กำลังปรับปรุงครับ
ตึกขาว (Joint Liaison Detachment-JLD)
คำว่า "ตึกขาว" ในสมัยสงครามลับในลาวคือตึก AB-1 หรือเรียกให้เต็มว่า Joint Liaison Detachment(JLD) ตั้งอยู่ภายในบริเวณฐานทัพอากาศอุดรฯและมีรั้วติดกับ Air America เป็นบก. CIA ที่ปฏิบัติการลับในลาว ส่วน อาคารที่ใช้เป็นที่ตั้งของ บก.ผสม 333 นั้นเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทาสีขาวตั้งอยู่ติดกับสถานีวิทยุ วปถ.6 สมัยนั้นมี ดี.เจ.เชื่อดัง คือ "เซียงบัวอายสาว" จัดรายการคู่กับ "สาวสี" อยู่บนถนนสายอุดรฯ-ขอนแก่น ภายในบริเวณ บก. ผสม333 จะมีห้องที่ติดกับรั้วฝั่ง วปถ.6 ห้องหนึ่งขนาด 6x12 เมตร เป็นห้อง OB (Order Of Battle) ของ CIA ซึ่งแยกออกมาจาก "ตึกขาว" เพราะจะต้องประสาณงานกันอย่างใกล้ชิดในด้านการข่าว ความเคลื่อนไหวในสมรภูมิลาวขณะนั้นจะถูกส่งเข้ามายัง OB เพื่อรวบรวมและส่งต่อไปยัง Washington D.C. หน่วยปฏิบัติการในลาวภายใต้ CIA และหน่วยขึ้นตรงของ บก.ผสม 333 ในลาวทั้งหมดจะแลกเปลี่ยนข่าวกรองและรายงานการปฏิบัติการในสนามซึ่งกันและ กันเพื่อ up date สถานการณ์ของฝั่งลาวตลอดเวลา
เมื่อปี 2518 ตึกขาวได้ปิดตัวลงเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป ประกอบกับนักศึกษาจากผลพลวงของ 14 ตุลาคม 2516 ได้ทำการขับไล่ทหารอเมริกันให้ออกจากประเทศไทย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ CIA ระดับบิกเช่น Mr. Pat Landry, Mr.Tony Poe ต้องเดินทางออกจากอุดรฯ และได้มอบให้ Mr. Radel ซึ่งเป็นระดับ case officer ดูแลตึกขาวแทน จนกระทั่งปิดตัวลง ขณะนั้น เสธ.ดำ พึ่งจะแต่งงานใหม่ๆ ลูกสาวคนแรกอายุ 3 เดือน ก็ต้องตกงานไปด้วย...พล.ต. วิทูรย์ ยะสวัสดิ์(ยศขณะนั้น) ผบ.บก.ผสม333 ได้เข้ามารับตำแหน่งเป็นรองอธิบดีกรมตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.ประจวบ สุนทรางกูล เป็น อ.ต.ร. และ บก.ผสม333 ก็ตกอยู่ภายใต้การดูแลของ สมช.และไม่ได้ใช้ชื่อ บก.ผสม333 อีกต่อไป
การฝึกอบรมนายทหารการข่าวตั้งแต่ CIA ได้ถอนตัวออกมาจากอุดรฯ ก็ยังมีเป็นครั้งคราวภายใต้การดำเนินการของ สมช. และ CIA ก็ช่วยสนับสนุนด้านอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายบ้าง แต่ไม่ได้ทุ่มเทเหมือนสมัยที่ ท่าน พล.ท.วิทูรย์ ยะสวัสดิ์ (นายเทพ) เป็น ผบ. การอบรมก็เป็นเพียงหลักสูตรระยะสั้นเท่านั้น และเมื่อจบการอบรม นายทหารหนุ่มทั้งหลายก็จะถูกส่งไปประจำตามชายแดนเพื่อหาข่าวเกี่ยวกับความ เคลื่อนไหวของ ผกค. (ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์)
เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้น เสธ.ดำ จะแนะนำหลักการเป็นสายลับซึ่งทุกคนถ้ามีโอกาสผมเชื่อว่าทำได้หมด ส่วนจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน มันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่างครับ
ทำไมจึงต้องปฏิบัติการลับ....ก็เพื่อให้ได้มาซึ่งข่าวสาร (information) และนำ มากรองอีกครั้งเพื่อให้ได้ข่าวที่เชื่อถือได้ หรือที่เรียว่า "ข่าวกรอง" (intelligence) ในภาวะสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามร้อนหรือเย็น เราจำเป็นจะต้องรู้ความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุด เมื่อมีการข่าวที่ดีและแม่นยำ ย่อมส่งผลดีสำหรับการวางแผนรบของฝ่ายปฏิบัติการในสมรภูมิ
ดังนั้นการที่ จะได้มาซึ่งข่าวสารและข่าวกรองนั้นจำเป็นจะต้องใช้บุคคลากรทั้งจากฝ่ายเรา และฝ่ายตรงข้าม....จากฝ่ายเรานั้นพอหาได้ แต่การที่จะหา "สาย" เพื่อรายงานข่าวจากฝ่ายตรงข้ามนั้น เราจะไปหาได้ที่ไหน...และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่ถูกหลอก
ขั้นตอนมีดัง นี้ครับ...
1. สำรวจพื้นที่เป้าหมาย (To survey the target area) : เพื่อมองหาคนในพื้นที่ที่ข้าศึกยึดครอง หรือมีอิทธิพล เพื่อใช้เป็น "สาย" ให้แก่เรา
2. หมายตา (Spot) : จับตาดูคนที่พอจะไว้ใจและสามารถทำงานให้เราได้
3. ประกบ (Approach) : เข้าตีสนิท สร้างความสัมพันธ์เพื่อให้ตายใจว่าเราไม่ได้มาหลอกใช้ ให้ความหวัง เช่น ถ้าทำงานให้เราแล้วจะปลอดภัยแน่ จะมีฐานะการเป็นอยู่ดีขึ้น มีอนาคต ลูกเมียสบาย ฯลฯ
4. ทาบทามและเอามาเป็นพวก (Recruit) : เสนอค่าตอบแทนและทำสัญญาเมื่อเห็นว่าบุคคลที่เป็นเป้าหมายมีความพร้อมที่จะทำงานให้กับฝ่ายเรา
5. ฝึกการทำงานและส่งออกปฏิบัติการ (Train and give assignment) : เมื่อตกลงว่าจ้าง แล้วก็ทำการฝึกวิธีการหาข่าว การต่อต้านการข่าว การรายงาน การปกปิดซ่อนเล้น การพรางตัว
Credit : http://tatui.prohosts.org
politics.spiceday.com/redirect.php?tid=155762&goto=lastpost... -
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.