-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนักนครปฐม(๒) * สะเดา ไม้ใช้สอย
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนักนครปฐม(๒) * สะเดา ไม้ใช้สอย
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนักนครปฐม(๒) * สะเดา ไม้ใช้สอย

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 19/09/2022 4:50 pm    ชื่อกระทู้: เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนักนครปฐม(๒) * สะเดา ไม้ใช้สอย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 20 ก.ย.

***********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ
เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้าถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน .............. ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ............ ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ............ ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ............... ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปา ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน .......... ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด


- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 24 ก.ย. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก กาญจนาภิเษก.... งานนี้ ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....


*****************************************************************************
*****************************************************************************


เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนัก ถ.เพชรเกษม (ขาล่อง) นครชัยศรี นครปฐม 17 ก.ย. (๒)

สมช. :
ลุงครับ ถามหน่อยว่า ปลูกไม้ยืนต้น ทำไม้ซุงไม้กระดาน ที่ราชการไม่ห้าม เพราะไม่ผิดกฎหมาย มีไหมครับ ?
ลุงคิม. : มีซี่ ไม้คือไม้ แต่เปลี่ยนเป็นทองได้

สมช. : ครับ จริงครับ
ลุงคิม. : ไม้ทุกอย่าง ทั้งไม้ยืนต้นอายุร้อยปี ไม่ล้มลุกอายุปีเดียว ไม้คือไม้อย่างที่ว่า แต่ไม่ยืนต้น ตอนที่ยังอยู่บนดินคือต้นไม้ แต่ที่ล้มลงนอนราบแล้วเรียกไม้ซุง แต่ถ้าแปรรูป ทำเป็นอั่ยนั่นอั้ยนี่แล้ว เรียกว่าสินค้า นี่แหละทองละ

สมช. : ครับ ผมสนใจไม้ซุงแปรรูปเป็นไม้กระดานโดยไม่ผิดกฎหมายน่ะครับ
ลุงคิม. : มี เยอะด้วย ไม้สัก. ไม้พยุง. ต้องปลูกเลี้ยงอายุต้นร้อยปี จะตัดทีต้องขออณุญาติ แต่สนประดิพัทธ์. ยูคาลิปตัส. ตะกู. สัตตบรรณ. มะม่วง. ขนุน. ก้ามปู. ปลูกเลี้ยงแค่สิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี เอามาใช้งานได้แล้ว ไม่ต้องขออณุญาติ เพียงแต่จะใช้งานทำอะไร

สมช. : จริงครับ ผมสนใจมากไม้สะเดาครับ
ลุงคิม. : พื้นที่จะปลูกกี่ไร่ล่ะ ?

สมช. : 20 ไร่ครับ ที่ว่าง ตอนนี้ปล่อยหญ้าให้ข้างบ้านเลี้ยงวัวกันน่ะครับ
ลุงคิม. : ก็ดี เกมส์นี้ไม่ได้จบแค่ไม้ซุงเป็นท่อนๆ ไม้กระดานเป็นแผ่นๆ เท่านั้น ที่บอกว่าจากไม้เป็นทองน่ะ หมายถึง แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำเป็นฟอร์นิเจอร์ เป็นของใช้ประดับบ้าน ในบ้าน นอกบ้าน อืมมมม เรื่องไม้แปรรูปนี่ ทั่วโลกสนใจอยู่นะ สำคัญแต่เรา ออกแบบเป็นแบบไทยๆ หรือแบบสากลทั่วโลกล่ะ

สมช. : ครับ จริงครับ
ลุงคิม. : ลุงอยากให้คุณหาข้อมูลการตลาดไม้แปรรูปดีๆก่อน ทั้งในประเทศต่างประเทศ ตลาดที่น่าสนใจ น่าจะเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือร้านขายเฟอร์นิเจอร์เครื่องประดับบ้านนะ .... ว่าแต่งานนี้คุณมีหัวออกแบบ คนมีฝีมือทำประดิษฐ์ คนมีหัวการค้าด้านตลาด

สมช. : ครับ จริงครับ พอมีครับ
ลุงคิม. : ให้ทีมงาน คนที่มีหัวออกแบบ คนมีฝีมือทำ คนมีหัวการตลาด เปิดอินเตอร์เน็ตซี่ นั่นแหละที่ปรึกษาอย่างดีเลย .... อืมมม พูดถึงการออกแบบ งานศิลปะน่ะไม่มีสูตรสำเร็จนะ งานชิ้นเดียวกันใช้วัสดุไม้หลายๆอย่าง มันจะสร้างความรู้สึกที่เรียกว่าหลากหลายกับคนซื้อได้

สมช. : ครับ จริงครับ
ลุงคิม. : แม้แต่วัตถุดิบที่เป็นไม้ วันนี้ไม้เราไม่มี หาไม้จากแหล่งอื่นซี่ แม้แต่ไม้ที่รัฐบาลมีกฎหมายควบคุมก็ใช้ได้ ยอมลงทุนหน่อย

สมช. : ครับ จริงครับ
ลุงคิม. : โอ.เค. ถึงจุดนี้มีอะไรปรึกษาอีกไหม ปรึกษานะไม่ใช่ถาม

สมช. : มีแน่ครับ แต่วันนี้ยังคิดไม่ออก โอกาสหน้าผมต้องมาหาคุณลุงอีกแน่นอนครับ วันนี้ได้ไอเดียร์มากๆเลย ยอมรับคุณลุงยอดไอดอลครับ
ลุงคิม. : งั้นเหรอ


คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม :

เมื่อหลายสิบปี (เน้นย้า....หลายสิบปี) ประเทศไทยเคยส่งออกไม้ใช้สอย มีรายได้จากการเข้าประเทศอันดับต้นๆ ถึงวันนี้ประเทศไทยต้องระงับการส่งไม้ออก แล้วกลับเป็นประเทศนำเข้าไม้จากต่างประเทศ (พม่า อินโดเนเซีย ลาว เขมร) แทน

ความต้องการไม้ใช้สอยของตลาดต่างประเทศทั่วโลกในปัจจุบันเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมาก เพียงแค่ดูจากการลักลอบส่งออกไม้ก็จะเห็นชัดแล้ว

ด้วยเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มีน้ำยาเคมีหลายชนิดช่วยรักษาเนื้อไม้ให้อยู่ได้นานขึ้น เนื้อไม้แข็งขึ้น หรือดีขึ้นกว่าการเป็นเพียงไม้เนื้ออ่อนธรรมดาๆ

การก่อสร้างใดๆเกือบทุกชนิดที่เคยใช้ไม้เป็นวัสดุ โดยเฉพาะไม้เนื้อแข็ง เช่น สัก. ตะเคียน. เต็ง. ยาง. ฯลฯ ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นใช้ "พลาสติก-เหล็ก-กระดาษ" แทน เนื่องจากไม้มีราคาแพงและหายาก

ปัจจุบันสิ่งของเครื่องใช้ภายในอาคาร เช่น ตู้ โต๊ะ และเฟอร์นิเจอร์ภายในเกือบทุกชนิด ต้องเปลี่ยนมาใช้ "ไม้เนื้ออ่อน" แทน แม้จะเป็นไม้เนื้ออ่อน การที่ไม้เหล่านี้อยู่ในร่ม ไม่ได้สัมผัสกับ แดด-ลม-ฝน บางครั้งกลับอยู่ในที่ควบคุมอุณหภูมิ (เครื่องปรับอากาศ) อีกด้วย จึงมีทำให้มีอายุใช้งานได้นานไม่ต่างจากไม้เนื้อแข็ง

ด้วยความเป็นไม้ที่สะท้อนถึงความเป็นธรรมชาติที่แท้จริง แม้จะเป็นไม้เนื้ออ่อนแต่ก็มีลวดลายของไม้ปรากฏ สถาปนิกหรือนักออกแบบได้ดีไซน์รูปแบบอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆภายในอาคารให้ดูดี มีคุณค่าขึ้นมาได้

วันนี้หลายคนเคยเห็นหรือเคยขาย จะมีรถเล่ตระเวนไปตามหมู่บ้านแล้วเจรจาขอ "ตัด/ซื้อ" ต้นขนุน มะม่วง ในบ้าน ด้วยราคาและเงื่อนไขที่เจ้าของบ้านรับได้ ไม้เหล่านี้ คนรับซื้อเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ภายในอาคาร

ไม้สะเดา เช่นเดียวกับไม้อื่นๆ เช่น สนประดิพัทธ์. ยูคาลิปตัส. ตะกู. สัตตบรรณ. มะม่วง. ขนุน. ก้ามปู. ไม่ใช่ไม้หวงห้ามตามกฏหมาย ผู้ปลูกจึงสามารถตัดเองได้โดยไม่ต้องขออณุญาติจากทางราชการ

ถ้า (เน้นย้ำ...ถ้า/IF) ลุงคิมมีที่ดิน 100 ไร่ จะลงไม้ใช้สอยโตเร็ว สะเดา-สน-ก้ามปู- (ตามลำดับความชอบ) ซัก 90 ไร่ที่เหลือ 10 ไร่ แบ่งเป็น แหล่งน้ำ+บ้านเรือนแพ 1 ไร่, ก้านยาว+หวานป่า 3 ไร่, มะม่วงกินดิบระยะชิดพิเศษ 3 ไร่, โรงงาน 1 ไร่ รวมเป็น 8 ไร่ อีก 2 ไร่ที่เหลือเป็นที่สันทนาการ/รับแขก/ทำกิจกรรม

BUSINESS MODEL ......
- ไม้ 1 ต้น ความสูง 8 ม. ตัดลงมาเป็นซุงได้ 7 ม. เหลือตอติดพื้น 1 ม.
- ไม้ซุง 7 ม. ตัดหัวท้ายข้างละ 50 ซม. เหลือท่อนซุง 6 ม.
- ท่อนซุง 6 ม. ทำไม้กระดาน หนา 1 นิ้ว กว้าง 12 นิ้ว ยาว 6 ม. (ราคาดีสุด)
- ท่อนซุงก่อนทำไม้กระดานมีไม้ปีก เอามาทำปาเก้
- ปลายท่อนซุงที่ตัดหัวท้ายข้างละ 50 ซม. เอามาทำปาเก้
- รากแก่ในดิน กิ่งขนาดใหญ่ เอามาทำปาเก้
- ทำเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป เน้นออกแบบสไตล์ประเทศที่ส่งออก หรือรับทำตามออร์เดอร์ ทั้งในและต่างประเทศ
- ตอติดพื้น ตัดขวางเป็นหน้าเขียงหนา 1 นิ้ว ทำโต๊ะมุมห้องในอาคาร
- กิ่งเล็กกิ่งน้อย ใบ ขี้เลื่อย เศษไม้ บดละเอียดแล้วอัดทำกระดาน หรือทำปุ๋ยอินทรีย์ หรือเพาะเห็ด
- เนื้อที่ 1 ไร่ ลงครั้งแรก 2 x 2 ม. = 200 ต้น เลี้ยงไปก่อน 2-3 ปี ต้นโตเริ่มเบียดกัน ให้ตัดออกต้นเว้นต้น เหลือ 100 ต้น เลี้ยงต่อจนโตเต็มที่ ..... ต้นที่ตัดออก พิจารณานำไปใช้ประโยชน์ตามความเหมาะสม

- การปลูกชิดกัน เพื่อให้ต้นแข่งกันพุ่งขึ้นบนเพื่อแย่งแสงแดด แบบนี้จะทำให้ลำเปล้า (ต้น) ตรง-สูง และทิ้งแขนงเล็กเอง
- ติดสปริงเกอร์ ให้ "น้ำ + ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10" ทุก 2 เดือน จะช่วยให้ต้นโตเร็วกว่า "โตตามธรรมชาติ" 2-3 เท่า ด้วยอายุต้นเท่ากัน นั่นหมายความว่า อายุต้น 10 ปี เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 10 (+) นิ้ว

- เมื่ออายุต้น 4-5 ปีแล้ว จัดรอบการบำรุงโดยรอบปี 12 เดือน ให้ "น้ำ + ปุ๋ยน้ำชีวภาพ" 8 เดือน ๆละครั้ง ครั้นถึงเดือน ม.ค. เริ่มเข้าสู่ช่วงแล้ง เอาไฟเผาหญ้าโคนต้น พอให้ต้นรู้สึกร้อน แล้วปล่อยให้อยู่กับแล้งจนถึงเดือน เม.ย. จึงระดมให้น้ำใหม่ต้นจะแตกยอดใหม่ เจริญเติบโตต่อ ..... ช่วงที่งดน้ำ 4 เดือนนั้น ต้นสะเดาจะสร้างลายในเนื้อไม้

- หลังจากเหลือระยะ 4 x 4 ม. แล้ว ปลูกพืช แซม/แทรก ประเภทต้องการแสงแดดน้อย

2. เมล็ดพันธุ์ที่ใช้ปลูก เก็บเอาเมล็ดจากสายพันธุ์ที่มีในท้องถิ่นดีไหม หรือมีสายพันธุ์ไหนที่ตลาดต้องการอยากให้ลุงแนะนำครับ

เมล็ดพันธุ์ไปคอยเก็บเอาตามต้นที่ทางหลวงปลูกไว้ข้างทางนั่นแหละ เอาพันธุ์นี้นี่แหละ ง่ายๆ ปลูกไปเถอะ เรื่องสายพันธุ์สะเดาไม่สำคัญ สำคัญที่จะทำยังไงให้มันโตเร็วๆ อายุต้น 10 ปี ให้ได้น้องๆคนโอบ

เมล็ดสะเดาไม่มีระยะพักตัว ได้เมล็ดมาแล้วต้องลงปลูกเลย วิธีการทำแบบผักหวานป่าที่ลิงค์มาให้ดูนั่นแหละ

ไม้ตะกูลเดียวกับสะเดาที่โตเร็วกว่าสะเดาแท้ๆ คือ "เหลียง" รูปร่างหน้าตาเหมือนสะเดาเดี๊ยะ

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?


สะเดา เป็นไม้โตเร็ว เจริญได้ดีในแถบร้อน ที่มีปริมาณน้ำฝน ตั้งแต่ 400-1,200 มม. เป็นพืชทน อากาศแห้งแล้งได้ดี สามารถขึ้นได้ในดิน ที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ แต่จะเจริญเติบโตเร็ว ในสภาพดินที่ไม่ชื้นแฉะ และปริมาณน้ำฝนไม่เกิน 800 มม.

การขยายพันธุ์สะเดา :
ใช้วิธีเพาะเมล็ด ซึ่งสามารถทำได้จำนวนมาก เพราะปริมาณของ ผลสะเดามีมากในทุกๆ ปี แต่ไม่สามารถเก็บเมล็ดไว้ได้นาน เพราะเมล็ดสูญเสียเปอร์เซ็นต์ความงอกงามได้เร็วมาก หลังจากเก็บผลสุกมาและเอาเนื้อออกหมดแล้ว ล้างเมล็ดให้สะอาด นำไปเพาะทันที จะงอกได้ดีมาก เมื่อสะเดาเจริญเติบโตจะติดผลเมื่ออายุ 5 ปีขึ้นไป และให้ผลผลิต เต็มที่เมื่ออายุ 10 ปีขึ้นไปปริมาณของผลสะเดาจะอยู่ระหว่าง 10-50 กก./ต้น/ ปี

ชนิดของสะเดา :
1. สะเดาอินเดีย มีลักษณะขอบใบหยักเป็นฟีนเลื่อย ปลายของฟันเลื่อยแหลมโคนใบเบี้ยว ปลายใบแหลมเรียวแคบมากคล้ายเส้นขน ผลสุกในเดือน ก.ค.-ส.ค.

2. สะเดาไทย มีลักษณะของใบหยักเป็นฟันเลื่อย แต่ปลายของฟันเลื่อยทู่ โคนใบเบี้ยวแต่กว้างกว่า ปลายใบแหลม ผลสุกในเดือน เม.ย.-พ.ค.

3. สะเดาช้าง หรือต้นเทียม ไม้เทียม ขอบใบจะเรียบ หรือปัดขึ้นลงเล็กน้อย โคนใบเบี้ยว ปลายเป็นติ่งแหลม ขนาดใบและผลใหญ่กว่า 2 ชนิดแรก ผลสุกในเดือน พ.ค.-ส.ค.

** ต้นสะเดาอินเดีย และสะเดาไทย เป็นชนิด (species) เดียวกัน แต่ต่างพันธุ์ (variety) ส่วนสะเดาช้างหรือต้นเทียม ไม้เทียม จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับสะเดาไทย และสะเดาอินเดีย แต่คนละชนิด (species) สะเดาทั้ง 3 ชนิด นี้จะมีลักษณะ ใบและต้นแตกต่าง กันดังกล่าวมาแล้ว

ประโยชน์ของสะเดา :
1. เนื้อไม้ เหมาะสำหรับนำไปก่อสร้างบ้านเรือน ทำเสาเข็ม และ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รวมทั้งเป็นเชื้อเพลิงคุณภาพดี
2. เป็นอาหารและพืชสมุนไพร เช่น ในดอก และยอดอ่อน ใช้เป็นอาหาร และยาเจริญอาหาร ดอกแก้พิษเลือดกำเดา บำรุงธาตุผลแก้โรคหัวใจ ยางดับพิษร้อน เปลือกแก้ไข้มาลาเรีย และเป็นยาสมานแผล ผลอ่อนใช้ถ่ายพยาธิ เมล็ดใช้รักษาโรคเบาหวาน

3. เป็นสารป้องกันและกำจัดแมลง สะเดามีสารชนิดหนึ่งชื่อ อะแซดิแร็คติน สามารถนำมาสกัด เป็นสารป้องกันกำจัดแมลงได้ พบมากที่สุดในส่วนของเมล็ด

4. ปลูกเพื่อเป็นแนวกันลมและให้ร่ม เนื่องจากมีใบหนาทึบ รากลึก ทนแล้ง ทนดินเค็ม และผลัดใบในเวลาสั้น
5. อื่นๆ เช่น น้ำมันจากเมล็ดสะเดาใช้ทำเชื้อเพลิงจุดตะเกียง เปลือกมีสารแทนนิน ใช้ในอุตสาหะกรรมฟอกหนัง กากสะเดาใช้เป็นปุ๋ย ผสมเป็นอาหารสัตว์ เป็นต้น

การปลูกสะเดา :
- การเตรียมพื้นที่ ไถพรวนปรับพื้นที่ให้เรียบ เก็บเศษไม้และวัชพืช สุมเผาใน ช่วงฤดูร้อน แล้วปักหลักกำหนดระยะปลูก
- ระยะปลูก ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการปลูก เช่น
- ต้องการไม้ขนาดเล็ก ใช้ระยะปลุก 1 x 2 หรือ 2 x 2 เมตร
- ต้องการไม้ใหญ่ สำหรับใช้ในการก่อสร้าง
- ทำเฟอร์นิเจอร์ ใช้ระยะปลูก 2 x 4 หรือ 4 x 4 เมตร
- ต้องการเมล็ดไปทำสารฆ่าแมลง ใช้ระยะปลูก 6 x 6 เมตร

เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่อาจปลูกระยะถี่ก่อน เมื่อเรือนยอดเบียดชิดกันจึงตัดสะเดาบางส่วนไปใช้ประโยชน์ ให้ต้นสะเดาที่เหลือ มีระยะห่างตามวัตถุประสงค์การปลูกต่อไป

- หลุมปลูก ขนาดที่เหมาะสม คือ กว้าง x ยาว x ลึก ประมาณ 25 x 25 x 25 ซม.
- วิธีปลูก หลังจากขุดหลุมปลูกแล้ว ตากดินประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อฆ่าเชื้อโรค ในดิน แล้วจึงใส่ปุ่ยร็อคฟอสเฟส รองก้นหลุม อัตรา 150-200กรัมต่อหลุม หรือครึ่งกระป๋องนม แล้วนำกล้าไม้ที่เตรียมไว้ ย้ายลงปลูก ขนาดกล้าไม้ที่ เหมาะสมควรสูง 8-12 นิ้ว อายุประมาณ 4-5 เดือน

ฤดูปลูก :
ควรเป็นฤดูฝน โดยเลือกปลูกหลังจากวันที่ฝนตกหนัก ฉีกถุงพลาสติกใส่กล้าออก วางกล้าลงตรง กลางหลุม กลบดินและกดรอบๆ โคนต้นให้แน่น

การดูแลรักษา :
1. การกำจัดวัชพืช ในปีแรกจำเป์นต้องเอาใจใส่กำจัดวัชพืชออกบ้าง เพื่อไม่ให้สูงคลุมเบียดบังแย่งแสงและอาหารต้นสะเดา
2. การใส่ปุ๋ย เมื่อกล้าไม้ที่ปลูกตั้งตัวแล้ว ควรเร่งการเจริญเติบโตด้วยการใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อน กาแฟ โดยการพรวนดินรอบโคนต้น แล้วปุ๋ยตาม

3. การริดกิ่ง หากต้องการให้สะเดามีลำต้นตรงเปลา ใช้ประโยชน์ในการแปรรูปได้มากขึ้น ควรหมั่นริดกิ่งอยู่สม่ำเสมอ
4. การป้องกันไฟ ควรทำแนวกันไฟกว้างประมาณ 6-8 เมตร รอบแปลงปลูก เพื่อป้องกันไฟไหม้ในฤดูแล้ง

การเก็บเกี่ยวผลสะเดา :
สะเดาจะเริ่มติดผลเมื่ออายุ 3-5 ปี ให้ทำการเก็บผลสะเดาสุกจากต้นหรือผลที่ ร่วงใหม่ๆ รีบนำมาแยกเนื้อหุ้มผลออกจากเมล็ดแล้วล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำ เมล็ดไปตากแดด 1-2 วัน แล้วนำไป ผึ่งลมในที่ร่มจนแห้งสนิท จึงค่อยบรรจุใส่ภาชนะ ที่มีอากาศถ่ายเท ได้ดี เช่นกระสอบป่าน ถุงตาข่ายไนล่อน เป็นต้น เก็บไว้ในที่แห้งเย็น ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันเชื้อรา

http://www.vegetweb.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B2/

------------------------------------------------------------------------------------



.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©