-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 9 APR..... *น.ร. รายงาน "แมลง-หนอน-โรค"
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 9 APR..... *น.ร. รายงาน "แมลง-หนอน-โรค"
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 9 APR..... *น.ร. รายงาน "แมลง-หนอน-โรค"

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 09/04/2020 6:26 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 9 APR..... *น.ร. รายงาน "แมลง-หน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 9 APR ....
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม ..

ผลิตรายการโดย....
กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “..?..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

ผู้สนับสนุนรายการ ....
*** ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส ออร์เดอร์จาก ออสเตรเลีย แคนนาดา อเมริกา +Mg. Zn. เคมี, ออร์เดอร์จากเกาหลี ให้ +Cu เคมี อย่างละ 5% .... ยิบซั่มเพื่อการเกษตรที่ทั่วโลกยอกรับ คือ ยิบซั่มจากประเทศไทย นี่แหละ

*** ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ คุณภาพผลผลิตจะดี สีสวยสด รสจัดจ้านได้ ด้วยธาตุรอง/ธาตุเสริม ....
*** แม็กเนเซียม. สังกะสี. สาหร่ายทะเล. แคลเซียม โบรอน. ส่วนผสมเอาไปทำเอง ....
*** กลิ่นล่อแมลงวันทอง, กาวเหนียวดักแมลง, ..... (089) 144-1112

เช่นเคย รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ที่ (081) 913-4986 โทรศัพท์เข้ารายการคุยกันสดๆ ออกอากาศ สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน (02) 888-0881 และอินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิมดอทคอม เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศรัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

งานสัญจรตามวงรอบ ....
- วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
- วันเสาร์ของสัปดาห์สองของเดือน ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
- วันเสาร์ของสัปดาห์สามของเดือน ไปที่วัดท่าตำหนัก ถ.เพชรเกษม (ขาล่อง) ก่อนถึงแยกนครชัยศรี นครปฐม,
- วันเสาร์ของสัปดาห์สี่ของเดือน ไปที่วัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ บางกรวย นนทบุรี ถ.วงแหวนตะวันตก กาญจนาภิเษก

สำหรับงานสัญจรวันเสาร์ วันที่ 11 เม.ย. ตามโปรแกรมงวดนี้ไป วัดหลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน สองพี่น้อง สุพรรณบุรี แต่งานนี้งด งดเหมือนไม่งดเพราะ สมช. 2 ท่าน สั่งระเบิดเถิดเทิงจะไปใส่ให้อ้อย งานนี้ไปส่งของเสร็จแล้วกลับเลย สรุปยังมีเวลา ใครจะสั่งซื้อปุ๋ยตัวไหน ติดต่อตรงมาเลยแล้วจะเอาไปส่งให้


รูปแบบงานสัญจรมีการเปลี่ยนแปลง ....
*** จากเดิม ปักหลักอยู่ที่งานตั้งแต่ เช้าถึงบ่าย บ่ายแก่ๆ หรือจนลูกค้า สมช.คนสุดท้ายมาถึงจึงกลับ เปลี่ยนเป็นอยู่นานแค่ 1-2 ชม. เพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกันมาก ๆๆ คน .... COVID 19 แพร่เชื้อ VS รับเชื้อ

*** จากเดิม ต้อนรับ สมช.ครั้งละมากๆคน ยิ่งมากยิ่งดี เปลี่ยนเป็นรับ สมช.ครั้งละน้อยๆคน เฉพาะคนที่มาซื้อสินค้าแบบสั่งล่วงหน้า หรือไปส่ง ณ จุดนัดหมาย หรือส่งทาง ปณ. .... เน้นน้ำ....สั่งล่วงหน้า

*** จากเดิม ปรึกษาการเกษตรแบบพูดกันซึ่งๆหน้า เปลี่ยนเป็นปรึกษาปัญหาทางโทรศัพท์
*** จากเดิม แจกกับดักแมลงวันทอง โชว์หม้อปุ๋ยหน้าโซน ตอนนี้ งดแจกงดโชว์ ไปก่อน
*** รายการเปลี่ยนแปลงนี้ หมายถึงทุกโปรแกรมสัญจรที่ไป ทุกจุด

- หนังสือ หัวใจเกษตรไท มินิ สูตร ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา/จุลินทรีย์ ทำใช้ ทำขาย ทำแจก ทำเททิ้ง สูตรเดียวก็เกินคุ้ม, .... หนังสือไม้ผลแนวหน้าบอกวิธี บำรุงไม้ผล ตั้งแต่ ก.ไก่ แก้วมังกร ถึง อ.อ่าง องุ่น ว่าตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว ทำนอกฤดู เกรด เอ. จัมโบ้

คนเรียนสูงระดับปริญญาเอกแต่ไม่ได้เรียนสาขาเกษตรจึงไม่มีควรมรู้เรื่องเกษตรเป็นธรรมดา ฉันใด คนที่เรียนมาน้อย ที่เรียนก็ไม่ได้เรียนสาขาเกษตรซะอีก จึงไม่มีความรู้เรื่องเกษตรก็เป็นเรื่องธรรมดา ฉันนั้น ....

คนที่เรียนในโรงเรียน มหาลัย สถานศึกษา มีครูผู้สอนพูดอยู่หน้าห้องเรียน คนเรียนจึงมีความรู้ แต่คนที่ไม่ได้เรียนในสถานศึกษา ไม่มีครูมาพูดให้ฟัง แต่.... อ่านหนังสือเอง อ่านที่บ้าน อ่านในแปลงเกษตร อ่านไปดูของจริงไป ก็สามารถมีความรู้ได้เช่นกัน

มีหนังสือไว้ในบ้านเหมือนเป็น เอกสาร/ตำรา/คัมภีร์/มรดก ใช้ได้ตลอดชีวิต ถ่ายทอดให้ลูก หลานเหลนโหลน อ่านในบ้าน อ่านในแปลงไต้ต้นไม้ อ่านไปดูไป เชื่อเถอะ รุ่นเดียวรอบเดียว ก็เก่งได้ .

ใครมีเล่มเดียว ระวังนะ คนขอยืมแล้วไม่คืน.....

เคยมี คนเดียวซื้อ 1โหล 12ล่ม เอาไปเป็นของขวัญฝากคนที่รัก เขียนลายเซ็นไว้ที่ปก เชื่อเถอะ คนที่ได้รับของขวัญชิ้นนี้แล้ว เขาไม่ทิ้งหรอก ทครั้งที่หยิบขึ้นมาอ่าน เห็นลายเซ็นคนที่มอบให้ เขาจะรู้สึกดีๆ ต่อคนให้ทันที แล้วก็ทุกครั้งด้วย....

- อ.ณัฐ .... สมุนไพรสำหรับคน แปะก๊วย หลินจือ ถังเช่า ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจรกำลังมาแรง ข้อมูลจาก ร.พ.อภัยภูเบศร์ บอกว่า ฟ้าทะลายโจรสู้กับโคโรน่าแคนดิส 19 ได้ .... วันนี้ทั่วโลกยอมรับแล้วว่า ยาสมุนไพร กับยาแผนปัจจุบันจากโรงพยาบาล ใช้ร่วมกันได้ .... (086) 983-1966

เชิญ/รับสมัคร เป็น สมช.สีสันชีวิตไทย เอาสินค้ามาขายในงานสัญจร งานนี้ สมัครฟรีโฆษณาฟรี ! ขายอะไรก็ได้ ยกเว้นยาเสพติด

สังเกต .... วันนี้ สปอนเซอร์วิทยุถอนตัวไป 1 งานนี้ใครสนใจก็ติดต่อเข้ามา วิทยุ ปตอ. AM ระยะแพร่คลื่น 100% ได้ 20 จังหวัด แพร่คลื่นแบบกระโดดเป็นหย่อมๆ อีก 20 จังหวัด น่าจะดีกว่า FM ทั้งคลื่นหลัก คลื่นชุมชน ที่แพร่คลื่นไปได้แค่จังหวัดเดียวเท่านั้น ลองซี่ ว่างๆ วิ่งรถเดินทางไป ตจว. ถึง จว.ไหนก็ได้ ยิ่งไกลยิ่งดี เปิดวิทยุในรถระบบ AM คลื่น 594 ก็จะรู้ว่า ว่ารับได้หรือไม่ได้ รับได้ ได้แค่ไหน รับไม่ได้คือรับไม่ได้ แค่นี้ก็รู้ ..... โฆษณาที่นี่ ไม่ใช่ตะบี้ตะ บันโฆษณา พูดๆ ๆๆ พูดอย่างเดียว แต่มีกิจกรรมเสริมโฆษณา (เน้นย้ำ....กิจกรรมเสริมโฆษณา) อีก ตอนนี้คิดคร่าวๆได้ราว 20 กิจกรรมเสริม อันนี้ต้องมาคุยกัน วางแผนร่วมกันว่าจะเสริมยังไง....

*********************************************************** ***********************************************************



จาก : (098) 165-60xx
ข้อความ : เรียนคุณตาผู้พันที่เคารพ ขอข้อมูลเรื่องธรรมชาติของศัตรูพืช แมลง หนอน เชื้อโรค เมื่อเราจะปราบเขา เราต้องรู้จักเขา ข้อมูลอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องตามอย่างแบบสีสันชีวิตไทย ขอบคุณอย่างสูงครับ .... ม.2 ร.ร.ท่ามะกา กาญจนบุรี

ถามย้อน :
- รู้จักรายการวิทยุสีสันชีวิตไทย เพราะครูบอกให้ฟังวิทยุ....
- ครูบอกให้ฟังวิทยุรายการอื่นด้วยว่า รายการไหนให้ข้อมูลแล้ว คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ระหว่างแต่ละรายการ รายการไหนให้เหตุผลดีกว่ากัน

- วิธีการสอนของครู คือ ให้นักเรียนในกลุ่มทุกคน ตั้งคำถามต่อหัวข้อทำรายงาน คนละคำ ถาม ไม่ซ้ำกันแต่สอดคล้องกัน ทุกคำถามครูไม่ให้คำตอบโดยตรง แต่ให้นักเรียนไปค้นคว้าในเอกสารตำราเอาเอง

- ครูให้ลงพื้นที่ สำรวจแปลงเกษตรไกล้บ้าน แล้วเก็บข้อมูลเรื่อง ข้อดี/ข้อเสีย ของสารเคมีมาเขียนรายงาน


*** คำแนะนำพิเศษ :
* อ่านเอกสารชิ้นนี้หลายๆ ๆๆ รอบ อ่านจนมองเห็นภาพชัดเจน แล้วเขียนขึ้นใหม่ (REWRITE) ตามสไตล์ของตัวเอง
* อ่านเอกสารอื่น คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ/ฟันธง อ่านแล้วเขียนขึ้นใหม่ (REWRITE) ตามสไตล์ของตัวเอง
* อ่านเอกสารชิ้นนี้ + อ่านเอกสารอื่น อ่านแล้วปรึกษาเพื่อนเป็น TEAM WORK
* รายงานเครดิตดี ให้วงเล็บภาษาอังกฤษที่ท้ายคำพูดที่เป็น KEYWORD ภาษาไทย มากๆ บ่อยๆ ยิ่งมากยิ่งบ่อยยิ่งดี
* เหนือกว่าอ่าน คือ สัมผัสของจริง
* รู้ศัตรูพืชแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ ต้อง/ควร รู้ คือ รู้ธรรมชาติของ พืช/ศัตรูพืช รู้ลักษณะอาการพืชที่ถูกศัตรูพืชทำลาย รู้วิธีการแก้ไข ป้องกัน/กำจัด รู้ ... "ฯลฯ" ...

* อื่นๆ ตามความ จำเป็น/เหมาะสม ของตัวเอง


ตอบ : ---
หลักการและเหตุผล :

- จุดยืนรายการวิทยุ :
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค .... ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มีศัตรูพืชประจำตระกูลเผ่าพันธุ์

* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน...หัวใจคือ จุดสำคัญ หัวใจห้องใดห้องหนึ่งมีปัญหา ย่อมส่งต่อไปถึงหัวใจห้องอื่นด้วย เป็นธรรมดา ....

- ซุนวู้ นักปราชญ์จีนบอกว่า รู้เรา รู้เขา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง, รู้เรา ไม่รู้เขา รบร้อยครั้ง แพ้ชนะก้ำกึ่งกัน, ไม่รู้เรา ไม่รู้เขา รบร้อยครั้งแพ้ร้อยครั้ง.... รบกับศัตรูพืชก็อีหร็อบเดียวกัน คิดง่ายๆ แมลง/หนอน ตัวโตแค่ไม้จิ้มฟัน เชื้อโรคสัตว์เซลล์เดียวต้องดูกล้องจุลทรรศน์ ทั้งแมลงหนอนเชื้อโรคจะมีพลังร่างกายอะไรเข้มแข็งแข็งแรงนัก ต้องใช้สารหรือยาแรงขนาดที่คนกินฆ่าตัวตายได้ ถึงจะสังหารศัตรูพืชได้เลยเชียวหรือ

- การใช้สมุนไพร "ป้องกัน/กำจัด" ศัตรูพืชมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ (อียิปต์)
- ปัจจุบัน เยอรมันมุ่งค้นคว้าวิจัยเรื่องสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรป้องกัน/กำจัดศัตรูพืชอย่างมาก โดยนำเข้าสะเดาจากอินเดีย ปีละ 50,000 ตัน นำเข้าหางไหลจากอินโดเนเซีย ปีละ 30,000 ตัน นำเข้าหนอนตายหยากจากไทย ปีละ 30,000 ตัน....ผลงานวิจัยได้ตีพิมพ์เป็นเอกสารตำราภาษต่างๆ ทั่วโลก 17 ภาษา ยกเว้นภาษาไทย

- สารออกฤทธิ์ในสมุนไพร ได้รับการค้นคว้าวิจัยโดยนักวิชาการระดับดอกเตอร์ เช่นเดียวกับสารเคมี จึงไม่มีเหตุใดที่จะบอกว่า "เป็นไปไม่ได้ หรือ ไม่น่าเชื่อถือ"

- ชีวิตของศัตรูพืชบอบบางมาก เมื่อสัมผัสกับสารออกฤทธิ์ระดับ พีพีเอ็ม.ก็ตายได้
- วงรอบชีวิตของ หนอน-แมลง ประกอบด้วย "แม่ผีเสื้อ-ไข่-หนอน-ดักแด้" หากช่วงใดช่วง หนึ่งของวงจรชีวิตถูกตัดหรือขาดลง หนอนและแมลงก็หมดไปเอง

- นอกจากสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรเป็นพิษโดยตรงต่อศัตรูพืชแล้ว ยังทำให้สภาพแวดล้อมสำหรับศัตรูพืชเปลี่ยนแปลงจนศัตรูพืชนั้นอยู่ไม่ได้เอง

- ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มีศัตรูพืชประจำตัว ดังนั้นมาตรการเพื่อต่อสู้กับศัตรูพืชที่ดีที่สุด คือ "ป้องกันก่อนกำจัด หรือ กันก่อนแก้" เท่านั้น

- สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญพัฒนาของศัตรูพืช ย่อมไม่เหมาะสมต่อการเจริญพัฒนาของแมลงธรรมชาติ ขณะเดียวกัน สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญพัฒนาของแมลงธรรมชาติ ย่อมไม่เหมาะสมต่อการเจริญพัฒนาของแมลงศัตรูพืช

- สภาพแวดล้อม คือ ความหลากหลาย วิธีต่อสู้กับศัตรูพืชที่ดีที่สุด คือ วิธีป้องกัน/กำจัดแบบผสมผสาน (I.P.M.) เท่านั้น

- โลกปัจจุบันเป็นยุคเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นต้อง “ตาม” เทคโนโลยีให้ทัน

รอบรู้เรื่องแมลง :
- แมลงปากกัด หมายถึง แมลงที่ทำลายส่วนต่างๆของพืชโดยการกัดแล้วกินส่วนนั้นของพืชโดยตรง
- แมลงปากดูด หมายถึง แมลงที่ทำลายส่วนต่างๆของพืชโดยการใช้กาดกัดก่อนแล้วจึงดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชนั้น

- แมลงกลางวัน หมายถึง แมลงที่ออกหากินช่วงตอนกลางวัน เข้าหาพืชเป้าหมายโดยใช้สายตาในการเดินทาง นอกจากเข้าทำลายพืชโดยตรงแล้ว ยังอาศัยวางไข่อีกด้วย

- แมลงกลางคืน หมายถึง แมลงที่ออกหากินตอนกลางคืน ช่วงหัวค่ำ 19.00-21.00 น. และช่วงก่อนสว่าง 05.00-06.00 น. เดินทางเข้าหาพืชเป้าหมายโดยการใช้ประสาทสัมผัสกลิ่น ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าทำลายพืชโดยตรงแต่จะอาศัยวางไข่เท่านั้น มีเพียงส่วนน้อยที่เข้าทำลายพืชโดยการกัดกินโดยตรง

- แมลงขยายพันธุ์โดยการออกไข่ จากนั้นไข่จะฟักออกเป็นตัวหนอน และหนอนคือตัวทำลายพืชโดย ตรง จากนั้นหนอนจะเจริญเติบโตกลายเป็นแมลงต่อไป

- แมลงไม่ชอบวางไข่บนส่วนของพืชที่ชื้น เปียกแฉะ เพราะรู้ว่าความเปียกชื้นหรือแฉะนั้น นอกจากจะทำให้ไข่ฝ่อฟักไม่ออกแล้วยังเกาะส่วนของพืชไม่ติดอีกด้วย

- แมลงไม่ชอบวางไข่ในบริเวณที่แสงแดดส่องถึงเพราะรู้ว่า ถ้าวางไข่ไว้ในที่โล่งแจ้ง แสงแดดส่องถึงจะทำให้ไข่ฝ่อไม่อาจฟักออกเป็นตัวหนอนได้ จึงเลือกวางไข่บริเวณใต้ใบพืช ซอกเปลือก เศษซากพืชคลุมโคนต้น หรือไต้พื้นดินโคนต้น

- แมลงกลางวันเดินทางด้วยการมองเห็น แก้วตาของแมลงมีเลนส์ 200,000 ช่อง ลูกนัยน์ตาของแมลงจึงไม่กลิ้งไปมาได้เหมือนนัยตาคนหรือสัตว์อื่นๆ ถ้าส่วนของพืชเป้าหมายของแมลงกลางวันเปียกน้ำหรือมีสารคล้ายน้ำมันสะท้อนแสงได้เคลือบทับอยู่จะทำให้ภาพการมองเห็นของแมลงผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง แมลงก็จะไม่เข้าหาพืชเป้าหมายนั้น

- แมลงกลางคืนเดินทางด้วยประสาทสัมผัสกลิ่นหรือดมกลิ่น ทั้งนี้ประสาทสัมผัสกลิ่นของแมลงสูงกว่าคน 600,000 เท่า (สารคดีดิสคัพเวอรี่) ถ้ากลิ่นพืชเป้าหมายผิดเพี้ยนหรือเปลี่ยนไปจากความเป็นจริงเนื่องจากมีกลิ่นพืชอื่นเคลือบอยู่ แมลงจะเข้าใจผิดไม่เข้าหาพืชเป้าหมายนั้น

- แมลงกลางวันชอบเข้าหาวัสดุที่มีสีเหลือง และสีฟ้า ส่วนแมลงกลางคืนชอบเข้าหาแสงสีม่วงและแสงสีขาว แต่ไม่ชอบเข้าหาแสงสีเหลืองหรือแสงสีส้ม

- แมลงบินตลอดเวลา ประสาทความรู้สึกเร็วมาก เมื่อรู้ว่าจะมีอันตรายเป็นต้องบินหนีทันที จากลักษณะทางธรรมชาติแบบนี้ทำให้ไม่สามารถกำจัดแมลงด้วยวิธีการ “ฉีดพ่น” ใดๆได้ทั้งสิ้น ในความเป็นจริงนั้น แมลงใดๆ ที่ปีกเปียกจะไม่สามารถขึ้นบินได้ นั่นหมายความว่า แม้แต่น้ำเปล่าก็สามารถกำจัดแมลงได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องฉีดพ่นให้ปีกเปียกให้ได้

- แมลงมีช่วงหรือฤดูกาลแพร่ระบาด นั่นคือ สภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับสภาพอากาศ (อุณหภูมิ/ความชื้น) มีผลอย่างมากต่อวงจรชีวิตแมลง (เกิด - กิน - แก่ - เจ็บ - ตาย - ขยายพันธุ์) การรู้ล่วงหน้าถึงฤดูกาลแพร่ระบาดแล้วใช้มาตรการ “ป้องกัน” หรือ “ขับไล่” จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดเพื่อเอาชนะแมลง

- แมลงบางอย่างมีปีกแต่ไม่สามารถใช้บินเป็นระยะทางไกลๆได้ แมลงประเภทนี้จะพึ่งพาสายลมช่วยพัดไป หรือมีสัตว์อย่างอื่นเป็นพาหะเพื่อการเดินทาง

- แมลงหายใจทางรูขุมขน หรือ ต่อมบนผิวหนัง แมลงตัวเล็กๆ หรือเล็กมากๆ เมื่อถูกสารประเภทน้ำมันเคลือบบนลำตัว จะทำให้หายใจไม่ออกแล้วตายได้ ส่วนแมลงขนาดใหญ่ เมื่อได้สัมผัสกับกลิ่นที่เป็นสารออกฤทธิ์สำหรับแมลงก็ทำให้แมลงตายได้เหมือนกัน

- เทคนิคเอาชนะแมลงที่ดีที่สุด คือ “ไล่” ด้วยกลยุทธ “กันก่อนแก้” เท่านั้น

รอบรู้เรื่องหนอน :
- หนอนเกิดจากไข่ของแม่ผีเสื้อกลางคืน (มาหัวค่ำหรือก่อนสว่าง) ถ้าขับไล่แม่ผีเสื้อไม่ให้เข้าวางไข่ได้หรือทำให้ไข่ของแม่ผีเสื้อฝ่อจนฟักไม่ออก ก็ถือเป็นการกำจัดหนอนได้อีกทางหนึ่ง

- หนอนไม่ชอบแสงแดดหรือแสงสว่าง จึงออกหากินตอนกลางคืน ส่วนตอนกลางวันจะหลบซ่อนอยู่ตามซอกหลืบหรือใต้ใบพืช หรือเข้าไปอยู่ภายในส่วนของพืชโดยการเจาะเข้าไป

- อายุหนอนเริ่มตั้งแต่ออกจากไข่ถึงเข้าดักแด้ 10-15 วัน แบ่งออกเป็น 5 วัย จากวัยหนึ่งไปสู่วัยหนึ่งต้องลอกคราบ 1 ครั้งเสมอ ถ้าไม่ได้ลอกคราบหรือลอกคราบไม่ออก หนอนตัวนั้นจะตายในคราบ

- หนอนที่ขนาดลำตัวโตเท่าก้านไม้ขีด ลำตัวด้านข้างมีลายตามยาวจากหัวถึงหาง และที่ลำตัวด้านบนมีขนขึ้น เป็นหนอนที่มีความทนทานต่อสารเคมีอย่างมาก เรียกว่า “ดื้อยา” ซึ่งจะไม่มีสารเคมีใดที่ใช้ตามอัตราปกติทำร้ายมันจนตายได้

- หนอนทุกชนิดแม้จะดื้อยา (สารเคมี) แต่จะไม่มีความสามารถดื้อต่อเชื้อโรค (ยาเชื้อ) เช่น บีที. - บีเอส. - เอ็นพีวี. - ไส้เดือนฝอย. - โบวาเลีย. ได้เลย

- สาร “ท็อกซิก” ที่เกิดจากจุลินทรีย์กลุ่มบาซิลลัส.ประเภทไม่ต้องการอากาศ ก้นถังหมักน้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง หมักนานข้ามปีถึงหลายๆปี เป็นพิษต่อหนอน สามารถทำให้หนอนหยุดกินอาหาร (ทำลายพืช) และลอกคราบไม่ออก ไม่เข้าดักแด้ ทำให้หนอนตายได้

- สารออกฤทธิ์ในพืชสมุนไพรหลายชนิด มีพิษต่อหนอนโดยทำให้หนอนไม่กินอาหาร ไม่ลอกคราบ ไม่เข้าดักแด้ จึงทำให้หนอนตายได้

- ต้นไม้ผลที่ทรงพุ่มโปร่ง แสงแดดส่องผ่านจากยอดลงถึงพื้นดินโคนต้นได้ แสงแดดร้อนทำให้หนอนอยู่ไม่ได้ จนกระทั่งตายไปเอง

- หนอนเลือกกินพืชแต่ละชนิดถือเป็นสัญชาติญาณของสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ การเคลือบส่วนของพืชที่หนอนชอบกินด้วยรสของพืชอื่นที่หนอนไม่กิน จะทำให้หนอนไม่ได้กินอาหาร ไม่นานหนอนก็ตายได้เช่นกัน

- หนอนเป็นสัตว์เหมือนกับกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆในโลกย่อมต้องการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อการดำรงชีวิต มาตรการทำให้สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมเปลี่ยนแปลง จนเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หนอนก็อยู่ไม่ได้หรือตายไปในที่สุด

- หนอนที่เจาะส่วนของพืชแล้วเข้าไปแฝงตัวอยู่ในซึ่งเป็นแหล่งอาหาร เช่น หนอนเจาะยอด หนอนเจาะดอก หนอนเจาะผล หนอนเจาะต้น ฯลฯ แม้สรีระของหนอนจะไม่แข็งแรงนัก แต่ก็ยากที่จะทำอันตรายต่อตัวหนอนนั้นได้โดยง่าย เปรียบเสมือนมีแหล่งกำบังอย่างแข็งแรง มาตรการกำจัดจึงไม่อาจนำมาใช้ได้ จำเป็นต้องใช้มาตรการอื่นแทน เช่น ป้องกันแม่ผีเสื้อเข้าวางไข่ กำจัดไข่แม่ผีเสือให้ไม่สามารถฟักออกเป็นตัวหนอนได้ หรือห่อผล เท่านั้น

- หนอนกออ้อย เกิดและแพร่ระบาดได้ดีเมื่อมีการใช้ปุ๋ยเคมีมากๆ ...(นักวิชาการนิคารากัว)
- หนอนและแมลง รู้และชอบที่จะเข้าทำลายพืชที่อ่อนแอมากกว่าพืชที่สมบูรณ์แข็งแรง และเชื้อโรค สามารถแพร่ระบาดในพืชที่ไม่สมบูรณ์หรืออ่อนแอได้ดีและเร็วกว่าในพืชที่สมบูรณ์แข็งแรง...(สารคดีดิสคัพเวอรี่)

รอบรู้เรื่องโรค :
- เชื้อโรคพืชในดินสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติเมื่อสภาพแวดล้อม (ดิน-น้ำ) มีความเป็นกรดจัดหรือด่างจัด และเชื้อโรคในดินจะดำรงชีวิตอยู่ไม่ได้เลยหรือตายไปเองเมื่อสภาพแวดล้อม (ดิน-น้ำ) เป็นกลาง

- การใส่สารเคมีกำจัดเชื้อโรคลงไปในดิน เมื่อใส่ลงไปเชื้อโรคในดินก็ตายได้ในทันที ครั้นสารเคมีนั้นหมดฤทธิ์ เชื้อโรคชุดใหม่ก็จะเกิดขึ้นมาแทน "เกิดใหม่ใส่อีก-เกิดอีกก็ใส่ใหม่" เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เรียกว่า ใส่ทีก็ตายที ตายแล้วก็เกิดใหม่ขึ้นมาแทน สาเหตุที่เชื้อชุดใหม่เกิดขึ้นมาแทนได้ทุกครั้งก็เพราะ "ดินยังเป็นกรดจัดหรือด่างจัด" อยู่นั่นเอง ในเมื่อสารเคมีที่ใส่ลงไปในดินส่วนใหญ่หรือเกือบทุกตัวมีสถานะเป็นกรดจัด มีเพียงบางตัวหรือส่วนน้อยเท่าที่นั้นที่เป็นด่างจัด เมื่อใส่สารที่เป็นกรดจัดลงไป จากดินที่เป็นกรดอยู่ก่อนแล้วจึงเท่ากับเพิ่มความเป็นกรดให้กับดินหนักขึ้นไปอีก หรือดินที่เคยเป็นด่างอยู่แล้ว เมื่อใส่สารที่เป็นด่างเพิ่มลงไป จึงกลายเป็นเพิ่มความเป็นด่างของดินให้หนักยิ่งขึ้น .... ปุ๋ยเคมีประเภทให้ทางราก ทุกตัวทุกสูตรมีสถานะเป็นกรด การใส่ปุ๋ยเคมีลงไปมากๆ บ่อยๆ ย่อมเกิดการสะสมอยู่ในเนื้อดินเนื่องจากพืชนำไปใช้ไม่หมด เมื่อดินเป็นกรดจัดจึงเกิดเชื้อโรคในดินเป็นธรรมดา

- เชื้อโรคในดินเข้าสู่ลำต้นแล้ว ส่งผลให้เกิดอาการยางไหล เถาแตก ใบเหี่ยว ยอดกุด ต้นโทรม แคระแกร็น ดอกผลไม่สมบูรณ์

- เชื้อโรคที่เข้าทำลายส่วนต่างๆของพืชที่อยู่เหนือดินนั้น เป็นเชื้อโรคที่เกิดจากดินทั้งสิ้น จากเชื้อในดินเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะเจริญพัฒนาแตกตัวเป็นสปอร์ล่องลอยไปตามอากาศ เมื่อเกาะยึดส่วนของพืชได้ก็จะซึมแทรกเข้าสู่เนื้อพืชนั้น .... เชื้อบางตัวอาศัยอยู่กับหยดน้ำฝน (เรียกว่า ราน้ำฝนหรือแอ็นแทร็คโนส) หรือหยดน้ำค้าง (เรียกว่า ราน้ำค้าง) ซึ่งทั้งน้ำค้างและน้ำฝนต่างก็มีสถานะเป็นกรดอ่อนๆ เมื่อหยดน้ำฝนหรือหยาดน้ำค้างแห้ง เชื้อโรคเหล่านั้นก็จะซึมแทรกเข้าสู่ภายในสรีระของพืชต่อไป

- เชื้อโรคพืชมี 3 กลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วย "รา - แบคทีเรีย - ไวรัส" เป็นหลัก
- ลักษณะหรืออาการพืชที่ถูก "เชื้อรา" ทำลาย บริเวณกลางแผลจะแห้ง ไม่มีกลิ่น ขอบแผลฉ่ำเล็กน้อย แผลจะลุกลามขยายจากเดิมจนมีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกับเกิดแผลใหม่ทั้งบริเวณใกล้เคียงและห่างออกไป .... เชื้อตัวนี้มักเกิดเองจากดินที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม

- ลักษณะหรืออาการพืชที่ถูก "เชื้อแบคทีเรีย" เข้าทำลาย บริเวณกลางแผลจะเปียกฉ่ำเละและมีกลิ่นเหม็น แผลจะลุกลามขยายจากแผลเดิมจนมีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกับเกิดแผลใหม่ทั้งบริเวณใกล้เคียงและห่างออกไป ..... เชื้อตัวนี้มักเกิดเองจากดินที่สถภาพแวดล้อมเหมาะสม

- ลักษณะหรืออาการพืชที่ถูก "เชื้อไวรัส" เข้าทำลาย บริเวณถูกทำลายจะลายด่าง ขาวซีด เป็นทางยาวตามความยาวของส่วนของพืช หรือไม่มีรูปทรงที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับลักษณะของพืชส่วนที่เชื้อเข้าทำลาย.....เชื้อตัวนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากพันธุ์กรรม กับบางส่วนมีแมลงเป็นพาหะ

- เชื้อโรคพืชมักเข้าทำลายแล้วขยายเผ่าพันธุ์ตามส่วนของพืชที่เป็นร่มเงา มีความชื้นสูง และเชื้อมักไม่ชอบแสงแดดหรือบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง .... เชื้อตัวนี้มักไม่เกิดจากดิน

- เชื้อโรคพืชหลายตัวที่ยังไม่มีแม้สารเคมีชนิดใดกำจัดได้ เช่น โรคตายพรายกล้วย. โรคใบแก้วส้ม. โรคยางไหล. โรคใบด่างมะละกอ. โรคใบขาวอ้อย. โรคใบขาวข้าว. โรคกระเจี๊ยบใบด่าง. โรคเถาแตก. ฯลฯ เชื้อโรคเหล่านี้มิได้เกิดเฉพาะในพืชที่กล่าวถึงเท่านั้น หากยังสามารถเกิดกับพืชอื่นๆ ได้อีกด้วย

- โรคไม่มีเชื้อ หมายถึง พืชมีลักษณะอาการเหมือนเป็นโรคที่เกิดจาก รา-แบคทีเรีย-ไวรัส แต่ในความเป็นจริงนั้นเกิดจากการ "ขาดสารอาหาร" ซึ่งการแก้ไขย่อมแตกต่างจากโรคที่มีเชื้ออย่างแน่นอน

- ทั้งโรคมีเชื้อและไม่มีเชื้อจะไม่สามารถทำลายพืชได้ หรือทำลายได้แต่เพียงเล็กน้อย ไม่ถึงระดับ "สูญเสียทางเศรษฐกิจ" หากพืชมีสมบูรณ์แข็งแรงแล้วเกิดเป็นภูมิต้านทานสู้กับเชื้อโรคเหล่านั้นได้

รอบรู้เรื่องโลก :
1. ใช้สารเคมีโดยไม่รู้ประสิทธิภาพ หรือสรรพคุณที่แท้จริงของสารเคมีตัวนั้น
2. ใช้สารเคมีโดยไม่เข้าใจ "ชื่อสามัญ" สนใจแต่ชื่อ "การค้า"
3. ใช้สารเคมีครั้งละหลายๆตัวผสมกัน โดยไม่รู้ว่านอกจากทำให้สิ้นเปลืองแล้วยังทำให้ประสิทธิภาพเสื่อมอีกด้วย
4. ไม่มีความรู้ทางวิชาการที่บริสุทธิ์ในการบริหารจัดการศัตรูพืช หรือมีความรู้แค่โฆษณา
5. หลงช่วยเชียร์ให้สารเคมี โดยว่า "ยาแพงเพราะเป็นยาดี"
5. ใจร้อน ทุกอย่างต้องแรงอย่าง "ยาน็อค" จึงจะถือว่าได้ผล
7. ในฉลากข้างขวดกำหนดให้ใช้ 7 วัน/ครั้ง แต่ใช้จริง "ใช้ทุกวัน"
8. ปิดตัวเอง
9. มิจฉาทิฐิ

ข้อมูลส่วนหนึ่ง COPY มาจาก "เมนูหลัก-สารสกัดสมุนไพร" ในเว้บนี้นี่แหละ
ลุงคิมครับผม

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1187

----------------------------------------------------------------------------------

.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©