เกษตรอินทรีย์ วิธีทำนาแบบไม่ต้องลงทุน
สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม หนี้สินรุมเร้า ต้นทุนการปลูกข้าวสูงลิ่ว ทำให้เกษตรกรไทยเริ่มหันมาสนใจวิถีเกษตรอินทรีย์ที่ช่วยลดการใช้สารเคมีและทำให้การปลูกข้าวแทบไม่ต้องลงทุน
"ทำนาแบบไม่ต้องลงทุน มีที่ไหน ตอนนั้นป้าไม่เชื่อ แต่ก็ลองมาทำดู ถึงรู้ว่ามีจริง" คำบอกเล่าจาก นางสำเนียง ฮวดลิ้ม ชาวนาวัย 63 ปี แห่ง ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่นึกคิดหลังจากที่ได้ฟังบรรยายเรื่องเกษตรอินทรีย์โดย อ.ทองเหมาะ แจ่มแจ้ง ปราชญ์ชาวนาแห่งสุพรรณบุรีเมื่อหลายปีก่อน และได้เปลี่ยนชีวิตของป้าสำเนียงมาจนถึงทุกวันนี้
"ป้าเปลี่ยนจากการทำนาแบบใช้สารเคมี มาทำนาอินทรีย์ได้ประมาณ 7 ปีแล้ว ตั้งแต่นั้นมาดินที่เคยเสียก็กลับร่วนซุยขึ้น สภาพแวดล้อมดีขึ้น ต้นทุนการทำนาถูกลง แต่ให้ผลผลิตมากขึ้น ทั้งยังมีสุขภาพร่างกายก็แข็งแรงดี ชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นเป็นลำดับ" ป้าสำเนียง บอกถึงผลที่เกิดขึ้นหลังจากพลิกผืนนาที่เต็มไปด้วยเคมีมาเป็นผืนนาอินทรีย์
วิธีการทำนาอินทรีย์ของป้าสำเนียงก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแค่ไม่ต้องเผาฟางข้าวในนาหลังจากเก็บเกี่ยว ก่อนจะปลูกข้าวในฤดูกาลถัดไปให้ปล่อยน้ำเข้านา แล้วเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ลงไปเพื่อให้เกิดการย่อยสลายฟางข้าวและปรับสภาพดินให้ร่วนซุย ในขั้นตอนการปลูกข้าวจะใช้วิธีเพาะกล้าและดำนา ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่านาหว่าน
จากเดิมที่เคยใช้ปุ๋ยเคมี ก็เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่มีราคาถูกกว่าหรือสามารถทำเองได้ทุกครัวเรือน โดยใช้ขี้วัว ใบไผ่ แกลบ รำ และเศษพืชผักต่างๆ หมักรวมกับจุลินทรีย์ในดินที่หาได้จากดินภูเขา และสามารถนำดินภูเขามาทำหัวเชื้อจุลินทรีย์ไว้ใช้ประโยชน์ได้อีกหลายทางนอกจากใช้ทำปุ๋ยหมัก
ส่วนปัญหาแมลงศัตรูพืชและโรคข้าวก็สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้ที่ได้จากการเผาถ่านแทนการฉีดพ่นด้วยสารเคมี ช่วยไล่แมลงและทำให้ต้นข้าวแข็งแรง เบ็ดเสร็จแล้วต้นทุนต่อไร่ในการทำนาอินทรีย์ของป้าสำเนียงลดลงจากการทำนาแบบใช้สารเคมีประมาณ 4 เท่า แถมยังให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีกว่า และช่วยรักษาความสมดุลของธรรมชาติในนาข้าว
หากเกษตรกรคนไหนอยากจะเปลี่ยนมาใช้วิธีเกษตรอินทรีย์ ป้าสำเนียงแนะนำว่าให้เริ่มที่ใจ หากใจพร้อมที่เปลี่ยนวิถีชีวิต ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก สุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีก็จะคืนกลับมา
ที่มา : แนวหน้า
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.