ผู้ส่ง |
ข้อความ |
kimzagass |
ตอบ: 09/10/2010 10:28 pm ชื่อกระทู้: |
|
รูปเก่าๆ ที่โรงงานปุ๋ยไร่กล้อมแกล้ม ก็มี ไปเก็บเอาซี่..... |
|
|
somchai |
ตอบ: 09/10/2010 8:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
เสียดายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เมื่อก่อน ไม่ได้เก็บภาพสมุนไพรสด ที่ มีขายใน คาราวาน สีสันชีวิตไทย หลายๆคนจะได้เห็น พืชสมุนไพร แต่ละชนิดมีหน้าตาอย่างไร
สมชาย กลิ่นมะพร้าว |
|
|
kimzagass |
|
|
hearse |
ตอบ: 08/10/2010 9:08 pm ชื่อกระทู้: สมุนไพรว่านน้ำ |
|
ว่านน้ำ
url=http://image.ohozaa.com/show.php?id=828322c6117cb4a02ebd61b8ec949588][/url]
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acorus calamus L.
ชื่อสามัญ : ว่านน้ำ Mytle Grass, Sweet Flag
วงศ์ : Araceae
ชื่ออื่น : คงเจี้ยงจี้ ผมผา ส้มชื่น ฮางคาวน้ำ ฮางคาวบ้าน (ภาคเหนือ) ตะไคร้น้ำ (เพชรบุรี) ทิสีปุตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ว่านน้ำ ว่านน้ำเล็ก ฮางคาวผา (เชียงใหม่)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ว่านน้ำมีลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดินลักษณะเป็นแท่งค่อนข้างแบน มีใบแข็งตั้งตรง รูปร่างแบนเรียวยาวคล้ายใบดาบฝรั่ง ปลายใบแหลม แตกใบเรียงสลับซ้ายขวาเป็นแผง ใบค่อนข้างฉ่ำน้ำ ดอกมีสีเขียวมีขนาดเล็กออกเป็นช่อ มีจำนวนมากอัดกันแน่นเป็นแท่งรูปทรงกระบอก มีก้านช่อดอกลักษณะคล้ายใบ ทั้งใบ เหง้า และรากมีกลิ่นหอมฉุน ชอบขึ้นตามที่น้ำขัง หรือที่ชื้นแฉะ
ส่วนที่ใช้ : ราก เหง้า น้ำมันหอมระเหยจากต้น
แหล่งที่พบ : พบขึ้นอยู่ตามหนองน้ำ บ่อ บึงที่เป็นดินเลน
สารเคมี : : มีน้ำมันหอมระเหย (Calamus oil) 2-4% ในน้ำมันประกอบด้วย Sesquiterpene เช่น asarone, Betasalone (มี 70-80 %) และตัวอื่นๆ ยังมี glucoside รสขมชื่อ acorin
สรรพคุณทางยา :
ราก
- รับประทานมาก ทำให้อาเจียน แต่มีกลิ่นหอม รับประทานน้อย เป็นยาแก้ปวดท้อง ธาตุเสีย บำรุงธาตุ แก้จุก ขับลมในลำไส้ ปรุงลงในยาขมต่างๆ ทำให้ระงับอาการปวดท้องได้ดี
- ในว่านน้ำมีสารชนิดหนึ่งเรียกว่า อาโกริน acorine มีรสขมและแอลคาลอยด์ คาลาไมท์ อยู่ในนี้เป็นยาแก้บิด เป็นยารักษาบิดของเด็ก (คือมูกเลือด) และหวัดลงคอ (หลอดลมอักเสบ) ได้อย่างดี เป็นยาขับเสมหะอย่างดี ชาวอินเดียใช้ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ เคี้ยว 2-3 นาที แก้หวัดและเจ็บคอ และใช้ปรุงกับยาระบายเพื่อเป็นยาธาตุด้วยในตัว
- เป็นยาเบื่อแมลงต่างๆ เช่น แมลงวัน
- เป็นยาแก้เส้นกระตุก แก้หืด ขับเสมหะ แก้ปวดศีรษะ แก้ Hysteria และ Neuralgia แก้ปวดกล้ามและข้อ แก้โรคผิวหนัง
เหง้า
- ใช้ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้โรคผิวหนัง เป็นยาหอม
น้ำมันหอมระเหยจากต้น
- แก้ชัก เป็นยาขมหอม ขับแก๊สในท้อง ทำให้เจริญอาหาร ช่วยการย่อย
วิธีใช้และปริมาณที่ใช้ :
บำรุงธาตุ ใช้เหง้าสด 9-12 กรัม หรือแห้ง 3-6 กรัม ชงด้วยน้ำร้อน 2 ถ้วยแก้ว ดื่มครั้งละ 1 ถ้วยแก้ว ก่อนอาหารเย็น ติดต่อกันจนกว่าธาตุจะปกติ
แก้ปวดท้องและจุกแน่น ใช้รากว่านน้ำ หนัก 60 กรัม โขลกให้ละเอียด ชงลงในน้ำเดือด 420 ซีซี. รับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ วันละ 3 ครั้ง
- เป็นยาดูดพิษ แก้อาการอักเสบของหลอดลมและปอด
- ใช้รากฝนกับสุรา เจือน้ำเล็กน้อย ทาหน้าอกเด็ก
- เป็นยาแก้ไอ ใช้ชิ้นเล็กๆ ของรากว่านน้ำแห้ง อมเป็นยาแก้ไอ มีกลิ่นหอมระเหยทางลมหายใจ
- เป็นยาถอนพิษของสลอด และแก้โรคลงท้องปวดท้องของเด็ก
- ใช้รากว่านน้ำเผาจนเป็นถ่าน ทำผงรับประทานมื้อละ 0.5 ถึง 1.5 กรัม ใช้ใบว่านน้ำสดตำละเอียดผสมน้ำสุมศีรษะแก้ปวดศีรษะได้ ตำพอกแก้ปวดกล้ามและข้อ ตำรวมกับชุมเห็ดเทศ แก้โรคผิวหนัง
- เป็นยาขมหอม เจริญอาหาร ขับแก๊ส ช่วยย่อยอาหาร
- ในน้ำมันหอมระเหยมีวัตถุขมชื่อ acorin และมีแป้งและแทนนินอยู่ด้วย ทำเป็นยาชง (1 ใน 10) รับประทาน 15-30 ซีซี. หรือทิงเจอร์ (1 ใน 5) รับประทาน 2-4 ซีซี. ขนาดใช้ 1-4 กรัม
(ที่มา : www.samunprai.com)
การนำมาใช้ทางการเกษตร :
วิธีที่1
นำเหง้าของต้นว่านน้ำ มาบดละเอียด จำนวน 2 ขีด ผสมกัน้ำเปล่า 1 ปี๊บ ชทิ้งไว้ 1 วัน หรือ จะต้มนานประมาณ 40 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำไปฉีดพ่น ฆ่าแมลง ก่อนนำไปใช้ให้ผสมสารจับใบเข้าไปเล็กน้อย ฉีดพ่น ในแปลงพืช ทุกๆ 2 วัน
วิธีที่ 2
นำเหง้าว่านน้ำที่บดละเอียด จำนวน ครึ่ง กิโลกรัม ผสมกับขมิ้นบด จำนวน ครึ่งกิโลกรัม เติมน้ำ 1 ปี๊บ แช่ทิ้งไว้นาน 2 วัน แล้วกรองเอาน้ำหมักที่ได้ ไปฉีดไล่แมลงวันในแปลงพืชผักและไม้ผล ทั้งยังเป็นการป้องกันหนอนกระทู้ผักเข้าทำลายพืชผักได้เป็นอย่างดี
วิธีที่ 3
นำเหง้าแห้งมาบดให้เป็นผงคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเมล็ดพันธุ์พืชที่แห้งสนิท ในอัตราส่วน เมล็ดพันธุ์ 50 กิโลกรัม ต่อว่านน้ำ 1 กิโลกรัม สามารถ ป้องกันแมลง ในโรงเก็บได้
วิธีที่ 4
เป็นวิธีที่ใช้ในการป้องกันแมลงในโรงเก็บ ด้วยการใช้น้ำมันว่านน้ำ หรือชิ้นส่วนของเหง้า บดคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเมล็ดพันธุ์พืช เช่น เมล็ดถั่วเขียว เมล็ดถั่วเหลือง ที่ต้องการเก็บไว้ทำพันธุ์ในฤดูกาลถัดไป วิธีนี้สามารถป้องกันแมลงศัตรูในโรงเก็บอย่างได้ผลดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ต.ชาตรี.เคล็ดลับภูมิปัญญาไทย ชุด สมุนไพรเพื่อการเกษตร.2546.พิมพ์ครั้งที่2,.เคพีเอ็ม มีเดีย สยาม.นนทบุรี.110 หน้า |
|
|