ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 30 NOV **ศัตรูพืชไผ่กวนอิม, *หางจระเข้, *มะลิขี้ไก่ใหม่, *ปุ๋ยกากมะพร้าว, *แห้วหมูในมะลิ, *เพาะเมล็ดมะรุม, *แคงเคอร์มะนาว, *ปลูกพริกเหลือง, *บัวใบลาย, *ปาดหน้าดิน, *ไอเดียไร่กล้อมแกล้ม

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร รายการวิทยุ 30 NOV

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด, ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ไผ่กวนอิม มีศัตรูพืชอะไรบ้าง .... ?
ตอบ :
- ศัตรูพืช ชื่อนี้ตั้งขึ้นโดยมนุษย์ “จำแนก” ได้แก่ :
.... “แมลง” แยกได้เป็นประเภท ปากกัด ปากดูด วางไข่ มากลางวัน มากลางคืน มาตามฤดูกาล มาตามสภาพแวดล้อม

.... “หนอน” มีประเภทเดียว หนอนคือหนอน
.... “เชื้อโรค” แยกได้เป็น รา/แบคทีเรีย/ไวรัส ทำลายพืชส่วนที่อยู่ในดิน ทำลายพืชส่วนที่อยู่เหนือดิน

- แมลง/หนอน/เชื้อโรค ต่างเป็นสิ่งมีชีวิต นั่นคือ มีวงจรชีวิต เกิด/กิน/แก่/เจ็บ/ตาย/ขยายพันธุ์ หากวงจรใดวงจรหนึ่งขาดหายไปนั่นหมายถึงการสูญพันธุ์

- มนุษย์เรียก “แมลง/หนอน/เชื้อโรค” ว่า “ศัตรูพืช” เพราะทำลายพืชของมนุษย์ แต่ตัวศัตรูพืชเองเขาบอกว่า “เขากินอาหารเพื่อดำรงชีวิต” นี่คือ ผลประโยชน์ที่ต่างกันซึ่งถูกกำหนดโดยมนุษย์

- การที่ “แมลง/หนอน/เชื้อโรค” เลือกกินพืชแต่ละชนิดนั้น เป็นสัญชาติญาณทางธรรมชาติของเขา .... สิ่งที่แมลงปากกัดปากดูดเลือกกิน คือ “รส” ของพืช .... สิ่งที่แมลงวางไข่เลือกเข้าหา คือ “กลิ่น” ของพืช .... สิ่งที่แมลงวางไข่เลือกพืชให้เป็นอาหารของหนอน (ทายาท) ของพืช คือ “รส” ....

- ไม่มีพืชใดในโลกที่ไม่ศัตรูพืชประจำตระกูลเผ่าพันธุ์ วันนี้ยังไม่มีเพราะยังไม่มา และไม่มีสารเคมี หรือสารสมุนไพรไพรใดในโลกนี้ สามารถทำให้ส่วนของพืชที่ถูกทำลายไปแล้ว ฟื้นคืนดีอย่างเดิมได้ เรียกว่า เสียแล้วเสียเลย นอกจากเสียพืชไปแล้ว ยังเสียสารสมุนไพร สารเคมี เงิน เวลา แรงงาน โอกาส กับจิปาถะอีกหลายอย่าง วิธีการสู้รบปรบมือกับศัตรูพืช ที่ดีที่สุด คือ “ป้องกัน” เท่านั้น


@@ หลักซุนวู้ .................. รู้เรา รู้เขา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง :
* แมลงปากกัดปากดูด .......... ใช้สมุนไพรรส “ขม เผ็ด” ให้แมลงไม่กิน
* แมลงวางไข่ ................... ใช้สมุนไพร “กลิ่นจัด” ไล่แมลงไม่ให้เข้าวางไข่
* ไข่แมลง ...................... ใช้สมุนไพร “เบื่อเมา” ทำให้ไข่ฝ่อ
* หนอน ........................ใช้สมุนไพร “เบื่อเมา” ทำให้หนอนตาย หรือไม่เข้าดักแด้
* เชื้อโรคส่วนที่อยู่เหนือดิน ..... ใช้สมุนไพร “เผ็ด ร้อน ฝาด” ทำให้เชื้อโรคตาย
* เชื้อโรคส่วนที่อยู่ไต้ดิน ........ ใช้ “จุลินทรีย์ อินทรีย์วัตถุ” ปรับสภาพดิน ทำให้เชื้อโรคตาย

– สมการยาสมุนไพร :
* สมุนไพรถูก + วิธีทำถูก + วิธีใช้ผิด = ไม่ได้ผล
* สมุนไพรผิด + วิธีทำผิด + วิธีใช้ถูก = ไม่ได้ผล
* สมุนไพรผิด + วิธีทำถูก + วิธีใช้ถูก = ไม่ได้ผล
* ตัวสมุนไพรผิด + วิธีทำผิด + วิธีใช้ผิด = ไม่ได้ผล ยกกำลังสาม
* ตัวสมุนไพรถูก + วิธีทำถูก + วิธีใช้ถูก = ได้ผล ยกกำลังสาม

– วิธีทำ :
* น้ำร้อนเดือดจัด 1 หม้อ 2 ล. โดยประมาณ
* สมุนไพรที่ต้องการ อย่างเดียวเดี่ยวๆ โขลกละเอียด ½ กก. ใส่ลงไป คนให้ให้ทั่ว
* ปล่อยให้น้ำเย็น กรองกากออก น้ำใสที่ได้ คือ “หัวเชื้อ” พร้อมใช้งาน
* ต้องการเก็บนาน น้ำใสหัวเชื้อ 2 ล. ใส่สารกันบูด 1 ช้อนชา
* ทำแบบนี้กับสมุนไพรทุกตัว จนครบทุกตัวตามต้องการ ได้ “หัวเชื้อ” พร้อมใช้งาน

* นำหัวเชื้อทุกตัวที่พร้อมใช้งานแล้ว หากไม่ต้องการเก็บแยกกัน สามารถนำมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็น “หัวเชื้อสูตรรวมมิตร” กำจัดเชื้อราโดยเฉพาะ พร้อมใช้ก็ได้เช่นกัน

* จากหัวเชื้อสูตรรวมมิตรพร้อมใช้แล้วนั้น แต่งกลิ่นสุมนไพรไล่แมลง (กลิ่นตะไคร้) แต่งสี (สีผสมอาหาร) ใส่สารเสริมประสิทธิภาพสมุน ไพร (ไบโอเจ๊ต) ก็จะเหนือชั้นขึ้นไปอีก

* ก่อนใช้งานจริง “น้ำ 20 ล. + หัวเชื้อสูตรรวมมิตร 50 ซีซี”

หมายเหตุ :
- สมุนไพรถูกต้อง หมายถึง ตัวสมุนไพร ราก หัว เหง้า ต้น ใบ ดอก ผล ที่มีสารออกฤทธิ์
- วิธีทำถูกต้อง หมายถึง แช่ ต้ม กลั่น ให้ได้สารออกฤทธิ์
- วิธีใช้ถูกต้อง หมายถึง ฉีดพ่น ถี่ ห่าง เช้า สาย เที่ยง บ่าย ค่ำ

- สารสมุนไพร ใช้ร่วมกับปุ๋ย ไบโออิ ไทเป ยูเรก้า ได้ทุกเมื่อ .... ทุกครั้งที่ให้ปุ๋ยทางใบ +ยาสมุนไพรไปด้วย ประหยัดเวลา ไม่เสียเที่ยว

- ให้ “ปุ๋ย + ยา” ต้นได้สารอาหารสร้างภูมิต้านทานป้องกันโรคได้แล้ว ยังได้ตัวยากำจัดโรคได้อีกด้วย นี่คือสองเด้ง

- เตรียมสมุนไพรครบสูตร กลุ่มกำจัดหนอน กลุ่มขับไล่แมลง กลุ่มกำจัดเชื้อรา ให้พร้อมล่วงหน้า ถึงเวลาหยิบใช้ได้ทันที

- ใช้สารสมุนไพร 10 ครั้ง เสียหาย (เงิน สภาพแวดล้อม ร่างกาย ตลาด) น้อยกว่าใช้สารเคมียาฆ่าแมลง 1 ครั้ง

– ใช้สารสมุนไพรบ่อยๆ วันเว้นวัน รวม 3 รอบ ศัตรูพืช (หนอน แมลง รา แบคทีเรีย) ตัวไหนก็อยู่ไม่ได้ โดนสารสมุนไพรรอบแรกแม้ยังไม่ตายทันที แต่ก็หยุดกินอาหาร (ทำลาย) อยู่นิ่งๆ รอวันตายเอง

- สปริงเกอร์ หม้อปุ๋ยหน้าโซน คือ เครื่องทุ่นแรงประสิทธิภาพประสิทธิผลสูงสุด เพราะทำซ้ำได้วันละครั้งตอนขยัน วันละ 2 ครั้งเช้าค่ำ วันละ 3 ครั้งเช้าเที่ยงค่ำ ด้วยแรงงานคนเดียว

* เช้ามืด ............................ ล้างน้ำค้าง ราสนิม ราน้ำค้าง
* เที่ยง .............................. เพลี้ยไฟ ไรแดง
* ค่ำ ................................ ไล่แม่ผีเสื้อ กำจัดหนอน กำจัดแมลง
* หลังฝนหยุด (ฝนต่อแดด) ......... แอนแทร็คโนส ใบจุด, กดใบอ่อนสู้ฝน

- ตัวอย่างที่ไร่กล้อมแกล้ม มะม่วง 1 โซน 50 ต้น ใช้เวลา 5 นาที แรงงานคนเดียว .... มะม่วง 10 โซน 500 ต้น ใช้เวลา 1 ชม. แรงงานคนเดียว ไม้ผลอย่างอื่นก็เหมือนกัน .... ไม่ใช่เฉพาะให้สารสมุนไพรอย่างเดียว ให้ปุ๋ย-ฮอร์โมน-น้ำ ได้ทั้งนั้น .... ใช้งานมาแล้ว 6 ปี คาดว่ายังใช้งานได้ต่อไปอีก 10-20 ปี

- นอกจากนี้ควรเสริมด้วยวิธีการ “ป้องกันกำจัดแบผสมผสาน (ไอพีเอ็ม)” เช่น กาวเหนียวดักแมลง, กาวเหนียวแสงไฟล่อแมลง, แสงไฟล่อแมลงลงน้ำ, แสงไฟไล่แมง, กลิ่นล่อแมลงเข้ามาติดกับ, กลิ่นไล่แมลง, เลี้ยงตัวห้ำตัวเบียนกำจัดหนอนปละแมลง, ปลูกพืชแซมช่วยไล่แมลง, เปลี่ยนพืชปลูกตัดวงจรชีวิตศัตรูพืชในดิน, บำรุงพืชให้สมบูรณ์แข็งแรงเป็นภูมิต้าน ทาน, เลือกฤดูกาลปลูก, บริหารจัดการ 6 ปัจจัยพื้นฐานให้เหมาะสม,

Q. ไผ่กวนอิมมีศัตรูพืช อะไรบ้าง ?
A. มีโอกาสมีได้ทั้ง แมลง (ปากกัดปากดูด) หนอน และโรค (ส่วนเหนือดิน ส่วนไต้ดิน) .... ใช้หลัก พฐ. (กองพิสูจน์หลักฐาน) ดูที่ประจักษ์พยานหรือแผลบนต้นไผ่กวนอิม เช่น แผลฉีก ขาด แหว่ง เว้า ขาด วิ่น เพราะถูกแมลง หรือหนอนทำลาย, แผลเน่า ฉ่ำ แห้ง เพราะถูกเชื้อราทำลาย จากนั้นเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมตามหลักสมการยา

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ปลูกว่านหางจระเข้ในกระถางบำรุงอย่างไร .... ?
ตอบ :
- กะอีแค่ว่านหางจระเข้ ใส่ปุ๋ยคอก มูลสัตว์อะไรก็ได้ มีแกลบดิบนิดหน่อย ใส่โคนต้นปีละครั้ง พรวนดินทุก 2-3 เดือน

- รดด้วย “ฮอร์โมนก้นครัว” ปุ๋ยสัญลักษณ์แห่งรายการนี้ เดือนละครั้ง
- ให้น้ำอาทิตย์ครั้งพอหน้าดินชื้น

- ปลูกในกระถาง ปลูกลงดิน .... ว่านหางจระเข้พันธุ์พื้นเมือง ก้านขนาด 2 นิ้วมือ ใช้เมือกทาแผลมีดบาด .... ว่านหางจระเข้พันธุ์ต่างประเทศ ประเทศไหนไม่รู้ โคนก้านใหญ่กว่าฝ่ามือ ยาวเป็นเมตร ใช้เนื้อในทำน้ำกระป๋อง ส่งออกเพราะคนไทยไม่กิน ก็บำรุงแบบเดียวกันนี่แหละ

--------------------------------------------------------


จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะลิภาคไต้ ขี้ไก่ใหม่ใหม่ ต้นไม่โต ไม่มีดอก แก้ไขอย่างไร .... ?
ตอบ :
- มะลิภาคเหนือที่สามเหลี่ยมทองคำ เชียงราย ถึง มะลิภาคไต้ เหมืองทองโต๊ะโมะ นราธิวาส .... มะลิเวินบึก อุบลราชธานี ถึง มะลิดอกอีต่อง กาญจนบุรี เหมือนกันหมด มะลิ คือ มะลิ มะลิดอกไม่ใช่มะลินมข้นนะ

- ต้นไม่โต เพราะกำลังจะตาย หรือชะงักการเจริญเติบโต ประมาณนี้
– ต้นไม่โต หรือชะงักการเจริญเติบโตเพราะ “ขี้ไก่เป็นพิษ” อย่างรุนแรง

- ขี้ไก่เป็นพิษเพราะมีก๊าซไฮโดรเจน ซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่า ใส่ดินแล้วร้อน (ภาษาชาวสวน) อาจทำให้ต้นตายได้ ต้องขี้ไก่ หรือมูลสัตว์ทุกชนิด แห้ง เก่าข้ามปี .... แนวทางแก้ไข :

1. ขูดขี้ไก่ ล้วนๆ หรือคลุกผสมดินที่โคนต้นแล้วออก ออกให้มากที่สุดเท่าที่ไม่ตัดรากมะลิ
2. ปรุงดินใหม่มีส่วนผสม ยิบซั่ม ขุยมะพร้าว ใส่ลงไปแทน
3. พูนดินโคนต้น ป้องกันน้ำขังค้าง
4. รดด้วยน้ำหมักชีวภาพที่มีจุลินทรีย์ และสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น
5. ตัดปลายกิ่ง บริเวณกิ่งอ่อนต่อแก่
6. ให้ปุ๋ยทางใบ สูตรที่มีสารอาหาร Mg Zn TE 13-0-46, 0-52-34 เมื่อต้นฟื้นแล้วจะแตกใบอ่อน พร้อมกับมีดอกออกมาด้วย .... ช่วงนี้คงจะออกดอกยากหน่อย เพราะเป็นหน้าหนาว

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : กากมะพร้าวคั้นกะทิแล้ว ทำปุ๋ยอย่างไร .... ?
ตอบ :
- คนโบราณใช้ กากมะพร้าวคั้นกะทิหมดแล้วตากแห้ง ให้กับมะนาว มะกรูด บำรุงต้นสมบูรณ์ดี ออกดอกติดลูกดี .... ไม้ผลตระกูลส้ม (ส้มโอ ส้มเขียวหวาน ส้มเช้ง ส้มโชกุน ทะกรูด มะนาว) ออกดอกติดผลได้ตลอดปีแบบไม่มีรุ่น ขอให้ต้นสมบูรณ์ดีเถอะ ออกไม่เลิก ออกไม่เกรงใจข้างบ้าน

– มะพร้าวขูด คั้นกะทิหมดแล้ว ตากแห้งสนิท ผสมปุ๋ยคอก มีมากใส่มาก มีน้อยใส่น้อย ตามอำเภอใจ ถ้าไม่กลัวเปลืองก็ใส่มานกๆได้ กากมะพร้าวลงดินแล้ว ถูกจุลินทรีย์เอ็นไซม์กลาย เป็นสารอาหารบำรุงต้นได้ .... กากตากแห้งสนิท สาดซัดใส่ทรงพุ่ม ให้กากแห้งบางส่วนติดค้างบนใบ ครั้นโดนแดดจะมีน้ำมันออกมาจากกากมะพร้าวตากแห้งนั้น แล้วซึมผ่านปากใบเข้าสู่ต้น กลายเป็นสารอาหารบำรุงต้นไปโดยอัตโนมัติได้

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : หญ้าแห้วหมูในแปลงมะลิ กำจัดอย่างไร .... ?
ตอบ :
- แฮนด์ ไมซิน เท่านั้น คือ พรวนดินแล้วถอนด้วยมือ แบบนี้มะลิชอบ แถมกำจัดแห้วหมูได้ตอดชีวิตของแห้วหมูอีกด้วย

– ไม่มียาฆ่าหญ้าใดในโลก ที่ใช้อัตราปกติที่ระบุข้างขวดแล้วกำจัดหญ้า หรือวัชพืชให้ตายสนิทได้ อย่างดีแค่ใบไหม้ ส่วนที่เป็น หัว/เหง้า/ไหล ยังอยู่ ไม่ช้าไม่นานก็งอกขึ้นมาไหม้ คราวนี้งามกว่าเก่า จำนวนมากกว่าเดิม .... หากต้องการให้หญ้าหรือวัชพืชตายสนิทจริงๆ ต้องใช้อัตราสูงกว่าที่ระบุข้างขวด 500-1,000% หญ้าหรือวัชพืชจะไม่งอกอีกเลยเพราะส่วนที่เป็น หัว/เหง้า/ไหล เน่าจึงงอกใหม่ไม่ได้

**** ยาฆ่าหญ้า สารกำจัดวัชพืช ตัวมันเองเป็น “กรดจัด” เมื่อผ่านใบหญ้าหรือวัชพืช แล้วใบหญ้าหรือวัชพืชสลายตัว สารกำจัดวัชพืชนั้นก็จะออกมาทำให้ดินเป็นกรดไปด้วยส่วนหนึ่งแล้ว ขณะที่ฉีดใส่หญ้าหรือวัชพืช ยาฆ่าหญ้าก็สัมผัสกับด้วยอีกส่วนหนึ่ง เมื่อส่ง “กรดจัด” ลงไปในเนื้อดิน ย่อมทำให้ดินเป็นกรดด้วย ..... เรื่องแบบนี้ ไอ้ (เน้นย้ำ....ไอ้) คนขายยาฆ่าหญ้าไม่เคยบอก ไม่เคยพูด ศ.ดร.โฆษณายาฆ่าหญ้า +เกษตรกรชอบ บอกว่าง่าย สะดวก เรื่องเลยเป็น “เผาบ้านฆ่าหนู”

- แปลงมะลิ ใส่อินทรีย์วัตถุ (ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก กระดูกป่น ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ) ใส่สารปรับ ปรุงบำรุงดิน (ยิบซั่ม) แล้วพรวนดิน พูนดินโคนต้น จังหวะนี้ก็เก็บ “หัวหญ้าแห้วหมู” ออกทิ้งด้วย แบบนี้เท่ากับได้ “3 เด้ง” อินทรีย์วัตถุบำรุงดิน เศษซากหญ้าวัชพืชบำรุงดิน และกำจัดวัชพืชอีกด้วย

- ใช้พลาสติกคลุมแปลง ทิ้งไว้ 1-2 เดือน ทั้งพืชและวัชพืชทุกชนิดตายหมด เพราะไม่ได้รับแสงแดด แบบนี้ก็ได้ .... กรณีในแปลงมะลิก็พิจารณาใช้งานเอาเองว่าจะคลุมแปลงพลาสติกอย่างไร.... O.K. ?

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : เมล็ดสดมะรุม ได้มาแล้วทำอย่างไร .... ?
ตอบ :
* ทำได้ 2 กรณี :
- ต้องการระยะพักตัว.... ล้างน้ำเปล่า เอาเนื้อหรือเมือกหุ้มออกให้หมด นำไปตากแดด 2-3 แดดจัด เก็บในร่ม อุณหภูมิห้อง 1-3 เดือน เพื่อทำลายระยะพักแล้วจึงนำไปเพาะ

- ไม่ต้องการระยะพักตัว .... นำเมล็ดออกจากฝักแก่ สดใหม่ สมบูรณ์ แล้วนำลงเพาะทันที เหมือนทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย พืชประเภทไม่ต้องการระยะพักตัว

- มะรุมเพาะเมล็ด โตขึ้นแล้วกลายพันธุ์ หลายปีถึงจะออกฝัก เขาไม่นิยมปลูกกันหรอก ถ้าปลูกด้วยกิ่งตอน ไม่กลายพันธุ์ ปีเดียวออกฝักให้กินแล้ว

--------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ผิวที่ผลมะนาวมีสีน้ำตาล แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- นี่แหละ “แคงเคอร์” ชาวสวนมะนาวเรียกว่า “ขี้กราก” เกิดที่ผิวผล เปลือกยังอ่อน ใบแก่ มีแมลงแม้ผีเสื้อหนอนชอนใบเป็นพาหะ ส่วนใหญ่ระบาดมากช่วงหน้าฝน ๆชุกๆ ทำให้เมื่อมีหนอนชอนใบมักมีแคงเคอร์ร่วมด้วยเสมอ

- ป้องกันกำจัดแคงเคอร์ .... ใช้ ปูนกินหมาก 1 ก้อนเท่าลูกมะนาวละลายในถังฉีด 20 ล. หรือใช้ปูนขาวก่อสร้าง 1 ถุง (5 กก.) ละลายน้ำ 100 ล. ปล่อยนอนก้น 1 คืน ใช้งาน เอาน้ำใสมาน 1 ล. ผสมน้ำเปล่า 20-40 ล. .... ทั้งแบบปูนกินหมาก 1 ก้อนเท่าลูกมะนาว และแบบน้ำปูนใส่ 1 ล. ฉีดพ่นทั่วทรงพุ่ม ทั้งใบบนใบ 2-3 ครั้ง วันเว้นวัน

หมายเหตุ :
* กำจัดแคงเคอร์ ส้ม/มะนาว ตาย .... ชาวสวนนิยมใช้สารเคมี “ค็อปเปอร์ อ๊อกซี่ คลอไรด์” (ชาวบานเรียก ยาเหลือง ยาเขียว ตามสีของสารเคมีที่ติดบนใบหลังสารเคมีแห้ง) สารตัวนี้เมื่อเข้าสู่ต้นมากๆ จะปิดกั้นน้ำเลี้ยงไม่ให้เคลื่อนย้ายภายในต้น (บนลงล่าง หรือล่างขึ้นบน) ได้ เมื่อน้ำเลี้ยงเคลื่อนที่ไม่ได้ ต้นขาดสารอาหารก็ต้องตายเป็นธรรมดา

-------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ขอวิธีปลูกและดูแลพริกเหลือง การป้องกันแมลงศัตรูพืช ทำอย่างไร ....?
ตอบ :
@@ การปลูกและการดูแล :
* เตรียมดิน :
ไถดะไถแปร ใส่ยิบซั่ม, ปุ๋ยอินทรีย์, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ. .... ไถพรวนชักร่องเป็นร่องลูกฟูก คลุมสันแปลงด้วยแห้งหนาๆ รดด้วยน้ำหมักชีวภาพ +8-24-24 ปล่อยไว้ 15-20 วัน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์ปรับสภาพดิน และสร้างสารอาหารรอไว้ก่อน .... ลงทุนเรื่องดินไม่เสียหลาย ได้ข้าวโพดแล้ว ได้ดินสำหรับปลูกข้าวรุ่นหน้า รุ่นต่อๆ ไป หรือถ้าไม่ปลูกข้าวจะปลูกอย่างอื่น อะไรก็ได้ ดีทั้งนั้น เพราะดินดีอยู่แล้ว

* เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
แช่เมล็ดพันธุ์ใน “น้ำ + สังกะสี. + โบรอน” นาน 6 ชม. .... นำขี้นห่มชื้น 24-36 ชม. เมล็ดเริ่มมีรากปริ่มออกมา นำไปหยอด หลุมละ 2 เมล็ด .... ดินในหลุมปลูกคลุกด้วย ใบสาบ เสือ ใบยูคา ตากแห้งบดละเอียด ป้องกันแมลงในดินกินเมล็ด .... หยอดเมล็ดแล้วรดด้วยน้ำหมักชีวภาพตัวเดิม 1 ครั้ง เป็นการให้น้ำไปในตัว ....

* เตรียมกล้า :
- เพาะเมล็ดในกระบะเพาะ กระบะละประมาณ 50 ม. ช่องละ 1 เมล็ด เพื่อให้ได้ 1 ต้น
– บำรุงกล้าในกระบะเพาะเมื่อได้ใบ 2-3 ใบแล้ว ด้วย Mg Zn TE 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน กับให้แคลเซียม โบรอน 1 รอบ

– ก่อนย้ายกล้าลงแปลงจริง ให้ฝึกออกแดด เริ่มจากแดดอ่อนๆก่อน แล้วค่อยเพิ่มความเข้มข้นของแดดจนแน่ในว่า ได้แดด 100% แล้ว ต้นกล้าไม่เหี่ยวก็นำลงปลูกในแปลงจริงได้

* บำรุง ระยะต้นเล็ก :
– ทางใบ :
- ให้ Mg Zn TE + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
- ฉีดสารสมุนไพรบ่อยๆ

- ทางราก :
- ให้น้ำหมักชีวภาพ +30-10-10 (1 ล.) /ไร่ /เดือน
- พรวนดิน พูนดินโคนต้น หญ้าคลุมโคนต้นหนาๆ เดือนละครั้ง
- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น

* บำรุงระยะให้ผลผลิต :
- ทางใบ :
- ให้สูตรบำรุงต้น Mg Zn TE + ฮอร์โมนไข่ 0-52-34, 13-0-46 + สูตรขยายขนาด 21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโน โปรตีน) + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
- ฉีดสารสมุนไพรบ่อยๆ

- ทางราก :
- ให้น้ำหมักชีวภาพ +30-10-10 (1 ล.) /ไร่ /เดือน
- พรวนดิน พูนดินโคนต้น หญ้าคลุมโคนต้นหนาๆ เดือนละครั้ง
- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น

หมายเหตุ :
- เนื้อที่ 1 ไร่ ติดสปริงเกอร์ หม้อปุ๋ยหน้าโซน ปั๊มไฟฟ้า 3 แรงม้า
- ฉีดพ่น น้ำเปล่า หรือ น้ำ + ปุ๋ย หรือ น้ำ +ปุ๋ย +ยาสมุนไพร หรือ น้ำ + สมุนไพรเดี่ยวๆ ได้ทุกเวลาที่ต้องการ เช้ามืด/สาย/เที่ยง/บ่าย/ค่ำ ด้วย
แรงงานคนเดียว กับเวลา 5-10 นาที
- ติดกับดักกาวเหนียวกลางวัน ล่อเพลี้ยไฟ
- ติดกับดักกาวเหนียว แสงไฟ ล่อแมลงกลาง คืน

* การป้องกันแมลงศัตรูพืช
- เหมือน “ไผ่กวนอิม” ทุกประการ เพราะไผ่กับพริกต่างก็เป็นพืชเหมือนกัน
- เพิ่มเติม : ทุกพริกที่เป็นโรค “กุ้งแห้ง” เกิดจาก 2 สาเหตุ คือ ....

* โรคมีเชื้อ .... เกิดจากเชื้อแอนแทร็คโนส แก้ไขด้วยการฉีดพ่นสมุนไพร “เผ็ดจัด+ร้อนจัด” ฉีดบ่อยๆ แบบกันก่อนแก้
* โรคไม่มีเชื้อ ....เกิดจากขาดกธาตุแคลเซียม อย่างรุนแรง แก้ไขด้วยการใส่ยิซั่ม (แคลเซียม 18%) ร่วมกับอินทรียวัตถุอื่นๆ ควบคู่กับให้แคลเซียม โบรอน ทางใบตามระยะสม่ำเสมอ

------------------------------------------------------------

จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00-08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : บัวในอ่างใบลาย เป็นเพราะอะไร ? แก้ไขอย่างไร .... ?
ตอบ :
- สาเหตุ 1. ลายตามลักษณะสายพันธุ์ .... สาเหตุ 2. เป็นโรค ใช้สมุนไพร “เผ็ดจัด + ร้อนจัก” ฉีดพ่นที่ใบบ่อยๆ
- บำรุงบัว ใบกระถาง หรือในบึง ด้วย “น้ำ 20 ล. + นมสด 50 ซีซี.” ทุก 7 วัน แล้วทุกอย่างจะขึ้นเอง

--------------------------------------------------------

จาก : (098) 521-6437xx
ข้อความ : ที่นาคลองเก้า ปทุมธานี 50 ไร่ ปาดหน้าดินออกไปแล้ว ดินชั้นล่างเปรี้ยวจัด ใช้ปุ๋ยลุงคิมช่วยได้ไหม ใช้เท่าไหร่ หาซื้อที่ไหน .... ขอบคุณครับ
ตอบ :
- พื้นที่คลองเก้า ปทุมธานี อยู่ในเขตรัศมีดินกรด อ.องค์รักษ์ นครนายก การปาดหน้าดินออกไป ก็เหมือนกับทำสวนยกร่องน้ำหล่อ นั่นคือ การเปิดตากำมะถันให้ผุดขึ้นมาเหมือนตาน้ำ

- แม้ว่าปูนมาร์ล โดโลไมท์ ปูนขาว ซึ่งมีค่าเป็นด่างจัด (pH 14.0) ใช้ปรับสภาพกรดจัดของดินให้หายได้ ด้วยปฏิกิริยาเคมี “กรด + ด่าง = เกลือ + น้ำ” แต่มีข้อแม้ว่า ดินเป็นกรดเท่าไรต้องใส่เท่านั้น นั่นดินบนแปลงปลูกปกติ แต่ดินที่ถูกปาดหน้าดินไปทั้งหน้าเลยแบบนี้ต้องใส่เท่า ไหร่ ? ใส่อย่างไร ?

- งานนี้เมื่ออาศัยปฏิกิริยาทางเคมีไม่ได้ ก็ต้องพึ่งพาปฏิกิริยาทางธรรมชาติ นั่นคือ อิน ทรีย์/จุลินทรีย์ นั่นเอง ....

แนวทางปฏิบัติ ต่อเนื้อที่ 1 ไร่ ดังนี้ :
1.ใส่ยิบซั่ม ธันเดอร์แคล หรือเอ็มแคล 2-3 กส. + ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย 2 กส. + ขี้วัวใหม่ 500 กก. คลุกเคล้าให้เข้ากันดี หว่านทั่วแปลง แล้วรดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 2-3 ล. +น้ำมากๆ รดให้โชก .... ใช้ขี้วัวใหม่เพื่อเอาเมล็ดวัชพืชให้ไปงอกในแปลง .... ใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อเอาจุลินทรีย์ และสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น

2. ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงเดือนละครั้ง พร้อมกับรดน้ำโชกๆ เพื่อบำรุงต้นวัชพืชที่มากับขี้วัวให้เจริญเติบโต ทั้งนี้ การเจริญเติบโตของวัชพืชจะช่วยปรับสภาพโครงสร้างดิน กับช่วย STOP กำมะถันไม่ให้ขึ้นมาที่ผิวดินอีกด้วย

3. ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ต้นวัชพืชเจริญเติบโตให้ไถกลบ แล้วรดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง เลี้ยงวัชพืชต่ออีก 3 เดือน ระหว่างนี้ให้สังเกตการเจริญเติบโตของวัชพืช เพราะวัช พืชเมื่อย่อยสลายจะกลายเป็นอินทรีย์วัตถุ พร้อมกันนั้นก็ให้วัดค่า กรด/ด่าง ของดินด้วย

.... “ตรวจค่า กรด/ด่าง ของดิน : ใช้น้ำกลั่นเติมแบตเตอรี่ (พีเอช 7.0) 1 ถ้วยกาแฟ ใส่ดินก้อนเท่าปลายก้อย ขุดจากดินลึก 1 ฝ่ามือลงไปในน้ำกลั่น คนให้ละลายดี ปล่อยให้นอนก้น แล้วจุ่มกระดาษวัด กรด/ด่าง (มีขายในห้างศึกษาภัณฑ์) ลงไป นำขึ้นเทียบกับตารางค่า กรด/ด่าง รู้ค่ากรดด่าง +/- .5 ก็ถือว่าพอแล้ว ต้องการรู้ค้ากรดด่างของดินบริเวณไหน ก็ขุดดินบริเวณนั้นมาตรวจวัด .... ตรวจปริมาณอินทรีย์วัตถุ : ขุดดินหน้าดินลึก 1 คืบมือ จำนวน 1 ก้อนเท่าบาตรพระ นำมาละลายน้ำปริมาณ 2-3 บาตรพระ คนให้ละลายแล้วกรองน้ำออกเหลือกากไว้ กากนั้นคืออินทรีย์วัตถุ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเศษซากพืช ก็จะรู้ว่า เนื้อดินขนาดเท่าบาตรพระนั้นมีอินทรีย์ วัตถุกี่เปอร์เซ็นต์ .... ดินดี คือ ดินที่มีอินทรีย์วัตถุเป็นพื้นฐาน มีมากคือดีมาก มีน้อยคือดีน้อย ดินที่ขุดขึ้นมาถมคันนา เอามาตรวจค่า กรด/ด่าง ตรวจปริมาณอินทรีย์วัตถุแล้ว ผลการตรวจ คือ คำตอบ”....

– งานนี้คุณขายหน้าดินไปแล้ว จะเอาหน้าดินดีกลับคืนมาหรือเปล่า ถ้าเอาก็ต้องเปิดใจ
- ดินดี คือ ดินที่มี “อินทรีย์วัตถุ-ความชื้น-จุลินทรีย์” ชาวไร่สามารถทำได้ด้วยต้น ทุนไม่สูงนัก วิธีการก็คือ :

** ลงทุนด้วยเงิน .... เนื้อที่ 1 ไร่ จากต้นทุนค่าปุ๋ยเคมี 1-2 กส./ไร่ เอาเงินตัวนั้นมาซื้อยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์ 1 กส. . ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย 1 กส., กระดูกป่น 10 กก., ขี้ไก่ 100 กก., แกลบดิบ 500 กก., น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 2 ล. จ่ายเงินน้อยกว่าแต่ประโยชน์ที่ได้จากรุ่นนี้ต่อไปถึงรุ่นหน้า รุ่นต่อๆ ไปอีกด้วย เมื่อดินดี ผลผลิตสำปะหลังก็ O.K เรียกว่า รุ่นเดียวก็ได้ทุนคืน

** ลงทุนด้วยเวลา ไม่เอาผลผลิต .... ปลูกพืชตระกูลถั่วบำรุงดิน ออกดอกแล้วไถกลบ 2 รุ่น ใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน ก็ได้ดินดี

** ลงทุนด้วยเวลา เอาผลผลิต .... ปลูกถั่วไร่ (เขียว-เหลือง-แดง-ดำ) เอาผลผลิตแล้วไถกลบเศษซาก ทำซ้ำ 2 รุ่น ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งดินดี

หมายเหตุ :
- จากเศษซากต้นถั่วธรรมดาๆ ก็ทำให้เป็นเศษซากต้นถั่วซุปเปอร์ โดยก่อนไถกลบใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง

– การไถกลบเศษซากต้นถั่วหรือเศษซากพืชอื่นๆ (แกลบดิบอยู่ในเนื้อดินได้นานนับ 10 ปี.... ข้อมูลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เสริมเติมเพิ่มบวกด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ลงไปไต้ดินลึกๆ เปรียบเสมือนเป็นฟองน้ำคอยซับน้ำเก็บไว้ให้ คราใดที่ฝนตกลงมาแม้ไม่มากนัก น้ำจะซึมลงไต้ดิน แล้วอยู่อย่างนั้นได้นานนับเดือน ต่างกับในเนื้อดินลึกที่ไม่มีอินทรียวัตถุเลย ฝนตกลงมาก็ไหลผ่านไปหมด แดดเผาแค่ 2-3-4 วัน ดินก็แห้งเหมือนเดิม

---------------------------------------------- ---------------

จาก : (084) 372-48xx
ข้อความ : ผมเคยไปไร่กล้อมแกล้ม 1 ครั้ง ครั้งแรกได้คุยกับลุงคิม ผมไปเองอีก 2 ครั้ง ไม่ได้พบลุงคิม แต่ไปเพื่อสร้างไอเดีย ผมชอบแนวทางแบบไร่กล้อมแกล้ม เรื่องการปลูกไม้ผลระยะชิด กับสปริงเกอร์ ลุงคิมบอกว่า ไม้ผลที่ไร่กล้อมแกล้ม ทำงานทั้งปีได้ขายครั้งเดียว อยากถามคุณลุงว่า ถ้าเราจะทำอะไรให้ได้ขายหลายๆครั้งได้บ้าง ขอไอเดียลุงคิมด้วยครับ .... ขอบคุณครับ
ตอบ :
- ในไร่กล้อมแกล้ม ยังมีช่องว่างให้เธอแจ้งเกิดเสมอ เหมือนหัวใจดวงเดียวแต่มีหลายห้อง เพียงรอ “วันขยัน” เท่านั้นแหละคุณ วันนี้ลุงคิมแม้แต่ “สั่งด้วยวาจา” ยังขี้เกียจ นับประสาอะไรจะให้ทำด้วยมือ นี่คือลุงคิมตัวจริง ทำเกษตรแต่เป็นเกษตรกรที่ขี้เกียจที่สุดในประเทศไทย หรือข้ามขึ้นไปขี้เกียจระดับโลกแล้วก็ไม่รู้ ขี้เกียจเช็คอีกเหมือนกันนั่นแหละ

- ช่องว่าง/ห้องว่าง/พื้นที่ว่าง ในไร่กล้อมแกล้ม อาทิ ..... :
“ริมทางเดิน” ตั้งแต่ต้นทางปากทางเข้าไร่ จนถึงท้ายไร่ คิดความยาวระยะทางราว 250 ม. ปลูกผักเลื้อยขึ้นค้าง เพราะมีค้างถาวรจอยู่แล้ว ระยะห่าง 1 ม. ได้ 250 ต้น ทางสองข้างปลูกได้ 500 ต้น มีระบบสปริงเกอร์พร้อมอยู่ก่อนแล้ว

“ช่องว่างระหว่างต้นไม้ผลยืนต้น” เลือกผักต้องการแสงแดดน้อย ปลูกแซม/แทรก เนื้อที่ 3 ไร่แรกลงพริกกะเหรี่ยง 200 ต้น, เนื้อที่ 3 ไร่ที่ 2 ลงข่า 200 กอ, เนื้อที่ 3 ไร่ที่ 3 จะเลือกลงอะไรก็ที่เหมาะสมกับแสงแดดที่มีมากมีน้อยจากไม้ผลโซนนั้นๆ

“ที่ว่างข้างสระน้ำ” เลี้ยงวัว 10 ตัว ทำพื้นคอนกรีตเป็นคอกมีมุ้งลวด มีที่ว่างให้วัวเดิน เลี้ยงให้อยู่ในคอก ไม่ต้องไปเป็นคนเลี้ยงวัวไล่ทุ่ง แต่จ้างคนมาเกี่ยวหญ้าให้วัวกิน จ้างประจำทำให้เขามีรายได้ประจำเขาก็จะทำเอง เกี่ยววันเว้น 3 วัน ครบ 2 ปีขายวัว วัว 1 ตัวเป็นต้นทุนค่าคนตัดหญ้า เหลืออีก 9 ตัว กำไรเท่าไหร่

“สระน้ำมีอยู่แล้ว” เลี้ยงไก่บนบ่อปลา เลี้ยงกบริมบ่อปลา เลี้ยงปลากินขี้ไก่ จะเป็นเงินเป็นทองอีกเท่าไหร่

“พื้นที่จอดรถหน้าไร่” ทำไฮโดรโปรนิกส์กลางแจ้ง น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง น้ำนิ่ง (คะน้า กวางตุ้ง) ปลูกแตงโม แคนตาลูป หรือผักเถา ในถุง ติดสปริงเกอร์ทางรากลงปากถุง ฉีดพ่นทางใบ

“ริมรั้วรอบไร่” วันนี้ลงชะอมไว้ ปล่อยตามมีตามเกิด หน้าฝนแตกยอด หน้าแล้งไม่แตกยอด

สรุป :
- หลายคนไปไร่กล้อมแกล้ม ลุงคิมเล่าให้ฟังว่า ทำอย่างนี้ได้ ทำอย่างนั้นได้ คนที่ไปถามย้อนว่า ทำไมลุงคิมไม่ทำ ทำไมผู้พันไม่ทำ ทำซิครับ จะได้เป็นตัวอย่าง ลุงคิมก็เลยบอกว่า นี่ไม่ใช่ของใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ไหนก็มี มีคนทำแล้ว สวนเกษตรดีเด่น โดยเฉพาะโครงการพระราชดำริ มีให้ดู แต่ที่นี่ไม่ทำเพราะขี้เกียจ .... บางคนยังถามอีกว่า ไม้ผลอย่างเดียวอยู่ได้ยังไง ลุงคิมก็เลยตอบว่า อยู่ได้ซี่ อยู่ดีด้วย ดูไม่ออกเลยเหรอว่า ทีนี่อยู่ได้ยังไง แต่ถ้าเป็นคุณ ไม่ใช่ดูถูก อยู่ไม่ได้หรอก เพราะคุณไม่ใช่ผม ผมไม่ใช่คุณ

- ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ บางอย่างทำอยู่ แต่ไม่ได้ตั้งอกตั้งใจอะไรนัก ให้คนงานทำ ทำได้ได้ขาย ขายได้เอาเงินไปเลย ขนาดนี้ก็ยังมีผักส่งแม่ค้าตลาดนัดจรมารับซื้อถึงที่ทุกวัน

- ถ้าลุงคิมจะทำเอง ขายเอง ลงทุนจ้างแรงงานอีก 1 คน ก็ทำได้แล้ว ว่ามั้ย


@@@ ที่ทำแล้ว :
@ LOAD MAP ขั้นที่ 1 ระยะเวลา 3 ปีแรก .... สัจจะธรรมการเกษตร #1
* ค้นพบทฤษฎี “เรารักไม้ตัวนี้ แต่ไม้ตัวนี้ไม่รักเรา” .... เรารักทุเรียน เงาะ มังคุด ลงระยะชิดไว้อย่างละ 50 ต้น อายุ 3 ปีไม่โตยืนตายในหลุม แต่ไม้อื่น O.K. กับเรา เราก็เลือกไม้ตัวนั้น เพราะไม้แต่ละอย่างชอบธรรมชาติ หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน บนผิวดินเรามองเห็น แต่ไต้ดินลึกลงไปเรามองไม่เห็น ถึงมองเห็น รู้ทั้งรู้บางที่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงทำได้ก็ไม่ถาวร ไม่คุ้มทุน เพราฉะนั้น จำเป็นต้องหักใจจากไม้ตัวนั้น

* ค้นพบทฤษฎี “สวนดีเด่นอายุ 50 ปี UP ของเราเพิ่ง 3 ปี” .... ไม้ในสวนดีเด่นขึ้นระเกะ ระกะ ระยะห่างระหว่างต้นไม่แน่นอน แนวต้นไม่เป็นแถว เริ่มแรกเขาปลูกอย่างนั้นเหรอ .... เราต้องจัดระยะห่างแน่นอน เป็นแถวตั้งแต่ต้นแรกถึงต้นสุดท้าย ไม้ใหม่มาใหม่ต้องอยู่ในแถว ถ้าไม่มีแถวให้อยู่ก็ให้ลงคู่เบิ้ลกับไม้เดิม อยู่ด้วยกันแล้วให้โตด้วยกันในหลุมเดียว

* ค้นพบทฤษฎี “ปรัชญาการเกษตรด้านพืช” เอามาสอนคนทั้งประเทศ .... ไม่มีพืชใดในโลกหนีพ้น “ดิน–น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สาร อาหาร-สายพันธุ์-โรค-ต้นทุน-ตลาด”, ปลูกกินตามใจคนในบ้าน ปลูกขายตามใจคนซื้อ, ทำผลผลิตได้ เกรด เอ จัมโบ้ โกอินเตอร์ ขึ้นห้าง ออกนอกฤดู คนนิยม รับรองไม่พอขาย, ปัญหาเกษตรทุกปัญหา เกษตรกรสร้างขึ้นมาเองทั้งนั้น แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่แก้ที่ต้นเหตุ, ทำอย่างเดิมได้น้อยกว่าเดิม ทำตามคนที่ล้มเหลวย่อมล้ม เหลวยิ่งกว่า ทำตามคนที่สำเร็จย่อมสำเร็จย่างกว่า,

* ค้นพบสูตรปุ๋ย "ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า, แคลเซียม โบรอน, น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง".... ทำใช้/ทำขาย/ทำแจก/ทำสอน กับอีกหลายสูตร แค่ปุ๋ยกับยา ช่วยประหยัดต้นทุนมหาศาล ทั้งวันนี้ วันหน้า ถึงอนาคตให้ลูกหลานเหลนโหลน ให้ประเทศชาติ

* ค้นพบสูตรสมุนไพร "เผ็ด-ร้อน-ขม-ฝาด-เบื่อเมา" ด้วยการ "ต้ม-แช่-กลั่น" ตามชนิดของสมุนไพรเพื่อให้ได้สารออกฤทธิ์

* ค้นพบสปริงเกอร์ระบบกะเหรี่ยง หม้อปุ๋ยหน้าโซน .... ระบบกะเหรี่ยง ต้นทุน 5,000 ต้นทุนระบบ อิสราเอล 50,000 .... หม้อปุ๋ยกะเหรี่ยง ราคา 300 หม้อปุ๋ย MADE IN USA ราคา 30,000



@ LOAD MAP ขั้นที่ 2 ระยะเวลา 3 ปีที่สอง (ปีปัจจุบัน) สัจจะธรรมการเกษตร #2
* ค้นพบทฤษฏี “ทำงานทั้งปีได้ขายรอบเดียว V.S. ทำงานทั้งปีได้ขายหลายรอบ” .... ปัญหาทำทั้งปีได้ขายรอบเดียว แก้ไขโดยทำให้ได้ เกรด เอ. จัมโบ้. โกอินเตอร์, ขึ้นห้าง, ออกนอกฤดู, คนนิยม. .... กรณีทำงานทั้งปีได้ขายหลายรอบ อยากรวยต้องทำแจ๊คพ็อต หรือแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ต้นน้ำ/กลางน้ำ/ปลายน้ำ

* ค้นพบทฤษฎี “รวยด้วยกัน” .... จาก สมช.กลุ่มสีสันชีวิตไทย เริ่มต้นกว่า 100 ราย ต่อมาแยกย้ายกันไป บางรายเลิก บางรายรวยขึ้น ส่วนใหญ่อยู่ที่เดิม กับบางรายกลับไปเป็นหนี้อย่างเดิม ปัจจุบันที่เกาะกันแน่นตึ๊บอยู่ราว 10 ราย รวยทุกราย

* ค้นพบทฤษฎี “ดินปราบเซียน” .... ดินไร่กล้อมแกล้ม หน้าดินแห้งเร็ว ไต้ดินเหนียวจัด ทุเรียน-เงาะ-มังคุด-ทับทิม-น้อยหน่า-องุ่น-มะละกอ-พริก-มะเขือ เมื่อรากเจริญยาวไปถึงดินล่าง ยอดแห้ง ปลายใบไหม้ ขอบใบแห้ง แล้วยืนตายหน้าตาเฉย รู้ทั้งรู้ว่า วิธีแก้ดินเหนียวต้องทำอย่างไร แต่มาคิดคำนวณต้นทุนแล้วพบว่า “ไม่คุ้ม” จึงแก้ไขด้วยการเปลี่ยนใจ ไม่รักไม้ตัวนั้น แล้วมารักไม้ที่รักเราเท่าที่เห็น ณ วันนี้ดีกว่า

* ค้นพบทฤษฎี “วิชาเกษตร” .... วิชาเกษตรมี 100 บทเรียน บทเรียนที่ 1 สำคัญสุด ถ้าบทเรียนที่ 1 สอบผ่าน ที่เหลืออีก 99 บท เรียนวันเดียวผ่าน แต่ถ้าบทเรียนที่ 1 ไม่ผ่าน ตายแล้วเกิดมาเรียนอีก 99 ชาติก็ไม่ผ่าน .... บทเรียนที่ 1 คือ “ใจ” นั่นเอง

* ค้นพบทฤษฎี “รูปแบบการทำเกษตร” ....อินทรีย์นำ เคมีเสริม หรือ เคมีนำ อินทรีย์เสริม ตามความเหมาะสม ...?... (เครื่องหมาย " ? " หมายถึงพืช และ/หรือ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพืช ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม)

* ค้นพบ “ใจเกษตรกร” .... พูดเรื่องจริง แต่ดุดัน = ไม่เอา, พูดเรื่องจริง แต่นิ่ม = ไม่เอา .... พูดอ้อล้อตอแหล หลอกลวง ขายแพง ลดแลกแจกแถม เครดิตได้ = ล้วงกระเป๋าซื้อเลย

* ค้นพบ “ใจตัวเอง” .... 20 ปีกับงานนี้ เริ่มถอดใจ
* ค้นพบ สมการเกษตร .... ปุ๋ย, ยา, ปัจจัยพื้นฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง, ทุน, ตลาด, ..... ตัวอย่าง :

*สมการปุ๋ย :
ปุ๋ยถูก + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล
ปุ๋ยผิด + ใช้ถูก = ไม่ได้ผล
ปุ๋ยผิด + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล ยกกำลังสอง
ปุ๋ยถูก + ใช้ถูก = ได้ผล ยกกำลังสอง

-------------------------------------------------------------


.