนเน็ตจะหลุด ผมก็เลยรีบส่งก่อน.. จากนั้นก็ขอ ราตรีสวัสดิ์


วิธีเจาะถัง วิธีที่ 1 อาจดูยุ่งยาก แต่ใช้ในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง เช่นอยู่กระเต๊ง(กระต๊อบ)กลางนา หรือเถียงนา แต่มีอุปกรณ์ทำครัวพร้อมที่จะนอนกลางดิน กินกลางนา ได้ทุกสภาวะกาล

ถังใบที่ผมเจาะกับทิดศักดิ์ก็ทำแบบนั้น และที่ใช้กันน้ำรั่วซึม ไม่มีก้อนขี้หมา ไม่มียางมะตอย ไม่มีอะไรซักอย่าง ใช้ยางขนุน กับยางมะม่วง เอามาผสมกัน ใช้แก้ขัด ซึ่งเวลามันจะแห้งมันจะเหนียวหนึบ ซึ่งก็ใช้ได้ดีไม่มีปัญหา

สมัยตอนเป็นเด็ก ผมเคยเอาปลายไม้ก้านมะพร้าวเอาจิ้มยางขนุน แล้วเอาไปจิ้มแมงปอ เอาเกี่ยวเบ็ดตกปลา .....


วิธีที่ 2

ใช้หัวแร้งไฟฟ้าแบบปืนจี้ จนกว่าถังจะเป็นรู จากนั้นก็ทำตามวิธีที่ 1
สมาชิกบางคน ถึงบางอ้อ แต่บางคน เง็ง

อธิบายก็จะยืดยาว ไปดูรูปกันเลยดีกว่าครับ ดูแล้วสงสัยขั้นตอนไหน ถามได้เลย





(1) วันที่ 5 มิย57 เวลา 08.30 เตรียมอุปกรณ์ งานนี้ผมใช้ถังสีขาวขุ่นขนาด 20 ลิตร ใช้เป็นตัวอย่าง

ข้อต่อตรงเกลียวนอก 6 หุน 1 อัน...

ท่อ 6 หุนยาวประมาณ 50 ซม 1 อัน

หัวแร้งไฟฟ้าแบบปืน 1 อัน ....ในรูปมีสำรองไว้อีก 1 อัน เผื่อเหนียว เพราะหัวแร้งแบบนี้ เสียง่าย

ปากกาเมจิค สีอะไรก็ได้ตามใจคุณ

ผมไม่มีก้อนขี้หมา ไม่มียางมะตอย ใช้กาวอีพ๊อกซี่ ชนิด แห้งเร็ว 1 ชุด ใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ดี





(2) 08.32 เอาข้อต่อตรงเกลียวนอกวางทาบจุดที่จะเจาะ เอาเมจิคขีดรอบหัวเกลียว





(3) 08.33 จะได้วงกลมขอบนอกของเกลียว ใช้เมจิคกำหนดจุดกึ่งกลางวงกลม





(4) 08.34 ใช้เมจิควงขอบในวงกลม ให้เล็กกว่าเกลียวข้อต่อตรง





(5) 08.37 ใช้หัวแร้งไฟฟ้าจี้ที่จุดกึ่งกลาง





(6) 08.38 กดให้ทะลุถัง จากนั้นให้ค่อย ๆ คว้านรูให้โตขึ้น ให้เท่ากับวงกลมวงใน





(7) 08.39 จะได้รูโตเท่าที่ต้องการ





(8 ) 08.40 บริเวณรอบ ๆ รู พลาสติกเมื่อโดนความร้อนมันจะนิ่ม ให้เอาข้อต่อเกลียวนอกทาบรูที่เจาะ ลองหมุนดูว่าพอดีหรือไม่ ถ้าไม่พอดี ให้คว้านรูใหม่ กะดูอย่าให้รูโตกว่าหัวเกลียว ถ้าพอดีแล้วค่อย ๆ หมุน ใช้หมุน ห้ามดัน การหมุนจะทำให้รูที่ถังเป็นรอยเกลียวตัวเมีย




(9)



(10)

(9 – 10) 08.41 เมื่อหมุนเกลียวเข้าไปจนสุดแล้ว ให้ปล่อยทิ้งไว้ให้พลาสติกเย็นลง





(11) 08.42 ดึงข้อต่อเพื่อให้ปลายท่อตั้งขึ้น (ดึงในขณะที่ รูถังยังร้อน)





(12) 08.44 การเจาะรูถังก็เสร็จสิ้น ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ความจริง ถ้าไม่ต้องมัวแต่มาถ่ายรูป ใช้เวลาแค่ 5 นาทีเท่านั้น ผม วิศโว๊ย ทำง่าย ๆ แบบนี้ .
..ใครมีวิธีอื่นที่ทำได้ดีกว่า ง่ายกว่า และเร็วกว่านี้ เชิญทำตามนั้น เอามาแชร์ ให้เพื่อน ๆ ดูกันบ้างก็จะเป็นประโยชน์






(13) ใช้ท่อต่อจากข้อต่อตรง เพื่อทำประโยชน์ต่อไป หมายความว่า จะใช้ทำอะไรก็ได้

ใช้ทำระบบให้ปุ๋ยแบบน้ำหยดได้สบาย ๆ มันมีระบบของ ดำ น้ำหยด เค้าก็เป็นแบบเฉพาะตัวของเค้า ..

.แต่ถ้าทำแบบนี้ จะเรียกระบบ แดง น้ำย้อย ก็ได้มั๊ง เพราะผมคิดจะใช้ ปั๊มติ๊กที่ฉีดน้ำกระจกรถยนต์ หรือใช้ปั๊มที่ทำน้ำพุเล็ก ๆ .. ติดโซล่าเซลล์ ขนาดที่ติดบนสัญญาณไฟสีส้ม ที่ แว๊บ ๆ ริมถนน เอามาเป็นกระแสไฟหมุนมอเตอร์......

อย่าดูถูก ปั๊มติ๊ก หรือปั๊มทำน้ำพุบ่อปลาเล็ก ๆ ว่าตัวเล็ก ๆ คุณเชื่อมั๊ยว่า ถ้าติดโซล่าเซลล์ขนาดใช้กับไฟแว๊บ ๆ บนถนนน่ะ ทั้งวันทั้งคืน ได้น้ำเท่าไหร่ ...ท่านสมณะเสียงศีล แห่งสันติอโศก ทำมาแล้ว ได้น้ำวันละ 1,000 กว่าลิตร ทำระบบน้ำหยดให้พืชในเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ได้สบาย ๆ ....






(14) กรณีที่ไม่ได้ติดกาว สามารถถอดข้อต่ออันนี้ออกได้






(15) หรือใส่กลับเข้าไปใหม่ได้ จะติดกาวหรือไม่ติด ขึ้นอยู่กับความคับของเกลียวตัวเมียที่ถัง และขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเอายังไง




(16)



(17)

(16 – 17) ในการมัดสิ่งของต่าง ๆ บ้านผมยังใช้แบบโบราณ ใช้วัสดุจากธรรมชาติ คือใช้ ตอก มัด ….ผมมัดของ แพ็คใส่กล่อง ส่งไป สวีเดน ฝรั่งยังทึ่งว่า Bamboo Strip ทำได้ยังไง .....


(2) 200 ลิตร ใช้ได้กี่ไร่

อัตราส่วนการใช้ปุ๋ยตอนปั่นดินทำเทือก ลุงคิมเคยบอกว่า
เนื้อที่ 1 ไร่ ใช้ปุ๋ยระเบิด 30-10-10 จำนวน 5 ลิตร + 16-8-8 หรือ 18-8-8 - 10 กก. ต่อ น้ำเท่าไหร่ก็ได้ ดังนั้น ถ้าใช้ ระเบิด30-10-10 จำนวน 5 ลิตร + น้ำ 200 ลิตร ก็ใช้ได้ในเนื้อที่ 1 ไร่ ตั้งวาล์วปืดเปิดน้ำให้พอดี ๆ ก็แล้วกัน

แต่นาบ้านผม ใช้สูตรนี้แค่ 3 รุ่น รุ่นที่ 4 รถเกี่ยว จม ติดหล่ม.....รุ่นที่ 5 ไม่ได้ใช้เลย ซักแหมะ

รุ่นที่ 6 ใช้ปุ๋ยสูตร รวมมิตร อันประกอบด้วย ระเบิด 30-10-10 ...2 ลิตร, ปุ๋ยปลาหมักเอง 1 ลิตร + ปุ๋ยปลายัยเฉิ่ม 1 ลิตร(รุ่นนี้ใช้หมดพอดี รุ่นหน้าไม่มีใช้ต้องหมักเองแล้ว) + น้ำหมักหน่อกล้วย 1 ลิตร รวม 5 ลิตร + 18-8-8 ...15 กิโล ละลายน้ำไว้ให้เรียบร้อย ลุงบอกว่าทำไมไม่ใช้ จุลินทรีย์จาวปลวก ผมก็ลืมไปครับ


3 ข้าวในกระถาง ติดเมล็ดดีไหมครับ

ติดรวงดี เมล็ดดี แต่แตกกอน้อยไปหน่อย อาจเป็นเพราะขนาดของกระถางเล็กเกินไป ผมไม่ได้ไปที่บางใหญ่มาหลายวันแล้ว อาทิตย์หน้าคงเกี่ยวได้แล้ว อยากรู้เหมือนกันว่า จากข้าวระบบ SRI 20 กระถาง ใช้ข้าวไม่เกิน 30 เมล็ด จะได้ข้าวซักเท่าไหร่


4 ช่วงเวลาให้ปุ๋ยทางใบ ลุงคิมพูดว่า ดีที่สุดคือ 4 โมงเช้าถึงเที่ยง ปากใบพืชเปิดมากที่สุด

ตามหลักการที่ลุงคิมว่าไว้นั้นถูกต้องที่สุด แต่ปัจจุบัน สภาวะกาลดินฟ้าอากาศ วิปริตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝนตก 1 วันมี 3 ฤดู

ผมคิดตามแบบคนโง่ เซ่อ บ้า ของผมนะว่า พืชมันต้องพัฒนาตัวเองเพื่อความอยู่รอด มันจะต้องหาอาหารมาเลี้ยงตัวมันให้ได้มากที่สุด ผมว่า ปากใบและส่วนต่าง ๆ ของพืชมันพัฒนาพร้อมที่จะรับอาหารได้ทุกเมื่อ

ไม่ต้องอื่น ข้าวดีด....
แต่ก่อนนู๊น มันดีดสูง ต้นมันสูงกว่าข้าว เดินตัดได้
มาเมื่อสองสามปีก่อน มันพัฒนามาเป็น ดีดเสมอ ต้นมันสูงเสมอข้าว ก็ได้แต่เดินตัดได้บ้างไม่ได้บ้าง
มาปัจจุบัน มันมี ดีดต่ำกว่าต้นข้าว งานนี้ คนลาวบอกว่า สบายดี


แต่ช่วงนั้น( 4 โมงเช้าถึงเที่ยง)ไม่ว่างเลย
ใช้ทำแบบ ชาวนาวันหยุดซีครับ จัดตารางเวลาพ่นปุ๋ย พ่นยาสมุนไพรในวันหยุด....


ว่างแต่ช่วง หกโมงเช้าถึง แปดโมงเช้า และ บ่าย สี่โมงถึง หกโมงเย็น อย่างนี้จะทำอย่างไรดี


ผมชอบศึกษาและชอบทำอะไรนอกตำรา.....ผมนึกถึงตัวผมว่า บางวันตื่นเช้ามาผมหิว เมื่อหิวก็กิน บางวันไม่หิวก็ไม่กิน บางวันกินข้าวเช้าตอนใกล้จะเที่ยง เอาเป็นว่า ผมหิวเมื่อไหร่ ผมกินเมื่อนั้น ....ต้นไม้มันก็มีชีวิต มันก็คงหิว และหิวไม่เป็นเวลาเหมือนผม

พี่มีประสบการณ์ให้ปุ๋ยช่วงเช้าและช่วงเย็นไหมครับ

ผมก็นึกถึงตัวผมอีกนั่นแหละว่า เวลาที่ผมร้อนและเหนื่อย ถ้าได้น้ำล้างหน้า หรือได้อะไรเย็น ๆ ราดหัว มันทำให้ผมรู้สึกสดชื่น ต้นไม้มันก็คงเหมือนผม หลังจากที่ตากแดดตากลมมาทั้งวัน ถ้าก่อนตะวันจะลับฟ้า ได้น้ำเย็น ๆ ฉีดพ่นเข้ามา ชีวิตชีวามันจะฟื้นคืน..เพราะฉะนั้นสำหรับผม พ่นปุ๋ยทางใบเวลา...15.30 ถึง 18.00 ชัวร์

ลองดูรูปเมื่อวันที่ 5 มิย.57 ว่าผมให้ปุ๋ยทางใบเวลาไหน และให้แบบไหน





(1). 06.33 ผมผสมปุ๋ยที่จะใช้ฉีดพ่นทางใบ ....ของลุงคิมใช้ระบบกระเกรี่ยงเวนจูรี่ แบบนั้นเค้าเรียกกระเหรี่ยง ไฮโซ






(2) 06.33 ผมเทน้ำปุ๋ยลงขวดน้ำขนาด 5 ลิตร ระบบให้ปุ๋ยของผมเป็นระบบ
กระเหรี่ยงโลโซ ต่อสายยางลงไปที่หัวกะโหลกดูดน้ำ เมื่อปั๊มดูดน้ำเข้า ก็จะดูดน้ำปุ๋ยเข้ามาด้วย น้ำกับน้ำปุ๋ยก็ผสมกันในท่อ ออกที่ปลายท่อ





(3) 06.33 ระบบการให้ปุ๋ยของผมก็เรียบ ง่าย ไม่เห็นจะต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากเลย





(4)



(5)



(6)



(7)



(8 )

(4 – 8 ) 07.07 เวลาผ่านไป ครึ่งชั่วโมง ผมรดจากไกลเข้ามาใกล้ ก็มาถึงกลุ่มกล้วยไม้ที่กำลังทดลองภาชนะปลูก กับสมาชิกท่านหนึ่ง





(9) 07.11 น้ำปุ๋ยหมดถัง เนื้อที่ประมาณ 300 ตร.วา ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเศษ






(10) อาหารเช้าของผมวันนี้ กล้วยน้ำว้าปิ้ง หน่อกล้วยมาจากไร่กล้อมแกล้ม เอามาปลูกในสวนพร้อมยัยเฉิ่ม พอดีมันสุก ก็ตัดแบ่งแจกเพื่อนบ้านไปคนละหวี สองหวี เหลือของตัวเองกล้วยปิ้ง 1 จาน กับกล้วยยังดิบอีก 1 หวี


ไฟล์เสียง ถ้าพร้อมแล้วส่งมาเลยนะครับ
ขอเวลา UpDate อีกนิดหน่อยครับ ....โดนแฟนคลับหลังไมค์ บ่นกันตรึมไปเลย....



ขอบคุณครับ



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 15/06/2014 12:23 am, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
orchid
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 07/05/2014
ตอบ: 43

ตอบตอบ: 06/06/2014 4:29 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุง พี่ทิดแดง


โอ้โฮ สุดยอดเลยครับ จอร์จ...

..ผมสงสัยมานานว่า การเจาะถัง 200 ลิตร แล้วใส่ข้อต่อตรงแบบนี้เค้าทำกันอย่างไร ถามหลายคนเค้าก็บอกเอาสว่านเจาะบ้าง เอาไฟรนบ้าง มาเห็นของพี่ทิดทำคราวนี้ ทำโดยไม่ถ่ายรูปไปด้วย 5 นาทีคงจะเสร็จ

มีแถม ที่รดน้ำพร้อมปุ๋ยอีกด้วย ทำไมมันง่ายปานนั้น ทีแรกผมก็คิดว่า ถ้าเราปล่อยน้ำปุ๋ยลงในน้ำ น้ำก็จะพาปุ๋ยไปหมด แต่ไม่ได้นึกว่า ขณะที่หัวกะโหลกดูดน้ำ มันจะดูดสิ่งที่อยู่ใกล้เข้าไปด้วย เพราะเคยมีหอยตัวเล็กๆ ติดตามท่อออกมา แล้วปุ๋ยมันเป็นน้ำ ไหลลงหน้าที่ดูด มันก็จะดูดปุ๋ยเข้าไปด้วย

โอ พระเจ้า หญ้าปากคอก ทำง่ายๆ แท้ๆ ทุกระบบที่พี่ทิดทำ ดูแลรักษา ซ่อมบำรุง ติดตั้ง ถอดเก็บ มันดูง่ายไปหมด

ผมเสียค่าโง่ ไปจ้างเค้าเจาะถังทำแบบนี้ เสียเงินไป 250 บาท แต่ก็สะใจที่ตัวเองอยากโง่.....

ขอบคุณครับ ขอบคุณจริง ๆ กล้วยไม้ ใกล้ม้วย กำลังสนุกและได้ความรู้อย่างมาก อย่าลืมลงต่อด้วย ....


..
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 12/06/2014 11:51 am    ชื่อกระทู้: จะเอาปลาหรือเอาซิ่น ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


ยังไม่มีรูปข้าวมาลง ขอขัดตาทัพไว้ชั่วคราว ดูเล่น ๆ ไปพลางก่อนครับ




(1) จะเอาปลาหรือเอาซิ่น ....ก็ว่ากันไป






(2) อนาคตกระดูกสันหลังของชาติ







(3) วันนี้ 12 มิย.57 เป็นวันพระ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7






(4) ขอน้อมคาราวะด้วยความจริงใจ....ซัมโย่ง ๆ ...




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 15/06/2014 10:44 am    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6..ข้าวในกระถางที่บางใหญ่ อายุ 1 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6.....ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่

ตอนที่ 10 (1) – 12 มิย.57 ข้าวอายุ 101 วัน


ผมไม่ได้ไปดูข้าวในกระถางที่บางใหญ่มาเกือบเดือน...ถึงวันนี้(12 มิย.)ข้าวอายุ 101 วัน ก็ได้อาศัย เจ๊รอง มือโปร...มือวาร์ หรือมือแป ช่วยดูแลให้ ..

..เจ๊รอง แกเคยช่วยทางบ้านทำนาแบบเดิม ๆ มาแต่เก่าก่อนครับ....ข้าวแค่ 20 กระถางจะต้องทำอะไรนักหนา ถึงเวลาก็ให้ปุ๋ย ให้น้ำ พ่นยาสมุนไพร ตามกำหนด ...ผมเตรียมไว้ให้หมดแล้ว....ไปดูกันครับ





(117)



(118 )

(117 - 118 ) มีใครเคยเห็นลูก ฟักข้าว มั๊ยครับ ...เพาะเมล็ดที่นครปฐม เอาไปปลูกริมรั้วที่บางใหญ่เมื่อ 1 มีนาคม 57 ผ่านไป 3 เดือนกว่า ได้กินลูกแล้ว

ยอดฟักข้าว ...ฟักข้าวอ่อน ต้มจิ้มน้ำพริก แกงส้ม....ฟักข้าวแก่ สุกจนเปลือกออกสีแสดปนแดง เอาเนื้อในมาปั่น ผสมน้ำตาล เกลือ เค้าบอกว่า กินเป็นสมุนไพร กันและแก้โรคได้หลายอย่าง ผมก็ไม่รู้ว่าป้องกันโรคอะไรได้บ้าง ...รู้แต่ว่า ผมกินน้ำฟักข้าวปั่นทีไร ผมท้องเสียทุกครั้ง...





(119)



(120)



(121)



(122)



(123)



(124)



(125)



(126)

(119 – 126) ข้าว 20 กระถางใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 30 เมล็ด ข้าวแตกกอ ออกรวง มีเมล็ดข้าวได้ขนาดนี้ เป็นการทดลองที่น่าพอใจแล้วครับ....แต่มันมีสาเหตุที่ทำให้ข้าวงามน้อยไปหน่อย.....







(127) มองเห็นเส้นทางรถไฟฟ้าซึ่งจะเป็นจุดสุดทางที่สถานีบางบัวทอง เลยซ้ายมือไปอีกประมาณ 200 เมตร






(128 ) มองไปอีกทาง ศูนย์โตโยต้า บางใหญ่ กำลังก่อสร้าง





(129)



(130)



(131)

(129 – 131) ผมบอกเจ๊รองว่า ให้รักษาระดับน้ำไว้แค่เสมอหน้าดิน แกทำตามที่ผมบอก เพราะแกอยากรู้ว่า ข้าวน้ำแห้ง จะได้กินข้าวหรือไม่ .

..รวงข้าวอ่อนช้อย โค้งก้มลงแบบนี้ เนื้อข้าวมีหรือไม่มี รวงข้าวคือคำตอบ

ผมพ่น แคลเซี่ยม-โบร่อน บาง ๆ ไปแค่ 2 ครั้ง เมล็ดติดรวงเหนียวแน่นดีจังเลย เอามือลูบยังไม่อยากจะร่วง...แล้วก็ อีกไม่กี่วันคงจะเกี่ยวได้แล้ว ใบข้าวยังเขียวปี๋ ....





(132)



(133)

(132 – 133) แม่อุทัยเทวี....ตัวช่วยกินหนอนและแมลง....ถ้าหากผมใช้สารเคมียาฆ่าแมลงกับต้นข้าวชุดนี้ คุณคิดว่า เจ้าคางคกน้อยจะเข้ามาอาศัยอยู่หรือไม่ครับ ...ไม่ได้มีตัวเดียว ยังมีกบตัวเล็ก ๆ หลายตัวครับ และ..

..ในรูป 133 ต้นข้าวที่ไม่ได้ใส่ 46-0-0 กับ 16-20-0 ....ใส่แต่ 18-8-8 ตอนเตรียมดินแค่ 2 กำมือเท่านั้นเองครับ ดูความแข็งของต้นข้าวซ๊ครับ





(134) ยามย่ำสนธยา เอ๋ย นกกาจะกลับคืนรัง.... เมื่อสุริยันจากไป ราตรีสมัยก็ตามมา คงหมดเวลาของวันนี้....(ทำงานต่อไม่ได้เพราะมันมืด)






(135) ศาลาหลังนี้ มีแต่โครง.... เดิมปลวกมันขึ้น เจ้าของเค้ารื้อกองเอาไว้ จะเผาทิ้ง ผมก็หน้าด้านไปขอเค้ามาด้วยความเสียดายไม้ เจ้าของเค้าก็ดี ให้คนงานขนข้ามถนนมาให้ผม

ผมกับเจ้าลูกชายก็ช่วยกันประติดประต่อ ขึ้นโครงเอาไว้เพราะขาดหลังคา มันเป็นไม้แป้นเกร็ด เค้าเผาทิ้งไปก่อนแล้ว






(136) ฟ้าคลุ้มฝนตอน หกโมงครึ่ง ยามเย็น แม่ผมเคยบอกว่า เป็นเวลาเข้าไต้ เข้าไฟ






(137) กล้วยน้ำว้าที่เห็นในรูปนี้มีประวัติ ….ถ้าอยากรู้ ตามผมมา จะเล่าให้ฟัง.....






(138)....ดูกร ภาราดา...เมื่อ เสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 5 เดือน 10 – ตุลาคม 2556 เป็นวันนวัตกรรมแห่งชาติ เวลา 09.56 เศษสังขยา ห้า บาท ....(ไม่ต้องไปเปิดหาเสียเวลา ผมดูปฏิทินมาเรียบร้อย)

สุภาพสตรีสองท่านนี้ นัดเจอกันที่ไร่กล้อมแกล้ม ....ท่านหนึ่งสรวมหมวก อีกท่านหนึ่ง ลุงคิมใช้กรวยกรอกปุ๋ยทำท่าเหมือนเติมปุ๋ยใส่สมอง





(139) สองสาวเค้าก็ลุยช่วยกันขุดหน่อกล้วยเอามาแบ่งกันไปปลูก ...

สาวหนึ่งเอาไปปลูกที่เมืองคนสวย โพธาราม (สวยมั๊ยสวย ถ้าถูกใจ กด Like ด้วยจร้า)

อีกสาวหนึ่ง เอาไปปลูกที่เมือง ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวสวย...นครชัยศรี (สวยแต่ลูกสาวนะครับ แม่ไม่เกี่ยว)..


..มีแอบเดิมพันกันด้วยว่า ใครจะออกลูกก่อนกัน ....ถึงวันนี้ 15 มิย.57 เวลาผ่านไป 8 เดือน 10 วัน


กล้วยที่นครชัยศรีเจริญวัย แตกหน่อแตกกอ ออกเครือ ...สาวนครชัยศรี ก็แยกหน่อจากนครปฐม เอามาปลูกที่ บางใหญ่ นนทบุรี เมื่อวันที่ 1 มีค.57

...ผ่านไป 3 เดือน 15 วัน ก็เจริญวัย ใกล้จะตกลูกออกเครือ แล้วก็มีหน่อโผล่ขึ้นมาให้เห็นอีกหลายหน่อ ...ไม่ลองใจก็ไม่รู้ลึก ๆ ......

......เจ๊ 3 เดือนกว่า แตกหน่อแล้วว่ะ....ขุดหน่อขายหน้าร้าน หน่อละ 20 ดีมั๊ย....

.....ทิดจะบ้าเรอะ ....ขุดของลุงมาฟรี ๆ ทิดจะหน้าด้านเอาไปขาย ทิดจะกล้าทำเหรอ ไม่ต้องมาลองใจหนูเลย... ใครอยากได้ หนูจะขุดแจก.....มันแยะนักเดี๋ยวจะทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย....


ครับ หน่อกล้วยจากไร่กล้อมแกล้ม ไปแตกกอที่นครปฐม จากนั้นมาแตกหน่อที่บางใหญ่ นนทบุรี

ส่วนที่ โพธาราม เงียบฉี่ เป็นเป่าปี่รูตัน ....เพราะไม่ได้ข่าวคราว






(140) ค่ำแล้ว ....ได้เวลากินข้าวเย็นนอกบ้าน ผมตั้งโต๊ะรอริมกระถางที่ปลูกข้าวนี่แหละ ได้บรรยากาศแบบสบาย ๆ ....






(141) ....มัวแต่ถ่ายรูปอยู่นั่นแหละ หนูหิว ขอกินก่อนไม่รอแล้ว............หิวก๊อกินไปซีเนาะ ใครจะไปว่าอะไรล่ะ..

...กับข้าวมีไรมั่ง....ไข่เจียวแหนม....ผัดเผ็ดเครื่องในไก่....ตูดเป็ดพะโล้....แค่นี้ก็สุดหรูเริ่ดแล้วคุณ ....

ลาก่อนสำหรับวันนี้ .....ขอบคุณที่ติดตามอ่าน คนบ้าปลูกข้าวในกระถางครับ


ข้าวในกระถางชุดนี้ น่าจะงามมากกว่านี้ อยากรู้มัยครับว่า ทำไมข้าวชุดนี้ ถึงไม่งาม
ติดตามต่อไปครับ....




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 15/06/2014 8:46 pm    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6...ตอน..ปลูกข้าวในกระถางที่บางใ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6.....ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่

ตอนที่ 10 (2) – 13 มิย.57 ข้าวอายุ 102 วัน





(142) เนื่องจากหน้าดินจะแห้งมากไปหน่อย ก็เลยเติมน้ำลงไปพอเต็มกระถาง






(143) เวลาผ่านไปไม่ถึง15 นาที น้ำในกระถางแห้งลงไปเกือบจะถึงหน้าดิน แสดงว่า อดน้ำมาหลายวัน





(144) รู้สึกว่าข้าวจะมีหลายรุ่น เริ่มแก่ก็มี เริ่มเป็นน้ำนมก็มี เริ่มตากเกสรก็มี




(145)



(146)



(147)

(145 – 147) จากข้าวกระถางละ 2 เมล็ด ไม่เคยปลูกในกระถางมาก่อน ข้าวแตกกอ ออกรวงได้แค่นี้ นับว่าไม่น้อยเลย




(148 )



(149)



(150)

(148 – 150) ข้าวออกรวงดี แต่รวงเล็ก ดูโหรงเหรง





(151)



(152)



(153)

(151 – 153) ลูกแมวแมวกระโดดเล่นรวงข้าว ก้านเลยหัก ผมก็เลยเอามา 1 รวง ลองนับเมล็ดดู





(154) นับได้ 100 เมล็ด





(155) เป็นข้าวลีบ 30 เมล็ด






(156) ขั้วค่อนข้างเหนียว จะเห็นก้านรวงติดที่เมล็ดข้าว รูดไม่ค่อยอยากจะหลุด 1 รวงได้เมล็ดประมาณนี้ ถ้า 100 รวงก็คงได้แยะเหมือนกันนะครับ....คงอีก 10 กว่าวันน่าจะเกี่ยวได้ คอยดูกันต่อไปครับ.....





(157) เวลาผ่านไปเหมือนติดปีก ได้เวลากินข้าวนอกบ้านข้างแปลงข้าวในกระถางอีกแล้ว





(158 ) วันนี้มีกับข้าวสองอย่างครับ กินอะไรกันนักหนา อย่างหนึ่ง ผัดผักหวานบ้าน อีกอย่างหนึ่ง ?





(159) ลูกชิ้นปลาผัดพริกแกง ....




(160)



(161)



(162)



(163)

(160 – 163) ทำไมรูปมืดจัง ผมทดสอบกล้องยามราตรี เวลาประมาณ 4 ทุ่ม บอกแล้ว คนไม่บ้าไม่กล้าทำ นี่กระถางวางบนพื้น เลยถ่ายได้สบาย ....ขืนเข้าไปถ่ายกลางนาเวลานี้ มีหวัง พญานาค งาบ เอาไปเมืองบาดาล....





(164) มีรูปรวงข้าวสวย ๆ มาฝากให้ดูกัน...รวงเป็นปั้นเลย . ต้องขออภัยที่ไม่รู้จริง ๆ ว่า.เป็นข้าวของใคร.มาจากที่ไหน และนาแปลงนี้อยู่ที่ไหน ถ้ารู้ที่ไปที่มา ก็ไม่แน่ว่า อาจไปขอข้อมูลว่า คุณทำยังไง.....ขออนุญาต แชร์ ก็แล้วกันครับ ตั้งความหวังไว้นิด ๆ ว่า จะลองทำ ส่วนจะ ได้ หรือ ไม่ได้ ก็ว่ากันไป......


ยังมีต่อครับ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 16/06/2014 12:36 pm    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6..ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่ .. ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6..ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่

ตอนที่ 10 (3) – 14 มิย.57 ปลูกข้าวในกระถางยังมีข้าวดีด นับประสาอะไรกับข้าวที่ปลูกในนา



คุยต่อเลยนะครับ....





(165 ) ลองดูข้าวกระถางนี้ให้ดี ๆ ครับ มีข้าวแปลกปลอม ปนมา..... ไม่ใช่อื่นไกล เป็นข้าวดีดที่น่ารักขึ้นแซมในกระถาง.... ได้มาจากไหน... มาตอนไหน... ก็คงปนมาตอนที่เอาเมล็ดมาจิ้มนั่นแหละครับ ...แตกกอ ออกรวงแข่งกับข้าวดี

ดีว่าพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ ข้าวดีดสูง เลยมองเห็น.... ถ้าดีดเสมอ ก็แทบจะมองไม่ออก และถ้าเป็นข้าวดีดที่ต้นเตี้ยกว่าข้าวดีละก็ มองไม่เห็นเอาเลยละครับ






(166) ผมรวบรวม ตัด ออกมาให้หมด ถูกรวงเข้าหน่อย เมล็ดร่วงกราว ขนาดฉีด แคลเซี่ยม-โบร่อนขั้วไม่ยักเหนียว เอาไม่อยู่ว๊อยประชา....






(167) ตัดมาได้ 7 รวง ไล่จากรวงล่างขึ้นบน จากแก่มากไปหาน้อย...รวงล่างสุด เมล็ดร่วงไปเกือบหมด





(168 ) โฉมหน้าข้าวดีดในกระถาง รวมได้ 7 เมล็ดนอกนั้นพอมือไปถูกรวง ดีดหล่นไปเกือบหมด ....ถ้าหากเป็นอยู่ในแปลงนา มันก็จะงอกต่อไป แต่อยู่ตรงนี้ เอาวางกองไว้ เดี๋ยวเพื่อนมีปีกของผมจะบินลงมากินเอง





(169)



(170)



(171)

(169 – 171) เรื่องข้าวดีดนี้ เจ๊รองแกโทรบอกผมเมื่อหลายวันก่อนแล้วว่า มีข้าวดีดขึ้นปนในกระถาง ผมก็บอกแกว่า ให้เก็บเอาไว้รอให้ผมมาก่อน แล้วบอกให้ลองเอาเมล็ดข้าวดีดที่อยู่ในระยะน้ำนม เอามาเพาะในกระถาง ...บอกให้แกลองทำดู....

ในรูป 169 – 171 จะเห็นข้าวต้นเล็ก ๆ ที่งอกขึ้นในกระถาง นั่นคือข้าวดีดที่งอกจากข้าวในระยะน้ำนม ...หมายความว่า ข้าวดีดในระยะน้ำนม เมื่อดีดออกจากรวงแล้ว จะสามารถงอกเป็นต้นขึ้นมาได้

...ที่ผมรู้เพราะ ทิดจีน ทำนาอยู่ใกล้ ๆ กันเป็นคนบอกผม และผมเห็นเค้าตัดเอามากองริมคันนา มันสามารถงอกขึ้นมาได้.จริง ๆ ....





(172)




(172 – 173) ข้าวดีดในแปลงผัก ....เจ๊รองแกเห็นข้าวงอกในแปลงผัก นึกว่าเป็นข้าวดี แกปล่อยเอาไว้เพราะอยากดู สุดท้ายกลายเป็นข้าวดีด ขนาดดินแห้ง ไม่มีน้ำ แต่ข้าวดีดงอกงามอยู่ได้ เพียงแค่ขอให้มีความชื้นนิดหน่อยเท่านั้น….


ประมาณ ปลาย ๆ เดือนมิย. (120 วัน)คงได้เกี่ยว ครับ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 17/06/2014 12:50 pm    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ข้าว 67 วัน ออกรวงแล้ว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ข้าว 67 วัน ออกรวงแล้ว

บทที่ 3 – ตอนที่ 1 – 14 มิย.57 ข้าวอายุ 67 วัน ออกรวงแล้วจร้า


ผมออกไปทำธุระที่บางใหญ่ตั้งแต่วันที่ 12 มิย. เพิ่งกลับวันนี้ที่ 14 ก่อนเข้าบ้าน แวะเข้าแปลงนาไปดูข้าวหน่อยนึงก่อน.....





(142) บริเวณจุดที่รถไถ รถเกี่ยวลงในแปลงนา ณ จุดนี้ แถวบ้านผมเค้าเรียกว่า หูช้าง ครับ...มองเห็นข้าวใบเขียวดีจัง





(143) หญ้าข้าวนกท่ามกลางแปลงนา อากาศตอนบ่ายแก่ ๆ ท้องฟ้าครึ้ม แต่ฝนไม่ตก....




(144)



(145)



(146)



(147)



(148 )

(144 – 148 ) ใบข้าวเขียวดีมั๊ยล่ะครับ โดน 46-0-0 ไปไร่ละครึ่งกระสอบ โดนแม็กนีเซี่ยม + สังกะสี + ธาตุรองธาตุเสริม ตามด้วย ไบโออิ – ไทเป – ยูเรก้า เข้าไปอีก ใบไม่เขียว ต้นไม่แข็ง ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ทั้งข้าวและหญ้า งามไม่แพ้กัน ..

..ทั้งหญ้าลิเก และหญ้าข้าวนก เจ๊ใหญ่แกเกี่ยวเอาขึ้นไปกองทิ้งบนคันดินไม่น้อยทีเดียว แต่ยังดีที่ ข้าวขี่หญ้า ถ้าย่ำหญ้าตอนตีเทือกอีกซักรอบ สองรอบ ก็อาจไม่ต้องเสียเวลามาเกี่ยวหญ้าทิ้งให้เหนื่อยไปเปล่า ๆ .....





(149) สไตล์ทำนาแบบเดิม ๆ ของเจ๊ใหญ่ ปลูกข้าวแบบ หัวร้อนตีนเย็น เหมือนกล้วยไม้เปี๊ยบเลย

คือปลูกข้าวต้องมีน้ำแช่โคนต้น ไม่อย่างนั้น ไมสมศักดิ์ศรี...สังเกตนะครับว่า ข้าวที่แช่น้ำ มันแตกกอดีซะที่ไหน เพราะว่า มันมีน้ำกินสบายแล้ว มันจะดิ้นรนแตกกอให้เมื่อยไปทำไม แล้วต้นข้าวก็เล็กเหมือนหลอดดูดยาคู๊ลท์ตามที่ลุงคิมบอกไม่มีผิด





(150) ลองเปรียบเทียบดูกับที่ผมทดลองปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่ มีน้ำเจ๊าะแจ๊ะแค่หน้าดิน บางครั้งก็ใส่น้ำให้ท่วมบ้าง แต่แค่ครึ่งวันน้ำก็แห้ง

ผมใส่ข้าวกระถางละ 2 เมล็ด แตกกอได้แค่นี้ก็เป็นที่น่าพอใจ ..1 กอได้ 30 ต้นก็ 30 รวงแล้วครับ





(151)



(152)



(153)



(154)



(155)



(156)



(157)



(158 )



(159)

(151 – 159) ข้าวอายุ 67 วัน ก็ออกรวงแล้ว รุ่นนี้ไม่ได้ใช้สารลมเบ่งแม้แต่แหมะเดียว ..

..ผมคิดของผมเอง...ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก นะครับว่า ข้าวได้รับ 46-0-0 ไปแล้ว พอมาเจอ แม็กนีเซี่ยม + สังกะสี + ธาตุรองธาตุเสริม ตามด้วย ไบโออิ – ไทเป – ยูเรก้า ตามไปอีก 5 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 10 วัน สลับด้วยสมุนไพรทุก 5 วัน กำลังจะฉีดครั้งที่ 6วันที่ 18 มิย.....เท่ากับว่า ข้าวได้รับสารอาหารครบเต็มเพียงพอที่จะออกรวงโดยไม่ต้องกระตุ้น

ส่วนว่า รวงจะดี เมล็ดจะสมบูรณ์หรือไม่ ต้องคอยดูกันต่อไปครับ...



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 17/06/2014 1:35 pm    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6

บทที่ 3 – ตอนที่ 2 อย่าเอื้อมเด็ดดอกฟ้ามาถนอม...

ตามที่บอกว่า ผมออกไปทำธุระที่บางใหญ่ตั้งแต่วันที่ 12 มิย. เพิ่งกลับวันนี้ที่ 14 ก่อนเข้าบ้าน แวะไปถ่ายรูปข้าวแปลงนา ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำแห้ง หรือไม่ก็ นาคนอนหลับเพลิน เลยลืมให้น้ำ....





(160)



(161)



(162)

(160 – 162) เดินเข้าบ้าน ต้นมะเขือพวง มารยาทดีจัง ยืนโค้งคำนับผมกันเป็นแถวไปเลย...ใจเย็น ๆ ไอ้หนู เดี๋ยวได้กินน้ำ รอแป๊บนึง......





(163) มีเพื่อนส่งรูปนี้มาให้ผม มะนาว ตาฮิติ ที่ Tops Market…3 ลูก 145 บาทตกลูกละเกือบ 50 บาท เป็นมะนาวที่เศรษฐีหรือพวกไฮโซเค้ากินกันน่ะครับ





(164) อันนี้ ติมั๊ยติ ไม่รู้ ลูกเกือบเท่าส้มเขียวหวาน ตอนกิ่งมาจากไร่กล้อมแกล้มได้มาสองกิ่ง .....




(165)



(166)

(165 – 166) มาออกช่อทำไมที่โคนต้น ทำไมไม่ออกที่ยอด....จะติดลูกมั๊ยเอ่ย....





(167)



(168)



(169)

(167 – 169) มีใครก็ไม่รู้ เอาถุงใส่ต้นหญ้าแบบเนี๊ยะ มาวางไว้หน้าบ้าน ถามใครก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร เพราะไม่มีคนอยู่บ้าน..

..คงจะบอกเป็นนัย ๆ ว่า หน้าอย่างเอ็ง ได้เชยชมแค่ดอกหญ้าเท่านั้นแหละวะ.....ยอมรับว่า จริงเลยครับ......มีโคลงอยู่บทนึงท่านบอกไว้ว่า

อย่าเอื้อมเด็ดดอกฟ้า มาถนอม
สูงสุดมือมักตรอม อกไข้
สอยแต่ดอกพะยอม ยามยาก ชมนา
สูงก็สอยด้วยไม้ อาจเอื้อม เอาถึง


งั้นก็ชมแค่ดอกหญ้าไปก่อนละกัน ถึงจะคันหน่อย ก็ทน ๆ เอา.....อีกหน่อยก็ชินไปเอง....จริงมั๊ยครับลุง....



.


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 17/06/2014 6:47 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.



ตลกสะอื้น....

ที่ไร่กล้อมแกล้ม ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ รุ่นแรกปลูกในร่องข้างสวน รุ่นสองปลูกในกระถาง ทั้งสองรุ่น ....
ต้นเริ่มโต "หมา" กัดกินใบ จนเป็นไรซ์เบอรี่ ต้นด้วน
ต้นเริ่มมีรวง "นก" กินเมล็ด จนเป็นไรซ์เบอรี่ ก้านด้วน

ศัตรูพืช 2 ตัวนี้ ไม่รู้จริงๆว่า ต้องใช้สมุนไพรตัวไหน .... ใครรู้บอกที


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 22/06/2014 12:45 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
.



ตลกสะอื้น....

ที่ไร่กล้อมแกล้ม ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ รุ่นแรกปลูกในร่องข้างสวน รุ่นสองปลูกในกระถาง ทั้งสองรุ่น ....
ต้นเริ่มโต "หมา" กัดกินใบ จนเป็นไรซ์เบอรี่ ต้นด้วน
ต้นเริ่มมีรวง "นก" กินเมล็ด จนเป็นไรซ์เบอรี่ ก้านด้วน

ศัตรูพืช 2 ตัวนี้ ไม่รู้จริงๆว่า ต้องใช้สมุนไพรตัวไหน .... ใครรู้บอกที


.



สวัสดีครับลุงคิม


ต้นเริ่มโต "หมา" กัดกินใบ จนเป็นไรซ์เบอรี่ ต้นด้วน

ถ้าเป็นทางเหนือ เค้าใช้สมุนไพรหลายอย่างครับ




ภาษาพื้นบ้านเค้าเรียกว่า คั่วแฮ่ม กว๋างคำ ดำปอด.....คนไทยเรียกว่า คั่วแห้ง อาข่าบนดอย เลี้ยงหมูเอามาแลกหมา หมูสอง หมาหนึ่ง ....ใส่สมุนไพรแยะ ๆ ช่วยระงับความหนาวได้ดี ....รำแต๊ ๆ เจ้า


พอต้นเริ่มมีรวง "นก" กินเมล็ด จนเป็นไรซ์เบอรี่ ก้านด้วน

กระเหรี่ยงบนดอยใช้วิธี นิ่ม ๆ ตัวไม่ช้ำ เนื้อไม่เหลว....




หลา หลา โต ผ่า พี๊ กา เหร่ กี อาหล่อ.....(หลาย ๆ ตัว ผัดพริกกระเหรี่ยงกินอร่อย)



โหดไม่ลงครับลุง แต่ถ้าทำสำเร็จรูปมาแล้ว ...จะปล่อยให้บูดทำไมล่ะครับ....เนอะ
อีกอย่างเกรงใจเค้า เดี๋ยวจะหาว่าเราหยิ่ง ของดี ๆ ไม่กิน.....แม่นบ่ คุณ อานนท์ แอ่นอ๊อน.....


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 23/06/2014 12:11 am    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6.....ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา ก่อนถึง รุ่นที่ 6.....ปลูกข้าวในกระถางที่บางใหญ่

ตอนที่ 10 (4) – 22 มิย.57 มันมากับความมืด

ผมขอคุยต่อเลยนะครับ....




(174)




(174 – 175) ในตอนที่ 10 (2) ผมดันไปถ่ายรูปข้าวตอนกลางคืน...เมล็ดข้าวเลยดูสีแปลก ๆ ...ได้เรื่อง เจอดีเลยครับ






(176) มันมากับความมืด





(177) ดูรูปข้าวสวย ๆ สีแปลก ๆ รวงกำลังก้ม ครับ เห็นมันสวยดีเลยนำรูปมาให้ดูกัน ผมก็ไม่รู้ว่า มันเป็นข้าวพันธุ์อะไร เพราะมันมากับความมืดครับ...


รายการสีสันชีวิตไทยก็แบบนี้แหละครับ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 23/06/2014 10:17 am    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ข้าว 75 วัน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ข้าว 75 วัน

บทที่ 3 – ตอนที่ 3 (1) – 23 มิย.57 ข้าวอายุ 75 วัน กำลังตากเกสร


ถึงวันนี้ ข้าวอายุ 75 วัน กำลังตากเกสรครับ ก็คงจะทำอะไรไม่ได้มากนัก ปล่อยให้ธรรมชาติจัดการกันเอง....
มีรูปฝากมาให้เพื่อน ๆ ได้ดูแค่นั้นเองครับ




(170)



(171)



(172)



(173)



(174)



(175)



(176)



(177)



(178 )



(179)



(180)



(181)



(182)



(183)



(184)



(185)

(170 – 185) สภาพโดยทั่วไป หญ้าในแปลงนาก็มีบ้างตามสมควร....





(186)



(187)



(188 )



(189)



(190)



(191)



(192)



(193)

(186 – 193) ข้าวกำลังตากเกสร – เกสรข้าวกำลังบาน …
เวลาลมพัด จะได้กลิ่นดอกข้าวหอมอ่อน ๆ มันรู้สึกสดชื่นบอกไม่ถูกครับ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
HarvestMoon
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2014
ตอบ: 7

ตอบตอบ: 24/06/2014 7:23 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับ ผมเองทำนาปีนี้ครั้งแรก ทดลองทำ4ไร่ครับ

เข้ามาอ่านหาความรู้ครับ หยอดข้าวมาได้10วันแล้ว
ตอนนี้ข้าวกำลังโตแข่งกับหญ้าเลยครับ

Very Happy
อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ
(จริงๆอ่านไปถึงแค่หน้า7 )

Very Happy
ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 24/06/2014 10:28 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม...คุณ HarvestMoon

HarvestMoon บันทึก:


สวัสดีครับ

ผมเองทำนาปีนี้ครั้งแรก ทดลองทำ4ไร่ครับ เข้ามาอ่านหาความรู้ครับ

หยอดข้าวมาได้10วันแล้ว ตอนนี้ข้าวกำลังโตแข่งกับหญ้าเลยครับ

คุณไปมัวงมโข่งอยู่ทีไหนล่ะ ก่อนหยอดข้าว ทำไมไม่ศึกษาอ่านเรื่องข้าวซะก่อน
ในเว็ปลุงคิมนี่แหละ มีให้ศึกษาหาอ่านเพียบ ยิ่งทำครั้งแรกด้วยแล้ว ยิ่งต้อง อ่าน ๆ ๆ และอ่าน ถาม ๆๆๆๆ และถาม ....



Very Happy
อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ ....
(คุณจะเอาความรู้จากคนบ้าเป็นตัวอย่างเอาไปทำตามงั้นรึ)

(จริงๆอ่านไปถึงแค่หน้า7 )

Very Happy
ขอบคุณครับ




บทที่ 3 – ตอนที่ 3 (2) – ตัดยอดข้าว หนีหญ้า หนีข้าวดีด

ตอนที่ผมทำนาครั้งแรก ผมใช้โปรแกรม Excel...ทำตารางตั้งแต่วันที่เริ่มหว่าน จนถึงวันที่ประมาณการว่าจะเกี่ยว กำหนดในตารางไว้เลยว่า วันไหนจะต้องทำอะไร คลาดเคลื่อนเลื่อนไปบ้าง ตามความเหมาะสม...

..มาถึงรุ่นที่ 6 ชักจะเก่งเกินแกง Xcel ไม่เอาแล้ว ใช้นี่เลย ง่ายดี




(194) ปฏิทินไม่ได้ใช้แค่ดูวันที่อย่างเดียว ใช้ประโยชน์ให้คุ้ม มีอะไรจดลงไป ห้ามจดอย่างเดียวว่า วันไหนนัดกิ๊กเอาไว้ ขืนจดลงไป ตายลูกเดียว

ใช้จดลงปฏิทินเลย วันที่ 4 เมย.57 ลูบเทือกครั้งสุดท้าย
วันที่ 8 เมย.57หว่านน้ำ
วันที่ 10 เมย. คุมแห้ง ...
จากนั้นมาทุก 10 วันก็ วันที่ 18, 28 เมย. เป็นวันพ่นปุ๋ยทางใบ + ยาสมุนไพร และสลับทุก 5 วันพ่นสมุนไพรอาจจะ + T/E ลงไปด้วยตามความเหมาะสม





(195) เดือน พค.57 ก็กาเอาไว้ในปฏิทินทุก 5 วันจะต้องพ่นยาสมุนไพร และทุก 10 วัน จะต้องให้ปุ๋ยทางใบพร้อมสมุนไพร





(196) วันที่ 7 มิย.57 พ่นปุ๋ยทางใบพร้อมสมุนไพร สังเกตว่าข้าวเริ่มออกหางแย้ พอวันที่ 12 มิย. พ่นสมุนไพรพร้อมกับ ดึงโพล่ง

....วันที่ 14 มิย. ข้าวอายุ 67 วัน ออกรวงพรึ่ดไปหมด...วันที่ 17 เป็นวันพ่นปุ๋ยทางใบ แต่ติดงานบวช เลื่อนไปวันที่ 18 ข้าวอายุ 71 วัน

วันที่ 23 มิย.วันพ่นปุ๋ยและยาสมุนไพร แต่ข้าวกำลังตากเกสร ทำอะไรไม่ได้ คงต้องเลื่อนไปวันที่ 27 มิย. ข้าวอายุครบ 80 วัน ค่อยว่ากันใหม่

ผมไม่เคยทำนามาก่อน ทำรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 6 ประสบการณ์มีน้อยมาก จำเป็นต้องจดการทำงานทุกอย่างว่าวันไหนจะต้องทำอะไร รวมทั้งค่าใช้จ่าย และรายได้ทุกบาททุกสตางค์ที่เกี่ยวกับข้าว ผมทำมาตั้งแต่รุ่นแรก .

...ระหว่างข้าวยังไม่เกี่ยว มีรายได้ด้วยหรือ

มีครับ ....ผักบุ้งยอดแดงที่ขึ้นในหรือริมขอบแปลงนา เก็บส่งแม่ค้าส้มตำ ครั้งละ 10 กำ หรือ 20 กำ ๆ ละ 5 บาท ก็ได้แล้ว 50 หรือ 100 บาท เดือนละ 4 ครั้ง ก็ 400... 4 เดือนเกี่ยว ก็ 1,600 มันขึ้นในแปลงนา ก็ถือว่าเป็นรายได้จากแปลงนา

คนดี ๆ เค้าไม่สนเพราะมันน้อยนิด แต่คนบ้าอย่างผมสนครับ เพราะมันเป็นเงิน อย่างน้อยก็พอเป็นค่าจ้างรถตีนตะขาบปั่นดิน..


..นี่ถือว่าคุณเป็นน้องใหม่ จึงบอก ...เวลานี้ข้าวเหลือเกวียนละ 5,900 - 8,100 คุณไม่ลดต้นทุน ขี้แตกตายแน่ ๆ

เพื่อนของผมอยู่ที่ลาวมาทำงานเมืองไทย ตอนนี้กลับไปทำนา.. เค้าบอกว่า บ้านเค้าระดมปลูกข้าวหอมลาวสำหรับคนกิน...ขายให้คนกิน ....แต่ พี่ไทยปลูกข้าวพันธุ์ กข. สำหรับทำแป้ง..ราคาต่างกันลิบลับ ..เหอ ๆๆๆๆ ฉลาดซะไม่มีละพี่ไทย
(อยากได้พันธุ์ข้าวหอมลาว ถามป้าห่าน... Hans Mayer ครับ)


หญ้าขี่ข้าว หรือข้าวขี่หญ้า คุณต้องตัดยอดข้าว มันจะตัดยอดหญ้า และยอดข้าวดีดพร้อมกันไปด้วย(ถ้ามี)
ดูรูปการตัดยอดข้าวกันหน่อย แปลงนี้ใจยังไม่ถึง ตัดสูงไปหน่อย



(197)



(198)



(199)



(200)



(201)



(202)



(203)



(204)


ผมกำลังจะนำเสนอรูปการตัดยอดข้าวอยู่พอดี รูปชุดนี้เป็นนาของเพื่อนบ้าน ตัดยอดข้าวเพื่อหนีหญ้า และหนีข้าวดีดครับ

ยังจะมีการทำลายล้างข้าวดีดด้วยวิธีการ ใช้ยาฆ่าหญ้า ลูบ ยอดข้าวดีดด้วย .....อดใจรอครับ



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 25/06/2014 10:50 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 25/06/2014 1:10 am    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ตอน ตัดใบข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิต ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ตอน ตัดใบข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิต


บทที่ 3 – ตอนที่ 3 (3) –ตัดใบข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิต...เรื่องเก่า เล่าใหม่


อยากรู้วิธีการและประโยชน์ของการตัดใบหรือยอดข้าว ต้องอ่านครับ

ตัดใบข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิต – (ภาค 1)

เทคนิคการตัดใบข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิต โดยว่าที่ ร.ท. ทองพูน หม่องแฉ นักวิชาการเกษตร
องค์การบริหารส่วนตำบลพนมไพร อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด


25 มีนาคม 2548 ( แก้ไขเพิ่มเติม พฤษภาคม 2550 )


อาชีพ หลักของคนไทย80%คืออาชีพทำการเกษตรโดยเฉพาะการทำนาถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ สุดของการทำการเกษตร

แต่เนื่องจากว่าเกษตรกรได้ปลูกข้าวมานาน การปรับปรุงบำรุงดินให้คืนสภาพเดิมมีน้อยมาก นั่นคือดินขาดความอุดมสมบูรณ์

การเผาตอซังหรือการเผานายิ่งทำให้เกิดผลเสียกับดินมากกว่าผลดีที่จะได้รับ เพราะเป็นการเผาจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และยังเผาทำลายสัตว์เล็กๆในดิน
ดินที่ถูกเผาก็จะแห้ง,แข็ง ดินจะตาย ปลูกพืช ๆ ก็จะไม่เติบโต , พืชแคระแกรน การใช้ปุ๋ยเคมีในปริมาณที่มากก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และถ้ามีการใช้อย่างต่อเนื่องดินก็จะเสียเช่นกัน

การตัดใบข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิตของข้าว ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ เพราะใบข้าวที่ถูกตัดออกก็จะเน่าเปื่อยกลายเป็นปุ๋ยให้แก่ต้นข้าวได้เป็น อย่างดีต่อไป


ขั้นตอนการตัดใบข้าว (กรณีปลูกข้าวอายุ 120 วัน)

1. ถ้าทำนาในช่วงเดือนพฤษภาคม ให้ทำการตัดใบข้าว 3 ครั้งดังนี้
1.1 ตัดครั้งที่ 1 ต้นเดือนกรกฎาคม (ประมาณ 40 - 45 วัน)
1.2 ตัดครั้งที่ 2 ต้นเดือนสิงหาคม (65 – 70 วัน)
1.3 ตัดครั้งที่ 3 ต้นเดือนกันยายน (ไม่ควรเกินวันที่ 5 กันยายน จะเป็นการเสี่ยงเกินไปเพราะช่วงเวลาดังกล่าวข้าวจะออกใบใหม่ได้ทันและจะ เริ่มตั้งท้องประมาณวันที่ 20 -25 กันยายน)

สำหรับการตัดครั้งที่ 3 ให้ระมัดระวังและสังเกตุเป็นพิเศษ ถ้าไม่มั่นใจ คือก่อนจะทำการตัดใบข้าวให้ทำการผ่าต้นข้าวดูก่อน ถ้าต้นข้าวเริ่มตั้งท้อง (ต้นข้าวจะมีลักษณะกลมมีข้อปล้อง ) ห้ามตัดใบข้าวอย่างเด็ดขาด

2. ถ้าทำนาก่อนเดือนพฤษภาคม ให้ทำการตัดใบข้าวในช่วงเดียวกัน
แต่ให้ระวังในการตัดใบข้าว ในช่วงที่ 3 เพราะต้นข้าวจะแก่ลำต้นข้าวจะแข็งและตั้งท้องเร็วกว่าปกติเล็กน้อย

3. ให้ทำการใส่ปุ๋ยตามระยะการปลูกข้าวปกติ


วิธีการตัดใบข้าว
1. การใช้เครื่องตัดหญ้าชนิดสะพายหลังที่มีใบมีดคมๆ โดยตัดที่ตำแหน่งเหนือสะดือของต้นข้าว(สูงกว่าซอกกาบใบของต้นข้าว )

2. ในกรณีการใช้เคียวเกี่ยวใบข้าว ให้วางเคียวขนานกับพื้นดินการเกี่ยวใบออกจะได้ระดับและความสูงสม่ำเสมอกัน

3. ใช้ได้ผลดีทั้งข้าวนาดำและนาหว่าน แต่ข้าวนาหว่านการตัดใบข้าวจะทำได้ลำบากเพราะต้นข้าวจะถี่


ข้อควรระวัง
1. ข้าวกำลังตั้งท้องห้ามตัดใบอย่างเด็ดขาด
2. พื้นที่ปลูกข้าวที่มีลักษณะเสี่ยง เช่น พื้นที่ลุ่มน้ำท่วมได้ง่าย,พื้นที่ดอนหรือแห้งแล้งจัด เพราะพืช
อาจจะโดนน้ำท่วมในกรณีที่ฝนมาเร็วและอาจจะแห้งตายในกรณีที่ฝนทิ้งช่วง(ควรฟังพยากรณ์อากาศด้วย)

3. ห้ามตัดใบข้าวในช่วงข้าวเกิดโรคระบาดเพราะเชื้อโรคอาจจะเข้าทางรอยแผลหรือไป กับน้ำซึ่งจะทำให้โรคระบาดได้เร็วขึ้น


ข้อดีของการตัดใบข้าว
1. ลดปริมาณของใบข้าว, การตัดใบข้าวแก่ที่ไม่มีประโยชน์ทิ้งทำให้ต้นข้าวแข็งแรงไม่ล้มง่าย
2. ช่วยกำจัดวัชพืช(หญ้า)ได้ เป็นการตัดวงจรของวัชพืชได้เป็นอย่างดี
3. ช่วยลดการระบาดของโรค – แมลงศัตรูพืชบางชนิดได้
4. ใบข้าวที่ตัดออกจะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยได้อย่างดีหรือจะนำไปใช้เลี้ยงสัตว์ก็ได้
5. ทำให้ข้าวมีผลผลิตเพิ่มมากขึ้นเมล็ดข้าวมีน้ำหนักขายได้ราคา
6. ช่วยลดต้นทุนในการผลิต เช่น ปุ๋ย , ยาป้องกันกำจัดโรค – แมลง , ยาปราบศัตรูพืช
7. แสงแดดสามารถส่องถึงพื้นน้ำ/ดิน อากาศในดินระบายได้ดีทำให้เกิดการสร้างแหล่งอาหารตามธรรมชาติได้ดี เช่น แพลงต้อน/ไรน้ำ
8. การเก็บเกี่ยวง่ายไม่มีวัชพืชเจือปนกับเมล็ดข้าว
9. เมื่อนำไปจำหน่ายจะได้ราคาที่สูงขึ้นเพราะเมล็ดข้าวสะอาดปราศจากสิ่งเจือปน


หมายเหตุ
1. การคิดระยะการตัดใบข้าวใช้ข้าวหอมมะลิเป็นหลัก ข้าวชนิดอื่นปรับระยะการตัดใบตามความเหมาะสม

2. การตัดใบข้าวจะตัด 1- 2 ครั้งก็ได้แต่ไม่ควรเกิน 3 ครั้ง ( ให้สังเกตถ้าใบข้าวคลุมหญ้าได้ ก็ไม่ต้องตัดใบข้าวอีก )


สนใจเทคนิคการตัดใบข้าวสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ว่าที่ ร.ท. ทองพูน หม่องแฉ
อบต. เด่นราษฎร์ อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด
มือถือ 087-635-5911



ตัดใบข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิต – (ภาค 2)

เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า จังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งจังหวัดกว่า 3,200,000 ไร่ ในจำนวนนี้แยกเป็นนาหว่าน 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นนาดำ ซึ่งขณะนี้เกษตรกรที่ทำนาหว่านในหลายพื้นที่ กำลังประสบปัญหาหญ้าหรือวัชพืช ขึ้นปกคลุมต้นข้าว

จากกรณีดังกล่าว ทางสำนักงานเกษตรจังหวัด ได้รณรงค์ให้เกษตรกรแก้ไขปัญหาการกำจัดวัชพืช โดยให้ตัดใบข้าว เพื่อกำจัดวัชพืชที่ขึ้นปกคลุมต้นข้าว ซึ่งการตัดใบข้าวนอกจากจะช่วยกำจัดวัชพืชแล้ว ยังสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวให้กับเกษตรเฉลี่ยไร่ละ 10 เปอร์เซ็นต์

ซึ่งขณะนี้ได้มีเกษตรกรจากหลายพื้นที่สนใจ ตัดใบข้าวไปแล้วกว่า 200,000 ไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งจังหวัดเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ยังกล่าวอีกว่าวิธีการตัดใบข้าว สำหรับนาที่ไม่มีน้ำขัง เกษตรกรควรตัดบริเวณที่สูงจากพื้นดินประมาณ 15 เซนติเมตร ส่วนนาข้าวที่มีน้ำขังอยู่ ควรตัดสูงกว่าระดับน้ำประมาณ 1 นิ้ว

เมื่อตัดแล้วให้ปล่อยทิ้งไว้ในนา เพื่อให้ทั้งใบข้าวและใบหญ้าหมักเป็นปุ๋ย หลังจากนั้นต้นข้าวก็จะเจริญงอกงามไม่มีหญ้าปกคลุม แต่เกษตรกรควรจะเร่งตัดให้ทันภายในสิ้นเดือนสิงหาคม เพราะหากเลยสิ้นเดือนสิงหาคมไปแล้ว ต้นข้าวก็จะตั้งท้อง และจะไม่สามารถตัดใบข้าวได้

หลังการตัดใบข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิต ข้าวจะแตกยอดใหม่อย่างรวดเร็ว และ แตกกอไปพร้อมๆกัน วัชพืชขึ้นสู้ไม่ได้ ให้ชาวนารีบใส่ปุ๋ยไขน้ำเข้านา

การตัดระยะที่ 2 สูงประมาณโคนใบ พร้อมการใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ข้าวแตกกอสวยงาม พร้อมตั้งท้องเตรียมการออกรวง ผลผลิตที่ออกมาเห็นได้ว่า การทำนาข้าวแบบตัดใน สามารถคุ้มทุน ผลผลิตเพิ่มขึ้น...



.

จะลงรูปภายหลังครับ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 25/06/2014 1:02 pm    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ตอน ตัดยอดข้าว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ตัดยอดข้าว

บทที่ 3 – ตอนที่ 3 (2) –ตัดยอดข้าว หนีหญ้าและข้าวดีด

อ่านเรื่องตัดยอดข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิตแล้ว
ไปดูรูปการตัดยอดข้าวกันหน่อยครับ...เรื่องเก่า เล่าใหม่ ....เหล้าเก่าในขวดเก่า...




(205)



(206)



(207)

(205 - 207) ตัด ตัด และตัด สูตรใครก็สูตรใคร เทคนิคใครเทคนิคมัน จุดประสงค์ที่ต้องการคือ ตัดยอดข้าว เพื่อหนีหญ้าและข้าวดีด และต้องการเพิ่มผลผลิต





(208 ) ใบมีดสำหรับใช้ตัดยอดข้าว ใช้ตัดหญ้าก็ได้นะ แต่ต้องฝีมือหน่อยเพราะใบมีดมันยาว ต้องตัดตรง ๆ ห้ามเอียง มิฉะนั้นใบมีดมันจะตีดิน




(209)



(210)

(209 – 210) ข้าวนาทิดแดง ตัดยอดเมื่ออายุ 50 วัน




(211)



(212)

(211 – 212) หลังจากตัดยอดผ่านไป 35 วัน ข้าวอายุ 85 วันก็ออกรวง




(213)



(214)

(213 – 214) ผ่านไปอีก 16 วัน ข้าวอายุ 101 วัน

จบเรื่องตัดยอดข้าว เอวัง ฯ



ไปดูเครื่องมือเบา ๆ ที่ใช้ตัดยอดข้าว หรือตัดยอดข้าวดีดกันบ้าง.. คุณทรงพล....ดูเอาไว้ แล้วหาซื้อมาลองใช้ดูนะครับ...




(215)



(216)

(215 - 216) ..ง่าย ๆ ใช้มอเตอร์ รอบจัด ต่อสายไปยังแบตเตอร์รี่แมงกะไซด์ ....ใช้ชนิด แบตแห้งนะพี่ ถ้าเป็นแบตน้ำ ติดข้างเอว น้ำกรดมันอาจกระเด็นออกมา มันจะกัดเนื้อเอา

เครื่องตัดยอดข้าว ตัดข้าวดีด ใช้มอเตอร์ ต่อกับท่ออลูมิเนียมเสาอากาศทีวี ใช้ใบมีดคัตเตอร์ขนาดใหญ่ติดสลับคมกันสองข้าง ใส่ให้ถูกล่ะ เพราะมอเตอร์มันหมุนทวนเข็มนาฬิกา ก็เหมือนเครื่องตัดหญ้าใช้น้ำมันนั่นแหละ ....สนนราคาชุดละประมาณ พันกว่าบาท พร้อมแบตนะครับ แถมใบมีดคัตเตอร์ให้อีก 2 กล่อง .....





(217) นอกจากตัดยอดข้าว หรือตัดข้าวดีดแล้ว ตัดตอข้าวได้มั๊ย.....ได้ซีครับ ทำไมจะไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรที่คนไทยทำไม่ได้ นอกจากว่า จะทำหรือไม่ทำเท่านั้นแหละ

ตัวนี้ครับ เครื่องมือพิสดาร สำหรับตัดหญ้าหรือตอซัง ดัดแปลงใช้มอเตอร์ตัวใหญ่ขึ้น รุ่น โคตรประหยัด เพราะไม่ได้ใช้น้ำมัน.... ทำเป็นกล่องปิดซ้าย ขวาข้าง เปิดหน้าหลัง ที่ฐานติดสกี ทำง่าย ๆ ตามในรูป แบบเนี๊ยะ ไปจ้างเค้าอ๊อก ไม่กี่สตางค์หรอก ใบมีดคัตเตอร์ก็ใส่ใบคู่(ข้างละ 2 ใบ) เมื่อใส่ใบมีดแล้ว ต้องใช้แหวนสปริงรองแล้วจึงจะขันน๊อต ...ถ้าใช้น๊อตแบบ ล๊อกน๊อตได้ก็ยิ่งดี ..มารุ่นหลัง ๆ เค้าใช้ใบเลื่อยเหล็กขนาดใหญ่ใส่แทน .อันตรายน้อยลงกว่าใช้ใบมีดคัตเตอร์ ตัดได้เฉียบกว่า เพราะมันเป็นฟันเลื่อย.....

โอ๊ย.....ที่บอก ๆ มานี่นะ เอามะพร้าวแห้งมาขายมะพร้าวห้าวหรือเปล่าครับเนี่ย ในเว็ปลุงมี วิศวะฯ เพียบ แต่นิ่งเงียบไม่กระโตกกระตาก ผมแค่ วิศโว๊ย ตังค์ไม่ค่อยมี ต้องหาที่ดัดแปลงทำใช้กันเองหรือไม่ก็หาของราคาถูก ๆ มาใช้





(218 ) มอเตอร์รอบจัด เค้าเรียกว่าแบบ Brussless คือไม่มีแปรงถ่านเหมือนแบบเก่า น้ำหนักจะเบาลง รอบจะสูง กินกระแสไฟน้อยลง ที่เคยเอามาใส่เครื่องบินเล็กบังคับ ความเร็วรอบประมาณ 12,000 รอบ





(219) เครื่องมือคู่ขวัยเกษตรกรไทย....เครื่องตัดหญ้าเอนกประสงค์ ถอดชุดใบมีดตัดหญ้าออก เอาปั๊มหอยโข่งขนาด 1 นิ้วใส่เข้าไป หอบหิ้วไปกลางทุ่ง กลางท่า กลางนา กลางดอย พร้อมหิ้วท่อน้ำขนาด 1 นิ้ว ยาวแค่ไหนก็ตามใจคุณ

ถังน้ำมันเครื่องตัดหญ้า ปกติจะใส่น้ำมันได้ประมาณ 1 ลิตร เร่งเครื่อง 60 – 70 % อยู่ได้เป็นชั่วโมงมั๊ง....ชุดหอยโข่งที่ผมเคยซื้อมาก็ประมาณ 800 กว่าบาท...น้ำหนักเบา ทั้งชุดประมาณ 1.5 กก.





(220) มาดูใกล้ ๆกันหน่อยครับ....ใครที่มีใช้ หรือเคยใช้แล้ว ไม่ต้องดู แนะนำให้ดูเฉพาะคนที่ยังไม่เคยใช้ครับ

ทั้งชุดก็มี ตัวปั๊มหอยโข่ง...หัวกะโหลกกันผง ข้อต่อทางน้ำออก ขนาด 1 นิ้ว ปลอกรัดสาย แหวนยางและ อัลเล็น ขันน๊อต





(221) เป็นใบพัดดูดน้ำในตัวปั๊ม





(222) เป็นเดือยในปั๊มสำหรับเสียบเข้าปลายเครื่องตัดหญ้า เมื่อถอดชุดหัวตัดหญ้าออกแล้ว เสียบเข้าไปมันจะล๊อคเข้าเดือยพอดี ๆ เสียบแล้วก็ขันนีอตให้แน่น ก็จะเป็นตามรูป 219





(223) ประกอบเสร็จพร้อมติดตั้ง.....





(224) ของรัก ของชอบ ของแถม...เครื่องบินเล็กบังคับวิทยุ

ดัดแปลงเอาเครื่องตัดหญ้ามาใส่ ใช้น้ำมันเบ็นซินผสม เพราะเป็นเครื่อง 2 จังหวะ ประหยัดกว่าใช้เครื่องยนต์เล็ก ซึ่งใช้น้ำมันเม็ททิลแอลกอฮอล์ ผสมน้ำมันละหุ่ง

บินท่าผาดแผลงสู้ใช้เครื่องยนต์เล็กไม่ได้ ความคล่องตัวต่างกัน แค่บินเล่นสนุก ๆ เท่านั้น


ขอบอกว่า ทั้งหมด ทั้งสิ้นที่ผมนำเสนอมา ไม่ใช่ว่าผมจะเก่งอะไรนักหนา สิ่งที่ผมนำเสนอ เป็นแค่ภูมิปัญญาชาวบ้าน ๆ เป็นการดัดแปลงทำจากของราคาถูก ๆ ตามสถานะของคนที่ไม่มีปัญญาที่จะมีเงินซื้อของแพง ๆ ใช้เท่านั้น ที่สำคัญคือทำแล้วใช้งานได้ ตอบสนองได้ตามที่เราต้องการ..

..จากราคาเป็นหมื่น ก็เหลือแค่ราคาพัน จากราคาเป็นพันก็เหลือแค่หลักร้อย จากราคาหลักร้อยอาจจะไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อ เพราะบ้านผมอยู่ใกล้บ้านคนรับซื้อของเก่า

ผมก็ไปเลือก ๆ ดูว่า มีอะไรที่พอดัดแปลงเอามาใช้ได้บ้าง เช่นที่พ่นปุ๋ยพ่นยา แบบชักเข้า ชักออก เขาซื้อเป็นของเก่ามาแยะมาก ผมก็ไปเลือก ๆ ดู จับเพะชนแกะ ได้มาสามสี่อัน เค้าก็ไม่เอาสตางค์ ก็มาลองใช้ดู ลูกยาง ลูกปั๊มมันฉีกขาด ก็ไปซื้ออะไหล่มา ซ่อมเสร็จ มันพอใช้ได้ก็ใช้มันไป ถ้ามันเสียก็เอาไปคืนเค้า เค้าก็โล๊ะขายต่อไป ….


ตอนต่อไป ใช้ยาฆ่าหญ้า เดินลูบข้าวดีด เห็นมาทุกรุ่น....ดูไม่จืดจริง ๆ



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 27/06/2014 8:50 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
HarvestMoon
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 14/06/2014
ตอบ: 7

ตอบตอบ: 25/06/2014 4:58 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับ คุณ DangSalaya

จริงๆผมก็ศึกษา อยู่นานครับ ทั้งเพจชาวนาวันหยุด เวปเกษตรพอเพียง และที่นี่ผมเพิ่งเข้ามาศึกษา น่าจะเจอเวปนี้ก่อนหน้านี้ Laughing (ก็ผสมผสานข้อมูลแต่ละที่)

ตอนแรกผมจะลองทำนาดำกะไช้วิธีน้ำคุมหญ้าช่วงแรก แล้วค่อยปล่อยแห้ง แต่คุณอาของเจ้าของที่ดันไปลงชื่อโครงการนาหยอดไว้ ก็เลยต้องเปลี่ยนนิดหน่อย และผมตั้งใจจะไม่ไช้ยาฆ่าหญ่าครับ

แต่ก็หาวิธีแก้ปัญหาหญ้าตอนนี้ได้แล้วครับ ไช้ที่พรวนหญ้าจัดการครับ เพราะนาหยอดข้าวมันขึ้นเป็นแถวเหมือนนาดำ(แต่เรียงไม่สวยเหมือนนาดำ)

ขอบคุณครับ

Laughing
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 26/06/2014 7:52 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

HarvestMoon บันทึก:


แต่ก็หาวิธีแก้ปัญหาหญ้าตอนนี้ได้แล้วครับ ไช้ "ที่พรวนหญ้า" จัดการครับ เพราะนาหยอดข้าวมันขึ้นเป็นแถวเหมือนนาดำ(แต่เรียงไม่สวยเหมือนนาดำ)






โพสรูป "ที่พรวนหญ้า" ให้ดูหน่อยซี่ +ตอนที่กำลังทำงานมาด้วยยิ่งดี
เพราะนี่คืออีกเทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรงหนึ่งที่น่าส่งเสริม


โพสรูปลงเว้บไม่เป็น ใช้มือถือถ่ายรูป ส่งไปที่ "น้ำส้ม" (085) 055-7706 ก็ได้ แล้วจะดำเนินการให้




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 26/06/2014 8:47 pm    ชื่อกระทู้: Rotary Weeder ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม



รูป Rotary Weeder เครื่องย่ำหญ้า ...เครื่องพรวนหญ้า แล้วแต่ใครจะเรียก ผมขอเรียกเครื่องย่ำหญ้าครับ
ผมเก็บรูปเอาไว้นานแล้ว ...ยังไม่ได้ทำนาดำก็เลยยังไม่กล้าเอาลง น้องชายมันทำนาดำ ดัดแปลงทำใช้เอง ก็พอกล้อมแกล้มถู ๆ ไถ ๆ ไปได้ครับ




(1) เครื่องต้นแบบ...Approved by... CIAE - Coimbatore
Agricultural Engineering Department,
Coimbatore Govt. of Tamil Nadu.






(2) พี่ไทยไป Coppy ของเค้ามาทำเอง
ความกว้าง 9 นิ้ว(ประมาณ 23 ซม.) ความยาว 31 นิ้ว(ประมาณ 80 ซม.)



(3)


(4)

(3 - 4) จากนั้นก็พัฒนาทำออกมาขายเป็นล่ำเป็นสัน




(5)


(6)


(7)


(8 )


(9)


(10)


(11)


(12)


(13)


(14)



(15) ความกว้าง 9 นิ้ว(23 ซม.) ยาว 31 นิ้ว(80 ซม.)



(16)




แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 26/06/2014 8:58 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 26/06/2014 8:53 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
HarvestMoon บันทึก:


แต่ก็หาวิธีแก้ปัญหาหญ้าตอนนี้ได้แล้วครับ ไช้ "ที่พรวนหญ้า" จัดการครับ เพราะนาหยอดข้าวมันขึ้นเป็นแถวเหมือนนาดำ(แต่เรียงไม่สวยเหมือนนาดำ)






โพสรูป "ที่พรวนหญ้า" ให้ดูหน่อยซี่ +ตอนที่กำลังทำงานมาด้วยยิ่งดี
เพราะนี่คืออีกเทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรงหนึ่งที่น่าส่งเสริม


โพสรูปลงเว้บไม่เป็น ใช้มือถือถ่ายรูป ส่งไปที่ "น้ำส้ม" (085) 055-7706 ก็ได้ แล้วจะดำเนินการให้






ยืนยัน เอารุ่นที่คุณ HarvestMoon ใช้
รุ่นนี้ แบบนี้หรือเปล่า เพราะมีหลายรุ่น หลายแบบมาก
ถ้าเป็นแบบ "ทำเอง" ยิ่งดีใหญ่


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
hans
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 28/04/2013
ตอบ: 146

ตอบตอบ: 26/06/2014 10:55 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.

สวัสดีค่ะลุงคิม ทิดแดง และ สมช. ทุกๆๆ ท่าน

ทิด เจ้าเครื่องสีฟ้าไม่ได้เรื่องเลย ป้าซื้อมาใช้แล้ว ตอนนี้กะลังคิดจะให้ช่างเขาทำดัดแปลงดู เขายังไม่ว่างทำ


ป้าห่านจ้า


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 27/06/2014 10:59 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

hans บันทึก:
.
.

สวัสดีค่ะลุงคิม ทิดแดง และ สมช. ทุกๆๆ ท่าน

ทิด เจ้าเครื่องสีฟ้าไม่ได้เรื่องเลย ป้าซื้อมาใช้แล้ว ตอนนี้กะลังคิดจะให้ช่างเขาทำดัดแปลงดู เขายังไม่ว่างทำ


ป้าห่านจ้า


.


สวัสดีครับลุงคิม ป้าห่าน

ป้าห่านเป็นคนวิจัย....ผมไม่กล้าวิจารณ์ คงเป็นไปตามนั้น....เค้าทำเพื่อขาย และไมใช่จะทำแค่อันสองอัน....แต่ทำเป็นโหลน่ะครับ

ป้าห่านนี่ ทุกรูปแบบ ทดลองใช้หมดทุกอย่าง ไม่เหมือนชาวนาโพธาราม ใครว่า อะไรดี ซื้อมาเก็บสะสม แบบการสะสมแสตมป์นั่นแล ฯ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 27/06/2014 11:24 am    ชื่อกระทู้: ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ว่าด้วยทำ Rotary Weeder ใช้เอง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ล้มสวน ทำนา รุ่นที่ 6 ว่าด้วย Rotary Weeder


บทที่ 3 – ตอนที่ 3 (4) –Rotary Weeder


ไปดูรูปเครื่องมือการทำเครื่องมือย่ำหญ้า(Rotary Weeder) ใช้เองกันหน่อยมั๊ยครับ ....

Introduction

รู้ที่ไปที่มากันก่อนนะครับ

ข้อมูลที่มา ผมเอามาจากหนังสือของ IRRI ที่เคยบอกให้คุณ DownLoad
เอาไปอ่านกันนั่นแหละ

ความจริง เครื่องย่ำหญ้า (Rotary Weeder) ท่านอาจารย์ Benito S. Vergara
เขียนบอกเอาไว้ในหนังสือของ IRRI ตั้งแต่ปี 1992 (พ.ศ. 2535)ผ่านมา 25 ปีมาแล้ว สุดยอดตำราวิชาการปลูกข้าว






(1) หนังสือเล่มนี้แหละครับ ที่ผมบอกว่า ใครอยากได้ ให้ Down Load
เอาไปอ่านจากลิงค์ข้างล่างเนี๊ยะ

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2731

สุดยอดตำราวิชาการปลูกข้าว หนังสือมี 229 หน้า มีบอกไว้หมดทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่ม
เตรียมแปลงนาจนถึงขนข้าวเข้าโรงสี ตีค่าเป็นเงิน หักลบต้นทุน ฟิลลิปปินส์
แบกกระสอบเงินกลับบ้าน แต่พี่ไทย ได้บัตรเดรดิต - ใบแจ้งหนี้ โก้ซะไม่มี กูได้เครดิตเป็นตัวแดงโว๊ย ……






(2) หนังสือเล่มนี้พิมพ์ตั้งแต่ปี 1992 (พ.ศ. 2535)ผ่านมา 25 ปีมาแล้ว
พิมพ์ออกขายเพียง 5,000 เล่มเท่านั้น





(3) ในหนังสือหน้า 139 มีรายละเอียดบอกไว้ชัดเจนว่า การใช้เครื่องตัวนี้
คุณจะต้องทำยังไง
และท่าน อาจารย์เรียกเครื่องตัวนี้ว่า Rotary Weeder ส่วนภาษาไทยใครจะเรียก
ยังไงไม่ว่ากัน
แต่ผมเรียกว่า เครื่องย่ำหญ้า(ให้จมดิน) ไม่ใช่เครื่องพรวนหญ้า .


คำว่า ย่ำ กับ พรวน มีความหมายแตกต่างคนละเรื่องเลย .

...ย่ำคือการใช้ตีน เหยียบให้จม แบบเราจะบอกว่า ..
เฮ๊ย มึงอย่าเข้าไปย่ำในแปลงผักของกูนา ขืนเขาไปย่ำผักกูมีหวังจมดินตายหมด


....การพรวน คือการใช้มือจับ จอบหรือจับเสียมขุดพลิกกลับหน้าดิน
เอาหน้าดินลงล่าง เอาใต้ดินขึ้นมาบน เพราะทำให้ดินร่วน แต่หญ้าไม่ตาย กลับจะงามสบายโก๋ไปซะอีกด้วย...


ลองทำดูก็ได้ เดินย่ำหญ้า กับ ใช้เสียมพรวนหญ้า ..ว่ามันเป็นอย่างไร จะได้รู้ว่า
นี่แหละ กูทำกับตีน (เพราะการย่ำมันต้องใช้ตีนย่ำ ส่วนการพรวนต้องใช้มือขุด)

ทำนองเดียวกับ ในหนังสือของ IRRI ท่านอาจารย์ เบนิโต้ เขียนไว้ว่า
Alternate Wet and Dry นักวิชาการคนไทยดันมาแปลตรง ๆ ตัวว่า เปียกสลับแห้งแกล้งข้าว ….-

ความหมายแท้จริง ที่ท่านอาจารย์เขียน มันหมายถึงพื้นภูมิศาสตร์ของประเทศฟิลิปปินส์
มรสุมมันพัดผ่าน ฝนตกหนัก น้ำมันท่วมขังในนามากเกินต้องการ จำต้องปล่อยน้ำออกหรือ
ทำให้น้ำในนาแห้งเป็นระยะ ๆ ลักษณะพื้นดินก็ไม่เหมือนกัน ...อ่านหนังสือไม่อ่านให้ตลอด นี่หว่า



ถ้านำมาใช้ปลูกข้าวในเมืองไทย คนละ Meaning

คำว่า Alternate Wet and Dry ถ้าจะใช้ในเมืองไทย ต้องแบบที่ลุงคิมพูด คือ
ให้มีน้ำหน้าดินในนาแค่น้ำเจ๊าะแจ๊ะ คือให้เปียกแค่หน้าดินพอแล้ว





(4)



(5)



(6)





(4 – 7) รูปเก่า เล่าใหม่....นาเมืองไทยแบบนี้ อยากให้ไอ้คนที่บอกว่า
เปียกสลับแห้งแกล้งข้าวน่ะ …มรึงลองมาทำวิธีแกล้งข้าวให้กรูดูหน่อยซิว่า มรึงจะทำยังไง





(8 ) เล่มนี้ อาจารย์ อภิชาต เถาว์โท กับอาจารย์ เสริมศักดิ์ อาวะกุล แปลจากหนังสือ IRRI เป็นไทย
ผมพยายามตามหา แต่หาไม่ได้ ....ผมรู้ว่าใครมีหนังสือเล่มนี้อยู่ แต่ไม่อยากให้ใครรู้
เค้าเอานอนหนุนหัวเอาไว้ เพื่อให้ ออสโมซีส เข้าสมอง เวลาตายแล้วจะได้เอาไปคุยให้ยมบาลฟัง





(9) เล่มนี้แปลจากหนังสือของ IRRI เช่นกัน ของกองการข้าว กรมวิชาการเกษตร
โดย อาจารยย์ ดร.ประสูติ สิทธิสรวง เป็นคนแปล....แต่มีหลัก ๆ เนื้อ ๆ แค่ 162 หน้าเท่านั้น





(10) มีรูปเขียนบอกวิธีการย่ำข้าวไว้ด้วย อยู่ในหน้า 149





(11) นี่เป็นหน้าปกหนังสือวิธีปลูกข้าว ระบบการเพิ่มผลผลิตข้าว (รพข)
System of Rice Intensification (SRI) (ปลูกข้าวต้นเดี่ยว) โดย แผนกส่งเสริม
ฝ่ายเกษตร สถาบันสถาบันแมคเคนเพื่อการฟื้นฟูสภาพ


เมืองไทยไม่ต้อนรับ เพราะไม่มีเงินค่าปากผี....แบบเดียวกับปฏิเสธการปลูกข้าวของ IRRI

ไหน ๆ ค้าก็ตั้งใจมาแล้ว ก็จำเป็นต้องทำ เค้าเลยขึ้นไปทดลองทำบริเวณที่เรียกว่า หนองบงกาย
อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณปี 2544 ต่อต้นปี 2545 หลังจากที่ทำได้ประมาณซักปีมั๊ง
เมื่อมอบหมายสั่งเสียให้ขาวนาแถบนั้นสานงานต่อ เค้าก็หอบเสื่อหอบหมอน ข้ามแม่น้ำโขง ไปประเทศลาว..

...น้องลาวบอก สบายดี มาอยู่บ้านเฮาได้เลย ....ลาวทำแบบเป็นล่ำเป็นสัน แบบเงียบ
ซุ่ม ลุ่ม ลึก...แล้วต้นทุนใครจะมากน้อยกว่ากัน

น้องลาวขายข้าวหอมมะลิลาว ขายคนกิน เกวียนละ)คิดเป็นเงินไทย) 12,000 – 13,000

พี่ไทยรับจำนำข้าวกข. ทำแป้ง เกวียนละ 15,000 เมื่อต้นทุน 15,000 แล้วจะขาย
เกวียนละเท่าไหร่จ๊ะ ...แล้วแมวโง่ที่ไหนใครจะซื้อข้าวทำแป้งเกวียนละแพงกว่า 15,000

…ผู้ใด๋ สนใจข้าวหอมมะลิลาว ถามป้าห่าน เด๊อ ป้าเด๊อ ....นำร่องไปก่อนแล้ว
คุณ boonsue กำลังเดินตาม

ทิดแดงได้มาจากสาวลาวที่มาทำงานแถวบางใหญ่ เอาไว้ขยายเผ่าพันธุ์แค่ สองสามกำมือเอง .

...ใครจะโง่เอาทีมาก ๆ ... ขืนเอาทีมาก ๆ ก๊อ อดคุยปรึกษาวิธีการปลูกและการดูแล
ข้าวหอมมะลิลาวน่ะซี้

ลองอ่านดูคำขอบคุณของสถาบนแคเคนซักนิด ผมอ่านแล้ว มันแสดงถึงความน้อยใจบางอย่าง
ที่รัฐบาลไทยไม่ได้ให้ความสนใจอะไรค้าเลย มีแต่ความร่วมมือจาก มชม. นิดหน่อย กับอาจารย์ไม่กี่ท่านเอง.......



คำ ขอบคุณ

หนังสือเรื่อง ระบบการเพิ่มผลผลิตข้าว (รพข) System of Rice Intensification (SRI) เล่มนี้ได้รวบ
รวมข้อมูลจากองค์กร Association Tefy Saina (ATS) ประเทศมาดากัสการ์
และข้อมูลจากประเทกศศรีลังกาเป็นหลักนอกจากนี้ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุม-กำจัดปู
และหอยจาก เครือข่าย Honeybee ประเทศอินเดีย และจาก Mindanao Baptist
Rural Life Center, ประเทศ ฟิลิปปินส์

ทางสมาคมเทคโนโลยีที่เหมาะสม (ATA) ได้มีส่วนสำคัญในการแปล สำหรับฉบับปรับปรุงนี้ได้
เพิ่มเติมข้อมูลจากเอกสารของคณะกรรมการคาทอลิคเพื่อการพัฒนา (คพน.)

ทั้งนี้และทั้งนั้นหนังสือเล่มนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดีนั้น ต้องขอขอบคุณ ท่านอาจารย์พฤกษ์
ยิบมันตะสิริ
อาจารย์ประจำ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาจารย์ทรงวุฒิ พรห์มขัดแก้ว
และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมและบริการสังคม สภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย เป็นอย่างสูง ที่ท่านได้
ช่วยเหลือในเรื่องการตรวจเอกสารและเรียบเรียงใจความของหนังสือเพื่อให้ผู้อ่าน อ่านแล้ว
เข้าใจง่าย ได้ใจความ

ปัจจุบันได้มีการวิจัยและทดลองในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสถาบันแมคเคนเพื่อ
การฟื้นสภาพ ทางคณะผู้เรียบเรียงหนังสือระบบการเพิ่มผลผลิตข้าว (รพข)
System of Rice Intensification(SRI) จึงขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมใน
หนังสือเล่มนี้เป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้

ทีมงานส่งเสริมการเกษตรสถาบันแมคเคนฯ
ตุลาคม 2544


เค้าไปโปรโมทที่น้องลาว(รอท้าแข่งกับพี่ไทย)สบายไปแล้ว .....





(12) ในหนังสือของ SRI หน้า 16 เค้าก็มีรูปบอกการใช้ Rotary Weeder เอาไว้
ด้วยเช่นกัน .....


อยากได้หนังสือชุดนี้ไปอ่าน Down Load เอาไป แล้ว พริ้นท์ออกมาอ่าน จะได้เป็นคนทำ
นาแบบคนฉลาดซะที มันเป็นไฟล์แบบ xx.pdf ไฟล์ครับ

ตอนนี้ก็มาถึง High Light ของเรื่องตอนนี้ละครับ.....
การทำเครื่องย่ำหญ้าใช้เอง ใครจะเป็นวิศวะฯ หรือวิศโว๊ย
ก๊อปปี้เอาไปพริ้นท์ เอาห่างเค้าดู ลองทำออกมา
ไม่ดีทำใหม่ดัดแปลงให้เหมาะกับนาจองคุณ .....
เรียกว่า ทำตามความเหมาะสมนั่นแหละ





(13)



(14)



(15)

(13 – 15) นี่แหละครับ เครื่องต้นแบบของ Rotary Weeder….
อย่าว่าผมลงรูปไม่ชัดนะครับ ที่ผม โหลดมา ก็ไม่ชัดแบบนี้ละครับ




(16)



(17)



(18 )



(19)



(20)

(16 – 20) ที่มา ที่ไป เอกสารอ้างอิงครับ ....ไม่รู้ว่าจะโดน ยำยำ อีกหรือเปล่า....





(21) ตำราปลูกข้าวให้ได้รวงมาก ของคนโบราณ การอ้างเวลาทางจันทรคติ อย่าคิดว่ามันไม่ดี
น่าหัวเราะ เพราะระยะเวลาตามขึ้นแรม มันจะมีผลต่อการงอกงาม ผลิดอกออกผล ของพืชทุกชนิด

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ถ้าเก่งจริง คุณลองปลูกข้าวไวแสงในช่วงนาปรังดูซีครับ
แล้วจะรู้ว่า ข้าวจะออกรวงให้คุณเดือนไหน ......



ขอบคุณครับลุง....




.




.




แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 02/07/2014 7:44 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 13, 14, 15 ... 18, 19, 20  ถัดไป
หน้า 14 จากทั้งหมด 20

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©