-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนักนครปฐม(๓) * เผือกในนาข้าว
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนักนครปฐม(๓) * เผือกในนาข้าว
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนักนครปฐม(๓) * เผือกในนาข้าว

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 20/09/2022 4:00 pm    ชื่อกระทู้: เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนักนครปฐม(๓) * เผือกในนาข้าว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 21 ก.ย.

***********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ
เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้าถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน .............. ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ............ ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ............ ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ............... ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปา ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน .......... ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด


- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 24 ก.ย. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก กาญจนาภิเษก.... งานนี้ ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....


*****************************************************************************
*****************************************************************************

เก็บตกงานสัญจรวัดท่าตำหนัก ถ.เพชรเกษตร นครชัยศรี นครปฐม 17 ก.ย. (๓)

สมช. :
สวัสดีครับลุงครับ มาขอความรู้เรื่องเผือกในนาข้าวครับ
ลุงคิม. : เผือกในนาข้าว เผือกในนาข้าว ในนาแห้วก็ได้นะ (หัวเราะ) .... อืมมม ขอเวลานอกหน่อย รู้เรื่อง โครงการส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกรแบบ ถามมาตอบไป ถามตอบกันสดๆเลยแบบนี้ รู้เรื่องนี้มาจากไหน ?

สมช. : ฟังวิทยุครับ
ลุงคิม. : ฟังวิทยุ ฟังมานานหรือยัง ?

สมช. : นานครับ หลายปีเลยแหละครับ
ลุงคิม. : อืมมม แล้วนั่นเอกสารอะไรที่ถือมาด้วยน่ะ ความลับไหม ?

สมช. : ไม่ลับหรอกครับ เอกสารข้อมูลเก่า เรื่องนาข้าวที่สมาชิกรายการมาถามที่นี่ อันนี้หลานถ่ายเอกสารมาให้ครับ
ลุงคิม. : ก็ดี จะมาคุยเรื่องเผือกแล้วทำไมไม่ถ่ายเอกสารเรื่องเผือกมาด้วยล่ะ

สมช. : หลานมันไม่รู้ ไม่รู้ว่าเรื่องเผือกมีหรือเปล่าน่ะครับ
ลุงคิม. : โอ.ค.หลานคือหลาน ในเน็ตเคยมีเรื่องเผือกที่ สมช.เรามาคุยด้วย ในงานสัญจรที่วัดพยัคฆาราม สุพรรณบุรี

เก็บตกงานสัญจร เสาร์ที่ 3 ก.ย. วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี :
http://kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=7067&sid=97d7edc7535939bdc4ce7c180a320035

ไม้ผล....เผือก
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=59

* รู้เรื่องเผือกรู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล....
* เผือกที่ทำๆกันน่ะ ได้หัวละครึ่งกิโล แต่ทำแนวเราได้หัวละโลครึ่ง....
* ก็มีที่เขาทำได้หัวละสองกิโล....


สมช. : ครับกลับไปจะให้หลานมันจัดการให้ครับ
ลุงคิม. : อีกอันนึง เกษตรเนี่ย ยากหรือง่ายอยู่ที่ใจทั้งนั้น ใจไม่เอาทำยังไงก็ไม่ได้ แต่ถ้าใจเอาอะไรๆก็ได้ทั้งนั้น

สมช. : นี่แหละครับที่ผมอยากได้สูตรหัวละ 2 โลครึ่ง
ลุงคิม. : อืมมม ธรรมชาติไม่มีตัวเลข ไม่มีสูตรสำเร็จ วิธีการเดียวกัน ที่นั่นทำได้แต่ที่ไม่ได้เพราะปัจจัยพื้นฐานการเกษตร ดิน-น้ำ-แสงแดด-อุณหภูมิ-ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค ปัจจัยเดียวกันแต่ผลที่ทำออกมาไม่เหมือนกัน

สมช. : เราแก้ได้ไหมครับ
ลุงคิม. : ด้ายยยย แต่แก้ด้วยอะไร ? แก้ด้วยวิธีแบบไหน ? มีต้นทุนไหม ?

สมช. : ครับ จริงครับ ลุงมีคำแนะนำเรื่องแก้ปัญหาปัจจัยที่ไม่เหมือนกันไหมครับ ?
ลุงคิม. : มี ลองไง ลองทำดู หลายๆแบบ หลายๆสูตร แค่รุ่นเดียวก็รู้ว่าแบบไหนสูตรไหนดีที่สุดสำหรับสำหรับเผือกในแปลงเกษตรเรา

สมช. : ผมว่าสูตรปุ๋ยสำคัญที่สุดนะครับ
ลุงคิม. : ไม่ใช่ ปุ๋ยเป็นแค่ตัวหนึ่งเท่านั้น แล้วอั้ยที่เกี่ยวข้องกับปุ๋ยล่ะ ทั้งที่เกี่ยวโดยตรง เกี่ยวโดยอ้อม ไม่ใช่แค่นี้นะ บางอย่างบางเรื่องเข้ากันไม่ได้ไม่มีผลเสีย แต่บางเรื่องเข้ากันไม่ได้แล้วส่งผลเสียก็มี

สมช. : ปัญหาเข้ากันได้เข้ากันไม่ได้ คุณลุงมีหลักการแก้ปัญหานี้ไหมครับ ?
ลุงคิม. : จริงๆนะ เฉพาะลุงไม่มีหรอก เพราะไม่เคยทำ แต่เคยบอกให้คนอื่นทำแล้วเขาได้

สมช. : เฉพาะเรื่องปุ๋ย ขอวิธีนี้ครับ
ลุงคิม. : ให้ปุ๋ยทางใบ ปุ๋ยตัวธาตุหลักสำหรับเผือก พืชกินหัว 5-10-40 ไม่เหมาะสำหรับนาข้าว อันนี้ต้องระวังหน่อย อย่าให้ไปวอแวกับข้าว ให้อยู่กับเผือกเท่านั้น ก็พอได้

สมช. : ครับ ทั้งปุ๋ยทั้งยา หัวโต-ยาน็อค สองตัวนี้นี่แหละครับ
ลุงคิม. : ก็ว่าไป

คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม :
- เผือกก็ใช้น้ำเหมือนกัน เพียงแต่ไม่มากเท่าข้าวเท่านั้น
- เผือก 1 รุ่นใช้เวลา 7 เดือน .... นาข้าว 7 เดือนทำได้ 2 รุ่น ทำแบบ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสม เผือกทำเงินได้มากกว่า .... ถ้านาข้าวแบบ เคมีบ้าเลือด แล้วเผือกทำแบบ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสม เผือกจะยิ่งได้มากกว่าหลายเท่าขึ้นไปอีก

** สายพันธุ์ : (พันธุ์ไหนดี-อยากรู้จักแหล่งปลูก....ถามคนซื้อ)
- เผือกหอม : พิจิตร-016. พิจิตร-019. พิจิตร-08. เผือกหอมเชียงใหม่.
- เผือกไม่หอม : พิจิตร-06. พิจิตร-025. พิจิตร-012
- พันธุ์เนื้อสีขาวหรือครีม : พิจิตร-06, -07, -025, -014 (เผือกบราซิล), ศรีปาลาวี. ศรีรัศมี (เผือกอินเดีย).
- พันธุ์เนื้อสีขาวอมม่วง : เผือกหอมเชียงใหม่. พิจิตร-016, -08, -05, -020.
หมายเหตุ :
- เผือกหอมพิจิตร-016 แตกตะเกียง 10-12 ตะเกียง /ต้น ทำให้ประหยัดเวลา และแรงงานปลิดตะเกียงทิ้ง เพื่อไม่ให้แย่งอาหารจากต้น (หัว) แม่ มีเปอร์เซ็นต์และน้ำตาลสูงสุดในบรรดาเผือกทุกสายพันธุ์ .... ส่วนเผือกหอมเชียงใหม่จะแตกตะเกียง 20-25 ตะเกียง /ต้น ผลผลิตดี

ขยายพันธุ์ :
- เลือกลูกซอที่ผ่านการเก็บใต้หัวแม่อย่างถูกวิธี นาน 1-2 เดือน
- เตรียมกระบะหรือปรับเรียบพื้นที่เพื่อใช้แทนกระบะ ขนาดกว้างยาวตามความเหมาะสม อยู่ในร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก ระบายน้ำดี และป้องกันน้ำท่วมได้ รองพื้นด้วยแกลบดำ (เก่าค้างปี) ปรับเรียบ หนา 10-20 ซม. วางลูกซอหรือตะเกียง ระยะห่าง 5-10 ซม. โรยทับด้วยแกลบดำอีกชั้นหนา 15-20 ซม. แล้วคลุมทับบนด้วยเศษหญ้าหรือฟางแห้งหนาๆ รดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ ประมาณ 20-30 วัน ลูกซอหรือตะเกียงก็จะเริ่มงอกมีใบแทงขึ้นมาเป็นต้นกล้า

- เมื่อต้นกล้าโตได้ 2-3 ใบ ให้ถอนแยกไปปลูกในแปลงจริงได้

หมายเหตุ :
- แช่ลูกซอหรือตะเกียงใน “น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 50 ซีซี. + แคลเซียม โบ รอน 50 ซีซี. ” นาน 12-24 ชม. นำขึ้นผึ่งลมจนแห้งก่อนแล้วจึงนำไปเพาะ นอก จากทำให้ลูกซอหรือตะเกียงได้สะสมอาหารไว้ก่อนตั้งแต่ก่อนเกิด ซึ่งจะส่งผลให้ต้นกล้าสมบูรณ์โตเร็วแล้ว ยังช่วยกำจัดเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมากับลูกซอหรือตะเกียงอีกด้วย

- ระยะปลูก 50 ซม. ชิดมากไปหน่อย ชิดกันมากแบบนี้โตขึ้นจะใบเล็ก จำนวนใบน้อย ก้านเล็ก สุดท้ายก็ได้หัวขนาดเล็ก .... ถ้าระยะปลูก 75-80 ซม. ระยะห่างเมื่อโตขึ้นจะใบใหญ่ ก้านใหญ่ สุดท้ายจะได้หัวใหญ่ .... เรื่องระยะปลูกแก้ไขไม่ได้แล้ว ถึงจะลงทุนถอนออกต้นเว้นต้นเพื่อให้ระยะระหว่างต้นห่าง ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเขาเลยระยะต้นเล็กมา แล้ว เพราะฉะนั้นต้องเล่นสูตร “เลยตามเลย ไหนไหนก็ไหนไหน”

ทางใบ : ระยะต้นเล็ก “ไบโออิ + สมุนไพร 1-2 ล.” 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน .... ระยะลงหัว “หัวโต + สมุนไพร 1-2 ล.” 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน

ทางราก : ระยะต้นเล็ก ถึง ต้นโตลงหัว-เก็บเกี่ยว ให้ “น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 (1 ล.) + 5-10-40 (2 กก.) /ไร่ /เดือน ใช้วิธีฉีดรดโคนต้น .... ให้น้ำสม่ำเสมอ ระดับ “ชุ่ม” (แห้ง-ชื้น-ชุ่ม-โชก-แฉะ-แช่)

@@ เคล็ดไม่ลับเรื่องเผือก :
.... เผือก : ที่มีราคาดี ต้องไซส์หัวละ 2 กก. ขึ้นไป
.... เผือก : 1 ไร่ ไซส์หัวละ 2 กก. ขึ้นไป มีรายได้เท่ากับนาข้าว 7 ไร่
.... เผือก : ส่งออกต้องเกรด นน. 2 กก./หัว ขึ้นไป
.... เผือก : ต้องพรวนดินบ่อยๆ
.... เผือก : ต้องหมั่นตัดแต่งตะเกียง
.... เผือก : ไม่ถูกกับยาฆ่าหญ้าอย่างมากๆ
.... เผือก : บนดินที่เป็นกรด จะเกิดโรคตากบตาเสือ (แอนแทร็คโนส)
.... เผือก : หัวไซส์ขนาด 2 กก. ขึ้นไป สามารถขาย (ส่งออก) ก้านใบขนาดใหญ่ยาวได้
.... เผือก : ต้นโตสูง 1.50 ม. ขึ้นไป จะได้หัวขนาดใหญ่ขนาด 2 กก. เสมอ
.... เผือก : ปลูกห่างได้จำนวนหัวน้อย แต่ขนาดใหญ่ ได้ราคาต่อหัวสูง ก้านขายได้
.... เผือก : ปลูกชิดได้จำนวนหัวมาก แต่ขนาดหัวเล็ก ราคาต่อหัวต่ำ ก้านขายไม่ได้

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2646

เทคนิคเฉพาะเผือก (ไม่ใช่เคล็ดลับ) :
- เริ่มลงหัวเมื่ออายุประมาณ 4 เดือน ระหว่างลงหัวควรบำรุงรักษาให้มีใบ 8-11 ใบ ใบใหญ่ ก้านใหญ่ และสูง 1.20-1.50 ม. จะได้หัวขนาดใหญ่ น้ำหนักดี คุณภาพดี .... นั่นหมาย ความว่า จะต้องบำรุง “ปุ๋ยถูกสูตร ใช้ถูกวิธี” ตั้งแต่ต้นเล็กๆ

- ก้านเผือกขนาดใหญ่ ตัดใบทิ้งส่งออก (ญี่ปุ่น ฮ่องกง) ได้ ก้านเล็กส่งออกไม่ได้
- เผือกหัวใหญ่ไซส์เกือบ 2 กก. รายได้เท่ากับนาข้าว 7 ไร่ เทียบกันรุ่นต่อรุ่น
- ปล่อยน้ำเข้าไปในร่องระหว่างแปลงปลูก 20-30 วัน/ครั้ง ก็ได้
- งดยาฆ่าหญ้าเด็ดขาด
- แม็กเนเซียม. สร้างคลอโรฟีลด์ ช่วยบำรุงก้านใหญ่ ใบใหญ่ ใบหนาเขียวเข้มถึงวันขุด
- สังกะสี. ช่วยสร้างแป้ง หัวจะใหญ่ น้ำหนักดี
- โรคตากบตาเสือในเผือก คือ เชื้อไฟธอปเทอร่า เกิดจากดินที่เป็นกรด เชื้อปลิวตามลมไปเกาะที่ต้นเผือก แก้ไขด้วยการบำรุงรักษาดินอย่าให้เป็นกรด .... ทั้งนี้ สารเคมีกำจัดโรคแมลง, ยาฆ่าหญ้า, ปุ๋ยเคมีเหลือตกค้างเนื่องจากต้นเอาไปกินไม่หมด คือ สาเหตุหลักที่ทำให้ดินเป็นกรด

- ป้องกันและกำจัดเชื้อราไฟธอปเทอร่า....
บนต้น : ด้วยสารสมุนไพรเผ็ดจัด
บนพื้น : ด้วยการรักษาดินอย่าให้เป็นกรด

พันธุ์เผือก :
เผือกเนื้อสีขาวหรือสีครีม :
เผือกชนิดนี้เมื่อผ่าดูเนื้อในจะพบว่ามี สีขาว หรือสีขาวครีม ได้แก่เผือกพันธุ์ พจ.06 พจ.07 พจ.025 พจ.014 พันธุ์ศรีปาลาวี และพันธุ์ศรีรัศมี

เนื้อสีขาวปนม่วง : เผือกชนิดนี้เมื่อผ่าหัวดูเนื้อ จะพบว่ามีสีขาวลายม่วงปะปนอยู่ ซึ่งจะมีสีม่วงมากหรือน้อยแตกต่างกันในแต่ละพันธุ์ได้แก่ เผือกหอมเชียงใหม่, พันธุ์ พจ.016 พจ.08, พจ.05, และ พจ.020

นอกจากนี้ ยังมีแยกตามจำนวนหัวขนาดใหญ่ต่อต้น คือ เป็นหัวใหญ่ 1 หรือมาก กว่า 1 หัว/ต้น แยกตามการแตกกอ เช่น แตกกอน้อย 3-10 ต้น แตกกอปานกลาง 10-20 ต้น และแตกกอมาก คือ มากกว่า 20 ต้นขึ้นไป

ขยายพันธุ์เผือก :
เพาะเมล็ด :
เป็นวิธีที่ง่ายแต่ใช้เวลานานกว่าจะย้ายปลูกลงแปลงได้ และในประเทศไทยเผือกแต่ละพันธุ์มีการออกดอกและติดเมล็ดน้อยเกษตรกรไม่นิยมขยายพันธุ์โดยวิธีการเพาะเมล็ด

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ : เป็นวิธีการขยายพันธุ์เผือกที่ปลอดจากเชื้อที่ติดมากับต้นพันธุ์ได้เป็นปริมาณครั้งละมาก ๆ แต่ต้นทุนการผลิตสูงเกษตรกรยังไม่นิยมขยายพันธุ์โดยวิธีนี้

ใช้หน่อ : เป็นส่วนที่แตกออกมาเป็นต้นเผือกขนาดเล็กอยู่รอบๆ ต้นใหญ่ เมื่อแยกออก มาจากต้นใหญ่ หรือต้นแม่แล้วสามารถนำไปลงแปลงได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเพาะชำ

ใช้หัวพันธุ์ : หรือลูกซอหรือลูกเผือก ซึ่งเป็นหัวขนาดเล็กที่อยู่รอบ ๆ หัวเผือกขนาดใหญ่ วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมทั่วไปทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ

แต่ในการปลูกในแต่ละครั้ง ควรเลือกเผือกที่มีขนาดปานกลางไม่เล็กหรือใหญ่เกิน ไป หัวพันธุ์ที่มีขนาดสม่ำเสมอจะทำให้เผือกที่ปลูกแต่ละต้นลงหัวในเวลาใกล้เคียงกัน เก็บเกี่ยวได้พร้อมกัน และที่สำคัญจะทำให้ไม่มีหัวขนาดเล็กและใหญ่แตกต่างกันมาก

การเก็บหัวพันธุ์เผือกหอม :
ใส่ภาชนะเปิด (ตะกร้าพลาสติก) วางไว้ในห้องเย็นอุณหภูมิ 7-10 องศา ซี. สามารถ รักษาคุณภาพหัวพันธุ์ได้นานที่สุด 3 เดือน คือ มีการเน่าเสีย 2 หลังจากนั้นมีการเน่าเสียเพิ่ม ขึ้นถึง 50 เมื่อเก็บรักษานาน 5 เดือน

หัวพันธุ์ที่นำมาเก็บไว้ในบ่อดินมีหลังคาคลุมไว้ และ หัวพันธุ์ที่เก็บไว้ในแกลบดำวางไว้ในสภาพห้องอุณหภูมิปกติ (25-28 องศา ซี.) สามารถรักษาคุณภาพของหัวพันธุ์ไว้ได้นานถึง 5 เดือน โดยมีเปอร์เซ็นต์การเน่าเสียของหัวพันธุ์ 20-22 หัว

** ปลูกเผือกในข้าว :
- ปลูกเผือกน้ำ ริมคันนารอบด้าน ระยะห่าง 80 ซม.
- บำรุงด้วยสูตรขยายขนาดหัว ได้ไซส์หัวละกว่า 1 กก. รับรองไม่พอขาย
หมายเหตุ :
- แบ่งพื้นที่เป็น 3 โซน โซนแรกขุดช่วงเผือกเริ่มแพง โซนที่สองขุดช่วงเผือกราคาแพงสูงสุดของปี โซนที่สามขุดช่วงเผือกเริ่มลงราคา ทั้งนี้ผู้ปลูกไม่อาจรู้ล่วงหน้าว่าจะราคาดีวันที่หรือเดือนไหน จึงต้อง +/- ระยะเวลาเอาไว้

- บำรุงแบบ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของเผือก .... ของดีจริงนอกจากได้ราคาดีแล้ว ยังมัดใจคนรับซื้อได้อีกต่างหาก

- จะดีไหม .... ทำคันนาใหญ่ๆ กว้าง 2-3 ม. แล้วใช้ปลูกพืชอื่นเสริมนาข้าว เพราะวันนี้ยืนยันแล้วว่า พื้นที่คันนาปลูกผัก สร้างเงินได้มากกว่าข้าว ทั้งๆที่ พื้นที่เท่ากัน .... นอกจากผักบนคันนาแล้ว บางคนยังปลูกเผือกน้ำริมคันนา นี่ก็สร้างเงินได้เหมือนกัน

เผือกริมคันนา :
- ปลูกเผือกน้ำ ริมคันนารอบด้าน ระยะห่าง 80 ซม. ได้ 5,000-10,000 หัว

* บำรุง ระยะลงหัว
ทางใบ : แม็กเนเซียม. สังกะสี. (ไบโออิ + 5-10-40 ) + สารสมุนไพร ทุก 10 วัน
ทางราก :
- ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ 8-24-24 (5-10 กก./ไร่) ให้ครั้งเดียว .... บำรุงดินปลูกเผือกรุ่นนี้ เก็บเกี่ยวเผือกแล้ว นาข้าวรับต่อได้อีกด้วย

- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (2 ล.) รดโคนต้น 15 วัน /ครั้ง

หมายเหตุ :
- แบ่งพื้นที่เป็น 3 โซน โซนแรกขุดช่วงเผือกเริ่มแพง โซนที่สองขุดช่วงเผือกราคาแพงสูงสุดของปี โซนที่สามขุดช่วงเผือกเริ่มลงราคา ทั้งนี้ผู้ปลูกไม่อาจรู้ล่วงหน้าว่าจะราคาดีวันที่หรือเดือนไหน จึงต้อง +/- ระยะเวลาเอาไว้

------------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©