| ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
| ผู้ส่ง |
ข้อความ |
medusakung2
สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 20/04/2014
ตอบ: 65
|
 ตอบ: 27/03/2015 9:15 pm ชื่อกระทู้: ดินที่ปนเปื้อนเชื้อโรค รากเน่าบ่อยๆ แก้ยังไงดีครับ |
 |
|
.
.
ผมปลูกแคนตาลูบ มะละกอ มะนาวไว้ แยกเป็นโซนๆ จะมีบางโซนที่รากเน่าเป็นประจำ
โดนฝนไม่ได้เลย น้ำขังที่ไรเน่าตลอด ขนาดยกแปลงสูง 40 ซม แล้ว ก็ไม่วาย
ผมควรแก้ไขยังไงดีครับ มันจะมีบางโซนที่ไม่เน่า ผมก็ลงพืชจนเต็มแล้วครับ
ขอบคุณครับ
. |
|
| กลับไปข้างบน |
|
 |
kimzagass
หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553
|
| ตอบ: 30/03/2015 10:49 am ชื่อกระทู้: Re: ดินที่ปนเปื้อนเชื้อโรค รากเน่าบ่อยๆ แก้ยังไงดีครับ |
|
|
| medusakung2 บันทึก: |
ผมปลูกแคนตาลูบ มะละกอ มะนาวไว้ แยกเป็นโซนๆ จะมีบางโซนที่รากเน่าเป็นประจำ
โดนฝนไม่ได้เลย น้ำขังที่ไรเน่าตลอด ขนาดยกแปลงสูง 40 ซม แล้ว ก็ไม่วาย
COMMENT :
สงสัยคำว่า "โซน" จากรากศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย แปลว่าอะไร ?
"บางโซน" กับ "บางต้น" แปลว่า อะไร ? หรือหมายถึงอย่างไร ?
ที่มีปัญหา คือ เฉพาะบางต้นในบางโซน ไม่ใช่เป็นทุกต้นในโซนเดียวกัน ใช่หรือไม่
ยกแปลงสูง 40 ซม. ยังน้ำขังค้างได้ แสดงว่าบริเวณนั้่นเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ (ก้นกะทะ) มากๆ อืมมม อยู่จังหวัด-อำเภอ-ตำบล-บ้าน อะไรน่ะ
"แคนตาลูบ" .... พืชอายุสั้น-ฤดูกาลเดียว-ประเภทเถา-กินผล อ่อนไหวต่อสภาพดินเร็วมาก
"มะละกอ-มะนาว" .... พืชยืนต้น-อายุยาว-กินผล มะนาวอดทนต่อสภาพดินได้นานกว่ามะละกอ
นี่คือนิยาม "ตามความเหมาะสม ของแคนตาลูป หรือมะละกอ หรือมะนาว" ในธรรมชาติไม่มี "เป๊ะเป๊ะ" หมายความว่า ไม่มีตัวเลขและสูตรสำเร็จ ทุกอย่างอยู่ภายไต้กฏแห่งธรรมชาติของพืชนั้นๆ เท่านั้น
แคนตาลูป ดินต้อง O.K. จริงๆ ปลูกแคนตาลูป 1 รุ่นแล้วควรพักดินปรับปรุงดิน 2 รุ่นจึงปลูกใหม่ ขืนปลูกแบบรุ่นต่อรุ่นติดต่อกัน ไปไม่รอด
มะละกอ-มะนาว ทนต่อน้ำแค่ชื้น (ชื้น ชุ่ม โชก แฉะ แช่) เท่านั้น
ผมควรแก้ไขยังไงดีครับ มันจะมีบางโซนที่ไม่เน่า ผมก็ลงพืชจนเต็มแล้วครับ
COMMENT :
"รากเน่า" คือ "รากเน่าโคนเน่า" คือ "ไฟธอปเทอร์ร่า"
โรคพืชทางดิน ได้แก่ ไฟธอปเทอร์ร่า พิเทียม ฟูซาเลียม สเคลโรเทียม ไรซ็อคโธเนีย ไส้เดือนฝอยรากปม กับอีก 9-10 โรค ไม่ได้ท่องมา .... เชื้อโรคทุกตัวเกิดเองตามธรรมชาติ เมื่อดินเป็นกรดจัด ถ้าดินไม่เป็นกรดจัดจะไม่เกิด ในขณะเดียวกัน ดินเป็นกรดทำให้เชื้อดีตาย แต่ถ้าดินไม่กรดจัด เชื้อดีเกิดแล้วเชื้อโรคตาย
จุลินทรีย์ดีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดไฟธอปเทอร์ร่าโดยตรง คือ ไตรโคเดอร์ม่า แต่ไตรโคเดอร์ม่าอยู่ในดินกรดจัดไม่ได้ ทันทีที่เจอดินกรดจัดไตรโคเดอร์ม่าก็ตาย (ดร.จิรเดช แจ่มสว่าง).... ในเมื่อไฟธอปเทอร์ร่าเกิดเองเมื่อดินกรดจัดแล้วใส่ไตรโคเดอร์ม่าลงไป เชื้อไฟธอปเทอร์ร่าตายแต่ไตรโคเดอร์ม่าก็ตายด้วย ไม่ช้าไม่นานไฟธอปเทอร์ร่าชุดใหม่เกิดมาอีกเพราะดินยังเป็นกรดจัดอยู่ เมื่อไฟธอปเทอร์ร่าเกิดก็ใส่ไตรโคเดอร์ม่า ไฟธอปเทอร์ร่าตาย ตายแล้วชุดใหม่เกิดใหม่ก็ใส่ไตรโคเดอร์ม่าอีก ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก บบพื้นฐานที่ดินเป็นกรดจัด ผลรับก็คือ ต้นพืชต้นไม้นั้นตาย
มาตรการป้องกันกำจัดไฟธอปเทอร์ร่าอย่างบูรณาการ (ป้องกัน + กำจัดเชื้อโรคในดิน + ปรับปรุงดิน + สร้างสารอาหารสำหรับพืช) โดยปรับสภาพดินด้วย ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก น้ำหมักชีวภาพ (มีสารอาหารและจุลินทรีย์) เสริม/เติม/เพิ่ม ด้วยจุลินทรีย์ไตรโคเดอร์ม่าแบบล่วงหน้าสม่ำเสมอ ก่อนที่ดินจะเป็นกรดจัดจนเกิดไฟธอปเทอร์ร่า
(ไตรโคเดอร์ม่า คือ ราเขียว ทำจากข้าวสุก ตามแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน)
ดินเป็นกรดจัดเพราะคนใส่กรดลงไป หรือเกิดจากการ กระทำ/ไม่กระทำ ของคน ได้แก่
1. ใส่ปุ๋ยเคมีผิดสูตร ผิดอัตรา ผิดดิน ผิดน้ำ ผิดอินทรีย์วัตถุ พืชเอาไปกินไม่ได้ เหลือตก ค้างในดิน ทำให้ดินเป็นกรด เพราะตัวปุ๋ยเคมีเองเป็นกรด
2. ฉีดพ่นหรือละอองยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ลงไปสัมผัสกับดิน ตัวยาฆ่าแมลงยาฆ่าหญ้าเองเป็นกรดจัด
3. ในดินไม่มีจุลินทรีย์ช่วยปรับโครงสร้างดิน และช่วยกำจัดเชื้อโรคในดิน
4. ดินเหนียว น้ำขังค้างนาน อากาศลงไปไม่ได้ กลายเป็นสาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้ดินเป็นกรดจัด
สวนนี้แสดงว่าดินเป็น "กรดจัด" เพราะน้ำขังค้าง แก้ไขโดยยามฝนตก ทำทางบังคับน้ำไม้ให้ไหลเข้าหาแปลงพืชที่ปลูก
|
|
|
| กลับไปข้างบน |
|
|
|
คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว
ค้นหา
กลุ่มผู้ใช้งาน
ข้อมูลส่วนตัว
เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ
เข้าระบบ
