-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหา ทางวิทยุ 10 AUG *มะพร้าวพอเพียง, แตงโมครบมิติ
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหา ทางวิทยุ 10 AUG *มะพร้าวพอเพียง, แตงโมครบมิติ
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหา ทางวิทยุ 10 AUG *มะพร้าวพอเพียง, แตงโมครบมิติ

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 17/08/2016 5:44 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหา ทางวิทยุ 10 AUG *มะพร้าวพอเพียง, แตงโมครบมิติ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 10 AUG

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)


----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

------------------------------------------------------------------------


มะพร้าวสร้างอาชีพ สร้างชาติ :

วันนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป การทำมาหากิน อาชีพอะไรๆที่เคยอยู่ได้ ทำได้ วันนี้ทำไม่ได้แล้ว เมื่อก่อนทำกินเหลือขาย เล็กๆน้อยๆ อยู่ได้ แต่วันนี้เอาแค่นี้มันไม่ได้

สมัยเก่า ทำนาปลูกข้าวปีละรุ่น อยู่ได้ สมัยนี้ ทำนาปีละ 2รุ่น 3รุ่น อยู่ไม่ได้ เพาะไม่ได้ปลูกไว้กิน แต่ปลูกไว้ขาย ไม่ใช่ขายแค่ในประเทศ ต้องขายต่างประทศโน่น

การเกษตร ปลูกพืช ปลูกผัก เลี้ยงหมู เลี้ยงวัวควายช้างม้า ไม่มีต้นทุน ทุกอย่างมีในธรรมชาติ แต่เดี๋ยวนี้จะไปเอาที่ไหน

ยุคนี้สมัยนี้ ไม่ คิดใหม่-ทำใหม่ ไปไม่รอด ว่ามั้ย....

สายตรง : (082) 794-32xx จากราชบุรี

..?.. : ลุงคิมคะ หนูทำสวนมะพร้าว 80 ไร่ เป็นที่มรดก พ่อตายแล้ว เหลือแต่แม่ก็แก่มาก มีลูกชาย 1 คน กำลังเรียน พ่อแกตายแล้ว หนูฟังรายการลุงคิมมานานแล้ว ฟังทั้งเช้าทั้งค่ำ หนูสนใจทำเกษตรแบบพอเพียง แต่ไม่เคยได้ยินลุงคิมพูดเรื่องนี้เลย อยากปรึกษาลุงคิมโดยตรงเลยว่า ต้องทำอย่างไร เริ่มต้นอย่างไร
ลุงคิม : อืมมม ที่จริงที่ลุงคิมพูดน่ะ เกษตรพอเพียงทั้งนั้นเลยนะ ลุงคิมว่า รู้สึกว่าคุณ FIGHT WORD ตีความตามตัวอักษรมากไปหน่อย

..?.. : หมายความว่าไงคะ ?
ลุงคิม : ก็หมายความว่า คุณตีความแค่ตามตัวอักษรน่ะซี คำว่า "พอเพียง" เนี่ย เป็นปรัชญานะ ไม่ใช่ทำอะไรแค่นี้ก็ "พอ" แล้ว ทำเล็กๆน้อยๆ แล้วเรียกว่าพอเพียง ....

ในหลวงทรงตรัส เกษตรพอพียงไม่ได้หมายความว่า ให้ทุกคนทอผ้าใส่เอง แต่ทรงหมายถึง ให้เริ่มจากทำเพื่อกินเพื่ออยู่ก่อนโดยไม่ต้องซื้อ จากทำกินจนเหลือกินแล้วให้ขาย จากขายหน้าบ้านคนเดียวแล้วให้ร่วมกับบ้านข้างๆ ขายด้วยกัน จากขายร่วมกันในหมู่บ้านแล้ว ให้ขยับขยายเพิ่มปริมาณขายให้คนกลางรายใหญ่หรือบริษัท การทำต้องทำของให้ดีๆ ทั้งคุณภาพ ปริมาณ ใช้เทคโนโลยี ใช้วิชาการความรู้ที่เหมาะสมถูกต้อง ....

คุณคิดดู คุณทำแค่กินในบ้าน ไม่ทำขาย แล้วคุณจะเอาเงินไหนเข้าบ้าน แล้วคุณจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าลูกไปโรงเรียน ...

แม้แต่ทำกิน คุณปลูกผักคะน้า 1 แปลง คุณกินคะน้าอย่างเดียวทุกวันจนกว่าจะหมดแปลง คุณปลูกมะม่วง คุณกินมะม่วงอย่างเดียวทุกวัน คุณต้องปลูกคะน้าให้เหลือขาย ขายได้เงินมาแล้วเอามาซื้อน้ำปลา ซื้อพริก หรือคุณจะทำน้ำปลากินเองในบ้าน ปลูกพริกขี้หนู 1 ต้น พริกชี้ฟ้า 1 ต้น ปลูกต้นหอม 2 ต้น มันทำได้เหรอ สู้คุณได้มะม่วง แล้วขายมะม่วงมาซื้อเสื้อผ้า ให้ลูกไปโรงเรียน แบบนี้ไม่ถูกต้องกว่าเหรอ....

คิดออกไหม ที่บอกว่า ทำน้อยได้มาก-ทำมากได้น้อย เฮ็ดน่อยสิได้หลาย-เฮ็ดหลายสิได้น่อย ยะน้อยได้นัก-ยะนักได้น่อย เกรด เอ. จัมโบ้ โกอินเตอร์ ขึ้นห้าง ออกนอกฤดู ปลอดสารเคมี คนนิยม แม้แต่ซูพรีม พรีเมียม ไม่พอขาย ไม่ใช่ประเภทคนทำคนปลูกยังไม่กิน ขายไม่ออกแล้วมาโวยวาย

ลุงคิมอาจจะพูดยาว หรือพูดมากล่ะ....

..?.. : ไม่มากหรอกค่ะ ลุงคิมเก่งจัง หนูเรียนมาสูงแท้ๆ ยังคิดไม่ถึงขนาดนี้เลย
ลุงคิม : อย่าดูถูกตัวเอง อ๊อกฟอร์ด ฮาวาร์ด จุฬา ธรรมศาสตร์ รวมทั้งรามคำแหง สอนเหมือนกันทั้งนั้น หลักการและทฤษฎีเดียวกัน ทุกมหาลัยในโลกสอนแค่นับ 1 เท่านั้น คนเรียนต่างหากเมื่อนับ 1 เป็นแล้ว ต้องนับ 2-3-4-5 จนถึง 1,000,000 ต่อด้วยตัวเอง

ที่จริงการนับต่อน่ะเขาสอนแล้ว แต่คนสอนไม่ได้เน้นให้เห็นความสำคัญ ว่าแล้วคนเรียนก็เลยเอาแต่ท่องท่องท่อง ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง แต่ไม่เคยคิด ไม่เคยวิเคราะห์ คนสอนก็สอนแต่วิชาการ ไม่สอนประสบการณ์

เคยสังเกตุไหม คนที่ประสบความสำเร็จ มีใครบ้างที่ทำงานอาชีพตรงกับสาขาวิชาที่เรียนมา แล้วใครบ้างที่ประสบความสำเร็จ โดยไม่ได้ร่ำเรียนสาขาวิชาการนั้นมาก่อนเลย..

..?.. : จริงๆ ค่ะ คนเรียนพ่อค้าพานิชเป็นนายก แต่คนเรียนกฏหมายการเมืองแล้วไปเป็นอะไรก็ไม่รู้
ลุงคิม : เอาละ สอนสังฆราชมากเกินไปแล้ว....มาเกษตรพอเพียงที่คุณสนใจดีกว่า....เห็นว่ามีมะพร้าวตั้ง 80 ไร่ ไม่ใช่เหรอ ?

..?.. : ค่ะ ที่ 80 ไร่ ของหนูลงมะพร้าว ของบ้านอื่นแถวนั้นก็เยอะค่ะ
ลุงคิม : นี่แหละ ทำ "มะพร้าวพอเพียง" ไงล่ะ

..?.. : หมายความว่าไงคะ ?
ลุงคิม : อืมมม เรื่องมะพร้าวพอเพียงนี่ ยากเหมือนง่าย-ง่ายเหมือนยาก ยากหรือง่ายอยู่ที่ใจ ถ้าใจไม่เอาใจไม่มุ่งมั่นซะแล้ว ยังไงๆก็ทำไม่ได้ .... คุณต้องรู้จักตัวเองก่อน วันนี้คุณเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ของลูกชาย คุณเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้าครอบครัวแทนพ่อกับแม่ที่แก่มากแล้ว ถ้าคุณล้ม หมายถึงทุกคนในบ้านล้มหมด .... คุณเข้าใจไหม ?

..?.. : เข้าใจค่ะ ลูกหนูเท่าที่ดู เขาเป็นเด็กดีนะคะ ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนฝูง
ลุงคิม : คุณกำหนดชตาชีวิตใครไม่ได้หรอก ลูกน่ะเลี้ยงได้แต่ตัว ใจเลี้ยงไม่ได้ เขาเพิ่งจะเป็นวัยรุ่น THE LIFE JUST BEGIN ต่อไปเขาต้องมีเพื่อน มีสังคมของเขา แล้วเราจะรู้เหรอว่า เพื่อนที่เขาคบเป็นคนแบบไหน คุณสั่งได้เหรอ....

..?.. : จริงค่ะคุณลุง งานนี้ไม่ใช่เล็กๆ เลย พ่อไม่มี ตากับยายก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก เหลือแม่คนเดียว
ลุงคิม : เอาละ มาเรื่องมะพร้าวพอเพียงดีกว่า อันนี้อาจจะยากกว่าลูกก็ได้

..?.. : ฟังคุณลุงแล้ว ไม่อยากทำอะไรเลยค่ะ
ลุงคิม : คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เว้นเสียแต่ตายแล้วเท่านั้น ทำได้เหรอ ?

..?.. : ค่ะ
ลุงคิม : เริ่มจากมะพร้าวที่มีอยู่แล้ว คุณต่อยอดขยายผล ขายมะพร้าวนี่แหละ โดยทำให้ได้ คุณภาพ-ปริมาณ ให้ดีที่สุดตามความต้องการของตลาด แล้วคุณติดต่อคนรับซื้อรายใหญ่ๆมารับที่สวน ก็เคยเห็นนะ คนรับซื้อเอาแรงงานมาด้วย เสร็จก็หักลบกันที่ราคาขาย...นอกจากสวนคุณคนเดียวแล้ว อาจจะชวนบ้านข้างเคียงเข้าร่วมโครงการด้วย โดยคุณช่วยเหลือแนะนำเขาในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิต อันนี้ถ้าปริมาณผลผลิตมากๆ คุณก็อาจจะติดต่อกับบริษัทใหญ่ๆหน่อย ประเภทบริษัทส่งออก ประมาณนั้น เพราะคุณมีประสบการณ์เรื่องส่งออกอยู่แล้วนี่

..?.. : แล้วบำรุงยังไงคะ ?
ลุงคิม : เรื่องนี้เดี๋ยวว่ากันทีหลัง ถ้าคุณจะทำแนวนี้จริง....คุณลงทุนเครื่องจักร เตรียมทำแบบ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ เก็บผลผลิตมาทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ขายส่งขายปลีก ส่งในประทศ ส่งต่างประเทศ สร้างแบลนด์ดีๆ .... กะลามะพร้าว กาบมะพร้าว กากมะพร้าวที่หีบเอาน้ำมันออกไปแล้ว พวกนี้ทำเป็น BYPRODUCT ได้ทั้งนั้น .... ผลผลิตมะพร้าวในสวนตัวเองไม่พอ รับซื้อจากบ้านข้างเคียงด้วยก็ได้

..?.. : หนูเบื่อประเภทมีคนงาน อยากสาบส่งเลยค่ะ
ลุงคิม : คุณเบื่อไม่ได้ ถ้าคุณจะทำแบบนี้ ที่จริงน่าจะเอาประสบการณ์ที่เคยล้มเหลวมาวางแผนบริหารใหม่นะ ... คุณอย่าลืมซี่ ทำแบบนี้มันหมายถึงลูกคุณที่จะเป็นทายาทต่อด้วยนะ

..?.. : มีเกษตรพอเพียงแบบอื่นอีกไหมคะ ?
ลุงคิม : ตัดมะพร้าวออก 10 ไร่ มาปลูกผักแบบเก็บขายได้ทุกวัน ลงชะอม 3ไร่ ผักหวานบ้าน 3ไร่ มะกรูดตัดใบ 4ไร่ หรือจะจัดสรรพื้นที่ปลูก มะเขือ พริก บวบ มะระ ขิง ข่า ตะไคร้ เนื้อที่ 10 ไร่ ติดสปริงเกอร์ แรงงานทำเองคนเดียว รายได้วันละ 1,000-2,000 .... อันนี้คุณอาจจะจ้างแรงงานมาเก็บ หักค่างแรงงานครึ่งหนึ่ง ไหวไหม .... มะพร้าวที่เหลือ 70 ไร่ ให้เขาเช่า

..?.. : น่าสนใจค่ะคุณลุง มีแบบอื่นอีกไหมคะ ?
ลุงคิม : เช่า ให้เขาเช่าไปเลย รอเก็บค่าเช่าอย่างเดียว

..?.. : แล้วถ้าทำแบบไร่กล้อมแกล้มล่ะคะ จะดีไหม ?
ลุงคิม : ไม่ดี คุณทำไม่ได้หรอก งานมันมาก ตัวแปรมันเยอะ ที่นั่นไม่ใช่แปลงเกษตรพอเพียง ไม่ใช่เกษตรแบบไหนทั้งนั้น

..?.. : อ้าว แล้วมับแบบไหนล่ะคะ ?
ลุงคิม : แบบบ้าบ้าไงล่ะ ไม่รู้เหรอ ใครเห็นใครก็ว่า เกษตรแบบนี้กินอะไร

..?.. : แต่หนูจะไปค่ะ เดือนนี้หนูต้องไปประเทศจีน 20 วัน กลับมา หนูไปแน่
ลุงคิม : ไปซี่ อย่าลืมดูดวงก่อนไปด้วยนะ

..?.. : (หัวเราะ) ขอบคุณค่ะ หนูจะไปเอาเทคนิคบำรุงมะพร้าว กับเทคนิคปลูกผักด้วยค่ะ
ลุงคิม : WELCOME

..?.. : ขอบคุณค่ะ

------------------------------------------------------------------------------


จาก : (062) 782-36xx
ข้อความ : ลุงคิมคะ ช่วยเล่าเรื่องธรรมชาติของแตงโมให้ฟังหน่อย ว่าเขามีนิสัยอย่าง ไร จะเอาไปสอนวิชาการเกษตรในวิทยาลัยค่ะ ถ้ามีเวลาขอเรื่องปลูกแตงโมไร้เมล็ดด้วยค่ะ....ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
- เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับแตงโม รู้หมดแล้วเหรอ ? น่าจะหาข้อมูลที่เป็นเอกสารไปเก็บไว้ โดยเฉพาะในสถานศึกษา เป็นห้องสมุดวิทยาลัย ห้องสมุดส่วนตัว

- วิทยาลัยสำหรับ นักเรียน นักศึกษา คนที่ไม่ได้เป็นนักเรียน นักศึกษา อยู่กับบ้าน อยู่กับสวน ก็มีห้องสมุดส่วนตัวได้ไม่ใช่เหรอ ?


แตงโม
ลักษณะทางธรรมชาติ :

- เป็นพืชเถาเลื้อยอายุสั้นฤดูกาลเดียว ปลูกได้ทุกพื้นที่ ทุกภาคแลtทุกฤดูกาล เจริญเติบ โตได้ดีในดินร่วนปนทรายหรือดินดำร่วน มีอินทรีย์วัตถุมากๆ ระบายน้ำดี ไม่ทนต่อสภาพน้ำขังค้างต้องการความชื้นในดินสูงแต่ไม่ชอบแฉะ

- ปลูกได้ทุกฤดูกาล โดยมีระบบจัดการเรื่องน้ำเพียงอย่างเดียวให้ถูกต้องเท่านั้น
- อายุต้นตั้งแต่เริ่มงอกถึงออกดอก 20-25 วัน จากนั้นอีก 10-15 วันดอกก็พร้อมผสม อายุผลตั้งแต่ผสมติดถึงแก่เก็บเกี่ยว 30-40 วัน หรือตั้งแต่ปลูกถึงเก็บเกี่ยว 65-90 วัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ว่าเป็นพันธุ์เบาหรือพันธุ์หนัก และการปฏิบัติบำรุง

- การจัดแปลงปลูกแบบพื้นราบ นิยมปลูกเป็นพืชที่สองในนาหลังเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว ซึ่งเป็นช่วงหน้าหนาวมีน้ำค้างแรง ช่วยสร้างความชื้นในดินให้แก่แตงโม กับทั้งมีความแห้งแล้งของสภาพอากาศช่วยจึงทำให้แตงโมมีรสชาติดี

การปลูกในภาชนะปลูก (ถุง) บรรจุวัสดุปลูก (ดินปลูกปรุงสำเร็จ) จัดวางภาชนะปลูกในที่ๆเหมาะสมต่อธรรมชาติของแตงโม เช่น ในโรงเรือน ยกภาชนะปลูกให้พ้นน้ำ (น้ำท่วม)แล้วจัดทำค้างให้เถาเลื้อยขึ้นไปพร้อมกับมีเครื่องยกผลให้สูงขึ้นพ้นพื้นหรือพ้นน้ำท่วม (สูตรของไต้หวัน-อิสราเอล) ก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะการปลูกในช่วงหน้าฝนซึ่งมีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยมากก็จะได้ราคาดี นอกจาก นี้วิธีปลูกในภาชนะปลูกยังสามารถควบคุมปริมาณน้ำ สารอาหาร และอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ง่ายอีกด้วย

- แปลงปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสมควบคุมปริมาณน้ำได้สามารถปลูกได้ตลอดปี ส่วนใหญ่นิยมปลูก 3 รุ่น โดยรุ่นแรกปลูกเดือน ม.ค. เก็บเกี่ยวเดือน มี.ค. - เม.ย. ....รุ่น 2 ปลูกเดือน พ.ค. เก็บเกี่ยวเดือน ก.ค.-ส.ค. ....รุ่น 3 ปลูกเดือน ก.ย. เก็บเกี่ยวเดือน พ.ย.-ธ.ค. โดยรุ่น 3 จะมีคุณภาพดีที่สุดเพราะช่วงผลแก่ตรงกับหน้าแล้ง

- ฤดูหนาวเมล็ดพันธุ์งอกยาก แก้ไขโดยแช่เมล็ดในน้ำอุ่น 50 องศา + ไคตินไคโตซานหรือธาตุรอง/ธาตุเสริม ทิ้งไว้จนน้ำเย็น แล้วนำขึ้นมาห่มความชื้นในที่อบอุ่น (กลางแดด) เมื่อรากเริ่มงอกก็ให้นำไปปลูกได้

- ดอกตัวผู้ (โคนดอกกลม) กับดอกตัวเมีย (โคนดอกเรียวตรง) แยกกันคนละดอกแต่อยู่ในต้นเดียวกัน ในแต่ละต้นจะมีดอกตัวผู้มากกว่าดอกตัวเมียถึง 7:1 (ดอกตัวผู้ 7 ดอก : ดอกตัวเมีย 1 ดอก) ดอกตัวเมียมักเกิดจากข้อที่ 3-4-9 และ 10 และต่อไปเรื่อยๆ ห่างกันดอกละ 4-5 ข้อใบ

การผสมเกสรต้องอาศัยแมลงเป็นหลัก ถ้าไม่มีแมลงก็ต้องช่วยผสมโดยเด็ดดอกตัวผู้ที่เกสรพร้อมผสมแล้ว ตัดกลีบดอกทิ้งไปเหลือแต่ก้านเกสรไว้ นำก้านเกสรตัวผู้ไปป้ายใส่ให้กับปลายก้านเกสรดอกตัวเมีย หรือใช้พู่กันขนอ่อนแห้งสนิทสะอาดป้ายเกสรตัวผู้ก่อนแล้วไปป้ายใส่เกสรตัวเมียก็ได้ ช่วยผสมเกสรช่วง 07.00-11.00 น.จะได้ผลดีที่สุด

- แปลงปลูกที่ปลอดสารฆ่าแมลงมานานมักมีผึ้งเข้าตอมเกสรช่วง 07.00-10.00 น.เสมอ ช่วงที่ผึ้งเริ่มเข้ามาในแปลงปลูกให้ถือกิ่งไม้เล็กๆแต่ยาวมีใบไล่ โดยโบกแกว่งไปมาช้าๆ พอให้ผึ้งเห็นแล้วรู้ตัวแต่ไม่ตกใจ เริ่มโบกกิ่งไม้ไล่จากหัวแปลงไปทางท้ายแปลง เมื่อผึ้งเห็นกิ่งไม้โบกไล่ไปมาจะบินขึ้นแต่ไม่ตกใจโผบินไปหาดอกต่อไปข้างหน้าระยะทางไม่ไกลนัก ปล่อยให้ผึ้งลงตอมดอกแตงโมดอกชุดใหม่สักครู่ก็ให้โบกกิ่งไม้ไล่อีก ผึ้งก็จะบินขึ้นโผไปหาดอกต่อไปข้างหน้าอีก ปล่อยให้ผึ้งตอมดอกแตงโมสักครู่ก็ให้โบกกิ่งไม้อีก ผึ้งก็จะบินขึ้นโผไปหาดอกต่อไปอีก ทำอย่างนี้เรื่อยไปจนถึงท้ายแปลง ถึงท้ายแปลงแล้วถ้าผึ้งยังติดใจตอมดอกแตงโมอยู่ ก็ให้โบกกิ่งไม้ไล่จากท้ายแปลงย้อนมาทางหัวแปลงด้วยวิธีการเดียวกันอีก จะทำ 2-3 รอบ/วันก็ได้ตราบเท่าที่ผึ้งยังอยู่ หรือทำ 2-3 วันติดต่อกันจนกระทั่งแน่ใจว่าเกสรแตงโมทุกดอกได้รับการถ่ายละอองเกสรจนเป็นที่พอใจแล้วก็ได้ .... การมีชันโรง (หากินเก่งและขยันหากินมากกว่าผึ้ง) หรือผีเสื้อสวยงามในบริเวณใกล้เคียงเข้ามาช่วยให้ได้ประโยชน์อย่างมาก

- เกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างไม่สมบูรณ์ เกิดจากขาดสาร อาหารและฮอร์โมน หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม (อากาศร้อนหรือฝนตกชุก) แล้วผสมกันแล้วพัฒนาเป็นผลจะเป็นผลไม่สมบูรณ์ ไม่โต รูปทรงบิดเบี้ยว

- แตงโมเป็นพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว อวบน้ำ ย่อมต้องการน้ำสม่ำเสมอ ช่วงออกดอกติดผลจะขาดน้ำไม่ได้เลย การให้น้ำด้วยระบบน้ำหยดจะช่วยแก้ปัญหาน้ำไม่สม่ำเสมอได้ดี

- การเตรียมสารอาหารไว้ในดินปลูกอย่างเพียงพอตั้งแต่ช่วงเตรียมดินจะช่วยให้ต้นเจริญ เติบโตเร็วและสม่ำเสมอดีกว่าการใส่สารอาหารภายหลัง ทั้งนี้ปริมาณสารอาหารที่จะไปหล่อเลี้ยงต้นนั้น 9 ใน 10 ส่วนไปจากดิน

- เมื่อผลโตได้ประมาณ 25% ของขนาดผลเมื่อโตเต็มที่ ควรใช้ฟางหรือหญ้าแห้งหนาๆรองผลเพื่อป้องกันผิวผลติดพื้นดิน แล้วให้กลับผลทุก 7-10 วันเพื่อให้ด้านที่ไม่ได้แสงแดดได้รับ แสง แดด แล้วสีผลจะเข้มเท่ากันทั้งผล

- สังเกตผลแก่ โดยดูที่มือเกาะอันที่ใกล้ผลที่สุด เริ่มเหลืองและเริ่มแห้ง หรือนวลใบเริ่มจาง
- หลังจากเก็บผลมาแล้วปล่อยทิ้งให้ลืมต้น 2-3 วัน รสชาติจะดีขึ้น

สายพันธุ์ :
พันธุ์มีเมล็ด :

ฟลาวเวอร์ ดราก้อน-122. ทาร์นิการ์. ลูกผสม เอฟ-1. ตอปิโด. จินตหรา. ชาร์ลตันส์เกรย์ (ผลใหญ่ 9-10 กก.). บางช้าง. บางเบิด. เรดโคช ไฮบริด (เนื้อขาว). วานลี เอฟ-2 (เนื้อขาว).

พันธุ์ไร้เมล็ด :

เยลโล เบบี้ ไฮบริด (เนื้อเหลือง). เฟ็งซาน เบอร์ 1 ไฮบริด (ผลใหญ่ 7-8 กก., นัมเบอร์วัน ไฮบริด. ซี้ดเลส. ฟาร์มเมอร์ วันเดอร์ฟูล ไฮบริด. ควอริตี้ (เนื้อเหลือง).

หมายเหตุ :

- พันธุ์ที่ไม่ได้ระบุสีคือพันธุ์เนื้อแดง
- พันธุ์ “ตอปิโด” มีคุณสมบัติทนฝนหรือปลูกหน้าฝนได้ดีกว่าพันธุ์อื่นๆ
- อายุเก็บเกี่ยวระหว่างพันธุ์เบา-พันธุ์หนักต่างกันประมาณ 5-10 วันจึงไม่มีผลนักต่อแผนการปลูก
- สายพันธุ์ดั้งเดิมหรือนิยมปลูกกันมานานแล้ว เมื่อนำมาปลูกอีกสายพันธุ์มักผิดเพี้ยน เนื่องจากมีการผสมข้ามสายพันธุ์ไปมาโดยไม่รู้ตัวและไม่มีการควบคุมใดๆ

เตรียมเมล็ดพันธุ์

1. ทดสอบความสมบูรณ์เมล็ดโดยการแช่น้ำ คัดเมล็ดลอยออกทิ้ง นำเมล็ดจมขึ้นมาขลิบปลายด้านแหลมด้วยกรรไกตัดเล็บพอให้เปลือกนอกเปิดสำหรับให้ยอดอ่อนแทงออกมาได้สะดวก จากนั้นนำลงแช่ต่อในไคตินไคโตซานหรือธาตุรอง/ธาตุเสริม (อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างรวมกัน)นาน 6-12 ชม. สารไคตินไคโตซานหรือธาตุรอง/ธาตุเสริมจะซึมเข้าสู่ภายในเมล็ดทางช่องเปลือกที่ได้ขลิบเปิดไว้ ทำให้เมล็ดได้สะสมสารอาหารไว้ในตัวเองตั้งแต่ก่อนงอกซึ่งจะส่งผลต่อต้นเมื่อโตขึ้นสมบูรณ์แข็งแรงดี

สารไคติเนส.ในไคตินไคโตซาน. มีคุณสมบัติกำจัดเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับเมล็ดพันธุ์ได้ไม่ต่างจากสารเคมี การแช่เมล็ดในสารเคมีเพื่อกำจัดเชื้อโรคเท่ากับทำให้เมล็ดสะสมสารพิษซึ่งไม่ใช่สารอาหารไว้ในตัวเองตั้งแต่ก่อนเกิดนั่นเอง

2. นำเมล็ดที่ผ่านการแช่ในไคตินไคโตซานหรือธาตุรองธาตุเสริมครบกำหนดแล้ว ห่อด้วยผ้าชื้นต่ออีก 12-24 ชม. เมื่อเห็นว่าเริ่มมีรากงอกออกมาก็ให้นำไปปลูกต่อได้

เตรียมดิน ปลูกในถุง :

- เลือกดินขุยไผ่ มีเศษซาก ใบ/ราก/แห้ง/เก่า ผสมคลุกกับ ขุยมะพร้าวสับเล็ก ใบก้ามปูแห้ง ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ กระดูกป่น ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบแกลบดำ ให้เข้ากันดี รดด้วยน้ำหมักชีว ภาพระเบิดเถิดเทิง ให้ได้ความชื้น 50% ทำกอง อัดแน่น คลุมด้วยพลาสติกเพื่ออบความร้อน

- ระหว่างอบความร้อน .... ถ้าร้อน 40-60 องศา = ดี จุลินทรีย์มีประโยชนเจริญดี .... ถ้าร้อนน้อยกว่า หรือไม่ร้อนให้เพิ่มน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง +ยูเรีย เพื่อเร่งกระบวนการจุลินทรีย์ .... ถ้าร้อนเกิน 60 องศา = ไม่ดี จุลินทรีย์มีประโยชน์ตาย แก้ไขด้วยการกลับพลิกกอง แล้ว หมักต่อไป

- ระหว่างการหมักแล้วเกิดความร้อน มีควันลอยขึ้นมา ตรวจสอบระดับอุณหภูมิ แล้วกลับกองเพื่อระบายความร้อนและให้อากาศแก่จุลินทรีย์ กลับกอง/กดแน่น/คลุมกอง แล้วร้อน ให้กลับกองระบายความร้อนอีก ทำซ้ำทุกครั้ง จนในกองไม่มีความร้อน ใช้มือล้วงเข้าไปในกองแล้วรู้สึกเย็น นั่นคือ “ดินปลูก” พร้อมใช้งาน

ข้อดีของการปลูกในถุง :

* ปลูกหน้าฝนหรือน้ำท่วมได้ โดยยกถุงขึ้นที่สูงหนีน้ำ
* ควบคุม ชนิด/ปริมาณ สารอาหารและน้ำได้เต็มที่
* ถุงไหนเป็นโรคทางดิน จะเสียหายเฉพาะ ถุง/ต้น นั้น ไม่ลามไปหาต้นอื่น
* ใช้งานปลูกรุ่นนี้เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เทดินปลูกออก ตากแดดฆ่าเชื้อโรค แล้วปรับปรุงใหม่ ใช้งานใหม่ได้อีก

เตรียมดินปลูกบนแปลง :

- ไถดิน ขี้ไถขนาดใหญ่ ตากแดดจัด 15-20 แดด ถ้าฝนตกให้ไถใหม่เริ่มนับ 1 ตากแดดใหม่
- ตากแดดดินครบกำหนด ใส่อินทรีย์วัตถุ ขุยมะพร้าวสับเล็ก ใบก้ามปูแห้ง ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ กระดูกป่น. ขี้วัวขี้ไก่แกลบเก่าแกลบดำ ผสมเข้ากันแล้วหว่านทั่วแปลง แล้วไถพรวนดีป่นดินให้ละเอียดมากๆ ปรับสันแปลงให้เป็นหลังเต่า คลุมหน้าแปลงด้วยฟางหนาๆ

- คลุมหน้าแปลงแล้วรดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 แล้วทิ้งไว้ 20-30 วัน

(....ไม่ต้องปุ๋ยเคมี รองพื้น-แต่งหน้า-กระแทก-กระทุ้ง เพราะในน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงมีแล้ว อนาคตยังมีทางใบ ทั้งปุ๋ยเคมีและฮอร์โมนธรรมชาติ ให้อีก ที่สำคัญ ดินดี =ได้แล้วกว่าครึ่ง.... ดินไม่ดี = เสียแล้วกว่าครึ่ง...)

หมายเหตุ :

- ระยะเวลาจากให้น้ำหมักฯ 20-30 วัน เป็นการบ่มดิน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์เข้าทำการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุและปรับสภาพดิน

- น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงมีส่วนผสม "ปลาทะเล. กากน้ำตาล. เลือด. ขี้ค้าง คาว. ไขกระดูก. นม. น้ำมะพร้าว." หมักนานข้าม 1-2-3 ปี จากส่วน ผสมทุกอย่างเป็น "อินทรีย์" แท้ๆ .... เมื่อเติม 30-0-0, แม็กเนเซียม, สังกะสี, ธาตุรอง/ธาตุเสริม ลงไปเป็น “เคมี” นี่คือ อินทรีย์เคมี ผสมผสาน

- อย่ากังวลว่าไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมี รองพื้น-แต่งหน้า-กระทุ้ง-กระแทก แล้วต้นแคนตาลูปจะไม่โต สาเหตุที่ไม่โตไม่ใช่เพราะปุ๋ยน้อย แต่เป็นเพราะ “ดิน” ยังไม่พร้อมจริง .... ตราบใดที่ดินไม่ดี ดินไม่สมบูรณ์ ดินไม่มีอินทรีย์วัตถุ ดินไม่มีจุลินทรีย์ ดินเป็นกรด ต่อให้ใส่ปุ๋ยไร่ละกระสอบ สองสามกระสอบ ใส่ไร่ละตันต้นแคนตาลูปก็ไม่โต ตรงกันข้าม จะเล็กลงๆ ๆๆ เพราะ “ปุ๋ยเป็นพิษ-ดินไม่กินปุ๋ย”

- เกษตรกรอิสราเอล ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี กับอีกหลายประเทศที่มีเทคโนโลยีการ เกษตรสูงและมีความเข้าใจเรื่องพืชอย่างแท้จริง ปลูกไม้ผลตระกูลเถาอายุสั้นฤดูกาลเดียว เช่น แคนตาลูป แตงโม แตงกวา ฯลฯ ในถุง (ภาชนะปลูก) ด้วยดิน (วัสดุปลูก) ที่สามารถควบคุมชนิด/ปริมาณสารอาหาร/น้ำได้ และปลูกในโรงเรือนที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ (อิสราเอลร้อน-แล้ง...ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี หนาว)

เกษตรกรไทยไม่มีปัญหา ร้อน-หนาว-แล้ง จึงเหลือเพียงปัญหา “ดินหรือวัสดุปลูกและสารอาหาร” เท่านั้น การนำแนวทางบางอย่างของเกษตรกรในกลุ่มประเทศดังกล่าวมาประ ยุกต์ใช้บ้าง จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ปลูกในถุง :

1. เตรียมภาชนะปลูก
2. บรรจุวัสดุปลูก (ดินหมักชีวภาพสำเร็จรูป) ลงถุงให้เต็ม อัดแน่นพอประมาณ คลุมปากถุงด้วยหญ้าหรือฟางแห้งหนาๆ

การปฏิบัติอื่นๆ เหมือนการปลูกแคนตาลูปในถุง ทั้งแบบให้เลื้อยไปบนพื้นหรือเลื้อยขึ้นค้าง

ระบบค้าง :

- ราวตากผ้า
- ติดท่อ พีอี. กับราวตากผ้า

ระบบให้น้ำ :

1. ติดตั้งระบบ น้ำหยด/น้ำพุ่ง สำหรับให้น้ำและสารอาหารทางราก
2. ติดตั้งระบบสปริงเกอร์พ่นฝอยเหนือต้นสำหรับให้ อาหารและสมุนไพร ทางใบ

หมายเหตุ :

- กรณีปลูกในแปลงแล้วไม่มีระบบน้ำหยด เมื่อต้องการให้น้ำหรือสารอาหารทางรากสามารถทำได้โดยการปล่อยน้ำไปตามร่องระหว่างแปลงปลูก แล้วเพิ่มเติมด้วยน้ำพ่นฝอยจากสปริงเกอร์เหนือต้นฉีดพ่นน้ำลงพื้นเพื่อสร้างความชื้นหน้าดิน

- กรณีปลูกในถุงไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องอาศัยสปริงเกอร์เท่านั้น แม้แต่สปริงเกอร์แบบพ่นฝอยเหนือต้นก็ไม่เหมาะสม เพราะน้ำที่ผ่านปากถุงลงไปถึงดินปลูกไม่เพียงพอ ต้องใช้สปริงเกอร์พ่นฝอยเหนือต้น 1 หัว แล้วติดหัวสปริงเกอร์ที่ปากถุงอีกถุงละ 1 หัวเท่านั้น

- สปริงเกอร์ กะเหรี่ยงลอยฟ้า ท่อ พีอี. เมตรละ 7.50 บาท หัวสปริงเกอร์แบบหัวผีเสื้อ หัวละ 50 ตังค์ ซื้อที่บ้านโป่ง ราชบุรี
- ให้ทางใบทางรากแยกกัน ทางละ 3,000-3,5000 ไม่รวมค่าแรง ติดตั้งถาวร ใช้งานได้ 10-20-30 ปี
.... ทำคนเดียว ...................................... = ได้
.... เลิกปลูกแตงโมเปลี่ยนเป็นปลูก พริกมะเขือ ....... = ได้
.... เลิกปลูกในถุงเปลี่ยนเป็นปลูกบนพื้น .............. = ได้

หม้อปุ๋ยหน้าโซน :
- ให้น้ำ วันเว้นวัน
- ให้สารสมุนไพร ทุกวัน วันละ 3 เวลา
** เช้ามืด ตี.5 ...... ล้างน้ำค้าง ป้องกัน/กำจัด ราน้ำค้าง ราแป้ง ราสนิม
** เที่ยง ............. ให้ปุ๋ย +ไล่เพลี้ยไฟ
** ค่ำ ............... ไล่แมลงเข้าวางไข่ ทำลายไข่ฝ่อ กำจัดหนอน
ทุกอย่าง แรงงานคนเดียว เดี๋ยวเดียวเสร็จ



ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อแตงโม

1. บำรุงระยะต้นเล็ก
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 25-5-5 + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
-ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.) + 25-7-7 (1-2 กก.) ละลายน้ำให้เข้ากันดี ให้โคนต้น ให้ครั้งเดียวถึงระยะสะสมตาดอก
- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น
หมายเหตุ :
- ดินต้องมาก่อน ดินต้องพร้อมจริง ผสมดินปรุงดินแล้ว ต้อง “บ่ม หรือ มักกอง” ไม่น้อยกว่า 3-6 เดือน ....

(ส่วนผสมดิน : ดินขุยไผ่ รากไผ่มากๆ, ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบแกลบดำ, ขุยมะพร้าวสับเล็ก, ใบก้ามปู, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง. จุลินทรีย์หน่อกล้วย, จุลินทรีย์จาวปลวก, นมสด)

- เมื่อต้นเริ่มงอกขึ้นมาจากเมล็ดได้ 2-3 ใบ ควรมีหญ้าแห้งหรือฟางคลุมโคนต้น ป้อง กันแดดเผาหน้าดิน และรักษาความชื้นหน้าดินให้คงที่อยู่เสมอ

- เริ่มให้สารอาหารทางใบเมื่อได้ใบ 2-3 ใบแล้ว
- เมื่อต้นเจริญเติบโตได้ 4-5 ใบให้ตัดยอด จากนั้นต้นจะแตกยอดใหม่ 3-4 ยอด เรียกว่า “เถาแขนง” ให้บำรุงเลี้ยงเถาแขนงนี้ต่อไปตามปกติ เมื่อเถาแขนงทั้ง 3-4 นี้ยาวขึ้นให้จัดระเบียบเลื้อยเข้าหากลางแปลงโดยไม่ทับซ้อนบังแสงแดดซึ่งกันและกัน และเตรียมความพร้อมอื่นๆให้ดีเพราะจะต้องเอาผลผลิตจากเถาแขนงเหล่านี้

- เมื่อเถาแขนงโตขึ้นได้ความยาว 25-30 ซม. หรือ 20-25 วันหลังปลูก หรือเริ่มมีดอกแรก ให้พิจารณาเลือกเถาแขนงสมบูรณ์แข็งแรงที่สุดไว้ 3 เถาสำหรับเอาผล ส่วนอีก 1 เถาให้เลี้ยงไว้สำหรับช่วยสังเคราะห์อาหารแต่ไม่เอาผลโดยเด็ดดอกที่ออกมาทิ้งทั้งหมด

2. บำรุงระยะออกดอก :
ทางใบ :

- ให้ 15-30-15 + สารสมุนไพร 2 รอบ
- ให้ เอ็นเอเอ. 1 รอบ ฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสมุนไพร ทุก 3 วัน
ทางราก :
-ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.) + 25-7-7 (1-2 กก.) ละลายน้ำให้เข้ากันดี ให้โคนต้น ให้ครั้งเดียวถึงระยะสะสมตาดอก
- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น
หมายเหตุ :
- ให้ก่อนวันเถาแขนงออกดอก 5-7 วัน
- จากเถาแขนงทั้ง 3 เถาที่เลี้ยงไว้เพื่อเอาผลนี้ เถาแขนงมักจะออกดอกพร้อมๆกัน โดยเริ่มออกดอกแรกตั้งแต่ข้อใบที่ 4-5 ซึ่งดอกชุดแรกนี้ให้เด็ดทิ้งทั้งหมด แล้วเริ่มไว้ผลแรกระหว่างข้อใบที่ 9-12 จำนวน 1 ดอก จากนั้นตามข้อใบต่อจากข้อเอาผลและข้อใบต่อๆไปจะมีดอกออกตามมาอีกทุกข้อ ก็ให้เด็ดทิ้งทั้งหมดอีกเช่นกัน ทั้งนี้ให้ไว้ผลเพียง 1 เถาแขนง/1 ผลเท่านั้น เพื่อ ให้ได้ผลคุณภาพสูงสุด

- แตงโมบางสายพันธุ์อาจจะไว้ผล 2-3 ผล/1 เถาแขนงได้ กรณีนี้ต้องไว้ผลให้ห่างกันโดยมีใบคั่นอย่างน้อย 4-5 ใบ/1 ผล การไว้ผลมากกว่า 1 ผล/1 เถาแขนง ต้องมีสารอาหารอย่างเพียงพอจึงจะได้ผลคุณภาพสูง

- นิสัยของแตงโมออกดอกเองเมื่อได้อายุ โดยต้นสมบูรณ์กว่าจะออกดอกดีกว่าต้นสมบูรณ์น้อยกว่าเท่านั้น การให้ฮอร์โมนเสริมเพียง 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ออกดอกดีและสมบูรณ์กว่าไม่ได้ให้เลย

3. บำรุง “ผลเล็ก-กลาง :
ทางใบ :

ให้ไบโออิ + ยูเรก้า + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ฉีดพ่นพอปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ปลูกในแปลง ให้ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (1 ล.) +21-7-14 (1-2 กก.) ละลายเข้ากันดี ให้โคนต้น ด้วยระบบให้น้ำที่ใช้
หมายเหตุ :
- หลังจากติดเป็นผลแล้วให้จัดระเบียบเถาและใบ อย่าให้ใบบังแสงแดดต่อผล กับทั้งให้มีวัสดุ (ฟาง หญ้าแห้ง) หนาๆรองรับผล เพื่อไม่ให้ผิวผลสัมผัสผิวดิน ถ้าผิวผลสัมผัสพื้นดินอาจจะมีเชื้อโรคเข้าทำลายผิวผลได้

4. บำรุง ผลแก่” เก็บเกี่ยว
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 0-21-74 + สารสมุนไพร 1 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ให้อย่างละ 1 ครั้ง ก่อนเก็บ 5-7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- เปิดหน้าดินโคนต้น
- ให้ 13-13-21 ละลายน้ำแล้วผ่านไปกับระบบน้ำที่ใช้งาน
หมายเหตุ :
- ก่อนเก็บเกี่ยวถ้าให้ทางใบด้วย 0-0-50 หรือ 0-21-74 เพียง 1 รอบแล้วงดน้ำ 2-3 วัน จะช่วยให้ได้ความหวานสูงขึ้น

- ก่อนเก็บเกี่ยว 10-15 วัน สำรวจผล ถ้าด้านใดไม่ได้รับแสงแดด (สีเปลือกขาวเหลือง)ให้พลิกผลด้านนั้นขึ้นรับแสงแดด เพื่อให้สีเปลือกเป็นสีเดียวกันทั่วทั้งผล....ด้านที่สีเปลือกขาวเหลืองเนื้อในจะมีคุณภาพไม่ดี

แตงโม ....ประสบการณ์ตรง :

แตงโมที่ปลูกแบบปล่อยเถาเลื้อยไปบนพื้นนั้น ส่วนใหญ่ 1 กอ มักให้มี 2 ยอด แล้วไว้ผลยอดละ 1-2-3-4 ผล/ยอด

.... ช่วงแตงโมได้อายุต้นเริ่มออกดอก บำรุงทางใบด้วย "ฮม.ไข่" ทุก 4-5 วัน จะช่วยให้แตงโมออกดอกมากขึ้น หรือให้ 1 ครั้งได้ 1-2 ดอกเสมอ .... คู่กับให้ทางรากด้วย "น้ำหมักชีว ภาพระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24" โดยฉีดอัดลงดินบริเวณโคนต้น ทุก 15-20 วัน

....ช่วงออกดอกแล้วควรงดการฉีดพ่นทางใบทุกชนิดช่วง 08.00-11.00 เพราะเป็นช่วงที่เกสรต้องการผสม หากฉีดพ่นอาจทำให้เกสรเปียกจนผสมไม่ติดได้

.... การช่วยผสมเกสรด้วยมือ นอกจากช่วยให้การติดเป็นผลดีแล้วยังช่วยให้เป็นผลที่คุณภาพดีอีกด้วย

.... วิธีหลอกผึ้งให้ช่วยผสมเกสร เช้าราว 08.00 แดดจัดฟ้าสดใส ผึ้งจะออกหากินในแปลงแตงโม จงเดินเข้าไปทางหัวแปลงก่อน ถือกิ่งไม้ 2 มือ กางแขน 2 ข้าง ก้าวเดินช้าๆพร้อมกับโบกกิ่งไม้เบาๆ ผึ้งเห็นกิ่งไม้โบกไปมาจะบินขึ้นแล้วบินไปเกาะดอกแตงโมข้างหน้าใหม่ ก็ให้เดินช้าๆตามไปอีกสัก 3-5 ก้าว เท่ากับระยะที่ผึ้งบินไปก่อนล่วงหน้า โบกกิ่งไม้อีก ผึ้งก็จะบินขึ้นหนีไปข้างหน้าอีก ทำซ้ำไปเรื่อยๆหลายๆ รอบ จนสุดแปลงแล้วย้อนทำซ้ำ ตราบเท่าที่ผึ้งยังไม่หนีไปไหน

.... เถาเดียวที่มีหลายผล ควรเว้นระยะ 1 ผล /7-8 ใบ เพื่อให้แต่ละผลมีใบสำหรับสังเคราะห์อาหาร เทคนิคไว้ผลแบบนี้ต้องเด็ดดอกทิ้งตั้งแต่ออกมาใหม่ๆ โดยเลือกเด็ดทิ้งกับเลือกเก็บไว้

.... เถาเดียวมีหลายผล ระหว่างผลต่อผลให้ทำไม้โค้งงอรูปตัว ยู. กดเถาบริเวณข้อให้แนบผิวดินแล้วคลุมทับด้วยเศษดิน เศษหญ้าแห้ง ไม่นานที่ข้อจะมีรากงอกออกมา รากนี้จะดูดซับสารอาหารไปเลี้ยงผลที่อยู่ถัดไปทางปลายเถา ควรทำต่อทุกผล จะทำให้แต่ละผลมีรากส่วนตัวแทนที่จะรอรับสารอาหารจากรากที่โคนเถาเพียงรากเดียว

แตงโมไร้เมล็ด

1. ปลูกแตงโม พันธุ์ไร้เมล็ด สลับแถวหรือสลับต้นกับ พันธุ์มีเมล็ด ลงไปก่อน การบำรุงต้นทั้งสองสายพันธุ์ เช่น เด็ดยอด - เลี้ยงยอด - ไว้ดอก เหมือนกันตามปกติ

2. เมื่อได้ดอกของทั้งสองสายพันธุ์แล้วให้นำ เกสรดอกตัวผู้ของต้นพันธุ์มีเมล็ดไปผสมให้กับ เกสรดอกตัวเมียของต้นพันธุ์ไร้เมล็ด ด้วยวิธี "ต่อดอก" ตามปกติ

3. เมื่อเกสรของดอกตัวเมียจากต้นพันธุ์ไร้เมล็ด ได้รับการผสมจากละอองเกสรตัวผู้ของต้นพันธุ์มีเมล็ดแล้ว ผลที่เกิดมาจะไร้เมล็ดตามดอกต้นแม่
หมายเหตุ :
- แตงโมไร้เมล็ดมีเมล็ดพันธุ์โดยเฉพาะจำหน่าย แต่ราคาแพงกว่าแตงโมมีเมล็ด
- การปฏิบัติบำรุงทุกขั้นตอนต่อแตงโมไร้เมล็ดเหมือนแตงโมมีเมล็ดทุกประการ

- แตงโมไร้เมล็ดไม่ได้หมายความว่าไม่มีเมล็ดเลยแม้แต่เมล็ดเดียว เพียงมีเมล็ดสีน้ำตาลน้อยมากและขนาดเล็ก เมล็ดส่วนใหญ่จะเป็นเมล็ดสีขาวอ่อนนิ่ม เคี้ยวรับประทานได้เลย

***** การปฏิบัติบำรุงทุกขั้นตอนเหมือนแตงโมกินเนื้อทุกประการ *****

-----------------------------------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©