-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-แตงโมยักษ์ไต้หวัน...ประสบการณ์ตรง
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - แตงโมยักษ์ไต้หวัน...ประสบการณ์ตรง
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

แตงโมยักษ์ไต้หวัน...ประสบการณ์ตรง

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 16/03/2010 5:59 pm    ชื่อกระทู้: แตงโมยักษ์ไต้หวัน...ประสบการณ์ตรง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ

แตงโมยักษ์ไต้หวัน ปลูกได้คุณภาพดีในประเทศไทย


หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ทุกวันนี้ในวงการพืชผักและผลไม้ที่มีการพัฒนาสายพันธุ์และนำมา
ทดลองปลูกในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มของพืชผักซึ่งมีหลายชนิดที่มีการนำพันธุ์มาจาก
ไต้หวัน หรือแม้แต่ไม้ผล อาทิ พุทราผลใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ซุปเปอร์จัมโบ้ พันธุ์ซื่อหมี่ พันธุ์มิ่ง
เฉา ฯลฯ มีเกษตรกรไทยนำมาปลูกให้ผลผลิตและคุณภาพไม่แตกต่างไปจากที่ปลูกในไต้หวัน
ปัจจุบัน การปลูกพุทราในประเทศไทยเกือบทั้งหมดได้เปลี่ยนมาปลูกพันธุ์ที่นำมาจากไต้หวัน
เกษตรกรไทยหลายรายมีรายได้ดีจากการปลูกพุทราไต้หวัน เนื่องจากผลผลิตขายได้ราคาดี ขนาด
ของผลใหญ่และทุกสายพันธุ์ติดผลดกมาก มะม่วงพันธุ์จินหวงของไต้หวัน ซึ่งมีลักษณะเด่นตรงที่
ขนาดของผลใหญ่และเป็นสายพันธุ์มะม่วงหลักพันธุ์หนึ่งของไต้หวัน ทางโครงการหลวงได้สาย
พันธุ์มาปลูกและได้เปลี่ยนเป็นชื่อไทยว่า "นวลคำ" และมีเกษตรกรอีกหลายรายนำมะม่วงพันธุ์นี้
ไปปลูกและเปลี่ยนชื่อไทยอีกหลายชื่อ ทั้งๆ ที่เป็นมะม่วงสายพันธุ์เดียวกัน แต่ที่น่าแปลกใจมากที่
เกษตรกรไทยอีกเป็นจำนวนมากไม่ทราบก็คือ เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2513 ไต้หวันได้มีการนำ
ฝรั่งจากประเทศไทยซึ่งมีขนาดของผลใหญ่ เนื้อแน่น และกรอบ ไปปลูก ผลผลิตเป็นที่ชื่นชอบ
ของคนไต้หวันในขณะนั้น ไต้หวันได้มีการปรับปรุงได้ฝรั่งสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีเมล็ดน้อยและนิ่ม รส
ชาติอร่อย เช่น พันธุ์เจินจู ได้มีการขยายพื้นที่ปลูกกันมากในบ้านเราขณะนี้

ผู้เขียนได้มีโอกาสไปดูงานการเกษตรที่ไต้หวัน เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อปี พ.ศ. 2552 ที่
ผ่านมา ก่อนอื่นจะต้องขอขอบพระคุณ คุณเฉิน ชิงเฉิน เจ้าของ บริษัท แสงจิต เครื่องจักรการ
เกษตร จำกัด หรือที่รู้จักกันดีคือผู้นำเข้าถุงห่อผลไม้ "ชุนฟง" จากไต้หวัน เป็นหัวหน้าคณะนำ
เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงชั้นแนวหน้าของจังหวัดพิจิตร ไปดูงานเกษตรไต้หวันในครั้งนั้น ระหว่างดู
งานผลไม้ที่เสิร์ฟหลังอาหารทุกมื้อ จะเป็น "แตงโม" คณะผู้ร่วมดูงานทุกคนต่างให้ความเห็นตรง
กันว่า แตงโม ที่ปลูกในไต้หวันมีรสชาติหวานกรอบอร่อยมาก บางคนถึงกลับบอกว่าไม่เคยรับ
ประทานแตงโมที่มีรสอร่อยเช่นนี้มาก่อน ผู้เขียนยังได้สังเกตต่อไปว่า แตงโมที่นำมาให้รับ
ประทานนั้นจะเฉือนเป็นชิ้นติดเปลือก ซึ่งเมื่อสังเกตแล้วคาดจากสายตาว่าน่าจะเป็นแตงที่มีขนาด
ผลใหญ่มาก แตกต่างจากแตงโมที่นิยมปลูกในประเทศไทย ซึ่งมีขนาดของผลเล็กกว่า ระหว่าง
การเดินทางดูงานเกษตรไต้หวันได้มีโอกาสแวะชมตลาดขายผลไม้ตามอำเภอต่างๆ ได้พบเห็น
แตงโมมีวางขายเป็นจำนวนมาก และมีขนาดของผลใหญ่มาก น้ำหนักผลเฉลี่ย 15-20 กิโลกรัม
และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้เขียนให้ความสนใจที่จะหาซื้อเมล็ดแตงโมยักษ์ไต้หวันสายพันธุ์นี้มา
ทดลองปลูกในประเทศไทยให้ได้

แตงโมยักษ์ไต้หวัน มีพื้นที่ปลูกมากที่จังหวัดอิ๋นหลิน
อิ๋นหลิน (Yunlin) เป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สำคัญของไต้หวันจังหวัดหนึ่ง พื้นที่อยู่ทางทิศตะวัน
ตกของเกาะไต้หวัน แตงโมยักษ์มีพื้นที่ปลูกมากที่จังหวัดนี้คือ มีพื้นที่ปลูกประมาณ 6,250 ไร่ ผล
ผลิตเฉลี่ยปีละประมาณ 16,000 ตัน โดยมีช่วงฤดูกาลปลูกจะอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-เดือน
สิงหาคม ของทุกปี สภาพพื้นที่ปลูกที่เหมาะสมที่สุดคือ ดินร่วนปนทราย ลักษณะเด่นของแตงโม
ยักษ์ไต้หวันจัดเป็นแตงโมขนาดผลใหญ่ ถ้ามีการบำรุงรักษาที่ดี น้ำหนักผลจะมีน้ำหนักได้ถึง 20
กิโลกรัม รูปทรงผลรีคล้ายลูกรักบี้ เปลือกมีสีเขียวอ่อนและมีลายทั่วผล เนื้อมีสีแดงเข้ม การขาย
ผลผลิตแตงโมยักษ์ในไต้หวันถ้าขายแบบยกผล จะมีราคาเฉลี่ย กิโลกรัมละ 15-20 บาท แต่ส่วน
ใหญ่พ่อค้าที่นำมาขายปลีกจะผ่าขายเป็นชิ้นๆ

ได้เมล็ดแตงโมยักษ์ไต้หวัน มาทดลองปลูก ที่จังหวัดพิจิตร
ในที่สุดผู้เขียนก็ได้ซื้อเมล็ดแตงโมยักษ์ไต้หวันมาทดลองปลูกที่แผนกฟาร์ม ชมรมเผยแพร่ความ
รู้ทางการเกษตร โดยเริ่มปลูกครั้งแรกในช่วงเดือนกรกฎาคม 2552 โดยเริ่มต้นจากการเพาะกล้า
ด้วยการนำเมล็ดแตงโมมาแช่ในน้ำอุ่น นานประมาณ 30 นาที จากนั้นให้นำเมล็ดบ่มในผ้าขาวบาง
ที่เก็บความชื้นเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง ประมาณ 2-3 วัน เมล็ดจะเริ่มแทงรากออกมา นำเมล็ดไป
เพาะในกระบะเพาะกล้า รดน้ำทุกวัน จนต้นกล้ามีอายุได้ 10-13 วัน จึงย้ายต้นกล้าแตงโมยักษ์ลง
ปลูกในแปลง (มีข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการปลูกแตงโมในช่วงฤดูหนาว มีเกษตรกรบางรายหยอด
เมล็ดลงปลูกในหลุมเลย จะพบว่าเมล็ดงอกช้ามากหรือไม่งอกเลย เนื่องจากถ้าอุณหภูมิของดิน
ปลูกต่ำกว่า 15.5 องศาเซลเซียส เมล็ดแตงโมจะไม่งอกโดยธรรมชาติ แก้ปัญหาด้วยการหุ้ม
เมล็ด แช่เมล็ดแตงโมในน้ำอุ่น ทิ้งไว้ 1 วัน กับ 1 คืน แล้วเอาผ้าเปียกห่อวางไว้ในที่ร่ม จะช่วยทำ
ให้เมล็ดแตงโมงอกได้เร็วขึ้น)

การเตรียมแปลงปลูกแตงโมยักษ์
ในการทดลองปลูกแตงโมยักษ์ของแผนกฟาร์ม ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร จังหวัดพิจิตร
ได้มีการเตรียมแปลงด้วยการขึ้นแปลงแบบคู่กัน โดยให้มีความกว้างของแปลงประมาณ 1 เมตร
สำหรับความยาวของแปลงขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และความสะดวกในการจัดการ แปลงปลูกแตงโม
แต่ละคู่จะให้ห่างกันประมาณ 7-10 เมตร เพื่อให้เป็นพื้นที่ให้เถาแตงโมได้เลื้อยและติดผล สภาพ
ของดินปลูกถ้าเลือกสภาพดินได้ ควรเป็นดินร่วนปนทรายจะเหมาะสมที่สุด เนื่องจากมีการระบาย
น้ำที่ดี จะต้องปรับสภาพค่าความเป็นกรด-ด่าง ให้มีค่า pH เฉลี่ยอยู่ที่ 6-6.5 ถ้าดินมีสภาพความ
เป็นกรดให้ใส่ปูนขาว เนื่องจากเป็นแตงโมที่มีขนาดของผลใหญ่มาก ระบบการให้น้ำจะต้องดีและ
มีประสิทธิภาพ จึงใช้ระบบน้ำหยด ต้นละ 1 หัว และแปลงปลูกจะคลุมแปลงด้วยพลาสติค โดยให้
ด้านสีบรอนซ์อยู่ด้านบน ซึ่งจะมีส่วนช่วยไล่แมลงศัตรูแตงได้ระดับหนึ่ง ก่อนย้ายต้นกล้าลงปลูก
ควรจะรองก้นหลุมด้วยสาร สตาร์เกิล จี อัตรา 2 กรัม ต่อหลุม

การไว้เถาและการเด็ดตาข้างของการปลูกแตงโมยักษ์ไต้หวัน
ความจริงแล้วในการทดลองปลูกแตงโมยักษ์ไต้หวันนั้น ในการเตรียมแปลง การปลูกและการบำรุง
รักษาใช้วิธีการเดียวกับการปลูกแตงโมในบ้านเรา แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยและเทคนิคที่มีความ
แตกต่างกันบางประการเท่านั้น อาทิ ในแต่ละต้นหรือแต่ละหลุมปลูกจะปล่อยให้ผลแตงโมยักษ์ติด
เพียงผลเดียวเท่านั้น ในขณะที่การปลูกแตงโมของเกษตรกรไทยจะปล่อยให้ติดหลายผล อย่าง
น้อย 2-3 ผล ต่อ 1 ต้น หลังจากที่ปลูกต้นกล้าแตงโมยักษ์ลงแปลงมีการแตกใบใหม่ออกมา 2-
3 ใบ ให้เด็ดยอดแตงโมออกเพื่อให้แตกออกเป็น 2 ตา ซึ่ง 2 ตาข้างดังกล่าวจะเจริญเติบโตเป็น
เถา 2 เถา และจะให้แตงโมติดผลเพียงเถาเดียวเท่านั้น ส่วนอีกเถาหนึ่งให้สังเคราะห์แสงเพื่อช่วย
เลี้ยงผลเท่านั้น

ในการเด็ดตาข้างจะเด็ดตาข้างตั้งแต่ตาข้างที่ 1-19 ของทั้ง 2 เถา และจัดการเถาให้เลื้อยไปใน
แนวทางเดียวกัน มีการจัดเถาให้เลื้อยไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้เถาพันกัน และง่ายต่อการ
จัดการ ตั้งแต่ตาข้างที่ 20 เป็นต้นไป ไม่จำเป็นจะต้องเด็ดทิ้ง มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าทุกข้อที่มีตา
ข้างจะมีรากแทงออกมา จึงควรเจาะพลาสติคเพื่อให้รากแทงลงไป ยิ่งมีจำนวนรากมากเท่าไร มี
ส่วนช่วยให้ผลแตงโมมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย การผสมดอกมีส่วนสำคัญของการปลูกแตงโมยักษ์ ถ้า
เป็นไปได้เมื่อผสมดอกจนติดผลแล้วควรเลือกผลที่ 3 หรือ 4 โดยนับจากการติดผลแรกจะดีที่
สุด ช่วงเวลาในการผสมดอกคือ ช่วงเวลาเช้า 06.00-09.00 น.

ผลจากการปลูกแตงโมยักษ์ไต้หวัน 2 รุ่น ได้แตงโมที่มีขนาดผลใหญ่สุด มีน้ำหนักเกือบ 20
กิโลกรัม


จากการทดลองปลูกแตงโมยักษ์ไต้หวันดังกล่าวที่จังหวัดพิจิตร ในรุ่นแรกพบว่าขนาดของผลมี
น้ำหนักใกล้เคียงกับที่ปลูกในไต้หวัน ลักษณะของผล, เนื้อ เหมือนกัน แต่เนื่องจากในการปลูกรุ่น
แรกปลูกในช่วงฤดูฝน รสชาติยังไม่อร่อยเท่ากับที่ปลูกในไต้หวัน แต่สิ่งที่สร้างความมั่นใจได้ระดับ
หนึ่งก็คือ ขนาดของผลและสีของเนื้อเหมือนกัน ทำให้สรุปได้ในเบื้องต้นว่า แตงโมยักษ์สายพันธุ์
นี้ปลูกได้ในบ้านเรา เมื่อผลผลิตแตงโมยักษ์ ในรุ่นที่ 2 ออกมาในช่วงปลายฤดูฝน คุณภาพของ
เนื้อดีขึ้นและมีรสชาติใกล้เคียงกับที่ปลูกในไต้หวัน และที่สำคัญผลผลิตแตงโมยักษ์ไต้หวัน ในรุ่น
ที่ 2 นี้ มีอยู่ต้นหนึ่งที่ให้ผลผลิตมีน้ำหนักถึง 19 กิโลกรัมเศษ นับว่าใหญ่มาก ใครเห็นรู้สึกแปลก
ใจด้วยคนไทยอาจจะไม่เคยเห็นแตงโมที่มีขนาดของผลใหญ่ขนาดนี้ และในขณะนี้ทางแผนก
ฟาร์ม ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร ได้ทดลองปลูกแตงโมยักษ์ไต้หวัน ในรุ่นที่ 3 และ รุ่น
ที่ 4 เพื่อให้ผลผลิตออกให้ทันงาน "เกษตรมหัศจรรย์ วันเทคโนโลยีชาวบ้าน ครั้งที่ 2" จัดขึ้น
ระหว่าง วันที่ 24-28 กุมภาพันธ์ 2553 ที่เดอะมอลล์ บางแค

ปลูกแตงโมยักษ์ในไทย : ตลาดอยู่ที่ไหน
จริงอยู่พฤติกรรมในการบริโภคแตงโมของคนไทยมักจะคุ้นเคยกับแตงโมที่มีขนาดผลไม่ใหญ่มาก
นัก มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 2-3 กิโลกรัม เท่านั้น ในขณะที่ผู้บริโภคตามเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพมหา
นคร เชียงใหม่ ฯลฯ หรือเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา ภูเก็ต ฯลฯ พ่อค้าซื้อแตงโมยักษ์ไปแบ่งผ่า
เป็นชิ้นๆ ขายเหมือนกับที่ไต้หวัน จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งทางการตลาดในอนาคต ความจริงแล้ว
ตามโรงแรมหรือการจัดงานเลี้ยงตามสถานที่ต่างๆ มีความต้องการแตงโมที่มีขนาดผลใหญ่ ขอ
เพียงแต่แตงโมมีรสชาติหวาน กรอบ และอร่อย เป็นอันใช้ได้ ทางชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการ
เกษตรได้นำผลผลิตแตงโมยักษ์บางส่วนมาทดลองคั้นน้ำแยกกากเพื่อทำเป็นน้ำแตงโมสด
100% (ตามห้องอาหาร โรงแรมใหญ่ๆ ในกรุงเทพมหานคร จะมีน้ำแตงโมสดบริการแขกที่มาใช้
บริการ) ผลปรากฏว่าแตงโมยักษ์ที่มีน้ำหนักผลประมาณ 15 กิโลกรัม เมื่อทำเป็นน้ำแตงโมสด
100% บรรจุขวดละ 200 ซีซี ได้จำนวน 50 ขวด เป็นอย่างน้อย และนำมาจำหน่ายถึงผู้บริโภคใน
ราคาขวดละ 10 บาท นั่นแสดงให้เห็นว่าแตงโมยักษ์ผลหนึ่งจะทำรายได้ถึงผลละ 400-500 บาท

จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตแตงโมยักษ์ไต้หวันที่ปลูกที่แผนกฟาร์ม ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการ
เกษตร จังหวัดพิจิตร ซึ่งปลูกในสภาพไร่พื้นราบและมีอุณหภูมิเหมือนกับพื้นที่ที่ปลูกแตงโมทั่วไป
2 รุ่น สรุปข้อมูลของความเป็นไปได้ในเบื้องต้นว่า สามารถปลูกและให้ผลผลิตมีขนาดผลใหญ่ได้
ใกล้เคียงกับที่ปลูกในไต้หวัน ในเรื่องของรสชาติยังต้องมีการตรวจสอบเรื่องอายุของการเก็บเกี่ยว
ว่า แตงโมยักษ์สายพันธุ์นี้มีอายุการเก็บเกี่ยวและการจัดการในเรื่องของการให้ปุ๋ย โดยเฉพาะการ
ปลูกในช่วงฤดูฝน ปริมาณน้ำฝนอาจจะมีผลต่อรสชาติบ้าง แต่ผลผลิตที่ปลูก ในรุ่นที่ 2 ซึ่งสามารถ
ควบคุมปริมาณน้ำได้และเป็นช่วงปลายฤดูฝน รสชาติของผลผลิตมีความหวานและกรอบใกล้เคียง
กับที่ปลูกในไต้หวัน ในเรื่องของโรคและแมลงแตงโมยักษ์เหมือนกับการปลูกแตงโมทั่วไป สิ่งที่
จะต้องระวังเป็นพิเศษคือ โรคเถาเหี่ยว ที่เกิดจากเชื้อราฟิวซาเรียม ซึ่งโรคนี้เป็นปัญหาหลักของ
การปลูกแตงโมในบ้านเรา โรคนี้จะระบาดมากในช่วงแตงโมออกดอก การปลูกแตงโมซ้ำที่เดิม
และสภาพดินเป็นกรดจัด ขณะนี้ทางชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรได้เมล็ดพันธุ์แตงโมยักษ์
ไต้หวันอีกสายพันธุ์หนึ่งมาเริ่มทดลองปลูก และเป็นสายพันธุ์ที่ต้านทานโรคเถาเหี่ยว



ที่มา : เทคโนโลยีชาวบ้าน


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 03/04/2010 5:40 pm, แก้ไขทั้งหมด 3 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 21/03/2010 4:25 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แตงโม (ไทย)....ประสบการณ์ตรง :

แตงโมที่ปลูกแบบปล่อยเถาเลื้อยไปบนพื้นนั้น ส่วนใหญ่ 1 กอ มักให้มี 2 ยอด แล้วไว้ผลยอดละ 1-2-3-4 ผล/ยอด

..... ช่วงแตงโมได้อายุต้นเริ่มออกดอก บำรุงทางใบด้วย "ฮม.ไข่" ทุก 4-5 วัน จะช่วยให้แตงโมออกดอกมากขึ้น หรือให้ 1 ครั้งได้ 1-2 ดอกเสมอ.....คู่กับให้ทางรากด้วย "น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24" โดยฉีดอัดลงดินบริเวณโคนต้น ทุก 15-20 วัน


..... ช่วงออกดอกแล้วควรงดการฉีดพ่นทางใบทุกชนิดช่วง 08.00 - 11.00 เพราะเป็นช่วงที่เกสรต้องการผสม หากฉีดพ่นอาจทำให้เกสรเปียกจนผสมไม่ติดได้

..... การช่วยผสมเกสรด้วยมือ นอกจากช่วยให้การติดเป็นผลดีแล้วยังช่วยให้เป็นผลที่คุณภาพดีอีกด้วย

..... วิธีหลอกผึ้งให้ช่วยผสมเกสร เช้าราว 08.00 แดดจัดฟ้าสดใส ผึ้งจะออกหากินในแปลงแตงโม จงเดินเข้าไปทางหัวแปลงก่อน ถือกิ่งไม้ 2 มือ กางแขน 2 ข้าง ก้าวเดินช้าๆพร้อมกับโบกกิ่งไม้เบาๆ ผึ้งเห็นกิ่งไม้โบกไปมาจะบินขึ้น แล้วบินไปเกาะดอกแตงโมข้างหน้าใหม่ ก็ให้เดินช้าๆ ตามไปอีกสัก 3-5 ก้าวเท่ากับระยะที่ผึ้งบินไปก่อนล่วงหน้า โบกกิ่งไม้อีก ผึ้งก็จะบินขึ้นหนีไปข้างหน้าอีก ทำซ้ำไปเรื่อยๆ หลายๆ รอบ จนสุดแปลงแล้วย้อนทำซ้ำ ตราบเท่าที่ผึ้งยังไม่หนีไปไหน

..... เถาเดียวที่มีหลายผล ควรเว้นระยะ 1 ผล/7-8 ใบ เพื่อให้แต่ละผลมีใบสำหรับสังเคราะห์อาหาร เทคนิคไว้ผลแบบนี้ต้องเด็ดดอกทิ้งตั้งแต่ออกมาใหม่ๆ โดยเลื่อกเด็ดทิ้งกับเลือกเก็บไว้

..... เถาเดียวมีหลายผล ระหว่างผลต่อผลให้ทำไม้โค้งงอรูปตัว ยู. กดเถาบริเวณข้อให้แนบผิวดินแล้วคลุมทับด้วยเศษดิน เศษหญ้าแห้ง ไม่นานที่ข้อจะมีรากงอกออกมา รากนี้จะดูดซับสารอาหารไปเลี้ยงผลที่อยู่ถัดไปทางปลายเถา ควรทำต่อทุกผล จะทำให้แต่ละผลมีรากส่วนตัวแทนที่จะรอรับสารอาหารจากรากที่โคนเถาเพียงรากเดียว


ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©