-
MySite.com :: ทบทวนกระทู้ - ปลูกอะไรดี-น้ำหยด...สำปะหลัง.กับ อ้อย.
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
ตอบตอบ: 25/10/2010 5:59 am    ชื่อกระทู้:

lamaka บันทึก:

-ดินของเราเป็นอย่างไร (แร่ธาตุที่อยู่ในดิน และค่า PH) แล้วต้องปรับปรุงดินอย่างไร
- น้ำจะเอามาจากไหน
- ปลูกอะไร
- มีวิธีปลูกอย่างไร
- ต้องให้ปุ๋ยอย่างไร
- ถ้าเป็นปุ๋ยน้ำต้องผสมอย่างไร
- วัชพืชและศัตรูพืชที่จะปลูกมีอะไรบ้าง จะกำจัดอย่างไร
- ใช้สารเคมีหรือสมุนไพรดี
- จะไปขายที่ไหน
- ราคาขายและต้นทุนเป็นอย่างไร
- จะวางผังพื้นที่ปลูกอย่างไร
- พื่ชแต่ละชนิดต้องการน้ำเท่าไหร่
- จะใช้น้ำหยดหรือสปริงเกอร์
- จะวางท่ออย่างไรไม่ให้น้ำขาดที่ปลายท่อ
- จะเจาะบ่อบาดาลหรือขุดสระ
- ถ้าเจาะบาดาลต้องได้น้ำกี่ลิตรต่อชั่วโมง

ขนาดเรื่องการทำรั้วยังมีเรื่องที่ต้องคิดเลย เช่น .....

- จะทำรั้วกินได้หรือเปล่า
- ถ้าคิดจะทำรั้วกินได้จะปลูกอะไรดี ...... เป็นต้น

ขอบคุณครับ


เพียงบางเสี้ยวของพื้นฐาสนแห่งความสำเร็จที่ว่ามานี้ เรียน 4 ปี ปริญญาตรี + 3 ปี ปริญญาโท + 3 ปี ปริญญาเอก ก็ทำไม่ได้ ถ้ายังยึดติด ไม่คิดนอกกรอบ......แต่หากเปิดตัว. มีโลกทัศน์. อ่าน LINE ออก. ฉลาด+เฉลียว. เพียง 4 + 3 + 3 วัน ก็ทำได้


ทุกปัญหา ถามคนในกระจก
ลุงคิม (กระจกหกด้าน) ครับผม
lamaka
ตอบตอบ: 22/10/2010 1:43 pm    ชื่อกระทู้:

ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความเห็น

ตอนนี้ผมเป็นเกษตรกรจิ้มแป้นอยู่ครับ ยังไม่ได้ลงมือทำจริง ช่วงนี้อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลอยู่ครับ

ครั้งแรกเลยผมคิดที่จะปลูกปาล์มน้ำมัน แต่พอดูเรื่องตลาดรับซื้อผลผลิตแล้ว ทำให้คิดหนัก เพราะการตั้งโรงงานปาล์มขนาดเล็กต้องมีทุน 15 - 20 ล้าน และต้องมีพื้นที่เพาะปลูกรองรับประมาณ 15,000 ไร่ จึงจะเพียงพอต่อความต้องการของโรงงาน และเมื่อมองความสามารถในการแข่งขันของไทยแล้ว ผมเคยอ่านในบทความเกี่ยวกับเขตการค้าเสรี เขาบอกว่าเรายังสู้เพื่อนบ้าน (มาเลเซียและอินโดนีเซีย) ไม่ได้ เขาว่ายังห่างชั้นกันเยอะ เนื่องจากอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบเราของเรายังไม่ดีพอ ซึ่งในอนาคตอาจมีปัญหาเรื่องราคาได้

พืชที่คิดจะปลูกถัดไปก็คือยางพารา ถ้าเราปลูกนอกพื้นที่ภาคใต้หรือภาคตะวันออกที่มีโรงงานรองรับ เช่น ภาคอีสาณหลายที่ ส่วนใหญ่ก็จะทำเป็นยางก้อนซึ่งไม่ได้ราคา และที่สำคัญต้องกรีดยางทุกวัน ซึ่งผมไม่ได้อยู่ไร่ทุกวัน อาจทำให้เกิดการรั่วไหลได้

จากนั้นก็มาศึกษาเรื่องมันสำปะหลัง ก็ต้องใจจะปลูกมันสำปะหลังครับ แต่เห็นว่าเกษตรกรแถบนั้นก็ปลูกอ้อยเยอะเหมือนกัน ก็เลยไม่แน่ใจ จริงนำตั้งมาเป็นกระทู้ของความเห็นจากผู้มีประสบการณ์

การเป็นเกษตรกรนี้ยากเหมือนกันนะครับ เพราะมีหลายเรื่องที่ผมต้องทำความเข้าใจ เช่น .....

-ดินของเราเป็นอย่างไร (แร่ธาตุที่อยู่ในดิน และค่า PH) แล้วต้องปรับปรุงดินอย่างไร
- น้ำจะเอามาจากไหน
- ปลูกอะไร
- มีวิธีปลูกอย่างไร
- ต้องให้ปุ๋ยอย่างไร
- ถ้าเป็นปุ๋ยน้ำต้องผสมอย่างไร
- วัชพืชและศัตรูพืชที่จะปลูกมีอะไรบ้าง จะกำจัดอย่างไร
- ใช้สารเคมีหรือสมุนไพรดี
- จะไปขายที่ไหน
- ราคาขายและต้นทุนเป็นอย่างไร
- จะวางผังพื้นที่ปลูกอย่างไร
- พื่ชแต่ละชนิดต้องการน้ำเท่าไหร่
- จะใช้น้ำหยดหรือสปริงเกอร์
- จะวางท่ออย่างไรไม่ให้น้ำขาดที่ปลายท่อ
- จะเจาะบ่อบาดาลหรือขุดสระ
- ถ้าเจาะบาดาลต้องได้น้ำกี่ลิตรต่อชั่วโมง

ขนาดเรื่องการทำรั้วยังมีเรื่องที่ต้องคิดเลย เช่น .....

- จะทำรั้วกินได้หรือเปล่า
- ถ้าคิดจะทำรั้วกินได้จะปลูกอะไรดี ...... เป็นต้น

แต่ที่พูดมาข้างต้นนี้ ผมไม่ได้ท้อนะครับ เพียงแต่อยากศึกษาให้เข้าใจ ก่อนลงมือทำจริงๆ ไม่อยากทำตามๆกันไปโดยไม่มีเหตุผล โชคดีที่วันนี้เป็นโลกของอินเตอร์เนต ต้องขอบคุณลุงคิม เจ้าของเว็บทางการเกษตร และสมาชิกทุกท่าน ทำให้การศึกษาหรือหาข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น

เพราะพ่อผม เขาสอนผมว่า "ถ้ารบในกระดาษไม่ชนะ ก็จงอย่ารบ"


ขอบคุณครับ
Yuth-Jasmine
ตอบตอบ: 20/10/2010 9:57 pm    ชื่อกระทู้:

จริง ๆ แล้ว ผมเห็นด้วยกับพี่มงคลมากน่ะครับ
ถึงแม้ผมจะปลูกอ้อย แต่ในแง่ทำงานแล้ว
มันสำปะหลัง ดูแล้วจะทำงานสะดวกกว่า
ผมเองยังอยากปลูกเลยครับ ติดที่ว่าพื้นที่ของผม
น้ำผ่านทุกปี ยิ่งปีนี่หนักเลย ส่วนเรื่องศํตรูพืชก็ต้องคุมให้ดี
เพราะมีปัญหามากกว่าอ้อย (ลุงกับพี่น้องช่วยเสริมน่ะครับ)

ผมมองในแง่มือใหม่น่ะครับ ถ้าเที่ยวบินยังไม่สูง
เห็นว่ามีเนื้อที่ตั้ง ๕๐ ไร่เหรอครับ
ลองดูน่ะครับ ถ้าเป็นผม (ถ้ามีทุนสำรองเยอะ)

ก็ปลูก อ้อย กับ มันสำปะหลัง อย่างล่ะครึ่งไปเลยสิครับ
ลองให้รู้มือไปก่อนเลย อย่างล่ะ ๒๕ ไร่ นี่กำลังดีเลยครับ
(ถ้าตัดปัญหาเรื่องแรงงานกับเครื่องจักรออกไปได้น่ะครับ)
จัดเวลาให้สับหว่างไม่ให้ตรงกันให้ดี ก็จะดูแลได้ทั่วถึง ทำได้เนี๊ยบเลย
ใช้แรงงานเท่าที่จำเป็น กันพลาดครับ อย่างน้อยอย่างหนึ่งอย่างใด
เสียหาย ก็ยังมีอีกอย่างช่วยได้ เมื่อชำนาญดีแล้วทีนี้จะปลูกอะไร
ก็ว่ากันไปครับ

ถ้าเอาแบบยั่งยืน ก็กันสัก ๕ ไร่
ไว้ปลูกกระท่อมหลังเล็ก ๆ ไว้เวลาไปนอนที่ไร่ กับไว้ปลูกสาระพัดพืช
เอาไว้กินเอง เหลือก็แจกจ่ายหรือขายมาเป็นค่าน้ำค่าไฟค่าน้ำมันก็ไม่เลวครับ
กับขุดสระสัก ๒ ไร่ ทำแหล่งน้ำสำหรับใช้ในการเกษตร เอาไว้เป็น โอเอซีส
ก็ดีน่ะครับ มีส่วนที่ร่มรื่น เอาไว้พักผ่อนบ้างก็ดีครับ เผื่อมีกิจกรรมกลางแจ้ง
อย่างอื่นเสริมเข้าไปได้ครับ ถ้าลำพังทำอ้อย ทำมันสำปะหลังอย่างเดียว
ไม่มีไม้อื่นเลย ร้อนตับแลบแน่เลยครับ


ยุทธ ครับ
thumsiri
ตอบตอบ: 20/10/2010 8:12 pm    ชื่อกระทู้:

น้ำดี... ปาล์มก็น่าสนครับ ถ้ามีโรงงานส่งอยู่ใกล้ ๆ... Very Happy
kimzagass
ตอบตอบ: 20/10/2010 7:50 pm    ชื่อกระทู้:

ในทัศนะของลุงคิม .....

mongkol ...... ถูกต้อง เห็นด้วย....

thumsiri ...... ถูกต้อง เห็นด้วย.....


ott_club ..... ถูกต้องกว่า เห็นด้วยกว่า....เหตุผล....
1. ปาล์มน้ำมัน ระยะยาว (3-4 ปีเริ่มให้ผลผลิต) คุ้มค่าลงทุนกว่า
2. แรงงานน้อยกว่า
3. ระบบเครื่องทุ่นแรง ง่ายและประหยัดกว่า
4. ระหว่างที่ปาล์มยังไม่ให้ผลผลิต ลงพืชปีเดียวสร้างรายได้ก่อนดีกว่า
5. ปาล์มโตให้ผลผลิตแล้ว ปลูกพืชล้มลุกแซมแทรกเป็นรายได้เสริมง่ายกว่า


ลุงคิมครับผม
ott_club
ตอบตอบ: 20/10/2010 3:26 pm    ชื่อกระทู้:

ตอนนี้อ้อยตันละประมาณ 1,500 ทำแบบพื้นๆ ก็ไร่ละ 10 ตัน/ไร่/ปี เป็นเงิน...

มันสำประหลังตันละประมาณ 2,500 ทำแบบพื้นๆ ได้ไร่ละ 3 ตัน/ไร่/รุ่น เป็นเงิน...

ปาล์มน้ำมันตันละประมาณ 4,500 บาท ทำแบบพื้นๆ ได้ไร่ละ 3 ตัน/ไร่/ปี เป็นเงิน...ไม่ต้องทำทุกปี ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้ 30 ปี
thumsiri
ตอบตอบ: 20/10/2010 2:41 pm    ชื่อกระทู้:



โดยส่วนตัวผมก็ชอบมันสำปะหลังเหมือนกันครับ
เหตุผลที่ผมหันไปปลูกมันสำปะหลังก็คือ...

เพราะ (ตอนนี้) อ้อยราคาไม่ดี เลยไม่ปลูก (ตามรูปข้างบนเห็นแต่ตอแล้ว)
ต้นพันธุ์อ้อยราคาค่อนข้างแพง (ไม่รู้ที่อื่นแพงเหมือนที่นี่หรือเปล่านะ) ไปตัดก็จ้างคนไปตัดและขนเอามาเอง

เวลาเอาอ้อยไปขายโรงงาน นาน...กว่าจะได้เงิน แถมโดนหักค่าทางและจิปาถะอีกตันละ...แถมเค้าต้องตรวจดูค่า ccs ต่างหาก (เป็นธรรมดา)

เวลาเอาอ้อยไปขายต้องเข้ารอคิวเท...ยาวเหยียด จอดต่อคิวเป็นสองสามกิโลเมตรก็มี บางทีไปวันหนึ่งยังไม่ได้เทเลย (ต้องห่อข้าวและน้ำไปกินด้วย)

ถ้าไม่มีรถขนไปขายเองก็ลำบากหน่อย เพราะบางทีบางเจ้าเห็นตัดไว้สองสามวัน รอรถขนไปขายยังไม่มาเลย อ้อยเลยตากแดดน้ำหนักเลยลดลงอีก...

จำได้ว่าเมื่อปีก่อน ๆ โน้น อ้อยได้ตันละพันกว่า เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยดีใจมาก หลังจากนั้นมาก็ตันละเจ็ดแปดร้อยกว่า ผมเลยหนีจากอ้อยมาปลูกมันสำปะหลัง ก็ไม่รู้ว่ามันสำปะหลังจะลงอีกหรือเปล่านะ

ส่วนเรื่องมันสำปะหลังสวนผมส่วนมากทำเองยอมเหนื่อย จ้างบ้างก็เล็กน้อยเฉพาะช่วงที่เอารุ่น (กำจัดวัชพืช) ไม่ทัน หลัง ๆ เลยแก้ปัญหาโดยการ แบ่งแปลงปลูก คือ แบ่งที่เป็นสามแปลง แล้วปลูก คือ ไม่ปลูกพร้อมกับเลยทีเดียว ทยอยปลูกทีละแปลงเลยเอารุ่นทัน ปัญหาเรื่องวัชพืชเลยไม่มี หัวมันก็ขายได้เปอร์เซนต์แป้งดี...ไปเทก็รับเงินมาเลย.....สบาย...

ปลูกมันบำรุงดินดี ๆ และน้ำดี ๆ การจัดการดี ๆ ก็คิดว่าโอเค...ส่วนเรื่องศัตรูพืชต่าง ๆ แนะนำให้ใช้วิธีป้องกันดีกว่ากำจัดนะครับ...

จะปลูกอ้อยหรือจะปลูกมันสำปะหลังดี...รอความเห็นท่านอื่นต่อไปนะครับ อาจมีความคิดเห็นต่างจากนี้ก็เป็นได้...เชิญท่านอื่นแสดงความคิดเห็นครับ...

เชิญครับเชิญ... Very Happy
mongkol
ตอบตอบ: 20/10/2010 11:41 am    ชื่อกระทู้:

โดยส่วนตัวผมชอบมันสำปะหลีงมากกว่า มีเหตุผลจากแรงงานที่เก็บเกี่ยว อ้อยต้องง้อแรงงานมาก มันสำปะหลังพอหาจักรกลมาทดแทนได้ เพราะอะไรๆ ตอนนี้ต้องมองแรงงานให้มาก ผลตอบแทนผมเองไม่ได้เทียบกันนะ...ลองฟังหลายๆ คนดูบ้าง
lamaka
ตอบตอบ: 20/10/2010 10:11 am    ชื่อกระทู้: ปลูกอะไรดี-น้ำหยด...สำปะหลัง.กับ อ้อย.

พื้นที่ปลูกประมาณ 30-50 ไร่ ดินดี น้ำไม่ท่วมขัง มีแหล่งน้ำ

อยู่ห่างโรงงานน้ำตาลและโรงงานผลิตแป้งมัน ไม่เกิน 50 กิโลเมตร
ในรัศมี 10 กิโลเมตร มีลานมันเพียบ

จะลงทุนปลูกด้วยระบบน้ำหยด ผมควรปลูกอะไรดีครับระหว่างอ้อย กับ ม้นสำปะหลัง Confused

ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ