ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 31 AUG **สวนหย่อมในบ้าน,*ตะบองเพชร,*เขียวเสวยยางไหล,*รากุหลาบ,*ด้วงงวงมะพร้าว,*มะปรางดอกร่วง,*ปีบใบเหี่ยว,*มะม่วงอกร่อง,*กระรอกกินมะม่วง,*มะเหมี่ยวไม่ออกลูก,*รากหูกระจงหนุนบ้าน,*หมัดกระโดดไชเท้า,*ตัวยายาสูบ

[kimzagass]

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตรทางรายการวิทยุ 31 AUG

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------

http://www.fm91bkk.com/home91/index.php/2012-02-28-14-53-47/32-2012-04-29-06-51-16/693-2012-04-29-06-46-29

------------------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : อยากทำสวนหย่อมในบ้าน ออกแบบอย่างไร....?
ตอบ :
- ลักษณะพื้นที่ กว้าง-ยาว-กลม-เหลี่ยม-ขั้นบันได ปลูกอะไรลงไปแล้วให้มีพื้นที่เหลือสำหรับคนไว้บ้าง - พืชที่ปลูก ไม้ดอกไม้ประดับ ผักสวนครัว เป็นพุ่มกับพื้น เถาเลื้อย ไม้ในประเทศ ไม้ต่างประเทศ
- ภาชนะปลูก กระถาง กระบะ รูปทรงมาตรฐาน รูปทรงแฟนซี
- วัสดุปลูก ดิน ทราย เศษไม้
- การบำรุงแบบอินทรีย์เพียวๆ
- การป้องกันศัตรูพืช ใช้สารสมุนไพรเพียวๆ

** ตัวอย่างของจริงที่น่าศึกษา สนง.เขตหลักสี่ เป็นสวนดาดฟ้าบนหลังคาตึก

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ตะบองเพชรปลูกแล้วบำรุงให้น้ำ 2-3 วัน/ครั้ง ให้ไม่มาก เลี้ยงไว้ 2-3 อาทิตย์เริ่มตาย เป็นเพราะอะไร ? แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- วัสดุปลูกไม่เหมาะกับชนิดสายพันธุ์ บางพันธุ์ชอบทรายล้วนๆ บางพันธุ์ชอบทรายปนดิน บางพันธุ์ชอบดินล้วนๆ .... ต้องการน้ำพอหน้าดินชื้นถึงน้อยกว่าชื้น

- อุณหภูมิ บางพันธุ์ชอบแดด 100% อุณหภูมิปกติ บางพันธุ์ชอบแดด 50% อุณหภูมิปกติ บางพันธุ์ชอบแดด 80% อุณหภูมิสูงๆ

- บอระเพ็ดที่สวนหลวง ร.9 อยู่ในโรงเรือน หลังคาลดแสงลงได้ 50-80% อุณหภูมิ 35-40 องศา ขนาดคนร้อนอบอ้าว

- ตะบองเพชรพันธุ์ไทย ชอบแสงแดด 100% อุณหภูมิปกติ ออกดอกได้ตลอดปี
- ตอบองเพชรพันธุ์เขากวาง เอายอดโป๊ยเซียนมาเสียบติดได้

@@ วิธีการปลูกตะบองเพชร
1. หากก้นกระถางมีรูให้ใช้เศษกระถางแตกหรือเศษไม้เล็กปิดรูไว้ แต่อย่าปิดให้สนิทเพื่อให้สามารถระบายน้ำออกไปได้
2. ใส่อิฐเผาหักหรือกรวดลงไปให้หนาประมาณเศษหนึ่งส่วนสี่ของความลึกกระถาง

3. ใส่วัสดุปลูกแล้วนำต้นวาง โดยวางให้ลำต้นตั้งตรงและอยู่กลางกระถาง
(เคล็ดลับ : ขณะนำต้นลงปลูกอาจจะใช้กระดาษพันลำต้นเพื่อป้องกันอันตรายจากหนาม และป้องกันไม่ให้หน่อหรือต้นกระทบกระเทือน)

4. เติมวัสดุปลูกกลบที่โคลนต้นให้สูงจากรากประมาณ 1 ซม. ไม่ควรให้ระดับวัสดุปลูกต่ำกว่าขอบกระถางมากเกินไป เพื่อให้ต้นได้รับน้ำและอากาศพอเพียง

5. ใช้กรวดโรยปิดหน้าวัสดุปลูกให้ต่ำกว่าปากกระถางเล็กน้อย
(ประโยชน์ : 1. ป้องกันไม่ให้หน้าดินแห้งเร็วจนเกินไป 2. ป้องกันไม่ให้วัสดุปลูกกระเด็นขณะรดน้ำ 3. ป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้น)

6. เมื่อระยะเวลาผ่านไป หากวัสดุปลูกยุบลงไป ควรหมั่นเติมอยู่เสมอ เพื่อมิให้รากโผล่พ้นดินจนได้รับความกระทบกระเทือน

http://www.beautifulbytrees.com/knowledge-howtocactus.html

------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะม่วงเขียวเสวย ยางไหล มีมดมากินยางที่ไหล แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
* อาการยางไหลเป็นโรคประจำพันธุ์เขียวเสวย สาเหตุมาจากขาด “ธาตุรอง/ธาตุเสริม” อย่างรุนแรง แก้ไขโดย ...

– ตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่ง แสงแดดส่องจากยอดลงถึงพื้นทั่วทั้งต้น
- ทางใบ .... ให้ธาตุรอง/ธาตุเสริม เดือนละ 1 ครั้ง รวม 2 ครั้งให้แคลเซียม โบรอน 1 ครั้ง .... หาโอกาสให้ “น้ำตาลทางด่วน” เดือนละครั้ง

- ทางราก .... ใส่ยิบซั่ม ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ กระดูกป่น 4 เดือน/ครั้ง .... ให้น้ำหมักชีวภาพเดือนละครั้ง .... ให้ปุ๋ยเคมีสูตรตามระยะ 1 กก./ต้น/เดือน

- เขียวเสวยเป็นมะม่วงพันธุ์หนัก ออกดอกติดผลยากที่สุดในบรรดามะม่วงด้วยกัน หากบำรุงแบบ “สะสมความสมบูรณ์” ไม่ถึงขั้นก็จะไม่ออกดอก หรือออกเป็นดอกแล้วก็ร่วง

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : กุหลาบในกระถางพลาสติก กลีบดอกมีจุดสีขาว ใช้น้ำหมักฉีดทางใบได้ไหม ...?
ตอบ :
- ไม้ปลูกในกระถางพลาสติก เมื่อรากเจริญยาวไปถึงผนังกระถางแล้วมักหยุดการ
เจริญเติบโต ไม่เกาะกระถางไปเรื่อยๆ ผิดกับกระถางดินเผาที่รจากเมื่อเจริญยาวไปถึงผนังแล้วจะเริญยาวเกาะกระถางไปเรื่อยๆ จนเต็มกระถาง .... กระถางดินเผามีช่องว่างระหว่างเนื้อดินเผาที่อากาศซึมเข้าไปได้ ในขณะที่พลาสติกเนื้อแน่นไม่มีช่องว่างให้อากาศซึมผ่านเข้าไปได้ .... ทั้งนี้ ระบบรากพืชต้องการ “น้ำและอากาศ” เสมอ

- กลีบดอกกุหลาบเป็นจุดขาว นี่คือ อาการลักษณะทั่วๆไปของโรค คือ รา แบคทีเรีย ไวรัส เมื่อไม่รู้ว่าเชื้อโรคตัวนี้ชี่ออะไร ให้เด็ดดอกนั้นทิ้งไปเพื่อไม่ให้แพร่ระบาดไปยังดอกอื่น หรือส่วนอื่นของต้น จากนั้น กำจัด/ป้องกัน ด้วยสารสมุนไพรสูตรรวมมิตร “เผ็ดจัด + ร้อนจัด” คือ พริกเครื่องแกงเผ็ดในครัว +เพิ่ม กระเทียม หอม ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ กระชาย พลู ชะพู มากอย่างดีกว่าน้อยอย่าง โขลกไปด้วยกัน ได้มาแล้วก้อนเท่ากำปั้นมือ (สมมุต) แช่ในน้ำร้อนเดือดจัด 1-2 ล. ทิ้งไว้ให้เย็น กรองกากออก ผสมน้ำเปล่า 20 ล. ฉีดพ่นทั่วทรงพุ่ม ฉีดพ่นบ่อยๆ วันละครั้ง 2-3-4 วันติดต่อกัน

- น้ำหมักที่ถามมา ต้องถามย้อนก่อนว่า “ทำมาจากวัสดุอะไร” ถ้าทำแล้วเป็น “ปุ๋ยน้ำหมัก” ก็ใช้กำจัดเชื้อโรคไม่ได้ เพราะไม่ใช่ยา แต่ถ้าทำแล้วเป็น “ยาสมุนไพร” ก็กำจัดโรคได้ .... แยกให้ออกระหว่าง “ปุ๋ยกับยา” .... ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี, ยาสมุนไพร ยาเคมี, เป็นคนละเรื่องกัน

-------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะพร้าวใบขาดแหว่ง สีสนิมเหล็ก มียางไหลตามต้น แก้ไขอย่างไร...?
ตอบ :
- ด้วงงวงมะพร้าว หนอนหัวดำ .... กลุ่มพืชเป้าหมาย ได้แก่ มะพร้าว ตาลโตนด ตาลฟ้า ปาล์มหางกระรอก ปาล์กแวกซ์ จั๋ง หมากเขียว อินทผลัม

- เมี่อไม่รู้ว่าอะไรคือศัตรูมะพร้าวตัวนี้ ใช้หลักวิเคราะห์แบบกำปั้นทุบดิน คือ ใบมะพร้าวขาดแหว่งเกิดจาก แมลง/หนอน กัดกิน แมลงหรือหนอนตัวนั้นชื่ออะไรก็ช่างมัน ที่แน่ๆ แมลงตัวนั้นกินใบมะพร้าวเป็นอาหารตามสัญชาติญานการดำรงชีวิต เพราะชอบในรสชาติของใบมะพร้าวแต่ไม่ชอบพืชอื่นที่อยู่ใกล้เคียงจึงไม่กินนั่นเอง เมื่อแมลงตัวนี้ชอบรสชาดใบมะพร้าว เราก็จัดการเปลี่ยนรสใบมะพร้าว จากรสอะไรไม่รู้ (ไม่เคยกิน) เป็นรส “ขม/เผ็ด แถม เบื่อเมา” ด้วย นั่นคือฉีดพ่นสารสมุนไพร ขมจัด (บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร), เผ็ดจัด (พริก), เบื่อเมา (หนอนตายหยาก หางไหล กลอย น้อยหน่า สะเดา ฯลฯ) หรือฉีดพ่นเชื้อโรคประจำเผ่าพันธุ์แมลง คือ บีที. หรือ บูวาเรีย. เมื่อร่างกายแมลงได้รับเชื้อพวกนี้เข้าไปก็จะเป็นโรคแล้วตายไปเอง

*** ปัญหาอยู่ที่ .... 1. ทำสารสกัดสมุนไพร เป็นหรือไม่ ? .... 2. วิธีการใช้ บีที. บูวาเลีย. ทำอย่างไร ? และใช้อย่างไร ? .... 3. ต้นมะพร้าวสูง การฉีดพ่นทำอย่างไร ? ใช้อุปกรณ์เครื่องมืออะไร ?

– ปล่อยตัวห้ำ ตัวเบียน เข้ากัดกินแมลง
- บำรุงทางใบด้วย แม็กเนเซียม. สังกะสี. ยูเรีย จี. + ยาสมุนไพร .... ทางรากด้วยน้ำหมักชีวภาพที่ทำจากสัตว์ทะเลเพื่อเอา แม็กเนเซียม. สังกะสี. โซเดียม.

(....ไม่มีข้อมูลว่า แสงไฟสามารถล่อแมลงประเถทด้วงงวงได้หรือไม่ .... หากด้วงงวงชอบเล่นแสงไฟก็น่าจะทำ “แสงไฟ-กับดักกาวเหนียว” ดักกจัดด้วงงวงดูบ้าง...)

– สีสนิมเหล็ก .... เดาว่าน่าจะเป็นกลุ่มเชื้อรา ในสมุนไพรเผ็ดจัดที่ใช้เปลี่ยนรสใบมะพร้าว มีสารออกฤทธิ์กำจัดเชื้อราได้

- มียางไหล .... นั่นคือ ยางของต้นมะพร้าว หรือน้ำฝนละลายอะไรซักอย่างไหลลงมาหรือเปล่า เพราะเพิ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องยางต้นมะพร้าว .... ดูผิด วิเคราะห์ผิด หรือเปล่า

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะปราง ดอกดกแล้วร่วง แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- สาเหตุเกิดจากปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไม่เหมาะสมกับมะปราง เช่น....
* ดิน. ไม่สมบูรณ์แบบตามความเหมาะสมของมะปราง
* น้ำ. มากหรือน้อยเกินไป
* อุณหภูมิ. มะปรางไม่ชอบอากาศหนาวเย็น
* สารอาหาร (ปุ๋ย). บำรุงดอกช่วงหน้าแล้วด้วย 15-30-15, หน้าฝน 0-52-34, เอ็นเอเอ. และแคลเซียม โบรอน
* โรค. เชื้อราเข้าทำลายขั้ว

- ตรวจสอบหาสาเหตุดังกล่าวแล้วแก้ไขแบบ “กันก่อนแก้”

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ซื้อต้นปีบทองมาปลูก ปลูกแล้วใบเหี่ยว แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- สาเหตุน่าจะมาจาก ...
1. อาจจะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงขณะขนย้าย หรือขณะนำลงปลูก .... แก้ไขโดยการระมัดระวังในการขนย้าย ซื้อมาแล้วอย่าเพิ่งนำลงปลูกทันที แต่ให้อนุบาลในร่มต่อ จนกว่าจะแตกยอดใหม่ 2-3 ชุดจึงนำลงปลูก

2. ก่อนนำลงปลูก ให้เด็ดใบทิ้ง เหลือติดต้นไว้เพียง 5-10% ถ้าระบบรากเจริญปกติ เขาจะแตกยอดใหม่เร็ว หากไม่เด็ดใบเก่าทิ้งก่อน แล้วรอให้แตกยอดใหม่เองจากยอดเดิมต้องใช้ระยะเวลานาน ทั้งนี้ ขณะลงปลูกใหม่ ระบบรากยังไม่พร้อมทำงานแต่ใบยังคายน้ำตลอดเวลา เมื่อน้ำภายในต้นถูกคายออกไปจนหมด แล้วน้ำใหม่จากรากเข้าไปแทนที่ไม่ได้ ต้นก็ตาย เท่านั้นแหละ

------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : หาพันธุ์มะขามฝักใหญ่ได้ที่ไหน.....?
ตอบ :
- ไปหา “ป้าพรพรรณ” สนามหลวง 2 ตลาดนัดธนบุรี โซนต้นไม้ ซอย 6 อ้างชื่อลุงคิม ... ป้าพรพรรณ จะพาไปหาคนขายต้นไม้ที่นั่น แล้วช่วยเจรจาซื้อขายให้ การมีป้าพรพรรณ ไปด้วยจะช่วยป้องกัน (ระดับหนึ่ง) ไม่ให้คนขายหลอกลวง หรือย้อมแมว หรือยัดไส้ หากเราไปคนเดียวอาจโดนหลอกได้ มะยามยักษ์จะเป็นมะขามแคระก็ได้

- ถ้ามั่ใจตัวเองว่ารู้จักต้นพันธุ์มะขามยักษ์จริง ไปที่ตลาดต้นไม้จตุจักร เดินหาดีๆเดี๋ยวก็เจอ

– มะขามฝักษ์ใหญ่ ยังไม่มีชื่อเฉพาะที่รับรองจากราการ ส่วนใหญ่ตั้งชื่อกันเองเพื่อขายกิ่งพันธุ์ .... ขนาดฝักใหญ่ กว้างประมาณ 2 นิ้วมือ ยาวครึ่งศอกแขน เมื่อผลแก่มีเนื้อน้อยใช้ทำมะขามเปีกไม่ดี แต่ใช้ผลทำมะขามแช่อิ่มดีมากๆ เพราะเนื้อเยอะ

- มะขามเปรี้ยวที่ปลูกกันอยู่ทุกวันนี้เอาไปทำมะขามเปรี้ยวสำหรับแกงส้มเท่านั้น เก็บมาแล้วต้องมาแกะเมล็ด ทีละเมล็ดๆ กว่าจะได้เนื้อมะขามเปียก 1 กก. เสียเวลา เสียแรงงานไปเท้าไหร่ คุ้มกันเหรอ

- ประเทศบังคลาเทศบอกว่า มะขามเปรี้ยวเป็นไม้มรดก ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้ร้อยปี มีผลให้ลูกหลานเหลนโหลนเก็บเป็นฝักแห้งได้ตลอดปีตลอดชาติ เก็บฝักมะขามแห้งพร้อมเปลือกทั้งฝักส่งโรงงาน ๆส่งมะขามแก่ทั้งฝักพร้อมเปลือกและเมล็ดเข้าเครื่องบด บดแล้วกรองกากออกเหลือแต่น้ำ เอาไปใช้ในอุตสาหกรรม .... เหมือนอ้อย ส่งเข้าเครื่องทั้งลำครั้งละ 2-3-4 คันรถสิบล้อ ผ่านเรื่องแล้ว กากไปทางหนึ่งเอาไปทำปุ๋ย น้ำอ้อยไปทางหนึ่งเอาไปทำน้ำตาลทราย

---------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะม่วงอกร่อง อายุ 4-5 ปี ปีแรกๆ ลูกดก รสหวานดี ปีนี้ออกดอกแล้วดอกร่วง ลูกสุกแล้วไม่หวาน แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- ดอกร่วง ..... เพราะปัจจัยพื้นฐานปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไม่เหมาะสม เหมือนมะปราง
– ปีแรกลูกดกดี ปีหลังๆลูกไม่ดอก .... เพราะการบำรุงทั้งช่วงมีผลบนต้น และช่วงไม่มีบนต้นได้รับการบำรุงแต่ละช่วงไม่ถูกต้อง ไม่สม่ำเสมอ

- ลูกสุกไม่หวาน .... เพราะไม่ได้บำรุงด้วยปุ๋ยสูตร “เร่งหวาน” ต่อผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว .... ทางใบให้ 0-21-74, ทางรากให้ 13-13-21 แล้งงดน้ำเด็ดขาด

- สายพันธุ์มะม่วงอกร่อง เท่าที่จำได้ .... อกร่องพิกุลทอง อกร่องหอมทอง อกร่องเขียว อกร่องมัน อกร่องมันทะวาย อกร่องนวลจันทร์ทะวาย อกร่องไทรโยค อกร่องใหญ่ อกร่องทองอุไร อกร่องนวลจันทร์ อกร่องโบราณ อกร่องทอง อกร่องกะทิ อกร่องขาว อกร่องหยาดพิรุณ อกร่องภรณ์ทิพย์ อกร่องทอง อกร่องทองดำกลาย อกร่องเกษตร

– ทำมะม่วงแฟนซี ปลูกมะม่วงอะไรลงไปก่อน เลี้ยงให้โต มีกิ่งหลายๆกิ่งแล้วเปลี่ยนยอดกิ่งเหล่านั้นเป็น “อกร่อง” กิ่งละสายพันธุ์ก็จะได้อกร่องหลากหลายสายพันธุ์ตามต้องการในต้นเดียวกัน

-------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : กระรอกกินมะม่วง แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- กระรอกกินมะม่วง เพราะมะม่วงคืออาหารของเขา กระรอกต้องกินอาหาร เหมือนคนที่ต้องกินอาหาร นี่คือ สัญชาติญาณการดำรงชีวิต .... ถูกหรือผิด ถามพระเจ้า

- กระรอกกินมะม่วงเพราะชอบรสชาดของมะม่วง หอมหวานมันอร่อย หากเอาบอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร พริก ฉีดใส่ผลมะม่วง รสชาติมะม่วงจะเปลี่ยนเป็นขมและเผ็ด กระรอกก็จะไม่กิน พร้อมกันนั้น วางแตงกวา ถั่วฝักยาว ไส้ที่โคนต้นมะม่วง กระรอกก็จะลงมากินแล้วไม่สนใจมะม่วงอีกเลย

– การห่อผลไมอาจป้องกันสัตว์ฟันแทะอย่างกระรอกได้ พ่อเล่นกัดถุงห่อแล้วกินเนื้อ
มะม่วงในถุงหน้าตาเฉย นี่แสดงว่า คนไม่ได้ฉลาดปราดเปรื่องไปกว่ากระรอกเลย ว่ามั้ย

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ชมพู่มะเหมี่ยว ไม่ออกดอก ไม่ติดผล แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
* ชมพู่มะเหมี่ยวออกดอกติดผลได้ตลอดปีแบบไม่มีรุ่น ปฏิบัติง่ายๆดังนี้
- ตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่ง แสงแดดส่องจากยอดลงถึงพื้นแล้วบำรุง

- ทางใบ : ให้ฮอร์โมนไข่สูตรที่มีสารอาหารกลุ่มสะสมตาดอกและเปิดตาดอก (0-52-34, 13-0-46) 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน

- ทางราก : ใส่ยิบซั่ม, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, หญ้าแห้งคลุมโคนต้นหนาๆ 6 เดือน/ครั้ง, ใส่ 8-24-24 (ครึ่ง กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นกลาง, 2 กก.ต้นใหญ่) เดือนละครั้ง, ให้น้ำหมักชีวภาพเดือนละครั้ง, ให้น้ำสม่ำเสมอ พอหน้าดินชื้น

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : หูกระจงต้นโต รากหนุนบ้าน แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- ขุดดินห่างจากบ้าน 1 ม. แล้วตัดราก ส่วนที่มุดเข้าไปไต้บ้านแล้วจะไม่โตต่อแต่จะเน่าสลายไปเอง ส่วนที่ยังเหลืออยู่กับต้นจะแตกรากใหม่ ประมาณ 1-2 ปีก็ให้ตัดอีก

- หูกระจง ตัดยอดประธาน จะเผ่กิ่งกางออกข้างแบนราบสวยงามดี

-------------------------------------------------------------

จาก : (080) 733-28xx
ข้อความ : ลุงคิมคะ แปลงหัวไชเท้า 4 ไร่ โดนหมัดกระโดด หนอนหนังเหนียว หนอนคืบ หนอนกระทู้ ทำลาย ตั้งแต่หัวอยู่ไต้ดิน หัวอยู่บนดิน ใบแก่ ก้านใบ แปลงของหนู แปลงข้างบ้าน มันเล่นไม่เว้น แก้ไขยังดีคะ ช่วยหนูด้วย ไม่งั้นหนูจะผูกคอลุงคิมให้ตายเลย .... นะคะ นะคะ ลุงขา
ตอบ :
- ไม่รู้ ไม่เชื่อ ไม่เคยโคน ไม่เคยได้ข่าวข้างบ้านเลยเหรอ .... นี่คือศัตรูคู่อาฆาต หรือศัตรูประจำตระกูลไชเท้าโดยแท้ น้อยรายจะรอดได้ วันนี้ยังไม่มีเพราะยังไม่มา มาเถอะเอาไม่ทัน ไม่มีสารเคมีใดในโลกนี้ ไม่มีสารสมุนไพรใดในโลกนี้ ใช้แล้วทำให้ส่วนของไชเท้าที่เสียหายไปแล้ว ฟื้นคืนดีอย่างเหมือนเก่าได้ เสียแล้วเสียเลย เพราะฉะนั้น อย่าชะล่าใจ กันก่อนแก้ไว้เถอะ ไม่เสียหลาย....ถึงจุดนี้ ขอบอกเลยว่า ทุกพืชในโลกนี้ไม่อาจหลีกหนีสัจจะธรรม ธรรมชาติข้อนี้ไปได้

* หนอนหนังเหนียว หนอนคืบ หนอนกระทู้ :
- สมุนไพร ขมจัด (บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร ฟักข้าว) เบื่อเมา (น้อยหน่า กลอย สะเดา หางไหล หนอนตายหยาก กลอย) อย่างใดอย่างหนึ่งแต่หลายอย่างดีกว่าน้อยอย่าง ฉีดพ่นตอนค่ำ 3 วันติดต่อกัน ฉีดให้เปียกโชกไต้ใบบนใบลงถึงพื้น

- ยาเชื้อ บีที., บูวาเลีย. .... ปลุกเชื้อให้ตื่น : “น้ำ 1 ล. + น้ำมะพร้าว 100 ซีซี. + บีที. หรือ บูวาเรีย 1 ช้อน” คนให้เข้ากัน แล้วเติมออกซิเจน (ปลาตู้) นาน 36 ชม. ได้ “เชื้อแข็งแรง” พร้อมใช้งาน .... ใช้งาน : เชื้อแข็งแรง 20 ซึซึ. + น้ำ 20 ล. .... วิธีใช้ : ฉีดพ่นน้ำเปล่าก่อนให้เปียกโชกไต้ใบบนใบ เพื่อว่าเมื่อฉีดยาเชื้อ ๆจะไปกับน้ำเข้าถึงตัวหนอนได้ แล้วน้ำผสมยาเชื้อตาม ฉีด
พ่นตอนค่ำไม่มีแสงอาทิตย์ เพราะยาเชื้อไม่สู้รังสีอุลตร้าไวโอเรต

- ไอพีเอ็ม. .... กับดักกาวเหนียว + แสงไฟ ล่อแม่ผีเสื้อมาติดกับดัก ตายก่อนได้ไปวางไข่ .... ติดหลอดไฟในสระ ล่อแม่ผีเสื้อไปเล่นไฟแล้วตกน้ำตาย ให้ปลากิน .... ปลูกผักมีกลิ่นไล่แม่ผีเสื้อไม่ชอบ (ตะไคร้ ดาวเรือง ผกากรอง) แซมแทรกในแปลงไชเท้า

* หมัดกระโดด หรือ แมงกะเจ๊า :
- ใช้กากชา (สารซาโปนิน) ที่ใช้กำจัดหอยเชอร์รี่ในนาข้าว หว่านบางๆ บนพื้นทั่วแปลง เพื่อกำจัดลูกหรือตัวอ่อนที่อยู่ไต้ผิวดิน พร้อมกับน้ำกากชา (กากชาแช่น้ำ 24 ชม.) เจือจางน้ำ เปล่าฉีดทางใบบ่อยๆ เพื่อกำจัดตัวแม่บนต้นผัก .... ช่วงที่กำลังระบาดอาจะต้องให้วันต่อวัน ช่วงที่ยังไม่มาควรให้ล่วงหน้าเพื่อป้องกัน ....

– ใช้ยาฉุนเป็นผง โรยบางๆ บนพื้น แล้วใช้สารสมุนไพรยาฉุนเป็นน้ำ ฉีดทางใบ ฉีดโชกๆ อาบลงดิน ฉีดบ่อยๆ ฉีดซ้ำ 2-3 รอบ จะหายไปเอง

– กลิ่นในน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง แมลงหลายชนิดไม่ชอบ ได้กลิ่นแล้วใม่เข้าหา

@@ บำรุงไชเท้า :
- ทางใบ : ให้ไบโออิ (แม็กเนเซียม. สังกะสี) 5-10-40 (2 รอบ) สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน .... ให้ตั้งแต่เริ่มปลูกยืนต้นได้ถึงเก็บเกี่ยว .... +สารสมุนไพรด้วยทุกครั้ง .... ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ แบบกันก่อนแก้ บ่อยๆ

- ทางราก : เตรียมดิน (ดินต้องมาก่อน : ดินดี ใส่ปุ๋ยน้อย ต้นงาม .... ดินไม่ดี ใส่ปุ๋ยมาก ต้นไม่งาม) .... ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์. ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 5-10-40, บ่มดิน 20-30 วันจึงลงมือปลูก .... ปลูกแล้ว ยืนต้นได้แล้ว ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 ทุก 20 วัน ให้ตอนเย็นหรือค่ำดีกว่าให้ตอนกลางวัน ไม่ต้องให้ปุ๋ยเคมีเพิ่ม .... กลิ่นน้ำหมักชีวภาพ แมลงศัตรูพืชไม่ชอบ ได้กลิ่นจะหนีไปเอง

หมายเหตุ :
* สร้างภูมิต้านทาน : บำรุงต้นไชเท้าให้สมบูรณ์แข็งแรงอย่างแท้จริง ทั้งนี้ แมลงศัตรูพืช
ชอบเข้าหาพืชที่อ่อนแอมากกว่าพืชที่สมบูรณ์แข็งแรง ศัตรูพืชเข้าหาพืชแล้ว ในพืชที่อ่อนแอจะแพร่ระบาดเร็วและมากกว่าในพืชที่สมบูรณ์แข็งแรง (ฟ้าชายชาร์ล อังกฤษ / สารคดี ดิสคัพเวอร์รี่)

* แมงกะเจ๊า หรือแมลงศัตรูพืชอื่นๆ ตัวเล็กๆเท่าปลายไม้จิ้มฟัน ทำไมจึงมีเดชศักดาสู้กับสารเคมียาฆ่าแมลง ชนิดที่คนกินยังตายได้อย่างไม่สะทกสะท้านปานนั้น ก็เพราะคนใช้ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเพราะไม่สังเกตุ ไม่สังเกตุเพราะไม่ใส่ใจ ไม่ใส่ใจเพราะยึดยึด ยึดติดเพราะหลงตัวเอง ....ใช่หรือไม่ ?

- หลายแปลงบำรุงสูตรนี้ ไชเท้าหัวใหญ่มาก วางแผงขายสดไม่ออก ต้องส่งโรงงานทำไชโป๊ย โรงงานชอบเพราะได้เนื้อมาก เนื้อแน่น คุณภาพดี

– ลงทุนติดสปริงเกอร์แบบถอดประกอบได้ เริ่มปลูกประกอบสปริงเกอร์ ก่อนเก็บเกี่ยวถอดสปริงเกอร์ หรือติดสปริงเกอร์แบบ “ลอยฟ้า” ติดตั้งครั้งเดียวใช้งานได้ 10-20 ปี ไม่ต้องถอดเข้าถอดออก เรียกว่าติดตายกันเลย มีหม้อปุ๋ยหน้าโซน ให้ ปุ๋ย/ยาสมุนไพร บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการได้ แค่ให้สารสมุนไพร 2-3-4 รอบ ติดต่อกัน วันต่อวัน หรือวันเว้นวัน แมลงศัตรูพืชอะไรก็ไม่เข้า ไม่เฉพาะแต่ไชเท้าเท่านั้น แปลงผักอย่างอื่นรูปแบบแปลงก็เหมือนแปลงไชเท้า .... งานนี้ปลูกผักรุ่นเดียวก็ได้ทุนค่าสปริงเกอร์คืน เชื่อมั้ย ?

--------------------------------------------------------------

จาก : (083) 839-19xx
ข้อความ : ต้นยาสูบสดๆ ใช้แทนยาฉุนแห้ง อย่างไหนตัวยาแรงกว่ากัน .... ขอบคุณลุงคิมครับ
ตอบ :
- ในยาสูบมีสาร “นิโคติน” มีฤทธิ์กำจัดหนอน อาจจะเป็นเพราะหนอนมันเมานิโคตินหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้

- สารนิโคนติน.มีมากใน “ไส้ในลำต้นสด” ในขณะที่ เปลือกลำต้น ก้าน ใบ ราก ก็มีสารนิโคติน ที่หมอโบราณเรียกว่า “ทั้งห้าทั้งหก” นั่นแหละ

- อย่ากังวลว่าในสมุนไพรมีตัวยาหรือสารออกฤทธิ์น้อย มีไม่มากแล้วก็ไม่แรงเท่าสารเคมี
ยาฆ่าแมลง ก็เพราะคิดอย่างนี้นี่แหละ เกษตรกรเราถึงได้ “หนี้สินเต็มบ้าน” ฉิบหายวายป่วงกันทั้งประเทศ

แม้ว่า ตัวยาหรือสารออกฤทธิ์จะไม่มากแล้วก็ไม่รุนแรงอย่างที่คิด ในเมื่อ หนอน-แมลง-เชื้อโรค ตัวเล็กกระจิ๊ดริดแค่นั้น มันจะมีภูมิต้านทานอะไรนักหนา ขอให้ฉีดพ่นซ้ำซัก 2-3 รอบ แบบวันต่อวัน ดูซิว่า มันจะอึดได้ขนาดไหน .... ว่ามั้ย ฉีดสารสมุนไพร 100 ครั้ง สูญเสีย/เสียหาย น้อยกว่าฉีดสารเคมียาฆ่าแมลง 1 ครั้ง

ก็เพราะเกษตรกรมองแต่ข้อดีของสารเคมียาฆ่าแมลงไม่เคยมองข้อเสีย กับมองแต่ข้อเสียของสารสมุนไพรไม่เคยมองข้อดี จนกระทั่งกลายเป็นยึดติดนี่แหละ

@@ สารสมุนไพรที่ผ่านงานวิจัยแล้ว :
- สะเดา.มี .............. สารอะซิแร็คติน
- หนอนตายหยาก.มี .... สารราติโนน
– พริก.มี ............... สารแค็ปไซซิน

(... ที่เหลืออาจจะยังไม่มีงานวิจัย หรือมีงานวิจัยแล้ว แต่ไม่ได้เผยแพร่ หรือเผยแพร่แล้วเราไม่รู้....)

@@ สมุนไพรที่ไม่ผ่านงานวิจัย แต่ใช้ได้ผล :
- เบ็ดเสร็จรวมแล้วกว่า 200 ชนิด .... จำแนกเป็นประเภท “เผ็ด/ร้อน-ขม/เบื่อเมา-ฝาด-กลิ่น” แต่ละประเภทมีสรรพคุณของสารออกฤทธิ์ต่อศัตรูพืชกลุ่มเดียวกัน โดย....

* กลุ่ม “เผ็ด/ร้อน” ป้องกันกำจัดแมลงปากกัดปากดูด
* กลุ่ม “ขม/เบื่อเมา” ป้องกันกำจัดหนอน
* กลุ่ม “ฝาด/ร้อน” ป้องกันกำจัดโรค (รา แบคทีเรีย)
* กลุ่ม “กลิ่น” ขับไล่แมลงหรือแม่ผีเสื้อวางไข่

- หมอแผนโบราณสอนศิษย์ ให้เดินไปข้างหน้า 20 วา แล้วหาอะไรที่ไม่ใช่ยามาให้ที คนหนึ่งหาเจอ อั้ยนั่นไม่ใช่ยา อั้ยนี่ไม่ใชยา ศิษย์คนนี้สอบตก ..... อีกคนหนึ่งบอกว่า ไม่มีอะไรเลยที่ไม่ใช่ยา ทุกอย่างเป็นยาทั้งนั้น ศิษย์คนนี้สอบได้

- ในธรรมชาติของพืชทุกชนิด (ในโลก) มีสารในตัวเองสำหรับป้องกันศัตรูพืชอยู่แล้ว แม้ไม่สามารถกำจัดศัตรูพืชที่เข้ามาทำลายตัวเองได้ชนิดเด็ดขาดทันทีทันใดทันตาเห็นได้ แต่ก็ทำการทำลายพืชได้ช้าลงหรือทำลายไม่สำเร็จ แล้วศัตรูพืชนั้นก็ตายไปเองได้

- อย่ากังวลกับสารออกฤทธิ์หรือตัวยาในสมุนไพรมากนัก เมื่อไม่รู้ว่าต้องใช้ตัวไหน
โดยเฉพาะก็ใช้หลายๆตัวร่วมกัน แบบเหมาจ่ายหรือรวมมิตร ก็ได้

- ศัตรูพืช หนอน/แมลง/โรค เป็นสิ่งมีชีวิต “เกิด กิน แก่ เจ็บ ตาย ขยายพันธุ์” ภายไต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หากสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมก็จะทำให้การเกิดกินแก่เจ็บตายขยายพันธุ์ไม่สำเร็จ เมื่อไม่สำเร็จก็อยู่ไม่ได้ อยู่ไม่ได้ก็หนีไป ไม่หนีก็ตาย เป็นธรรมดา

- การสู้รบปรบมือกับศัตรูธรรมชาติไม่จำเป็นต้องใช้วิธี “ฆ่าโดยตรง” เท่านั้น เพราะสามารถใช้วิธี “ฆ่าโดยอ้อม” ได้

@@ การฆ่าโดยตรง :
* ตัวห้ำ ตัวเบียน
* เชื้อโรค (บีที., บูวาเลีย)
* ไอพีเอ็ม (กับดักแบบต่างๆ)

@@ การฆ่าโดยอ้อม :
* สร้างสภาพแวดล้อมให้ไม่เหมาะสม
* ทำให้ไม่สามารถขยายเผ่าพันธุ์ได้
* ทำให้ไม่มีแหล่งอาหาร ทั้งสำหรับตัวเองและทายาท
* เปลี่ยนพืชเพื่อตัดวงจรชีวิต

--------------------------------------------------------------

จาก : (092) 878-08xx
ข้อความ : ลุงที่นับถือ ผมได้อ่านการเก็บน้ำแช่เปลือกมังคุด เพื่อใช้กันเชื้อราจากเน็ต ลุงบอกว่า ต้องการเก็บนาน หัวเชื้อ + แอลกอฮอร์ 10 ของน้ำ + น้ำส้ม 10 ของแอลกอฮอร์ อ่านแล้วต้องรีบส่ง SMS ถึงลุง โปรดช่วยขยายเฉพาะส่วนนี้ด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง ผมจะรีบทำก่อนมังคุดหมด ขอบคุณครับ (ผมฟังทุกวัน ทั้งเช้าค่ำ) .... นิวัธน์ อัมพวา
ตอบ :
- ข้อมูลเดิม มาจากงานวิจัย .... ข้อมูลใหม่ มาจากประสบการณ์ตรง
* วิธีทำให้ได้สารออกฤทธิ์ ....... มังคุดกลุ่มรสฝาด แช่น้ำเปล่า แช่น้ำอุ่น นาน 1-2 วัน

* ต้องการเก็บนาน .... แช่แล้วกรองกากออกได้น้ำใส 10 ล. เติมสารกันบูด 1 ช้อน .... เปลือกมังคุดที่ได้มาแล้ว ต้องการเก็บนานให้ตากแห้ง เก็บในที่ระบายอากาศดี เปลือกมังคุดแห้งอยู่ได้นานนับปี .... ยังมีสมุนไพรกลุ่มรสฝาดเหมือนกันอีกหลายตัวน่าจะพิจารณานำมาบ้าง .... สารออกฤทธิ์ในเปลือกมังคุดกำจัดเชื้อรา สมุนไพรกลุ่ม “เผ็ดจัด-ร้อนจัด” ก็เอามาใช้แทน หรือใช้ร่วมได้

* ข้อมูลจาก ร.พ.อภัยภูเบศร์, องค์การเภสัชกรรม :
- สมุนไพรกลุ่ม เผ็ด/ร้อน สกัดเอาสารออกฤทธิ์ด้วยวิธี “ต้ม”
- สมุนไพรกลุ่ม “ขม/เบื่อเมา” สกัดเอาสารออกฤทธิ์ด้วยวิธี “แช่”
- สมุนไพรกลุ่ม “ฝาด” สกัดเอาสารออกฤทธิ์ด้วยวิธี “แช่”
- สมุนไพรกลุ่ม “กลิ่น” สกัดเอาสารออกฤทธิ์ด้วยวิธี “กลั่น”

--------------------------------------------------------------

.