-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาประจำวัน 10 DEC .. * แตงโม
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาประจำวัน 10 DEC .. * แตงโม
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาประจำวัน 10 DEC .. * แตงโม

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 09/12/2021 4:47 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาประจำวัน 10 DEC .. * แตงโม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 10 DEC
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
***********************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

ผู้สนับสนุนรายการ :
*** ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส ธันเดอร์แคล.... ออร์เดอร์จาก ออสเตรเลีย แคนนาดา อเมริกา +Mg. Zn. เคมี, .... ออร์เดอร์จากเกาหลี ให้ +Cu เคมี อย่างละ 5% .... ยิบซั่มเพื่อการเกษตรที่ทั่วโลกยอมรับ คือ ยิบซั่มจากประเทศไทย นี่แหละ

เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า

ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม(ขาล่อง) แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์สัปดาห์ที่สี่ของเดือน ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรที่ไหนอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 11 ธ.ค. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี....

- เสาร์สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน เดือนนี้ตรงกับวันที่ 18 ธ.ค. ตามโปรแกรมสัญจรไปวัดท่าตำหนัก นครชัยศรี นครปฐม งวดนี้ขอบอกว่า “งด” เพราะเสาร์ที่ 18 ธ.ค. มีงานนัดพบอดีตนักรบผ่านศึกเกาหลี รุ่น 19 สมช.ท่านใดเร่งด่วนต้องใช้ปุ๋ยลุงคิม ติดต่อได้ อาจจะไปส่งวันรุ่งขึ้น วันอาทิตย์ ที่วัดท่าตำหนักได้ ถ้าคุ้มค่าน้ำมันรถ แต่ถ้าไม่คุ้มค่าน้ำมันรถ ก็สั่งซื้อทาง ปณ. ได้ .... สรุป งานสัญจร 18 ธันวา ที่วัดท่าตำหนัก นครชัยศรี ขอ งด....


- งานสัญจรระยะนี้ต้องร่วมกันป้องกัน COVID หลีกเลี่ยงจับกลุ่ม คนมากๆ แนะนำ สมช. สั่งปุ๋ยลุงคิม สั่งยา อ.ณัฐ โทรติดต่อโดยตรงแล้วได้นัดหมายรับส่งของกัน รับของแล้วแยกกันเลย มีปัญหาอะไรโทรศัพท์คุยกันก็ได้....

*******************************************************
*******************************************************


จาก : (082) 288-30xx
ข้อความ : แตงโมปลายเถาทำไมลูกเล็ก อยากให้ลูกใหญ่ทำอย่างไร.....
ตอบ :
- สารอาหารไปไม่ถึง เพราะลูกแรกตั้งด่านกินก่อน (เหมือนทุเรียนลูกยอด) แก้ไขด้วยการให้ปุ๋ยทางใบ ใบที่ปลายเถาได้รับสารอาหารแล้วจะส่งย้อนกลับมาทางโคนเถา ทำให้ผลที่อยู่ระหว่างทางเดินของปุ๋ยได้รับปุ๋ยโดยตรง

- บำรุงต้นตั้งแต่เล็ก ให้มีใบติดต้นมากๆ ถึงโคนต้นได้ยิ่งดี
- ให้ทางใบด้วยสูตร “ขยายขนาด-หยุดเมล็ด-สร้างเนื้อ” 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ จนถึงเก็บเกี่ยว

- ก่อนเก็บเกี่ยวให้ 0-21-74 ทางใบเพื่อเร่งหวาน 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 5 วัน ให้ครั้งสุดท้ายก่อนเก็บจริงๆ 5 วัน ควบคู่กับงดน้ำ

- ระวัง อย่าปล่อยอายุเกิน เพราะถ้าอายุเกินจะไส้ล้ม ทุกครั้งเมื่อฉีดพ่นทางใบ + สารสมุนไพรร่วมไปด้วย เพื่อไม่เสียเที่ยว

- ทางดิน ให้ 8-24-24 (2 กก.) / ไร่ / 15 วัน ละลายน้ำฉีดโคนต้น ถึงเก็บเกี่ยว


จาก : (097) 619-23xx
ข้อความ : ฟังมานาน 20 ปี ชอบหลักการ ทำงานทั้งปีได้ขายครั้งเดียว มีที่ข้างบ้านไร่กว่า สนใจแตงโม

จาก : (062) 173-02xx
ข้อความ : ชอบแตงโมแต่ไม่รู้จักแตงโม ขอเรื่องธรรมชาตินิสัยของแตงโมด้วยครับ
ตอบ :

บ่น :
วันนี้ ถึงยุคถึงสมัยถึงเวลาเปลี่ยน “ไม่รู้” ของตัวเองให้เป็น “รู้” ด้วยตัวเอง โดยการ “อ่านๆๆ ดูๆๆ ทำๆๆ ใช้ๆๆ ขายๆๆ แจกๆๆ ทิ้งๆๆ .... นั่นคือ อ่านในหนังสือ เน้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเองก่อนแล้วอ่านเรื่องที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันเกี่ยวก้อยทีหลัง เชื่อเถอะ ปีเดียว รอบเดียว รุ่นเดียว รู้เรื่อง ถึงเวลานั้น บอกใครคุยกับใครพูดกับใคร เสียงดังได้ เฮ่ยยยย ก.ทำกับมือ ม.อย่าเถียง...

รู้แตงโมรู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล ....
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ....
วิชาคือ มรดก/คัมภีร์ อยู่กับตัวไปตลอดชีวิต ถ่ายทอดให้หลูกหลานเหลนโหลนได้....

ปีละ 4 ครั้ง (4 แปลง ๆละ 1 ไร่) หรือ 6 ครั้ง (6 แปลง ๆละ 1 ไร่) ใช้ทั้งเทคนิคการปลูก เทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรง

- ในรอบปี 12 เดือน ไม้ผลให้ผลผลิต ในฤดู/นอกฤดู ได้ขาย/ขายได้ 1 ครั้ง .... ไม้ผลล้มลุก เช่น แตงโม แคนตาลูป เมลอน แบ่งแปลงเป็นโซน ปลูกทุกวันที่ 1 ของเดือน จะมีผลผลิตให้เก็บทุกเดือน (12 โซน ได้เก็บ 12 ครั้งต่อปี)

ยุคนี้สมัยนี้ทำได้ด้วย เทคนิค + เทคโนโลยี + จินตนาการ....
จากแคนตาลูป-แตงโม ธรรมดา เป็นตามสั่ง :

- ทรงสี่เหลี่ยม เก้าเหลี่ยม ทรงหัวใจ
https://www.thairath.co.th/content/858318

- สลักลายอักษร HBD, หัวใจคู่, รูปสัญญลักษณ์
- ปลูกในถุง ถุงละ 6 ต้นหรือมากกว่า รอบปากถุง ต้นโตขึ้นจัดเถาเลื้อยไปบนพื้นรอบทิศ
- ปลูกในถุง ปลูกแล้วบำรุงต้นตามปกติ ต้นโตขึ้นช่วย จัด/จับ (ผูก) เถาให้อยู่กับเสาหลัก เหนือเสามีคานแยก กระทั่งเถาเลื้อยขึ้นค้างเหนือเสาก็ให้ จัด/จับ แยกเถาแต่ละเถาไปคนละแฉกคาน เถาเหนือคานที่ยาวเกินคานสามารถ จัด/จับ ให้เถาทับซ้อนกันได้ตามความ จำเป็น/เหมาะสม

* บำรุงแตงโมตามปกติ
* มีเชือกผูกตาข่ายรับลูกแตงโมแขวนลอย

- หวานจัด หวานน้อย
- เลือกพืชที่ราคาผลผลิตต่อหน่วย ราคาแพงๆ ถึง แพงมากๆ ทำแจ๊คพ็อต
- แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม
- การตลาดนำการผลิต


ลักษณะทางธรรมชาติ :
* เป็นพืชเถาเลื้อยอายุสั้นฤดูกาลเดียว ปลูกได้ทุกพื้นที่ ทุกภาคแลtทุกฤดูกาล เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายหรือดินดำร่วน มีอินทรีย์วัตถุมากๆ ระบายน้ำดี ไม่ทนต่อสภาพน้ำขังค้างต้องการความชื้นในดินสูงแต่ไม่ชอบแฉะ

* ปลูกได้ทุกฤดูกาล โดยมีระบบจัดการเรื่องน้ำเพียงอย่างเดียวให้ถูกต้องเท่านั้น
* อายุต้นตั้งแต่เริ่มงอกถึงออกดอก 20-25 วัน จากนั้นอีก 10-15 วันดอกก็พร้อมผสม อายุผลตั้งแต่ผสมติดถึงแก่เก็บเกี่ยว 30-40 วัน หรือตั้งแต่ปลูกถึงเก็บเกี่ยว 65-90 วัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ว่าเป็นพันธุ์เบาหรือพันธุ์หนัก และการปฏิบัติบำรุง

* การจัดแปลงปลูกแบบพื้นราบ นิยมปลูกเป็นพืชที่สองในนาหลังเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว ซึ่งเป็นช่วงหน้าหนาวมีน้ำค้างแรง ช่วยสร้างความชื้นในดินให้แก่แตงโม กับทั้งมีความแห้งแล้งของสภาพอากาศช่วยจึงทำให้แตงโมมีรสชาติดี

การปลูกในภาชนะปลูก (ถุง) บรรจุวัสดุปลูก (ดินปลูกปรุงสำเร็จ) จัดวางภาชนะปลูกในที่ๆเหมาะสมต่อธรรมชาติของแตงโม เช่น ในโรงเรือน ยกภาชนะปลูกให้พ้นน้ำ (น้ำท่วม)แล้วจัดทำค้างให้เถาเลื้อยขึ้นไปพร้อมกับมีเครื่องยกผลให้สูงขึ้นพ้นพื้นหรือพ้นน้ำท่วม (สูตรของไต้หวัน-อิสราเอล) ก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะการปลูกในช่วงหน้าฝนซึ่งมีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยมากก็จะได้ราคาดี นอกจาก นี้วิธีปลูกในภาชนะปลูกยังสามารถควบคุมปริมาณน้ำ สารอาหาร และอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ง่ายอีกด้วย

* แปลงปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสมควบคุมปริมาณน้ำได้สามารถปลูกได้ตลอดปี ส่วนใหญ่นิยมปลูก 3 รุ่น โดยรุ่นแรกปลูกเดือน ม.ค. เก็บเกี่ยวเดือน มี.ค.-เม.ย. ....รุ่น 2 ปลูกเดือน พ.ค. เก็บเกี่ยวเดือน ก.ค.-ส.ค. ....รุ่น 3 ปลูกเดือน ก.ย. เก็บเกี่ยวเดือน พ.ย.-ธ.ค. โดยรุ่น 3 จะมีคุณภาพดีที่สุดเพราะช่วงผลแก่ตรงกับหน้าแล้ง

* ฤดูหนาวเมล็ดพันธุ์งอกยาก แก้ไขโดยแช่เมล็ดในน้ำอุ่น 50 องศา + ไคตินไคโตซานหรือธาตุรอง/ธาตุเสริม ทิ้งไว้จนน้ำเย็น แล้วนำขึ้นมาห่มความชื้นในที่อบอุ่น (กลางแดด) เมื่อรากเริ่มงอกก็ให้นำไปปลูกได้

* ดอกตัวผู้ (โคนดอกกลม) กับดอกตัวเมีย (โคนดอกเรียวตรง) แยกกันคนละดอกแต่อยู่ในต้นเดียวกัน ในแต่ละต้นจะมีดอกตัวผู้มากกว่าดอกตัวเมียถึง 7:1(ดอกตัวผู้ 7 ดอก : ดอกตัวเมีย 1 ดอก)ดอกตัวเมียมักเกิดจากข้อที่ 3-4-9 และ 10 และต่อไปเรื่อยๆห่างกันดอกละ 4-5 ข้อใบ

การผสมเกสรต้องอาศัยแมลงเป็นหลัก ถ้าไม่มีแมลงก็ต้องช่วยผสมโดยเด็ดดอกตัวผู้ที่เกสรพร้อมผสมแล้ว ตัดกลีบดอกทิ้งไปเหลือแต่ก้านเกสรไว้ นำก้านเกสรตัวผู้ไปป้ายใส่ให้กับปลายก้านเกสรดอกตัวเมีย หรือใช้พู่กันขนอ่อนแห้งสนิทสะอาดป้ายเกสรตัวผู้ก่อนแล้วไปป้ายใส่เกสรตัวเมียก็ได้ ช่วยผสมเกสรช่วง 07.00-11.00 น.จะได้ผลดีที่สุด

* แปลงปลูกที่ปลอดสารฆ่าแมลงมานานมักมีผึ้งเข้าตอมเกสรช่วง 07.00-10.00 น.เสมอ ช่วงที่ผึ้งเริ่มเข้ามาในแปลงปลูกให้ถือกิ่งไม้เล็กๆแต่ยาวมีใบไล่ โดยโบกแกว่งไปมาช้าๆ พอให้ผึ้งเห็นแล้วรู้ตัวแต่ไม่ตกใจ เริ่มโบกกิ่งไม้ไล่จากหัวแปลงไปทางท้ายแปลง เมื่อผึ้งเห็นกิ่งไม้โบกไล่ไปมาจะบินขึ้นแต่ไม่ตกใจโผบินไปหาดอกต่อไปข้างหน้าระยะทางไม่ไกลนัก ปล่อยให้ผึ้งลงตอมดอกแตงโมดอกชุดใหม่สักครู่ก็ให้โบกกิ่งไม้ไล่อีก ผึ้งก็จะบินขึ้นโผไปหาดอกต่อไปข้างหน้าอีก ปล่อยให้ผึ้งตอมดอกแตงโมสักครู่ก็ให้โบกกิ่งไม้อีก ผึ้งก็จะบินขึ้นโผไปหาดอกต่อไปอีก ทำอย่างนี้เรื่อยไปจนถึงท้ายแปลง ถึงท้ายแปลงแล้วถ้าผึ้งยังติดใจตอมดอกแตงโมอยู่ ก็ให้โบกกิ่งไม้ไล่จากท้ายแปลงย้อนมาทางหัวแปลงด้วยวิธีการเดียวกันอีก จะทำ 2-3 รอบ/วันก็ได้ตราบเท่าที่ผึ้งยังอยู่ หรือทำ 2-3 วันติดต่อกันจนกระทั่งแน่ใจว่าเกสรแตงโมทุกดอกได้รับการถ่ายละอองเกสรจนเป็นที่พอใจแล้วก็ได้....การมีชันโรง (หากินเก่งและขยันหากินมากกว่าผึ้ง)หรือผีเสื้อสวยงามในบริเวณใกล้เคียงเข้ามาช่วยให้ได้ประโยชน์อย่างมาก

* เกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างไม่สมบูรณ์ เกิดจากขาดสารอาหารและฮอร์โมน หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม (อากาศร้อนหรือฝนตกชุก) แล้วผสมกันแล้วพัฒนาเป็นผลจะเป็นผลไม่สมบูรณ์ ไม่โต รูปทรงบิดเบี้ยว

* แตงโมเป็นพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว อวบน้ำ ย่อมต้องการน้ำสม่ำเสมอ ช่วงออกดอกติดผลจะขาดน้ำไม่ได้เลย การให้น้ำด้วยระบบน้ำหยดจะช่วยแก้ปัญหาน้ำไม่สม่ำเสมอได้ดี

* การเตรียมสารอาหารไว้ในดินปลูกอย่างเพียงพอตั้งแต่ช่วงเตรียมดินจะช่วยให้ต้นเจริญเติบโตเร็วและสม่ำเสมอดีกว่าการใส่สารอาหารภายหลัง ทั้งนี้ปริมาณสารอาหารที่จะไปหล่อเลี้ยงต้นนั้น 9 ใน 10 ส่วนไปจากดิน

* เมื่อผลโตได้ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของขนาดผลเมื่อโตเต็มที่ ควรใช้ฟางหรือหญ่าแห้งหนาๆรองผลเพื่อป้องกันผิวผลติดพื้นดิน แล้วให้กลับผลทุก 7-10 วันเพื่อให้ด้านที่ไม่ได้แสงแดดได้รับแสงแดด แล้วสีผลจะเข้มเท่ากันทั้งผล

* สังเกตผลแก่ โดยดูที่มือเกาะอันที่ใกล้ผลที่สุด เริ่มเหลืองและเริ่มแห้ง หรือนวลใบเริ่มจาง
* หลังจากเก็บผลมาแล้วปล่อยทิ้งให้ลืมต้น 2-3 วัน รสชาติจะดีขึ้น

สายพันธุ์
พันธุ์มีเมล็ด :

ฟลาวเวอร์ ดราก้อน-122.ทาร์นิการ์.ลูกผสม เอฟ-1. ตอปิโด.จินตหรา. ชาร์ลตันส์เกรย์ (ผลใหญ่ 9-10 กก.). บางช้าง. บางเบิด. เรดโคช ไฮบริด (เนื้อขาว). วานลี เอฟ-2(เนื้อขาว).

พันธุ์ไร้เมล็ด :
เยลโล เบบี้ ไฮบริด(เนื้อเหลือง). เฟ็งซาน เบอร์ 1 ไฮบริด(ผลใหญ่ 7-8 กก..นัมเบอร์วัน ไฮบริด. ซี้ดเลส. ฟาร์มเมอร์ วันเดอร์ฟูล ไฮบริด. ควอริตี้ (เนื้อเหลือง).

หมายเหตุ :
- พันธุ์ที่ไม่ได้ระบุสีคือพันธุ์เนื้อแดง
- พันธุ์ “ตอปิโด” มีคุณสมบัติทนฝนหรือปลูกหน้าฝนได้ดีกว่าพันธุ์อื่นๆ
- อายุเก็บเกี่ยวระหว่าง พันธุ์เบา-พันธุ์หนัก ต่างกันประมาณ 5-10 วันจึงไม่มีผลนักต่อแผนการปลูก
- สายพันธุ์ดั้งเดิมหรือนิยมปลูกกันมานานแล้ว เมื่อนำมาปลูกอีกสายพันธุ์มักผิดเพี้ยน เนื่องจากมีการผสมข้ามสายพันธุ์ไปมาโดยไม่รู้ตัวและไม่มีการควบคุมใดๆ

เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
1.ทดสอบความสมบูรณ์เมล็ดโดยการแช่น้ำ คัดเมล็ดลอยออกทิ้ง นำเมล็ดจมขึ้นมาขลิบปลายด้านแหลมด้วยกรรไกตัดเล็บพอให้เปลือกนอกเปิดสำหรับให้ยอดอ่อนแทงออกมาได้สะดวก จากนั้นนำลงแช่ต่อในไคตินไคโตซานหรือธาตุรอง/ธาตุเสริม (อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างรวมกัน)นาน 6-12 ชม. สารไคตินไคโตซานหรือธาตุรอง/ธาตุเสริมจะซึมเข้าสู่ภายในเมล็ดทางช่องเปลือกที่ได้ขลิบเปิดไว้ ทำให้เมล็ดได้สะสมสารอาหารไว้ในตัวเองตั้งแต่ก่อนงอกซึ่งจะส่งผลต่อต้นเมื่อโตขึ้นสมบูรณ์แข็งแรงดี

สารไคติเนส.ในไคตินไคโตซาน. มีคุณสมบัติกำจัดเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับเมล็ดพันธุ์ได้ไม่ต่างจากสารเคมี การแช่เมล็ดในสารเคมีเพื่อกำจัดเชื้อโรคเท่ากับทำให้เมล็ดสะสมสารพิษซึ่งไม่ใช่สารอาหารไว้ในตัวเองตั้งแต่ก่อนเกิดนั่นเอง

2. นำเมล็ดที่ผ่านการแช่ในไคตินไคโตซานหรือธาตุรองธาตุเสริมครบกำหนดแล้ว ห่อด้วยผ้าชื้นต่ออีก 12-24 ชม. เมื่อเห็นว่าเริ่มมีรากงอกออกมาก็ให้นำไปปลูกต่อได้

เตรียมแปลง
ปลูกลงแปลง :

1. ไถดินเปล่าให้ขี้ไถขนาดใหญ่ ทิ้งตากแดดจัด 15-20 แดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคและกำจัดเหง้าวัชพืช
2. ใส่อินทรีย์วัตถุ ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม + มูลไก่ไข่/เนื้อ + มูลค้างคาว) หมักข้ามปี.ยิบซั่มธรรมชาติ.กระดูกป่น.เศษพืชบดป่น หว่านทั่วแปลงปลูกแล้วไถพรวนอินทรียวัตถุคลุกเคล้าลงดิน

3.ไถยกร่องลูกฟูก สันร่องกว้าง 5-6 ม.โค้งหลังเต่า สูงจากพื้นระดับ 30-50
ซม. ร่องทางเดินระหว่างสันแปลงกว้าง 1 ม. ลึก 20-30 ซม.จากพื้นระดับ

4. คลุมหน้าแปลงด้วยฟางแห้งหนาๆ
5. บ่มดินโดยรดด้วย น้ำ + จุลินทรีย์หน่อกล้วยหรือปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ทุก 5-7 วัน ติดต่อกันนาน 1 เดือน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์ปรับสภาพดิน กำจัดเชื้อโรคและย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้เป็นฮิวมิค แอซิด

6. ลงมือปลูกต้นกล้าที่เพาะล่วงหน้า หรือหยอดเมล็ด

ปลูกในถุง :
- ปลูกในถุงหรือภาชนะปลูก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 18-24 นิ้ว สูง 30-50 ซม. เจาะรูด้านล่างและด้านข้างเพื่อระบายน้ำ จัดวางถุง ณ ตำแหน่งที่ต้องการปลูกให้แน่นอนมั่นคง หลังจากลงมือปลูกแล้วไม่ควรย้ายตำแหน่งวางถุงอีกเด็ดขาดเพราะอาจจะกระทบกระเทือนรากหรือเถา (ต้น)ได้ การปลูกในช่วงฤดูฝนหรือแปลงปลูกที่น้ำท่วม แนะนำให้ทำยกร้านแล้ววางถุงปลูกบนยกร้านนั้น

หมายเหตุ :
- เกษตรกรอิสราเอล ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี กับอีกหลายประเทศที่มีเทคโนโลยีการเกษตรสูงและมีความเข้าใจเรื่องพืชอย่างแท้จริง ปลูกไม้ผลตระกูลเถาอายุสั้นฤดูกาลเดียว เช่น แคนตาลูป แตงโม แตงกวา ฯลฯ ในถุง (ภาชนะปลูก) ด้วยดิน (วัสดุปลูก) ที่สามารถควบคุมชนิด/ปริมาณสารอาหาร/น้ำได้ และปลูกในโรงเรือนที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ (อิสราเอลร้อน-แล้ง.....ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี หนาว) เกษตรกรไทยไม่มีปัญหาร้อน-หนาว-แล้งจึงเหลือเพียงปัญหา “ดินหรือวัสดุปลูกและสารอาหาร” เท่านั้น การนำแนวทางบางอย่างของเกษตรกรในกลุ่มประเทศดังกล่าวมาประยุกต์ใช้บ้าง จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แนวทางเลือกแบบไทย-ไทย ต่อการปลูกไม้ผลตระกูลเถาอายุสั้นฤดูกาลเดียว คือ...

- เตรียมดินปลูกหรือวัสดุปลูกปริมาณ 1 ตัน ด้วย....เศษพืช (แกลบเก่าหรือรำหยาบ. ขุยมะพร้าว. ทะลายปาล์ม. เปลือกถั่วลิสง. ต้นถั่วหรือซังข้าวโพด. ฟาง. ฯลฯ) หลายๆ อย่างๆ ละเท่าๆกัน เพื่อความหลากหลาย บดป่นตากแห้ง 300 กก.....ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม 100 กก. มูลไก่ไข่/เนื้อ/นกกระทา 30 กก. มูลค้างคาว 5 กก.) แห้งเก่าค้างปีหมักชีวภาพ .....ยิบซั่มธรรมชาติ 50 กก. ....กระดูกป่น 10 กก. ......ฮิวมิค แอซิด 100 กรัม. ....ดินดำร่วนหน้าดินตากแห้ง 500 กก.

- เตรียมน้ำสารอาหาร จุลินทรีย์และฮอร์โมน 100 ล.ด้วย...น้ำ 100 ล.+ จุลินทรีย์หน่อกล้วย 5 ล.+ ฮอร์โมนไข่ 2 ล.+ เลือดสัตว์สด 1 ล.+ นมสัตว์สดหรือกลูโคส 1 ล.+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม (ซื้อ)1 ล.+ ยูเรีย 10 กก.

- ผสมคลุกวัสดุปลูกทุกอย่างให้เข้ากันดีพร้อมๆกับพรมด้วยน้ำสารอาหารฯ ให้ได้ความชื้น 50-75 เปอร์เซ็นต์ เสร็จแล้วทำกอง หมักทิ้งไว้ 3-6 เดือน ระหว่างหมักช่วงนี้ถ้าอุณหภูมิในกองสูงถึงขนาดมีควันลอยขึ้นมา (ถือว่าดี)ให้กลับกองบ่อยๆ แต่ถ้าอุณหภูมิไม่สูงหรือไม่มีควัน (ถือว่าไม่ดี)ให้เติมยูเรียและจุลินทรีย์แล้วหมักต่อไปตามปกติ

- อุณหภูมิในกองเย็นลงหรือหมดควันแล้ว ให้กลับกองทุก 7-10 วันเพื่อถ่ายเทอากาศ หมักครบกำหนดแล้วได้ “วัสดุหรือดินหมักชีวภาพสำเร็จรูป” พร้อมใช้งาน
- บรรจุวัสดุปลูกหรือดินปลูกที่ผ่านการหมักดีลงถุงหรือภาชนะปลูกแล้วลงมือปลูกพืช (แคนตาลูป แตง โม แตงกวา ฯลฯ) ที่ต้องการต่อไป

ระยะปลูก
ปลูกบนแปลง :

ระยะปลูก 1.5 X 1.5 ม.หรือ 1.5 X 2 ม.หรือ 2 X 2 ม.แถวคู่เสมอกัน หรือแถวคู่สลับฟันปลาคิดเป็น 1 แถว...แปลงปลูก 1 แปลงปลูกได้ 2 แถว

ปลูกในถุง :
1.เตรียมภาชนะปลูก
2.บรรจุวัสดุปลูก (ดินหมักชีวภาพสำเร็จรูป) ลงถุงให้เต็ม อัดแน่นพอประมาณ คลุมปากถุงด้วยหญ้าหรือฟางแห้งหนาๆ

การปฏิบัติอื่นๆ เหมือนการปลูกแคนตาลูปในถุง ทั้งแบบให้เลื้อยไปบนพื้นหรือเลื้อยขึ้นค้าง

ระบบให้น้ำ :
1. ติดตั้งระบบน้ำหยดสำหรับให้น้ำและสารอาหารทางรากที่ปากถุง
2. ติดตั้งระบบสปริงเกอร์พ่นฝอยเหนือต้นสำหรับให้สารอาหารและสารสกัดสมุนไพรทางใบ

หมายเหตุ :
- กรณีปลูกในแปลงแล้วไม่มีระบบน้ำหยด เมื่อต้องการให้น้ำหรือสารอาหารทางรากสามารถทำได้โดยการปล่อยน้ำไปตามร่องระหว่างแปลงปลูก แล้วเพิ่มเติมด้วยน้ำพ่นฝอยจากสปริงเกอร์เหนือต้นฉีดพ่นน้ำลงพื้นเพื่อสร้างความชื้นหน้าดิน

- กรณีปลูกในถุงไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องอาศัยสปริงเกอร์เท่านั้น แม้แต่สปริงเกอร์แบบพ่นฝอยเหนือต้นก็ไม่เหมาะ เพราะน้ำที่สัมผัสปากถุงลงไปถึงดินปลูกไม่เพียงพอ ต้องใช้สปริงเกอร์พ่นฝอยเหนือต้น 1 หัว กับติดหัวสปริงเกอร์ที่ปากถุงอีกถุงละ 1 หัวเท่านั้น

ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อแตงโม
1. บำรุงระยะต้นเล็ก
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 25-5-5 + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน

- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน

ทางราก :
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.) + 25-7-7 (1-2 กก.) ละลายน้ำให้เข้ากันดี ให้โคนต้น ให้ครั้งเดียวถึงระยะสะสมตาดอก

- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น

หมายเหตุ :
- ดินต้องมาก่อน ดินต้องพร้อมจริง ผสมดินปรุงดินแล้ว ต้อง “บ่ม หรือ มักกอง” ไม่น้อยกว่า 3-6 เดือน ....

(ส่วนผสมดิน : ดินขุยไผ่ รากไผ่มากๆ, ยิบซั่ม, ปุ๋ยอินทรีย์, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบแกลบดำ, ขุยมะพร้าวสับเล็ก, ใบก้ามปู, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง. จุลินทรีย์หน่อกล้วย, จุลินทรีย์จาวปลวก, นมสด)

- เมื่อต้นเริ่มงอกขึ้นมาจากเมล็ดได้ 2-3 ใบ ควรมีหญ้าแห้งหรือฟางคลุมโคนต้น ป้อง กันแดดเผาหน้าดิน และรักษาความชื้นหน้าดินให้คงที่อยู่เสมอ

- เริ่มให้สารอาหารทางใบเมื่อได้ใบ 2-3 ใบแล้ว
- เมื่อต้นเจริญเติบโตได้ 4-5 ใบให้ตัดยอด จากนั้นต้นจะแตกยอดใหม่ 3-4 ยอด เรียกว่า “เถาแขนง” ให้บำรุงเลี้ยงเถาแขนงนี้ต่อไปตามปกติ เมื่อเถาแขนงทั้ง 3-4 นี้ยาวขึ้นให้จัดระเบียบเลื้อยเข้าหากลางแปลงโดยไม่ทับซ้อนบังแสงแดดซึ่งกันและกัน และเตรียมความพร้อมอื่นๆ ให้ดีเพราะจะต้องเอาผลผลิตจากเถาแขนงเหล่านี้

- เมื่อเถาแขนงโตขึ้นได้ความยาว 25-30 ซม. หรือ 20-25 วันหลังปลูก หรือเริ่มมีดอกแรก ให้พิจารณาเลือกเถาแขนงสมบูรณ์แข็งแรงที่สุดไว้ 3 เถาสำหรับเอาผล ส่วนอีก 1 เถาให้เลี้ยงไว้สำหรับช่วยสังเคราะห์อาหารแต่ไม่เอาผลโดยเด็ดดอกที่ออกมาทิ้งทั้งหมด

2. บำรุงระยะออกดอก :
ทางใบ :

- ให้ 15-30-15 + สารสมุนไพร 2 รอบ
- ให้ เอ็นเอเอ. 1 รอบ ฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสมุนไพร ทุก 3 วัน

ทางราก :
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.) + 25-7-7 (1-2 กก.) ละลายน้ำให้เข้ากันดี ให้โคนต้น ให้ครั้งเดียวถึงระยะสะสมตาดอก

- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น

หมายเหตุ :
- ให้ก่อนวันเถาแขนงออกดอก 5-7 วัน
- จากเถาแขนงทั้ง 3 เถาที่เลี้ยงไว้เพื่อเอาผลนี้ เถาแขนงมักจะออกดอกพร้อมๆกัน โดยเริ่มออกดอกแรกตั้งแต่ข้อใบที่ 4-5 ซึ่งดอกชุดแรกนี้ให้เด็ดทิ้งทั้งหมด แล้วเริ่มไว้ผลแรกระหว่างข้อใบที่ 9-12 จำนวน 1 ดอก จากนั้นตามข้อใบต่อจากข้อเอาผลและข้อใบต่อๆไปจะมีดอกออกตามมาอีกทุกข้อ ก็ให้เด็ดทิ้งทั้งหมดอีกเช่นกัน ทั้งนี้ให้ไว้ผลเพียง 1 เถาแขนง/1 ผลเท่านั้น เพื่อ ให้ได้ผลคุณภาพสูงสุด

- แตงโมบางสายพันธุ์อาจจะไว้ผล 2-3 ผล/1 เถาแขนงได้ กรณีนี้ต้องไว้ผลให้ห่างกันโดยมีใบคั่นอย่างน้อย 4-5 ใบ/1 ผล การไว้ผลมากกว่า 1 ผล/1 เถาแขนง ต้องมีสารอาหารอย่างเพียงพอจึงจะได้ผลคุณภาพสูง

- นิสัยของแตงโมออกดอกเองเมื่อได้อายุ โดยต้นสมบูรณ์กว่าจะออกดอกดีกว่าต้นสมบูรณ์น้อยกว่าเท่านั้น การให้ฮอร์โมนเสริมเพียง 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ออกดอกดีและสมบูรณ์กว่าไม่ได้ให้เลย

3. บำรุง “ผลเล็ก-กลาง” :
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ + ยูเรก้า + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 5 วัน ฉีดพ่นพอปียกใบ

- ฉีดพ่นสารสมุนไพรทุก 2-3 วัน

ทางราก :
- ปลูกในแปลง ให้ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (1 ล.) +21-7-14 (1-2 กก.) ละลายเข้ากันดี ให้โคนต้น ด้วยระบบให้น้ำที่ใช้

หมายเหตุ :
- หลังจากติดเป็นผลแล้วให้จัดระเบียบเถาและใบ อย่าให้ใบบังแสงแดดต่อผล กับทั้งให้มีวัสดุ (ฟาง หญ้าแห้ง) หนาๆรองรับผล เพื่อไม่ให้ผิวผลสัมผัสผิวดิน ถ้าผิวผลสัมผัสพื้นดินอาจจะมีเชื้อโรคเข้าทำลายผิวผลได้

4. บำรุง “ผลแก่” เก็บเกี่ยว
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 0-21-74 + สารสมุนไพร 1 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ให้อย่างละ 1 ครั้ง ก่อนเก็บ 5-7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ

- ฉีดพ่นสารสมุนไพร ทุก 2-3 วัน

ทางราก :
- เปิดหน้าดินโคนต้น
- ให้ 13-13-21 ละลายน้ำแล้วผ่านไปกับระบบน้ำที่ใช้งาน

หมายเหตุ :
- ก่อนเก็บเกี่ยวถ้าให้ทางใบด้วย 0-0-50 หรือ 0-21-74 เพียง 1 รอบแล้วงดน้ำ 2-3 วัน จะช่วยให้ได้ความหวานสูงขึ้น

- ก่อนเก็บเกี่ยว 10-15 วัน สำรวจผล ถ้าด้านใดไม่ได้รับแสงแดด (สีเปลือกขาวเหลือง)ให้พลิกผลด้านนั้นขึ้นรับแสงแดด เพื่อให้สีเปลือกเป็นสีเดียวกันทั่วทั้งผล....ด้านที่สีเปลือกขาวเหลืองเนื้อในจะมีคุณภาพไม่ดี

ประสบการณ์ตรง :
แตงโมที่ปลูกแบบปล่อยเถาเลื้อยไปบนพื้นนั้น ส่วนใหญ่ 1 กอ มักให้มี 2 ยอด แล้วไว้ผลยอดละ 1 ผล/ยอด

.... ช่วงแตงโมได้อายุต้นเริ่มออกดอก บำรุงทางใบด้วย "ฮม.ไข่" ทุก 4-5 วัน จะช่วยให้แตงโมออกดอกมากขึ้น หรือให้ 1 ครั้งได้ 1-2 ดอกเสมอ .... คู่กับให้ทางรากด้วย "น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24" โดยฉีดอัดลงดินบริเวณโคนต้น ทุก 15-20 วัน

....ช่วงออกดอกแล้วควรงดการฉีดพ่นทางใบทุกชนิดช่วง 08.00-11.00 เพราะเป็นช่วงที่เกสรต้องการผสม หากฉีดพ่นอาจทำให้เกสรเปียกจนผสมไม่ติดได้

.... การช่วยผสมเกสรด้วยมือ นอกจากช่วยให้การติดเป็นผลดีแล้วยังช่วยให้เป็นผลที่คุณภาพดีอีกด้วย

.... วิธีหลอกผึ้งให้ช่วยผสมเกสร เช้าราว 08.00 แดดจัดฟ้าสดใส ผึ้งจะออกหากินในแปลงแตงโม จงเดินเข้าไปทางหัวแปลงก่อน ถือกิ่งไม้ 2 มือ กางแขน 2 ข้าง ก้าวเดินช้าๆพร้อมกับโบกกิ่งไม้เบาๆ ผึ้งเห็นกิ่งไม้โบกไปมาจะบินขึ้นแล้วบินไปเกาะดอกแตงโมข้างหน้าใหม่ ก็ให้เดินช้าๆตามไปอีกสัก 3-5 ก้าว เท่ากับระยะที่ผึ้งบินไปก่อนล่วงหน้า โบกกิ่งไม้อีก ผึ้งก็จะบินขึ้นหนีไปข้างหน้าอีก ทำซ้ำไปเรื่อยๆหลายๆ รอบ จนสุดแปลงแล้วย้อนทำซ้ำ ตราบเท่าที่ผึ้งยังไม่หนีไปไหน

.... เถาเดียวที่มีหลายผล ควรเว้นระยะ 1 ผล /7-8 ใบ เพื่อให้แต่ละผลมีใบสำหรับสังเคราะห์อาหาร เทคนิคไว้ผลแบบนี้ต้องเด็ดดอกทิ้งตั้งแต่ออกมาใหม่ๆ โดยเลือกเด็ดทิ้งกับเลือกเก็บไว้

.... เถาเดียวมีหลายผล ระหว่างผลต่อผลให้ทำไม้โค้งงอรูปตัว ยู. กดเถาบริเวณข้อให้แนบผิวดินแล้วคลุมทับด้วยเศษดิน เศษหญ้าแห้ง ไม่นานที่ข้อจะมีรากงอกออกมา รากนี้จะดูดซับสารอาหารไปเลี้ยงผลที่อยู่ถัดไปทางปลายเถา ควรทำต่อทุกผล จะทำให้แต่ละผลมีรากส่วนตัวแทนที่จะรอรับสารอาหารจากรากที่โคนเถาเพียงรากเดียว

แตงโมไร้เมล็ด :
1. ปลูกแตงโม พันธุ์ไร้เมล็ด สลับแถวหรือสลับต้นกับ พันธุ์มีเมล็ด ลงไปก่อน การบำรุงต้นทั้งสองสายพันธุ์ เช่น เด็ดยอด - เลี้ยงยอด - ไว้ดอก เหมือนกันตามปกติ

2. เมื่อได้ดอกของทั้งสองสายพันธุ์แล้วให้นำ เกสรดอกตัวผู้ของต้นพันธุ์มีเมล็ดไปผสมให้กับ เกสรดอกตัวเมียของต้นพันธุ์ไร้เมล็ด ด้วยวิธี "ต่อดอก" ตามปกติ

3. เมื่อเกสรของดอกตัวเมียจากต้นพันธุ์ไร้เมล็ด ได้รับการผสมจากละอองเกสรตัวผู้ของต้นพันธุ์มีเมล็ดแล้ว ผลที่เกิดมาจะไร้เมล็ดตามดอกต้นแม่

หมายเหตุ :
- แตงโมไร้เมล็ดมีเมล็ดพันธุ์โดยเฉพาะจำหน่าย แต่ราคาแพงกว่าแตงโมมีเมล็ด
- การปฏิบัติบำรุงทุกขั้นตอนต่อแตงโมไร้เมล็ดเหมือนแตงโมมีเมล็ดทุกประการ
- แตงโมไร้เมล็ดไม่ได้หมายความว่าไม่มีเมล็ดเลยแม้แต่เมล็ดเดียว เพียงมีเมล็ดสีน้ำตาลน้อยมากและขนาดเล็ก เมล็ดส่วนใหญ่จะเป็นเมล็ดสีขาวอ่อนนิ่ม เคี้ยวรับประทานได้เลย

***** การปฏิบัติบำรุงทุกขั้นตอนเหมือนแตงโมกินเนื้อทุกประการ *****

--------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©