-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-กลุ่มชาวนา บรรพตพิสัย นครสวรรค์ ที่ RKK
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - กลุ่มชาวนา บรรพตพิสัย นครสวรรค์ ที่ RKK
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

กลุ่มชาวนา บรรพตพิสัย นครสวรรค์ ที่ RKK

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
somboonyang
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 27/04/2011
ตอบ: 89

ตอบตอบ: 14/09/2015 11:57 am    ชื่อกระทู้: กลุ่มชาวนา บรรพตพิสัย นครสวรรค์ ที่ RKK ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.

กลุ่มเกษตรกร ต.อ่างทอง อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ จำนวน 50 ท่าน ทัศนศึกษาที่ไร่กล้อมแกล้ม
เรื่องการทำนาข้าว เมื่อ 12 ก.ย. 58 ช่วงเวลา 12.30-15.00 น.


............ ทุกภาพ คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพที่ใหญ่ขึ้น :


1.
ไร่กล้อมแกล้ม ยินดีต้อนรับด้วยความ จริงจัง-จริงใจ-เสียสละ-ให้มากกว่ารับ

ก่อนมาถึงที่นี่ เชื่อว่าหลายท่านเคยผ่านงานประเภท ทัศนศึกษา-สัมมนา-เสวนา-ดูงาน-
อบรม-เรียน-ฯลฯ มาแล้วอย่างน้อย 1 อย่าง
จึงอยากทราบว่า เสร็จแล้วท่านได้ "เอา" อะไรมาบ้าง

ไร่กล้อมแกล้มกับสำนักไหนๆ ต่างมีดีคนละอย่าง มากอย่างน้อยอย่างตามความเหมาะสม
หรือความจำเป็นสำหรับแต่ละที่ หากไม่มีดี สำนักนั้นคงอยู่ไม่ได้

ปัญหาจึงอยู่กับคนที่ไป ทัศนศึกษา-สัมมนา-เสวนา-ดูงาน-อบรม-เรียน-ฯลฯ ว่า
ไปแล้วได้เอาอะไรมาใช้ประโยชน์บ้าง หรือไม่เท่านั้น

เพราะเท่าที่สดับข่าวก็ว่า หนี้สินเกษตรกรภาคครัวเรือนไม่ลดลงเลย
ข้อมูลล่าสุดบอกว่า เพิ่มปีละ 12% ซะด้วยซ้ำ

เคยมีนะ คนที่มาที่นี่ :
คนทำนา ได้ยินพูดเรื่องนาข้าวในวิทยุ ถามว่า ................ ทำไมไม่ทำนาไว้ให้คนดู
คนทำสำปะหลัง ได้ยินพูดเรื่องทำสำปะหลังในวิทยุ ถามว่า ..... ทำไมไม่ทำสำปะหลังไว้ให้คนดู
คนทำอ้อย ได้ยินพูดเรื่องทำอ้อยในวิทยุ ถามว่า ............... ทำไมไม่ทำอ้อยไว้ให้คนดู
คนทำผัก ได้ยินพูดเรื่องทำผักในวิทยุ ถามว่า ................. ทำไมไม่ทำผักไว้ให้คนดู
คำตอบสำหรับคำถามนี้ อยู่ที่ไหน ?



2.
Flowchart แผ่นนี้ ส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษ มิใช่โอ้อวด หรือเห่อของนอก หรือยกตนข่มท่าน
เจตนาที่แท้จริงเพื่อให้ทุกคนรู้ว่า โลกวันนี้คือ globalization ที่ทั่วโลกไม่มีพรมแดน
นั่นหมายความว่า ผู้คนทุกชาติสามารถเข้าถึงกัน มีสายสัมพันธ์กันได้ทั้งหมด

"ภาษา" ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้คนก้าวเข้าสู่สังคมโลกได้ ....

ตัวอย่าง :
ที่กำแพงแสน ชายหนุ่มจบ ป.ตรี ไปสมัครงานที่บริษัทส่งออก เจ้าของบริษัทสัมภาษณ์
ภาษาอังกฤษว่า ต้องการให้เขานำสินค้าไปแนะนำบริษัทลูกค้าในต่างประเทศ
ชายหนุ่มตอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษได้เป็นที่พอใจ เจ้าของบริษัทรับทำงานทันที
สตาร์ทเงินเดือน 1 แสน ค่าคอมฯ ต่างหาก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ดูปริญญาบัตรเลยว่า
ชายหนุ่มคนนั้นจบปริญญาอะไรมาด้วยซ้ำ

ถึงเวลาถึงยุคแล้วที่คนไทยต้องปรับตัวให้ทันสภาวะการณ์โลก
ต้องมองการณ์ไกลไปถึงต่างประเทศ ไม่ใช่มองแค่ตลาดนัดจรเท่านั้น

งานนี้แม้สื่อการสอนจะเป็นภาษาอังฤษ แต่ก็จะแปลเป็นภาษาไทย
และแปลจากภาษาไทยเป็นภาษชาวบ้านให้อีก



3.
แหม่มสาวเชื้อสาย "อเมริกัน-จีน-เวียดนาม" บินตรงจากเทกซัสมา RKK .... บอกว่า :

- พูดภาษาไทยได้คำเดียว "อร่อย" หลังจากได้ทานส้มโอ ส้มเช้ง
- ชอบการเกษตรมากๆ จึงมาอยู่เมืองไทย
- งานส่งเสริมการเกษตรของอเมริกา เน้น "ตลาด-ต้นทุน" เป็นหลัก เรื่อง ปุ๋ย/ยา แนะนำน้อยมาก
- งานส่งเสริมการเกษตรของไทย เน้น "ปุ๋ย-ยา" เป็นหลัก ยกเว้นเรื่อง "ตลาด/ต้นทุน"
- เกษตรกรอเมริกา เน้นเทคโนโลยีวิชาการ มากกว่าเทคโนโลยีภูมิปัญญาพื้นบ้าน
- เกษตรกรอเมริกา ทำทุกอย่างเพื่อให้ ลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิต-ขยายตลาด
- เกษตรกรอเมริกา ไม่รอการช่วยเหลือจากราชการหรือรัฐบาล แต่รวมกลุ่มกันช่วยตัวเอง
- เกษตรกรอเมริกา รวมกลุ่มทำเกษตรพันธะสัญญาต่อรองกับคนกลาง

- อ่านข้อความบนแผ่น Flowchart แล้วบอกว่าบางคำ "ผิดหรือไม่ครอบคลุม" จึงแนะนำให้แก้ไข

หมายเหตุ :
- คำศัพท์ทุกคำบนแผ่น Flowchart นั้น มาจาก "นักวิชาการ" ไทยแท้ๆ .... ผิดได้ไง ?
- ผู้แนะนำเป็นเจ้าของภาษาที่แท้จริง ........................................... เชื่อได้มั้ย ?
- ปุ๋ยสไตล์ RKK ที่อเมริกาไม่มีขาย แปลงเกษตรขนาดใหญ่ เกษตรกรทำเอง
แต่ถ้าเป็นแปลงเล็กๆ สวนครัวในบ้านจึงซื้อ ....



4.
สองคน "สามี (ไทย)-ภรรยา (อเมริกัน/จีน/เวียดนาม)"
ทำสวนอยู่ที่ ปากท่อ ราชบุรี เนื้อที่ 6 ไร่ ลงมะม่วงไว้ 500 ต้น
ฝ่ายแหม่มขอซื้อส้มโอ 20-30 ลูก
บอก "ไม่ขาย" แต่จะให้ฟรีเป็นของฝาก กลับไปทานที่บ้าน
และเช่นเคย (นิสัยเรา) .... ไม่ได้ถามชื่อ

------------------------------------------------------------------------


5.
เทียบเวลา LOCAL TIME เที่ยงครึ่ง 0นาที 0วินาที .... ได้เวลามื้อเที่ยงครับ

TIME IS MONEY โบราณว่า เวลาเป็นบินเป็นทอง
แต่ที่นี่ ไร่กล้อมแกล้มว่า คนเรา แพ้/ชนะ กันที่โอกาส
การกิน การอยู่ ใครจะสู้พ่อ .... การแจว การถ่อ พ่อไม่สู้ใคร
กินเรื่องใหญ่-ตายเรื่องกลาง-ตารางเรื่องเล็ก
ปากกิน-ตาดู-หูฟัง .... O.K. ?

วันนี้ดูเหมือนคุณมีเวลา อืมมม .... ตอนนี้เที่ยงครึ่งถึงบ่าย 2-3 ก็น่าจะประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ
เวลาแค่นี้มากหรือน้อยอยู่ที่่คุณ ลำพังเรื่อง "นาข้าว" อย่างเดียวอาจจะพอลุ้น แต่ถ้าจะเอา
รายละเอียดทุกอย่างครบวงจรเรื่องนาข้าว คงไม่ได้ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสจึงขอบอกก่อนว่า
ใคร อยากรู้อะไร-ไม่รู้อะไร-มีปัญหาอะไร หรือ มีข้อเสนอแนะอะไร ถามโพล่งทะลุกลางปล้องได้เลย

บอกตามตรงนะ ที่นี่ คุณจะได้ยินเสียงผมพูดตั้งแต่คุณก้าวแรกลงจากรถ จนถึงก้าวสุด
ท้ายขึ้นรถกลับบ้าน แต่ผมไม่รู้เลยว่า เรื่องที่ผมพูดนั้นตรงกับเรื่องที่คุณอยากรู้หรือไม่รู้
ไหม เพราะฉะนั้น พบกันครึ่งทางแล้วกัน คือ "ถาม" อยากรู้อะไร-ถาม ไม่รู้อะไร-ถาม
ถามมาเลย

การไม่ถามแสดงว่า คุณรู้แล้ว ........... อ้าววว รู้แล้วมาทำไมล่ะ ?
หรือว่าไม่รู้ ไม่รู้แม้แต่ตั้งคำถาม ......... ยังงั้นเหรอ ?




6.
เสียดายอย่างสุดซึ้ง .... ข้อมูลในแผ่น Flowchart แม้จะเป็นภา
ษาอังกฤษ คุณอ่านไม่ออก แปลไมได้ ไม่ต้องตกใจ นี่เป็นเพียงสัญญลักษณ์ให้รู้ว่า
วันนี้เราต้องเข้าสู่สากล มีความเป็น INTER หรือเป็นมืออาชีพมากกว่ามือสมัครเล่น
หมายความว่า ต้องมองไปยังต่างประเทศ ไม่ใช่มองแค่โรงสีเถ้าแก่เส็งข้างบ้านเท่านั้น

อ่านไม่ออก แปลไม่ได้ ก็จะแปลให้ แล้วก็แปลเป็นภาษชาวบ้าน แถมแนะนำวิธีปฏิบัติให้ด้วย

ว่าจริงๆแล้ว ทุกหัวข้อใน Flowchart เป็นเรื่องที่ทุกคนประสบอยู่แล้ว
แต่ ไม่คิด-ไม่เฉลียวใจ-ไม่สังเกตุ-ไม่จำ เท่านั้นแหละ

ปรัชญาเมธี (ผู้รู้อย่างมีเหตุมีผล .... ไม่จำเป็นต้องจบปริญญาเป็นด็อกเตอร์) ท่านหนึ่งบอกว่า
ประเทศไทยเมืองเกษตร แต่ประชาชนทำเกษตรไม่เป็น
ยกตัวอย่าง ชาวนาทำนาข้าว วันนี้ชาวนาทำนาไม่เป็น ....

เหตุผล :
ทำนาปลูกข้าว ปีแล้วปีเล่า รุ่นแล้วรุ่นเล่า นาปีนาปรัง ทั่วประเทศ ถึงไม่มีหนี้ก็ไม่รวย
ที่ได้ ได้เท่าทุน .... ที่ไม่ได้ คือ ขาดทุน ก็ต้องเป็นหนี้
ทำนาขายข้าว ขายแล้วขาดทุน จะเรียกว่า "ทำเป็น" ได้อย่างไร ?



7.
ง่ายๆ .... แปลงที่มีน้ำทำนาได้ ข้าวที่กำลังคานาอยู่ ณ วันนี้ :
คุณรู้แล้วว่า ....................... ต้องเกี่ยววันที่เท่าไหร่ ?
คุณรู้แล้วว่า ....................... ขายได้แค่ 5,500
คุณรู้แล้วว่า ....................... จ่ายเป็นเงินลงทุนไปเท่าไหร่ ?
คุณรู้แล้วว่า ....................... ต้นทุนท่วมราคาขายไปแล้วเท่าไหร่ ?
นั่นคือ คุณรู้แล้วว่าจะ ............. "กำไร หรือ ขาดทุน" เท่าไหร่ ?

ข้าวราคา เกวียนละ 5,500 นั่นตามคุณภาพของข้าวเปลือก
ถ้าไม่มีข้าวลีบ ...... ได้เพิ่ม 500
ถ้าไม่มีข้าวปน ...... ได้เพิ่ม 500
ถ้าไม่มีข้าวป่น ...... ได้เพิ่ม 500
ถ้าไม่มีท้องไข่ ....... ได้เพิ่ม 500
ถ้าเมล็ดแกร่ง ....... ได้เพิ่ม 500
เบ็ดเสร็จรวมแล้วจะได้ 8,000 ไหม ?

สาเหตุ ข้าวลีบ-ข้าวปน-ข้าวป่น-ท้องไข่ เกิดจาก "ยูเรีย"
คุณใส่เพราะไม่รู้ ก็ O.K. แต่รู้แล้วยังใส่ จะว่ายังไง ?

ถามจริง ....
ไม่รู้เลยเหรอ .... ทำอย่างเดิมเป็นหนี้เหมือนเดิม ทำตามคนมีหนี้เป็นหนี้เหมือนเขา
เคยรู้มั้ย ........ ทำนา 2 รุ่นแรกล้างหนี้ได้, 2 รุ่นหลังปลูกบ้านได้, 2 รุ่นหลังทำบุญ
บ้านฉลองโฉนด
เคยเห็นมั้ย ..... ข้าวกิโลละ 120 นั่นเท่ากับ เกวียนละ 120,000 มั้ย ?

กว่า 20 ปีกับงานส่งเสริมเกษตร ....
10 ปีแรกตะลอนๆไปสอนทั่วประเทศ สอนแบบพูดให้ฟัง พูดข้างเดียว
10 ปีหลัง ปักหลักสอนอยู่ที่นี่ที่เดียว สอนแบบ "ทำให้ดู LEARNING BY DOING"
ทุกอย่างทุกขั้นตอนเห็นกับตา

ผลคือ "ไม่ได้ผล" ทั้งแบบตะลอนๆไปสอน ทั้งแบบปักหลักอยู่กับที่ เพราะ "ใจ" ของ
เกษตรกร ของคนเรียนไม่เอา

วันนี้ด้วยเวลาแค่ 2 ชม. ขอบอกว่า คุณมาที่นี่ คุณได้แค่รู้ว่า "ที่นี่ มีอะไร" เท่านั้น
ถ้าคุณคิดว่าจำเป็นหรือสำคัญ คุณต้องย้อนมาอีก มาเอาเรื่องนั้นโดยเฉพาะ

คุณแหม่มอเมริกันจีนเวียดนาม (เชิญโชว์ตัว) บอกว่า
ปุ๋ยทางใบประเภทนี้ (ไบโออิ ยูเรก้า ไทเป) ที่อเมริกาไม่มีขายแต่เกษตรกรเขาทำเอง ....
เขาทำได้ไง คิดเอาเอง



8.
"ฮอร์โมนไข่" ชื่อฮอร์โมนแต่ไม่ใช่ฮอร์โมน ตัวจริงเป็นแค่ "ปุ๋ยสูตรเปิดตาดอก" ธรรมดาๆ
ที่เรียกฮอร์โมนก็เพื่อความ "ขลัง" เท่านั้น

สูตรนี้มาจากไต้หวัน ใช้ นม-ไข่-กลูโคส-น้ำมะพร้าว-ยิสต์-แต่งสี .... ไม่ใช้กากน้ำตาล
กับนาข้าวถือว่า "ดีเกิน" เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยแรงขนาดนี้ ถ้าไม่กลัวเปลืองก็เอา

นาข้าวเอาแค่ "สารลมเบ่ง" โฆษณาบ้าเลือดก็พอ .... สารลมเบ่ง ทำเอง :
** น้ำ (pH 5.0) 100 ล. + ยูเรีย จี. 8 กก. + สี อย. คนให้เข้ากัน ได้ "หัวเชื้อเข้มข้น" พร้อมใช้งาน
** ใช้ "น้ำ 200 ล. + หัวเชื้อ 200 ซีซี. + ยาสมุนไพร 500 ซีซี." ฉีดพ่นทางใบได้เนื้อที่ 4 ไร่
** ให้ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน

สารลมเบ่ง 100 ล. ซื้อลิตรละ 500.- .............. เห็นจุดจนตัวเองมั้ย ?
สารลมเบ่ง 100 ล. ขายให้ข้างบ้านลิตรละ 20.- .... เห็นจุดรวยตัวเองมั้ย ?
ขายสิ่งที่ถูกต้อง ให้ลูกขาย ได้เงิน-ได้บุญ ............ เอามั้ย ?



9.
ไบโออิ-ไบโออิ ชื่อเล่น "อิ๊อิ๊" บางคนเรียก บี101 ก็ว่ากันไป
ไบโออิ เป็นBRAND NAME เป็นชื่อยี้ห้อ เป็นชื่อการค้า ที่คนทำพอใจตั้งเอง
ต้นไม้ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่ฟังโฆษณา ไม่รู้จักแม้แต่เจ้าของคนปลูก
ต้นไม้ต้นพืชรู้จักแต่เนื้อในหรือส่วนผสมข้างในเท่านั้น

เนื้อในไบโออิ ตัวหลักคือ Mg Zn สูตรเบื้องต้นมาจากสถานีพืชสวนพลิ้วจันทบุรี
ได้มาแล้วเอามาต่อยอดขยายผล โดยมีต้นข้าวเป็นพืชเป้าหมาย

สำหรับต้นข้าว .... Mg ช่วยสร้างคลอโรฟีลด์ .... Zn ช่วยสร้างแป้ง
พืชตระกูลแป้ง ทั่วโลกให้ Zn ประเทศไทยที่เดียวให้ UREA

ธรรมชาติรวงข้าวจะแก่จากปลายรวงมาโคนรวง เมื่อเมล็ดแก่ได้ 3 ใน 4 ของรวง
ปลายรวงจะเริ่มโค้งลงเรียกว่า "ก้ม" เพราะ นน.ของเมล็ดข้าว
จังหวะนี้ "ใบธง" จะเริ่มเหลือง คือ หมดอายุขัย ยุติกระบวนการสังเคราะห์อาหาร
ส่งผลให้เมล็ดส่วน 1 ใน 4 ของรวงที่โคนรวงไม่ได้รับสารอาหาร
ผลรับ คือ เป็นเมล็ด "ลีบ" นั่นเอง

นาไร่กล้อมแกล้ม .... เด็กขับรถเกี่ยวบอกว่า "ข้าวนี้ยังเกี่ยวไม่ได้ เพราะใบยังเขียว..."
จึงเรียกลงมาจากรถเกี่ยวแล้วเด็ดเมล็ดข้าว เมล็ดล่างสุดของรวงให้ทดสอบโดยใช้ฟันกัด
กัดแล้วบอกว่า เกี่ยวได้ แต่สงสัย ทำไมใบยังเขียวอยู่ล่ะ .... นี่คือ ผลจาก Mg กับ Zn
นั่นเอง

ชาวนาซักกี่คนที่ "รู้และยอมรับ" ว่า ยูเรีย 46-0-0 หว่านลงไปในดินแล้วอยู่ได้แค่ 5วัน 7วัน
จากนั้นจะระเหยหายไปในอากาศ

ยูเรีย.หว่านวันนี้ อีก 3วันต้นข้าวเขียวแต่เขียวได้นานแค่ 7วัน ก็หายเขียว
แล้วกลับเหลืองซีดอย่างเดิม
แต่แม็กเนเซียม. ใบเขียวอยู่นาน อยู่ทน อยู่จนถึงวันเกี่ยว .... ที่สงสัย คือ :
ทำไม ชาวนา ........................ ไม่สนใจแม็กเนเซียม
ทำไม ร้านขายปุ๋ย .................... ไม่เอามาขาย
ทำไม ร้านค้าสหกรณ์ของตำบล ...... ไม่เอามาขาย
ทำไม นักส่งเสริม ความรู้สูงๆ ......... ไม่แนะนำแม็กเนเซียม


7.
10.
ยูเรก้า เป็นBRAND NAME เป็นชื่อยี้ห้อ เป็นชื่อการค้า ที่คนทำพอใจตั้งเอง
ต้นไม้ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่ฟังโฆษณา ไม่รู้จักแม้แต่เจ้าของคนปลูก
ต้นไม้ต้นพืชรู้จักแต่เนื้อในหรือส่วนผสมข้างในเท่านั้น

ส่วนผสมหลัก คือ 21-7-14 G., ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน.
ต่อต้นข้าวเริ่มให้เมื่อระยะ "น้ำนม" ไปเรื่อยๆจนเกี่ยว

ประสิทธิภาพ :
ขยายขนาดผล (เมล็ดข้าว)
ไม่เป็นท้องไข่
เมล็ดใสแกร่ง
น้ำหนักดี

ที่มาวันนี้ 50คนพี่น้องกัน หรือไม่ก็รู้จักกันมาตั้งแต่เกิด บ้านอยู่ข้างกันทั้งนั้น
หากรวมเนื้อที่กันคงได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่

นาข้าว 1,000 ไร่ ใช้ปุ๋ย ไบโออิ-ไทเป-ยูเรก้า ไร่ละ 5 ล. = 5,000 ล.
ซื้อ ........ ต่างคนต่างซื้อ ราคาเท่าไหร่ก็เท่านั้น จ่ายเต็ม 100
ทำเอง ..... รวมกลุ่มกันทำ ลดค่าใช้จ่ายได้ 50% เท่ากับลดต้นทุนได้ครึ่งหนึ่ง
หรือขายแล้วได้กำไรเพิ่มครึ่งหนึ่ง

ไม่น่าเชื่อ 10ปีกับงานส่งเสริมที่นี่ แนะนำแบบนี้ไม่มีใครเอาด้วยแม้คนเดียว



11.
ปุ๋ย-ปุ๋ย-ปุ๋ย....ปุ๋ย น้ำ ชีวภาพ - ปุ๋ย น้ำ ชีวภาพ ....
ทางราชการ "ห้าม" เรียกว่า "ปุ๋ย" เพราะเปอร์เซ็นต์เนื้อปุ๋ยมีน้อย
แต่ที่นี่เรียกว่า "ปุ๋ย" ได้เต็มปากเต็มคำ เพราะ ก.ใส่กับมือ ม.อย่างเถียง

หลักการและเหตุผล :
น้ำหมักชีวภาพกับปุ๋ยเคมี บวกกันได้ (หว่านปุ๋ยเคมีลงไปก่อน แล้วรดตามด้วยน้ำหมักฯ) .... ได้มั้ย ?
น้ำเปล่า+น้ำหมักชีวภาพ+ปุ๋ยเคมี คนให้ละลายเข้ากันดีก่อน
แล้วรดให้กับต้นพืช.... ได้มั้ย ?

สำหรับต้นข้าวให้ "น้ำหมักชีวภาพ 2 ล. + 30-10-10 (10 กก.)" ละลายให้เข้ากันดี
สาดทั่วแปลง เนื้อที่ 1 ไร่ แล้วใช้อีขลุบหรือลูกทุบย่ำ อีขลุบหรือลูกทุบจะกวาดเนื้อปุ๋ยให้
กระจายทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว ขึ้นอยู่กับความประณีตของคนย่ำ

ข้อสังเกตุที่ชาวนาไม่เคยสังเกตุ และไม่คิดที่จะสังเกตุด้วย คือ....
- หว่านปุ๋ย หว่านแล้วเม็ดปุ๋ยลงไปที่โคนกอข้าวทุกกอ กอละ 1-2-3 เม็ด มั้ย ?
- กอไหนได้เม็ดปุ๋ย = เขียว, กอไหนไมได้เม็ดปุ๋ย = ไม่เขียว .... หาว่าอ่อนปุ๋ย ว่าแล้ว
หว่านซ้ำ กส.ที่สอง

- เนื้อที่ 1 ไร่ หว่านปุ๋ย 46-0-0 (1 กส. 50 กก. บางแปลง 2 กส.)+ 16-20-0
(1 กส. 50 กก.) รวม 2 กส. 100 (150) กก. ต้นข้าวได้ปุ๋ยแค่ 2 ตัว คือ N กับ P
เท่านั้น ในขณะที่ต้นข้าวต้องการปุ๋ย 14 ตัว

แนวทางแก้ไข :
- ใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพที่มีสารอาหารครบ เพื่อเอาสารอาหารอินทรีย์ จุลินทรีย์
และสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น

- ใช้ปุ๋ยเคมี ธาตุรอง/ธาตุเสริม เน้น แม็กเนเซียม สังกะสี
- ให้ปุ๋ยเคมี ธาตุหลัก สำหรับพืชตระกูลข้าว คือ 30-10-10 หรือ 16-8-8 หรือ
25-7-7 หรือ 46-0-0 + 16-16-16 (1:1)

- เลิกวิธีให้แบบหว่านปุ๋ยเม็ดด้วยมือ หรือพ่นด้วยเครื่อง เป็นละลายปุ๋ยเม็ดในน้ำหมัก
สาดลงดิน แล้วใช้อีขลุบหรือลูกทุบย่ำกวาดเนื้อปุ๋ยให้กระจายทั่วแปลง ....

เนื้อปุ๋ยที่กระจายทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว หมายถึง มีเนื้อปุ๋ยอยู่ที่กอข้าวทุกกอ เท่าๆกัน

ปุจฉา วิสัชนา :
ดินนาข้าว .... ขี้เทือกลึกครึ่งหน้าแข้ง กับ ขี้เทือกลึกแค่ตาตุ่ม อย่างไหนต้นข้าวโตดีกว่ากัน ?
ต้นข้าว ....... ต้นโตขนาดหลอดดูดเฉาก๊วย กับ ต้นโตขนาดหลอดดูดยาคูลท์
อย่างไหนให้ผลผลิตดีกว่ากัน

ต้นข้าว ....... ขึ้นห่างกัน 20 x 20 ซม. กับ ต้นข้าวห่างกัน 1 x 1 ซม.
ห่างขนาดไหนให้ผลผลิตดีกว่ากัน (โบราณว่า ... นาเลวข้าวถี่-นาดีข้าวห่าง)

นาข้าว ........ จ้างทุกอย่าง กับ ทำเองครึ่งหนึ่ง และ ซื้อทุกอย่าง กับ ซื้อครึ่งหนึ่งทำเอง
ครึ่งหนึ่ง แล้วขายได้ราคาเท่ากัน อย่างไหนได้กำไรมากกว่ากัน

นาข้าว ........ ฯลฯ

เกษตรานุสติ :
นายกสมาคนชาวนา บอกว่า .................. ต้นทุนนาข้าว ไร่ละ 8,000
ประธานสภาเกษตรกร บอกว่า ................. ต้นทุนนาข้าว ไร่ละ 3,000
คุณไชยพันธุ์ ชาวนาปริญญา บอกว่า ......... ต้นทุนนาข้าว ไร่ละ 1,000
ไร่กล้อมแกล้ม ทำ ปุ๋ย/ยา ใช้เอง บอกว่า ...... ต้นทุนนาข้าว ไร่ละ 600

ทำนาเป็นอาชีพ-อาชีพเป็นชาวนา.... ถามว่า :
เรื่องเหล่านี้ ดีมั้ย ?
เรื่องเหล่านี้ อยากได้รายละเอียดมั้ย ?
ซื้อครึ่งนึง ทำเองครึ่งนึง หรือทำเอง 100% อยากทำเป็นมั้ย ?

อยากรู้อยากเป็น อยากให้แต่ต้องมีเวลา ไม่ใช่แค่ 1-2 ชม.ในวันเดียวเท่านี้



12.
น้ำร้อนเท่าที่เห็น .... สมุนไพร ชนิด/ปริมาณ เท่าที่เห็น....
+เหล้าขาว 1 กั๊ก +น้ำส้มชายชู 1 เป๊ก +สารกันบูดครึ่งช้อนกาแฟ
เปลือกมังคุด 2 ขีด .... สภาพ สด/แห้ง/ผง ใช้ได้ทั้งนั้น
หมักข้ามคืน ได้ "หัวเชื้อเข้มข้น" พร้อมใช้งาน
วันทำ : 22 SEP
วันหมดอายุ : หลายๆเดือน
ศัตรูพืช : รา แบคทีเรีย
------------------------------------------------------------------------


13.
น้ำร้อนเท่าที่เห็น .... สมุนไพร ชนิด/ปริมาณ เท่าที่เห็น....
+เหล้าขาว 1 กั๊ก +น้ำส้มชายชู 1 เป๊ก +สารกันบูดครึ่งช้อนกาแฟ
วันทำ : 22 SEP
วันหมดอายุ : หลายๆเดือน
ศัตรูพืช : หนอน แมลงปากกัดปากดูด
-----------------------------------------------------------------------


14.
น้ำร้อนเท่าที่เห็น .... สมุนไพร ชนิด/ปริมาณ เท่าที่เห็น....
+เหล้าขาว 1 กั๊ก +น้ำส้มชายชู 1 เป๊ก +สารกันบูดครึ่งช้อนกาแฟ
วันทำ : 22 SEP
วันหมดอายุ : หลายๆเดือน
ศัตรูพืช : รา แบคทีเรีย
------------------------------------------------------------------------


15.
น้ำร้อนเท่าที่เห็น .... สมุนไพร ชนิด/ปริมาณ เท่าที่เห็น....
+เหล้าขาว 1 กั๊ก +น้ำส้มชายชู 1 เป๊ก +สารกันบูดครึ่งช้อนกาแฟ
วันทำ : 22 SEP
วันหมดอายุ : หลายๆเดือน
ศัตรูพืช : รา แบคทีเรีย
------------------------------------------------------------------------


16.
น้ำร้อนเท่าที่เห็น .... สมุนไพร ชนิด/ปริมาณ เท่าที่เห็น....
+เหล้าขาว 1 กั๊ก +น้ำส้มชายชู 1 เป๊ก +สารกันบูดครึ่งช้อนกาแฟ
วันทำ : 22 SEP
วันหมดอายุ : หลายๆเดือน
ศัตรูพืช : หนอน แมลงปากกัดปากดูด
------------------------------------------------------------------------


17.
น้ำร้อนเท่าที่เห็น .... สมุนไพร ชนิด/ปริมาณ เท่าที่เห็น....
+เหล้าขาว 1 กั๊ก +น้ำส้มชายชู 1 เป๊ก +สารกันบูดครึ่งช้อนกาแฟ
วันทำ : 22 SEP
วันหมดอายุ : หลายๆเดือน
ศัตรูพืช : รา แบคทีเรีย
------------------------------------------------------------------------


18.
น้ำร้อนเท่าที่เห็น ..... สมุนไพร ชนิด/ปริมาณ เท่าที่เห็น....
+เหล้าขาว 1 กั๊ก +น้ำส้มชายชู 1 เป๊ก +สารกันบูดครึ่งช้อนกาแฟ
วันทำ : 22 SEP
วันหมดอายุ : หลายๆเดือน
ศัตรูพืช : รา แบคทีเรีย หนอน แมลงปากกัดปากดูด
------------------------------------------------------------------------


19.
น้ำร้อนเท่าที่เห็น .... สมุนไพร ชนิด/ปริมาณ เท่าที่เห็น....
+เหล้าขาว 1 กั๊ก +น้ำส้มชายชู 1 เป๊ก +สารกันบูดครึ่งช้อนกาแฟ
พริกขี้หนูแห้ง คั่วบนกะทะให้ผิวเป็นมันก่อนแล้วใส่ลงน้ำร้อน
วันทำ : 22 SEP
วันหมดอายุ : หลายๆเดือน
ศัตรูพืช : รา หนอน แมลงปากกัดปากดูด
---------------------------------------------------------------------



20.
ระเบิดเถิดเทิง-ระเบิดเถิดเทิง เป็นBRAND NAME เป็นชื่อยี่ห้อ เป็นชื่อทางการค้า
ที่เจ้าของต้ังเองตามความพอใจ ต้นไม้ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่ฟังโฆษณา ไม่รู้จักแม้แต่
เจ้าของคนปลูก .... ต้นไม้ต้นพืชรู้จักแต่สารอาหารหรือธาตุอาหาร จุลินทรีย์
สารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น เท่านั้น

น้ำหมักชีวภาพที่เรียกว่า "ปุ๋ย-น้ำ-ชีวภาพ" ได้เต็มปากเพราะมีธาตุอาหารครบ (ชนิด/
ปริมาณ/สูตร/ฯลฯ) ตามต้องการ เนื่องจาก "ทำและใส่" กับมือ

สารอาหารอินทรีย์ ได้จาก กุ้งหอยปูปลาทะเล กากน้ำตาล
เลือด ไขกระดูก นม น้ำมะพร้าว ขี้ค้างคาว จุลินทรีย์

สารอาหารเคมี ได้จาก แม็กเนเซียม สังกะสี ธาตุรอง ธาตุเสริม ธาตุหลัก ในกระสอบ

Q : ธาตุหลักที่ใส่ คือ สูตรไหน ?
A : สูตรที่ตรงกับพืช เช่น
นาข้าว, ผักกินใบ, ผักกินยอด 30-10-10,
พืชกินหัว 5-10-40, ....

ไม้ผล : เรียกใบอ่อน 30-10-10, สะสมตาดอก 8-24-24
บำรุงผลเล็ก/กลาง 21-7-14. บำรุงผลแก่ 13-13-21



21.
เมื่อจะทำน้ำหมักชีวภาพทั้งที ควรทำแล้วได้ "ปุ๋ย" สำหรับต้นพืช นั่นคือ ธาตุหลัก (N P K),
ธาตุรอง (Ca Mg S), ธาตุเสริม (Fe Cu Zn Mn Mo B Si Na)
ฮอร์โมน และอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ทั้งต่อพืชโดยตรงและต่อพืชโดยอ้อม

Q : ในหอยเชอร์รี่ มีสารอาหารอะไร ?

A : ก็คงมีบ้างตามสไตล์ของความเป็นซากสัตว์ .... วัสดุที่นำมาทำน้ำหมักชีวภาพ
ให้สารอาหารน้อย (น้อยที่สุด) ไปหามาก (มากที่สุด) ตามลำดับ ได้แก่
ผักผลไม้ ....... น้อยที่สุด
หอยเชอร์รี่ .... มากกว่าผักผลไม้ แต่น้อยกว่าปลาน้ำจืด
ปลาน้ำจืด ..... มากกว่าหอยเชอร์รี่ แต่น้อยกว่าปลาทะเล
ปลาทะเล ...... มีสารอาหารมากที่สุด อย่างน้อยก็แม็กเนเซียม สังกะสี โซเดียม โอเมก้า
ซึ่งในปลาน้ำจืดไม่มี



22.
วิธีทำตามแบบของที่นี่ .... กุ้งหอยปูปลาทะเล สดใหม่ 20 กก. ใส่ลงถัง 200 ล.
ใส่กากน้ำตาล 5 ล. ใส่สับปะรด 3 หัว ใส่น้ำหมักเก่า 10 ล.
ปั่นด้วยเครื่องโมลิเน็กซ์ยักษ์ นาน 15-20 นาที ทุกอย่างเหลวเป็นน้ำวุ้น ....
หมัก 3-6 เดือน ใส่น้ำมะพร้าวจนเต็มพื้นที่ถัง 200 ล. ....
หมักต่อข้ามปี ข้าม2ปี ได้น้ำหมักกุ้งหอยปูปลาทะเลพร้อมปรุงต่อก่อนใช้งานจริง

Q : ที่นี่ใส่จุลินทรีย์อะไร ?

A : ใส่จุลินทรีย์ประเภทย่อยสลายซากสัตว์ทะเลโดยเฉพาะ นั่นคือ น้ำหมักเก่าที่ผ่านงานมาแล้วไงล่ะ ....
จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิต จาก 10 ล.จะขยายพันธุ์จนเต็มพื้นที่ใหม่ 200 ล.ได้



23.
Q : ถ้าไม่มีโมลิเน็กซ์ยักษ์ช่วยปั่นละเอียดก่อน เราหมักปลาทั้งตัวต้องใช้ระยะเวลานานเท่าไร
จึงจะละเอียดเหลวเป็นน้ำวุ้นเหมือนที่นี่

A : ในธรรมชาติไม่มีตัวเลข แต่มีหลักการและเหตุผล กรณีนี้ขึ้นอยู่กับจุลินทรีย์ ที่ว่า
ชนิด/ปริมาณ/อุณหภูมิ/สารอาหาร/สภาพแวดล้อม/ฯลฯ ว่าเหมาะสมหรือไม่เพียงใด....
เดาว่า ไม่น้อยกว่า 6 เดือน

เราอาจจะต้องเริ่มต้นสร้างจุลินทรีย์กลุ่มนี้ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะเพื่อใช้งานเฉพาะกิจ
ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย



24.
สารอาหารพืชในวัสดุส่วนผสม "กุ้งหอยปูปลา" แม้จะมากกว่าวัสดุส่วนผสมอื่นๆ
แต่ก็ถือว่ายังไม่มากพอ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคัดสรรวัสดุส่วนผสมอย่างอื่นมาใส่เพิ่ม
เช่น เลือด ไขกระดูก นม น้ำมะพร้่าว ขี้ค้างคาว โดยการหมักแยก หมักข้ามปี
แล้วนำมาใส่รวมกันก่อนใช้งานจริง

Q : วัสดุส่วนผสมที่หมักแยก จะนำมาใส่ผสมกัน ต้องใส่อย่างละเท่าไร ?

A : อย่างละ 5%


25.
Q : นครสวรรค์ไม่มีแหล่งขายปลาทะเล เราใช้อะไรแทนปลาทะเลได้บ้าง ?
A : ใช้แทนจริงๆเลยคงไม่ได้ เพราะปลาทะเลก็คือปลาทะเล เหมือนจะทำปลาสลิดให้เป็น
ปลาทูคงไม่ได้ ฉันใด

แต่การทำให้ปลาน้ำจืดหรือวัสดุส่วนผสมอย่างอื่นมีสารอาหารเหมือนปลาทะเลสามารถทำได้
นั่นคือ ใส่ "เสริมเติมเพิ่มบวก" สารอาหารตัวที่ต้องการนั้นโดยตรงลงไป

ปัญหา คือ สารอาหารตัวนั้น ชื่ออะไร-อยู่ที่ไหน-มีในอะไร-นำมาใช้อย่างไร เท่านั้นแหละ



26.
หลักการอินทรีย์ชีวภาพของที่นี่เป็นแบบ อินทรีย์เคมีผสมผสาน บางพืชใช้แบบอินทรีย์นำ
เคมีเสริม แต่บางพืชใช้แบบ เคมีนำ อินทรีย์เสริม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชเป็นหลัก
เช่น พริกมะเขือพืชกินผล ใช้แบบอินทรีย์นำ เคมีเสริม ในขณะที่ทุเรียนมะม่วงพืชกินผล
เหมือนกัน แต่ต้องใช้แบบ เคมีนำ อินทรีย์เสริม

จีงเรียกว่า อินทรีย์นำ เคมีเสริม หรือ เคมีนำ อินทรียื์เสริม ตามความเหมาะสม

Q : ที่บอกว่า เคมีเสริม หมายถึงการใส่ปุ๋ยเคมีเพิ่ม อยากถามว่า ต้องใส่เพิ่มเท่าไหร่
A : นี่ก็เหมือนกัน ในธรรมชาติไม่มีเป๊ะๆ ไม่มีตัวเลขและสูตรสำเร็จ แต่มีหลักการและ
เหตุผล .... ในพริกมะเขือ ผักสวนครัวกินผล อายุสั้นฤดูกาลเดียว ใช้น้ำหมักชีวภาพ 2 ล.
+ ปุ๋ยเคมี 2 กก. /ไร่ /เดือน .... นาช้าว ใช้น้ำหมักชีวภาพ 2 ล. + ปุ๋ยเคมี 10 กก.
/ไร่ /รุ่น .... ทุเรียน มะม่วง ใช้น้ำหมักชีวภาพ 2 ล. /ไร่ /เดือน รดทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว
+ปุ๋ยเคมี สูตรตามระยะ ครึ่ง กก./ต้นเล็ก, 1 กก./ต้นกลาง, 2 กก.ต้นใหญ่ /เดือน บริเวณทรงพุ่ม

เรื่องนี้ยาว ต้องมาใหม่ มาเอาเรื่องนี้วิธีการใช้โดยเฉพาะ



27.
Q : ข้าวปลายใบแดง เป็นเพราะอะไร ปุ๋ยน้ำชีวภาพช่วยได้ไหม ?
A : ดี ถามทะลุกลางปล้องมาเลย....
ลักษณะแบบนี้น่าจะเป็น "โรคปลายใบไหม้" นะ เอาเถอะชื่อโรคอะไรก็ช่าง ที่แน่ๆ
เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เป็นเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับเมล็ดพันธุ์ โรคนี้แก้ไมได้แต่ป้องกันได้

- แช่เมล็ดพันธุ์ในไคโตซาน สารไคติเนสส์ในไคโตซานจะช่วยกำจัดเชื้อปนเปื้อนตัวนี้ได้
- บำรุงต้นด้วย แม็กเนเซียม สังกะสี .... ทางราก : ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์ เพื่อเอาแม็กเนเซียม
กับสังกะสี.... ทางใบ : ให้ไบโออิ เพื่อเอาแม็กเนเซียม กับสังกะสี ทุกครั้งที่ให้ทางใบ
+สมุนไพรเผ็ดร้อนเข้าไปด้วย

ขอให้งดยูเรีย 46-0-0 เด็ดขาด เพราะปุ๋ยตัวนี้ทำให้ต้นข้าวอวบ โรคจะมาก



28.
Q : ข้าวต้นล้มเป็นเพราะอะไร แก้ไขอย่างไร ?
A : เพราะต้นสูงน่ะซี ต้นสูงเพราะ น้ำหล่อลึกครึ่งต้นข้าว ได้ยูเรียเร่งสูงมากขึ้นไปอีก
แก้ไขด้วยการ ลดระดับน้ำลงเหลือเจ๊าะแจ๊ะหน้าดินหรือรอยตีนควาย, งดการให้ยูเรีย
เด็ดขาด, ให้แม็กเนเซียม สังกะสี ทั้งทางรากและทางใบแทน



29.
Q : น้ำหมักที่นี่ไม่ต้องปิดฝาถัง ทำไมไม่มีหนอน ?
A : ไม่ปิดฝา เพราะต้องการให้อากาศแก่จุลินทรีย์ที่ปากถัง....
จุลินทรีย์ที่ปากถัง เป็นจุลินทรีย์กลุ่มต้องการอากาศ ช่วยย่อยสลายส่วนผสมที่ยังลอยให้จม
ลงก้นถัง

จุลินทรีย์ที่ก้นถัง เป็นจุลินทรีย์กลุ่มไม่ต้องการอากาศ มีพลังในการย่อยสลายสูงกว่าจุลินทรีย์
กลุ่มต้องการอากาศ

ระหว่างการหมัก ที่นี่จะคนเฉพาะปากถังเท่านั้น ส่วนก้นถังปล่อยให้อยู่อิสระ
ไม่มีหนอนเพราะไม่มีแมลงตอม แมลงไม่ตอมเพราะในน้ำหมักมีสารท็อกซิก (เป็นพิษต่อแมลง)
ไม่มีหนอนเพราะแมลงไม่เข้าวางไข่ แมลงไม่เข้าวางไข่เพราะไม่เน่า ไม่เน่าเพราะส่วนผสม
ทุกอย่างลงตัวพอดี



30.
Q : ข้าวนาปรังไม่ออกรวง แก้ไขอย่างไร ?
A : ข้าวพันธุ์อะไรน่าจะบอกมาหน่อย ....
ข้าวสายพันธุ์ที่เจออากาศหนาวแล้วไม่ออกรวง หรือออกรวงแล้วไม่ติดเป็นเมล็ด เช่น
หอมมะลิ กข105 แก้ไขด้วยการ กะระยะเวลาให้ออกรวงปลายเดือน ก.พ.
ซึ่งอากาศหายหนาวแล้ว



31.
Q : มะยงชิดปลูกแล้วไม่โต แก้ไขอย่างไร ?
A : วันนี้ตามช้อตกลง คือ เรื่องนาข้าว ถ้าอยากเรียนรู้เรื่องอื่นคงต้องจัดตารางเรียนกันใหม่
อืมมม อยากจะบอกว่า ปัญหาการเกษตร ไม่ใช่ว่า อะไรสักอย่างแล้วแก้ปัญหาได้เลย

งั้นถามหน่อย :
ในแปลงปลูกมะยงชิด มีไม้พี่เลี้ยงไหม ? .... ไม่มีครับ
กล้ามะยงชิดมีเสริมรากไหม ? ............... ไม่มีครับ

คำตอบก็คือ นี่คือปัญหาประจำตัวมะยงชิด ถ้าแก้ไม่ได้โอกาสตายมากกว่ารอด



32.
Q : ข่าเลื้อย ไม่ลงหัว แก้ไขอย่างไร ?
A :
ถามหน่อย :
ใส่ปุ่ยสูตรอะไร ? .......... 15-15-15 ครับ
นี่แหละสูตรสิ้นคิด พืชกินหัวต้อง 5-10-40 ....
ทางใบ : เอาแม็กเนเซียม สังกะสี 5-10-40
ทางราก : ให้น้ำหมักชีวภาพ 5-10-40



33.
ปุ๋ยสูตรพิสดารมีขายใน สมช.คาราวาน .... เขาเอามาจากไหน ?
บอกแล้วไง ที่ไหนก็มีขาย ยกเว้นบ้านคุณ
ซื้อไปซักซอง เอาไปถามร้านขายปุ๋ยที่บ้านคุณ.... เถ้าแก่ สูตรที่ถูกต้อง เอามาขายก็ได้กำไร
ซื้อไปซักซอง เอาไปคุยกับกรรมการบริหารสหกรณ์ที่บ้านคุณ....
เอาปุ๋ยสูตรที่ถูกต้อง เอามาขายก็ได้กำไร



34.
ด้วยเวลาแค่ 2 ชม. ข้อมูลที่ให้ได้จึงมีเพียงเท่านี้
ผิดกับชุดก่อนที่พอมีเวลา จึงให้ข้อมูลได้มากกว่า

คลิก :
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5131&sid=6f82708e14d48658ae82d74d6ec65643#top
กลุ่ม FACEBOOK สมชายกลิ่นมะพร้าว ถอดสลักระเบิดเถิดเทิง ที่ RKK

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4966&sid=2fcdeaaebceedf1620aab548c4cb6a02
กลุ่ม FACEBOOK สมชาย กลิ่นมะพร้าว ที่ RKK
------------------------------------------

ไร่กล้อมแกล้ม ดินแดนอาถรรพ์ ....
มาแล้วไม่มาอีก ไปแล้วไม่ไปอีก



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©