-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหา วิทยุ 11 FEB ... *ปลูกถั่วบำรุงดินนาข้าว
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหา วิทยุ 11 FEB ... *ปลูกถั่วบำรุงดินนาข้าว
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหา วิทยุ 11 FEB ... *ปลูกถั่วบำรุงดินนาข้าว

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 11/02/2016 10:50 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหา วิทยุ 11 FEB ... *ปลูกถั่วบำรุงดินนาข้าว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 11 FEB

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------



จาก : (083) 193-79xx
ข้อความ : นาข้าวรุ่นละ 4 เดือน ทำนาข้าว 2 รุ่น รวม 8 เดือน เหลือเวลา 4 เดือนให้ปลูกถั่วไร่
ขายเอาเงินแล้วไถกลบซากต้นบำรุงดิน คิดตามตัวเลข 4+4+4 = 12 เดือน เหมือน O.K. แต่ทำไม่ได้เพราะ ระหว่างเดือนต่อเดือนจะมีธรรมชาติเข้ามาเป็นตัวแปร ปัญหานี้เราจะแก้ไขอย่างไร .... ขอบ คุณครับ
ตอบ :
ภาษิต 10 ล้อ ภาษิตรถไฟ ปัญหามีให้แก้ ไม่มีให้กลุ้ม พระสยามเทวาธิราชสร้างทางออกไว้ให้ทุกปัญหาแล้ว .... จงเชื่อพระสยามเทวาธิราช จงเชื่อคนในกระจก จงเชื่อตัวเอง .... จงอย่าเชื่อคนขายปุ๋ยเคมี จงอย่าเชื่อคนขายสารเคมียาฆ่าแมลง

สิ่งที่ทำให้ดินดีได้ คือ อินทรีย์วัตถุ กับ จุลินทรีย์
อินทรีย์วัตถุประเภทเศษซากพืชที่มีอยู่เดิม ได้แก่ ฟาง วัชพืช
อินทรีย์วัตถุเศษซากพืชที่ใส่ใหม่ ได้แก่ แหน ถั่ว

“ธรรมชาติเข้ามาเป็นตัวแปร” นั้นคืออะไร ? .... ฝน น้ำมากเกิน .... แล้ง ไม่มีน้ำ .... หนาว แม่คะนิ้ง เพราะแต่ละสภาพธรรมชาติมีผลต่อต้นข้าวต่างกัน

บริหารเวลา - บริหารดิน :
นาข้าวปีละ 2 รุ่น .... รุ่น 1 หว่าน/ดำ ก.ค. เกี่ยว ต.ค .....รุ่น 2 หว่าน/ดำ พ.ย. เกี่ยว ก.พ. .ทั้ง 2 รุ่นสามารถ +/- 1 เดือนได้ .... ช่วงเดือน มี.ค. - เม.ย. - พ.ค. - มิ.ย. เป็นช่วงดินว่าง

เดือน มี.ค. - มิ.ย. ปลูกถั่วเขียว-ถั่วเหลือง-ถั่วแดง-ถั่วดำ-งา-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-ทานตะวัน-ฯลฯ ซึ่งเป็นพืชไร่ใช้น้ำน้อย หรือต้องการน้ำเพียงหน้าดินชื้นเท่านั้น 15วัน 20วัน ให้ครั้งก็ได้

หมายเหตุ :
ทั้งการทำนาข้าว และพืชไร่ ต้องอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน คือ "มีน้ำ" เพราะต่างก็ต้องการน้ำเหมือนๆ กัน
1.... ไม่เอาผลผลิต แต่เพื่อไถกลบเศษซากบำรุงดินสำหรับการทำนารอบต่อๆ ไป
2.... เอาผลผลิต แล้วไถกลบเศษซากบำรุงดิน
-------------------------------------------------------------------

ปลูก 'พืชตระกูลถั่ว' หลังนา :
หลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังรอบที่ 1 แล้ว เกษตรกรควรพักดินและงดทำนาปรังรอบ 2 และควรปลูกพืชชนิดอื่นที่มีลู่ทางการตลาดดี ทด แทนข้าวนาปรัง เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และถั่วลิสง ซึ่งมีแนวโน้มราคาอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากเป็นพืชอายุเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อยที่สามารถช่วยประหยัดน้ำ และลดปัญหาการแย่งชิงน้ำเพื่อการเกษตรแล้วยังช่วยตัดวงจรปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวได้อีกทางหนึ่งด้วย

เกษตรกรควรจัดระบบการปลูกพืชในนาข้าวใหม่ โดยปลูกพืชตระกูลถั่วสลับกับการทำนาปี-นาปรัง เช่น ปลูกถั่วเหลืองหลังนา สามารถที่จะช่วยปรับโครงสร้างดินให้สมบูรณ์ขึ้น ได้ ถ้าไถกลบต้นถั่ว เหลืองลงดินจะมีปริมาณธาตุไนโตรเจนที่ได้จากการสลายตัวของต้นถั่วเหลือง 7 กก.ไนโตรเจน/ไร่ คิดเป็นปริมาณไนโตรเจนในปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) 15 กก./ไร่ หรือไนโตรเจนในปุ๋ยแอมโมเนียม ไนเตรท (21- 0-0) 34 กก./ไร่

เมื่อกลับไปปลูกข้าว เกษตรกรไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยไนโตรเจนอีกเลย คาดว่าจะสามารถ ช่วยลด ต้น ทุนค่าปุ๋ยไนโตรเจนในนาข้าวทั้งประเทศ ได้ปีละกว่า 4,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังจะมีราย ได้ เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลผลิตถั่วเหลือง และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากผลผลิตข้าว คิดเป็นมูลค่า รวม กว่า 12,032 ล้านบาท นอก จากถั่วเหลืองแล้ว อาจปลูกถั่วเขียวหรือถั่วลิสง ซึ่งเกษตรกรจะ ได้รับ ผลตอบ
แทนใกล้เคียงกัน และ ที่สำคัญ ยังได้ปรับปรุงโครงสร้างดินในแปลงนาไปในตัวด้วย

สถาบันวิจัยพืชไร่ กรมวิชาการเกษตร แนะนำว่า การเพาะ ปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง เกษตรกรควรคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนที่จะหล่อเลี้ยงพื้นที่เพาะปลูกว่ามีเพียงพอหรือไม่ เพราะน้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อระบบการผลิต หากปริมาณน้ำไม่เพียงพอเกษตรกร ไม่ควรทำนาปรังแต่ควรปลูกพืชอายุสั้นและใช้น้ำน้อยแทน โดยเลือกปลูกพืชไร่ที่มีราคาดี เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และถั่วเขียว ซึ่งจะใช้น้ำประมาณ 400-600 ลบ.ม. /ไร่ /รอบ การผลิต ทั้งยังต้อง มองถึงช่องทางตลาดด้วยว่าพืชชนิดใดที่ตลาดมีความต้องการมากเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน

ขณะเดียวกันยังต้องเลือกใช้เมล็ดพันธุ์พืชพันธุ์ดีที่มีคุณภาพ ให้ผลผลิตสูงและเหมาะกับสภาพ พื้นที่ อาทิ
ถั่วเหลือง .... พันธุ์เชียงใหม่ 60, เชียงใหม่ 2, เชียงใหม่ 5. นครสวรรค์ 1. พันธุ์ขอนแก่น,
ถั่วเขียว ..... พันธุ์ชัยนาท 72, กำแพงแสน 1, กำแพงแสน 2, และ พันธุ์ชัยนาท 36
ถั่วลิสง ..... พันธุ์ขอนแก่น 6, ขอนแก่น 5, พันธุ์กาฬสินธุ์ 1, กาฬสินธุ์ 2,

การให้น้ำเป็นเรื่องสำคัญมาก ในช่วงอุณหภูมิสูงไม่ควรให้ขาดน้ำจนพืชเหี่ยวเฉา เพื่อให้การปลูก ถั่ว เหลือง และถั่วเขียวได้ผลผลิตดีควรให้ น้ำทุก 10-14 วัน พยายามอย่าให้ขาดน้ำ โดยเฉพาะ ระยะ ที่พืชออกดอกติดฝักไม่ควรให้ขาดน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ดอกร่วงไม่ติดฝัก ส่งผล ให้ได้ ผลผลิตลดลงและเสียหายได้ ส่วนถั่วลิสงควรให้น้ำเมื่อความชื้นในดินลดลง หรือสังเกตต้น ถั่วเมื่อ ใบเริ่มเหี่ยวในตอนกลางวัน การให้น้ำควรมีช่วงห่างระยะ 10-15 วัน ต่อครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะ เป็น แนว ทางช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตพืชฤดูแล้งหลังนาได้


ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?
page=content&categoryId=344&contentID=52843
-------------------------------------------------------------------------

การใช้แหนแดงในนาข้าว :
1. เตรียมขยายพันธุ์แหนแดงในพื้นที่ 20 -25 ตารางเมตร เพื่อใช้สำหรับพื้นที่เพาะปลูกข้าว 1 ไร่
2. รักษาระดับน้ำในน่าข้าวให้ลึก 5 – 10 เซนติเมตร
3. ใช้แหนแดงในอัตรา 50 – 100 กิโลกรัม/ไร่ ในวันที่ใส่แหนแดงควรมีการใส่ปุ๋ยมูลสัตว์ (มูลไก่) ที่ให้ธาตุฟอสฟอรัสอัตรา 3 กิโลกรัม/ไร่
4. ใส่ปุ๋ยมูลสัตว์อีกครั้งเมื่อแหนแดงมีอายุ 7 – 10 วัน

แหนแดงต้องการธาตุอาหารหลักเหมือนพืชสีเขียวชนิดอื่นๆ ยกเว้นไนโตรเจน รวมทั้งต้องการธาตุอาหารรองในการเจริญเติบโตด้วยในดินนาทั่วไปฟอสฟอรัสมีความจำเป็นต่อแหนแดงมาก ถ้าปริมาณฟอสฟอรัสในดินต่ำเกินไป จะส่งผลให้การเจริญเติบโต และปริมาณการตรึงไนโตรเจนลดลง

ผลการวิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหารของแหนแดง (% ต่อกรัมของน้ำหนักแห้ง)

ไนโตรเจน (%)..........ฟอสฟอรัส (%)...........โปแตสเซียม (%)
3.71.......................0.25.......................1.25

ปริมาณไนโตรเจนที่ได้จากแหนแดงแต่ละช่วงอายุ

ลักกษณะการใช้แหนแดง ............................... ปริมาณไนโตรเจน(กิโลกรัม/ไร่)
1. เลี้ยงก่อนปักดำข้าว 20 วัน แล้วทำการไถ่กลบ ............... 9-17
2. เลี้ยงก่อนปักดำข้าว 30 วัน แล้วทำการไถ่กลบ................ 12-25
3. เลี้ยงพร้อมการปักดำข้าว ให้เจริญในแปลงข้าว 20 วัน........ 7-15
4. เลี้ยงพร้อมการปักดำข้าว ให้เจริญในแปลงข้าว 20 วัน........ 12-20

ข้อสังเกต :
1. น้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลี้ยงแหนแดง ระดับน้ำที่ใช้ในการเลี้ยงไม่ควรสูงเกินไป ระดับที่เหมาะสมคือ 10- 30 เซนติเมตร และแหนแดงจะตายเมื่อในนาขาดน้ำ

2. แหนแดงจะเจริญเติบโตได้ดีน้ำนิ่ง หรือมีกระแสน้ำไหลเป็นเวลาอย่างช้าๆ บริเวณคลื่นลมจัดจะทำให้แหนแดงแตกกระจายออกจากกัน ทำให้การเจริญเติบโต และการตรึงไนโตรเจนลดลงอย่างมาก

3. การตรึงไนโตรเจนของ Anabaena azollae สามารถทำได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีไนโตรเจนต่ำ
4. การตรึงไนโตรเจนของ Anabaena azollae จะมีค่าสูงสุดที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส และจะหยุดกระบวนการตรึงไนโตรเจนในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาเซลเซียส

โดย
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นันทกร บุญเกิด
สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ สำนักงานวิชาเทคโนโลยีการเกษตร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
โทรศัพท์ 0-4421-7006
-----------------------------------------------------------------------

ปลูกข้าวอินทรีย์ด้วยแหนแดง FAO ยอมรับ ผลิตผลคุณภาพ
แหนแดง ปุ๋ยพืชน้ำชั้นดี


องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้กำหนดให้ปีนี้เป็นปีสากลแห่งสหกรณ์ พร้อมทั้งสนับสนุนให้รัฐบาลประเทศสมาชิก ช่วยเหลือสหกรณ์ซึ่งมีบทบาทต่อการผลิตอาหารป้อนประชากรโลก ประเทศไทย อย่างกระทรวงเกษตรฯ ได้ขานรับ พร้อมกันนี้ได้ร่วมกับหน่วยงานดัง กล่าว จัดงานวันอาหารโลกประจำปี 2555 หรือ World Food Day ขึ้น

น.สพ.ยุคล ลิ้มแหลมทอง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า...การจัดงานดังกล่าวจะมีขึ้น ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2555 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ภายใต้หัวข้อ “สหกรณ์การเกษตรเป็นกุญแจหล่อเลี้ยงชาวโลก (Agricultural Cooperatives-Key to Feeding the World)” ซึ่งภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านอาหารจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ พร้อมทั้งนำสินค้าคุณภาพผลิตโดยสหกรณ์มาจัดจำหน่าย

และ...หนึ่งในจำนวนนี้มีข้าวอินทรีย์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากสหกรณ์ลำพระเพลิง ที่ สมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี พระราชทานรางวัลแก่เกษตรกรตัวอย่างในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในงานวันอาหารโลก 4 คน จากประเทศ มาเลเซีย มองโกเลีย สาธารณรัฐสังคมนิยมประชา ธิปไตยศรีลังกา และประเทศไทย คือ นางสาวสุมาลี ทองธีระ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรลำพระเพลิง จำกัด ในฐานะเกษตรกรผู้ผลิตข้าวและผักอินทรีย์ตำเมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งปลูกข้าวต้นเดี่ยวโดยใช้แหนแดง ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ช่วยลดต้นทุน ได้ผลผลิตมาก ขายได้ราคา

นางสาวสุมาลี เปิดเผยว่า...นับย้อนหลังไปสัก 10 ปี เห็นสมาชิกของสหกรณ์หลังขายผลิตผลกันแล้ว พอหักลบกลบหนี้นั้นเหลือน้อย ทุนส่วนใหญ่ที่ลงไปจะเป็นในเรื่องปุ๋ยเคมี ดังนั้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย บวกกับให้บ้านเราเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัย จึงเริ่มหันมาส่งเสริมให้ทุกคนหันมาทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ซึ่งจากที่เราเคยไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องการบริหารจัดการธุรกิจของสหกรณ์ ที่นั่นจะเน้นในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิต การผลิตอาหารที่ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค

“...โดยเริ่มแรกได้ประสานไปยังมหาวิทยาลัยสุรนารี วิจัยเรื่องเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน รวมทั้งการจัดการดิน น้ำ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ และการปลูกข้าวอินทรีย์โดยใช้แหนแดง ซึ่งพืชน้ำดังกล่าวเป็นปุ๋ยพืชสด เหมือนยูเรียที่ช่วยดึงไนโตรเจนจากอาหารทำให้พืชเจริญเติบโตได้...”

สำหรับกระบวนการจัดการ เริ่มจากเตรียมแปลงข้าวสำหรับเลี้ยงแหนแดง จากนั้นหว่านปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพรองพื้นแปลงที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วหว่านแหนแดงลงแปลงก่อนการปักดำ 2 สัปดาห์ ปล่อยน้ำให้น้อยลง (ดินเป็นขี้เลน) ทำแถวปลูกให้เป็นรูปตารางสี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมกับหว่านปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพลงบนแปลง ที่เตรียมไว้อีกครั้งก่อน จากนั้นจึงปักดำข้าวแบบต้นเดี่ยว โดยรากอยู่ในแนวนอนตั้งฉากกับลำต้น หลังจาก 1-2 วัน ให้ปล่อยน้ำเข้าแปลงลึกประมาณ 2 เมตร แล้วจึงหว่านแหนแดงให้ทั่วแปลงในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อ 20 ตารางเมตร วิธีนี้นอกจากลดต้นทุนแล้วยังช่วยแก้ปัญหาเมล็ดข้าวลีบไม่ออกรวงได้อีกด้วย

ปัจจุบันสหกรณ์ลำพระเพลิงสามารถสร้างแบรนด์ข้าวอินทรีย์ให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นทั้งในประเทศ และเตรียมพร้อมที่จะโกอินเตอร์ไปยังตลาดต่างประเทศทั้งจีน รวมทั้งภูฏาน เร็วๆนี้.


เพ็ญพิชญา เตียว
http://www.thairath.co.th/content/305780
------------------------------------------------------


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©