-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 7 FEB.. * ปุ๋ย-ฮอร์โมน อินทรีย์เพียวๆ
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 5 FEB.. * มะขามเทศฝักแตก
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 5 FEB.. * มะขามเทศฝักแตก

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 05/02/2018 6:13 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 5 FEB.. * มะขามเทศฝักแตก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 5 FEB

AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
http://www.nimut.com/
* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://www.bkgmax.com/kaset/product.html
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

* และ ชมรมสีสะนชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ที่ (081) 913-4986 โทรศัพท์เข้ารายการคุยกันสดๆ
ออกอากาศ สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน (02) 888-0881 และอินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิมดอทคอม ถาม 1 บันทัด ตอบ 1 หน้า....

--------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)


----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด, ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......


**********************************************************

จาก : (093) 313-9642xx
สายตรง : มะขามเทศ ด้านหลัง ฝักแตก แม่ค้าไม่เอา ....
ตอบ :
ธรรมชาติของมะขามเทศ เมื่อฝักแก่เก็บเกี่ยวได้ ฝักด้านหน้าจะแตก ส่วนฝักด้วนหลังจะไม่แตก กรณีนี้เกิดจากขาด “แคลเซียม” อย่างรุนแรง ต้นได้รับสารอาการกลุ่มสร้างเนื้อสร้างฝัก (21-7-14) มาก แต่ได้รับสารอาหารกลุ่มสร้างเปลือกน้อย เมื่อเทียบกับกลุ่มสร้างเนื้อสร้างผล

มะขามเทศ-มะขามหวาน-มะขามเปรี้ยว ตอบสนองต่อแคลเซียม ต่างกัน กล่าวคือ ....
- มะขามหวาน อ่อนหรือขาดแคลเซียม ช่องว่างระหว่างเซลล์ที่เปลือกจะห่าง ทำให้เชื้อราเข้าสู่เนื้อข้างในได้ ....
- มะขามเปรี้ยว ไม่มีผล ....
- มะขามเทศ อ่อนหรือขาดแคลเซียม จะเกิดอาการฝักแตกอย่างที่ถามมา ....
ทั้งมะขามเทศ-มะขามหวาน-มะขามเปรี้ยว ตอบสนองต่อแคลเซียม ด้านคุณภาพเนื้อเหมือนๆกัน

เหมือนมะนาว ถ้าให้ “แคลเซียม โบรอน” ทางใบ เริ่มตั้งแต่ผลขนาดเล็ก จากนั้นให้เรื่อยๆซักเดือนละครั้ง เมื่อผลมะนาวโตจะไม่เกิดอาการผลแตก

จากปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูก “ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค”.... ปัญหาหลักจริงๆน่าจะ (เน้นย้ำ....น่าจะ) อยู่ที่ “สารอาหาร” กรณีปัจจัยสายพันธุ์ คือ “พันธุวิทยา” มะขามเทศเมื่อผลแก่จัดต้องมีลักษณะอาการ “ฝักแตก” อยู่แล้ว แต่แตกเฉพาะที่ไต้ท้องฝัก ไม่ได้แตกไปถึงด้านหลังฝัก นั่นคือ อาการหลังฝักแตกเกิดจากขาดแคลเซียม แนวทางแก้ไข คือ

ทางใบ : ให้แคลเซียม โบรอน ....... เคมีสังเคราะห์
ทางราก :ให้ยิบซั่ม กระดูกป่น ....... เคมีชีวะ

การให้แคลเซียม โบรอน สม่ำเสมอ นอกจากช่วยแก้อาการหลังฝักแตกหรือแตกน้อยแล้ว ยังช่วยลดอาการฝักด้านหน้าแตกลงได้อีกด้วย

แคลเซียม ไม่ใช่ของวิเศษ ตัวเดียวเดี่ยวๆ แก้อาการหลังฝักแตกได้เลย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเอี่ยวด้วย นั่นคือ....

* ปัจจัยพื้นฐานฯ (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) ทุกปัจจัยต้อง สมบูรณ์-ครบถ้วน-ถูกต้อง แบบตามความเหมาะสมของพืชตระกูลมะขามเทศ

* สารอาหาร หลัก/รอง/เสริม/ฮอร์โมน ต้นได้รับสม่ำเสมอถูกหลักวิชาการ
* ต้นมีความสมบูรณ์สะสม (เน้นย้ำ...สะสม สะสม สะสม) สูง


ขั้นตอนบำรุงมะขามเทศ :

จากหนังสือ ไม้ผลแนวหน้า 2545 (ลืมยอดพิมพ์), หัวใจเกษตรไท 2560 (1,000 เล่ม), หัวใจเกษตรไท มินิ 2561

ลักษณะทางธรรมชาติ :
- ปลูกได้ทุกพื้นที่ ทุกภาค และทุกฤดูกาล ชอบดินดำร่วน มีอินทรีย์วัตถุมากๆ ให้ผล ผลิตปีละรุ่น ยังไม่พบสายพันธุ์ทะวาย และยังไม่มีสาร หรือฮอร์โมนใดๆ บังคับให้ออกนอกฤดูได้

- ช่วงพักต้นต้องการน้ำพอหน้าดินชื้น แต่ช่วงกำลังมี ดอก-ผล ต้องการน้ำมากขึ้นโดย เฉพาะช่วงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยวถ้าขาดน้ำเนื้อจะแห้ง รับประทานแล้วฝืดคอ ถ้ามีการให้น้ำสม่ำเสมอเนื้อจะฉ่ำนุ่มรับประทานได้อร่อยกว่า

- ต้นพันธุ์ดีเสียบยอดบนตอมะขามเทศฝาด แล้วเสริมรากด้วยมะขามเทศฝาดอีก 1-2 ราก นอกจากทำให้มีรากจำนวนมากขึ้น ซึ่งหมายถึงปริมาณสารอาหารที่ส่งไปเลี้ยงต้นได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยสะสมไนโตรเจน (มะขามเทศเป็นพืชตระกูลถั่ว) ได้มากขึ้นอีกด้วย เมื่อต้นได้รับสารอาหารและไนโตรเจนจากรากเพิ่มมากขึ้นจึงส่งผลให้สมบูรณ์ผลผลิตดีอีกต่างหาก

- อายุต้น 5 ปีขึ้นไปปริมาณและคุณภาพผลผลิตจะลดลง แก้ไขโดยตัดแต่งกิ่งแบบทำสาว และตัดแต่งราก หลังจากนั้นก็ให้ตัดแต่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อเข้าสู่ฤดูกาลผลิตใหม่ปีละครั้ง

- ออกดอกติดผลจากปลายกิ่งที่แตกใหม่ในปีนั้นเท่านั้น
- กิ่งแขนงที่ออกตามโคนกิ่งของต้นที่สมบูรณ์จริงๆก็สามารถออกดอกติดผลได้
- ดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศผสมกันเองในดอก หรือต่างดอกในต้นเดียวกัน หรือต่างต้นได้

- เกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างไม่สมบูรณ์เกิดจากขาดสารอาหาร/ฮอร์โมนหรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม (อากาศร้อนหรือฝนตกชุก) แล้วผสมกันแล้วพัฒนาเป็นผลจะเป็นผลไม่สมบูรณ์ ไม่โต รูปทรงบิดเบี้ยว

- เป็นผลไม้ที่ออกสู่ตลาดในฤดูกาลที่ไม่ตรงกับไม้ผลเด่นอื่นๆ ยกเว้นไม้ผลทะวาย หรือไม้ผลที่บังคับให้ออกนอกฤดูกาลจึงทำให้มะขามเทศไม่มีคู่แข่งทางตลาดและได้ราคาดี

- มะขามเทศต้นที่ใบใหญ่ คือสายพันธุ์ดีกว่า ให้ฝักขนาดใหญ่กว่า ต้นที่ใบเล็ก
- ให้ฮอร์โมนบำรุงราก 2-3 เดือน/ครั้ง และฮอร์โมนไซโตคินนิน 1-2 เดือน/ครั้ง จะช่วยให้ต้นสมบูรณ์ออกดอกติดผลดี

สายพันธุ์ :
พันธุ์ที่ทางราชการส่งเสริม คือ มะขามเทศฝักใหญ่ พันธุ์พระพุทธบาท ปัจจุบันมีพันธุ์เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งกลายพันธุ์มาจากพันธุ์พระพุทธบาทอีกหลายพันธุ์ จุดเด่นของพันธุ์ดี คือ ใบขนาดใหญ่ ในขณะที่พันธุ์พื้นเมืองใบขนาดเล็ก

เตรียมต้น ตัดแต่งกิ่ง :
- เทคนิคการ ตัดแต่ง-เรียกใบอ่อน แบบ “บำรุงก่อนตัด” กล่าวคือ ระหว่างที่ต้นเลี้ยงลูกนั้น ต้นต้องใช้พลังงานอย่างมาก จนทำให้ต้นโทรม หลังจากผลลูกสุดท้ายหลุดจากต้นแล้วให้บำรุงด้วยสูตรเรียกใบอ่อน ทั้งทางใบและทางราก หรือเฉพาะทางใบอย่างเดียวก่อน 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน เพื่อให้ต้นได้ใช้ใบเดิมที่มีสังเคราะห์อาหาร เมื่อเห็นว่า ต้นมีอาการสมบูรณ์ดี ทำท่าจะแตกยอดใหม่ ก็ให้ปฏิบัติการเรียกใบอ่อนทันที การที่ต้นมีความสมบูรณ์อยู่ ต้นก็จะแตกใบอ่อนใหม่ เร็ว ดี มาก และพร้อมกันทั่วทั้งต้น

- ตัดแต่งเพื่อการแตกยอดใหม่ให้ตัดกิ่งกระโดง กิ่งในทรงพุ่ม กิ่งคดงอ กิ่งชี้ลง กิ่งไขว้ กิ่งหางหนู กิ่งเป็นโรค ทั้งนี้ภายในทรงพุ่มควรให้โปร่งจนแสงส่องผ่านลงไปถึงโคนต้นได้

- ตัดแต่งเพื่อไม่ให้แตกใหม่ป้องกันทรงพุ่มทึบเกินไป ให้ตัดชิดลำกิ่งประธาน
- ตัดแต่งกิ่งเพื่อเข้าสู่วงรอบการบำรุงให้ได้ผลผลิตให้ตัดแต่งกิ่งพร้อมกับตัดแต่งราก

- ต้นที่ตัดแต่งกิ่งออกมากๆ (มากกว่า 50%) ควรเรียกใบอ่อน 2 ชุด ส่วนต้นที่ตัดแต่งกิ่งออกไม่มาก (ประมาณ 25-30%) เรียกใบอ่อน 1 ชุดก็พอ

- ตัดยอดกิ่งประธาน (ผ่ากบาล) ณ ความสูงต้นตามต้องการ นอกจากช่วยทำให้แสงแดดผ่านจากยอดเข้าสู่ภายในทรงพุ่มได้อย่างทั่วถึง แล้วแสงแดดที่ร้อนยังช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี และเพื่อควบคุมขนาดความสูงทรงพุ่มอีกด้วย

- นิสัยการออกดอกของมะขามเทศไม่จำเป็นต้องกระทบหนาว แต่ถ้า ตัดแต่งกิ่ง-เรียกใบอ่อน ช่วงต้นหน้าฝนแล้วเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไปตามลำดับอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์เต็มที่ดีกว่าการตัดแต่งกิ่งในช่วงอื่น


ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อมะขามเทศ
1. เรียกใบอ่อน :
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 25-5-5 + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วันฉีดพ่นพอเปียกใบ 1-2 รอบ

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ใส่ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ กระดูกป่น ปุ๋ยคอก (ขี้วัวขี้ไก่ไข่ แกลบดิบ แห้งเก่าข้ามปี) ครั้งที่ 1 ของรุ่นหรือปีการผลิต ควรวางแผนให้ปีละ 2 ครั้ง

- คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆ เต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่ม ล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม
- ให้ 25-7-7 (1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นกลาง, 2 กก.ต้นใหญ่) /ต้น ละลายน้ำรดโคนต้น เขตทรงพุ่ม
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) /ไร่ รดทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว 1-2 เดือน/ครั้ง
- ให้น้ำเปล่า ทุก 3-5 วัน
หมายเหตุ :
- เทคนิค ตัดแต่งกิ่งก่อนบำรุง กับ บำรุงก่อนตัดแต่กิ่ง เรื่องของเรื่องก็คือ ระหว่างที่มีลูกผลบนต้นนั้น ต้นต้องใช้พลังเลี้ยงลูกผลอย่างมาก ต้นจึงโทรม ลูกผลมากโทรมมาก ลูกผลน้อยโทรมน้อย ในเมื่อใบมีหน้าที่สังเคราะห์สารอาหาร ถ้าตัดใบทิ้งแล้วต้นจะเอาใบที่ไหนมาสังเคราะห์อาหาร เพราะฉะนั้น ให้บำรุงเรียกใบอ่อนก่อน 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน เมื่อเห็นว่า ต้นมีอาการอั้นตายอดก็ให้ลงมือตัดแต่งกิ่ง แล้วบำรุงด้วยสูตร “เรียกใบอ่อน” ตามปกติ ต้นก็จะแตกใบอ่อนดี จำนวนมาก และพร้อมกันทั้งต้น

- ลงมือปฏิบัติทันทีหลังตัดแต่งกิ่งและตัดแต่งรากเสร็จ
- หลังจากให้ทางใบไปแล้ว 5-7 วัน ถ้าต้นใดแตกใบอ่อนน้อยกว่า 50% ให้ฉีดพ่นซ้ำรอบสองด้วยอัตราและวิธีการเดิม เพราะถ้าต้นแตกใบอ่อนไม่พร้อมกันทั่วทั้งต้นจะส่งผลเสียหลายอย่างตั้งแต่ การเร่งใบอ่อนเป็นใบแก่, การสะสมอาหารเพื่อการออก, การปรับ ซี/เอ็น เรโช, การเปิดตาดอก, ซึ่งจะออกดอกไม่พร้อมกันทั่วทั้งต้น และเมื่อดอกออกไม่พร้อมกันก็กลายเป็นผลไม่พร้อมกันทำให้ยุ่งยากต่อการปฏิบัติบำรุงตามขั้นตอนอย่างมาก .... แนวทางแก้ไข คือ ต้องบำรุงเรียกใบอ่อนให้ออกมาเป็นชุดเดียวพร้อมกันทั้งต้นให้ได้

- ต้นที่ตัดแต่งกิ่งออกมากๆ (มากกว่า 50%) ควรเรียกใบอ่อน 2 ชุด ส่วนต้นที่ตัดแต่งกิ่งออกไม่มาก (ประมาณ 25-30%) เรียกใบอ่อน 1 ชุดก็พอ

2. เร่งใบอ่อนเป็นใบแก่ :
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ (แม็กเนเซียม. สังกะสี.) 0-21-74 หรือ 0-39-39 สูตรใดสูตรหนึ่ง + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบห่างกันรอบละ 7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
ให้น้ำตามปกติ ทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :
- ลงมือปฏิบัติเมื่อใบเริ่มแผ่กางรับแสงแดดได้
- วัตถุประสงค์เพื่อเร่งใบชุดใหม่ให้สามารถสังเคราะห์อาหารและเร่งระยะเวลาเรียกใบอ่อนชุดต่อไปได้เร็วขึ้นกับทั้งเพื่อให้ใบอ่อนรอดพ้นจากทำลายของแมลงปากกัดปากดูด

- มะขามเทศต้นที่สะสมความสมบูรณ์เต็มที่มานานหลายปีติดต่อกัน หลังจากใบอ่อนเริ่มแผ่กางแล้วสามารถข้ามขั้นตอนการบำรุงไปสู่ขั้นตอนเปิดตาดอกได้เลย ทั้งนี้ ฟอสฟอรัส. กับโปแตสเซียม. นอกจากช่วยเร่งใบอ่อนเป็นใบแก่ได้แล้วยังช่วยเปิดตาดอกได้อีกด้วย

3. สะสมอาหารเพื่อการออกดอก :
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 0-42-56 + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ฉีดพ่นทั่วทรงพุ่ม คิดต่อกันนาน 1-2 เดือน

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ให้ 8-24-24 (1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นใหญ่, 2 กก.ต้นใหญ่) /ต้น ละลายน้ำรดโคนต้น เขตทรงพุ่ม

- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (2 ล.) /ต้น /เดือน รดทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว
- ให้น้ำเปล่าปกติทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :
- เริ่มปฏิบัติเมื่อใบเพสลาด
- แนวทางบำรุงให้ต้นได้สะสมอาหารเพื่อการออกดอกไว้มากที่สุดควรเตรียมแผนใช้เวลาบำรุง 2-2 เดือนครึ่ง โดยให้น้ำตาลทางด่วน (กลูโคส, น้ำมะพร้าวแก่) รอบแรกเมื่อเริ่มลงมือบำรุง และให้รอบสองห่างจากรอบแรก 20-30 วัน

- วัตถุประสงค์เพื่อให้ต้นได้สะสมสารอาหารทั้งกลุ่ม สร้างดอก-บำรุงผล (ซี.) และกลุ่มสร้างใบ-บำรุงต้น ไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จนกระทั่งเกิดอาการอั้นตาดอก ไม่มีการแตกใบอ่อนออกมาอีก ถ้าต้นแตกใบอ่อนออกมาใหม่ก็จะต้องย้อนกลับไปบำรุงที่ขั้นตอนเร่งใบอ่อนให้เป็นใบแก่อีกครั้งซึ่งทำให้เสียเวลา

- ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงขั้นต่อไป คือ ปรับ ซี/เอ็น เรโช. ให้ทบทวนความทรงจำเมื่อครั้งเรียกใบอ่อนแล้วใบอ่อนออกมาพร้อมกันเป็นชุดเดียวทั่วทั้งต้นหรือไม่ ถ้าใบอ่อนออกมาพร้อมกันดีทั่วทั้งต้นให้ปรับ ซี/เอ็น เรโช. ต่อไปได้เลย แต่ถ้าใบอ่อนออกมาไม่พร้อมกันเป็นชุดเดียวทั่วทั้งต้นและค่อนข้างต่างรุ่นกันมากก็ให้บำรุงสะสมอาหารเพื่อการออกดอกต่อไปอีก 2-3 รอบ เพื่อรอให้ใบอ่อนชุดหลังสะสมอาหารจนอั้นตาดอกดีเท่ากับใบอ่อนชุดแรกจากนั้นจึงลงมือปรับ ซี/เอ็น เรโช. ทั้งนี้ วัตถุประสงค์เพื่อทำให้มีดอกออกมาพร้อมกันเป็นชุดเดียวกันทั่วทั้งต้นนั่นเอง

4. ปรับ ซี/เอ็น เรโช :
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 0-42-56 + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ ระวังอย่าให้ลงพื้น

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
งดน้ำ เปิดหน้าดินโคนต้น
หมายเหตุ :
- ลงมือปฏิบัติเมื่อสังเกตเห็นความสมบูรณ์ของต้นชัดเจน
- ต้นที่มีอาการอั้นตาดอกดีจนพอใจแล้วไม่ต้องฉีดพ่นกลูโคสเพิ่มอีกแต่ถ้าต้นมีอาการอั้นตาดอกไม่ดีหรือยังไม่น่าพอใจ แนะนำให้ฉีดพ่นน้ำตาลทางด่วน (กลูโคส) ทางใบอีกซ้ำอีก 1 รอบ โดยเว้นระยะเวลาให้ห่างจากที่เคยให้เมื่อช่วงสะสมอาหารไม่น้อยกว่า 30-45 วัน

- วัตถุประสงค์เพื่อ “เพิ่ม” ปริมาณสารอาหารกลุ่ม สร้างดอก-บำรุงผล (ซี.)และ “ลด” ปริมาณสารอาหารกลุ่ม สร้างใบ-บำรุงต้น (เอ็น.)

5. เปิดตาดอก :
ทางใบ :

- ให้ฮอร์โมนไข่ไทเป + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้น
- ให้น้ำพอหน้าดินชื้นหรือพอให้ต้นได้รู้สึกตัว
หมายเหตุ :
- ลงมือปฏิบัติเมื่อต้นมีอาการอั้นตาดอกทั่วทั้งต้นหรือทุกจุดที่สามารถออกดอกได้
- อาจจะพิจารณาใส่ 8-24-24 (100-200 กรัม) /ต้น อีก 1 รอบก็ได้ ด้วยการละลายน้ำรดโคนต้นพอหน้าดินชื้นเพื่อเสริมของเก่าที่ใส่เมื่อช่วงสะสมอาหารและช่วงที่ปรับ ซี/เอ็น เรโช.

- หลังจากเปิดตาดอกแล้ว ถ้าดอกออกมาไม่มากพอ ระหว่างที่ดอกชุดแรกยังเป็นดอกตูมอยู่นั้นให้เปิดตาดอกซ้ำอีก 1-2 รอบ ด้วยสูตรเดิม หรือจนกระทั่งดอกชุดแรกบานแล้วจึงยุติการเปิดตาดอกซ้ำ

- มะขามเทศเป็นไม้ผลมีนิสัยออกดอกง่าย หากบำรุงต้นได้สมบูรณ์เต็มที่ก็สามารถออกดอกเองได้

6. บำรุงดอก :
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 15-45-15 (หน้าฝน) หรือ 0-52-34 (หน้าแล้ง) + สารสสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ

- ฉีดพ่นสารสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้น
- ให้น้ำพอหน้าดินชื้น
หมายเหตุ :
- ช่วงดอกตั้งแต่เริ่มแทงออกมาให้เห็น (ก้านดอกยาว 1-2 ซม.) หรือระยะดอกตูม บำรุงด้วยฮอร์โมน เอ็นเอเอ.1-2 รอบ จะช่วยบำรุงเกสรทั้งตัวผู้และตัวเมียให้สมบูรณ์พร้อมรับผสม การให้ฮอร์โมนเอ็นเอเอ. ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพราะถ้าให้เข้มข้นเกินไปจะเกิดความเสียหายต่อดอกและถ้าให้อ่อนเกินไปก็จะไม่ได้ผล

- ช่วงดอกเริ่มแทงออกมาใหม่ๆให้แคลเซียม โบรอน 1 รอบ จะช่วยให้ดอกสมบูรณ์ผสมติดดี
- ฉีดพ่นสารอาหารเพื่อบำรุงดอกด้วยเครื่องมือฉีดพ่นที่มีแรงลมพ่นเบาที่สุดตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อส่วนต่างๆของดอก ฉีดพ่นที่ช่อดอกโดยตรงพอเปียกหรือฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มพอเปียกใบก็ได้

- ช่วงดอกตูมควรฉีดพ่นสารสมุนไพรให้บ่อยขึ้น เพื่อป้องกันกำจัดโรคและแมลงจนถึงช่วงดอกบาน
- ช่วงดอกบานควรงดการฉีดพ่นทางใบโดยเฉาะช่วงกลางวัน (08.00-12.00 น.) เพราะอาจทำให้เกสรเปียกจนผสมไม่ติดได้ หากจำเป็นต้องฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรให้ฉีดพ่นช่วงหลังค่ำ

- ระยะดอกบานถ้าตรงกับช่วงฝนชุกเกสรจะเปียกชื้นทำให้ผสมไม่ติด แก้ไขโดยกะระยะเวลาบำรุงให้ดอกออกมาแล้วไม่ตรงกับช่วงฝนชุกเท่านั้น แต่ถ้าดอกออกมาตรงกับช่วงแล้งอากาศร้อนมากเกสรจะฝ่อทำให้ผสมไม่ติดเช่นกัน แก้ไขโดยสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศและที่พื้นดิน ทั้งในแปลงปลูกและรอบๆแปลงปลูก .... มาตรการบำรุงต้นและดอกให้สมบูรณ์อย่างแท้จริงอยู่เสมอสามารถช่วยลดความสูญเสียได้เป็นอย่างมาก

- ต้นที่ได้รับ แม็กเนเซียม (จากไบโออิ). โบรอน (จากแคลเซียม โบรอน). สม่ำเสมอแบบสะสม ถึงช่วงออกดอกแล้วเจอฝน ดอกจะแข็งแรงไม่ร่วงง่ายๆ หรือติดเป็นผลได้ดีเหมือนปกติ

7. บำรุงผลเล็ก (ฝักดาบ) :
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ + ยูเรก้า + จิ๊บเบอเรลลิน + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ฉีดพ่นทั่วทรงพุ่ม

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- นำอินทรีย์วัตถุกลับเข้าคลุมโคนต้นให้เหมือนเดิม
- ใส่ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ กระดูกป่น ปุ๋ยคอก (ขี้วัวขี้ไก่ไข่ แกลบดิบ แห้งเก่าข้ามปี) ครั้งที่ 2 ของรุ่น หรือปีการผลิต

- คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆ เต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่ม ล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม
- ให้ 25-7-7 (1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นใหญ่, 2 กก.ต้นใหญ่) /ต้น ละลายน้ำรดโคนต้น เขตทรงพุ่ม
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) /ไร่ รดทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว 1-2 เดือน/ครั้ง
- ให้น้ำเปล่าปกติทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :
- เริ่มบำรุงเมื่อผลเริ่มติดหรือหลังกลีบดอกร่วง .... ระยะนี้ฝักมีรูปร่างแบนๆ เรียก ว่า "ฝักดาบ" การบำรุงด้วยจิ๊บเบอเรลลินจะช่วยให้ฝักยาว ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายขนาดฝักในช่วงบำรุงขั้นต่อไป

8. บำรุงผลกลาง (ขึ้นรูป) :
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ + ยูเรก้า + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ฉีดพ่นทั่วทรงพุ่ม

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ให้ 21-7-14 (1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นใหญ่, 2 กก.ต้นใหญ่) /ต้น ละลายน้ำรดโคนต้น เขตทรงพุ่ม
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (2 ล.) /ไร่ รดทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว 1-2 เดือน/ครั้ง
- ให้น้ำเปล่าปกติทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :
- เริ่มให้เมื่อฝักโตเห็นตุ่มเมล็ดนูนขึ้นมา ลักษณะนี้ชาวสวนเรียกว่า “ขึ้นรูป”

9. บำรุงผลแก่ :
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 0-21-74 หรือ 0-0-50 สูตรใดสูตรหนึ่ง + สารสมุนไพร 250 ซีซี. 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ให้ครั้งสุดท้ายก่อนเก็บเกี่ยว 5-7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ให้ 8-24-24 หรือ 13-13-21 สูตรใดสูตรหนึ่ง (1/2 กก.) /ต้น ละลายน้ำรดโคนต้น เขตทรงพุ่ม
- ให้น้ำพอหน้าดินชื้น ทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :
- มะขามเทศต่างจากไม้อื่นๆ ที่ระยะผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวจะต้องให้น้ำตามปกติหรือมากกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อฉ่ำน้ำ เมื่อรับประทานจะไม่ติดคอหรือฝืดคอ (รับประทานมะขามเทศเนื้อแห้งๆ เหมือนกับรับประทานขนมโก๋) ในขณะที่ผลไม้อื่นต้องงดให้น้ำเพื่อทำให้เนื้อแห้งและกรอบ

- เริ่มให้ก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน 1-2 รอบห่างกันรอบละ 5-7 วัน
- การให้ 13-13-21 เหมาะสำหรับมะขามเทศที่มีผลรุ่นเดียวกันทั้งต้น หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วต้นมักโทรมจึงต้องเร่งบำรุงฟื้นฟูความสมบูรณ์ของต้น (เรียกใบอ่อน) กลับคืนมาโดยเร็วแล้วเข้าสู่วงรอบการบำรุงใหม่

- การให้ 8-24-24 เหมาะสำหรับต้นที่มีผลหลายรุ่นในต้นเดียวกันหรือประเภททะวายทยอยออก แบบไม่มีรุ่นซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลแก่จัดไปแล้วต้นไม่โทรม ใน 8-24-24 เป็นปุ๋ยประเภทสะสมอาหารเพื่อการออกดอก ซึ่งจะส่งผลให้กิ่งที่ยังไม่ออกดอกติดผลเกิดอาการอั้นแล้วออกดอกติดผลเป็นผลรุ่นใหม่ขึ้นมาอีกได้

------------------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©