ผักชีลาว
1.พันธุ์ พันธุ์ผักชีลาวเกษตรกรจะเรียกตามท้องถิ่น คือ พันธุ์เด้ง และไม่เด้ง คำว่า เด้ง คือ ผักชีลาวมีการแตกกอ หรือแตกแขนงดี จากการสอบถามพ่อค้าผัก และร้านค้าที่จำหน่ายเมล็ดพันธุ์บอกว่าขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา หากหว่านเมล็ดห่างๆ ใส่ปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมี อย่างดี ไม่ขาดน้ำ ก็จะมีการแตกแขนงดี ต้นใหญ่
2. การเตรียมดิน ปฏิบัติเหมือนกับการปลูกผักทุกอย่าง
3. การหว่านเมล็ด เนื่องจากเมล็ดผักชีเบา ควรหว่านขณะไม่มีลม และหว่านบางๆ อย่างสม่ำเสมอ โรยทับด้วยฟางข้าว รดน้ำให้ชุ่ม
4. การให้น้ำ หลังหว่านเมล็ดควรให้น้ำ เช้า-เย็น ทุกวันจนกว่าเมล็ดจะงอก ค่อยรดน้ำเฉพาะตอนเย็น หรือพิจารณาเว้นวันรดน้ำได้
5. การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก รองพื้นก่อนหว่านเมล็ด และเมื่อผักชีลาวงอกได้ 10-15 วัน หรือมีใบจริงประมาณ 1 คู่ ควรหว่านปุ๋ยเคมีสูตร 21-7-7 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ และเมื่ออายุ 30 วัน หว่านปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่
6. การเก็บเกี่ยว ผักชีลาวอายุได้ 40-50 วันก็สามารถเก็บขายได้ ก่อนถอนควรรดน้ำก่อนเช่นถ้าจะถอนตอนเช้า ก็รดน้ำตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ใช้มือถอนผักชีลาว เด็ดใบล่างที่มีสีเหลืองออก พร้อมรูดดินที่เกาะรากออกด้วย กำด้วยยางวง เป็นกำๆ ไม่ต้องล้างน้ำ เพราะถ้าต้นผักชีลาวเปียกน้ำการขนส่งใกล้ๆ จะทำให้ผักชีลาวเน่า
7. โรค เช่น โรคใบเหลือง โรคเน่า ป้องกันด้วยการพ่นอาหารเสริม และสารป้องกันกำจัดเชื้อ เช่น แมนโคเชป
8. แมลง ผักชีลาวไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแมลงที่ทำลาย จะมีบ้างก็ไม่ทำความเสียหายมากนัก จึงไม่ต้องพ่นสารเคมี
ที่มา : กรมวิชาการเกษตร
ผักชีลาว
เป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับผักชี ลำต้นมีสีเขียวเข้มขนาดเล็ก ลักษณะใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีสีเขียวสดออก เรียงสลับกัน ดอกมีขนาดเล็กสีเหลืองออกเป็นช่อ ก้านช่อดอกมีลักษณะคล้ายกับซี่ร่ม ผลแก่เป็นรูปไข่แบนมีสีน้ำตาลอมเหลือง ถ้านำไปใช้เป็นเครื่องเทศจะเก็บ ได้ก้ต่อเมื่อดอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แต่ส่วนใหญ่จะพบในรูป ของการ ทานสดเป็นผักมากกว่า ซึ่งควรเก็บก่อนที่จะออกดอก ผักชีลาวมีสองชนิด คือ ชนิดที่มาจากยุโรป (Dill) และชนิดที่มีกำเนิดในเอเชียเขตร้อน (Indian Dill) ในประเทศไทย มีการปลูกเพื่อใช้ทานเป็นผักมากกว่าปลูกเพื่อ ใช้ผลมา ทำเครื่องเทศเพราะมีคุณภาพน้อยกว่าประเทศอินเดีย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anethum graveolens Linn.
ชื่อวงศ์ : Umbelliferae
ชื่อสามัญ : Dill
ชื่อพื้นเมือง : เทียนข้าวเปลือก ,เทียนตาตั๊กแตน (ภาคกลาง), ผักชี (ขอนแก่น,เลย) ผักชีตั๊กแตน, ผักชีเทียน (พิจิตร), ผักชีเมือง(น่าน)
การขยายพันธุ์ ผักชีลาว (Dill): ใช้เมล็ดในการขยายพันธุ์
ระยะเวลาปลูก ผักชีลาว (Dill): มีระยะเวลาในการปลูกประมาณ 60 วัน ก็สามารถนำมาประกอบอาหารหรือกินสดๆ ก็ได้
การเตรียมดินในการปลูก ผักชีลาว (Dill) :
มีการฟื้นดิน ตากแดดให้แห้งเพื่อทำลายเชื้อโรคและวัชพืชที่อยู่ในดิน ทิ้งไว้ประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นก็ทำการ พรวนดิน เก็บเศษวัชพืชต่างๆ และนำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วมาใส่คลุกเคล้าให้เข้ากับดิน ทั้งนี้เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของดิน ถ้าพบว่าดินเป็นกรด ควรนำปูนขาวมาคลุกกับดินเพื่อปรับสภาพของดินให้เหมาะในการเพาะปลูก
วิธีปลูก ผักชีลาว (Dill) : มี 2 วิธี
วิธีที่ 1 เตรียมเมล็ดพันธุ์ที่จะใช้ในการปลูก แล้วหว่านเมล็ดพันธุ์ให้ทั่วแปลง
วิธีที่ 2 วัดระยะห่างของหลุมประมาณ 15 x 15 เซนติเมตร ใช้ไม้ขีดเป็นตารางให้เท่าๆ กัน ใช้ไม้หรือนิ้วจิ้ม แล้ว หยอดเมล็ดลงตามตารางที่ขีดไว้ เสร็จแล้วจึงใช้ดินกบแล้วรดน้ำด้วยบัวรดน้ำ
สารสำคัญที่พบ :
ผลผักชีลาว มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งปริมาณน้ำมันที่ได้ขึ้นอยู่กับแหล่งเพาะปลูกและฤดูกาลที่เก็บเกี่ยว นอกจากนี้แล้วยังประกอบด้วย สารดิลลาโนไซด์ สารประเภทกรดฟีโนลิค โปรตีน ไขมัน เป็นต้น
น้ำมัน ผักชีลาว (Dill seed oil) ได้จากการนำผลแก่แห้งไปกลั่นด้วยไอน้ำ สารสำคัญที่พบคือ คารืโวน ดี-ไลโมนีน และอัลฟ่า-เฟลเลนดรีน สารอื่นที่มีปริมาณรองลงมาคือ ไดไฮโดรคาร์โวน ยูจีนอล ไพนีน และอะนีโทล เป็นต้น
สรรพคุณทางยา :
นำผลแก่แห้งของผักชีลาวบดให้เป็นผง ชงกับน้ำดื่มวันละ 4-5 แก้ว แก้อาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลมหรือใช้ต้นสดของผักชีลาวผสมกับนมให้เด็กอ่อนดื่มแก้ท้องอืดท้องเฟ้อได้เช่นกัน ส่วนน้ำมันมักใช้ผสมในยาย่อยอาหาร ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
ประโยชน์ทางอาหาร ผักชีลาว (Dill) :
ใบสดและใบแห้งใช้โรยบนอาหารประเภทปลาเพื่อดับกลิ่นคาว ใบใส่แกงอ่อมแกงหน่อไม้ห่อหมกแกล้มแกงเนื้อน้ำพริกปลาร้าผักใส่ไข่ยอดใบรับประทานกับลาบเมล็ด และใบช่วยชูรสเมล็ดมีน้ำมันหอมระเหยใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เมล็ดแห้งที่แก่เต็มที่ใช้เป็นยาบำรุงกำลังชั่วคราวและขับลมในท้อง เมล็ดก่อนนำมาประกอบอาหารควรบดก่อน โดยนิยมโรยบนสลัดผักและมันฝรั่งบดเพื่อเพิ่มรสชาติ นอกจากนี้น้ำมันผักชีลาวยังใช้แต่งกลิ่นผักดอง น้ำซอส สตู ขนมหวาน เครื่องดื่มและเหล้า
ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร ผักชีลาว (Dill) :
ต้นสด ใบสด ใบแห้ง ผลแห้ง
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.