เกี่ยวแล้ว...ข้าวนาลุงคิม

[Aorrayong]

สรุป :
เปรียบเทียบชัดๆ แบบ ตัว : ตัว .... รวง : รวง.....สไตล์ ภาพถ่าย 1 ภาพ เท่ากับคำพูด 1,000 คำ

งานนี้ได้ข้อมูลประเภท "ก....ทำกับมีอ" อีกหลายอย่าง แล้วจะเล่าให้ฟัง (อ่าน) วันหลัง

ต้นทุน เนื้อที่ 1 ไร่ :
1. ค่าน้ำมันทำเทือก 2 รอบ..............40 บาท
2. ระเบิดเถิดเทิง (ดิบ) 5 ล. .............500 บาท (ราคาขายส่ง)
3. ค่ารถดำ + กล้า.........................1,300 บาท
4. ฮ.ม.น้ำดำ ไบโออิ 3 ล. ..............300 บาท (ราคาขายส่ง)
5. ฮ.ม.ไข่ ไวซ่า 1 ล. ....................100 บาท (ราคาขายส่ง)
6. ฮ.ม.ขยายขนาด ยูเรก้า 1 ล..........200 บาท (ราคาขานยส่ง)
7. แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี...........10 บาท (ราคาทำเอง)
8. สารสมุนไพร 500 ซีซี. ................20 บาท (ราคาทำเอง)
9. 0-42-65 ................................. 20 บาท
10. รถเกี่ยว.................................. 600 บาท

รวม 3,090 บาท

ได้ผลผลิต 127 ถัง
ราคาขายโรงสี 100 ถัง/8,700 เท่ากับ 9,000บาท (ประมาณ)

รวมต้นทุน 1 ไร่ = 9,000 - 3,090 = 5,910 บาท.........หรือ
รวมต้นทุน 4 ไร่ = 5,910 x 4 = 23,640 บาท

สังเกตุ :
ไม่มี.....ค่าไถ.....ค่าปุ๋ยเคมี....ค่ายาฆ่าหญ้า.....ค่าสารเคมีกำจัดโรค/แมลง/หอยเชอรี่/ปู/หนู.....ค่าอาหารเลี้ยงคนงาน


ปัญหาโลกแตก :

เงื่อนไขสัญญาลูกผู้ชาย
1..... ที่นาแปลงนี้ "ขอยืม" เพื่อนบ้านทำนาข้าว วัตถุประสงค์เพื่อให้ "คนงาน-ฝึกงาน" เรียนรู้เรื่องนาข้าวเต็มรูปแบบ และเพื่อ "ทดสอบ" ปุ๋ยทางใบสูตรขยายขนาดตัวใหม่ UREGA

2..... เจ้าของแปลงลงทุน ค่าตีเทือก. ค่ารถดำ. ค่ารถเกี่ยว.

3..... เราลงทุนค่าแรง. ค่าปุ๋ย/ฮ.ม./สารสมุนไพร. บำรุงต้นข้าว ตั้งแต่
ทำเทือก ถึง เกี่ยว

4..... ผลผลิตที่ได้เป็นของเจ้าของนาทั้งหมด

ปัญหาที่ไม่น่าเป็นปัญหา
1..... ตกลงกับเจ้าของแปลงนาแต่แรกว่าต้องตีเทือก 4-5 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน เพื่อกำจัดวัชพืช และเพื่อไม่ใช้ "ยาฆ่าหญ้า" เด็ดขาด.....ปรากฎว่าได้
ตีเทือกเพียง 2 รอบ อ้างว่า ไม่มีคน-ไม่มีเวลา แล้วว่า จะใช้ "ยาคุมหญ้า" เมื่อต้นข้าวถึงระยะกล้า......งานนี้จำใจหยวนๆ ย่ำเทือก 2 รอบก็ 2 รอบ เพราะ
พรุ่งนี้รถดำจะเข้าทำงานแล้ว แต่ยาคุมหญ้า "ห้ามเด็ดขาด" ทั้งๆที่รู้ว่าในเนื้อนายังมี "เหง้า + เมล็ด" วัชพืชไม่ใช่น้อย (.....ในใจยังนึกไม่ออกว่าจะ
จัดการกับวัชพืช พวกนี้อย่างไร.....)

2...... ประวัติดิน ...... ที่นาแปลงนี้ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา....ไถกลบฟาง 2 รุ่น แล้วเผาฟางต่อ 4 รุ่น รวม 6 รุ่น...เหตุที่ต้องเผาฟางเพราะต้องการประหยัด "ค่าจ้างรถไถโรตารี่"

3..... ประวัติการใช้สารเคมี ..... ใช้ ยาฆ่า-ยาคุมวัชพืช.....ใช้สารเคมีกำจัดแมลง มาตลอด 6 รุ่น หรือ 3 ปี.....

4..... ประวัติการใช้ปุ๋ยเคมี ..... ใส่ปุ๋ยเคมี 16-8-8 (25 กก.) 1 ครั้ง ใส่ 46
-0-0 (15 กก.) 1 ครั้ง ต่อไร่/รุ่น ทุกรุ่นตลอด 3 ปี

5..... ประวัติผลผลิต.....ได้ผลผลิต 100 (+) ถัง/ไร่ มาตลอด



ข้อมูลใหม่ ..... "ใช่เลย...." :
1.... ยาฆ่า-ยาคุมหญ้า พิชิตหญ้าและวัชพืชได้เพียงชั่วคราว หญ้าและวัชพืชทุกชนิดไม่ตายเพียงใบไหม้ ไม่นาน (1-2 เดือน) จะงอกใหม่เจริญเติบโต สมบูรณ์ แข็งแรง ขยายพันธุ์ได้ดีกว่าเดิม

2.... นาดำแตกกอดี โดย 1 กอ แตกใหม่ 20-25 ลำ.....ส่วนนาหว่าน ไม่แตก
กอ หรือแตกกอ 1-2 ลำ

3.... สารสมุนไพร ใช้แทนสารเคมี ได้เกิน 100 เปอร์เซ็นต์

4.... ปุ๋ยเคมี "ธาตุหลัก" เพียงอย่างเดียวไม่ใช่ตัวสร้างหรือเพิ่มผลผลิต.....ในขณะที่ "ธาตุหลัก + ธาตุรอง + ธาตุเสริม + ฮ.ม. + อื่นๆ " คือ ตัวสร้างและเพิ่มผลผลิต (คุณภาพ + ปริมาณ) อย่างแท้จริง.....สอดคล้องกับหลักการที่ว่า "ลดปุ๋ยเคมี เพิ่มปุ๋ยอินทรีย์และสารปรับปรุงบำรุงดิน" และ "ลดธาตุหลัก เพิ่มธาตุรอง-ธาตุเสริม-ฮ.ม.-และอื่นๆ" เป๊ะเป๊ะ....


เรื่องนี้ยังไม่จบ
ลุงคิมครับผม

[ott_club]

เนื้อหาอัพเดต อ่านกันหรือยังครับ

รวมต้นทุน 1 ไร่ = 9,000 - 3,090 = 5,910 บาท.........หรือ
รวมต้นทุน 4 ไร่ = 5,910 x 4 = 23,640 บาท

ส่วนนี้น่าจะหมายถึงกำไรนะครับลุง

ฮวกครับ

[Aorrayong]

จริงๆด้วย ต้องเป็นกำไร

[kimzagass]

ไม่ใช่ กำไร-ขาดทุน อะไรทั้งนั้น...... กำไร จริงๆ คือ ความสะใจเท่านั้น

ศึกนี้ยังไม่เลิก กำลังหาสมรภูมิใหม่ลงเล่นอีก

ไม่ตายไม่เข็ด
ลุงคิมครับผม

ป.ล.
ทำงาน 120 วัน ได้กำไรแค่เนี้ยยยย.....ขายปุ๋ยอาทิตย์เดียวได้มากกว่านี้อีกแน่ะ

ไม่ได้โม้.....