-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 628 บุคคลทั่วไป และ 1 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ไม้ดอก-ไม้ประดับ





พรรณพิชญา สุเสวี

กะทือ...ไม้ดอกอีกมุมมองหนึ่ง

กะทือ ไม้ดอกที่ให้ความสวยงามสามารถนำมาตกแต่งสถานที่ประดับเป็นสวนหย่อม หรือเป็นไม้ดอกปักแจกันในโรงแรมเพิ่มเสน่ห์ เพิ่มสีสันและให้ความสดชื่นในโอกาสพิเศษๆ เช่น งานจัดเลี้ยง งานสังสรรค์ การประชุมและการสัมมนา การจัดนิทรรศการ ไม่แพ้ไม้ดอกชนิดอื่น อย่างเช่น ดาหลา หน้าวัว กล้วยไม้ ขิงแดง หรือแม้แต่กระเจียว ที่สำคัญ ถ้าหากนำมาปลูกไว้ในบริเวณบ้านเพียงละต้นสองต้นในพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม ก็จะขยายกลายเป็นกอใหญ่ ออกดอกชูช่อให้ความสวยงามแปลกตาดียิ่งนัก นอกจากเป็นไม้ประดับแล้วยังเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นยาใช้ประจำบ้าน

เท่าที่พบเห็น กะทือจะขึ้นในท้องถิ่นภาคเหนือ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า กะทือป่าบ้าง กระแวน กะแอน แสมดำ แฮวดำ เฮียวดำ ส่วนที่แม่ฮ่องสอน มักเรียกกันว่า เฮียวแดง แต่ปัจจุบันมีการปลูกกันมากขึ้นในพื้นที่สวนยางพาราในหลายจังหวัดภาคใต้เช่นที่ จังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง ฯลฯ

กะทือเป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นคล้ายกับข่า แต่สูงกว่า ลำต้นจะอยู่สูงเหนือดินประมาณ 0.5-1 เมตร บางแห่งอาจสูงถึง 1.5 เมตร มีเหง้าอยู่ใต้ดินและสามารถแตกหน่อใหม่ได้เรื่อยๆ เมื่อขุดเหง้าดูจะเห็นเปลือกนอกของเหง้ามีสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม ส่วนใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกันในระนาบเดียวกัน ใบนั้นคล้ายรูปหอกขอบขนาน กว้าง 5-7.5 เซนติเมตร ยาว 15-30 เซนติเมตร ใบสีเขียว ปลายใบแหลม โคนใบมนสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ เมื่อพลิกดูท้องใบจะมีขนนุ่ม ก้านใบเป็นกาบหุ้มลำต้น ดอก เป็นช่อดอกก้านยาวแข็งแทงจากเหง้าขึ้นมาเหนือพื้นดิน มีทั้งสีแดง สีเขียว และสีทอง เท่าที่พบเห็นในสวนยางพาราและตามท้องตลาดทั่วไปที่นำมาขายจะเป็นดอกสีแดงมากกว่า โดยช่อดอกเป็นรูปทรงกระบอกยาวไม่เกิน 6 นิ้วครึ่ง ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้น ประกอบด้วยใบประดับสีเขียวแกมแดง เรียงซ้อนกันแน่นเป็นระเบียบ ดอกสีเหลืองนวล โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ดอกบานไม่พร้อมกัน ผล เป็นผลแห้งสีแดง เมล็ดสีดำ พอถึงช่วงฤดูฝนจะแทงช่อดอกออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันให้ความสวยงามมาก

กะทือยังป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นยาใช้ขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดมวนในท้อง แก้บิดได้ โดยเอาส่วนที่เป็นเหง้าสดขนาดเท่าหัวแม่มือ 2 หัว (ประมาณ 20 กรัม) มาย่างไฟให้สุก ตำผสมกับน้ำปูนใสครึ่งแก้ว คั้นเอาแต่น้ำมาดื่มเมื่อมีอาการดังกล่าวก็ช่วยบรรเทาอาการได้ แต่ควรระวังสักหน่อย ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก จะทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้

สำหรับวิธีปลูก ไม่ยากเลยเพียงแยกเหง้าออกจากกอเดิม หรือซื้อเหง้ามา ตัดใบและลำต้นออกแล้วนำมาปลูกในดินร่วนซุยที่มีการระบายน้ำดีและมีความชื้นสูงก็จะทำให้เจริญเติบโตได้รวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนเหง้าที่อยู่ใต้ดินหรือที่เพิ่งปลูกไปแล้วจะแทงหน่อขึ้นมาใหม่ แต่พอถึงช่วงฤดูแล้งต้นก็จะโทรมลงเป็นธรรมชาติของมัน

ผู้เขียนได้เคยไปที่ศูนย์วิจัยพืชและปัจจัยการผลิตจังหวัดภูเก็ต และได้นำเอาต้นกระทือมาปลูกลงดินไว้ที่หลังบ้านที่กรุงเทพฯ เป็นกะทือสีแดง ช่วงนั้นออกดอกสวยงามมาก แปลกตาดี แต่มีขนาดเพียง 4 นิ้วครึ่งเท่านั้น เลยปล่อยทิ้งไว้คู่กับต้น แม้ขณะนี้ต้นกะทือดังกล่าวยังเจริญเติบโตดี กำลังแทงหน่อใหม่โดยมีลำต้นสีแดงขึ้นมาเรื่อยๆ กะว่าถ้ามีหน่อมากขึ้นจะเริ่มแยกหน่อไปปลูกเป็นการขยายผลไปในตัวโดยทำเป็นสวนหย่อมเล็กๆ หน้าบ้านและมีพันธุ์ไม้ต่างๆ เป็นทั้งไม้ใบ-ไม้ดอกมาประดับเพิ่มสีสันหลากหลายให้ความเพลิดเพลินสบายตาสบายใจ เพิ่มเสน่ห์ให้กับบ้านอย่างมีชีวิตชีวา มองทีไรก็มีความสุขทุกครั้ง

ถ้าอยากมีความสุขแบบผู้เขียนก็ลองหาไม้ดอกไม้ประดับหรือไม้ใบมาปลูกดูบ้าง จะปลูกลงดินหรือปลูกในกระถางเป็นไม้ประดับ ผ่อนคลายได้ดีทีเดียว โดยหาซื้อได้ที่ตลาดนัดจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี บริเวณโครงการ 24 ด้านหลัง โดยเจ้าของสวนจะนำมาลงในเวลากลางคืนก็สามารถหาซื้อได้ แต่ถ้าใครไม่สะดวกที่จะไป ก็ไปช่วงเวลาเช้า-เย็น ขายในราคาไม่แพงเลย

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก คุณสุธาชีพ กรมวิชาการเกษตรค่ะ



ที่มา  :  เทคโนโลยีชาวบ้าน









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-10 (2438 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©