ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 24 JAN *นาข้าว อินทรีย์เกาะขอบ

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร รายการวิทยุ 24 JAN

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์) และ
FM 91.0 เวลา 07.00-08.00 (วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------


จาก : (088) 392-16 xx
ข้อความ : ตอนเช้าวันที่ 23 ผู้พันพูดเรื่อง ลดธาตุหลัก เพิ่มธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน อยากได้วิธีการปฏิบัติต่อนาข้าว เพื่อเตรียมดินสำหรับการปลูกข้าวแบบ อินทรีย์เกาะขอบ ช่วงนาปีงวดนี้ ที่นา 40 ไร่ กำลังตากฟาง ขอคำตอบการปฏิบัติที่ละข้อ เช้าวันเสาร์เลยนะครับ.... ขอบคุณครับ ชาวนาชัยนาท
ตอบ :
- จัดให้.... นา 40 ไร่ ชัยนาทน้ำดี ถ้าฝีมือดี คิดเป็น-ทำเป็น-ขายเป็น ลงทุนแค่แสน แต่ MAKE MONEY ทำเงินได้รุ่นละเป็นล้าน

- ถึงวันนี้ ยืนยันนั่งยันนอนยันตีลังกา เร่งเครื่องเทอร์โบชาร์จชน ได้เลยว่า "อินทรีย์เกาะขอบ" ไม่ใช่แค่ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ระดับโปรตีนธรรมดาๆ แต่เป็นเทคโนโลยีวิชาการชั้นสูง เมื่อได้พัฒนาไปจนถึงระดับ "อะมิโนโปรตีน" แล้ว .... ทั้งหลักวิชาการรองรับ กับประสบการณ์ตรงจากคนใช้ ยืนยันแน่นอนว่า "ได้ผล" ทั้งคุณภาพ ปริมาณ และเครดิตความน่าเชื่อถือจากคนกิน

- เหลืออย่างเดียวเท่านั้น ทำเองทำใช้ 100% หรือ ทำเอง 50% ซื้อ 50% หรือ ซื้อ 100% เท่านั้น


@@ หลักการและเหตุผล :
- ธาตุหลัก ได้แก่ N-P-K ธาตุรอง ได้แก่ Ca Mg S ธาตุเสริม ได้แก่ Fe Cu Zn Mn Mo B Si Na .... ธาตุอาหารทุกตัว (หลัก รอง เสริม) มีความจำเป็นต่อพืชทั้งนั้น และแต่ละตัวต่างก็มีหน้าที่หรือประสิทธิภาพโดยเฉพาะต่อต่อพืช

.... ธาตุอาหารทั้งหมด ทุกตัว มีอยู่ในกระสอบ เรียกว่า “ปุ๋ยเคมี และมีอยู่ในธรรม ชาติเรียกว่า “ปุ๋ยอินทรีย์” ได้แก่ ในครัว ในสวน ในป่า ในน้ำ ในดิน ในอากาศ ในตัวมนุษย์ สัตว์ พืช

.... ทั้งปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ต่างก็มี “ข้อด้อย ข้อดี” ประจำตัว จึงควรใช้ทั้ง 2 ชนิด อย่างสมเหตุสมผล ในลักษณะผสมผสานกัน

.... ในความเป็นจริง ปุ๋ยอินทรีย์ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี แต่ ปุ๋ยเคมีต้องพึงพาปุ๋ยอินทรีย์ อย่างแท้จริง

.... แม้ว่าเปอร์เซ็นต์สารอาหารในปุ๋ยอินทรีย์จะมีน้อยเมื่อเทียบกับปุ๋ยเคมี แต่พืชบางชนิด ในบางระยะเจริญเติบโต ในบางปัจจัยพื้นฐานฯ ไม่ได้ต้องการปริมาณธาตุอาหารมากมายขนาดนั้น นั่นหมายความว่า ปริมาณสารอาหาร
ในปุ๋ยอินทรีย์ก็เพียงพอต่อพัฒนา การหรือการเจริญเติบโตของพืชได้


ระหว่าง พืชอายุสั้น-ฤดูกาลเดียว-ประเภทกินผล (ผักสวนครัว มะเขือ พริก, พืชไร่ ถั่ว ข้าวโพด, นาข้าว) เปรียบเทียบกับ พืชอายุยาว-หลายฤดูกาล-ประเภทกินผล (ไม้ผล มะม่วง-ลำไย-ทุเรียน-ฯลฯ) .... กลุ่มแรก แค่แบบอินทรีย์เกาะขอบ เพียงพอแล้ว แต่กลุ่มหลังต้องแบบ เคมีนำ อินทรีย์เสริม จึงจะพอเพียง

เพราะเกษตรกร "เชื่อเชื่อเชี่อ และเชื่อ" แต่ "คนขายปุ๋ย-คนขายยา" หนี้สินถึงได้เต็มบ้านเต็มเมืองอยู่ทุกวันนี้ แล้วก็จะเป็นต่อไปอีกชั่วนาตาปี ใช่หรือไม่ ?

ตัวเองทำแล้วมีแต่หนี้กับหนี้ รอบบ้านทำแล้วมีแต่หนี้กับหนี้ ทั่วประเทศทำแล้วมีแต่หนี้กับหนี้ .... เรื่องแบบนี้ชาวนาไม่รู้ เพราะอะไร ?

- ที่บอกว่า “แต่ละตัวต่างก็มีหน้าที่...” ไม่ได้หมายความว่า ทุกตัวต้องมีปริมาณเท่า กันเป๊ะๆ แล้วถามว่า “ควรต้องมีเท่าไหร่ ?....” คำตอบก็คือ :-
1. ตาม .... ชนิดพืช
2. ตาม .... ระยะเจริญเติบโตตามธรรมชาติ
3. ตาม .... ระยะเจริญเติบโตตามการควบคุม
4. ตาม .... สมการปุ๋ย
5. ตาม .... ชนิดปุ๋ย (ทางใบ ทางราก)
6. ตาม .... เรโช ปุ๋ย
7. ตาม .... เกรด (คีเลต. อีดีทีเอ. จี เกรด.)
8. ตาม .... ปัจจัยพื้นฐานฯ (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สายพันธุ์-โรค)


เรื่องสูตรปุ๋ยคือปัญหาระดับรองๆ ปัญหาระดับต้นๆ อยากจะบอกว่าระดับแรกๆด้วยซ้ำ คือ “ดิน” ดินนี่แหละ บอกอยู่เสมอว่า ดินต้องมาก่อน-ดินต้องมาก่อน ดินดี คือ ดินที่มีอินทรีย์วัตถุ จุลินทรีย์ โปร่งร่วนซุย น้ำและอากาศผ่านสะดวก ดินดี-ดินกินปุ๋ย-ใส่น้อยบ่อยครั้ง เดี๋ยวก็ดีเองนั่นแหละ

คนขายปุ๋ยเคมี บอกว่า ใส่ปุ๋ยอินทรีย์แล้วจะเกิดโรค.....
นักวิชาการเกิน บอกว่า เนื้อที่ 1 ไร่ ต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ 3 ตัน เนื้อที่ 10 ไร่ต้องใช้ 30 ตัน จะเอามาจากไหน ?


@@ นาข้าวยุคใหม่ “คิดใหม่-ทำใหม่-เพื่อชีวิตใหม่” ที่ดีขึ้น :
นาปีรอบหน้า ปลูกวันแม่ (ส.ค.) เกี่ยววันพ่อ (ธ.ค.) เพราะฉะนั้นวันนี้ กลางเดือน ม.ค. มีเวลา ก.พ. – มี.ค. – เม.ย. – พ.ค. – มิ.ย. – ก.ค. รวม 6 เดือน ถือว่าเพียงพอต่อการสร้าง “ที่อยู่ที่กิน” สำหรับพืช อายุสั้น-ฤดูกาลเดียว-กินผล อย่างข้าวให้มีสารอาหารเพียง พอต่อพัฒนาการ .... แนะนำให้ปฏิบัติ ดังนี้ :-


* เตรียมดิน :
1. เกลี่ยฟางให้เสมอกัน ให้ได้รับแสงแดด และเพื่อให้แห้งเสมอกันทั่วทั้งแปลง
2. ฟางแห้งสนิทดีแล้ว ไถดะขี้ไถใหญ่ๆ พลิกหน้าดินลงล่างแล้ว พลิกดินด้านล่างขึ้นข้างบน ยิบซั่ม-ปุ๋ยอินทรีย์-กระดูกป่น จะลงไปอยู่ด้านล่าง ในขณะที่บรรดารากวัชพืชจะกลับ

3. รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงสูตรปรับโมเลกุล ไม่ปุ๋ยเคมี หรือจุลินทรีย์หน่อกล้วย หรือจุลินทรีย์จาวปลวก อย่างใดอย่างหนึ่ง อัตรา 2-3 ล. /ไร่ .... ขั้นตอนนี้ หากดัดแปลงรถไถโดย ตั้งถังขนาด 100 ล.ไว้บนตะแกรงหน้ารถไถ เมื่อรถไถเริ่มวิ่งไถนาก็เปิดวาวล์ ซ้าย-ขวา ที่ถัง ให้น้ำจุลิน ทรีย์ไหลออกมา ไหล เร็ว-ช้า อยู่ที่ขนาดวาวล์และการปรับ ขณะที่น้ำจุลินทรีย์ไหลงพื้นด้าน หน้า ผานรถไถด้านหลังก็จะไถพลิกดินให้เอง .... แบบนี้เท่ากับ ทำงานครั้งเดียวได้ 2 เด้ง

4. ระยะเวลาที่จะปล่อยดินขี้ไถให้ตากแดด เรียกว่า “บ่มดิน” นาน 2-3-4 เดือน อาจ จะนานเกินไป แต่เพื่อประโยชน์สูงสุดแนะนำว่า ช่วงเดือน เม.ย. ให้ไถดะขี้ไถใหญ่ พร้อมใส่ น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล ไม่ปุ๋ยเมี หรือจุลินทรีย์หน่อกล้วย หรือจุลินทรีย์จาวปลวก อย่างใดอย่างหนึ่ง อัตรา 2-3 ล. /ไร่ ซ้ำอีกครั้ง แล้วปล่อย “บ่มดิน” ไว้อย่างนั้น

5. เดือน มิ.ย.– ก.ค. ปล่อยน้ำเข้า ลึกแค่ตาตุ่ม แช่ไว้ 7-10 วัน เพื่อล่อให้วัชพืชงอก
6. ล่อวัชพืชครบกำหนดแล้ว สำรวจจำนวนวัชพืชที่งอก แล้วใส่ ยิบซั่ม ธันเดอร์แคล 2 กส., ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย 1 กส., กระดูกป่น 10 กก., ผสมคลุมเคล้าให้เข้ากันดี หว่านทั่วแปลง 1 ไร่

7. ลงมือ “ย่ำเทือกประณีต” ขั้นตอนนี้ให้ตั้งถังขนาด 100 ล. ไว้บนตะแกรงหน้ารถไถ เมื่อรถไถเริ่มวิ่งไถนาก็เปิดวาวล์ ซ้าย-ขวา ที่ถัง ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล ไม่ปุ๋ยเคมี 2 ล. +สารอาหารอินทรีย์พิเศษเสริม (นม, เศษอาหารในครัวบดละเอียด น้ำต้มก้นหม้อก๋วยเตี๋ยว .... อย่างใดอย่างหนึ่ง 2-5 ล.) คนให้ปุ๋ยละลายเข้ากันดี แล้วปล่อยไหลออกมา ไหล เร็ว-ช้า อยู่ที่ขนาดวาวล์และการปรับ ขณะที่น้ำหมักฯ +ปุ๋ย ไหลลงพื้นด้าน หน้านั้น ผานหรือลูกทุบที่รถไถด้านหลังก็จะจัดการดินให้เอง แบบนี้เท่ากับทำงานครั้งเดียวได้ 2 เด้ง


@@ ทำเทือกประณีต ประหยัด-ได้ผลหลายเด้ง :
- วันที่ 1 ในปฏิทิน ย่ำเทือกครั้งที่ 1 .... ก่อนมือย่ำให้สำรวจปริมาณวัชพืชว่ามีเท่าไหร่

- วันที่ 10 ในปฏิทิน ย่ำเทือกครั้งที่ 2 .... ก่อนลงมือย่ำ สำรวจปริมาณวัชพืชว่ามีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับก่อนย่ำรอบแรก กับทดสอบย่ำบนขี้เทือกพิสูจน์กลิ่น ซึ่งอาจจะมีก๊าซไข่เน่า สาเหตุข้าวเมาตอซัง ว่ามีหรือไม่

- วันที่ 20 ในปฏิทิน ย่ำเทือกครั้งที่ 3 …. ก่อนลงมือย่ำ สำรวจปริมาณวัชพืชว่ามีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับก่อนย่ำรอบที่ 2 กับทดสอบย่ำบนขี้เทือกพิสูจน์กลิ่น ซึ่งอาจจะมีก๊าซไข่เน่า สาเหตุข้าวเมาตอซัง ว่ามีหรือไม่

- วันที่ 30 ในปฏิทิน ย่ำเทือกครั้งสุดท้าย …. ก่อนลงมือย่ำ สำรวจปริมาณวัชพืชว่ามีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับก่อนย่ำรอบที่ 3 กับทดสอบย่ำบนขี้เทือกพิสูจน์กลิ่น ซึ่งอาจจะมีก๊าซไข่เน่า สาเหตุข้าวเมาตอซัง ว่ามีหรือไม่

หมายเหตุ :
- เทคนิคการใช้ลูกทุบหรืออีขลุบใบเหล็กลงมือย่ำเลย ตั้งแต่รอบแรกโดยไม่ต้องไถผาน สามารถทำได้ เพราะการย่ำซ้ำรอบหลังๆ จะช่วยให้ขี้เทือกลึกขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ .... รถไถลากลูกทุบหรืออีขลุบ เบากว่าลากผาน ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น และประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นได้

- การย่ำซ้ำเป็นการกำจัดวัชพืช จากรุ่นนี้ต่อไปถึงรุ่นหน้าและรุ่นต่อๆไป ทำให้วัชพืชตายแน่นอน ในขณะที่ยาฆ่าหญ้าทำได้เพียงใบไหม้เท่านั้น ชั่วระยะข้าวแตกกกอออกรวงก็สูงแซงต้นข้าวขึ้นมารให้เห็นแล้ว

- ในฟาง 1 ไร่ ไถกลบ นอกจากได้ปุ๋ยครบทุกตัว 18 กก. (ข้อมูล : จุฬาลงกรณ์ มหา วิทยาลัย) แล้ว ยังได้เศษซากวัชพืชกลายเป็นปุ๋ยเพิ่มขึ้นมาอีก

- น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล ปรุงพิเศษโดยใส่เพิ่มส่วนผสม 25% ของอัตราส่วนผสมเดิม แล้วปรับโครงสร้างโมเลกุลจากโปรตีนธรรมดาๆ เป็นอะมิโนโปรตีน ที่สามารถผ่านปากใบได้ กับเมื่อลงดินผ่านรากได้เร็วอีกด้วย

- สารอาหารอินทรีย์พิเศษเสริม นอกจาก นม, เศษอาหารในครัว, น้ำต้มก้นหม้อก๋วยเตี๋ยวแล้ว อาจพิจารณา น้ำเต้าหู้, น้ำปุ๋ยคอก, น้ำล้างคอปศุสัตว์, น้ำจากบ่อปลา บ่อกุ้ง ฯลฯ นำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งนั้น

– ทั้งในน้ำหมักฯ และสารอาหารอินทรีย์พิเศษฯ ไม่มีปุ๋ยเคมี เพื่อนาข้าว อินทรีย์เกาะขอบ ไม่ปุ๋ยเคมี ไม่สารเคมี โดยแท้


* หลังจากปลูกข้าวลงไปแล้ว บำรุงข้าว
.. ระยะกล้า : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล ไม่ปุ๋ยเคมี +สารสมุนไพร .... ทางใบ
.. ระยะแตกกอ : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล .... ทางดิน
.. ระยะออกรวง : ฮอร์โมนไข่ไทเป สูตรปรับโมเลกุล ไม่ปุ๋ยเคมี +สารสมุนไพร .... ทางใบ
.. ระยะน้ำนม : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล ไม่ปุ๋ยเคมี +สารสมุนไพร .... ทางใบ
.. ระยะก่อนเกี่ยว : ให้นมสดช่วยลดความชื้น +สารสมุนไพร .... ทางใบ

--------------------------------------------------------------------------



.