ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 16 NOV *กล้ามะกรูดไม่โต,*ฟักทองใบไหม้,*หาซื้อเชื้อเห็ด,*บำรุงมะนาว,*แมลงกล้วยไข่, *มะลิดอกน้อย, * สำปะหลังริซซึ่ม, *เพลี้ยกระถิน, *ขโมยกล้ามะละกอ, *กุ หลาบ 20 ไร่,

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร รายการวิทยุ 16 NOV

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะกรูด เพาะเมล็ด 1 เดือน ต้นไม่โต แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- ปัญหาน่าจะมาจากระบบราก ช่วงนี้หน้าฝน ฝนชุก น้ำขังค้างในดิน บนผิวดินอาจจะไม่มีน้ำให้เห็น แต่ไต้ผิวดินถ้าแหวกผิวดินดูอาจจะมีน้ำ นั่นคือ รากแช่น้ำ ส่งผลให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต

- ปกติพืชที่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดจะมีรากแก้ว ต่างจากพืชที่ขยายพันธุ์ด้วยกิ่งตอนซึ่งจะมีแต่รากฝอย และรากแก้วมีความแข็งแรงกว่าจากฝอย กรณีนี้ถ้าเป็นมะกรูดกิ่งตอนอาจจะตายไปแล้วก็ได้

– มะกรูด มะนาว ส้มเขียวหวาน ส้มโอ ส้มเช้ง ส้มโชกุน เพาะเมล็ด ต้นโตขึ้นหนามใหญ่ยาวมาก ให้ผลกลายพันธุ์ ต้นโตช้าเมื่อเทียบกับต้นกิ่งตอน

- ปัญหานี้ให้รอดูต่อไป หมดฝนแล้วน้ำที่ขังค้างในดินก็จะหมดไปด้วย กล้ามะกรูดก็จะรอดด้วย .... คราวหน้าคราวหลังจะปลูกไม้ยืนต้น ให้ทำหลุมปลูกแล้วพูนดินปากหลุมให้เป็นโคกสูงๆ ดินปลูกที่เป็นโคกสูงๆจะช่วยสะเด็ดน้ำไม่ให้ขังค้างมากเกินไป

-------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ฟักทองใบไหม้ แก้ไขอย่างไร.....?
ตอบ :
- นี่คืออาการของเชื้อรา :
* เชื้อราตัวนี้อาจจะล่องลอยอยู่ในอากาศ แล้วเข้าไปเกาะแพร่ขยายพันธุ์ที่ใบฟักทอง แก้ไขด้วยการใช้สารสมุนไพร “เผ็ดจัด + ร้อนจัด” ฉีดหลายๆรอบ แบบวันเว้นวัน

* เชื้อราตัวนี้อาจจะเกิดในดิน แล้วไปตามท่อน้ำเลี้ยงในต้นไปสุดที่ใบ แก้ไขด้วยการปรับสภาพดินอย่าให้เป็นกรด โดยใส่ยิบซั่ม ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ กระดูกป่น พรวนดินพูนดิน หญ้าแห้งคลุมโคนต้น รดด้วยน้ำหมักชีวภาพที่มีจุลินทรีย์ และสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น

-------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : หาซื้อเชื้อเห็ดฟาง ที่ฉะเชิงเทรา ถามเกษตร ถามใครๆ ก็ไม่รู้แหล่งจำหน่าย.....?
ตอบ :
- ถามคนไม่รู้ก็คือไม่รู้ เป็นธรรมดา
- คำถามนี้ อาทิตย์ที่แล้วเคยแนะนำให้ไปติดต่อที่ “ฝ่าย ปชส. กรมส่งเสริม หรือกรมวิชาการเกษตร” ในเกษตรบางเขน ประตูด้านถนนติวานนท์ ไปขอข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อเห็ดฟาง แม้ว่าหน่วยงานนี้จะไม่ได้ทำเห็ดฟางหรือเกษตรใดๆ แต่เขารู้จักหน่วยงานทั่วประเทศพอที่จะแนะนำคุณได้ .... ที่สำคัญ ตั้งคำถามให้เป็นก็แล้วกัน

- ตัดสินใจบ้าบิ่นบินเดียว ข้ามาคนเดียว กินเหล้าขาวกับซกเล็ก เดินทางไปย่าน อ.หินกอง อ.บ้านนา จ.นครนายก ด้วยตัวเอง ย่านนั้นเพาะเห็ดโรงเรือนกันมาก ไปถามหลายๆบ้าน อาจจะมีซักบ้านนึงที่ให้คำตอบคุณได้

– ไป สนง.เกษตรบ้านคุณ ขอเบอร์โทร สนง.เกษตร หินกอง หรือบ้านนา นครนายก แล้วโทรไปถามเรื่องเห็ดฟางที่ สนง.เกษตรนั้นโดยตรง หรือขอเบอร์โทรของ สมช. กลุ่มหินกอง หรือบ้านนา นครนายก ที่ทำเห็ดแล้วถาม สมช.นั้นโดยตรงก็ได้

- แนะนำแค่นี้น่าจะพอแล้วมั้ง อย่าอยู่แต่ในบ้าน แล้วรอให้อะไรต่อมิอะไรตกทะลุหลังคาลงมาที่หัวเตียงนอนนะ

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะนาวแป้น บำรุงอย่างไร....?
ตอบ :
- ถามสั้น ตอบยาว .... พูดในวิทยุ พูดคล่องแบบไม่มีเอ้อนะครับอ้า อ้านะครับเอ้อ 3วัน 7คืน ไม่จบ .... เขียนหนังสือทั้งเล่มไม่จบ .... เรียน 4ปี จบ ป.ตรี ไม่จบ

- ถ้าการเกษตรมันง่ายจริง ถามกันที่นี่ ตอบกันที่นี่ ใช้เวลาแค่ 2-3-4 นาที รู้เรื่อง บรรลุ ทำได้เลย ป่านนี้เกษตรกรคงรวยกันหมดทั้งประเทศ ทั่วโลกแล้ว ว่ามั้ย

– ปรัชญามะนาวที่ควรต้องรู้แล้วปฏิบัติ คือ รู้มะนาวให้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล, ปลูกมะนาวตามใจมะนาว ไม่ใช่ตามใจคน.... ทำตามกระแส ทำตามประเพณี มีแต่ขาดทุน ขาดทุน และขาดทุน .... ถ้าจะปลูกต้นเดียวไว้ดูเล่นก็ปลูกไปเถอะ แต่ถ้าปลูกไว้กิน อันนี้ซื้อกินน่าจะถูกกว่ามั้ง แถมเป็นการช่วยเกษตรกรชาวสวนมะนาว ช่วยให้กระแสเงินของประเทศหมุนเวียนดี ส่งเสริมเศรษฐกิจอีกด้วย .... ถ้าจะปลูกขายเป็นอาชีพ อันนี้ต้องว่ากันหนักหน่อย เคยเห็นคนปลูกมะนาวเจ๊งมั้ย เคยเห็นคนปลูกมะนาวแล้วรวยมั้ย สองคนนี้ทำต่างกันอย่างไร ?

* เทคนิคการบริหารจัดการ ปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูก ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค พูดนาทีเดียวจบได้เลยเหรอ ?

* เทคนิคการปลูกมะนาวแบบ อินทรียน์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของมะนาว พูด 2 นาทีจบได้เลยเหรอ ?
* เทคนิคการตลาดแบบ การตลาดนำการผลิต, มะนาวนอกฤดู, มะนาวแจ๊คพ็อต

* เทคนิคการบริหารจัดการแบบ เครื่องทุ่นแรง, ผลผลิตเพิ่ม ต้นทุนลด อนาคตดี, แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม, สวนมะนาวผสมผสาน, สวนมะนาวเพื่อการท่องเที่ยว

– เคยมีผู้เปรียบเทียบไว้ว่า ....
ฟัง 100 ครั้ง ไม่เท่าอ่าน 1 ครั้ง....
อ่าน 100 ครั้ง ไม่เท่าดู 1 ครั้ง....
ดู 100 ครั้ง ไม่เท่าทำ 1 ครั้ง....
ทำสำเร็จ 100 ครั้ง ไม่เท่าล้มเหลว 1 ครั้ง....

– หัวใจนักปราชญ์สมัยโบราณ สุ จิ ปุ ลิ .... ฟัง คิด ถาม เขียน
– หัวใจนักปราชญ์สมัยปัจจุบัน .... ฟัง คิด ถาม เขียน .... อ่าน ดู ทำ เปรียบเทียบ ฟันธง

– เปิดอินเตอร์เน็ตส่วนตัวที่บ้าน หรือไปร้านเช่าอินเตอร์เน็ตให้ร้านเปิดให้ .... เปิดเรื่อง “การปลูกมะนาว” แล้วปริ๊นท์ออกมา อ่านแล้วอ่านอีก อ่านหลายรอบ แล้วค่อยมาถามใหม่ดีกว่า

-------------------------------------------------------------

-จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : แมลงทำลายผลกล้วยไข่ แก้ไขอย่างไร.....?
ตอบ :
- แมลง คือ แมลง ชื่ออะไรก็แล้วแต่ ขอให้เป็นแมลงจริงๆก็แล้วกัน มี 2 ประเภท คือ
* ประเภทไม่กินผลกล้วยหอม แต่จะวางไข่เพื่อให้เกิดหนอน แล้วหนอนนั้นกินกล้วยไข่ เพื่อการขยายเผ่าพันธุ์ .... ป้องกันกำจัดโดยฉีดพ่นสมุนไพร “กลิ่นจัด” เพื่อขับไล่แมลงไม่ให้เข้าวางไข่ กับฉีดสมุนไพร “เบื่อเมา” เพื่อทำให้ไข่ฝ่อ ฟักออกเป็นตัวหนอนไม่ได้ และเพื่อกำจัดตัวหนอนให้ตาย

* ประเภทกินกล้วยไข่เป็นอาหารโดยตรงเพื่อการดำรงชีวิต .... ป้องกันกำจัดโดยฉีดพ่นสมุนไพร “ขมจัด+เผ็ดจัด” ฉีดบ่อยๆ หลายรอบเท่าที่ขยัน

- แมลงแม่ผีเสื้อบางชนิดชอบวางไข่ที่พื้นดินโคนต้น เมื่อไข่ฟักออกเป็นตัวหนอนแล้ว ตัว
หนอนนี้จะไต่ขึ้นไปที่ผลกล้วยเองด้วยสัญชาติญาณ .... ป้องกันกำจัดโดย กวาดพื้นดินโคนต้นสะอาด ราดด้วยสมุนไพร “กลิ่นจัด + เบื่อเมา + ขมจัด + เผ็ดจัด” หลายๆรอบ

---------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะลิ ดอกน้อย ดอกเล็ก แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- ปัญหานี้บอกได้เลยว่าต้นไม่สมบูรณ์ สาเหตุเพราะขาดธาตุรอง/ธาตุเสริม โดยเฉพาะ แม็กเนเซียม. สังกะสี. แคลเซียม โบรอน. อย่างรุนแรง

- แม็กเนเซียม. สังกะสี. แคลเซียม โบรอน. ไม่ใช่ของวิเศษ ให้เพียงเท่านี้แล้วมะลิดีได้ดังใจปรารถนา เพราะสาเหตุลึกๆ หรือพื้นฐานจริงๆ เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณห ภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค อย่างใดอย่างหนึ่งไม่เหมาะสม หรือผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะปริมาณน้ำ ช่วงนี้หน้าฝน ฝนชุก น้ำไต้ดินโคนต้นมาก รากแช่น้ำ แก้ไขด้วยการใส่ ยิบซั่ม ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ กระดูกป่น พรวนดินพูนดิน หญ้าแห้งคลุมโคนต้นหนาๆ รดด้วยน้ำหมักชีวภาพที่มีจุลินทรีย์ และสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น

– รอ 1 เดือน แตกยอดใหม่ ได้ใบใบใหม่ แล้วค่อยถามมาใหม่ เพื่อเอาดอก

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : สำปะหลัง 18 ไร่ ยิบซั้ม 1 ตัน แกลบดิบ 4 ตัน ขี้ไก่ไข่ 4 ตัน พอไหม .....?
ตอบ :
- ในธรรมชาติไม่มีตัวเลขและสูตรสำเร็จ ตัวเลขหรืออัตราการใส่อินทรีย์วัตถุที่แจ้งในเอก สารตำราสารพัดนั้นเป็นพียงตัวเลขพื้นฐาน หมายความว่า ถ้าในเนื้อดินเดิม ไม่มีอินทรีย์วัตถุเลยหรือเท่ากับ 0% ก็ให้ใส่ตามที่เอกสารตำราระบุ แต่หากในเนื้อดินมีอินทรีย์วัตถุบ้าง ก็ให้ใส่เพิ่ม ใส่แล้วคิดปริมาณได้ราว 3-5-10% ก็พอ นอกจากนี้ ชนิดของพืชก็มีส่วน บางชนิดต้อง การมาก บางชนิดต้องการน้อย จึงเกิดคำว่า “ตามความเหมาะสม” ขึ้นมายังไงล่ะ

- กรณียิบซั่ม กับแกลบดิบ ถือว่า O.K. เพราะถ้ามากเกินไม่เป็นอะไร เพียงแต่ทุนจมเท่านั้น หมายความว่า รุ่นนี้ใส่มากแต่ส่งผลไปถึงรุ่นหน้า หรือรุ่นต่อๆ ไปได้อีก เท่ากับใส่รุ่นเดียวใช้งานได้ 2-3-4 รุ่น นับว่าคุ้ม

- กรณีขี้ไก่ไข่ ไม่ใช่ไก่เนื้อ นอกเป็นขี้ไก่เพียวๆแล้ว ยังเป็นขี้ไก่ใหม่อีกด้วย ขี้ไก่หรือมูลสัตว์ทุกชนิด ที่ดีต้องแห้งเก่าข้ามปี ถ้าเป็นมูลสัตว์ใหม่แล้วใส่มากจะเกิดก๊าซไข่เน่า (ไฮโดรเจน ซัลไฟด์)

** ระวัง อย่าอินทรีย์ตกขอบ อย่าคิมลิซซึ่ม นพรัตน์-นิตยาลิซซึ่ม สวพ. FM 91 ลิซซึ่ม

** ดินดี คือ ดินที่มี “อินทรีย์วัตถุ-ความชื้น-จุลินทรีย์” ชาวไร่สามารถทำได้ด้วยต้น ทุนไม่สูงนัก วิธีการก็คือ :

** ลงทุนด้วยเงิน .... เนื้อที่ 1 ไร่ จากต้นทุนค่าปุ๋ยเคมี 1-2 กส./ไร่ เอาเงินตัวนั้นมาซื้อ ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์ 1 กส. . ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย 1 กส., กระดูกป่น 10 กก., ขี้ไก่ 100 กก., แกลบดิบ 500 กก., น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 2 ล. จ่ายเงินน้อยกว่าแต่ประโยชน์ที่ได้จากรุ่นนี้ต่อไปถึงรุ่นหน้า รุ่นต่อๆ ไปอีกด้วย เมื่อดินดี ผลผลิตสำปะหลังก็ O.K เรียกว่า รุ่นเดียวก็ได้ทุนคืน

** ลงทุนด้วยเวลา ไม่เอาผลผลิต .... ปลูกพืชตระกูลถั่วบำรุงดิน ออกดอกแล้วไถกลบ 2 รุ่น ใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน ก็ได้ดินดี

** ลงทุนด้วยเวลา เอาผลผลิต .... ปลูกถั่วไร่ (เขียว-เหลือง-แดง-ดำ) เอาผลผลิตแล้วไถกลบเศษซาก ทำซ้ำ 2 รุ่น ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งดินดี

หมายเหตุ :
- จากเศษซากต้นถั่วธรรมดาๆ ก็ทำให้เป็นเศษซากต้นถั่วซุปเปอร์ โดยก่อนไถกลบใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้ไก่, แกลบดิบ, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง

– การไถกลบเศษซากต้นถั่วหรือเศษซากพืชอื่นๆ (แกลบดิบอยู่ในเนื้อดินได้นานนับ 10 ปี.... ข้อมูลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เสริมเติมเพิ่มบวกด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ลงไปไต้ดินลึกๆ เปรียบเสมือนเป็นฟองน้ำคอยซับน้ำเก็บไว้ให้ คราใดที่ฝนตกลงมาแม้ไม่มากนัก น้ำจะซึมลงไต้ดิน แล้วอยู่อย่างนั้นได้นานนับเดือน ต่างกับในเนื้อดินลึกที่ไม่มีอินทรีย์วัตถุเลย ฝนตกลงมาก็ไหลผ่านไปหมด แดดเผาแค่ 2-3-4 วัน ดินก็แห้งเหมือนเดิม

- การมีน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติถือเป็นโชคดี ปัญหาก็คือ จะนำน้ำนั้นมาให้แก่สำปะ หลังได้อย่างไร บรรทุกน้ำมาแล้วลากสายยางเดินฉีดไปตามร่องปลูก หรือใช้เครื่องฉีดพ่นเหมือนเครื่องดับเพลิง ฉีดมากๆ ฉีดโชกๆ ผ่านใบลงพื้นแทนฝนตกก็ได้ .... การติดสปริงเกอร์เหมือนสวนไม้ผล หัวสปริงเกอร์อยู่เหนือยอดสำปะหลัง (สูง 2 ม.) มีหม้อปุ๋ยหน้าโซน หรือหม้อปุ๋ยที่ปั๊ม ก็จะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องานมากขึ้น ด้วยแรงงานคนเดียวกับระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง .... ติดตั้งสปริงเกอร์แบบถอดประกอบได้ นั่นคือ ก่อนลงมือปลูกใช้สปริงเกอร์ปรับปรุงบำรุงดิน (บ่มดิน) และก่อนขุดก็ถอดเก็บไว้ใช้งานรุ่นหน้าได้เหมือนเดิม ต้นทุนค่าสปริงเกอร์ ไร่ต่อไร่ ไร่เดียว รุ่นเดียว ก็ได้ทุนคืน .... เส้นทางริมถนน จากตลาดท่ามะกาไปไร่กล้อมแกล้ม แปลงผักขนาด 10 ไร่ ติดสปริงเกอร์แบบถอดประกอบได้ ก่อนปลูกผักแต่ละรุ่น เตรียมแปลงเสร็จก็วางสปริงเกอร์ ก่อนเก็บผักก็ถอดออก ใช้แรงงาน 2 คน ทำ 2 วันเสร็จ ถอดเข้าถอดออก เป็นอย่างนี้มานานหลายปีแล้ว เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็น

– สำปะหลังที่ไม่มีการให้น้ำ ต้นเรียวเล็ก มีใบขนาดเล็ก จำนวนน้อย ที่ปลายยอด นอกจากผลผลิตได้น้อย โรคมากแล้ว เอาต้นไปทำพันธุ์ต่อก็ไม่ดี ผิดกับสำปะหลังที่ได้ “น้ำ+ปุ๋ย” ทั้งทางใบทางราก มีใบมากสังเคราะห์อาหารได้มาก ผลผลิตมาก โรคน้อย ต้นใหญ่สมบูรณ์ ใช้หรือจำหน่ายต้นพันธุ์ได้ราคาอีกด้วย

– การให้น้ำสม่ำเสมอ (น้ำเปล่า หรือ น้ำ+ปุ๋ย+ยา) จากใบลงพื้น เป็นสร้างความชื้นให้แก่แปลงสำปะหลัง นอกจากได้บำรุงสำปะหลังแล้ว ยังได้ความชื้นป้องกันเพลี้ยแป้งสีชมพูด้วย ทั้งนี้เพราะเพลี้ยแป้งสำปะหลังไม่ชอบความชื้น

-------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ยอดกระถินริมรั้ว มีเพลี้ยเป็นยางเหนียวเกาะยอด แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- เท่าที่มีข้อมูลทางวิชาการ คือ ด้วงงวงน้ำมัน กับ ด้วงก้นกระดก แมลงสองตัวนี้มีสารพิษในตัวเอง จะปล่อยออกมาเพื่อป้องกันตัวเอง หรือขับไล่ศัตรูเท่านั้น จะไม่ปล่อยเรื่อยราดโดยไม่จำเป็น .... แล้วบอกว่ามี “เพลี้ย” มียางเหนียว เลยเดาไม่ออกว่าเพลี้ยอะไร

- เดาอย่างมีหลักการและเหตุผล อาการยางเหนียว น่าจะ (เน้นย้ำ....น่าจะ) เกิดจากแมลงชนิดหนึ่งปล่อยสารเหลวออกมา แก้ไขด้วยการ “ขับไล่แมลง” ด้วยสารสมุนไพร “กลิ่นจัด” กับฉีดน้ำเปล่าบ่อยๆ เพื่อชะล้างสารเหลวนั่น

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : กล้ามะละกอฮอลแลนด์ สูงหัวเข่า โดนขโมย แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- น่าจะภูมิใจ เพราะถ้าของไม่ดีใครจะขโมย ว่ามั้ย
- อย่าไปว่าเขานะ บาป .... เพาะใหม่ ปลูกใหม่เถอะ แล้วเขียนป้ายบอก “ยินดีต้อนรับขโมย....” ซะเลย

--------------------------------------------------------------

จาก : (092) 728-46xx
ข้อความ : ลงกุหลาบไว้ 20 ไร่ อยากให้ดอกใหญ่ ใช้ปุ๋ยสูตรไหนครับ .... ขอบคุณครับ
ตอบ :
- นอกจากให้ได้กุหลาบดอกใหญ่แล้ว น่าจะคิดต่อ เดือนนี้ พ.ย. ต่อด้วย ธ.ค. ม.ค. แล้วก็ ก.พ. .... ก.พ. วันที่ 14 วันวาเลนไทน์ กุหลาบแจ๊คพ็อต

- เนื้อที่ 20 ไร่ น่าจะทำอะไรที่ตลาดเดียวกันกับกุหลาบ แต่ได้มากกว่ากุหลาบ นั่นคือ มะลิ จำปี รัก บานไม่รู้โรย

– จากกุหลาบ ไปที่มะลิ จำปี หรืออย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกุหลาบแต่อยู่ในกรอบ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ นั่นคือ NACKs เกษตรอุสาหกรรม น้ำหอมดอกไม้

- นี่ไม่ใช่สอนให้เพ้อฝัน แต่เป็นการสร้างนวตกรรมทางความคิดใหม่ เป็นการสร้าง GUID ELINE ให้กับเด็กรุ่นใหม่ ในทางที่จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีมูลค่าเพิ่ม พัฒนาจากตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไทย ไปสู่ตลาดโลกแห่งอนาคตต่างหาก

- ในโลกแห่งความเป็นจริง เกษตรกรไทย ทำอาชีพเกษตรด้านปลูกพืชมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ไม่มีความรู้ทางวิชาการเรื่องการเกษตรที่ทำเอาเลย ทั้งๆที่โลกการสื่อสารในปัจจุบันจะกว้าง ไกล ครอบคลุมพื้นที่ไปทั่วทุกตารางนิ้ว รับสื่อแล้วขาด คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ด้วยเหตุและผลเพื่อความเป็นตัวของตัวเอง แต่กลับเชื่อทันทีทันใด ไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร แม้ว่าราคาแพงแสนแพงแค่ไหนก็กล้าล้วงกระเป๋าจ่าย ซื้อมาแล้วใช้ได้ผลคุยแปดบ้านว่าข้าเก่งข้าแน่ แต่ถ้าใช้แล้วไม่ได้ผลกลับเงียบกริ๊บ ไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวเสียเหลี่ยมเสียเชิง

- เป็นไปได้ไงที่เกษตรกรกรด้านพืชไม่รู้ว่า สารอาหาร หรือปุ๋ย หรือฮอร์โมน อย่าง 21-7-14 จี.เกรด, ไซโตไคนิน, ไคติน ไคโตซาน, อะมิโน โปรตีน, น้ำตาลทางด่วน, ฮอร์โมนธรรม ชาติขยายขนาด, อย่างใดอย่างหนึ่งที่ว่ามานี้ เอาแค่เบื้องต้นก่อน จากนั้น คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ จะ “ทำเองหรือซื้อ” ก็ว่าไป .... ประเด็นก็คือ แค่นี้ยังคิดไม่เป็นหรือไม่ยอมคิด แล้วจะพัฒนาไปสู่ระดับ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ ได้ยังไง

- ที่นี่ รายการนี้ สอนให้ “คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ” สูตรสำเร็จทุกสูตรบอกมา 20 ปีแล้ว พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีเลือกซื้อ ไม่ประสบความสำเร็จ .... ที่อื่น รายการอื่น ทั้งวิทยุ ทีวี. บอกสูตร สูตรใครก็สูตรใคร ถามว่า ประสบความสำเร็จไหม ? ทำไมยังหนี้ สินเต็มบ้านเต็มเมือง

- ยกตัวอย่าง ที่นี่โฆษณาไบโออิ คำว่า ไบโออิ เป็นคำพูดที่ใช้เพื่อสื่อการกัน แต่ในโฆษณานั้นบอกเลยว่า ในไบโออิ.มีแม็กเนเซียม. สังกะสี. เป็นส่วนผสมหลัก กับมีอย่างอื่น เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก คนฟังก็ยังบอกว่าโฆษณาโฆษณา มันก็โฆษณาเหมือนๆกันนั่นแหละ อันนี้ถ้าคุณเอา แม็กเนเซียม. สังกะสี. มาผสมกันแล้วลองใช้ คุณก็จะรู้ทันทีว่า โฆษณาไม่เหมือนกัน .... แต่ผลิต ภัณฑ์ทำนองเดียวกันของบริษัทอื่น นอกจากไม่บอกส่วนผสมแล้วยังบอกว่า “เป็นสูตรลับ” คุณกลับเชื่อสนิท ล้วงกระเป๋าซื้อเลย

- คำถามเดิม คำตอบเดิม คนถามใหม่....


จาก : (087) 302-38 xx
ข้อความ : ฝนเริ่มมา กุหลาบเริ่มออกดอก ใส่กระดูกป่นลงไปแล้วดอกดกมาก อยากให้ดอกใหญ่ๆ ใช้ปุ๋ยลุงคิมสูตรไหนคะ .... ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
- ฟันธง .... ต้องการดอกใหญ่ก็.... ทางใบ : ไบโออิ (Mg Zn) + ยูเรก้า (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโน โปรตีน) 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน .... ทางดิน : ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ 4 เดือน /ครั้ง, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 ทุก 2 เดือน, พรวนดินพูนดินโคนต้น ทุก 3 เดือน, ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าชื้น (ระเบิดเถิดเทิง : กุ้งหอยปูปลาทะเล เลือด ไขกระดูก นม น้ำมะพร้าว อินทรีย์ .... NPK, Mg Zn TE เคมี)

@@ กุหลาบแจ๊คพ็อต (หนังสือถ่ายเอกสาร “เกษตรแจ๊คพ็อต”)
* กุหลาบพันธุ์ดี ยิ่งพันธุ์ดีมากเท่าไรระบบรากยิ่งอ่อนแอมากเท่านั้น แก้ไขโดยการเปลี่ยนยอดบนตอ "กุหลาบป่า”

* ปลูกในโรงเรือน หลังคาซาแลน ควบคุมแสงได้ จะให้ผลผลิตที่ดีกว่าปลูกกลางแจ้ง
* การปล่อยให้ดอกกุหลาบแก่แห้งคาค้นแล้วรอให้ร่วงเอง กุหลาบกิ่งนั้นจะออกดอกใหม่ช้ามาก แก้ไขด้วยการตัดดอกเมื่อเห็นว่าแก่จัด ใช้ประโยชน์ ไม่ได้แล้วทิ้งไป จากนั้นประมาณ 30-45 วันจะออกดอกใหญ่ ณ ที่เดิม

* กุหลาบก้านดอกยาว : ทำโดยโน้มกิ่งประธานลงระนาบกับพื้น มีเชือกผูกยึดไว้ ตัดปลายกิ่ง ริดใบในกิ่งออกหมด แล้วบำรุงเรียกใบอ่อน ก็จะเกิดกิ่งกระโดงใหม่ทั่วกิ่งประธานที่โน้มกิ่งแล้วตัดนั้น จำนวนกิ่งกระโดงใหม่ทั้งหมด เลือกกิ่งที่เหมาะสมไว้ 2-3 กิ่ง ที่เหลือตัดทิ้งทั้งหมด แล้วบำรุงเรียกใบอ่อนไปเรื่อยๆจนได้ความสูง (ยาว) กิ่งตามต้องการ จึงบำรุงด้วยสูตรเปิดตาดอก...ถึงช่วงจะเอาดอกให้บำรุงด้วย “น้ำ 20 ล.+ ไทเป 20 ซีซี.” ทุก 5-7 วัน

* กุหลาบดอกไม่มีก้าน : ตัดแต่งกิ่งปกติ ให้ “น้ำ 20 ล.+ ไทเป 20 ซีซี.” ใช้สูตรเดียวได้เลย
* ชอบดินเหนียวมีอินทรีย์วัตถุ มากกว่าดินร่วนมีอินทรีย์วัตถุ
* ชอบความชื้นน้อยๆ สม่ำเสมอ
* ชอบดินปลูกที่คลุมด้วยหญ้าไซ
* ตอบสนองต่อกระดูกป่น ดีมากๆ
* ต้องการแสงแดด 100%

* ในสภาพอุณหภูมิสูง (ร้อน/ภาคกลาง 15 วันออกดอก) ดอกเจริญเติบโตเร็วกว่าสภาพอุณหภูมิต่ำ (หนาว/ภาคเหนือ 20 วันออกดอก)

* ต้องการให้ก้านดอกยาวๆ เมื่อยอดเริ่มเกิดขึ้นแล้ว หลังสิ้นแสงอาทิตย์ให้แสงไฟเพื่อเพิ่มเวลาแสง ก้านนั้นจะยาวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ความยาวก้านตามต้องการแล้วก็หยุดให้แสง แล้วให้ปุ๋ยเปิดตาดอก ก็จะได้กุหลาบก้านยาว


@@ การตัดแต่งกิ่ง :
1. ตัดแต่งกิ่งแบบให้เหลือกิ่งไว้กับต้นยาว คือ ตัดแต่งกิ่งออกเพียงเล็กน้อย ให้เหลือกิ่งที่มีใบสมบูรณ์ไว้มากๆ .... กิ่งที่ต้องตัดออก คือ กิ่งแห้งตาย กิ่งเป็นโรคหรือถูกแมลงทำลาย กิ่งไขว้ กิ่งชี้ลงล่าง กิ่งชี้เข้าในทรงพุ่ม กิ่งเอนไม่เป็นระเบียบ เลือกตัดกิ่งที่ตัดแล้วให้ตาอยู่ด้านบนของกิ่งหันออกนอกพุ่ม เพื่อให้กิ่งที่แตกใหม่หันออกนอกทรงพุ่ม และตัดกิ่งให้เฉียง 45 องศา.... การตัดแต่งกิ่งแบบนี้เหมาะสำหรับต้นที่มาจากกิ่งตอน หรือกิ่งชำ

2. การตัดแต่งกิ่งแบบให้เหลือกิ่งไว้กับต้นสั้น คือ ตัดแต่งกิ่งจนเหลือกิ่งบนต้นสูงจากพื้นดิน 30-45 ซม. เหลือกิ่งไว้ 3-4 กิ่งเท่านั้น การตัดแต่งกิ่งแบบนี้เหมาะสำหรับต้นที่ปลูกจากต้นติดตาเพียงเท่านั้น .... ถ้าต้นติดตานั้นมีอายุน้อยกว่า 2 ปี ให้ตัดแต่งกิ่งแบบแรก แต่ต้องตัดเพิ่มเติมอีก คือ กิ่งแก่ที่ไม่ต้องการ

* ระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการตัดแต่งกิ่ง คือ ต้นฤดูฝน เมื่อตัดแต่งกิ่งแล้วควรใช้ปูนกินหมากทาบนรอยแผลเพื่อป้องกันเชื้อรา


@@ การตัดดอก :
- การตัดดอกกุหลาบ ควรให้มีกิ่งเหลืออยู่อย่างน้อย 2 กิ่งเสมอ ไม่ควรตัดชิดโคนกิ่ง และเมื่อตัดดอกออกจากต้นแล้วให้รีบแช่ก้านดอกในน้ำทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำจากกิ่ง

- ตัดดอกตูมเกินไป ดอกจะไม่บานต่อ และคอดอกจะโค้งงอง่าย .... ถ้าตัดดอกที่บานเกินไป ดอกจะบานเร็ว และมีอายุการปักแจกันสั้น


@@ เตรียมดิน เตรียมแปลง :
- ไถดะ ขี้ไถใหญ่ๆ ตากแดด 15-20 แดดจัด .... ไถแปร ทำแปลงลูกฟูก ใส่ยิบซั่ม, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) /ไร่ รดทั่วสันแปลงลูกฟูก พรวนดินให้คลุกเคล้าเข้ากันดี แล้วคลุมสันแปลงด้วยหญ้าแห้งฟางแห้งหนาๆ บ่มดิน 15-20 วัน

- ระหว่างบ่มดิน ให้น้ำพอหน้าดินชื้น 2-3 วัน/ครั้ง


@@ กุหลาบวาเลนไทน์ :
* การเตรียมต้น :
- บริหารจัดการ “ปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูก” (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) อย่างถูกต้องเหมาะสมสม่ำเสมอ

- บำรุงต้นให้ความสมบูรณ์อยู่เสมอตลอดปีเพื่อให้ต้นได้ “สะสมความสมบูรณ์” ไว้ล่วงหน้า
- สารอาหารพื้นฐานต่อการออกดอก คือ “สังกะสี” กับ “โบรอน” แล้วเสริมด้วย “น้ำตาลทางด่วน” ตามความเหมาะสม

– ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ ปีละ 2 ครั้ง
- คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆ เต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่ม ล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง หรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน /ครั้ง

@@ การบำรุงก่อนบังคับ :
* ทางใบ :
- ให้ “น้ำ 20 ล. + ไบโออิ 20 ซีซี.” 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน
– ให้น้ำตาลทางด่วน เดือนละครั้ง
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรบ่อยๆ

* ทางราก :
- ใส่ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย กระดูกป่น ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ พรวนดิน พูนดินโคนต้น คลุมโคนต้นด้วยหญ้าแห้ง
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (1 ล.) /ไร่ /เดือน
- ให้น้ำสม่ำเสมอ พอหน้าดินชื้น


@@ การบังคับ :
- ต้องการตัดดอกวันที่ 14 ก.พ. ให้เริ่มลงมือปฏิบัติการ 1 ม.ค.
– เผื่อเหลือเผื่อขาด หรือเผื่อขาดเผื่อเกิน แบ่งเป็นโซน แต่ละโซนลงมือปฏิบัติการก่อนวันตัดดอก 1- 2-3-4–5 วัน และหลังวันตัดดอก 1–2–3 4-5 ตามลำดับ เพื่อให้ได้อายุดอกต่างกัน

* บำรุงเรียกก้านดอก : ให้ "น้ำ 20 ล. + ไบโออิ 20 ซีซี. + จิ๊บเบอเรลลิน 20 ซีซี." หลังตัดแต่งกิ่ง ทุก 3-5 วัน จนกว่าจะได้กิ่งขนาดยาวตามต้องการ

* บำรุงเรียกดอก : ให้ "น้ำ 20 ล. + ไทเป 20 ซีซี." เมื่อได้ขนาดยาวของก้านดอกตามต้องการแล้ว 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 3-5 วัน

* วิธีเรียกก้านดอกยาว
- เลือกกิ่งกลางอ่อนกลางแก่ (กิ่งประธาน) โน้มกิ่งลงระนาบกับพื้น ยึดกิ่งกับหลัก ให้มั่นคง ตัดปลายกิ่งที่รอยต่อระหว่างกิ่งแก่ (เปลือกสีเทา) กับกิ่งอ่อน (เปลือกสีเขียว) ตัดกิ่งเล็กกิ่งน้อยด้านในออกให้หมด หรืออาจจะเหลือ 1-2 กิ่งในจำนวนกิ่งทั้งหมด 10 กิ่ง ก็ได้

- ตัดปลายกิ่ง (ประธาน) และกิ่งเล็กกิ่งน้อยแล้วบำรุงเรียกกิ่งใหม่ด้วย "น้ำ 20 ล.+ ไบโออิ 20 ซีซี. + จิ๊บเบอเรลลิน 20 ซีซี." ทุก 3-5 วัน .... พร้อมกับให้ทางรากด้วย "น้ำ 100 ล. + ปุ๋ยน้ำชีว ภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.) + 25-5-5 (500 กรัม)" ทุก 5-7 วัน ตอนเย็น ที่โคนต้นบริเวณทรงพุ่ม

- หลังจากให้ "ไบโออิ + จิ๊บเบอเรลลิน" ไปแล้ว ที่ข้อของกิ่งประธานจะเกิดยอดใหม่จำนวนมาก ให้คัดเลือกไว้ 1-2-3 ยอด จัดระยะให้ห่างเท่าๆ กันเพื่อเฉลี่ยสารอาหาร แล้วบำรุงด้วยสูตรเดิมต่อไป ซึ่งกิ่งที่แตกใหม่จะยาว (สูง) ขึ้นเรื่อยๆ เป็นกิ่งตรง ขนาดใหญ่อวบอ้วน ในต้นที่มีความสมบูรณ์มากๆ แสงแดด/อุณหภูมิ เหมาะสม อาจได้ความยาวกิ่ง 80 ซม. - 1 ม.

- เมื่อได้กิ่งที่มีขนาดยาวตามต้องการแล้ว ให้ลงมือเปิดตาดอกด้วย "ไทเป" กุหลาบกิ่งนั้นก็จะออกดอก .... กุหลาบก้านยาวพิเศษ (80 ซม.) ราคาสูงกว่ากุหลาบก้านสั้น (20-30 ซม.) หลาย เท่าตัว

* ต้องการตัดดอกวันที่ 14 ก.พ. ให้ลงมือตัดแต่งกิ่งในวันที่ 1 ม.ค. ถ้าใน ธรรมชาติมีตัวเลขและสูตรสำเร็จก็จะได้ดอกในวันที่ 14 ไม่ผิดพลาด.... เมื่อในธรรมชาติไม่มีตัวเลขและสูตรสำเร็จ ก็ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาด โดยตัดแต่งกิ่งวันที่ 29 - 30 - 31 ม.ค. หรือ +/- 3 ของวันตัดดอก แบบนี้ก็น่าจะได้ดอก 25-50% ของกุหลาบทั้งสวนตรงวันวาเลนไทน์พอดี

* วิธีเก็บรักษาดอก
- นำไปแช่ในน้ำยารักษาสภาพดอกไม้ อุณหภูมิ 2 องศา ซ. ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เก็บได้นาน 4-5 วัน
- ใส่กล่องรองด้วยพลาสติกเก็บไว้ในห้องเย็น อุณหภูมิ 0.5-3 องศา ซ. เก็บได้นาน 1-2 สัปดาห์

- ยืดอายุดอกกุหลาบ (1) : น้ำสะอาด 1 ล. + น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา + น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนชา
- ยืดอายุดอกกุหลาบ (2) : น้ำสะอาด 1 ล. + กลูโคส 5 ซีซี.
- ยืดอายุดอกกุหลาบ (3) : น้ำสะอาด 1 ล.+ ไฮเตอร์ 1-2 ซีซี.
- ยืดอายุดอกกุหลาบ (4) : น้ำสะอาด 1 ล. + น้ำมะพร้าวแก่ 50 ซีซี.
- ยืดอายุดอกกุหลาบ (5) : น้ำสะอาด 1 ล. + DICA 30 มก. + ซูโครส 5 ซีซี.

- ใช้กรรไกรหรือมีดคมๆ ตัดเฉียงแบบปากฉลาม นำจุ่มทันที จะช่วยให้ดอกสดนาน 7-10 วัน


** กุหลาบย้อมสี :
* อุปกรณ์ :
- ดอกกุหลาบสีขาว
- สีผสมอาหาร
- แก้วน้ำ
- น้ำอุ่น
- น้ำส้มสายชู
- กลูโคส
- น้ำยาฟอกผ้าขาว

* วิธีทำ :
1. เลือกกุหลาบีขาวบริสุทธิ์ สดใหม่สมบูรณ์ บานมาก/น้อยตามต้องการ ดอกที่บานมากกว่าจะได้ผลดีกว่าดอกบานน้อยกว่า

2. ใช้น้ำสะอาด 1 ล. + สมสายชู 2 ช้อนโต๊ะ + กลูโคส 2 ช้อนโต๊ะ + น้ำยาฟอกขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ ใส่ทีละอย่างคนให้เข้ากันดีก่อนจึงใส่ตัวใหม่ ใส่ครบแล้วนำลงผสมกับน้ำอุ่น 4 ล. ใส่ช้าๆ พร้อมกับคนให้เข้ากันดี จากนั้นจึงเติมสีผสมอาหาร (สีที่ต้องการ) ลงไป 10-15 หยด หรือมากกว่าเพื่อความเข้มของสี ใส่ช้าๆ พร้อมกับคนให้เข้ากันดีเช่นกัน สังเกต น้ำที่ผสมทุกรายการครบแล้วมีสี “ใส/สด” เป็นอันใช้ได้ ก็จะได้ “น้ำยาย้อมสี” ดอกกุหลาบตามต้องการ

3. นำดอกกุหลาบพร้อมก้านมาตัดปลายก้านด้วยมีดคมๆ 1 นิ้ว เฉียง 45 องศา แล้วจุ่มเฉพาะโคนก้านลงไปในน้ำลึกๆ หรือจุ่มทั้งก้านทั้งดอกลงไปนอนแช่ในน้ำยาย้อมเสียเลยก็ได้

4. คอยสังเกตทุกๆ ชั่วโมง จะพบการเปลี่ยนสีของกลีบดอกกุหลาบตามลำดับ เนื่องจากกุหลาบ (รอยตัดที่โคนก้าน) ดูดน้ำยาย้อมเสียเข้าไป จากโคนก้านไปถึงกลีบดอก ทำให้สีของกลีบดอกเปลี่ยนไปเป็นสีในน้ำย้อมสี กระทั่งครบ 24 ชม. กระบวนการดูดน้ำยาย้อมสีจะหยุดดูดสิ้นสุดลง สุดท้ายก็จะได้กุหลาบดอกใหม่ที่กลีบมีสีตามสีน้ำย้อม

5. ถ้าต้องการทำดอกกุหลาบในดอกเดียวกันให้มีหลายสี ให้ผ่าก้านตามทางยาว แบ่งเป็นแฉกๆ แต่ละแฉกยาว 2-3 นิ้ว แล้วใส่แต่ละแฉกลงไปในแก้วที่ผสมสีเอาไว้แล้ว แยก 1 แฉก : 1 แก้ว : 1 สี เพื่อให้แต่ละแฉกแยกกันดูดสี จากนั้นก็รอเวลาให้ก้านดอกลำเลียงน้ำย้อมสีขึ้นส่งไปยังกลีบดอกเต็มที่แล้ว ถือเป็นพิธี

http://home.kapook.com/view54803.html

- ต้องการทำครั้งละมากๆ (30-50 ดอก) เป็นสีเดียว ใช้กะละมังเป็นภาชนะผสมน้ำยาย้อมสี แล้วใส่กุหลาบทั้งก้านลงไปนอนแช่เลยก็ได้

- ช่วงอากาศร้อน ใช้เวลาประมาณ 24 ชม. .... ช่วงอากาศหนาวเย็น ใช้เวลาประมาณ 48 ชม.
– นำกุหลาบที่ผ่านการย้อมเสียเรียบร้อยแล้ว ลงแช่ในน้ำสะอาด 10-15 นาที ก็พร้อมนำไปใช้งานได้

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=horti-asia&month=09-2012&date=24&group=2&gblog=15


** ชม ชิม ช็อป :
- รับออร์เดอร์ทำกุหลาบสีตามต้องการ พร้อมจัดส่ง
– ทำกุหลาบย้อมสีจำหน่ายประจำ

** แหล่งท่องเที่ยว :
- สร้างสวนกุหลาบ หลากหลายสายพันธุ์เพื่อการท่องเที่ยว
- สวนท่องเที่ยว โฮมเสตย์

----------------------------------------------------------