-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 1 JAN..... * ข้อมูลข้าวขาวดอกมะลิ
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 2 JAN... * งานสัญจร วัดส้มเกลี้ยง โรงกรอง
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 2 JAN... * งานสัญจร วัดส้มเกลี้ยง โรงกรอง

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 02/01/2020 6:03 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 2 JAN... * งานสัญจร วัดส้มเกลี้ยง โรงก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 27 DEC
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม

ผลิตรายการโดย :
กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ :
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม "...?..."
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

สนับสนุนรายการโดย :
*บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช .... (02) 322-9175-6
http://www.nimut.com/

* ยิบซั่มธรรมชาติ ---- เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์แมกซ์, .... ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ .... (089) 144-1112
http://www.bkgmax.com/kaset/product.html


กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ที่ (081) 913-4986 โทรศัพท์เข้ารายการคุยกันสดๆ ออกอากาศ สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน (02) 888-0881 และอินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิมดอทคอม เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

----------------------------------------------------------------------------------

เก็บตกงานสัญจร 28 DEC วัดส้มเกลี้ยง โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก :

โปรแกรมงานสัญจร 1 เดือน มี 4 สัปดาห์ ....
เสาร์สัปดาห์แรกของเดือน ไปวัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
เสาร์สัปดาห์ที่สองของเดือน ไปวัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
เสาร์สัปดาห์ที่สามของเดือน ไปวัดท่าตำหนัก ถ.เพชรเกษม (ขาล่อง) ก่อนถึงแยกนครชัยศรี นครปฐม,
เสาร์สัปดาห์ที่สี่ของเดือน ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก กาญจนาภิเษก

สัญจรแต่ละครั้งแต่ละที่ สมช.ที่มา มีปัญหาอะไร เอามาคุยกัน พูดคุยถามตอบกันแบบ
FACE TO FECT MOUTH TO MOUTH ....

ทำ :
ทำถูก = ได้ผล สำเร็จ ได้กำไร ............ ต่อยอด
ทำผิด = ไม่ได้ผล ล้มเหลว ขาดทุน ..... แก้ไข

ประกาศงานสัญจร....
1. วับสมัครสมาชิกคาราวาน เอาสินค้ามาขาย ฟรี ! ไม่เสียค่าสมัคร
2. วันนี้ออกสัญจรเฉพาะวันเสาร์ สถานที่เดิม ใครต้องการให้สัญจรไปใกล้ๆบ้าน ไปวันอื่น ขอให้แจ้งมา ติดต่อเข้ามา

----------------------------------------------------------------------------------

สมช. 1 : แคลเซียม โบรอน ซุปเปอร์เปอร์ ทำยังไง ?
ตอบ :
หลักการง่ายๆ คือ สารอาหารใดที่ผ่านปากใบได้ ใส่ลงไปเลย พืชรับได้แน่นอน ส่วนจะมีประโยชน์ต่อพืชทางใดบ้างก็ว่ากันไปตามชนิดสารอาหารนั้นๆ ....

จากส่วนผสมเดิม โบรอน (เกรด 10 โมเลกุลน้ำ). แคลเซียม ไนเตรท. (15-0-0 จี.) ผสมกันเรียบร้อย สี-กลิ่น-กาก-ฝ้า-ฟอง-ตะกอน ไม่มี แสดงว่าทุกตัวเข้ากันได้ดีตามหลักวิชาเคมี ว่าแล้วใส่เพิ่ม “มัลติแชมป์ ธาตุรอง/ธาตุเสริม” (บอกส่วนผสมข้างซอง) ลงไป คนผสมให้เข้ากันดีอีก แล้วใส่น้ำตาลทางด่วน กระทิงแดง ลิโพ หรือจะเป็นเฮลล์บลูบอย อะไรก็ได้ ตามไปอีก คราวนี้จากแคลเซียม โบรอน.ธรรมดาๆ กลายเป็นแคลเซียม โบรอน.ซุปเปอร์เปอร์. 2 เปอร์เพราะใส่เพิ่ม 2 อย่างไงล่ะ .... ธาตุรอง/ธาตุเสริม คือปุ๋ยโดยตรงพืชใช้ได้เลย น้ำตาลทางด่วนทำให้สารอาหารผ่านปากใบเข้าสู่ต้นได้เร็ว
หมายเหตุ :
- ธาตุอาหารพืชมี 16 ตัว เอาทั้งหมด 16 ตัวมารวมกันเป็น 1 เดียวได้ไหม คำตอบ คือ “ได้” อ่านรายละเอียดส่วนประกอบที่ซองมัลติแชมป์ว่ามีอะไรบ้าง ทำนองเดียวกัน ถามคนขายปุ๋ยยี่ห้ออื่นซิว่า ส่วนผสมส่วนประกอบข้างในมีอะไรบาง ? บอกได้ไหม ? บอกไม่ได้เพราะอะไรจึงบอกไม่ได้ ? แค่นี้ก็รู้ว่า คนขายคิดยังไงกับเราคนซื้อ....

- ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเกษตรกรเราคิดกันยังไง แคลเซียม โบรอน.ในท้องตลาดทั่วๆไป ลิตรละ 300.- ที่ไดเร็คเซลล์เขาไปขายถึงบันไดบ้าน ลิตรละ 800.- ราคาขนาดนี้ยังกล้าซื้อ
------------------------------------------------------------------------------------

สมช. 2 : ทีวี. รายงานข่าวทำน้ำหมักชีวภาพจาก ผัก-ผลไม้คนกินได้ ผัก-ผลไม้เป็นยาสมุนไพร ไส้เดือน ปลาตายในกระชัง ฝักคูนมีน้ำตาลแทนกากน้ำตาล ส่วนผสมแบบนี้ได้สารอาหารตัวไหน ....
ตอบ : ....
- น้ำหมักชีวภาพ คือ อินทรีย์วัตถุ เศษซากสิ่งมีชีวิต (มนุษย์ สัตว์ พืช จุลินทรีย์) มาเข้ากระบวนการหมัก แล้วถูกย่อยสลายถึงระดับโมเลกุล สารธรรมชาติในอันทรีย์วัตถุนั้นพืชจะนำไปใช้ได้ ทั้งนี้กระบวนการหมักจะต้องถูกต้องตามหลัก “สมการปุ๋ยอินทรีย์” อีกด้วย

- ผัก/ผลไม้คนกินได้ ................. มีสารอาหาร
- ผัก-ผลไม้เป็นยาสมุนไพร ........... มีสารสมุนไพร
- ไส้เดือน ปลาตายในกระชัง .......... มีสารอาหาร
- ฝักคูนมีน้ำตาลแทนกากน้ำตาล ..... มีสารรสหวาน มีสารสมุนไพร

*** ส่วนผสมแบบนี้เรียกว่า “เหมาจ่าย” ได้ทั้งปุ๋ยทั้งยา แต่ละอย่างไม่มาก ไม่เข้มข้น
*** น่าจะ (เน้นย้ำ....น่าจะ) ทำแยก แยกกันระหว่างปุ๋ยกับยา ตอนทำทำแยก แต่ตอนใช้ จะใช้แยกหรือใช้ร่วมก็ได้

สมการปุ๋ยอินทรีย์ :
วัสดุหลักถูก+วัสดุเสริมถูก+จุลินทรีย์ถูก+วิธีทำถูก+อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด = ไม่ได้ผล
วัสดุหลักถูก+วัสดุเสริมถูก+จุลินทรีย์ถูก+วิธีทำผิด+อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด = ไม่ได้ผล
วัสดุหลักถูก+วัสดุเสริมถูก+จุลินทรีย์ผิด+วิธีทำผิด+อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด = ไม่ได้ผล
วัสดุหลักถูก+วัสดุเสริมผิด+จุลินทรีย์ผิด+วิธีทำผิด+อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด = ไม่ได้ผล
วัสดุหลักผิด+วัสดุเสริมผิด+จุลินทรีย์ผิด+วิธีทำผิด+อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องผิด = ไม่ได้ผล ยกกำลังห้า
วัสดุหลักถูก+วัสดุเสริมถูก+จุลินทรีย์ถูก+วิธีทำถูก+อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องถูก = ได้ผล ยกกำลังห้า

- ทุกหัวข้อต้อง “ถูก” เท่านั้น จึงจะ = ได้ผล
- หัวข้อใดหัวข้อหนึ่งเพียงหัวข้อเดียว “ผิด” = ไม่ได้ผลทันที

สมการสารสมุนไพร :
ตัวสมุนไพรถูก + ตัวศัตรูพืชถูก + วิธีทำถูก + วิธีใช้ผิด = ไม่ได้ผล
ตัวสมุนไพรถูก + ตัวศัตรูพืชถูก + วิธีทำผิด + วิธีใช้ผิด = ไม่ได้ผล
ตัวสมุนไพรถูก + ตัวศัตรูพืชผิด + วิธีทำผิด + วิธีใช้ผิด = ไม่ได้ผล
ตัวสมุนไพรผิด + ตัวศัตรูพืชผิด + วิธีทำผิด + วิธีใช้ผิด = ไม่ได้ผล ยกกำลังสี่
ตัวสมุนไพรถูก + ตัวศัตรูพืชถูก + วิธีทำถูก + วิธีใช้ถูก = ได้ผล ยกกำลังสี่

* สมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์กำจัด หนอน - แมลงปากกัดปากดูด (สมุนไพรเบื่อเมา) ได้แก่ สะเดา หนอนตายหยาก หางไหล น้อยหน่า กลอย ซาก มันแกว บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร สบู่ต้น

* สมุนไพรที่มาสารออกฤทธิ์ไล่แมลงวางไข่ (สมุนไพรกลิ่นไล่) ได้แก่ ยูคาลิปตัส ตะไคร้ ขิง ข่า ฝักคูน แมงลักคา กระเพาผี ดาวเรือง ผกากรอง

* สมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์กำจัด โรค (รา แบคทีเรีย .... สมุนไพร ฝาด/เผ็ด/ร้อน) ได้แก่ พริก ดีปลี พริกไทย ขิง ข่า ขมิ้น กระชาย หอม กระเทียม ตะไคร้ ตะบูน เสม็ด เปลือกมังคุด ว่านน้ำ

วิธีทำ เอาสารออกฤทธิ์ (ตัวยา) :
*** ประเภท “ขม/ฝาด/เบื่อเมา” ใช้วิธี “หมัก/แช่”
*** ประเภท “เผ็ด/ร้อน” ใช้วิธี “ต้ม”
*** ประเภท “กลิ่น” ใช้วิธี “กลั่น”

วิธี “แช่” .... น้ำ + แอลกอฮอร์ 10% ของน้ำ + น้ำส้มสายชู 10% ของแอลกอฮอร์ + สมุน ไพรพอท่วม .... แช่ 3-5 วัน คนวันละครั้ง กรองกากออก ได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน

วิธี “ต้ม” .... น้ำ + สมุนไพรพอท่วม ต้มพอเดือด ปล่อยให้เย็น กรองกากออก ได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน

วิธี “กลั่น” .... ใช้วิธีกลั่นแบบ “ต้มเหล้าป่า” กลั่นแล้วได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน

หมายเหตุ :
- ที่นี่ไม่ใส่กากน้ำตาล หรือจุลินทรีย์
- วิธีแช่ใส่ “แอลกอฮอร์-น้ำส้มสายชู” ช่วยเร่งให้ตัวยาออกมาเร็ว และดี
- ทำสารสมุนไพรเสร็จพร้อมใช้แล้ว ป้องกันการเกิดฝ้าด้วยการใส่ “สารกันบูด”
- สมุนไพรหลายอย่างแต่มีสรรพคุณกำจัดศัตรูพืชตัวเดียวกัน เอามา แช่/ต้ม/กลั่น รวมกันแล้วใช้ เรียกว่า “สูตรเฉพาะ” เช่น ....

** ประเภทเบื่อเมา .... สะเดา น้อยหน่า กลอย หางไหล หนอนตายหยาก บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร เขียวไข่กา ฯลฯ หมักรวมกันเป็น “สูตรเฉพาะกำจัดหนอน”

** ประเภทเผ็ดร้อน .... พริก ขิง ข่า ขมิ้น กระชาย หอม กระเทียม พริกไทย ดีปลี ฯลฯ ต้มรวมกันเป็น “สูตรเฉพาะกำจัดเชื้อรา”

** ประเภทกลิ่นจัด
.... ตะไคร้ ยูคาลิปตัส ดาวเรือง ผกากรอง สาบเสือ กะเพรา แมงลัก ฯลฯ กลั่นรวมกันเป็น “สูตรเฉพาะไล่แมลง”

- สูตรเฉพาะ “กำจัดหนอน-กำจัดเชื้อรา-ไล่แมลง” แต่ละสูตรพร้อมใช้แล้ว นำมารวมกันแล้วใช้ร่วมกัน เรียกว่า “สูตรรวมมิตร” .... พูดง่ายๆ ก็คือ “ทำแยกแต่ใช้ร่วม” ประมาณนี้

- สารสมุนไพรทุกสูตรใช้ร่วมกับปุ๋ยทางใบ (เฉพาะสูตรของลุงคิม) ได้
- สารสมุนไพร (เฉพาะสูตรของลุงคิม) ทุกสูตร ใช้ร่วมกับสารเคมีได้
- ตัวยาหรือสารออกฤทธิ์ในสมุนไพร มีงานวิจัยจากนักวิชาการรองรับยืนยันว่าได้ผล
- แหล่งข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือที่สุด คือ องค์การเภสัชกรรม หรือ ร.พ.อภัยภูเบศร์ หรือร้านขายยาแผนโบราณ

- ในพืชทุกชนิดมีสารออกฤทธิ์ (ตัวยา) ทั้งนั้น เพียงแต่สรรพคุณในการกำจัด โรค/แมลง/ศัตรูพืช ตัวไหนเท่านั้น

- ไม่มีสารเคมีใดในโลกนี้ ไม่มีสารสมุนไพรใดในโลกนี้ ที่สามารถทำให้ส่วนของพืชที่ถูกทำลายเสียหายไปแล้ว ฟื้นคืนดีอย่างเก่าได้ เรียกว่า เสียแล้วเสียเลย .....

- ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มี “ศัตรูพืช” ประจำเผ่าพันธุ์ วันนี้ยังไม่มีเพราะยังไม่มา ถ้ามาแล้วจะเอาไม่ทัน ทุกครั้งที่กำจัดศัตรูพืชได้ แต่พืชก็เสียหายไปแล้ว ไม่ได้อะไรคืนมานอกจากความสะใจเท่านั้น เพราะฉนั้นต้อง “กันก่อนแก้” เท่านั้น....

- สมุนไพรบางตัวมีฤทธิ์เทียบเท่ายาน็อค (สารเคมี) ทำให้ศัตรูพืชตายทันทีทันใดได้ ถ้าไม่ตายทันที ทันใดก็กิน (หยุดทำลาย) พืชต่อ แล้วรอวันตายเอง

- วิธี ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืชที่ดีที่สุด คือ บำรุงสร้างความสมบูรณ์สะสมเป็นภูมิต้านทานตามธรรมชาติ กับวิธีแบบผสมผสาน หรือ ไอพีเอ็ม.
-------------------------------------------------------------------------------------

สมช. 3 : อยากให้มะะม่วงขาวนิยม น้ำดอกไม้เบอร์4 แม่ลูกดก ได้ราคาดีๆ ...
ตอบ : ไม้ผล ผลไม้ทุกชนิด “เกรด เอ.จัมโบ้.-เกรดฟุตบาธ”.... “นอกฤดู-ในฤดู” .... “กินดิบ-กินห่าม-กินสุก-กินงอม-กินกวน” .... “สีสวยสด-รสจัดจ้าน-ปลอดสารเคมียาฆ่าแมลง” ราคาดีทั้งนั้น .... เคยได้ยินไหม “ใหญ่กว่าเป็นต่อ” อยู่แต่ว่าทำยังไงเท่านั้นแหละ ก็มี ที่ทำแต่ทำผิดเลยไม่ได้อะไร ใส่ปุ๋ย-ปุ๋ยสูตรไหน-ปุ๋ยทางไหน-ใส่เท่าไหร่-ใส่เมื่อไหร่ ?

* ขาวนิยม แชมป์ประเทศไทย 4 ปีซ้อน ไซส์โลแปด
* น้ำดอกไม้เบอร์ 4 ไซส์โลสี่
* แม่ลูกดก ไซส์แปดขีด

วันนี้ทุกต้นทุกสายพันธุ์ติดลูกเป็นผลแล้ว เข้าสู่รอบบำรุงผลได้เลย....
สูตรเหมาจ่าย :
ทางใบ :
ให้ ยูเรก้า 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน อย่าลืม ทุกครั้งให้ทางใบถือโอกาส +ยาน็อคสารสมุนไพรไปด้วยจะไม่เสียเวลา
ทางราก : ใส่ยิบซั่ม ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ หญ้าแห้งใบไม้แห้ง .... ให้ 21-7-14 ต้นละครึ่งกิโลก็พอ หว่านโคนต้นปลายชายพุ่มที่ปลายรากอยู่ เดือนละครั้ง ให้ระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (2 ล.) /ไร่ 2 เดือน/ครั้ง อันนี้รดทั่วแปลงไปเลย
หมายเหตุ :
- มะม่วงไร่กล้อมแกล้ม แบ่งเป็นโซน ๆละ 50 ต้น ทั่วทั้งไร่ 10 โซน รวมมะม่วง มะม่วงอย่างเดียว 500 ต้น ติด “สปริงเกอร์-หม้อปุ๋ย” ให้ “ปุ๋ย-ยาสมุนไพร” แต่ละครั้ง ใช้เวลาครั้งละ 2 ชม. แรงงานคนเดียว ใช้งานมาแล้ว 10 ปี เชื่อว่าจะใช้ต่อไปได้อีก 10ปี 20ปี เกมส์ช่วยลดต้นทุนค่าแรง ค่าไฟฟ้า ค่าปุ๋ย สารเคมียาฆ่าแมลง ที่สำคัญค่าอารมณ์ที่ไม่เครียด

- วันนี้เพลี้ยจักจั่นเข้า 3 ต้น เปิดสปริงเกอร์ฉีดพ่นสารสมุนไพรสูตรยาน็อค ตอนเย็น ทุกเย็น วันเว้นวัน 2 รอบ ทั้งเพลี้ย ทั้งแมลงที่จะมาวางไข่ให้หนอนตายเรียบ .... แม้แต่ศัตรูพืชประจำตระกูลมะม่วง เพลี้ยไฟ ไรแดง ใบจุด จนกระทั่งแมลงวันทองก็ไม่มี มะม่วงไร่กล้อมแกล้มไม่ห่อผล 3 ปีนี้มาแล้ว ปีแรกพบมะม่วงสุกร่วงเนื้อในมีหนอนแมลงวันทอง 1 ลูก ลูกเดียวจริงๆ ปีที่สองพบ 2 ลูก ปีที่สามปีที่แล้วพบ 3 ลูก ปีนี้กำลังออกดอก เป็นลูกแล้วจะมีสุกร่วงเนื้อในมีหนอนแมลงวันทองซักกี่ลูก นี่เพราะผลงานของกับดักแมลง วันทองนั่นเอง....
------------------------------------------------------------------------------------

สมช. 4 : มะยงชิด ดอกรุ่นแรกติดผลแล้ว มีดอกรุ่นหลังออกตาม...
ตอบ :
ให้เทเป. ต่ออีกซัก 2 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน +ยาน็อคสารสมุนไพรไปด้วยก็ดี รอกระทั่งแน่ใจว่าดอกออกมาหมดแล้ว ....

เริ่มเป็นผลก็ให้ยูเรก้า. บำรุงผล ขยายขนาด หยุดเมล็ด สร้างเนื้อ ทุก 7 วัน ให้ยูเรก้า 2 รอบแล้วสลับด้วยแคลเซียม โบรอน. 1 รอบ อย่าลืม ทุกครั้งให้ทางใบ +ยาน็อค.ร่วมไปด้วย ....

ส่วนปุ๋ยทางรากใส่ 21-7-14 อย่าลืม ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ หญ้าแห้งใบไม้แห้งคลุมโคนต้น รดด้วยน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง เดือนละครั้ง ....

ส่วนให้น้ำปกติ 2-3 วัน/ครั้ง พอหน้าดินชื้น ...
------------------------------------------------------------------------------------

สมช. 5 : ดอกคุณนายตื่นสาย ให้ไทเป.ไปแล้ว ดอกออกดี ดีมากๆ..
ตอบ :
เพิ่มเติม คราวนี้ให้ ไบโออิ+ไทเป+ยูเรก้า 3อย่าง เป็นสูตรสหประชาชาติไปเลย
* ไบโออิ.บำรุงต้นให้สมบูรณ์
* ไทเป.เปิดตาดอก
* ยูเรก้า.ขยายขนาดดอก ดอกจะใหญ่ ใครเห็นเป็นงง....

ที่สำคัญดิน ดินต้องมาก่อน ยิบซั่ม ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ ระเบิดเถิดเทิง ใส่ไว้ตั้งแต่ตอนเตรียมดินเตรียมแปลง.... ปุ๋ยเคมีทางดินไม่ต้องเพราะใน ไบโออิ. ไทเป. ยูเรก้า. ที่ให้ทางใบเพียงพอแล้ว
-------------------------------------------------------------------------------------

สมช. 6 : ทุเรียนนนท์ เจอน้ำเค็ม เริ่มยืนต้นตาย...
ตอบ : .
- เรื่อง ทุเรียน กับ น้ำเค็ม/น้ำทะเล/น้ำกร่อย คงไปด้วยกันไม่ได้ .... เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว สมช.เราท่านนึงอยู่นนทบุรี เจาะบาดาลลึก 210 ม. (เน้นย้ำ...210 ม.) แล้วเจอน้ำเค็ม .... ก็มีข่าวนะว่า ใน 20 ปี ข้าวหน้า น้ำทะเลจะขึ้นถึงอยุธยา .... ปีนี้แล้ง น้ำจืดน้อย แล้วจะมีน้ำจืดดันน้ำทะเลไหม ? .... บนดิน น้ำจืดดันน้ำทะเลได้ แต่ไต้ดินจะเอาอะไรดันน้ำทะเล

- กรณีทุเรียนนท์วันนี้ .... ทางเลือกที่ 1 ต้นไหนตายให้ตายไป ต้นที่ยังไม่ตายให้ทางใบให้หนักขึ้น ถี่ขึ้น เหมือนถ่วงเวลากว่าจะตาย.... ทางเลือกที่ 2 สำหรับต้นที่ยังไม่ตาย ใส่อินทรีย์วัตถุโคนต้นหนาๆ ยิบซั่ม ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ หญ้าแห้งใบไม้แห้ง คลุมโคนต้นหนาๆ สูงระดับเอวคนเลยได้ยิ่งดี แบบนี้เคยมี ...

*** ตัวอย่างทุเรียนที่เขาคิฌกูฏ จันทบุรี หญ้าแห้งใบแห้งของมันเองคลุมโคนต้นแล้ว ให้น้ำหมักระเบิดเถิดเทิงทับเดือนละครั้ง เวลาผ่านไปแค่ 3 เดือน หญ้าแห้งใบไม้เริ่มผุเปื่อยรากทุเรียนต้นนั้นขึ้นมาอยู่บนเศษซากหญ้าแห้งหน้าตาเฉย นี่เป็นเพราะที่ผิวดินตรงนั้นมีสารอาหาร มีน้ำ และอากาศ (เน้นย้ำ...อากาศ) ไงล่ะ

*** ตัวอย่างทุเรียนบางกรวย นนทบุรี ปีที่น้ำท่วมหนัก กทม.-ปริมณฑล ท่วมนาน 3 เดือน ปกติทุเรียนโดนน้ำท่วมขังค้างแช่นานครึ่งเดือนก็ยืนต้นตายแล้ว แต่ทุเรียนของผู้หมวดตำรวจ สน.พระราชวัง น้ำท่วมแช่ขังค้างนานเหมือนกัน ระหว่างน้ำท่วมได้ให้ปุ๋ยทางใบ ไบโออิ. ทุก 7 วัน ให้ 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ เจ้าของพายเรือไปให้เลยนะ ต้นทุเรียนอยู่ได้นานถึง 3 เดือนจนน้ำแห้ง น้ำแห้งแล้วถึงตาย แบบนี้ชี้ให้เห็นว่า ระหว่างน้ำท่วมแช่ขังค้างนั้น ระบบรากทำงานไม่ได้แต่ต้นได้รับสารอาหารจากทางใบแทน ความที่รากแช่น้ำขังค้างนานเป็นเดือนๆ ระบบรากเน่าหมดแล้วจึงไม่มีรากดูดสารอาหาร

*** ถึงจุดนี้ วันนี้ ประสบการณ์ตรงที่เจอะเจอมาฟันธงได้เลย ทุเรียนเป็นไม้ผลยืนต้นที่ตอบสนองต่อปุ๋ยทางใบได้ดีที่สุด เทียบกับไม้ผลยืนต้นทุกชนิด เพราะฉะนั้น วันนี้เอา ไบโออิ.นี่แหละ เลี้ยงต้นที่ยังไม่ตายไว้ก่อน กับต้นที่ยังปกติก็จะสมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้น ถึงโอกาสจะได้มีพลังสู้กับภัยธรรมชาติ

*** ไบโออิ. ส่วนผสมหลัก คือ แม็กเนเซียม. สังกะสี. นี้ข้อมูลปุ๋ยตัวนี้มาจากสถานีพืชสวนพลิ้วจันทบุรีเลยนะเนี่ย
-----------------------------------------------------------------------------------

สมช. 7 : สารพัดผักริมรั้วบ้าน ไม่ใช้สารเคมี ...
ตอบ :
- ไม่ใช้สารเคมียาฆ่าแมลง ก็ให้ใช้ “สารสมุนไพร + บำรุงต้นสร้างความสมบูรณ์สะสมเป็นภูมิต้านทาน + ไอพีเอ็ม.” แทน ทำทั้ง 3 อย่างไปพร้อมๆ กันเลย ....

- แปลงเล็กๆ ใช้กระบอกฉีดน้ำรีดผ้า ฟ็อกกี้ก็ได้ แต่ถ้าเป็นแปลงใหญ่ๆ ก็คงต้อเทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรง
- อย่าลืมปลูกไว้กินเอง งดสารเคมีย่าฆ่าแมลงเด็ดขาด ใช้ยาน็อคสารสมุนไพรนี่แหละ ฉีดบ่อยๆ
------------------------------------------------------------------------------------

สมช. 8 : กลิ่นล่อได้แมลงวันทองอย่างเดียว กาวเหนียวสีเหลืองได้แมลงวันทอง+แมลง...
ตอบ : จะดักจับอะไรก็ใช้วัสดุตัวนั้น แต่ถ้าจะจับทั้ง 2 ตัวคู่กันก็ต้องใช้วัสดุทั้ง 2 อย่างคู่กัน... นอกจาก 2 อย่างนี้แล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกไหม ?
-----------------------------------------------------------------------------------

สมช. 9 : บัวเข้าพรรษา...
ตอบ : นี่แหละบัวแจ็คพ็อต ข้อมูลวิธีทำอยู่ในหนังสือ
บัวเข้าพรรษา : [/color] - บัวออกดอกทั้งปี ไม่มีรุ่น ไม่มีฤดูกาล บำรุงไปเรื่อยๆ .... ให้ไทเป 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ในรอบเดือนให้ “น้ำตาลทางด่วน” (กลูโคส ลิโพ กระทิงแดง) 1 รอบ พายเรือฉีดทางใบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน .... สมบูรณ์มากออกดอกมาก สมบูรณ์น้อยออกดอกน้อย เป็นธรรมดา

- ให้ปุ๋ยทางดินแก่บัว ใส่ตอนแรกก่อนลงมือปลูก ย่ำดินเหมือนตีเทือกนา ใส่ยิบซั่ม. ขี้วัวขี้ไก่, น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 8-24-24. (ไม่ต้องปุ๋ยเคมี) ใส่ครั้งเดียวจนถึงรื้อแปลงปลูกใหม่รุ่นหน้าได้ .... บำรุงสูตรนี้นอก จากดอกมากแล้ว ยังได้ฝักมาก ฝักใหญ่ ไหลใหญ่อีกด้วย .... ช่วงเป็นฝัก อาจเสริมด้วย “ไบโออิ + ยูเรก้า” สลับ “แคลเซียม โบรอน” จะดีมากๆ
----------------------------------------------------------------------------------

สมช. 10 : ราคาทุเรียนกับอินทผลัม...
ตอบ :
- ทุเรียน ราคา/รสนิยม มาตรฐาน แจ็คหม่า.จีนทั้งประเทศ 1,600 ล้านคน แจ๊คหม่ำ.จากทั่วโลกอีก 1,600 ล้านเท่ากัน วันนี้ถ้าทำได้ เกรดซูพรีม พรีเมียม เกรด เอ. จัมโบ้ โกอินเตอร์ ขึ้นห้าง คิวซี คิวอาร์ จีเอ็มพี. จีเอสพี. สีสวยสด รสจัดจ้าน ปลอดสารเคมียาฆ่าแมลง เชื่อเถอะ เท่าไหร่ก็ไม่พอขาย

- อินทผลัม หน้าสวน กก.ละพันขึ้น ถามจริง ราคาจริงหรือราคาคุย เท่าที่ลองๆกิน อินทผลัมสด ก็งั้นๆแหละ ส่วนอินทผลัมแห้ง ของไทยยังไม่เคยเห็น ยังไม่เคยกิน แต่ของ ตปท.อร่อยแน่ ชอบกินด้วยซี..

- เล่นทุเรียนซี่ ไม้ผลยืนต้นตัวนี้ตอบสนองต่อ ไบอิอิ. ไทเป. ยูเรก้า. ระเบิดเถิดเทิง. ดีมากๆ ลูกใหญ่ เปลือกบาง เมล็ดลีบ เนื้อมาก ....

*** สวนที่จันทบุรี 3 แปลง เคยซื้อปุ๋ยทุกอย่างทุกสูตรจากร้านขายปุ๋ยเป็นเงินปีละ 3 แสนขึ้น เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ย “ไบอิอิ.-ไทเป.-ยูเรก้า.-ระเบิดเถิดเทิง.” เจ้าของวิ่งรถมารับของเองที่ไร่กล้อมแกล้ม บางปีมารับที่ร้านลูกสาว น้ำส้ม หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 ค่าปุ๋ยปีละไม่ถึงแสน คิดดู จาก 3 แสนขึ้น ลดลงมาไม่ถึงแสน ใช้มาแล้วปีนี้เป็นปีที่ 4 ก็ถ้าไม่ได้ผลเขาจะมาซื้อทุกปีๆ เหรอ....

*** ทุเรียนหนอนทอง จันทบุรี ขนาด 6 โล ไซส์อั้ยเข้. ยังขายได้ พอมาบำรุงตามสูตรเรา ได้ 12 กิโล. ไซส์ซุปเปอร์อั้ยเข้ ขายไม่ออก แต่มีคนมารับซื้อยกสวน จองปีหน้าด้วย เอาไปทำทุเรียนทอดกรอบ

*** ทุเรียนพวงมณี จันทบุรี สายพันธุ์นี้ถือว่าดกที่สุดในบรรดาทุเรียนด้วยกัน (ต้นละ 200-300 ลูก) ปกติได้ลูกขนาดกำมือ ไม่มีเนื้อ กินไม่ได้ พอมาบำรุงตามสูตรเราได้ไซส์ลูกโลครึ่ง เนื้อเต็ม รสทุเรียนเต็มสูตร เจ้าของเอามาฝากน้ำส้ม ลูกสาว 10 ลูก เป็นหลักฐานว่าใช้ปุ๋ยพ่อ O.K.
-----------------------------------------------------------------------------------

สมช. 11 : ยาน็อค + สารเคมี ใช้ร่วมกันได้ไหม ? ...
ตอบ :
- ด้ายยย ปฏิทิน ลด-ละ-เลิก สารเคมี... แจ้งในหนังสือหัวใจเกษตรไท เรียบร้อย อ่านดู....
ปฏิทิน ลด-ละ-เลิก สารเคมี :
วันที่ 1 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่น สารเคมี (ครั้งที่ 1) +สารสมุนไพร

วันที่ 2, 3, 4 (ในปฏิทิน) ..................................... เว้น
วันที่ 5 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 6, 7, 8 (ในปฏิทิน) ..................................... เว้น
วันที่ 9 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 10, 11, 12 (ในปฏิทิน) ................................ เว้น
วันที่ 13 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่น สารเคมี (ครั้งที่ 2) +สารสมุนไพร
วันที่ 14, 15, 16 (ในปฏิทิน) ................................ เว้น
วันที่ 17 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 18, 19, 20 (ในปฏิทิน) ................................ เว้น
วันที่ 21 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 22, 23, 24 (ในปฏิทิน) ................................ เว้น
วันที่ 25 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่น สารเคมี (ครั้งที่ 3) +สารสมุนไพร
วันที่ 26, 27, 28 (ในปฏิทิน) ................................ เว้น
วันที่ 29 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 30, 31, 32 (ในปฏิทิน) ................................ เว้น
วันที่ 33 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 34, 35, 36 (ในปฏิทิน) ................................ เว้น
วันที่ 37 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ

หมายเหตุ :
* ใช้สารเคมี ครั้งที่ 1 ใช้เต็มอัตราในฉลาก
* ใช้สารเคมี ครั้งที่ 2 ใช้ครึ่งหนึ่งของครั้งแรก
* ใช้สารเคมี ครั้งที่ 3 ใช้ครึ่งหนึ่งของครั้ง 2
* ใช้สารเคมี 3 ครั้งแล้ว ถ้าเอาศัตรูพืชไม่อยู่ต้องพิจารณาสมการสารเคมี
* ใช้สารสมุนไพรตามอัตราการใช้ ทุกครั้งที่ใช้
* ให้ปุ๋ยทางใบร่วมด้วยเมื่อครบรอบการให้ปุ๋ย

- แต่ละรอบห่างกัน 3 วัน,
- เลือกใช้ เคมี/สารสมุนไพร ถูกต้องตามสมการ
- สารสมุนไพร ใช้ร่วม/ไปร่วม กับปุ๋ยทางใบได้
- เทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรง (สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ย) เครื่องช่วยที่ดีที่สุด
------------------------------------------------------------------------------------

สมช. 12 : ทำไมรัฐบาลไม่ส่งคนมาเรียนทำปุ๋ย...
ตอบ : ไปถามรัฐบาลซี่.... รัฐบาลไม่ตอบก็ถามคนในกระจก.... รัฐบาลไม่ส่ง เราก็ส่งตัวเอง ไม่ได้เหรอ ?
------------------------------------------------------------------------------------

สมช. 13 : กะปิทำฮอร์โมนเร่งผลโต...
ตอบ :
- ไม่มีข้อมูล ....
- ข้อมูลที่มี “กะปิ” มีฮอร์โมนเร่งราก ได้จากเคย สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง จะตอนกิ่งไม้ ควั่นกิ่ง-ลอกเปลือก-ทาด้วยกะปิ แล้วหุ้มตุ้มตอนปกติ กิ่งตอนนั้นจะออกรากดี...
-----------------------------------------------------------------------------------

สมช. 14 : กล้วยตายพราย...
ตอบ :
- เกิดจากเชื้อไวรัส.... เชื้อโรคตัวนี้ ปัจจุบันยังไม่มี สารเคมีหรือสารสมุนไพร ใดแก้ได้
- ชัดเจน นี่คือโรค “ตายพราย” ในกล้วย เชื้อตัวนี้เป็นไวรัสชื่อ “ฟูซาเรียม” เกิดเองเมื่อดินเป็นกรดจัด ดินไม่เป็นกรดจะไม่เกิด หรือเกิดมาแล้วก็ตายไปเอง นอกจากนี้ในความเป็นกรดจัดของดินก็จะมีเชื้อโรคตัวอื่นตามมาอีก ได้แก่ ไฟธอปเทอร์ร่า. พีเทียม. ฟูซาเรียม, สเคลโรเทียม. ไรซ็อคโทเนีย. ใส้เดือนฝอยรากปม. กับอีก 8-9-10 ชื่อ จำไม่ได้ ไม่ได้เรียนแล้วก็ไม่ได้ท่องมา ที่แน่ๆ ทุกเชื้อโรคเกิดเองทั้งนั้น เกิดเพราะดินเป็นกรดจัด

ในความเป็นกรดจัดของดิน นอกจากเกิดเชื้อโรคแล้ว การเจริญเติบโตของพืชก็ชะงัก กระทั่งยืนต้นตายได้ ในทางกลับกัน หากดินไม่เป็นกรดจัด นอกจากไม่เกิดเชื้อโรคแล้ว ยังส่งให้พืชเจริญเติบโตอีกด้วย

ดินเป็นกรดจัดเพราะคนใส่กรดลงไป หรือเกิดจากการกระทำของคน ได้แก่
1. ใส่ปุ๋ยเคมี ผิดสูตร/ผิดอัตรา/ผิดดิน/ผิดน้ำ/ผิดอินทรีย์วัตถุ/ผิด ฯลฯ พืชเอาไปกินไม่ได้ เหลือตกค้างในดิน ทำให้ดินเป็นกรด เพราะตัวปุ๋ยเคมีเองเป็นกรด ทั้งทางใบทางราก ทุกสูตรเป็นกรด ยกเว้น 0-42-56 ตัวเดียวเป็นด่าง

2. ฉีดพ่นหรือละอองยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า ลงไปสัมผัสกับดิน ตัวยาฆ่าแมลงยาฆ่าเองเป็นกรดจัด
3. ใช้น้ำในร่องรดต้นกล้วย น้ำในร่องเป็นกรดจัด เพราะพื้นดินย่านนั้นเป็นกรดจัด ไต้พื้นดินมีกำมะถัน
4. ในดินไม่มีจุลินทรีย์ช่วยปรับโครงสร้างดิน และช่วยกำจัดเชื้อโรคในดินให้
5. ดินเหนียว น้ำขังค้างนาน อากาศลงไปไม่ได้ กลายเป็นสาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้ดินเป็นกรดจัด

การแพร่ระบาด :
มักจะแพร่ระบาดกับกล้วยที่ปลูกในดินเหนียวการระบายน้ำไม่ดี เชื้อราสามารถเกิดสปอร์ บนผิวหนังเหง้า แล้วแพร่ระบาดติดไปกับหน่อพันธุ์สู่พื้นที่ปลูกใหม่ได้ หรืออาจะถูกน้ำพัดพาไป

ลักษณะอาการ :
เชื้อราจะเข้าทำลายราก แล้วเจริญเข้าไปอยู่ในท่อน้ำท่ออาหารของเหง้าและโคนลำต้น ทำให้ท่อน้ำท่ออาหารเกิดอุดตัน และเน่าเป็นสีน้ำตาลตัดกับเนื้อเยื่อสีขาวอย่างเห็นได้ชัด ของเหลวจากเซลล์ที่เน่าจะไหลเข้าไปอุดตันท่อน้ำท่ออาหารด้วยเช่นกัน เมื่อโรคมีความรุนแรงจะทำให้ท่อน้ำท่ออาหารเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มและแดงม่วง ซึ่งเป็นผลให้การส่งผ่านน้ำและแร่ธาตุอาหารไม่สามารถเป็นไปตามปกติได้ เพราะท่อน้ำท่ออาหารเสื่อมสภาพ ใบจึงเกิดขาดน้ำมีลักษณะอาการเหี่ยวเฉาเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผืนใบอาจเหี่ยวย่น และหักพับลงมาขนานแนบลำต้น ส่วนใบยอดนั้นยังเห็นสีขาวและเจริญตั้งตรงอยู่บนยอด กาบของลำต้นเทียมจะประกบอยู่อย่างหลวมๆ แล้วแยกออกและห้อยลงมา การเจริญเติบโตจะชะงักงัน ไม่ผลิดอกออกผล ในขณะเดียวกันก็อาจมีหน่อกล้วยงอกเจริญออกมาสดใสเหมือนปกติอยู่ระยะหนึ่ง แล้วจะชะงักการเจริญ มีลักษณะอาการเหี่ยวเฉาตามมา อย่างไรก็ตาม ทั้งต้นแก่และต้นอ่อนเมื่อผ่าลำต้น ตรวจดูตามขวางจะพบว่ากาบที่อยู่ภายนอกจะมีเนื้อเยื่อสีเหลือง แต่กาบถัดเข้าไปจะเป็นสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลแดง

การป้องกันและกำจัด :
- ทำความสะอาดโคนกอกล้วย อย่าให้รกรุงรังเพราะอาจจะเป็นแหล่งอาศัยของเชื้อโรคได้
- อย่าน้ำขังค้างนาน โดยการทำช่องทางระบายน้ำให้ดี
- ทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย น้ำและอากาศผ่านสะดวก ด้วยการใส่ ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ.
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 เดือนละครั้ง
- ให้จุลินทรีย์ไตรโคเดอร์ม่า (ราเขียว) สม่ำเสมอ และให้ก่อนดินเป็นกรด
- หลีกเลี่ยงการปลูกซ้ำที่เดิม วิธีการคือ ปลูกกล้วยรุ่นเดียว ตัดเครือแล้วเปลี่ยนพืชปลูกเพื่อตัดวงจรชีวิตเชื้อโรค
- พบกล้วยที่เป็นโรคนี้ให้ตัดต้นเผาไฟทิ้ง พรวนดินหลุมปลูก ตากแดดให้แห้ง ใส่หญ้าแห้งแล้วเผาเพื่อฆ่าเชื้อโรค .... เผาฆ่าเชื้อแล้วเปลี่ยนพืชปลูกเพื่อตัดวงจรชีวิตเชื้อโรคตัวนี้

-------------------------------------------------------------------------------------



1.



2.



3.



4.



5.



6.



7.



8.



9.



10.



11.



12.



13.



14.



15.



16.



17.



18.



19.


[url=https://www.mx7.com/view2/BR4fUAGQga4OFOnk]
[/url]
20.


.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 26/01/2020 7:59 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©