-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 22 MAY.. * เก็บตกงานสัญจร "ผักชี"
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ21MAY.. เก็บตกงานสัญจร "นาไม่เผาฟาง"
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ21MAY.. เก็บตกงานสัญจร "นาไม่เผาฟาง"

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 21/05/2020 7:54 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ21MAY.. เก็บตกงานสัญจร "นาไม่เผาฟา ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 21 MAY....
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

*****************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม ...

ผลิตรายการโดย....
กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ที่ (081) 913-4986 อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

ผู้สนับสนุนรายการ ....
*** ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส ธันเดอร์แคล.... ออร์เดอร์จาก ออสเตรเลีย แคนนาดา อเมริกา +Mg. Zn. เคมี, .... ออร์เดอร์จากเกาหลี ให้ +Cu เคมี อย่างละ 5% .... ยิบซั่มเพื่อการเกษตรที่ทั่วโลกยอมรับ คือ ยิบซั่มจากประเทศไทย นี่แหละ

*** ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ คุณภาพผลผลิต (ยอด-ใบ-ดอก-ผล-เมล็ด-เนื้อ-ต้น-ราก) จะดกดี สีสวยสด รสจัดจ้านได้ ด้วยธาตุรอง/ธาตุเสริม ....

*** แม็กเนเซียม. สังกะสี. สาหร่ายทะเล. แคลเซียม โบรอน. ส่วนผสมเอาไปทำเอง ....
*** กลิ่นล่อดักแมลงวันทอง, กาวเหนียวดักแมลงศัตรูพืช.... คิดง่ายๆ ถ้าแมลงศัตรูพืชไม่มาที่กับดัก เขาก็จะไปที่ต้นพืช ว่ามั้ย ..... (089) 144-1112

งานสัญจรตามวงรอบ....
วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
วันเสาร์ของสัปดาห์สองของเดือน ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
วันเสาร์ของสัปดาห์สามของเดือน ไปที่วัดท่าตำหนัก ถ.เพชรเกษม (ขาล่อง) ก่อนถึงแยกนครชัยศรี นครปฐม,
วันเสาร์ของสัปดาห์สี่ของเดือน ไปที่วัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก

- งานสัญจรปกติ
วันเสาร์รอบนี้ วันที่ 23 พ.ค. ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก กาญจนาภิเษก งานนี้ลุงคิมไปโตย มี ระเบิดเถิดเทิง. ไบโออิ. ยูเรก้า. ไทเป. หัวโต. ยาน็อค. ทั้งขายทั้งแถม สน ใจซื้อปุ๋ย โทรนัดหมายล่วงหน้าหน่อยก็ดี รับของจ่ายเงินเสร็จแยกกันเลย อย่าอยู่ใกล้กัน ป้องกัน “รับเชื้อ-แพร่เชื้อ” ส่วนปัญหาก็ติดต่อกันทางโทรศัพท์ ทั้งก่อนเจอกันในงานสัญจร หรืออยู่บ้าน อยู่ในสวนในแปลง โทรปรึกษาได้ทั้งนั้น ....

- งานสัญจรพิเศษ
เดือนนี้ พ.ค. มี 5 เสาร์ สัญจร 5 ครั้ง วัดเสาร์สุดท้ายของเดือนนี้ตรงกับวันที่ 30 พ.ค. ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา ถ้ามี สมช.สนใจ เดือนหน้าเดือนต่อๆไปไม่ต้องรอวันเสาร์ เลือกเอาวันธรรมดาๆนี่ก็ได้ เดือนละซักครั้งก็พอ

- อ.ณัฐ....สมุนไพรสำหรับคน แปะก๊วย-หลินจือ-ถังเช่า-ขมิ้นชัน-ฟ้าทะลายโจร กับอีกหลายๆตัวกำลังมาแรง .... วันนี้ทั่วโลกยอมรับแล้วว่า ยาสมุนไพรจากซินแส กับ ยาแผนปัจจุบันจากโรงพยาบาล ใช้ร่วมกันได้ (086) 983-1966

กรณีงานสัญจรประจำไม่เฉพาะ วัดเสือ ศรีประจันต์, วัดหลวงพ่อโหน่ง สองพี่น้อง, วัดท่าตำหนัก นครชัยศรี, วัดส้มเกลี้ยง โรงกรองประปา, วัดทุ่งสะเดา แปลงยาว เท่านั้น .... วัดอื่นวัดไหน บ้านอื่นบ้านไหน ที่อื่นที่ไหน อ.ไหน จ.ไหน ไปได้ทั้งนั้น ติดต่อนัดหมายล่วงหน้ามาก่อนก็แล้วกัน ...

สัญจรแต่ละครั้งแต่ละที่ สมช.ที่มา มีปัญหาอะไร เอามาคุยกัน พูดคุยถามตอบกันแบบ FACE TO FECT MOUTH TO MOUTH .... ได้ทำ ทำถูกต่อยอด-ทำผิด = ไม่ได้อะไร ... ไม่ได้ทำ = ไม่ได้อะไร แก้ไขยังไง

ฝากให้คิด งานเกษตรที่ตัวเองทำอยู่นั้นมี “ข้อมูล” อะไรบ้างไหม ที่จะทำให้ “ผลผลิตเพิ่ม-ต้นทุนลด-อนาคตดี” เชื่อไหม ทำออกมาแล้วขาย ขายได้เท่าเดิมขายได้เท่าข้างบ้าน แต่กำไรได้มากกว่า เพราะต้นทุนต่ำกว่า ที่ต่ำไม่ใช่ต่ำตามใจคน แต่ต่ำตามใจพืช

กับดัก/กลิ่นล่อ แมลงวันทอง กาวเหนียวดักแมลงศัตรูพืช ทั้งประเภทมากลางวัน ประเภทมากลางคืน ผลิตภัณฑ์ที่ขายในประเทศไทยวันนี้ นำเข้าจากประเทศจีนทั้งนั้น ก็ให้น่าสงสัยว่า เทคนิค/เทคโนโลยี แค่นี้ประเทศไทยทำไม่ได้ ?... ก็ถ้าแมลงศัตรูพืชพวกนี้ไม่มาที่กับดัก มันก็ไปที่พืชใช่ไหม ? ....

งานนี้ กับดักแมลงวันทอง มี สมช.เราไปขอรับที่ร้านน้ำส้ม หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (085) 055-7706 กับจากด่านมะขามเตี้ย มาที่ไร่กล้อมแกล้ม มาเห็นกับดักแมลงวันทอง แขวนโชว์ อยากได้เลยขอไปใช้บ้าง งานนี้ไม่ขายแต่แจกฟรี คนละอัน 2อัน ชอบอันไหนเลือกเอาตามใจชอบ เอาไปให้หลานมันดู ให้มันออกแบบ ทำรุ่นใหม่-แบบใหม่-เวอร์ชันใหม่ ขึ้นมาอีกไงๆ ติดต่อโทรนัดหมายล่วงหน้าก่อนก็ดี ....

หม้อปุ๋ยหน้าโซน อันนี้ต้องคุยกันยาว วิธีทำ/วิธีใช้ ต้องติดต่อนัดหมายล่วงหน้า เพราะของมันใหญ่ การขนย้ายมีปัญหา ....รวมกลุ่มกันมาหลายๆบ้านซี่

วันนี้ เทคโนโลยี สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ย ไม่ใช่เครื่องมือรดน้ำธรรมดาๆ เท่านั้น แต่ประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องาน ให้ปุ๋ยไปพร้อมกับน้ำ ให้ยา (สมุนไพร/เคมี) ไปพร้อมกับน้ำ ทั้งหมดนี้มิใช่แค่ให้อย่างใดอย่างหนึ่งทีละอย่าง แต่ให้ไปพร้อมกัน 2 อย่าง หรือ 3 อย่างเลยก็ได้ ทำงาน ณ เวลาที่ต้องการ ตี 5 ล้างน้ำค้าง, ตอนสายให้ปุ๋ย, ตอนเที่ยงไล่เพลี้ยไฟ, ตอนค่ำไล่แมลงฆ่าหนอน ....

วางแผนจัดแปลงเป็นโซนๆ แปลงผักโซนละ 1 ไร่ ไม้ผลยืนต้นโซนละ 20 ต้น สปริงเกอร์/หม้อ ปุ๋ย ทำงานครั้งละ 3-5-10 นาที แรงงานคนเดียว ติดตั้งครั้งเดียวใช้งานได้ 10-20-30 ปี คุ้มเกินคุ้มนะ...

- หนังสือ "หัวใจเกษตรไท มินิ" สูตร ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา/จุลินทรีย์ ทำใช้ ทำขาย ทำแจก ทำเททิ้ง สูตรเดียวก็เกินคุ้ม, .... หนังสือไม้ผลแนวหน้าบอกวิธี บำรุงไม้ผล ตั้งแต่ ก.ไก่ แก้วมังกร ถึง อ.อ่าง องุ่น ว่าตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว ทำนอกฤดู เกรด เอ. จัมโบ้

มีหนังสือไว้ในบ้านเหมือนเป็น เอกสาร/ตำรา/คัมภีร์/มรดก ใช้ได้ตลอดชีวิต ถ่ายทอดให้ลูก หลานเหลนโหลน อ่านในบ้าน อ่านในแปลงไต้ต้นไม้ อ่านไปดูไป เชื่อเถอะ รุ่นเดียวรอบเดียว ก็เก่งได้ .

ใครมีเล่มเดียว ระวังนะ คนขอยืมแล้วไม่คืน.....

เคยมี คนเดียวซื้อ 1โหล 12ล่ม เอาไปเป็นของขวัญฝากคนที่รัก เขียนลายเซ็นไว้ที่ปก เชื่อเถอะ คนที่ได้รับของขวัญชิ้นนี้แล้ว เขาไม่ทิ้งหรอก ทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาอ่าน เห็นลายเซ็นคนที่มอบให้ เขาจะรู้สึกดีๆ ต่อคนให้ทันที แล้วก็ทุกครั้งด้วย....

สังเกต .... วันนี้ สปอนเซอร์ถอนตัวไป 1 งานนี้ใครสนใจก็ติดต่อเข้ามา วิทยุ ปตอ. AM ระยะแพร่คลื่น 100% ได้ 20 จังหวัด แพร่คลื่นแบบกระโดดเป็นหย่อมๆ อีก 20 จังหวัด น่าจะดีกว่า FM ทั้งคลื่นหลัก คลื่นชุมชน ที่แพร่คลื่นไปได้แค่จังหวัดเดียวเท่านั้น ลองซี่ ว่างๆ วิ่งรถเดินทางไป ตจว. ถึง จว.ไหนก็ได้ ยิ่งไกลยิ่งดี เปิดวิทยุในรถระบบ
AM คลื่น 594 ก็จะรู้ว่า ว่ารับได้หรือไม่ได้ รับได้ ได้แค่ไหน รับไม่ได้คือรับไม่ได้ แค่นี้ก็รู้ ลองดูซี่ ..... โฆษณาที่นี่ ไม่ใช่พูดอย่างเดียว แต่มีกิจกรรมเสริมโฆษณา (เน้นย้ำ....กิจกรรมเสริมโฆษณา) อีก ตอนนี้คิดคร่าวๆได้ราว 20 กิจกรรมเสริม อันนี้ต้องมาคุยกัน วางแผนร่วมกันว่าจะเสริมยังไง....

********************************************************************
********************************************************************



เก็บตกงานสัญจร เสาร์ที่ 16 พ.ค. วัดท่าตำหนัก นครชัยศรี นครปฐม (4) :

สมช : กำจัดหญ้านาข้าวสูตรผู้พัน...
ลุง : ง่ายที่สุด แต่ชาวนายอมรับน้อยที่สุด คือ ย่ำเทือก ย่ำเทือก 4 รอบตามปฏิทิน
* วันที่ 1 ตามปฏิทิน ย่ำรอบแรก
* วันที่ 10 ตามปฏิทิน ย่ำรอบที่ 2
* วันที่ 20 ตามปฏิทิน ย่ำรอบที่สาม
* วันที่ 30 ตามปฏิทิน ย่ำรอบสุดท้ายพร้อมทำทุกอย่างก่อนลงมือปลูก หว่าน/ดำ ตามอัธยาศรัย

** รอบแรกย่ำลุยไปก่อน ตั้งเป้า 100%
** รอบสอง สำรวจผลรอบแรกมีวัชพืชงอกใหม่ได้กี่เปอร์เซ็นต์ เจาะจงย่ำซ้ำตรงที่วัชพืชงอกใหม่
** รอบสาม สำรวจผลรอบ 2 ยังมีวัชพืชงอกใหม่ได้อีกกี่เปอร์เซ็นต์ เจาะจงย่ำซ้ำตรงที่วัชพืชงอกใหม่
**รอบสี่ สำรวจผลรอบ 3 มีวัชพืชงอกใหม่ได้กี่เปอร์เซ็นต์ เจาะจงย่ำซ้ำตรงที่วัชพืชงอกใหม่ เจาะจงย่ำซ้ำ ย่ำซ้ำ 3-4 รอบ เน้นตรงที่งอกใหม่ทุกครั้ง แบบนี้วัชพืชอะไรก็อยู่ไม่ได้ว่าไหม....ย่ำรอบสี่เสร็จจัดการงานต่อได้ ชักร่อง-หว่าน-ดำ อย่างที่เคยทำ ว่ามั้ยงานนี้ในแปลงนาไม่มีวัชพืชเลย ไม่ต้องใช้ยาฆ่ายาคุมด้วย

*** นาวข้าว 1 ไร่ได้ 1 เกวียน รัฐบาลประกันราคา 10,000 แต่โรงสีจ่าย 8,000 ตามคุณภาพข้าว ชาวนาลงทุนไร่ละ 6,000 ลงท้ายชาวนาได้แค่ไร่ละ 2,000 ทั้งๆที่ ต้นทุนนาข้าวจริงๆแค่ ไร่ละ 3,000 เท่า นั้น นี่ถ้าชาวนาลงทุนไร่ละ 3,000 แล้วขายได้ 10,000 ไม่ถูกตัดราคา ลงท้ายชาวนาได้กำไร ไร่ละ 7,000 ....

ปัญหาต้นทุนนี้รัฐบาลไม่รู้ ธรรมดา แต่ชาวนา คนทำกับมือไม่รู้นี่สิน่าคิด ทำไมชาวนาไม่คิดที่จะบริหารจัดการต้นทุนใหม่ ตัดรายการต้นทุนที่สูญเปล่า เอา เทคนิค/เทคโน มาใช้

*** ชาวนาวันนี้ ถ้าชาวนารอด ประเทศไทยรอด คนทั้งโลกรอด

สมช. : ครับ ถ้าเราไม่เผาฟางแต่ไถกลบฟางลงไปพร้อมกับย่ำทำลายวัชพืชเลยก็จะได้ประโยชน์จากฟางด้วย...
ลุง : ใช่ บอกแล้วไง นาข้าว 1 ไร่ ได้ผลผลิต 100 ถัง ฟางที่เหลือเมื่อนำมาตรวจวิเคราะห์หาปริมาณธาตุอาหารแล้วพบว่ามี... ไนโตรเจน 32 กก., ฟอสฟอรัส 22 กก., โปแตสเซียม 8 กก., แคลเซียม 14 กก., แม็กเนเซียม 6 กก., กำมะถัน 2 กก., ซิลิก้า 13 กก., ธาตุอาหารต่างๆที่กล่าวรวมกันติดไปกับเมล็ดเพียง 2 กก.เท่านั้น ข้อมูลจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชื่อถือไม่ได้เหรอ ? .... ปัญหาจริงๆอยู่ที่ ทำอย่างไรจึงจะเอาเหล่านี้ออกมาได้เท่านั้น

ผลจากปุ๋ยนาข้าวเหลืออยู่ในฟางนี่แหละ ที่ IRRI วิจัยออกมา นาข้าวใส่ปุ๋ยเคมีแค่ 10 กก./ไร่เท่านั้น 10 กก.ธาตุหลัก สูตร 3:1:1 นั่นคือ 30-10-10, 25-7-7, 16-8-8, ถ้าไม่มีให้ใช้ 46-0-0 + 16-16-16 (1:1) แล้วใช้ 10 กก. ....

ปุ๋ยทางดินทางรากให้แค่นี้ ที่เหลือให้ทางใบ แทน/เสริม ไบโออิ/ไทเป/ยูเรก้า นี่แหละ ทุกครั้งที่ให้ทางใบ +ยาน็อค สารสมุนไพรไปด้วย ....

ถึงวันนี้แล้ว รู้ไหม เชื่อไหม รายการข้าวที่เสียหายในแปลง รายการข้าวที่โรงสีตัดราคา ก็เพราะ “ยูเรีย” นี่แหละ ในทางกลับกัน ข้าวในแปลงดี รายการโรงสีตัดราคาไม่มี เพราะ แม็กเนเซียม. สังกะสี. ไงล่ะ....

สมช. : ครับ
ลุง : ไม่ใช่แค่นี้นะ เจ้ารถไถที่ใช้งาน รุ่นไหนแบบไหนก็สุดแท้ ที่หน้ารถติดถัง 50 ล. ติดก๊อกก้นถัง 2 อันซ้ายขวา เตรียมการใส่น้ำเต็มถัง +น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 2 ล. +ปุ๋ยเคมี 16-8-8 (10 กก.) คนให้ปุ๋ยละลาย ใช้งานวิ่งรถ เปิดก๊อกให้น้ำหมักละลายปุ๋ยไหลออกมาช้าๆ ช้าเท่ากับวิ่งได้ 1 ไร่พอดี ว่ามั้ย ทั้งน้ำหมัก ทั้ง ปุ๋ยที่ไหลผ่านก๊อกลงมาลงพื้นแล้วถูก ลูกทุบ อีขลุบ ย่ำตี เนื้อปุ๋ยจะกระจายไปทั่วทุกตาราง นิ้วของแปลง แบบนี้ต้นข้าวทุกกอ เน้นย้ำทุกกอ ได้ปุ๋ยเท่ากันหมด ใช่ไหม ?

สมช. : ใช่ครับ
ลุง : ประสิทธิภาพประสิทธิผลเนื้องาน ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน ประหยัดต้นทุน ทุกอย่างทำคนเดียว ครั้งเดียวเสร็จ เนื้องานต่อไปถึงรุ่นหน้า รุ่นต่อๆไปอีกด้วย ก็ไม่หมายความว่าจะไม่เกิดอีกเลย เกิดแต่เกิดน้อย เราก็จัดการเสียแต่แรกๆ ที่ยังน้อยๆอยู่ไงล่ะ

สมช. : จริงครับ


อ้างอิง : หนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ
กำจัดวัชพืช
หลักการและเหตุผล :

วัชพืช คือ พืชชนิดหนึ่งที่เกิดหรือขึ้นในที่ๆไม่ต้องการ มีวัฏจักรชีวิต (เกิด แก่ เจ็บตาย ขยายพันธุ์)และต้องการปัจจัยพื้นฐาน (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) เช่นเดียวกับพืชอื่นๆ และพืชที่ถูกเรียกว่าวัชพืชมักเจริญเติบโตดีกว่าพืชหลักที่คนปลูก ในความเป็นจริงนั้น ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าหญ้าหรือ สารกำจัดวัชพืชใดๆ ในโลกนี้ สามารถฆ่าหรือกำจัดวัชพืชให้ตายอย่างเด็ดขาดแน่นอนได้เมื่อใช้ตามอัตราที่ระบุบนฉลาก อาการที่เห็นนั้นเป็นเพียงใบไหม้เท่า นั้น ในขณะที่ หัว-เหง้า-เมล็ด ยังอยู่ซึ่งไม่นานก็จะแตกยอดแทงหน่อขึ้นมาใหม่.....ดังนั้น การโฆษณาว่ายาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืชชนิดนี้หรือชนิดนั้นสามารถกำจัดได้ถึงรากและเหง้าจึงเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงโฆษณาชวนเชื่อทั้งสิ้น และผู้ใช้ก็โกหกตัวเองว่าได้ผล

นอกจากนี้ ยาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืช (ทุกชนิดหรือทุกยี่ห้อในท้องตลาด) ให้ผลเสียมาก กว่าผลดี อาทิ มีสถานะเป็นกรดจัดจึงทำให้ดินเป็นกรด.....เป็นพิษต่อจุลินทรีย์ในดิน....ทำให้เดินเสียสมดุล...เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคพืช....สภาพแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงเสีย....ละอองเป็นพิษต่อพืชประธาน

วิธีการกำจัดหญ้าหรือวัชพืชที่ได้ผลที่สุด ซึ่งนอกจากไม่ส่งผลเสียดังกล่าวแล้วยังส่งผลดีแบบยั่งยืนระยะยาวนานอีกด้วย นั่นคือใช้มาตรการปรับเปลี่ยนหรือตัดวงจรปัจจัยพื้นฐานไม่ให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของหญ้าหรือวัชพืชเท่านั้น ได้แก่......

ล่อให้งอกแล้วทำลาย :
หลังเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จ ปล่อยฟางทิ้งไว้ตากแดดจัดอย่างน้อย 15 แดดจัด ระหว่างตากแดดจัดนี้ ถ้ามีฝนตกลงมาให้ยกเลิกจำนวนวันที่ตากแดดก่อนทั้งหมดแล้วเริ่มนับ 1 ใหม่จนกว่าจะครบอย่างน้อย 15 วันวัตถุประสงค์ของการตากแดดก็เพื่อ "ทำลายระยะพักตัว" ของเมล็ดวัชพืชและเมล็ดพืชอื่นๆที่อยู่ในแปลง จากนั้นจึงปล่อยน้ำเข้าพอหน้าดินชื้นโดยไม่ต้องไถ จากนั้นบรรดาพืชทุกชนิด (เมล็ดหญ้า เมล็ดข้าว ร่วงและหน่อวัชพืช) จะงอกขึ้นมา ปล่อยให้พืชทุกอย่างงอกอย่างอิสระหรือเปิดโอกาสให้งอกมากๆ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะเมล็ดวัชพืชบางชนิดงอกเร็ว บางชนิดงอกช้า

หมายเหตุ :
ถ้าไม่ทำลายระยะพักตัวของเมล็ดวัชพืชหรือพืชอื่นๆก่อน โดยหลังเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จใส่น้ำเข้าไปเลยนั้น เมล็ดวัชพืชหรือพืชอื่นๆก็จะไม่งอก เพราะยังไม่ใด้ทำลายระยะพักตัว แต่หลังจากนั้น 10-15 วัน เมล็ดเหล่านั้นก็จะเริ่มงอกแล้วเจริญเติบโตคู่กับต้นข้าวต่อไป

การไถดินที่มีเมล็ดพืชต่างๆฝังอยู่ เท่ากับเป็นการเติมอ๊อกซิเจนลงไปในเนื้อดินซึ่งจะส่งเสริมการงอกของเมล็ดพันธุ์ต่างๆให้ดียิ่งขึ้น เพราะฉนั้น จึงไม่ควรไถ แต่ปล่อยเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆวางอยู่บนผิวดินอย่างนั้น รอเวลาหมดระยะพักตัวแล้วจึงทำลาย โดยปล่อยน้ำเข้า หมักฟาง และไถกลบ
(ข้อมูล : สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)

ย่ำเพื่อทำลาย :
เมื่อเห็นว่าบรรดาเมล็ดพืชทุกอย่างงอกขึ้นมาแล้ว และบรรดาหน่อวัชพืชต่างๆก็แทงยอดขึ้นมาจากเหง้าหรือไหลทั้งหมดแล้วด้วย ให้ปล่อยน้ำเข้าแล้วลงมือย่ำเทือกครั้งที่ 1 ย่ำเทือกให้ใบและต้นพืช (วัชพืชและข้าว) ทุกอย่างที่ขึ้นมาแหลกสลายลงไปคลุกกับเนื้อดิน เสร็จแล้วไขน้ำออกพอเหลือติดหน้าดินปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 7-15 วัน จะเห็นว่ายังมีวัชพืชบางส่วนงอกขึ้นมาอีกแต่จะน้อยกว่าครั้งแรกหลายเท่า

ปล่อยน้ำเข้าแล้วย่ำเทือกรอบ 2 ย่ำเพื่อทำลายใบและต้นวัชพืชเหมือนรอบที่ 1 ย่ำเทือกรอบ 2 เสร็จทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน ให้พิจารณา ถ้ายังมีวัชพืชขึ้นอีกมากก็ให้ไขน้ำเข้า

ย่ำเทือกรอบ 3 แต่ถ้าเห็นว่าวัชพืชลดลงจนเป็นที่น่าพอใจก็ไม่ต้องย่ำเทือกรอบ 3 ให้เตรียมการลงมือปลูก (หว่าน-ดำ) ได้เลย
หมายเหตุ :
พืชหรือวัชพืชใดๆที่งอกขึ้นมาจากเมล็ด เมื่อ ยอด-ใบ-ต้น ถูกย่ำทำลายไปแล้วจะไม่มีโอกาสงอกหรือเกิดใหม่อีกได้เลยตลอดชีวิต เพราะเมล็ดงอกได้เพียงครั้งเดียว ส่วนหน่อที่งอกขึ้นมาจาก หัว-เหง้า-ไหล ยอดที่งอกขึ้นมานั้นจะพัฒนาเป็น ต้น-ใบ ช่วยสังเคราะห์อาหาร ช่วงที่ยังไม่มีใบช่วยสังเคราะห์อาหารนั้น ต้นวัชพืชจะกินสารอาหารจาก หัว-เหง้า-ไหล ที่สะสมเอาไว้ เมื่อแตกยอดขึ้นมาทีไรเป็นถูกย่ำทำลายทุกครั้ง เพียง 2-3 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วันเท่านั้น สารอาหารในหัว-เหง้า-ไหลที่เคยสะสมไว้หมด หัว-เหง้า-ไหล ก็เน่าสลายหมดโอกาสแตกยอดใหม่อีกตลอดกาล

การใช้จุลินทรีย์เป็นตัวช่วยย่อยสลายเศษ ใบ-ต้น-หัว-เหง้า-ไหล ที่ถูกย่ำให้เปื่อยยุ่ยแล้วกลายเป็นปุ๋ย นอกจากจะไม่ทำลายสภาพโครงสร้างดินแล้วยังปรับปรุงสภาพโครงสร้างดินให้ดีขึ้นอีกด้วย ในขณะที่การใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ใดๆ แม้จะช่วยสลายเศษพืชได้แต่กลับทำให้สภาพโครงสร้างของดินเสียและเสียอย่างถาวรอีกด้วย

สรุป :
1. ทำลายวัชพืชด้วยวิธีการบำรุงให้งอกแล้วย่ำทำลาย โดยการทำเทือกหลายๆรอบแต่ละรอบจำนวนวัชพืชจะลดลงและลดลงเรื่อยๆจนกระทั่งหมดไปนั่นเอง

2. ถอนด้วยมือ หลังจากกำจัดวัชพืชส่วนใหญ่ด้วยวิธีทำเทือกย่ำทำลายแล้ว เมื่อต้นข้าวเจริญ เติบโตขึ้นมา วัชพืชประเภทงอกช้าอาจจะยังหลงเหลืออยู่ก็จะงอกขึ้นมาให้เห็นอีก การกำจัดในขั้นตอนนี้ต้องใช้วิธีเดินเข้าไปในแปลงแล้ว "ถอนด้วยมือ" เท่านั้น ซึ่งวิธีถอนด้วยมือนี้นอกจากจะเป็นการกำจัดได้อย่างสิ้นซาก (ไม่มีโอกาสงอกใหม่อีกเลยตลอดชีวิต) แล้ว ยังไม่ทำลายสภาพโครงสร้างดินอีกด้วย ในนาดำช่วยให้การกำจัดวัชพืชด้วยวิธีถอนด้วยมือทำได้ง่ายกว่านาหว่าน

3. ป้องกันกำจัดหญ้าหรือวัชพืชตัวใหม่ เมื่อในแปลงนาข้าวไม่มี "เมล็ด-หัว-เหง้า-ไหล" ของวัชพืชที่จะเกิดใหม่ได้แล้ว เมล็ดแก่จากต้นวัชพืชบนคันนาหรือบริเวณข้างแปลงยังสามารถปลิวตามลมเข้าไปในแปลงแล้วเกิดเป็นต้นใหม่ขึ้นมาได้ กรณีนี้แก้ไขโดยการตัดหรือใช้ไม่เรียวฟาดก้านดอก ขณะที่ยังเป็นดอกอ่อนเพื่อทำลายดอกตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ให้เป็นดอกแก่แล้วมีเมล็ดขยายพันธุ์ได้

การใส่ปุ๋ยคอกมูลสัตว์กินหญ้า (วัว ควาย แพะ) มักมีเมล็ดพันธุ์วัชพืชปนมาด้วยเสมอ กำจัดเมล็ดพันธุ์วัชพืช โดยการหมักนาน 6 เดือน - 1 ปี เพื่ออาศัยจุลินทรีย์ทำลายชีวิตเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก่อน ถ้าไม่มีเวลาหมักก็ให้ใช้เฉพาะ "น้ำมูลสัตว์" หมักก่อนหรือไม่หมักก็ได้ ราดรดลงบนเศษซากพืช (ฟาง ต้นถั่ว วัชพืช) ในแปลงหลัง หรือก่อนไถกลบก็ได้ หลังจากนั้น นอกจากเศษซากพืชจะกลายสภาพเป็นปุ๋ยคอกมูลสัตว์โดยไม่มีเมล็ดวัชพืชหรือพืชใดๆปนเปื้อนมาด้วยแล้ว ยังได้ทำให้คุณภาพของเนื้อปุ๋ยดีกว่ามูลสัตว์ที่มาจากสัตว์โดยตรงอีกด้วย

4. ข้าววัชพืช คือ วัชพืชชนิดหนึ่งที่เจริญเติบโตได้ดีมากในนาข้าว แต่ในแปลงเกษตรอื่นๆที่แม้จะมีสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยพื้นฐานด้านการเกษตรเหมือนนาข้าวกลับไม่เจริญเติบโต มีชื่อตามภาษาท้องถิ่น เช่น ข้าวนก. ข้าวหาง. ข้างเด้ง. ข้าวลายหรือข้าวแดง. ข้าวป่าหรือข้าวละมาน. (คำว่า “ข้าวนก” หมายถึงสายพันธุ์ข้าวที่ใช้เลี้ยงนกเขา หรือ นกสวยงามในกรง.........แต่คำว่า “ข้าววัชพืช” เป็นชื่อที่ทางราชการกำหนด)

ดังกล่าวข้างต้นแล้วว่า ปัจจุบันนี้ยังไม่มีสารเคมีใดในโลกสามารถกำจัดข้าววัชพืชโดยเฉพาะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์

ลักษณะเด่นของข้าววัชพืชในแปลงนาข้าว :
- งอกหลังต้นข้าว (นาหว่าน) 8-10 วัน แต่เจริญเติบโตเร็วกว่าต้นข้าวแล้วเป็นต้นแก่มีเมล็ดขยาย พันธุ์ได้ก่อนต้นข้าว หรือ เกิดทีหลังแต่แก่ก่อน

- สายพันธุ์เดียวกันแต่เมล็ดพันธุ์บางเมล็ดอยู่ได้นาน (1-12 ปี)โดยไม่เสื่อมความงอกในขณะที่บางเมล็ดงอกได้เร็ว หรือ พักตัว/ไม่พักตัว....พักตัวนาน/พักตัวไม่นาน

- ไม่มีโรคและแมลงศัตรูหรือมีน้อยมาก
- เปอร์เซ็นต์ความงอกสูงมาก แม้เมล็ดที่ยังแก่ไม่จัดก็สามารถงอกได้
- ปรับตัวให้ต่ำกว่าหรือสูงเท่ากับต้นข้าวเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกำจัดได้ดี
- จากเมล็ดข้าววัชพืช 1 เมล็ด ในนาข้าวรุ่นที่ 1 ขยายพันธุ์ต่อเนื่องถึงทำนารุ่นที่ 6 จะมีเมล็ดมากถึง 31,250,000,000 เมล็ด

วิธีกำจัดข้าววัชพืช :
- ล่อให้งอกแล้วย่ำทำลายด้วยวิธีย่ำเทือก ย่ำซ้ำหลายๆรอบเพื่อกำจัดวงรอบหรือวัฏจักชีวิต
- เปลี่ยนจากการทำนาหว่านมาเป็นนาดำ ทั้งนี้ นาดำ 1 รุ่น กำจัดข้าววัชพืชได้กว่า 90 % จากนั้นใช้วิธีถอนด้วยมือก็จะทำให้ต้นข้าววัชพืชหมดไปจากแปลงนาได้

- ถอนด้วยมือ (นาดำทำได้ง่ายกว่านาหว่าน)
- ป้องกันเมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่จากแหล่งภายนอก เช่น เมล็ดพันธุ์ รถเกี่ยว และจากแปลงข้างเคียง

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1713

--------------------------------------------------------------------------------




.

กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©