คุณค่า 'ฮอร์โมนไข่' เร่งพืชออกดอก หนึ่งทางเลือกลดปัญหาใช้สารเคมี
เมื่อเอ่ยถึงคุณค่าของ “ไข่” นอกจากจะเป็นอาหารโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์แล้ว ไข่ยังมีประโยชน์ต่อการปลูกพืชอีกด้วย โดยเฉพาะการผลิตพืชผักและไม้ผลนอกฤดู ซึ่งเกษตรกรสามารถใช้ไข่เป็นตัวช่วยในระบบการผลิตได้ โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5(สวพ.5)กรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาและคิดค้นสูตร “ฮอร์โมนไข่” ขึ้นมาเพื่อใช้เร่งการออกดอกของพืชนับเป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกรที่สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้ค่อนข้างมาก อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาสารเคมีตกค้างในสินค้าเกษตรด้านพืชและไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมด้วย
นายอัครินทร์ ท้วมขำ นักวิชาการเกษตร 8 ว. สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.ชัยนาท กล่าวว่า การปลูกพืชแล้วพืชไม่ออกดอกหรือออกดอกน้อยถือเป็นปัญหาสำคัญของเกษตรกร เพราะถ้าพืชออกดอกน้อย ผลผลิตก็จะน้อยตามไปด้วย โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูฝน ไม้ผลส่วนใหญ่มักแตกใบอ่อนแต่ไม่ค่อยจะติดดอกออกผลให้เกษตรกร
ทั้งนี้เนื่องจากน้ำฝนนำธาตุไนโตรเจนในรูปของกรดไนตริก กรดไนไตร อันเกิดจากฟ้าแลบบนท้องฟ้ามาสู่พื้นโลกอย่างน้อย 10 ล้านตันต่อปี และน้ำฝนยังทำให้ดินชุ่มชื้นเหมาะแก่การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ช่วยตรึงก๊าชไนโตรเจนเพิ่มเติมให้แก่ดินอีกประมาณ 90 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ท้องฟ้าในช่วงฤดูฝนจะมีแสงสว่างน้อย ทำให้อัตราการสังเคราะห์แสงของพืชลดลง ยิ่งทำให้คาร์โบไฮเดรตที่สะสมอยู่ในเนื้อเยื่อของพืชมีปริมาณลดลง เมื่อเทียบกับธาตุไนโตรเจนซึ่งรับเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยๆ อัตราระหว่างคาร์โบไฮเดรต/ไนโตรเจนหรือซีเอ็นเรโช(C/N Ratio)มีค่าต่ำ หรือแคบ เนื้อเยื่อพืชก็จะพัฒนาไปเป็นใบและก้านกิ่ง ส่งผลให้ต้นไม้แตกใบอ่อนค่อนข้างมากในฤดูฝน
ปัจจุบันผู้ผลิตผลไม้นอกฤดู เช่น ทุเรียน และมะม่วง นิยมใช้สารเคมี คือ สารพาโคลบริวทราโซล ช่วยเร่งการออกดอกและติดผลของพืช บังคับให้มะม่วงหรือทุเรียนออกดอกนอกฤดูกาล นอกจากนั้นชาวสวนลำไยยังมีการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต ในการกระตุ้นและเร่งการออกดอกด้วย
มาถึงตอนนี้เกษตรกรไม่ต้องราดสารเร่งให้ต้นมะม่วงหรือทุเรียนก็ออกดอกได้โดยหันมาใช้ “ฮอร์โมนไข่” เร่งการออกดอกแทน
สูตรฮอร์โมนไข่เร่งการออกดอกของพืชมีดังนี้ คือ
1.ไข่ไก่สดทั้งเปลือกหรือไข่เป็ดไข่นกกระทาหรือไข่หอยเชอรี่จำนวน 5 กิโลกรัม
2.กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง 5 กิโลกรัม
3.ลูกแป้งข้าวหมาก 1 ก้อน
4.นมเปรี้ยว 1 ขวด(กล่อง)หรือใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ผลิตจากเปลือกสับปะรด 200 ซีซี .
การทำฮอร์โมนไข่ทำได้ง่ายๆ โดยนำไข่ไก่ทั้งฟองมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่น ถ้าไม่มีเครื่องปั่นให้ตอกไข่ขาวไข่แดงออกจากเปลือก ใส่ภาชนะแล้วใช้ไม้ตีไข่ขาวไข่แดงให้เข้ากัน นำเปลือกไข่ใส่ครกตำให้ละเอียด จากนั้นตักใส่ลงไปในภาชนะที่มีไข่ขาวไข่แดงปนกันอยู่เพื่อเพิ่มธาตุแคลเซียม(Ca)จากเปลือกไข่ แล้วนำกากน้ำตาลมาผสมนำผงแป้งข้าวหมากโปรยลงไป และใช้นมเปรี้ยวหรือหัวเชื้อจุลินทรีย์ หรือกระเพาะหมู ซึ่งจะมีจุลินทรีย์มหัศจรรย์ที่ชื่อว่า Lactobacillussp.ผสมใส่ลงไป แล้วคนคลุกให้เข้ากัน นำไปบรรจุในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เช่น ถังพลาสติกโดยให้มีช่องว่างอากาศประมาณ 10% ของภาชนะ เพื่อให้จุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจนเจริญเติบโตไปด้วย ทิ้งไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี อย่าให้ถูกแสงแดดประมาณ 7 วัน ก็สามารถนำไปใช้ได้ซึ่งมีต้นทุนการผลิตเพียงลิตรละ 25-30 บาท เท่านั้น
สำหรับการใช้ฮอร์โมนไข่เร่งการออกดอกของพืช ให้ใช้ในอัตราส่วน 2-3 ช้อนกาแฟ(5-10 ซีซี)/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น 7-10 วัน/ครั้ง
กรณีที่ใช้ในไม้ผลไม่ว่าจะเป็นการผลิตในฤดูกาลหรือนอกฤดูกาล เกษตรกรต้องบำรุงต้นพืชให้สมบูรณ์ที่สุดก่อน แล้วค่อยเร่งการออกดอกด้วยฮอร์โมนไข่ โดยเริ่มฉีดพ่นตั้งแต่ติดใบอ่อนรุ่นที่ 3
ประมาณ 30-45 วัน ไม้ผลจะติดดอก 50-80% ของทรงพุ่ม ต้องหยุดฉีดพ่นฮอร์โมนไข่ทันที
ถ้าพ่นต่อไปจะทำให้ดอกร่วง เนื่องจากฮอร์โมนไข่สูตรนี้มีความเข้มข้นและความเค็มสูง
หากต้องการให้ดอกออกนอกฤดู ต้องให้มีช่วงฝนทิ้งช่วงหรือทิ้งช่วงการให้น้ำ 14-21 วัน/ครั้ง แล้วฉีดพ่นด้วยฮอร์โมนไข่ 7-10 วัน/ครั้ง ไม้ผลก็จะออกดอก จากนั้นฉีดพ่นด้วยน้ำหมักชีวภาพสูตรฮอร์โมนผลไม้ต่อไปอีก 7-10 วัน/ครั้ง เพื่อบำรุงผลผลิตให้สมบูรณ์
ส่วนการใช้ในข้าว พืชไร่ พืชผัก และไม้ดอกไม้ประดับ ควรฉีดพ่นตั้งแต่พืชตั้งตัวได้ จนถึงออกดอกเกิน 50% จึงหยุดพ่น และที่สำคัญไม่ควรใช้ฮอร์โมนไข่เร่งดอกในพืชผักกินใบ เช่น คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม เพราะพืชผักเหล่านี้จะออกดอกทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ และขายไม่ได้ราคา
สุดท้ายคุณอัครินทร์ยังการันตีว่าฮอร์โมนไข่สูตรนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เชียวนะ
หากเกษตรกรสนใจสูตรและการใช้ฮอร์โมนไข่เร่งการออกดอกของพืช สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.ชัยนาท โทรศัพท์ 0-5641-3044, 0-5641,5458 ทุกวันในเวลาราชการ.
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
http://www.agric-prod.mju.ac.th/web-veg/article/new124.htm
www.agric-prod.mju.ac.th/web-veg/article/new124.htm -
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.