ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
somboonyang สาวดอง
เข้าร่วมเมื่อ: 27/04/2011 ตอบ: 89
|
ตอบ: 19/11/2015 2:01 pm ชื่อกระทู้: ลูกค้าลำไย ลำพูน ฝากถาม |
|
|
.
.
รบกวนถามคุณส้ม เรื่องการใช้ฮอร์โมนไข่ไทเปของทางชมรมฯ ครับว่า
- นอกจากใช้กระตุ้นตาดอกแล้ว ในช่วงที่ช่อดอกแทงออกมาแต่ยังไม่บานเราสามารถใช้ฮอร์โมนไข่ต่อเนื่องไปจนดอกบานแล้วจึงหยุดใช้ ได้หรือเปล่าครับ ?
- ที่ถามอย่างนี้เพราะผมเข้าใจว่าฮอร์โมนไข่จะช่วยบำรุงช่อดอกและยืดช่อดอกได้ด้วย ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า ?
- เราควรหยุดใช้ฮอร์โมนไข่ ช่วงไหนครับ ?
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11623
|
ตอบ: 19/11/2015 2:49 pm ชื่อกระทู้: Re: พ่อ...ลูกค้าลำไยจากลำพูนฝากถาม |
|
|
somboonyang บันทึก: |
- นอกจากใช้กระตุ้นตาดอกแล้ว ในช่วงที่ช่อดอกแทงออกมาแต่ยังไม่บานเราสามารถใช้ฮอร์โมนไข่ต่อเนื่องไปจนดอกบานแล้วจึงหยุดใช้ ได้หรือเปล่าครับ ?
COMMENT :
- น่าจะให้รายละเอียดมากกว่านี้หน่อยว่า ใช้แล้วหรือยัง ? ลำไยพันธุ์อะไร เบาหรือหนัก ?
- เหมือนปวดท้อง บอกหมอว่า ปวดท้องปวดท้องปวดท้อง แต่ไม่บอกว่าปวดข้างซ้าย ข้างขวา ข้างหน้า หรือข้างหลัง กับรายละเอียดอื่นๆ ก็ไม่บอก แบบนี้หมอก็ต้องสั่งยาแบบ "เดาเดา" แหละนะ
- ถ้าเป็นลำไยพันธุ์เบา (กลุ่มอีดอ) ใช้ไทเปเปิดตาดอก ดอกชุดแรกออกมาแล้ว ต้องเปิดต่อเพื่อเอาดอกชุดสอง อันนี้ใช้ไทเปต่อได้เลย สารอาหารในไทเปนอกจากช่วยเปิดตาดอกชุดต่อไปแล้วยังช่วยบำรุงดอกชุดแรกได้ด้วย .... สรุป : ลำไยพันธุ์เขา ลุย !
- ถ้าเป็นลำไยพันธุ์หนัก ไทเปเปิดตาดอกไม่ออกเพราะแรงไม่พอ ต้องใช้ 13-0-46 โดยเฉพาะเท่านั้น ทางเหนือเรียก "ปุ๋ยหนาว" ไง ถ้าไม่รู้ก็ลองๆ เอาละลายน้ำดูซี่ น้ำเย็นเฉียบเลย
- ใช้ 13-0-46 เปิดตาดอกซ้ำ 2-3 รอบ จนแน่ใจว่า ลำไยต้นนั้นออกดอกทุกชุดหรือออกมาหมดแล้ว จากนั้นก็บำรุงดอก เริ่มด้วย เอ็นเอเอ. สลับด้วย แคลเซียม โบรอน
- ที่ถามอย่างนี้เพราะผมเข้าใจว่าฮอร์โมนไข่จะช่วยบำรุงช่อดอกและยืดช่อดอกได้ด้วย ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า ?
COMMENT :
ตามคำตอบข้างต้น ลำไยพันธุ์เบา หรือพันธุ์หนัก นั่นแหละ
- เราควรหยุดใช้ฮอร์โมนไข่ ช่วงไหนครับ ?
COMMENT :
เมื่อดอกออกมาจนหมดต้น หมดไส้หมดพุงแล้ว เริ่มเป็นผลแล้วไง
------------------------------------------------------------------
ปล.
* พันธุ์เบา : ได้แก่ อีดอ. ออกดอกต้นเดือน ธ.ค.- ม.ค. เก็บเกี่ยวเดือน มิ.ย.- ก.ค. ทนแล้ง ออกดอกติดผลง่าย ผลดก เนื้อหนาสีขาวขุ่น ไม่กรอบและไม่หวานนัก ขนาดผลและเมล็ดใหญ่ปานกลาง
* พันธุ์กลาง : ได้แก่ สีชมพู. ออกดอก ม.ค.- ก.พ. เก็บเกี่ยวเดือน ก.ค.- ส.ค. ไม่ทนแล้ง ออกดอกติดผลง่ายปานกลาง ติดผลไม่สม่ำเสมอ สีเนื้อขาวออกชมพู รสชาติหวานหอมกว่าอีดอ ขนาดผลใหญ่ปานกลางและขนาดเมล็ดเล็ก
* พันธุ์หนัก : ได้แก่ แห้ว. เบี้ยวเขียว. ออกดอก ม.ค.- ก.พ. (หลังสีชมพู) เก็บเกี่ยวเดือน ส.ค.- ก.ย. ทนแล้ง ออกดอกติดผลยากบางครั้งออกปีเว้นปีหรือออกปีเว้น 2 ปี ติดผลดีกว่าเบี้ยวเขียว เนื้อสีขาวขุ่นแห้งหนาและกรอบที่สุด รสชาติหอมหวาน ขนาดผลใหญ่และขนาดเมล็ดเล็ก
----------------------------------------------------------------------
แถม :
ลำไยยักษ์ พันธุ์ จัมโบ้
ลำไยสายพันธุ์ใหม่ ที่กรมวิชาการเกษตร ได้มี หนังสือรับรองพันธุ์ขึ้นทะเบียนกรมวิชาการเกษตร จัดเป็นลำไยอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้จากการกลายพันธุ์มาจากการเพาะเมล็ด (คาดว่าน่าจะกลายมาจากพันธุ์อีดอ) เป็นพันธุ์ที่เหมาะต่อการบริโภคสด ผลมีขนาดใหญ่มาก มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร มีขนาดผลใหญ่กว่าลำไยเกรด A ที่ส่งขายยังต่างประเทศถึง 2 เท่า เป็นลำไยที่เนื้อหนาแข็งและแห้ง ไม่แฉะน้ำ มีความหวานเฉลี่ย 13-15 เปอร์เซ็นต์บริกซ์ ที่น่าสนใจคือ เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ และได้มีการตั้งชื่อว่า พันธุ์ จัมโบ้ (JUMBO)
เจ้าของลำไยพันธุ์จัมโบ้นี้คือ คุณสุทัศน์ อินต๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นต้นที่ ได้จากการปลูกด้วยเมล็ดและกลายพันธุ์มาดี จากลำไยต้นหนึ่งในเขตอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ลักษณะของการติดผลของลำไยพันธุ์นี้ ถ้าดูแลดี ดกไม่แพ้พันธุ์อีดอ โดยเฉพาะในช่วงออกดอกและติดผล ลักษณะผลจะกลมแป้น ผิวเปลือกเรียบ มีสีน้ำตาลปนเหลือง เปลือกหนาประมาณ 1.3 มิลลิเมตร ในธรรมชาติจะออกดอกในช่วงเดือนมกราคม และเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนสิงหาคม-กันยายน จัดเป็นลำไยที่มีลักษณะเป็น พันธุ์หนักกว่าพันธุ์อื่น ทำให้ผลผลิตแก่กว่าลำไยที่ออกในฤดูทั่วไป เนื่องจากเป็นลำไยที่พบเปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ สวนคุณลี จังหวัดพิจิตร และได้ผลผลิตในช่วงต้นเดือนกันยายน พบว่าใน 1 ช่อ ผลลำไยมีเมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์
ถือเป็นพันธุ์ลำไยที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คือ รสชาติ ลักษณะเหมือนลำไยพันธุ์ อีดอผสมเบี้ยวเขียว คือ มีเนื้อแห้งและกรอบ แต่ได้ขนาดที่ผลใหญ่มาก และที่สำคัญ เมล็ดลีบ 100 เปอร์เซ็นต์ และเนื้อหนามาก
มีเกษตรกรผู้ปลูกลำไยส่งออกได้มาดูผลผลิตยอมรับว่าดีจริง และส่งขายต่างประเทศได้ราคาสูงแน่นอน โดยผู้ส่งออกได้มาดูผลผลิตลำไยพันธุ์จัมโบ้ที่สวนคุณลีบอกว่า ลักษณะคล้ายกับพันธุ์อีดอ เนื้อมีสีขาว แต่โดดเด่นตรงที่เนื้อหนามากและเมล็ดลีบ ทำให้ได้เปรียบลำไยสายพันธุ์อื่น สำหรับพื้นที่ที่จะปลูกลำไยพันธุ์จัมโบ้สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ ขอให้มีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์เท่านั้น
เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการใช้ สารโพแทสเซียม คลอเรต หรือโซเดียม คลอเรต บังคับให้ออกนอกฤดูได้
การปลูกลำไยแบบสมัยใหม่ ถ้าเป็นพื้นที่ที่เคยปลูกพืชอื่นมาก่อน ให้ไถดินลึก ประมาณ 30 เซนติเมตร ตากดินไว้ 20-25 วัน พรวนย่อยดินอีก 1-2 ครั้ง และปรับระดับดินให้สม่ำเสมอตามแนวลาดเอียง
วิธีการปลูก เริ่มจากการเตรียมพันธุ์โดยวิธีการตอนกิ่ง ซึ่งควรเตรียมไว้ล่วงหน้า 1 ปี เพื่อจะได้ต้นกล้าที่แข็งแรง หรือเลือกใช้ต้นพันธุ์ลำไยที่ขยายพันธุ์แบบเสียบยอด หรือทาบกิ่งก็ได้ เพราะจะได้ต้นพันธุ์ที่มีรากแก้ว ทำให้ต้นแข็งแรง หากินเก่ง ทนต่อสภาพดินไม่ดีได้ ต่อมาก็เป็นเรื่องของระยะปลูก 6x6 เมตร แล้วใช้วิธีควบคุมทรงพุ่ม
http://m.technologychaoban.com/news_detail.php?tnid=1448&col_id=2
|
. |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|