อีเทฟอน.กับยางพารา

[kimzagass]

หมู่นี้เห็นเน็ตเงียบๆ ไม่มีคำถาม เลยถือโอกาส "ท่องโลกเน็ต" พบเจออะไรที่
เหมือน/คล้าย/ต่าง กับของเรา เลยก็อปมาให้อ่านกันเล่นๆน่ะ......ลุงคิมครับผม
**********************************************


นวัตกรรมเพิ่มผลผลิตน้ำยางพารา 3-4 เท่าต่อเดือน

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2009 เวลา 21:14 น. live-rubber ความเคลื่อนไหวจากสวนยาง
นับเป็นเวลาที่เนิ่นนาน ที่มนุษย์พยายามค้นหาวิธีในการที่จะเพิ่มผลผลิตน้ำยางพาราให้ได้มากกว่า
ที่เป็นอยู่ ในที่สุดก็พบว่าในทุกครั้งที่มีการกรีดยางหรือทำให้เปลือกยางได้รับบาดแผลจนน้ำยาง
ไหลออกมา ต้นยางก็จะสร้างฮอร์โมนพืชที่มีชื่อว่า "เอทธิลีน" ขึ้นในบริเวณเปลือกยางโดยเอทธิลี
นจะมีผลต่อการไหลของน้ำยาง ในปัจจุบันจึงมีการผลิตแก๊สเอทธิลีน. ซึ่งถือเป็นสารเคมีที่มี
คุณสมบัติเหมือนฮอร์โมนพืช มาเป็นตัวการเร่งหรือกระตุ้นให้ได้น้ำยางมากขึ้นกว่าเดิม 3-10 เท่า
ต่อวัน หรือ 2.5-4 เท่าต่อเดือน

หากจะย้อนเวลาเพื่อดูความพยายามของผู้คนในการจะเพิ่มผลผลิตน้ำยาง ก็พอจะมีบันทึก ไว้บ้าง
ดังนี้

พ.ศ. 2455 Camerun พบว่าส่วนผสมของมูลโคและดินเหนียว ทาใต้รอยกรีด จะช่วยเร่งน้ำยางได้

พ.ศ. 2494 Tixier พบว่า "จุนสี หรือ CuSo4" ที่ฝังในรูที่เจาะไว้ที่โคนยาง 2 รู ทำให้ผลผลิต
ยางเพิ่มเป็นเวลา 3 เดือน และ G.W. Chapman พบว่า 2,4-D ผสมน้ำมันปาล์มทาใต้รอยกรีด
ที่ขูดเปลือก ทำให้ผลผลิตน้ำยางเพิ่มขึ้น ซึ่งต่อมาได้มีการปรับปรุงส่วนผสมใหม่ ได้เป็นสารเคมี
เร่งน้ำยางสูตรใหม่ ภายใต้ชื่อ Stimulex และผลิตออกขายเป็นระยะเวลานาน

พ.ศ. 2504 พบว่า เอทธิลีนออกไซด์ ทำให้น้ำยางไหลมากขึ้น

พ.ศ. 2507 นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย ได้ผลิตสารที่ให้เอทธิลีน.ขึ้นมา ชื่อว่า อีเทฟอน.
(Ethephon) ซึ่งสามารถเร่งน้ำยางได้

พ.ศ. 2508 บริษัทยูเนียนคาร์ไบด์ ได้ผลิตสารอีเทฟอน. เพื่อเชิงการค้าโดยใช้ชื่อว่า อีเทรล.
(Ethrel)

พ.ศ. 2511 Bonner ได้ทดลองใช้พลาสติกหุ้มเหนือรอยกรีด โดยภายในบรรจุด้วยแก๊สเอทธิ
ลีน. พบว่า ทำให้มีผลผลิตน้ำยางเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงได้ข้อสรุปว่า สารที่เป็นฮอร์โมนและสามารถ
ปลดปล่อยแก๊สเอทธิลีน.ได้ สามารถเร่งหรือเพิ่มผลผลิตน้ำยางได้

ในปัจจุบันจึงมีสารเคมีเร่งน้ำยางที่มีคุณสมบัติเหมือนฮอร์โมนพืชอยู่ 2 ชนิด คือ ชนิดที่เป็นของ
เหลวที่มีชื่อว่า "อีเทฟอน" ซึ่งผลิตจำหน่ายในชื่อการค้า เช่น อีเทรล, อีเทค, โปรเทรล, ซีฟา
และอีเทรลลาเท็กซ์. และชนิดเป็นแก๊ส คือ เอทธิลีน. ซึ่งทั้ง 2 ชนิด ล้วนสลายตัวให้ เอทธิลีน.
แก่ต้นยางเหมือนกัน และถึงแม้จะสลายตัวให้ เอทธิลีน.เหมือนกัน แต่พบว่า การใช้ อีเทฟอน. จะ
ทำให้ต้นยางเป็นโรคหน้าตายอย่างมากมาย เนื่องจากผู้ใช้มักไม่ใช่เจ้าของสวนยางเอง (ใช้ไม่ถูก
ต้องตามคำแนะนำและใช้ระบบกรีดไม่เหมาะสมกับการใช้สารเร่ง) ตรงกันข้ามกับการใช้แก๊สเอท
ธิลีน.ที่ไม่ส่งผลดังกล่าว (แต่ต้องใช้ตามอัตราที่กำหนดเช่นกัน)

เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมการอัดแก๊สหรือฮอร์โมนเอทธิลีน.เข้าไปในเปลือกต้นยางพาราเพื่อเพิ่ม
ผลผลิตน้ำยางได้ก่อกำเนิดมาจาก ดร.สิวากุมาราน. อดีตผู้อำนวยการโครงการวิจัยและพัฒนาของ
สถาบันวิจัยยางมาเลเซีย ผู้ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของการเพิ่มผลผลิตน้ำยาง โดยเฉพาะจากต้น
ยางพาราที่ปลูกมาแล้วไม่น้อยกว่า 15 ปี ซึ่งมีการกรีดยางไปแล้วทั้ง 2 หน้า และเปลือกงอกใหม่
ยังบางหรือหนาไม่ถึง 1 ซม. หากกรีดซ้ำหน้าเดิมก็จะได้น้ำยางน้อย จึงได้คิดค้นเทคโนโลยีการใช้
อุปกรณ์ณ์เพื่อให้สามารถอัดฮอร์โมนเอทธิลีน.เข้าไปในเปลือกยางพาราได้ ซึ่งเรียกสิ่งนี้ว่า
เทคโนโลยีริมโฟลว์. (กระเปาะพลาสติก)โดยทำการกรีดยางหน้าสูงด้วยรอยกรีดสั้นเพียง 4 นิ้ว ทำ
ให้ได้ผลผลิตน้ำยางมากอย่างน่าอัศจรรย์

เทคโนโลยีนี้ได้เริ่มทดลองใช้ในประเทศมาเลเซียเมื่อ ประมาณ 12 ปีกว่ามาแล้ว และถูกนำมา
เข้ามาทดลองใช้ในประเทศไทยโดยศูนย์วิจัยยางสุราษฎร์ธานี นับเป็นเวลา 8 ปี นอกจากนี้ ใน
ปัจจุบันเราจะพบเห็นระบบอุปกรณ์การให้ฮอร์โมนแก่ต้นยางอีกแบบหนึ่ง(กระเปาะเหล็ก)หรือแบบ
เลท-ไอ (LET-I) ซึ่งเป็นการดัดแปลงระบบริมโฟลว์ของมาเลเซียจนกลายมาเป็นแบบของไทย
โดยห้างหุ้นส่วนจำกัดไอ ที รับเบอร์ (อ.เบตง จ.ยะลา)


ที่มา : กรมวิชาการเกษตร

*******************************************************

ประสบการณ์ตรง :

..... ยางพาราเป็นไม้ยืนต้นประเภทต้องการความชื้น (ในดินและในอากาศ) สูงถึงสูงมาก ลักษณะ
สภาพอากาศในภาคไต้เป็นแบบ "ฝนแปด - แดดสี่" ต้นยางพารราจึงเจริญเติบโตแล้วให้ผลผลิต
ดี ต่างจากภาคอื่น (อิสาน - เหนือ) ที่สภาพอากาศเป็นแบบ "ฝนสี่ - แดดแปด" ต้นยางพาราจึง
โตช้า ถึงยืนต้นตาย และให้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นในเขตที่ไม่มีน้ำ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง
จัดหามาให้แก่ต้นยางพาราให้ได้

..... คุณนิพันธ์ สัญญารัตน์ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี บำรุงต้นยางพาราระยะกล้าด้วย "ปุ๋ยน้ำชีวภาพ
ระเบิดเถิดเทิง + 30-10-10" ทุก 2-3 เดือน/ครั้ง ให้น้ำสม่ำเสมอ สภาพต้นโตเร็วมากได้ถึง
6 ฉัตร ในขณะที่แปลงข้างเคียงให้แต่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ อัตราโตเพียง 2-3 ฉัตรเท่านั้น

..... ยางพารา (ภาคใต้) เปิดกรีดแล้ว ให้ทางรากด้วย "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 21-7-
14" เดือนละ 1 ครั้ง ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยคอก ยิบซั่ม กระดูกป่น) ปีละ 1 ครั้ง กับให้ปุ๋ยทางใบ
ด้วย "อเมริกาโน (21-7-14) เดือนละ 1 ครั้ง ส่งผลให้ต้นสนมบูรณ์ถึงขนาดกรีดกลางวันได้


ลุงคิมครับผม

ป.ล.
ท่านใดมีข้อมูลประสบการณ์ตรงเรื่องสับปะรด เชิญชวนให้เขียนมา เขียนลงในกระทู้ปกติก่อน
แล้วลุงคิมจะก็อปมาลงต่อท้ายที่กระทู้นี้ให้ภายหลัง

[Biot_11]

ผมก็กรีดยางที่บ้านเองครับ เท่าที่เคยสัมผัสการใช้ยาเร่งน้ำยาง อีเทรล1.5% พบว่าน้ำยางออกดี
มากๆ ไหลจนน่ากลัว (กลัวต้นมันตาย) แต่ปีต่อมาไม่ได้ใช้ พบว่าน้ำยางไหลไม่ดี ต่างจากก่อน
ใช้โดยสิ้นเชิงบางต้นก็หน้าตาย (ตอนนี้ผมเลยหยุดใช้ แต่อยากหาวิธีที่จะทำให้ยางไหลออกดีโดย
ไม่ต้องใช้อีเทรล.ครับ )

แต่บางคนที่กรีดเองบอกว่าถ้ายางเปลือก 2 แล้ว ก็ใช้ยาเร่งน้ำยางเพราะยางจะออกไม่ดีเหมือน
เปลือกแรก (เท่าที่สังเกตุดูก็จริงนะครับ) แต่บางทียางเปลือกแรกก็จริง กรีดไปได้สักระยะก็พบ
ว่าน้ำยางก็ไม่มี (หน้าตาย) อาจจะเป็นเพราะพันธุ์ยางไม่ดี และผมคิดว่าการจะใช้อีทีฟอน. ซึ่งเป็น
แก๊สเร่งน้ำยางยี่ห้อหนึ่ง ที่เจาะติดที่ตันยางเลยนั้นทางภาคอื่นๆ อาจจะไม่เหมาะสมเท่ากับภาคใต้
เนื่องจากปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าภาคใต้มากๆ จำนวนวันที่กรีดได้นั้นมากกว่าภาคใต้ครับ แต่ตัวผม
เองก็อยากลองนะครับแต่ติดตรงที่ว่าไม่ใช่ยางของผมเองเป็นของพ่อน่ะ ..... 555 เลยอด

[kimzagass]

ช้าดดด เลย....ชัดเลย ความสมบูรณ์ต้น

คราวนี้ รอบหน้าลองใหม่...

ทางดิน.....ใส่อินทรีย์วัตถุ ปุ๋ยคอก ยิบซั่ม กระดูกป่น ปีละ 2 ครั้ง....ให้ "ปุ๋ยน้ำขีวภาพระเบิด
เถิดเทิง 21-7-14" เดือนละ 1 ครั้ง

ทางใบ.....ให้ "ปุ๋ยน้ำดำไบโออิ + ยูเรก้า" ช่วงแรก 15 วัน/ครั้ง ติดต่อกัน 3-4 รอบ จากนั้น
ให้ 1 เดือน/ครั้ง สม่ำเสมอ

ปัญหาต้นยางพาราสูง ให้ทางแก้ปัญหาโดยเอาหัวฉีดผูกติดปลายไม้ แล้วส่งขึ้นไปให้ถึงใบปลาย
ยอดให้ได้ ใช้ปั๊มกำลังสูงๆซี่

ยางพาราเปิดกรีดแล้วชอบ 21-7-14 ..... ควรให้ทั้งทางใบ ทางราก ควบคู่กัน

ปัญหาเรื่อง "พ่อ" เป็นหน้าที่ของลูกที่จะต้องอธิบายให้เข้าใจให้ได้.....คุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว พร้อม
ที่จะเป็นทายาทเกษตรแล้วหรือยัง....เก่งจริง พูดให้พ่อยอมรับให้ได้ซี่


บังคับต้นไม้ด้วยการบำรุง อย่าบังคับด้วยวิธีทรมาณ
ลุงคิมครับผม

[Biot_11]

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับลุงคิม

ปัญหาเรื่อง "พ่อ" จะพยายามพูดครับ ถ้าไม่สำเร็จก็ยึดอำนาจเลย 555 (เหมือนนักการเมือง)ล้อ
เล่นครับอาจจะขอพ่อสัก1แปลง เพื่อทำการทดลองครับ

[kimzagass]

กิระ ได้ยินมา.....


1.
ราว 7-8 ปีมาแล้ว เด็กชายเรียนอยู่ชั้น ม.2 บ้านอยู่ อ.ปรานบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาชีพหลัก
ทำไร่สับปะรดเหมือนเหมือนบ้านข้างเคียง บังเอิญในเขตรั้วบ้านมี “ชมพู่ทูนเกล้า” อยู่ประมาณ
10 ต้น เด็กชายผู้เรียนอยู่ชั้น ม. 2 เอ่ยปากขอพ่อ

ลูก : พ่อครับ หนูขอชมพู่พวกนี้ได้ไหมครับ ?

พ่อ : เอ็งจะเอาไปทำอะไร ?

ลูก : หนูจะทำตามแนวลุงคิมน่ะครับ

พ่อ : (นึกขึ้นได้ว่าลูกชายตัวเอง ฟังรายการวิทยุลุงคิมทุกวัน) เอาซิ ว่าแต่ว่าเอ็งจะทำยังไงล่ะ ?

ลูก : ตอนนี้มันเริ่มออกดอกแล้ว หนูจะบำรุงใส่ปุ๋ยตามที่ลุงคิมบอกนั่นแหละครับ

พ่อ : งั้นตามใจ ถ้าเอ็งจะเอาปุ๋ยอะไรก็ไปสั่งที่ร้านในตลาดนั่นแหละนะ


หนุ่มน้อยยิ้มด้วยความพอใจ งานนี้เริ่มด้วยการจัดระเบียบโคนต้น ตัดแต่งกิ่งในทรงพุ่มออกหมด
เหลือแต่กิ่งด้านนอก ปล่อยให้ทึบช่วยบังแดด ใส่ปุ๋ยทางรากสูตร 8-24-24 ให้ทางใบด้วยสูตร
บำรุงดอก.....วันเวลาผ่านไปภายใต้สายของผู้พ่อ ทุกวันหลังกลับจากโรงเรียนเขาจะไปขลุกอยู่
กับชมพู่ทั้ง 10 ต้นไม่เคยขาด ในขณะที่ชมพู่ก็เจริญเติบโตดี ต่างจากเมื่อก่อนอย่างเทียบกันไม่
ได้ แต่ละวันผู้เป็นพ่อได้แต่มองแต่ไม่เคยถาม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่ที่พูดคุยกับเจ้าลูกชาย
ถึงการบำรุงชมพู่ว่าทำอะไร อย่างไรบ้าง จนกระทั่งถึงวันเก็บเกี่ยวผลผลิต หนุ่มน้อยกับแม่ช่วยกัน
เก็บผลชมพู่ไซด์ 6 ผล/กก. ราคาขายในตลาดใกล้บ้าน 30 บาท/กก ชมพู่ทูนเกล้า 10 ต้น
ได้ผลผลิตกว่า 500 กก.......นั่นคือ จุดเริ่มต้นที่ผู้เป็นพ่อวางใจ ยกชมพู่ทั้ง 10 ต้นนั้นให้รับผิด
ชอบ ทำได้ ขายได้ เอาเงินไปเลย จากชมพู่ที่ประสบความสำเร็จ ผู้เป็นพ่อเริ่มปริปากถามลูกชาย
ว่า สับปะรดบำรุงอย่างไร



2.
ครอบครัว พ่อ-แม่-ลูกสาววัย 30 ย่านดำเนินสะดวก ราชบุรี ทำสวนมะนาวยกร่องน้ำหล่อ 20
ร่อง พ่อไม่เคยเชื่อเรื่อง “อินทรีย์ชีวภาพ” อย่างจริงๆจัง ข้างลูกสาวเชื่อเต็มร้อยว่าต้อง
“อินทรีย์ผสมผสานกับเคมี” ส่วนแม่ไม่รู้เรื่องทั้งอินทรีย์และเคมี พ่อรู้ว่าลูกสาวคิดอะไรอยู่ ทุก
ครั้งที่บำรุงต้นมะนาว ไม่ว่าจะเป็นให้ทางใบหรือทางราก ผู้เป็นพ่อคุมแจ สั่งการด้วยตัวเองทุก
เรื่อง ลูกสาวไม่กล้าขัดใจก็ต้องทำตาม จำนวน 18 ร่องเท่าที่สายตาพอมองเห็นทำตามพ่อสั่ง
แต่ 2 ร่องท้ายสวนพ่อมองไม่ถึงเพราะไม่ได้เข้าไปดูใกล้ๆ สาวเจ้าแอบเอาปุ๋ยที่ซ่อนไว้ให้
แทน.......วันเวลาผ่านไป ผู้เป็นพ่อเดินเข้าไปสำรวจแปลงแล้วพบว่า มะนาว 18 ร่อง เกิดอาการ
ต้มโทรมอย่างรุนแรง แต่ 2 ร่องสุดท้ายกลับงามต้น งามใบ สมบูรณ์ ลูกดกแทบกองดิน เห็นแล้ว
เก็บความสงสัยนั้นไว้ กระทั่งถึงมื้อเย็น พ่อ-แม่-ลูก ล้อมวงกินข้าว

พ่อ : อีหนู มึงบอกกูมา มึงเอาอะไรฉีดมะนาว ?

ลูก : หนูก็เอาปุ๋ยที่พ่อให้ฉีดนั่นแหละ

พ่อ : (ตะคอกเสียง) ไม่จริง มึงอย่ามาโกหก มึงเอาปุ๋ยอะไรฉีด มึงบอกกูมา

ลูก : (ลุกขึ้นไปแอบหลังแม่ มือที่กุมไหล่แม่มีอาการสั่นๆ......แม่รู้)

แม่ : นี่ แกอย่าไปดุลูก มันจะเอาปุ๋ยอะไรฉีดก็ช่างมัน มะนาวมันออกลูกดีกว่าปุ๋ยของแกก็แล้วกัน

พ่อ : (ไม่ฟังแม่.....ตะคอกเสียต่อ) มึงบอกกูมา มึงเอาปุ๋ยอะไรฉีด

ลูก : ถ้าหนูบอกพ่อแล้วพ่ออย่าโกรธนะ

พ่อ : มึงเอาปุ๋ยอะไรฉีด บอกกูมา

ลูก : (ลูกสาวล้วงมือลงไปในกระเป๋า แล้วหยิบขวดแก้วสีชาขึ้นมาชูให้พ่อดู)

พ่อ : (ตะลุง ตะคอกเสียงดังขึ้นอีก) ลิโพ..... มึงใช้ลิโพฉีดมะนาวยังงั้นเหรอ

ลูก : จ้ะพ่อ หนูใช้ลิโพนี่แหละ แม่ก็รู้

พ่อ : (โยนจานข้าวกระแทกพื้นแล้วผลุนผลันลุกขึ้น ออกจากวงข้าวเดินลงบ้านไป) เออ
ต่อไปนี้กูจะไม่ยุ่ง มึงกับแม่มึงสองคนทำกันเองก็แล้วกัน

แม่ : (ขึ้นเสียงบ้าง) เออ ขอให้เลิกยุ่งจริงๆเถอะ ยิ่งทำยิ่งแย่ เรื่องรั้นละไม่มีใครเกิน


เมื่อลูกสาวได้โอกาสจึงหันมาบำรุงมะนาวด้วยลิโพอย่างจริงจัง ทุกขั้นตอนทำตามรายการวิทยุลุง
คิมอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งขายมะนาวรุ่นนั้นได้ ผู้เป็นพ่อจึงหันหน้ามาคุยกับลูกสาวแล้วยอมรับ
แนวทางอินทรีย์ผสมผสานกับชีวภาพ

นิทานจริงเรื่องนี้สอนว่า อย่าสอนพ่อแม่ แต่ทำให้ท่านเห็น ให้ท่านยอมรับด้วยตัวเอง
ลุงคิมครับผม

[ott_club]

ยางพารา จากประสบการณ์ที่พอมีอันน้อยนิด

การที่จะทำให้ยางออกดีและหน้าตายน้อยอยู่ที่ปุ๋ยครับ คือให้ถือหลักการให้น้อยแต่บ่อยครั้ง
ให้ทุกเดือน เดือนละครั้ง ปุ๋ยเคมีสลับกับปุ๋ยอินทรีย์ ต้นยางจะอ้วน (เคยเห็นไหมต้นยางอ้วนมัน
เป็นอย่างไร) ต้นจะสมบูรณ์ น้ำยางดี หน้าตายน้อย ตอนขายต้นก็ได้ราคาเพราะต้นใหญ่ได้ไม้มาก
เพราะปุ๋ยเคมีหลังจากใส่ลงดินแล้วจะอยู่ได้แค่ประมาณ 20 กว่าวัน

1....ระเหิดไปในอากาศ
2....ดินตรึงไว้
3....ไหลไปกับน้ำ สุดท้ายเหลือนึดนึงให้ต้นยางกิน

ลองคิดดูเรากรีดเอาผลผลิตน้ำยางออกมาเกือบทุกวัน แต่ใส่ปุ๋ยแค่ปีละ 2 ครั้งจะพอให้มันหรือ
เปรียบเหมือนกับเราต้องบริจาคเลือดทุกบ่อยๆ แต่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอจะเกิดอะไรขึ้น มัน
ก็คล้ายๆ อย่างนี้แล

อ๊อดครับ

[kimzagass]

คำตอบดีมาก ขอบคุณมากอ๊อด.....

น่าจะเห็นแสงสว่างปากถ้ำนะ
ลุงคิมครับผม

[meninblack]

ลุงคิมครับ

ให้ทางใบยังไงล่ะครับ สูงตั้งเกือบตึก 3 ชั้น แต่ถ้าผมทำได้นี่สวนข้างๆ คงว่าผมเพี้ยน
ไปแล้วแน่ๆ

ส่วนวิธีใส่ปุ๋ยของเฮียอ๊อด.ที่แนะนำไว้ในเกษตรพอเพียง ฝนลงมาเมื่อไรได้ทดลองใช้แน่ครับ
แต่ 21-0-0 ค่า ph ต่ำ ไม่ใช่เหรอครับ (ถามคนขายปุ๋ยมา ราคาถูกดีด้วย)

ยาง 400 ต้นนี่ใส่แต่น้อยสักกี่กิโลกรัมครับ

[kimzagass]

อะไรๆ ที่ไม่เคยทำ แล้วบอกว่าทำไม่ได้ บ้านลุงคิมเรียกว่า "แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง...."
อะไรๆ ที่แถวบ้านย่านนี้ไม่มีใครทำ แล้วบอกว่าทำไม่ได้ บ้านลุงคิมเรียกว่า "อยู่แต่ในมุ้ง"

บอกแล้วไง คิดจะทำเกษตรแล้ว ห้ามพูดว่า "ไม่เคยทำ พ่อแม่ไม่เคยนำทำ แถวบ้านย่านนี้ไม่มี
ใครทำ" .... คิดได้แค่นี้ (ที่จริงไม่ได้คิด) ชีวิตจะดีขึ้นได้อย่างไร

ถามจริง รู้จักคำว่า....คิดนอกกรอบ........ นวตกรรมใหม่ .......คิดใหม่ทำใหม่.....ล้ำหน้าข้าง
บ้าน 1 ก้าว ไหม....................... คิด/ทบทวนความจำ

บำรุงต้นไม้ โดยการให้ปุ๋ยทางใบโชกๆ จนตกลงพื้นดินโคนต้น ดีกว่า ให้ปุ๋ยทางดินทางเดียว
ไหม..................................... คิด/ถามต้นไม้

วันนี้ต้องการผลิตดีๆ ได้น้ำยางทั้งมากทั้งข้น อายุกรีดยาวนาน ทุกอย่างดีกว่าที่พ่อแม่เคยทำมา
ดีกว่าข้างที่กำลฃังทำอยู่ ไหม...........คิด/ถามตัวเอง

อยากได้ต้นยางที่ไม่ทิ้งใบหน้าแล้ง ต้นสมบูรณ์ขนาดกรีดยางกลางวันได้ ต้นทุนต่ำแสนต่ำ แบบนี้
ทำได้ ไหม...............................ติด/ถามข้างบ้าน

ยอดยางพารามันก็ไอ้แค่ต้นไม้ธรรมดาๆ ต้นไม้ย่อมสูงแค่ต้นไม้..... ตึกสูง 50 ชั้น 100 ชั้น น้ำ
ฝักบัวในห้องน้ำพุ่งออกมาได้ ไหม..... คิด/เปรียบเทียบ



เป็นไปได้ V.S. เป็นไปไม่ได้

1..... ติดระบบสปริงเกอร์ ต่อหัวสปริงเกอร์ขึ้นไปอยู่เหนือยอดไม้ ให้ "ปุ๋ย+ฮอร์โมน+ยาสมุน
ไพร+ น้ำ" หรือ "น้ำเปล่าๆ" เนื้อที่ 1 ไร่ ใช้เวลา 15 นาที แรงงาน 1 คน....สปริงเกอร์ติด
ตั้งครั้งเดียวอยู่ได้นานเกิน 10 ปี

2.....ติดตั้งถังน้ำขนาดจุ 1,000 ล. 1-2 ถัง บรรทุกบนอีแต๋น ใช้เครื่องฉีดพ่นกำลังสูง ใช้แรง
งาน 1 หรือ 2 คน

3.... กรณีลากสายยาง หัวฉีดผูกติดหกับปลายไม้ยาวๆ แหย่หัวฉีดขึ้นไปเหนือยอดไม้ แล้วฉีด
พ่นทีละ 1-2 ต้น ซ้ายขวา แรงงาน 1-2 คน


ยางพาราประณีต กับ ยางพาราเทวดาเลี้ยง
อย่างไหนให้น้ำยางดีกว่ากัน............คิด/ตัดสินใจ


คนรุ่นใหม่วัดที่แนวความคิด ไม่ใช่วัดที่อายุน้อยกว่า
ลุงคิมครับผม

[ott_club]

การที่เราใช้ปุ๋ย 21-0-0+24 S กับยางพาราเพราะเราจะได้กำมะถันติดมาด้วย

ยางพาราจะถูกกันดีกับกำมะถันครับ และไม่ต้องกังวลกับการเป็นกรดก็บอกแล้วงัย

เคมีสลับกับอินทรีย์

เฮี๋ยเอง

[kimzagass]

กำมะถัน.ในยิบซั่ม (แคลเซียม ซัลเฟต/ชื่อสารมัญ) เป็นกำมะถันอินทรีย์ ค่า พีเอช 7.0-7.5
เพราะฉนั้นไม่ต้องกลัวว่าดินจะเป็นกรดเพราะยิบซั่ม

ลุงคิมครับผม

[meninblack]

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ชี้แนะ และกระผมจะน้อมนำไปปฏิบัติการในกาลต่อไปภาคหน้าอันใกล้
อะไรที่ยังไม่ได้ทำจะทำ ก่อนที่จะไม่ได้

[ott_club]

[kimzagass]

เหมือน "ยาโด๊ป" หรือ "สารกระตุ้น" ที่ใช้ในคนนั่นแหละ
เทคนิคบังคับ "แบบทรมาณ V.S. แบบบำรุง" ใครว่าอย่างไนดีกว่ากัน
ก็มีเหมือนกันที่บางความคิดบอกว่า "ทำสองย่าง" พร้อมกันตามความเหมาะสม


ทุกปัญหามีทางออก อย่าให้ทุกทางออกมาแต่ปัญหา
ลุงคิมครับผม

[Biot_11]

อยากลองทำฮอร์โมนเพื่อทาหน้ายางเองอะครับ เมื่อก่อนเคยลองใช้จุลินทรีย์+กากน้ำตาลลองทาที่หน้ายางดูอะครับยางเปลือกนิ่มกรีดง่ายนะครับเท่าที่สังเกตุน้ำยางเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ใช้ได้สักระยะพบว่าเริ่มเป็นเส้นดำหน้ายุบจึงหยุดใช้ครับ+กับไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนด้วย(กรีดยางอย่างเดียวก็จะมะไหวแล้ว) ปีนี้กรีดยางน้อยลงเลยอยากลองนำสับปะรด+จุลฯ+กากน้ำตาลครับ
...............ที่หน้ายางยุบผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับน้ำหมักมั้งครับน่าจะเกิดจากเชื้อไฟทอปเทอร์ร่ามากกว่าเพราะแปลงอื่นที่ไม่ได้ทาน้ำหมักก็ยังเกิดโรคเส้นดำเลยครับ ..................

[Biot_11]

อยากสอบถามเฮียอ๊อด.น่ะครับว่า สวนยางของเฮียต้นยางมันเป็นอะไรครับ ถึงไม่ได้กรีด
ผมอยากเข้าไปคุยที่บ้านแต่กลัวหมา แค่มันดุยังไม่พอแถมยังเยอะอีกด้วย

[ott_club]

โดยทั่วไปชาวสวนมักจะใช้แต่ดินแดงทาหน้ายาง หรือหนักขึ้นหน่อยก็ใช้ยาแก้เชื้อรา
เมทาแลคซิลทา(ทาใหม่ๆ คนกรีดเวียนหัว) หรือบางคนก็ใช้โพลีอาร์ฟอส 400 ผสมน้ำ
ใส่กระปุกฉีดเข้าไปที่หน้ายางก็ได้ผลดี

แต่ปีนี้ผมคิดว่าจะผสมไคโตซานเข้าไปด้วยตามที่ลุงคิมแนะนำไม่รู้จะได้ผลอย่างไร

ส่วนจุลินทรีย์ที่คุณ Biot_11 ทำนั้นผมว่ามันมีส่วนผสมของกากน้ำตาล จะเป็นการเรียก
เชื้อราหรือเปล่า หากจะทำใช้ควรที่จะมีการหมักเป็นปีเพื่อสลายความหวานและพิษของ
กากน้ำตาลก่อน

สวนยางที่บ้านผมไม่ได้กรีดเพราะมีปัญหายางหน้าตายมากเหลือเกิน (เกือบ50%) ประกอบ
กับที่ผ่านมาราคายางตกต่ำมาก เลยพักการกรีดไป 1 ปี ก็เท่านั้นเองแหละครับ

ott_club