หน้า: 1/3
ละมุด
ลักษณะทางธรรมชาติ
* เป็นไม้ผลยืนต้นอายุนับร้อยปี ปลูกได้ทุกพื้นที่ ทุกภาค และทุกฤดูกาล เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกประเภท ชอบดินดำร่วนปนทรายมีอินทรียวัตถุมากๆ ระบายน้ำดี ทนแล้งแต่ไม่ทนต่อสภาพน้ำท่วมขังค้างนาน ช่วงพักต้นต้องการน้ำน้อย แต่ช่วงออกดอกติดผลต้องการน้ำมากและความชื้นสูง
* เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุต้น 3-4 ปีหลังปลูก สภาพต้นสมบูรณ์เต็มที่ผ่านการบำรุงแบบให้มีสารอาหารกินตลอด 24 ชม.ต่อเนื่องนานหลายปีจะออกดอกติดผลได้ตลอดปีแบบไม่มีรุ่นได้
* อายุผลตั้งแต่ดอกบานถึงเก็บเกี่ยว 7 เดือน และต้นอายุ 30 ปี สามารถให้ผลผลิตได้ถึง 2,500-3,000 ผล/ต้น/ปี
* เตรียมสร้างทรงพุ่มให้สูง 2-3 ม. กว้าง 3-5 ม.ตั้งแต่อายุต้นยังน้อย โดยให้มีกิ่งประธาน 5-6 กิ่งชี้เพราะธรรมชาติของละมุดนั้น ต้นที่กิ่งประธานระนาบกับพื้น และกิ่งแขนงทำมุมกว้างกับกิ่งประธานจะส่งผลให้กิ่งย่อยออกดอกติดผลดกและดี.........การทำให้กิ่งประธานระนาบกับพื้นไม่จำเป็นต้องดัดหรือกระทำการใดๆ เพราะเมื่ออายุต้นมากขึ้นน้ำหนักกิ่งและผลจะถ่วงให้กิ่งเอนระนาบลงเอง
* มีระบบรากค่อนข้างยาว การให้ปุ๋ยทางรากจึงต้องหว่านเป็นบริเวณกว้างเพื่อให้เนื้อปุ๋ยถึงส่วนปลายรากอย่างทั่วถึง
* ออกดอกจากข้อใบปลายกิ่งที่เกิดใหม่ในปีนั้น เป็นดอกสมบูรณ์เพศมีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน ผสมกันเองหรือผสมข้ามดอกข้ามต้นได้
* เกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างไม่สมบูรณ์เกิดจากขาดสารอาหาร/ฮอร์โมนหรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม (อากาศร้อนหรือฝนตกชุก) แล้วผสมกันแล้วพัฒนาเป็นผลจะเป็นผลไม่สมบูรณ์ ไม่โต รูปทรงบิดเบี้ยว
* การพูนดินโคนต้นโดยเฉพาะเลนก้นร่องในสวนยกร่องน้ำหล่อ อย่าพูนหนาแต่ให้พูนบางๆ
* ช่วงพัฒนาผลเล็กถึงผลกลางต้นต้องการน้ำมาก แต่ช่วงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวถ้าต้นยังได้รับน้ำมากอยู่เหมือนเดิมจะทำให้ความหวานลดลง ดังนั้นจึงต้องเตรียมการบำรุงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวแบบไม่ต้องงดน้ำหรือให้น้ำน้อยๆ เพราะช่วงที่มีผลหลายรุ่นในต้นแล้วงดน้ำเพื่อบำรุงผลแก่ บรรดาผลรุ่นหลังจะชะงักการเจริญเติบโต กรณีนี้ให้ใส่ปุ๋ยทางรากด้วยสูตร 8-24-24 คู่กับให้ทางใบด้วย 0-0-50 หรือ 0-21-74 (สูตรใดสูตรหนึ่ง) สลับกับมูลค้างคาวสกัด (ฮอร์โมนเร่งหวานสูตรเด็ด) อย่างละ 1 รอบก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน พร้อมกับให้น้ำพอหน้าดินชื้น ไม่มากไม่น้อยจนเกินไปก็จะช่วยบำรุงทั้งผลแก่ใกล้เก็บและผลรุ่นหลังไปพร้อมๆกัน
สายพันธุ์
ละมุดสีดา : เป็นพันธุ์พื้นเมือง ผลสีน้ำตาลอมแดง ผลเล็ก รสชาติไม่ค่อยดีจึงไม่นิยมปลูกเพื่อการค้า โตเร็ว ให้ผลผลิตดกมาก
ไข่ห่าน : ขนาดผลใหญ่มาก รสชาติหวานเย็น ติดผลไม่ดกนัก นิยมปลูกแต่น้อยกว่าพันธุ์มะกอกผลกลาง
มะกอก : แบ่งออกเป็น 3 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ผลใหญ่ (ติดผลไม่ดก/รสหวานจัด/ไม่นิยมปลูก). พันธุ์ผลกลาง (ติดผลดกมาก/รสหวานจัด//นิยมปลูก). และพันธุ์ผลเล็ก (ติดผลดกมาก/เนื้อน้อย/รสไม่หวานจัด/ไม่นิยมปลูก).
กระสวย : ติดผลเร็วแม้อายุต้นยังน้อย ผลขนาดใหญ่ ระยะต้นเล็กให้ผลไม่ดกนักแต่เมื่ออายุต้นมากขึ้นหรืออายุต้นยิ่งมากยิ่งติดผลดก รสหวานจัด นิยมปลูกกันมาก
การขยายพันธุ์
- ตอน (ดีที่สุด). ทาบกิ่ง. เสียบยอด. ชำกิ่ง. เพาะเมล็ด (กลายพันธุ์).
- วิธีตอนกิ่งละมุด ให้เลือกกิ่งกระโดง อวบอ้วนสมบูรณ์ อายุกลางอ่อนกลางแก่ ความยาว 60-80 ซม. ควั่นเปลือกขูดเยื่อเจริญทิ้งไว้ 15-20 วันจนขอบแผลรอยควั่นเริ่มเป่งบวมและมั่นใจว่าเส้นทางน้ำเลี้ยงจากรากไปสู่กิ่งถูกตัดขาดแล้วจึงหุ้มตุ้มตอนที่ใช้รากผักปอดชุ่มน้ำ พันทับด้วยใบตองแห้งหนาๆแล้วผูกรัดด้วยเชือก 3 เปราะ หัว-กลาง-ท้าย เหมือนมัดข้าวต้ม จากนั้นประมาณ 3-5 เดือนจึงจะเริ่มออกราก ระหว่างที่รากยังไม่ออกนี้ ถ้าตุ้มตอน (รากผักปอด) แห้งให้หยอดน้ำรักษาความชื้นไว้.......ช่วงที่เหมาะสม คือ ควั่นกิ่งขูดเยื่อเจริญช่วงเดือน เม.ย. แล้วหุ้มตุ้มตอนในเดือน พ.ค.-มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝนจะช่วยให้ออกรากแน่นอนขึ้น
ระยะปลูก
- ระยะปกติ 6 X 6 ม. หรือ 6 X 8 ม.
- ระยะชิด 4 X 4 ม. หรือ 4 X 6 ม.
เตรียมดินและอินทรีย์วัตถุ
- ใส่ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม + มูลไก่ไข่/เนื้อ/นกกระทา..แห้งเก่าข้ามปี)ปีละ 2 ครั้ง
- ให้ยิบซั่มธรรมชาติ ปีละ 2 ครั้ง
- ให้กระดูกป่น ปีละ 1 ครั้ง
- คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆเต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่ม ล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิงหรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน/ครั้ง
หมายเหตุ :
- การฝังซากสัตว์ เช่น หอยเชอรี่ ปลาสด เป็นชิ้นเท่าลูกมะนาวหรือบดละเอียด ที่ชายเขตทรงพุ่ม 4-5 หลุม/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม. ฝังปีเว้นปี เพื่อให้ต้นมีสารอาหารกินตลอด 24 ชม. ต่อเนื่องหลายๆปีจะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์สูงพร้อมต่อการบำรุงทุกขั้นตอน
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ (ทางใบ-ทางราก) บ่อยเกินไปจะทำให้ต้นหยุดการเจริญเติบโต ไม่แตกใบอ่อน ผลหยุดขยายขนาดแล้วกลายเป็นผลแก่......การให้ทางใบอาจเป็นแหล่งอาศัยและแพร่ระบาดของเชื้อราได้
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิงหรือจุลินทรีย์หน่อกล้วย 1-2 เดือน/ครั้ง
- ฮอร์โมนธรรมชาติและฮอร์โมนวิทยาศาสตร์จะให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยก็ต่อเมื่อ ต้นมีสภาพความสมบูรณ์สูง
เตรียมต้น
ตัดแต่งกิ่ง :
- ตัดแต่งเพื่อการแตกยอดใหม่ให้ตัดกิ่งกระโดง กิ่งในทรงพุ่ม กิ่งคดงอ กิ่งชี้ลง กิ่งไขว้ กิ่งหางหนู กิ่งเป็นโรค ทั้งนี้ภายในทรงพุ่มควรให้โปร่งจนแสงส่องผ่านลงไปถึงโคนต้นได้
- ตัดกิ่งทิ้งเพื่อไม่ให้แตกยอดใหม่ป้องกันทรงพุ่มทึบเกินไปให้ตัดชิดลำกิ่งประธาน
- ตัดยอดกิ่งประธาน (ผ่ากบาล) ณ ความสูงต้นตามต้องการ นอกจากช่วยทำให้แสงแดดผ่านจากยอดเข้าสู่ภายในทรงพุ่มได้อย่างทั่วถึงแล้ว แสงแดดที่ร้อนยังช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี และเพื่อควบคุมขนาดความสูงทรงพุ่มอีกด้วย
- ลักษณะโครงสร้างต้นละมุดที่ดีควรมีใบด้านนอกทึบแต่ด้านในโปร่ง กิ่งในทรงพุ่มจะไม่ออกดอกติดผลจึงควรหมั่นตัดแต่งกิ่งในทรงพุ่มบ่อยๆ
- ควรตัดแต่งกิ่ง-เรียกใบอ่อนช่วงต้นหน้าฝนแล้วเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไปตามลำดับจะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์เต็มที่ดีกว่าการตัดแต่งกิ่งในช่วงอื่น
ตัดแต่งราก :
- ระยะที่ต้นอายุยังน้อยไม่ควรตัดแต่งราก แต่ถ้าต้องการสร้างรากใหม่ให้มีประสิทธิภาพในการหาอาหารดียิ่งขึ้นใช้วิธีล่อรากด้วยการพูนโคนต้นด้วยดิน 3 ส่วนกับอินทรีย์วัตถุ 1 ส่วน
- ต้นอายุหลายปี ระบบรากเก่าและแก่มาก ให้พิจารณาตัดแต่งรากส่วนปลายออก 1 ใน 4 ด้วยการพรวนดินรอบทรงพุ่มลึก 10-15 ซม. หลังจากให้ฮอร์โมนบำรุงรากไปแล้วต้นจะแตกรากใหม่จำนวนมากขึ้นและมีประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหารได้ดีกว่าเดิม