| kimzagass หาวด้า
 
  
  
 เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
 ตอบ: 11811
 
 
 | 
			
				|  ตอบ: 09/10/2020 6:06 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ  9 OCT....  * ข้าวโพดฝักสด |   |  
				| 
 |  
				| . .
 ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ  9 OCT..
 AM 594 เวลา  08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
 
 *****************************************************************
 สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง  ที่เคารพ
 กองทัพบก  เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม ...
 
 ผลิตรายการโดย....
 กองกิจการพลเรือน   หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ   กองทัพบก
 
 จุดยืนรายการ ....
 * เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม .. ? ..
 * ปัจจัยพื้นฐาน  ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
 * หัวใจเกษตร  ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
 * พร้อมทำเองสอนวิธีทำ   พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ
 
 กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ
 
 ผู้สนับสนุนรายการ ....
 ***  ยิบซั่มธรรมชาติ  เฟอร์มิกซ์,   ธันเดอร์พลัส   ธันเดอร์แคล.... ออร์เดอร์จาก   ออสเตรเลีย   แคนนาดา   อเมริกา  +Mg. Zn. เคมี, .... ออร์เดอร์จากเกาหลี  ให้ +Cu เคมี  อย่างละ 5% .... ยิบซั่มเพื่อการเกษตรที่ทั่วโลกยอมรับ  คือ  ยิบซั่มจากประเทศไทย  นี่แหละ
 
 *** ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์  คุณภาพผลผลิต (ยอด-ใบ-ดอก-ผล-เมล็ด-เนื้อ-ต้น-ราก) จะดกดี  สีสวยสด  รสจัดจ้านได้    ด้วยธาตุรอง/ธาตุเสริม ....
 
 *** แม็กเนเซียม.   สังกะสี.   สาหร่ายทะเล.   แคลเซียม โบรอน.   ส่วนผสมเอาไปทำเอง ....
 *** กลิ่นล่อดักแมลงวันทอง,   กาวเหนียวดักแมลงศัตรูพืช.... คิดง่ายๆ  ถ้าแมลงศัตรูพืชไม่มาที่กับดัก  เขาก็จะไปที่ต้นพืช  ว่ามั้ย .....   (089) 144-1112
 
 เช่นเคย รายการเรา
 *** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
 *** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
 *** อินเตอร์เน็ต  เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้  ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า
 
 ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย  นักรบไม่ว่ากัน THANK  YOU ....
 
 ........................................................................................................
 ........................................................................................................
 
 งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
 * วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน   ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์  สุพรรณบุรี,
 * วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
 * วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม(ขาล่อง) ก่อนถึงแยกนครชัยศรี นครปฐม,
 * วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ไปที่วัดส้มเกลี้ยง  ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์  ถ.วงแหวนตะวันตก
 ** ถึงจุดนี้  เกษตรกรที่ไหนอยากให้งานสัญจรไปลงที่นั่น  ที่ไหนก็ได้  ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด
 
 
 - งานสัญจรปกติวันเสาร์ ตรงกับวันที่ 10 ต.ค.ไปวัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี
 
 - งานสัญจรพิเศษ  เสาร์สัปดาห์ที่ 5 ของเดือน ตรงกับวันที่ 31 ต.ค. ไปวัดทุ่งสะเดา  แปลงยาว  ฉะเชิงเทรา....
 
 *** ทุกครั้งที่สัญจร แน่นอน  ระเบิดเถิดเทิง. ฟาจีก้า.  ไบโออิ.  หัวโต.  ไทเป.  ยูเรก้า.  ยาน็อค. ซื้อปุ๋ย 3,000 แถมหนังสือ 1 เล่ม  เลือกเอาระหว่าง  ไม้ผลแนวหน้า  กับหัวใจเกษตรไท   หรือ  ซื้อปุ๋ย 1,000 แถม แคลเซียม โบรอน.  1  ล.
 
 *** สนใจอยากยลโฉม  หม้อปุ๋ยหน้าโซน ส่งข่าวล่วงหน้าหน่อยก็ดี จะได้เตรียมไป ส่วนกับดักแมลงวันทองเอาไปแจก กับดักแมลงวันทองที่ขายๆในท้องตลาดอันละ 60 บาท  ลุงคิมทำอันละ 60 ตังค์  อันนี้เอาไปดู  ดูแล้วทำ  ออกแบบใหม่ ....
 
 ************************************************************
 ************************************************************
 
 
 จาก :  (093) 820-15xx
 ข้อความ : สัจจะธรรมเกษตร เนื้อที่ 1ไร่ เวลา 1ปี  เก็บได้ 1ครั้ง  เพราะใจอยู่ตรงนั้น  วันนี้สนใจข้าวโพด เนื้อที่ 1ไร่ เวลา 1ปี  เก็บได้ 4ครั้ง ทำให้ได้เกรด เอ. จัมโบ้.    ขอบคุณครับ
 ตอบ :
 - ข้าวโพดฝักสด 1 ไร่  ปลูกห่างกันรุ่นละ  4 เดือน  ทำงาน 1 ปีเก็บได้ 3 ครั้ง
 - ข้าวโพดฝักสด 12 ไร่  แบ่งเป็นโซน  ๆละ 2 ไร่ ปลูกห่างกัน  2 เดือน  ทำงาน 1 ปีเก็บได้ 6 ครั้ง
 - ใช้  เทคนิค/เทคโนโลยี  บำรุงให้  เกรด เอ.  จัมโบ้.  ปลอดสารเคมี 100%.  สีสวยสด.  รสจัดจ้าน. ผลผลิตเพิ่ม.  ต้นทุนลด.  อนาคตดี.  เกษตรพันธะสัญญา.
 
 คนถามใหม่  คำถามเก่า  คำตอบเดิม :
 
 10  SEP
 จาก : (062) 812-94xx
 ข้อความ : พืชอายุสั้น  นอกจากแคนตาลูป แตงโม  ในทัศนผู้พัน  ยังมีอะไรอีก..
 ตอบ :  เยอะ+ แยะ = เยอะแย๊ะ ตาแป๊ะขายหมู.... มาก + มาย = มากมายก่ายกอง บอกแล้วไง  ประเทศไทย แผ่นดินไทย ประเทศเกษตร แผ่นดินเกษตร มีเกษตรให้เลือกทำมากที่สุดในโลก วันนี้นำเสนอ ข้าวโพดกินสด    คนกินนะ  ไม่มีสัตว์เลี้ยงกิน จากกินสดๆ  เป็นแปรรูป  แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม...
 
 บ่น :
 - ในโลกนี้  อาชีพที่มนุษย์ทำมี 2 อย่าง คือทำ  ของกิน (เกษตรกรรม) กับ ของใช้ (อุตสาหกรรม)  ประเทศที่ทำของใช้ทำของกินไม่ได้เพราะพื้นที่ทำของกินไม่ได้  แต่ประเทศที่ทำของกิน ทำของใช้ได้ ทำของกินได้  เพราะพื้นที่ไม่จำกัด
 
 ในเมื่อประเทศทำของใช้ต้องกิน  จึงต้องขายสิ่งที่ทำคือของใช้แล้วเอาเงินมาซื้อของกิน
 
 สัจจะธรรมโลก  ในเมื่อประเทศไทยทำได้ทั้ง ของกิน/ของใช้  จึงน่าจะทำทั้งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม นั่นคือ  เกษตรอุตสาหกรรม   โดยนำผลผลิตทางเกษตรกรรมมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม  ทำให้ครบวงจร ต้นน้ำ/กลางน้ำ/ปลายน้ำ   ทำให้ได้เกรดซูพรีม/พรีเมียม/เกรด เอ./จัมโบ้/คิวซี/คิวอาร์/จีเอพี/จีเอ็มพี/โกอินเตอร์/ขึ้นห้าง/ออกนอกฤดู/สีสวยสด/รสจัดจ้าน/ปลอดสารเคมี/ฯลฯ
 
 ผลผลิตต่อไร่ :
 ข้าวโพดหวาน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,800 กก./ไร่
 ข้าวโพดฝักอ่อน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,500 กก./ไร่
 ข้าวโพดข้าวเหนียว ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,600 กก./ไร่
 ข้าวโพดเทียน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,600 กก./ไร่
 
 แนวโน้มในอนาคตของข้าวโพดฝักสด :
 1. เป็นพืชที่มีศักยภาพในการแข่งขันการส่งออกสูงเพราะข้าวโพดฝักสดสามารถแปรรูปผลผลิตได้หลายรูปแบบ สามารถส่งออกได้ทั้งในตลาดยุโรป อเมริกา อาฟริกา นอกจากนี้ ตลาดภายในประเทศก็มีความต้องการบริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมเมือง
 
 2. การส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวโพดฝักสดไม่มีปัญหาทางด้านโภชนาการ เนื่องจาก ในขั้นตอนการผลิตมีการใช้สารเคมีน้อย ส่งผลให้ผลผลิตที่ได้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคสูง เพราะไม่มีสารพิษตกค้าง หรือมีน้อยมาก
 
 3. เป็นพืชที่มีศักยภาพการผลิตสูง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ง่ายเพราะเป็นพืชระยะเวลาการผลิตสั้น (ใช้ระยะเวลาเพียง 45-50 วัน สำหรับข้าวโพดฝักอ่อน และ 70-75 วัน สำหรับข้าวโพดหวาน) และสามารถปลูกได้ตลอดปี ดูแลรักษาง่าย ให้ผลผลิตสูงมีความเสี่ยงต่ำ ใช้สารเคมีน้อย การเพิ่มคุณภาพและผลผลิตสามารถทำได้โดยใช้พันธุ์และวิธีการผลิตที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นพืชที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรในชนบท โดยเฉพาะในเขตที่มีน้ำชลประทาน
 
 4. เป็นพืชที่มีศักยภาพในการนำไปผลิตเป็นพืชอินทรีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพดฝักอ่อนและข้าวโพดหวาน เพราะเป็นพืชที่มีแมลงศัตรูน้อย นอกจากนี้ พันธุ์ที่ใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่มีความต้านทานโรคที่สำคัญได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพดฝักอ่อน
 
 ตลาดและผลตอนแทน :
 ข้าวโพดหวานประมาณร้อยละ 50 ที่ผลิตได้ในประเทศไทยจะถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานเพื่อส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ เช่น ในปี 2548 คิดเป็นประมาณ 109,774 ตัน มูลค่า 3,200 ล้านบาท ซึ่งจัดอยู่ในลำดับที่ 4 ของประเทศผู้ส่งออกข้าวโพดหวานในตลาดโลกข้าวโพดหวานและข้าวโพดฝักอ่อนที่เก็บส่วนของฝักออกไปใช้ประโยชน์แล้วส่วนของต้นและใบยังคงเหลือในแปลงรวมไปถึงกาบหุ้มฝัก ไหม ช่อดอกตัวผู้ของข้าวโพดฝักอ่อนและ ซังข้าวโพดที่เหลือจากโรงงานอุสาหกรรมยังสามารถนำเป็นอาหารสัตว์ได้ดี
 
 ปัจจุบัน ความต้องการข้าวโพดหวานของโรงงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นผลให้ในปี ในปี พ.ศ. 2549 ประเทศไทยส่งออกข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องเป็นปริมาณ 125,308 ตัน มูลค่า 4,291.0 ล้านบาท และส่งออกข้าวโพดหวานแช่แข็งปริมาณ 4,730 ตัน มูลค่า 166.6 ล้านบาท โดยเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดหวานกระป๋องอันดับ 1ของโลก
 
 สายพันธุ์ :
 พันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียว  :  พันธุ์ข้าวก่ำหวาน,  พันธุ์ข้าวเหนียวหวาน,   พันธุ์สำลีอีสาน,   พันธุ์ข้าวเหนียวข้าวก่ำ,  พันธุ์หวานดอกคูน,   พันธุ์เทียนสลับสี,   พันธุ์เทียนลาย,   พันธุ์เทียนเหลือง,  พันธุ์เทียนขาว
 
 ลักษณะทางธรรมชาติ  :
 * เป็นพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว  ต้องการน้ำสม่ำเสมอเหมือนผักสวนครัว  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้น้ำ ทุก 2-3 วัน  ซึ่งต่างจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ต้องการน้ำน้อยพอน้าดินชื้นเท่านั้น
 
 * ดอกตัวผู้ของข้าวโพด เรียกว่า ดอกยอด อยู่ที่ปลายยอดของต้น ส่วนดอกตัวเมี เรียกว่า "ไหม"  อยู่ที่ปลายฝักของแต่ละฝัก.... ดอกตัวผู้เกิดก่อนดอกตัวเมีย 7-10 วัน
 
 * แช่เมล็ดพันธุ์ใน  "โบรอน"  เมื่อนำไปปลูกจะให้  "ดอกยอด"  มากกว่าปกติ 2-3 เท่า
 * จังหวะที่เกสรดอกตัวผู้พร้อมผสมมักตรงหรือใกล้เคียงกับเกสรตัวเมียของฝักแรก  กับช่วงต้นๆของฝักที่ 2 เท่านั้น  ครั้นดอกตัวเมียของฝักที่  3 หรือ 4 ออกมาจึงไม่มีละอองเกสรตัวผู้เข้าผสม  ทำให้ฝักที่  3 หรือ  4 ไม่ติดเป็นฝัก
 
 * แนวทางแก้ไข  คือ  หลังจากหยอดเมล็ดข้าวโพดรุ่นแรกไปแล้ว 10-15 วัน ให้หยอดเมล็ดรุ่นที่  2 หรือรุ่นที่  3 อีกรุ่นก็ได้ โดยให้แต่ละรุ่นห่างกัน 7-10 วัน  ทั้งนี้เพื่ออาศัยเกสรตัวผู้ของต้นรุ่นหลังไปผสมด้วยมือให้แก่ฝักที่  2-3-4  ของต้นรุ่นแรกนั่นเอง
 
 ปลูกข้าวโพดรุ่น 2-3 เพื่อเอาเกสรตัวผู้นี้  ใช้วิธีปลูกแซมแทรกระหว่างต้นรุ่นแรก กระจายทั่วแปลงปลูกโดยเฉพาะด้านเหนือลม  เพื่ออาศัยสายลมช่วยพัดละอองเกสรส่วนหนึ่ง กับช่วยผสมด้วยมืออีกส่วนหนึ่ง  ในขณะเดียวกัน  ต้นรุ่น 2-3 ก็สามารถเอาฝักได้เพราะมี  ฝัก+ เกสรตัวเมีย  เช่นกัน  สำคัญแต่ว่าจะหาละอองเกสรตัวผู้จากที่ไหนมาช่วยผสมด้วยมือให้เท่านั้น
 
 กรณีที่ไม่ได้ปลูกต้นข้าวโพดต่างรุ่นไว้ในแปลงปลูกของตนเอง  ก็อาจจะขอแบ่งปันจากแปลงข้างเคียงก็ได้แต่ต้องเป็นข้าวโพดสายพันธุ์เดียวกันมาใช้ช่วยผสมด้วยมือแทนก็ได้
 
 * ตรวจสอบลักษณะเกสรตัวผู้ที่พร้อมผสมโดยเคาะเบาๆใส่แผ่นกระดาษแล้วมีละอองเกสรร่วงลงมา และตรวจสอบลักษณะเกสรตัวเมียที่พร้อมผสมโดยสัมผัสเบาๆด้วยปลายนิ้วมือ  ถ้าเป็นยางเหนียวติดปลายนิ้วแสดงว่าพร้อมผสมแล้ว
 
 * วิธีช่วยผสมด้วยมือ  ให้ตัดก้านดอกยอดเบาๆ  นำไปป้ายเบาๆใส่ให้กับไหมที่ปลายฝัก 2-3 รอบ (เหมือนผสมเกสรสละ)  หรือเคาะละอองเกสรตัวใส่กระบอกพลาสติกแห้งสะอาด ผสมกับแป้งทาตัวเด็ก  อัตราส่วน 1: 1  แล้วใส่ในกระบอกฉีดพ่นเกสร (เครื่องฉีดละอองเกสรทุเรียน)  นำไปฉีดพ่นใส่ไหมที่ปลายฝักก็ได้  ทั้งนี้ไหมของฝักใดได้รับละอองเกสรดอกยอดก็จะติดเป็นฝักสมบูรณ์และไม่เป็นข้าวโพดฟันหลอได้ทุกฝัก
 
 * ข้าวโพดมีเมล็ดไม่เต็มฝัก เรียกว่า  "ฟันหลอ"  เกิดจากสาเหตุหลายประการ  เช่น เกสรตัวเมียกับเกสรตัวผู้ (ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย) ไม่สมบูรณ์แข็งแรงแล้วผสมกัน หรือเกสรตัวผู้หมดอายุ  หรือสภาพอากาศไม่เหมาะสม (ร้อน/ชื้น)  หรือขาดสารอหาร
 
 * ธรรมชาติชาติข้าวโพดทุกสายพันธุ์ออก  ฝัก + ดอก  ได้ต้นละหลายๆฝัก  ตราบเท่าที่ได้รับสารอาหารกลุ่ม  สร้างดอก-บำรุงผล  อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ก่อนฝักแรกจนถึงฝักสุดท้าย
 
 * แปลงปลูกที่ผ่านการเตรีมดินมาอย่างดี ปฏิบัติต่อเนื่องมาหลายๆรุ่นปลูก  กับต้นข้าวโพดที่ได้รับการบำรุงด้วยธาตุอาหารครบถ้วนสม่ำเสมอ  เมื่อต้นนั้นโตขึ้นจะมีกิ่งแขนงงอกออกมาตามข้อ  แต่ละกิ่งแขนงสามารถออกดอกแล้วติดเป็นฝักคุณภาพดีได้
 
 * การจัดระยะปลูกห่าง ลมพัดผ่านเข้าไปในใจกลางแปลงได้ทั่วถึง ใบไม่เกยทับซ้อนกันและรับแสงแดดได้เต็มที่  จะได้ผลผลิตทั้งปริมาณและคุณภาพเหนือกว่าแปลงที่ปลูกชิดกันมาก
 
 * ข้าวโพดหวานที่เกิดจากการผสมพันธุ์ในพื้นที่หนึ่ง  เมื่อนำไปปลูกในอีกพื้นที่หนึ่งซึ่งภูมิอากาศค่อนข้างแตกต่างกัน  คุณภาพผลผลิตมักจะแตกต่างกันด้วย  ดังนั้น จึงควรใช้เมล็ดพันธุ์ที่เกิดจาการผสมพันธุ์ในพื้นที่ใกล้เคียง  หรือแหล่งสร้างเมล็ดพันธุ์ที่มีสภาพภูมิอากาศคล้ายคลึงกัน
 
 * เก็บเกี่ยวข้าวโพดหวานช่วงเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นแล้วนำไปนึ่งทันทีจะได้รสชาติของข้าวโพดหวานดีมาก  หากต้องการเก็บไว้นานหลังเก็บเกี่ยวเมื่อเก็บเกี่ยวมาแล้วควรเก็บในที่เย็น (ตู้เย็น)  ซึ่งความหวานจะลดลงน้อยกว่าการเก็บในที่แจ้ง......ข้าวโพดหวานนึ่งให้รสชาติดีกว่าการต้ม
 
 * เมื่อต้นโตได้ความสูงประมาณ 1 ม. หรือเริ่มมีรากเหนือพื้นดินงอกออกมาจากข้อเหนือพื้นดิน  ให้ เอ็นเอเอ. 1-2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน  ระบบรากเหนือพื้นดินจะเจริญเติบโต  สมบูรณ์  แข็งแรง  ดีมาก
 
 นอกจากนี้ยังทำให้ข้าวโพดต้นนั้นแตกยอกจากข้อแล้ว พัฒนาเป็นกิ่ง  ซึ่งกิ่งนี้สามารถออกฝักได้เหมือนลำต้นประธาน  และเมื่อบำรุงดี  ฝักจากกิ่งนี้ก็จะเจริญพัฒนาเป็นฝักสมบูรณ์ได้เช่นกัน
 
 เตรียมดิน :
 1. เริ่มจากไถดินตากแดดจัด 15-20 แดดเพื่อกำจัดเชื้อโรคและวัชพืช ระหว่างตากแดด ถ้ามีฝนตกต้องไถดินใหม่และเริ่มตากแดดใหม่
 
 2. ใส่อินทรีย์วัตถุและสารปรับปรุงบำรุงดิน (ยิบซั่มธรรมชาติ.  ปุ๋ยคอก. เศษพืชแห้ง.)
 3. ไถด้วยโรตารี่คลุกอินทรีย์วัตถุกับเนื้อดินให้เข้ากันดี
 4. คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้งหรือฟางหนาๆ
 5. บ่มดินโดยรดด้วยน้ำจุลินทรีย์หรือปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ทุก 15 วัน  ติดต่อกันนาน 1-2 เดือน
 
 เตรียมแปลง :
 - ยกร่องแห้งลูกฟูก  สันร่องสูง 30-50 ซม.โค้งหลังเต่า  กว้าง 1-1.20 ม.  ร่องระหว่างสันแปลงกว้าง 1 ม.  ลึกจากพื้นระดับ 25-30 ซม.  ก้นสอบ
 
 เตรียมเมล็ดพันธุ์  :
 - เมล็ดพันธุ์ที่เคลือบสารเคมีกำจัดโรคให้ล้างน้ำจนสารเคมีนั้นออกให้หมดก่อน  ส่วนเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้เคลือบสารเคมีไว้ก่อนให้ดำเนินการได้เลย
 
 - นำเมล็ดแช่ในน้ำเปล่า  คัดทิ้งเมล็ดลอย  เก็บไว้เฉพาะเมล็ดจม
 - นำเมล็ดจมที่เลือกได้ลงแช่ใน  น้ำ + โบรอน (10  PPM)  นาน 6-12 ชม.  นำขึ้นผึ่งลมจนแห้ง  แล้วจึงนำไปหยอดในแปลงจริง  เมื่อโตขึ้นจะมีเกสรตัวผู้เพิ่มขึ้น 100-200 %   เหมาะสำหรับแปลงปลูกเพื่อสร้างเมล็ดพันธุ์
 
 ระยะปลูก :
 - ระยะปกติ  75 X 75  ซม.
 - ระยะชิด    50 X 75 ซม.
 
 วิธีปลูก :
 - หยอดเมล็ดหลุมละ 2-3 เมล็ด  หลังจากต้นกล้าได้ 2-3 ใบ  ถอนแยกต้นไม่สมบูรณ์ทิ้ง  เหลือต้นที่สมบูรณ์ไว้ 1-2 ต้น   การเหลือต้นสมบูรณ์ไว้  2 ต้น/1 หลุมให้พิจารณาระยะห่างจากต้นข้างเคียง  ถ้ามีพื้นที่ว่างระหว่างต้นพอก็ให้ไว้  2 ต้นได้
 
 - รองก้นหลุมด้วย  กากสะเดาแห้ง  หรือใบสาบเสือแห้ง  หรือใบยูคาแห้ง บดละเอียดหลุมละ  1 กำมือ  คลุกเคล้าให้เข้ากันดีกับดินก้นหลุม  เพื่อป้องกันแมลงกัดกันเมล็ดพันธุ์
 
 
 ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อข้าวโพด  (ทุกสายพันธุ์) :
 
 จาก : (089) 703-63xx
 ข้อความ  : ลุงคิมครับ  ข้าวโพดฝักสด ต้นเล็ก ออกดอก ติดฝัก ทางใบและทางราก ใช้ปุ๋ยสูตรไหนครับ
 
 ตอบ :
 
 ระยะต้นเล็ก :
 ทางใบ : ให้ไบโออิ + ยาน็อค 2 รอบ  สลับด้วย แคลเซียม โบรอน  1 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน
 ทางราก : ให้น้ำพอหน้าดินชื้น  ทุก 2-3 วัน
 
 ระยะออกดอก :
 ทางใบ : ให้ไทเป + ยาน็อค ทุก 5 วัน ฉีดพ่นตอนสายๆ
 ทางราก : ให้สูตรเดิมเหมือนช่วงต้นเล็ก
 หมายเหตุ :
 - เริ่มให้ก่อนออกดอกยอด 5-7 วัน กระทั่งดอกยอดออกแล้ว  เริ่มมีฝักแล้ว  ยังให้ต่อ  ทุก 5-7 วัน จะได้จำนวนฝักเพิ่มขึ้นเป็นต้นละ 2-3 ฝัก
 
 ระยะติดฝัก :
 ทางใบ : ให้ ยูเรก้า + ไบโออิ + ยาน็อค 2  รอบ  สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน   ฉีดพ่นตอนสายๆ
 ทางราก : ให้สูตรเดิมเหมือนช่วงออกดอก
 หมายเหตุ :
 - ไบโออิ เริ่มให้ต้นแต่ระยะต้นเล็ก ช่วยบำรุงต้นให้มีความสมบูรณ์สูง  ส่งผลให้การออกดอกติดฝักดี
 - ยูเรก้า  บำรุงขยายขนาดฝัก เมื่อฝักโตเต็มที่จะเห็นเนื้อใหญ่ทะลุเปลือกออกมาให้เห็น
 
 - แคลเซียม โบรอน  ช่วยให้ฐานเมล็ดฝักสูง ใช้มีดเฉือนเนื้อข้าวโพดจะไม่มีเนื้อเหลือติดที่ฝัก ทำให้ได้ปริมาณเนื้อเมล็ดข้าวโพดมากกว่าเดิม 10-15%  กับทั้ง กลิ่น/รส ข้าวโพดดีกว่าเดิมด้วย
 
 - ยาน็อค  สารสมุนไพร  ป้องกัน/กำจัด  ศัตรูพืช  ทั้งป้องกันก่อนเข้ามา  และกำจัดเมื่อเข้ามาแล้ว
 
 - แม็กเนเซียม.  สังกะสี.  แคลเซียม โบรอน. ฮอร์โมน. ในปุ๋ยที่ให้ทางใบกับในปุ๋ยระเบิดเถิดเทิงให้ทางดิน  ช่วยสร้างภูมิต้นทานสู้กับศัตรูพืชได้ทุกรูปแบบ
 
 
 
 
   ยูเรก้า.   ไทเป.  ไบโออิ.   ไซส์ 5 ล.
 
 
   ระเบิดเถิดเทิง 5 ล.
 
 
 
   แคลเซียม โบรอน 5 ล.
 
 
   ยาน็อค 1 ล.
 
 
 
 
 ----------------------------------------------------------------------------------
 
 
 .
 
 
 
 
 |  |