-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 5 พ.ค. * ข้าวโพดคนกิน - ตลาดโลก
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 5 พ.ค. * ข้าวโพดคนกิน - ตลาดโลก
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 5 พ.ค. * ข้าวโพดคนกิน - ตลาดโลก

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 04/05/2022 4:40 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 5 พ.ค. * ข้าวโพดคนกิน - ตลาดโลก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 5 พ.ค.

***********************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า

ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ..... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม(ขาล่อง) แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ...... ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก

** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 7 พ.ค. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประะจันต์ สุพรรณบุรี

ทุกงานสัญจร ....
ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....
แจก ! .... กับดักแมลงวันทอง


****************************************************************
****************************************************************

จาก : (098) 446-91xx
ข้อความ : แนวโน้มข้าวโพดคนกิน ตลาดโลกจะไปทางไหนครับ

จาก : (082) 724-16xx
ข้อความ : วันนี้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ขอวิธีบำรุงสไตล์ข้าวโพดหวาน

จาก : (085) 473-16xx
ข้อความ : ข้าวโพดคนกินมีกี่พันธุ์คะ
ตอบ :

คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม :


บ่น :
- ในโลกนี้ อาชีพที่มนุษย์ทำมี 2 อย่าง คือทำ “ของกิน (เกษตรกรรม)” กับ “ของใช้ (อุตสาหกรรม)” .... ประเทศที่ทำของใช้ได้แต่ทำของกินไม่ได้เพราะพื้นที่ทำของกินจำกัด ในขณะที่ บางประเทศทำของกินได้แต่ทำของใช้ไม่ได้ เพราะพื้นที่ไม่จำกัด

ในเมื่อประเทศทำของใช้ต้องกิน จึงต้องขายสิ่งที่ทำคือ ขายของใช้แล้วเอาเงินมาซื้อของกิน

สัจจะธรรมโลก ในเมื่อประเทศไทยทำได้ทั้ง ของกิน/ของใช้ จึงน่าจะทำทั้งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม นั่นคือ “เกษตรอุตสาหกรรม” โดยนำผลผลิตทางเกษตรกรรมมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้ครบวงจร ต้นน้ำ/กลางน้ำ/ปลายน้ำ ทำให้ได้เกรดซูพรีม/พรีเมียม/เกรด เอ./จัมโบ้/คิวซี/คิวอาร์/จีเอพี/จีเอ็มพี/โกอินเตอร์/ขึ้นห้าง/ออกนอกฤดู/สีสวยสด/รสจัดจ้าน/ปลอดสารเคมี/ฯลฯ

ผลผลิตต่อไร่ :
ข้าวโพดหวาน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,800 กก./ไร่
ข้าวโพดฝักอ่อน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,500 กก./ไร่
ข้าวโพดข้าวเหนียว ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,600 กก./ไร่
ข้าวโพดเทียน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,600 กก./ไร่

แนวโน้มในอนาคตของข้าวโพดฝักสด :
1. เป็นพืชที่มีศักยภาพในการแข่งขันการส่งออกสูงเพราะข้าวโพดฝักสดสามารถแปรรูปผลผลิตได้หลายรูปแบบ สามารถส่งออกได้ทั้งในตลาดยุโรป อเมริกา อาฟริกา นอกจากนี้ ตลาดภายในประเทศก็มีความต้องการบริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมเมือง

2. การส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวโพดฝักสดไม่มีปัญหาทางด้านโภชนาการ เนื่องจาก ในขั้นตอนการผลิตมีการใช้สารเคมีน้อย ส่งผลให้ผลผลิตที่ได้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคสูง เพราะไม่มีสารพิษตกค้าง หรือมีน้อยมาก

3. เป็นพืชที่มีศักยภาพการผลิตสูง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ง่ายเพราะเป็นพืชระยะเวลาการผลิตสั้น (ใช้ระยะเวลาเพียง 45-50 วัน สำหรับข้าวโพดฝักอ่อน และ 70-75 วัน สำหรับข้าวโพดหวาน) และสามารถปลูกได้ตลอดปี ดูแลรักษาง่าย ให้ผลผลิตสูงมีความเสี่ยงต่ำ ใช้สารเคมีน้อย การเพิ่มคุณภาพและผลผลิตสามารถทำได้โดยใช้พันธุ์และวิธีการผลิตที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นพืชที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรในชนบท โดยเฉพาะในเขตที่มีน้ำชลประทาน

4. เป็นพืชที่มีศักยภาพในการนำไปผลิตเป็นพืชอินทรีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพดฝักอ่อนและข้าวโพดหวาน เพราะเป็นพืชที่มีแมลงศัตรูน้อย นอกจากนี้ พันธุ์ที่ใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่มีความต้านทานโรคที่สำคัญได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพดฝักอ่อน

ตลาดและผลตอนแทน :
ข้าวโพดหวานประมาณร้อยละ 50 ที่ผลิตได้ในประเทศไทยจะถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานเพื่อส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ เช่น ในปี 2548 คิดเป็นประมาณ 109,774 ตัน มูลค่า 3,200 ล้านบาท ซึ่งจัดอยู่ในลำดับที่ 4 ของประเทศผู้ส่งออกข้าวโพดหวานในตลาดโลกข้าวโพดหวานและข้าวโพดฝักอ่อนที่เก็บส่วนของฝักออกไปใช้ประโยชน์แล้วส่วนของต้นและใบยังคงเหลือในแปลงรวมไปถึงกาบหุ้มฝัก ไหม ช่อดอกตัวผู้ของข้าวโพดฝักอ่อนและ ซังข้าวโพดที่เหลือจากโรงงานอุสาหกรรมยังสามารถนำเป็นอาหารสัตว์ได้ดี

ปัจจุบัน ความต้องการข้าวโพดหวานของโรงงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นผลให้ในปี ในปี พ.ศ. 2549 ประเทศไทยส่งออกข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องเป็นปริมาณ 125,308 ตัน มูลค่า 4,291.0 ล้านบาท และส่งออกข้าวโพดหวานแช่แข็งปริมาณ 4,730 ตัน มูลค่า 166.6 ล้านบาท โดยเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดหวานกระป๋องอันดับ 1ของโลก


สายพันธุ์ :
พันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียว, พันธุ์ข้าวก่ำหวาน, พันธุ์ข้าวเหนียวหวาน, พันธุ์สำลีอีสาน, พันธุ์ข้าวเหนียวข้าวก่ำ, พันธุ์หวานดอกคูน, พันธุ์เทียนสลับสี, พันธุ์เทียนลาย, พันธุ์เทียนเหลือง, พันธุ์เทียนขาว

ลักษณะทางธรรมชาติ :
* เป็นพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว ต้องการน้ำสม่ำเสมอเหมือนผักสวนครัว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้น้ำ ทุก 2-3 วัน ซึ่งต่างจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ต้องการน้ำน้อยพอน้าดินชื้นเท่านั้น

* ดอกตัวผู้ของข้าวโพด เรียกว่า ดอกยอด อยู่ที่ปลายยอดของต้น ส่วนดอกตัวเมี เรียกว่า "ไหม" อยู่ที่ปลายฝักของแต่ละฝัก.... ดอกตัวผู้เกิดก่อนดอกตัวเมีย 7-10 วัน

* แช่เมล็ดพันธุ์ใน "โบรอน" เมื่อนำไปปลูกจะให้ "ดอกยอด" มากกว่าปกติ 2-3 เท่า
* จังหวะที่เกสรดอกตัวผู้พร้อมผสมมักตรงหรือใกล้เคียงกับเกสรตัวเมียของฝักแรก กับช่วงต้นๆของฝักที่ 2 เท่านั้น ครั้นดอกตัวเมียของฝักที่ 3 หรือ 4 ออกมาจึงไม่มีละอองเกสรตัวผู้เข้าผสม ทำให้ฝักที่ 3 หรือ 4 ไม่ติดเป็นฝัก

* แนวทางแก้ไข คือ หลังจากหยอดเมล็ดข้าวโพดรุ่นแรกไปแล้ว 10-15 วัน ให้หยอดเมล็ดรุ่นที่ 2 หรือรุ่นที่ 3 อีกรุ่นก็ได้ โดยให้แต่ละรุ่นห่างกัน 7-10 วัน ทั้งนี้เพื่ออาศัยเกสรตัวผู้ของต้นรุ่นหลังไปผสมด้วยมือให้แก่ฝักที่ 2-3-4 ของต้นรุ่นแรกนั่นเอง

ปลูกข้าวโพดรุ่น 2-3 เพื่อเอาเกสรตัวผู้นี้ ใช้วิธีปลูกแซมแทรกระหว่างต้นรุ่นแรก กระจายทั่วแปลงปลูกโดยเฉพาะด้านเหนือลม เพื่ออาศัยสายลมช่วยพัดละอองเกสรส่วนหนึ่ง กับช่วยผสมด้วยมืออีกส่วนหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ต้นรุ่น 2-3 ก็สามารถเอาฝักได้เพราะมี ฝัก+ เกสรตัวเมีย เช่นกัน สำคัญแต่ว่าจะหาละอองเกสรตัวผู้จากที่ไหนมาช่วยผสมด้วยมือให้เท่านั้น

กรณีที่ไม่ได้ปลูกต้นข้าวโพดต่างรุ่นไว้ในแปลงปลูกของตนเอง ก็อาจจะขอแบ่งปันจากแปลงข้างเคียงก็ได้แต่ต้องเป็นข้าวโพดสายพันธุ์เดียวกันมาใช้ช่วยผสมด้วยมือแทนก็ได้

* ตรวจสอบลักษณะเกสรตัวผู้ที่พร้อมผสมโดยเคาะเบาๆใส่แผ่นกระดาษแล้วมีละอองเกสรร่วงลงมา และตรวจสอบลักษณะเกสรตัวเมียที่พร้อมผสมโดยสัมผัสเบาๆ
ด้วยปลายนิ้วมือ ถ้าเป็นยางเหนียวติดปลายนิ้วแสดงว่าพร้อมผสมแล้ว

* วิธีช่วยผสมด้วยมือ ให้ตัดก้านดอกยอดเบาๆ นำไปป้ายเบาๆใส่ให้กับไหมที่ปลายฝัก 2-3 รอบ (เหมือนผสมเกสรสละ) หรือเคาะละอองเกสรตัวใส่กระบอกพลาสติกแห้งสะอาด ผสมกับแป้งทาตัวเด็ก อัตราส่วน 1: 1 แล้วใส่ในกระบอกฉีดพ่นเกสร (เครื่องฉีดละอองเกสรทุเรียน) นำไปฉีดพ่นใส่ไหมที่ปลายฝักก็ได้ ทั้งนี้ไหมของฝักใดได้รับละอองเกสรดอกยอดก็จะติดเป็นฝักสมบูรณ์และไม่เป็นข้าวโพดฟันหลอได้ทุกฝัก

* ข้าวโพดมีเมล็ดไม่เต็มฝัก เรียกว่า "ฟันหลอ" เกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น เกสรตัวเมียกับเกสรตัวผู้ (ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย) ไม่สมบูรณ์แข็งแรงแล้วผสมกัน หรือเกสรตัวผู้หมดอายุ หรือสภาพอากาศไม่เหมาะสม (ร้อน/ชื้น) หรือขาดสารอาหาร

* ธรรมชาติชาติข้าวโพดทุกสายพันธุ์ออก ฝัก + ดอก ได้ต้นละหลายๆฝัก ตราบเท่าที่ได้รับสารอาหารกลุ่ม สร้างดอก-บำรุงผล อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ก่อนฝักแรกจนถึงฝักสุดท้าย

* แปลงปลูกที่ผ่านการเตรีมดินมาอย่างดี ปฏิบัติต่อเนื่องมาหลายๆรุ่นปลูก กับต้นข้าวโพดที่ได้รับการบำรุงด้วยธาตุอาหารครบถ้วนสม่ำเสมอ เมื่อต้นนั้นโตขึ้นจะมีกิ่งแขนงงอกออกมาตามข้อ แต่ละกิ่งแขนงสามารถออกดอกแล้วติดเป็นฝักคุณภาพดีได้

* การจัดระยะปลูกห่าง ลมพัดผ่านเข้าไปในใจกลางแปลงได้ทั่วถึง ใบไม่เกยทับซ้อนกันและรับแสงแดดได้เต็มที่ จะได้ผลผลิตทั้งปริมาณและคุณภาพเหนือกว่าแปลงที่ปลูกชิดกันมาก

* ข้าวโพดหวานที่เกิดจากการผสมพันธุ์ในพื้นที่หนึ่ง เมื่อนำไปปลูกในอีกพื้นที่หนึ่งซึ่งภูมิอากาศค่อนข้างแตกต่างกัน คุณภาพผลผลิตมักจะแตกต่างกันด้วย ดังนั้น จึงควรใช้เมล็ดพันธุ์ที่เกิดจาการผสมพันธุ์ในพื้นที่ใกล้เคียง หรือแหล่งสร้างเมล็ดพันธุ์ที่มีสภาพภูมิอากาศคล้ายคลึงกัน

* เก็บเกี่ยวข้าวโพดหวานช่วงเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นแล้วนำไปนึ่งทันทีจะได้รสชาติของข้าวโพดหวานดีมาก หากต้องการเก็บไว้นานหลังเก็บเกี่ยวเมื่อเก็บเกี่ยวมาแล้วควรเก็บในที่เย็น (ตู้เย็น) ซึ่งความหวานจะลดลงน้อยกว่าการเก็บในที่แจ้ง......ข้าวโพดหวานนึ่งให้รสชาติดีกว่าการต้ม

* เมื่อต้นโตได้ความสูงประมาณ 1 ม. หรือเริ่มมีรากเหนือพื้นดินงอกออกมาจากข้อเหนือพื้นดิน ให้ เอ็นเอเอ. 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน ระบบรากเหนือพื้นดินจะเจริญเติบโต สมบูรณ์ แข็งแรง ดีมาก

นอกจากนี้ยังทำให้ข้าวโพดต้นนั้นแตกยอกจากข้อแล้วพัฒนาเป็นกิ่ง ซึ่งกิ่งนี้สามารถออกฝักได้เหมือนลำต้นประธาน และเมื่อบำรุงดี ฝักจากกิ่งนี้ก็จะเจริญพัฒนาเป็นฝักสมบูรณ์ได้เช่นกัน

เตรียมดิน :
1. เริ่มจากไถดินตากแดดจัด 15-20 แดดเพื่อกำจัดเชื้อโรคและวัชพืช ระหว่างตากแดด ถ้ามีฝนตกต้องไถดินใหม่และเริ่มตากแดดใหม่
2. ใส่อินทรีย์วัตถุและสารปรับปรุงบำรุงดิน (ปุ๋ยคอก. เศษพืชแห้ง.)
3. ไถด้วยโรตารี่คลุกอินทรีย์วัตถุกับเนื้อดินให้เข้ากันดี
4. คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้งหรือฟางหนาๆ
5. บ่มดินโดยรดด้วยน้ำจุลินทรีย์หรือปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ทุก 15 วัน ติดต่อกันนาน 1-2 เดือน

เตรียมแปลง :
- ยกร่องแห้งลูกฟูก สันร่องสูง 30-50 ซม.โค้งหลังเต่า กว้าง 1-1.20 ม. ร่องระหว่างสันแปลงกว้าง 1 ม. ลึกจากพื้นระดับ 25-30 ซม. ก้นสอบ

เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
- เมล็ดพันธุ์ที่เคลือบสารเคมีกำจัดโรคให้ล้างน้ำจนสารเคมีนั้นออกให้หมดก่อน ส่วนเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้เคลือบสารเคมีไว้ก่อนให้ดำเนินการได้เลย

- นำเมล็ดแช่ในน้ำเปล่า คัดทิ้งเมล็ดลอย เก็บไว้เฉพาะเมล็ดจม
- นำเมล็ดจมที่เลือกได้ลงแช่ใน น้ำ + โบรอน (10 PPM) นาน 6-12 ชม. นำขึ้นผึ่งลมจนแห้ง แล้วจึงนำไปหยอดในแปลงจริง เมื่อโตขึ้นจะมีเกสรตัวผู้เพิ่มขึ้น 100-200 % เหมาะสำหรับแปลงปลูกเพื่อสร้างเมล็ดพันธุ์

ระยะปลูก :
- ระยะปกติ 75 X 75 ซม.
- ระยะชิด 50 X 75 ซม.

วิธีปลูก :
- หยอดเมล็ดหลุมละ 2-3 เมล็ด หลังจากต้นกล้าได้ 2-3 ใบ ถอนแยกต้นไม่สมบูรณ์ทิ้ง เหลือต้นที่สมบูรณ์ไว้ 1-2 ต้น การเหลือต้นสมบูรณ์ไว้ 2 ต้น/1 หลุมให้พิจารณาระยะห่างจากต้นข้างเคียง ถ้ามีพื้นที่ว่างระหว่างต้นพอก็ให้ไว้ 2 ต้นได้

- รองก้นหลุมด้วย กากสะเดาแห้ง หรือใบสาบเสือแห้ง หรือใบยูคาแห้ง บดละเอียดหลุมละ 1 กำมือ คลุกเคล้าให้เข้ากันดีกับดินก้นหลุม เพื่อป้องกันแมลงกัดกันเมล็ดพันธุ์

ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อข้าวโพด (ทุกสายพันธุ์) :
ระยะต้นเล็ก :
ทางใบ :
ให้ไบโออิ + ยาน็อค 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน

ทางราก : ให้น้ำพอหน้าดินชื้น ทุก 2-3 วัน

ระยะออกดอก :
ทางใบ :
ให้ไทเป + ยาน็อค ทุก 5 วัน ฉีดพ่นตอนสายๆ
ทางราก : ให้สูตรเดิมเหมือนช่วงต้นเล็ก
หมายเหตุ :
- เริ่มให้ก่อนออกดอกยอด 5-7 วัน กระทั่งดอกยอดออกแล้ว เริ่มมีฝักแล้ว ยังให้ต่อ ทุก 5-7 วัน จะได้จำนวนฝักเพิ่มขึ้นเป็นต้นละ 2-3 ฝัก

ระยะติดฝัก :
ทางใบ :
ให้ ยูเรก้า + ไบโออิ + ยาน็อค 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน ฉีดพ่นตอนสายๆ

ทางราก : ให้สูตรเดิมเหมือนช่วงออกดอก
หมายเหตุ :
- ไบโออิ เริ่มให้ต้นแต่ระยะต้นเล็ก ช่วยบำรุงต้นให้มีความสมบูรณ์สูง ส่งผลให้การออกดอกติดฝักดี
- ยูเรก้า บำรุงขยายขนาดฝัก เมื่อฝักโตเต็มที่จะเห็นเนื้อใหญ่ทะลุเปลือกออกมาให้เห็น
- แคลเซียม โบรอน ช่วยให้ฐานเมล็ดฝักสูง ใช้มีดเฉือนเนื้อข้าวโพดจะไม่มีเนื้อเหลือติดที่ฝัก ทำให้ได้ปริมาณเนื้อเมล็ดข้าวโพดมากกว่าเดิม 10-15% กับทั้ง กลิ่น/รส ข้าวโพดดีกว่าเดิมด้วย

- ยาน็อค สารสมุนไพร ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืช ทั้งป้องกันก่อนเข้ามา และกำจัดเมื่อเข้ามาแล้ว
- แม็กเนเซียม. สังกะสี. แคลเซียม โบรอน. ฮอร์โมน. ในปุ๋ยที่ให้ทางใบกับในปุ๋ยระเบิดเถิดเทิงให้ทางดิน ช่วยสร้างภูมิต้นทานสู้กับศัตรูพืชได้ทุกรูปแบบ



ยูเรก้า. ไทเป. ไบโออิ. ไซส์ 5 ล.


ระเบิดเถิดเทิง 5 ล.


แคลเซียม โบรอน 5 ล.


ยาน็อค 1 ล.
-----------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©