kimzagass |
ตอบ: 30/09/2011 5:26 am ชื่อกระทู้: ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 30 SEP |
|
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 30 SEP
**********************************************************
สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.1009.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986
*********************************************************
จาก : (085)191-01xx
ข้อความ : อยากให้ลุงพูดถึงการทำชมพู่ เพราะมันชอบแตกใบมากกว่าออกดอก.......
ตอบ :
ชมพู่พันธุ์อะไร ทูนเกล้า ทับทิมจันทร์ เพชรสามพราน อีกสาระพัด น่าจะบอกมาหน่อย เพราะชมพู่แต่ละสายพันธุ์มีข้อแตกต่างกัน
สารอาหาร (ปุ๋ย) มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม ซี. ทำให้ออกดอกติดผล กลุ่ม เอ็น. ทำให้แตกใบ....ในต้นถ้ามี ซี.มากกว่า เอ็น. ไม้ต้นนั้นจะออกดอก แต่ถ้าในต้นมี เอ็น.มากกว่า ซี. ไม้ต้นนั้นจะออกใบ.....
เอ็น คือ ...... N.
ซี. คือ ....... P-K-Ca-Mg-S-Fe-Cu-Zn-Mn-Mo-B-Si-Na-HOMONE-ฯลฯ
เอ็น. ......... มีอยู่ในกระสอบ ในน้ำฝน ในมูลสัตว์กินพืช
ซี. ........... มีอยู่ในกระสอบ ในถุง ในซอง ในกระป๋อง ในขวด ในมูลสัตว์ปีก
ถ้าในต้นมี ..... ซี.มากกว่า เอ็น. ........ เปิดตาดอกจะออกดอก
ถ้าในต้นมี ..... เอ็น.มากกว่า ซี. ........ เปิดตาดอกจะออกเป็นใบ
ถ้าในต้นมี ..... ซี.เท่ากับ เอ็น. ......... เปิดตาดอกจะออกเป็น ใบแซมดอก
เพราะฉนั้น เมื่อต้องการให้ต้นไม้ออกอก ต้องให้ปุ๋ยกลุ่ม ซี. และถ้าต้องการให้ต้นไม้ออกใบ ต้องให้อาหารกลุ่ม เอ็น.
กรณีฝนตกไม่เลิก ต้นได้รับ เอ็น.จากฝน เพราะฉนั้น เราต้องให้ ซี. ทั้งทางใบ-ทางราก เพื่อไปสู้ปริมาณกับ เอ็น.จากฝนให้ได้
แนวทางปกิบัติ คือ :
ทางใบ..... ให้ 0-42-56 หรือ 0-52-34 หรือ 0-21-74 + ธาตุรอง/ธาตุเสริม
ทางราก.... ให้ 8-24-24 ยิบซั่ม กระดูกป่น ระบายน้ำ งดน้ำเด็ดขาด
ต้องแน่ใจจริงๆว่า เมื่อให้ ซี.แล้วในต้นต้องมี ซี. มีมากกว่า เอ็น. นั่นแหละ ต้นจึงจะไม่แตกใบอ่อน เผลอๆออกดอกได้ด้วย
แล้วจะรู้ได้ไงว่า ต้นได้ เอ็น.จากฝน มาก/น้อย แค่ไหน คำตอบ คือ ไม่อาจทราบได้ เว้นเสียแต่ต้นแตกใบอ่อนออกมาให้เห็น นั่นแหละจึงจะรู้ว่า เอ็น.มากกว่า ซี. เรื่องแบบนี้ทำสำเร็จเรียกว่า ฟลุค มากกว่า ฝีมือ ..... บอกแล้วไง ทำเกษตรน่ะ เก่ง 1 ส่วน เฮ็ง 3 ส่วน ..... ทัมใจเถอะ พ่อจำเนียร
-------------------------------------------------------~------------------------------
จาก : (087) 209-6144
ข้อความ : 99.99% ไม่บอก ถึงบอกก็มั่ว จุลินทรีย์เป็นปุ๋ย ปุ๋ยเป็นยา ยาเป็นฮอร์โมน......
ตอบ :
เรื่องของเรื่องก็คือ ลุงคิมวิภาควิจารย์ ร้านขายปุ๋ย-ขายยา ว่า.....
คนขายไม่มีความรู้เรื่องปุ๋ยเรื่องยา หรือรู้แค่ที่เซลล์บอก หรือรู้แค่ในโบชัวร์ เอามาขายให้ลูกค้าเกษตรกร บอกผิดก็เท่ากับหลอก ก็มีบางร้าน
ถ้าปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา ยี่ห้อไหน ให้กำไรต่ำกว่าลิตร 100-200 จะไม่รับ หรือรับไว้ก็ไม่เชียร์ ทั้งๆที่ ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา ตัวนั้นดี แบบนี้.... บาป
บางร้านมีรูป ลูก-หลาน รับพระราทานปริญญาบัติ ม.เกษตร ติดโชว์หรา แต่ไม่เคยให้ความรู้เรื่องปุ๋ยเรื่องยาแก่เกษตรกรลูกค้า เพราะไม่มี
ความรู้ นี่ก็เท่ากับหลอก.... บาป
เถ้าแก่ครับ ด็อกเตอร์ครับ ขายปุ๋ยสูตรที่ถูกต้องก็ได้กำไรไม่ใช่เหรอครับ อย่าหลอกเขาเลย....บาป
ถาม อีเอ็ม. ว่า คือปุ๋ยตัวไหน ? ระหว่าง N-P-K, Ca-Mg-S, Fe-Cu-Zn-Mn-Mg-Mo-B-Si-Na กับอีก 80 ตัวไม่ได้ท่องมา....ถาม
ซ้ำว่า อีเอ็ม.คือตัวไหน ? คำตอบ คือ ไม่ใช่ทุกตัว .... เมื่อไม่ใช่แล้ว อีเอ็ม.คือปุ๋ยได้ไง ? คราวนี้เงียบ .....บอกให้ก็ได้ อีเอ็ม. คือ
จุลินทรีย์....จุลินทรีย์กับปุ๋ย เป็นคนละตัวกัน แต่อยู่ด้วยกัน ไปด้วยกัน....ต้นพืชที่ได้ อีเอ็ม.แล้วเจริญเติบโตดี เพราะจุลินทรีย์ใน อีเอ็ม.
เป็นตัวดึงปุ๋ยเคมีที่เหลือตกค้างอยู่ในดิน เนื่องจากพืชเอาไปใช้ไม่หมดให้ออกมา พอเกษตรกรเห็นว่าใส่แต่ อีเอ็ม. ไม่ได้ใส่ปุ๋ยจากกระ
สอบเลย ต้นไม้ต้นพืชโตได้ เลยยกผลประโยชน์ให้ อีเอ็ม. ไปเลย ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่ .... เคยเห็นแปลงข้าวในโบชัวร์
โฆษณา อีเอ็ม. ต้นสูงท่วมหัวคน ลุงคิมบอกว่า ต้นข้าวยาว (สูง) รวงจะสั้นแล้วก็ล้ม แต่ต้นข้าวสั้น (เตี้ย) รวงจะยาว แล้วก็ไม่ล้ม ไป
บอกให้เขาทำต้นข้าวให้สูงๆ แล้วมันเสียหาย.... บาป
อีเอ็ม. น่ะดี เพราะ อีเอ็ม.คือ จุลินทรีย์ แต่ระบบการตลาดต่างหากที่ไม่ดี ในเมื่อ อีเอ็ม.มีจุดดี จุดเด่น ในตัวเองอยู่แล้ว ทำไมจึง
ไม่เอาจุดเด่น จุดดี นั้นมาเป็นจุดขาย บอก (โฆษณา) ไปเลย อีเอ็ม.ต้องใช้ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยเคมี ไม่ใช้ไช้แต่ อีเอ็ม.
เดี่ยวๆ การนำความจริงมาเป็นจุดขาย ไม่ดีกระนั้นหรือ ..... เพราะกลัวแต่ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ที่ตัวเองไม่ได้ขายจะได้ประโยชน์
จึงมุ่งเน้นแต่ประโยชน์ตัวเอง แล้วเกษตรกร (ลูกค้า) เสียหาย.... บาป
จุลินทรีย์ กับ ปุ๋ยอินทรีย์-ปุ๋ยเคมี ต้องร่วมกัน ไปด้วยกัน เพราะต่างก็มีหน้าที่และประสิทธิภาพเฉพาะตัว เปรียบเสมือน ข้าวสารในถัง ถ้า
ไม่มีแม่ครัวเอาข้าวสารมาหุง ข้าวสารนั้นจะกินได้ไหม ฉันใด ปุ๋ยเคมี-ปุ๋ยอินทรีย์ คือ ข้าวสารในถัง จุลินทรีย์ คือ แม่ครัวผู้เปลี่ยน
รูปปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ให้มาอยู่ในรูป (ภาษาเคมี) ที่พืชสามารถเอาไปกินได้ ฉันนั้น
เถ้าแก่-ด็อกเตอร์...ขายสูตรที่ถูกต้องก็ได้กำไรนะ เลิกหลอกเกษตรกรเถอะ....บาป
ก็แค่นี้แหละ....
-------------------------------------------------------------------------------------------
. |
|