หน้า: 1/3

ที่มา: http://61.19.69.9/~purita/studentwork50/310b/28678/page%201%20fruity%20real.html
ขนุน
ลักษณะทางธรรมชาติ
* เป็นไม้ผลยืนต้นอายุหลายสิบปี ไม่ผลัดใบ เหมาะสำหรับเป็นไม้ผลเศรษฐกิจและไม้ร่มเงา เนื้อไม้จากต้นแก่เป็นเนื้อไม้ชั้นดี ปลูกได้ในทุกพื้นที่ ทุกภาค และทุกฤดูกาล ต้องการความชื้นสูงทั้งความชื้นผิวหน้าดินและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ในสวนขนุนควรมีไม้ผลยืนต้นหลากหลายแซมแทรกสลับ มีพืชพุ่มเตี้ยอายุสั้นคลุมหน้าดิน การปลูกกล้วยเอารากกระจายทั่วแปลงจะช่วยให้ต้นขนุนสดชื่นอยู่เสมอ
* เป็นผลไม้ที่มีขนาดผลใหญ่ที่สุดในบรรดาผลไม้ด้วยกัน ขนุนพันธุ์ทองนาทวีมีถิ่นกำเนิดอยู่ทางภาคใต้ครองแชมป์ผลไม้ยักษ์ ชนะเลิศการประกวดในงานเกษตรแห่งชาติด้วยน้ำหนักถึง 87 กิโลกรัม ปัจจุบันยังไม่มีผลไม้ใดแม้แต่ขนุนด้วยกันลบสถิตินี้ได้
* สายพันธุ์ดีที่ได้รับการรับรองพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตรแล้ว คือ ฟ้าถล่ม. ทองสุดใจ. และจำปากรอบ. ส่วนพันธุ์อื่นๆที่แม้จะไม่ได้รับการรับรองพันธุ์แต่ได้รับความนิยมทั้งจากผู้ปลูกและผู้บริโภค ได้แก่ เพชรราชา (ทะวาย). ศรีบรรจง (ทะวาย). ทองประเสริฐ (ทะวาย). แม่กิมไน้ (ทะวาย). แม่เนื้อหอม (ทะวาย). แม่น้อยทะวาย (ทะวาย). จำปาเมืองระยอง. เหลืองเมืองระยอง. เหลืองบางเตย (ทะวาย). เหลืองตานาก (ทะวาย). เหลืองพิชัย (ทะวาย). ทองสมบัติ. เหรียญทอง (ทะวาย). เหรียญบาท. หนึ่งในพัน. ทองส้ม (ทะวาย). เป็นต้น
* ข้อเสียของขนุนอย่างหนึ่ง คือ เมื่อช่วงผลแก่จัดใกล้เก็บเกี่ยวแล้วมีฝนตกลงมาจะทำให้คุณภาพผลเสีย รสจืดชืดหรืออมเปรี้ยว เมล็ดงอกในทำให้มีกลิ่นเหม็น แต่ขนุนพันธุ์ ทองสุดใจ กับพันธุ์ เหรียญบาท คุณภาพผลไม่เสีย ทุกลักษณะคงเป็นปกติเหมือนเดิม
* ตอบสนองต่อปุ๋ยซากสัตว์และยิบซั่มธรรมชาติดีมาก โดยปุ๋ยซากสัตว์สดจะช่วยให้ติดผลดก เนื้อหนา กลิ่นดี ซังน้อย คุณภาพดี ในขณะที่ยิบซั่มธรรมชาติช่วยให้สีจัด
* ไม่ตอบสนองต่อสารพาโคลบิวทาโซลและยาฆ่าหญ้า ถ้าได้รับสารพาโคลบิวทาโซลแม้แต่เพียงละอองปลิวมากับลมจะเกิดอาการใบเล็ก กิ่งลีบเป็นกิ่งหางหนู แก้ไขด้วยการตัดแต่งกิ่งอย่างหนัก (ทำสาว) พร้อมกับตัดปลายรากบริเวณชายพุ่ม จากนั้นบำรุงเรียกรากและเรียกใบอ่อนชุดใหม่ตามปกติ
นอกจากนี้สารโปแตสเซียม คลอเรต. โซเดียม ไนเตรท. ที่ใช้ในการบังคับลำไย ไม่สามารถนำมาใช้กับขนุนได้
* ปัจจุบันยังไม่มีสารเคมีหรือฮอร์โมนวิทยาศาสตร์ใดๆ บังคับให้ขนุนออกนอกฤดูกาลได้ ดังนั้นการบังคับขนุนให้ออกนอกฤดูกาลจึงต้องทำกับขนุนสายพันธุ์ทะวายเท่านั้น
* มีความทนทานต่อท่วมขังค้างนานได้น้อยกว่ามะม่วง แก้ไขด้วยการเสริมรากให้มีรากแก้ว ซึ่งรากแก้วจะรอดพ้นจากน้ำท่วมขังค้างนานได้เพราะอยู่ลึกกว่าระดับน้ำที่ซึมลงดิน จึงสามารถหาอาหารส่งไปเลี้ยงต้นระหว่างน้ำท่วมแทนรากฝอยได้
* ดอกเรียกว่า ส่า เพราะเมื่อดอกแก่จัดมีกลิ่นเหมือนส่าเหล้า ดอกตัวผู้กับดอกตัวเมียแยกกันคนละดอกแต่อยู่ในต้นเดียวกัน จำนวนดอกตัวผู้มากกว่าดอกตัวเมีย การผสมเกสรอาศัยลมและแมลงเป็นหลัก ถ้าช่วยผสมด้วยมือในช่วงเช้า (09.00-11.00 น.) โดยการนำดอกตัวผู้พร้อมผสมไปถูกสัมผัสเบาๆกับดอกตัวเมียที่พร้อมรับการผสมเหมือนกันก็จะช่วยให้การผสมติดเป็นผลดีขึ้น
ดอกตัวผู้มักอยู่ตามง่ามกิ่ง อยู่สูงกว่าดอกตัวเมีย ก้านดอกเล็กกว่าก้านดอกดอกตัวเมีย มีกลีบเลี้ยงขนาดเล็ก 4 กลีบแต่ไม่มีกลีบดอก เมื่อเกสรตัวผู้ได้ผสมกับเกสรตัวเมียแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำร่วงหล่นไปเอง
ดอกตัวเมียมีลักษณะคล้ายหนามเป็นกระจุก แต่ละดอกมีรังไข่เดียว มีกลีบเลี้ยงเท่ากับดอกตัวผู้ เกสรตัวเมียเมื่อได้รับการผสมแล้วจะไม่เปลี่ยนสีแต่ติดเป็นผล
* เกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างไม่สมบูรณ์ เกิดจากขาดสารอาหาร/ฮอร์โมน หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม (อากาศร้อนหรือฝนตกชุก) ผสมกันแล้วพัฒนาเป็นผลจะเป็นผลไม่สมบูรณ์ ไม่โต รูปทรงบิดเบี้ยว หรือผลแป้ว
* อายุผลตั้งแต่ดอกผสมติดหรือดอกเริ่มโรยถึงเก็บเกี่ยวได้ พันธุ์เบาอายุ 100-120 วัน พันธุ์หนักอายุ 160-180 วัน...........ขนุนที่ออกดอกในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ควรตัดดอกทิ้งเพราะเป็นขนุนปี ราคาไม่ดี จากนั้นให้เริ่มบำรุงใหม่ อีกประมาณ 3-4 เดือน จะมีดอกชุดใหม่ออกมาเป็นขนุนนอกฤดู
การไว้ดอกและเลี้ยงผลต้องรู้ให้แน่ว่าขนุนสายพันธุ์ที่ปลูกนั้นมีอายุผลนานเท่าใด ช่วงผลแก่ตรงกับหน้าฝนหรือไม่ ถ้าผลแก่ตรงกับหน้าแล้งให้เลี้ยงไว้แต่ถ้าผลแก่แล้วตรงกับหน้าฝนก็ไม่ควรเลี้ยงให้เด็ดทิ้งตั้งแต่ยังเป็นดอก
* ผลติดเป็นพวงตั้งแต่ 2 ผลขึ้นไป ให้พิจารณาขั้วและปริมาณผลใกล้เคียง ถ้าขั้วผลของทั้งสองผลตรง สมบูรณ์ แข็งแรงดี มีผลใกล้เคียงน้อยให้บำรุงเลี้ยงไว้ทั้งสองผล แต่หากขั้วผลคดและมีผลใกล้เคียงจำนวนมาก ให้ตัดผลขั้วคดทิ้งเหลือไว้เฉพาะผลขั้วตรง ทั้งนี้ขั้วคดมักลำเลียงน้ำเลี้ยงไปบำรุงผลไม่ดี
คุณลักษณะของขนุนพันธุ์ดี
1. ลำต้นทรงเปล้าสูงตรงหรือกิ่งง่ามแรกสูงจากพื้น 80-100 ซม.ขึ้นไป ลำต้นแข็งแรง ต้านทานโรคและแมลงดี
2. ใบใหญ่หนาเขียวเข้ม เส้นใบใหญ่นูนชัดเจน
3. การผสมเกสรดี ติดผลดก ให้ผลทะวายปีละ 2 รุ่น หรือทยอยออกเป็นหลายรุ่น
4. รูปทรงผลกลมยาว โดยเส้นผ่าศูนย์กลางความกว้างเท่ากับ 3 ใน 4 ของความสูง ผิวเรียบหรือแป้วน้อยที่สุด
5. น้ำหนักผลไม่น้อยกว่า 10 กก. และให้เนื้อไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมทั้งผล
6. ขั้วผลขนาดเล็กตรงแข็งแรง แกนหรือไส้ในเล็กยาวเรียวสม่ำเสมอ ฐานผลตั้งฉากกับขั้ว
7. หนามห่างยกสูงจากผิวและเปลือกบาง
8. ยวงใหญ่ยาว เนื้อหนา มีขนาดใกล้เคียงกันทั้งผล สีเหลืองเข้มถึงสีจำปา เนื้อแห้งหวานกรอบ กลิ่นหอมจัด เนื้อที่แกะออกมาแล้วเก็บในตู้เย็นอยู่ได้นานโดยเนื้อไม่เละแฉะ
9. ปลายยวงทั้งด้านเปลือกและด้านแกนตั้งฉาก ตรงไม่คดงอหรือพับ เนื้อบริเวณสัมผัสเปลือกหรือแกนมีขนาดเล็ก
10. เนื้อมาก ซังน้อย ซังหวานรับประมานได้ เมล็ดเล็กลีบ
11. ช่วงแก่จัดใกล้เก็บเกี่ยวมีฝนชุก รสชาติต้องไม่เปลี่ยนแปลงและเมล็ดไม่งอกใน
เทคนิคการเลือกสายพันธุ์ขนุน
1. มีชื่อเสียงรู้จักกันดีในวงการผู้ปลูกไม้ผล
2. มีประวัติเคยชนะเลิศการประกวด
3. พิสูจน์ลักษณะและคุณภาพผลจากต้นแม่โดยตรง
เทคนิคการเลือกต้นกล้าพันธุ์
1. เป็นต้นกล้ากิ่งทาบ เพราะจะได้ต้นที่ระบบรากแข็งแรงดีกว่าต้นที่ขยายพันธุ์ด้วยการตอน
2. เป็นต้นกล้าขยายพันธุ์มาจากกิ่งกระโดง ลักษณะกิ่งหรือลำต้นสูงตรงตั้งฉากกับพื้น ช่วงระหว่างข้อหรือปล้องยาว เปลือกหนาติดแกะยาก (ไม่ล่อน) อายุกิ่งกลางอ่อนกลางแก่ สีเปลือกยังอ่อนสีเขียวสดหรือเริ่มมีลายงาเล็กน้อย อวบอ้วนสมบูรณ์ ใบล่างสุดใหญ่ หนา เขียวเข้ม เป็นมันวาวสดใส ซึ่งเมื่อนำไปปลูกแล้วโตเร็ว ทรงพุ่มสวย อายุยืน ระยะเวลาการให้ผลผลิตสั้นและคุณภาพผลผลิตตรงตามสายพันธุ์
3. ต้นกล้าพันธุ์ที่เป็นกิ่งแก่ คดงอ ข้อหรือปล้องสั้น เปลือกหนา แกะง่ายหรือล่อน เปลือกสีน้ำตาลแก่หรือเทาอมดำ แสดงว่าเป็นต้นกล้าที่ขยายพันธุ์มาจากกิ่งข้างชี้ลง เมื่อนำไปปลูกจะโตช้าแต่ให้ผลผลิตเร็วกว่ากิ่งกระโดง ทั้งๆที่เป็นขยายพันธุ์ออกมาจากต้นแม่เดียวกัน......ต้นกล้าที่ขยายพันธุ์จากกิ่งข้างเมื่อโตแล้วจะมีทรงพุ่มไม่สวยเหมือนต้นกล้าที่ขยายพันธุ์จากกิ่งกระโดง......ต้นกล้าทั้งที่ขยายพันธุ์มาจากกิ่งกระโดงและกิ่งข้างต่างให้ผลผลิตตรงตามสายพันธุ์เหมือนๆกัน
* ปลูกขนุนเพื่อบริโภคในบ้าน ถ้าขนุนสุก 1 ผล น้ำหนักทั้งผล 20 กก. (สมมุติ) จะมีเนื้อประมาณ 10 กก. (50 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งผล) เนื้อขนุนสุก 10 กก.คงไม่มีบ้านใดเพียงบ้านเดียวรับประทานได้หมด แนะนำให้ปลูกขนุนพันธุ์ ทะวายปีเดียว น้ำหนักทั้งผล 6-7กก.จะได้เนื้อประมาณ 3-4 กก.ซึ่งพอดีสำหรับรับประทานในบ้าน นอกจากนี้ขนุนทะวายปีเดียวยังมีคุณสมบัติเป็นทะวายออกดอกติดผลตลอดปี ให้ผลผลิตเมื่ออายุต้น 1-1 ปีครึ่ง ผลขนาดเล็กแต่ดก เนื้อเหลืองเข้ม หนา ซังหวาน เปลือกบาง ผลแป้วน้อย และปลูกง่ายโตเร็วอีกด้วย
* ธรรมชาติของขนุนออกดอกติดผลจากลำต้นหรือใต้ท้องกิ่งใหญ่แก่อายุหลายๆปี ดังนั้นการเลือกต้นกล้าพันธุ์ที่มีส่วนเปล้าหรือลำต้นสูงๆมาปลูก หลังจากนำลงปลูกในแปลงจริงแล้วต้องเร่งบำรุงให้เปล้าหรือลำต้นพุ่งสูงขึ้นไปอีก ทั้งนี้ให้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า เมื่อต้นโตขึ้นถึงอายุให้ผลผลิตแล้วกิ่งง่ามแรกจะต้องสูงจากพื้นระดับไม่น้อยกว่า 80-100 ซม.
* เมื่ออายุต้นใกล้ให้ผลผลิตแล้ว ให้พิจารณาตำแหน่งของกิ่งทั้งหมดว่า ในอนาคตเมื่อต้นโตเต็มที่หรือให้ผลผลิตแล้ว กิ่งไหนจะบังแสงแดดกิ่งอื่นบ้าง โดยให้ต้นมีกิ่งสำหรับออกดอกติดผลจำนวนเพียง 5-6 กิ่งต่อความสูงต้น 5 ม.เท่านั้น ช่วงที่ต้นยังไม่ให้ผลผลิตหรือใกล้ให้ผลผลิตแล้วนี้ควรเลือกตัดกิ่งที่ไม่เหมาะสมออกทิ้งไปโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นกิ่งขนาดเล็กหรือใหญ่ แม้ต้องตัดกิ่งขนาดใหญ่ทิ้งแต่เมื่อต้นมีน้ำเลี้ยงมากๆ (เพราะไม่ต้องส่งไปเลี้ยงกิ่งใหญ่แล้ว) กิ่งขนาดเล็กที่เหลือจะโตเร็วเป็นกิ่งขนาดใหญ่ขึ้นมาแทนเอง ทั้งนี้ กิ่งที่เหลือเก็บไว้ให้เป็นกิ่งสำหรับให้ออกดอกติดผลผลนั้นต้องชี้ออกรอบทิศทางทุกด้านเท่าๆกัน หรือเป็นกิ่งที่ออกจากลำต้นประธานสม่ำเสมอกัน และระหว่างกิ่งบนกับกิ่งล่างต้องไม่ซ้อนกันจนบังแสงแดดซึ่งกันและกัน
* ต้นขนุนที่ออกดอกติดผลจากใต้ท้องกิ่ง เมื่อต้นโตเต็มที่หรือให้ผลผลิต 3-5 รุ่นแล้ว ถ้ากิ่งที่เคยออกดอกติดผลนั้นทำมุมแคบกับลำต้น (ชี้เฉียงขึ้น) ให้ดัดกิ่งโดยใช้ถุงทรายหรือก้อนหินผูกกับกิ่งเพื่อค่อยๆโน้มกิ่งนั้นให้โน้มลงระนาบกับพื้น ซึ่งจะส่งผลให้การออกดอกติดผลดีขึ้น กิ่งแก่เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-5 นิ้วอาจต้องใช้เวลาดัดกิ่งด้วยการถ่วงน้ำหนักนานข้ามปี.......ส่วนต้นที่ออกดอกติดผลตามลำต้น ถ้าไม่โน้มกิ่งลงให้โน้มระนาบกับพื้นก็จะยังคงออกดอกติดผลตามลำต้นต่อไป ครั้นเมื่อได้โน้มกิ่งลงให้ระนาบกับพื้นก็จะเปลี่ยนมาเป็นออกดอกติดผลจากท้องกิ่งได้ ซึ่งเท่ากับว่าขนุนต้นนั้นออกดอกติดผลได้ทั้งที่ลำต้นและท้องกิ่ง........สายพันธุ์ที่เมื่อต้นโตขึ้นแล้วจะโน้มกิ่งลงระนาบกับพื้นเองตามธรรมชาติ คือ แม่น้อยทะวาย ซึ่งมีนิสัยออกดอกติดผลที่ท้องกิ่งแล้วน้ำหนักผลเป็นตัวถ่วงให้กิ่งโน้มลงระนาบกับพื้นเอง
* ขนุนอายุต้น 2 ปียังไม่ให้ผลผลิต ให้ใช้เชือกผูกกิ่งแล้วค่อยๆโน้มลงทุก 3-4 เดือน เมื่อขนุนต้นนั้นโตขึ้นจะมีกิ่งโน้มลงระนาบกับพื้นเอง
ลักษณะผลแก่จัด
1. หนามห่าง ปลายทู่ ร่องระหว่างหนามห่าง
2. ผลที่เปลือกเขียวหรือเขียวอมเหลือง สีเปลือกจะเปลี่ยนเป็นเหลืองเข้ม
3. ใบเลี้ยงที่ติดอยู่กับขั้วผลซีดเหลือง
4. น้ำยางจากขั้วผลจางใส
5. เคาะผลฟังเสียงหลวม
* อายุต้นเริ่มให้ผลผลิตได้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ กล่าวคือ บางสายพันธุ์เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุต้นเพียง 1 ปีหลังปลูก ในขณะที่บางสายพันธุ์เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุต้น 3-5 ปีหลังปลูก
อายุต้นขนุนกับการไว้จำนวนผล
- อายุต้น 3-5 ปี ไว้ผล 5-7 ผล/ต้น/ปี หรือ/รุ่น
- อายุต้น 5-10 ปี ไว้ผล 20-25 ผล/ต้น/ปี หรือ/รุ่น
- อายุต้น 15-20 ปี ไว้ผล 30-40 ผล/ต้น/ปี หรือ/รุ่น
- อายุต้น 20 ปีขึ้นไปไว้ผล 40-50 ผล/ต้น/ปี หรือ/รุ่น
* ขนุนออกดอกช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย.พร้อมกันแล้วแก่เก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือน เม.ย.เป็นขนุนพันธุ์เบา คุณภาพดีและขายได้ราคาดี ส่วนที่แก่เก็บเกี่ยวได้ในเดือน มิ.ย.เป็นขนุนพันธุ์หนัก ขนุนชุดนี้เป็นขนุนปีหรือขนุนในฤดูมักมีปริมาณออกสู่ตลาดมาก กอร์ปกับออกตรงกับช่วงหน้าฝนด้วยคุณภาพมักไม่ดีจึงจำหน่ายไม่ได้ราคา
* ขนุนออกออกดอกช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. แล้วแก่เก็บเกี่ยวได้ช่วงเดือน พ.ย. เป็นขนุนพันธุ์เบา ส่วนที่แก่เก็บเกี่ยวได้ในเดือน ธ.ค.เป็นขนุนพันธุ์หนัก ขนุนชุดนี้เป็นขนุนนอกฤดู มีปริมาณออกสู่ตลาดน้อย ผลแก่จัดตรงกับช่วงฝนแล้ง คุณภาพจึงดี ส่งผลให้ได้ราคาดีไปด้วย
* ขนุนทะวาย คือ ขนุนที่ออกดอกติดผลปีละ 2 รุ่น หรือทยอยออกจนไม่เป็นรุ่นขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้น ส่วนขนุนปีเป็นขนุนที่ออกดอกติดผลเพียงปีละ 1 รุ่นแม้จะได้บำรุงอย่างดีแล้วก็ตาม
หมายเหตุ :
ผู้บริโภคมักไม่สนใจว่าเป็นขนุนสายพันธุ์ใด ถ้าเห็นว่าคุณภาพดีตามต้องการก็จะซื้อทันที นั่นคือ ผู้ปลูกจะต้องรู้ถึงวิธีการปฏิบัติบำรุงอย่างถูกต้อง เพราะขนุนทุกสายพันธุ์ตอบสนองดีมากต่อปุ๋ยและฮอร์โมนซึ่งจะส่งผลให้ได้คุณภาพดีเอง
* ขนุนละมุดเป็นขนุนอีกสายพันธุ์หนึ่ง แต่ชาวสวนไม่นิยมปลูกเพราะเมื่อสุกจัด เนื้อเละเปียกแฉะ ไม่น่ารับประทาน แม้ว่าจะมีกลิ่นหอมรสหวานจัดก็ตาม..........ขนุนละมุดต้องรับประทานช่วงที่ผลเริ่มสุก (ห่าม) ซึ่งนอกจากเนื้อไม่เละเปียกแฉะแล้วยังหวานมันและกรอบดีอีกด้วย
* ขนุนใบแฉกเมื่อโตแล้วจะไม่ออกดอกติดผล
การขยายพันธุ์
ตอน. ทาบกิ่ง . เสียบยอด. เพาะเมล็ด (กลายพันธุ์). เพาะเมล็ดเสริมรากเสียบยอด (ดีที่สุด).
ระยะปลูก
- ระยะปกติ 8 X 8 ม. หรือ 8 X 10 ม.
- ระยะชิด 4 X 4 ม. หรือ 6 X 6 ม.
เตรียมดินและอินทรีย์วัตถุ
- ใส่ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม + มูลไก่ไข่/เนื้อ/นกกระทา (แห้งเก่าข้ามปี) ปีละ 2 ครั้ง
- ให้ยิบซั่มธรรมชาติ ปีละ 2 ครั้ง
- ให้กระดูกป่น ปีละ 1 ครั้ง
- คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆเต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่ม ล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิงหรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน/ครั้ง
หมายเหตุ :
- การฝังซากสัตว์ เช่น หอยเชอรี่ ปลาสด เป็นชิ้นเท่าลูกมะนาวหรือบดละเอียด ที่ชายเขตทรงพุ่ม 4-5 หลุม/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม. ฝังปีเว้นปี เพื่อให้ต้นมีสารอาหารกินตลอด 24 ชม. ต่อเนื่องหลายๆปีจะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์สูงพร้อมต่อการบำรุงทุกขั้นตอน
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ (ทางใบ-ทางราก) บ่อยเกินไปจะทำให้ต้นหยุดการเจริญเติบโต ไม่แตกใบอ่อน ผลหยุดขยายขนาดแล้วกลายเป็นผลแก่ การให้ทางใบอาจเป็นแหล่งอาศัยและแพร่ระบาดของเชื้อราได้
- ฮอร์โมนธรรมชาติและฮอร์โมนวิทยาศาสตร์จะให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยก็ต่อเมื่อ ต้นมีสภาพความสมบูรณ์สูง
เตรียมต้น
ตัดแต่งกิ่ง :
ขนุนออกดอกติดผลที่ลำต้นและใต้ท้องกิ่งขนาดใหญ่ บางสายพันธุ์ออกติดผลตามลำต้นส่วนที่อยู่สูงจากพื้นมากๆ บางสายพันธุ์ออกดอกติดผลตามลำต้นสูงจากพื้นไม่มากหรือกองดินเลยก็มี บางสายพันธุ์ออกดอกติดผลเฉพาะตามท้องกิ่งโดยไม่ออกตามลำต้น แต่บางสายพันธุ์ออกดอกติดผลได้ทั้งที่ลำต้นและท้องกิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใด หรือออกดอกติดผลที่ส่วนใดของต้นก็ตาม ไม่ควรมีกิ่งขนาดเล็กภายในทรงพุ่ม การตัดแต่งกิ่งให้ตัดแล้วเรียกใบชุดใหม่เฉพาะปลายกิ่งเท่านั้น ช่วงตัดแต่งกิ่งควรตัดให้เหลือใบประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์และเมื่อใบอ่อนชุดใหม่ออกมาแล้วให้มีใบประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์จะช่วยให้การออกดอกติดผลดี
ตัดกิ่งบังแสงแดดต่อกิ่งอื่นออก ทำให้ทรงพุ่มโปร่งจนแสงแดดสามารถส่องได้ถึงทุกกิ่งทั่วทรงพุ่ม กิ่งได้รับแสงแดดจะสมบูรณ์ดีกว่ากิ่งไม่ได้รับแสงแดดหรือได้รับแสงแดดน้อย
ตัดกิ่งกระโดง กิ่งในทรงพุ่ม กิ่งคดงอ กิ่งชี้ลง กิ่งไขว้ กิ่งหางหนู กิ่งเป็นโรค ภายในทรงพุ่มควรให้โปร่งจนแสงส่องผ่านลงไปถึงโคนต้นได้
- ตัดยอดกิ่งประธาน (ผ่ากบาล) ณ ความสูงต้นตามต้องการ นอกจากช่วยทำให้แสงแดดผ่านจากยอดเข้าสู่ภายในทรงพุ่มได้อย่างทั่วถึงแล้วแสงแดดที่ร้อนยังช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี และเพื่อควบคุมขนาดความสูงทรงพุ่มอีกด้วย
- นิสัยการออกดอกของขนุนไม่จำเป็นต้องกระทบหนาว แต่ถ้าตัดแต่งกิ่ง-เรียกใบอ่อนช่วงต้นหน้าฝนแล้วเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไปตามลำดับอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์เต็มที่ดีกว่าการตัดแต่งกิ่งในช่วงอื่น
ตัดแต่งราก :
- ต้นที่อายุยังน้อยไม่ควรตัดแต่งรากแต่ถ้าต้องการสร้างรากใหม่มีประสิทธิภาพในการหาอาหารดียิ่งขึ้นให้ใช้วิธีล่อรากด้วยการพูนโคนต้นด้วยดิน 3 ส่วนกับอินทรีย์วัตถุ 1 ส่วน
- ต้นอายุหลายปี ระบบรากเก่าและแก่มาก ให้พิจารณาตัดแต่งรากส่วนปลายออก 1 ใน 4 ด้วยการพรวนดินรอบทรงพุ่มลึก 10-15 ซม. หลังจากให้ฮอร์โมนบำรุงรากไปแล้วต้นจะแตกรากใหม่จำนวนมากขึ้นและมีประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหารได้ดีกว่าเดิม