-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 541 บุคคลทั่วไป และ 1 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

พืชสวนครัว





กะหล่ำดอก


1.พันธุ์
เกษตรกรพิจารณาปลูกตามพื้นที่ และฤดูกาล เป็น แม่สอด เพชรบูรณ์ เชียงราย เพชรบุรี จะพิจารณาเลือกพันธุ์ปลูกตามความต้องการของตลาดด้วย

2. การเพาะกล้า
ควรยกร่องเตรียมดิน ขุดดินตาก คลุกเคล้าด้วยปุ๋ยคอก คลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารกันมด และสารฆ่าแมลง หว่านลงร่องที่เตรียมไว้ อย่าให้หนาแน่นจนเกินไป คลุมด้วยฟางข้าว รดน้ำให้ชุ่มอยู่สม่ำเสมอ จนอายุประมาณ 30-35 วัน ก็ถอนแยกไปปลูกได้

3. การเตรียมดิน
เกษตรกรจะนิยมเตรียมดินแล้วแต่พันธุ์ที่นำมาปลูก จ.เพชรบุรี, เพชรบูรณ์, ตาก จะทำการไถพรวนดิน แล้วขึงเชือก โดยไถพรวน  ยกร่องตามแต่ละจังหวัด  ขุดหลุม กว้าง x ยาว ประมาณ 50 x 50 เซนติเมตร 5 แถว เว้นทางเดิน ประมาณ 1 เมตร แล้วขุดหลุม 5 แถว เว้นไปเรื่อยๆ แล้วทำการปลูกหลุมละ 1 ต้น และรดน้ำด้วยการลากสายยาง ส่วนกาญจนบุรี จะปลูกบนร่องโดยใช้รถแทรคเตอร์ยกร่อง และรดน้ำด้วยสปริงเกอร์เล็ก และราชบุรี จะปลูกแบบร่องสวน รดน้ำด้วยเรือ

4. การให้น้ำ
จะใช้ระบบสปริงเกอร์ รดสายยาง หรือใช้เรือ แล้วแต่พื้นที่ และควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ

5. โรคและแมลงศัตรู
การปฏิบัติดูแลรักษาเหมือนกับ ผักกาดขาวปลี และคะน้า แต่ควรเน้นเรื่องโรคเน่าของดอก และหนอนเจาะยอด




ที่มา  :  กรมวิชาการเกษตร












สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-05 (2526 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©