ถาม-ตอบปัญหาวิทยุ22JUL *น้ำหมัก, ทหาร-โจรไต้,ขยายหวานป่า

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 22 JUL

วิทยุ ปตอ. AM 594 เวลา 08.15 & 20.05 ทุกวัน

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี (089) 814-3204
2 )“คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (สั่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

-------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (080) 281-83xx
ข้อความ : ที่หมู่บ้านมีปราชญ์ชาวบ้านมาสอนให้น้ำหมักชีวภาพ เขาทำจาก ผัก ผลไม้ กากน้ำตาล พด. หมักนาน 1 เดือน ผักผลไม้ยังเป็นชิ้นอยู่เลย บอกว่าใช้ได้แล้ว ให้ทางใบก็ได้ ทางดินก็ได้ ผมถามว่า ในน้ำหมักนั้นมีสารอาหารอะไรบ้าง เขาบอกคำเดียวว่า มีมาก แต่ไม่บอกชื่อสารอาหารเหมือนลุงคิมบอก แสดงว่าเป็นปราชญ์แต่ไม่มีความรู้ทางวิชาการเลย แบบนี้ผมควรทำตัวอย่างไร....เคารพลุงคิม

ตอบ :
** คำถาม : ถามว่าควรทำตัวอย่างไร .... คำตอบ : ทำตัวเฉยๆ อย่าไปว่าเขา บาป รู้มั้ย.... เจอมาเยอะ เขาไม่รู้จริงๆ หรือรู้แต่ไม่บอก เรียกว่า “กั๊ก” ก็ได้

- ก็แปลกนะ รู้ทั้งรู้ว่า ต้นไม้ต้นพืชต้องกินปุ๋ย แล้วอั้ยที่ทำให้ต้นไม้ต้นพืชกินน่ะ มัน “ใช่” ปุ๋ยมั้ย ?
.... ถ้าใช่ ใช่ปุ๋ยตัวไหนในจำนวน 14 ตัว ? (N P K Ca Mg S Fe Cu Zn Mn Mo B Si Na), ฮอร์โมนอะไร, จุุลินทรีย์ตัวไหน ประเภทไหน ?

- แต่ละตัวๆ มีปริมาณ (พีพีเอ็ม-เปอร์เซ็นต์) เท่าไหร่ ? เพียงพอให้ต้นพืชต้นไม้กินอิ่มมั้ย ?

- ในวัสดุส่วนผสมที่เอามาทำมีสารอาหารต่างชนิดและต่างปริมาณกัน มีอะไรบ้าง อ่านในตำราว่าด้วยโภชนาการ .... เปรียบเทียบสารอาหารใน "ผักผลไม้ V.S หอยเชอร์รี่ V.S รกหมู V.S. ปลาน้ำจืด V.S กุ้งหอยปูปลาทะเล" อย่างไหนมีสารอาหารมากน้อยต่างกัน

- วิธีการ/อายุ/อุณหภูมิ/อากาศ/จุลินทรีย์/ฯลฯ ในการทำ (หมัก) ที่ต่างกัน สารอาหารพืชในวัสดุส่วนผสมที่ออกมาหรือที่ได้ย่อมต่างกัน ....ภาชนะที่ใช้หมัก หมักในถัง / หมักในกอง / หมักในดิน .... รูปแบบการหมัก แห้ง / ชื้น / ชุ่ม / โชก / แฉะ / แช่ / ต้องการอากาศ / ไม่ต้องการอากาศ

- น้ำหมักชีวภาพทุกชนิด รวมทั้งน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงฯ ของลุงคิม แม้จะหมักนานข้ามปี ให้ทางใบก็ผ่านปากใบไม่ได้ เพราะโมเลกุลของ "โปรตีน" ยังเป็นขนาดใหญ่ ต้องเข้าสู่ขั้นตอนเปลี่ยนโปรตีนธรรมดาๆ เป็น "อะมิโน โปรตีน" เสียก่อน โมเลกุลโปรตีนจึงจะขนาดเล็กผ่านปากใบได้

- ในกากน้ำตาลทีสารที่เป็นพิษ (toxig) ต่อพืช 18 ตัว แก้ไขด้วยการ "หมักนานข้ามปี" หรือขึ้นความร้อน 80 องศา ซี. นาน 1 ชม.

** คนที่ไปสอนชาวบ้าน ล้วนแล้วแต่เรียนมาสูงๆ เรียนมาสูงกว่าชาวบ้านก็แล้วกัน แล้วไม่รู้ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องนี้ เป็นไปได้ยังไง .... เอกสาร-ตำรา-อินเตอร์เน็ต มีให้ค้นคว้า แล้วไม่รู้คุณสมบัติทาง "ฟิสิกส์-เคมี" ได้อย่างไร ทำไมไม่ยึดหลัก แบบ "ภูมิปัญญาพื้นบ้าน มาตรฐานโรงงาน มีหลักวิชาการรองรับ" ในการทำ

** ชื่นชมชาวบ้าน เกษตรกร ที่ขวนขวายใคร่รู้ ตั้งอกตั้งใจมาเรียน แต่มันให้สงสัยสงสัย คนสอนเอาอะไรไปสอนชาวบ้าน

** อเมริกาทำปุ๋ยน้ำชีวภาพมาแล้ว 50-70 ปี, จนป่านนี้คนไทนที่เคยไปเรียนที่อเมริกายังไม่รู้เรื่อง

** ปุ๋ยอินทรีย์ โดย ดร.จากอินเดียเข้ามาในประเทศไทยเมื่อสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมๆกับปุ๋ยเคมีที่นำเข้ามาโดยอเมริกา แต่คนไทยไม่เอาปุ๋ยอินทรีย์ เอาแต่ปุ๋ยเคมี

** ฟูกูโอกะ ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในญี่ปุ่น เป็นอินทรีย์เพียวๆ เน้นจุลินทรีย์เป็นหลัก ผ่านสื่อทุกประเภท ใช้เวลาถึง 20 ปี เกษตรกรญี่ปุ่นจึงยอมรับแนวอินทรีย์

** ดร.โช ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ เน้นปุ๋ยธรรมชาติ และฮอร์โมนธรรมชาติ เป็นหลัก ผักกาด ผักคะน้า ต้นโตสูงใหญ่ถึงเอว ทั่วโลกยอมรับแต่รัฐบาลเกาหลี (ปัก จุง ฮี) ไม่สนใจ

** เกษตรของเรา (เกษตรลุงคิม) ตรงนี้ เอาหลักการเกษตรของ ฟาโรห์ (อียิปต์), ฮ่องเต้ (จีน), ฟูกูโอกะ (ญี่ปุ่น), ดร.โช (เกาหลี), ดร. ? (อินเดีย), อีเตอร์ ? (ไทยโบราณ), ทหาร (พันโท 17 ปี) ไทย, เอามา เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก จนเป็นเกษตรแบบ “อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของ... ? ...” โดยมีเป้าหมาย "ผลผลิตเพิ่ม-ต้นทุุนลด-อนาคตดี" และให้ได้ "เกรด เอ., จัมโบ้, โกอินเตอร์, ขึ้นห้าง, ออกนอกฤดู, ตลาดนิยม."

** เพราะฉนั้น ที่ปราชญ์ชาวบ้านว่ามาอย่าลืมนะ อย่าไปว่าเขาเลย .... บาป รู้มั้ย

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (086) 712-38xx
ข้อความ : ผู้พันครับ ในฐานะผู้พันก็เป็นทหาร ผ่านสนามรบมาแล้ว ถามว่า ทำไมทหารจึงปราบโจรไต้ไม่หมดซักที ฝ่ายทหารซะอีก ถูกโจรฆ่าคนแล้วคนเล่า ทหารตายมากกว่าโจร แม้แต่ประชาชนตาดำๆก็โดนด้วย ผมสงสารทหาร สงสารประชาชน ผู้พันออกความคิดเห็นหน่อยซิครับ ทำอย่างไรถึงจะปราบโจรไต้ได้หมด .... ทหารเก่า ครับ

ตอบ :
- เป็นหน้าที่หรือภารกิจหลักของ ทบ.-ทร.-ทอ.-ทพ.-ตร.-อส.-ทสปช.-ลส.ชบ. มุ่งรักษาความมั่นคงทางทหารโดยเฉพาะ

- เป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องให้ราชการฝ่ายอื่นๆ ต้องสร้างและรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สร้างและรักษาความมั่นคงทางสังคมจิตวิทยา สร้างและรักษาความมั่นคงด้านอื่นๆทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของประชาชน ได้แก่ การทหาร การเมือง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา เทคโนโลยี ต้องไปควบคู่กัน แล้วเรื่องไหนเป็นหน้าที่ของทหาร เรื่องไหนเป็นหน้าที่ของฝ่ายใด ทุกเรื่องต้องไปพร้อมๆกัน คู่ขนานกันไป

- ก็เคยตั้งข้อสังเกตุ หลุมระเบิดใหญ่ขนาดรถยนต์ตกลงไปได้ทั้งคัน หลุมขนาดนั้นต้องใช้ระเบิดลูกใหญ่มาก ใหญ่ขนาดถังแก๊สหุงข้าว 30-50 กก. หลุมระเบิดอยู่กลางถนน ยังคิดอยู่ว่า กลางถนนที่พื้นดินแข็งกว่าริมถนนเขาขุดยังไงด้วยเวลากี่นาที ขุดแล้วกลบเรียบร้อยแนบเนียนจนมองไม่ออกว่าตรงนั้นเคยถูกขุดมาก่อน ขุดแล้วกลบดินได้เหมือนเดิมเปี๊ยบซะอีก หรือว่า ถนนสายนั้นมีรถผ่านน้อยมาก 3-5-7 วัน ถึงจะมีรถผ่านซักคัน หรือถนนบริเวณนั้น 1 เดือนถึงจะมีชาวบ้านผ่านซักคน จึงรอดสายตาทั้งหมด ที่สงสัยอย่างมากๆ คือ งานลอบวางระเบิดใหญ่โตขนาดนี้ ทำไมจึงไม่มีชาวบ้านรู้ ไม่มีใครเห็น แล้วทำไมไม่มีชาวบ้านแจ้งข่าวเลย ถ้าเป็นงานลอบโจมตี (ซุ่มยิง/สไนป์เปอร์) แบบแอบในป่าข้างทางแล้วโจมตีด้วยปืนเล็กปืนน้อยก็ว่ากันไป .... ข้อสงสัยสุดท้าย ในฐานะที่เคยทำงานด้าน กิจการพลเรือน (ฝอ 5) งานด้านการข่าว (ฝอ 2) มาก่อน คือ งานมวลชน งานการข่าว ดึงใจชาวบ้านไม่ได้เลยเหรอ

- ที่ว่า "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" ได้ทำ/ทำได้/ทำถูก หรือเปล่า ?
- ที่ว่า "มาถูกทาง มาถูกทาง" ทางเขาหรือทางเราหรือทางใคร ?

- สงสัยที่สุด คือ สส. ผู้แทนราษฏร ซึ่งก็เป็นผู้บริหารประเทศชาติเหมือนกัน แม้จะไม่ได้อยู่ฝ่ายรัฐบาล แต่ก็เป็นฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐบาล คุณเป็นตัวแทนประชาชนภาคไต้ ทำไมไม่มีความคิดริเริ่มอะไรในการแก้ปัญหาภาคไต้บ้างเลย เห็นพูดแต่ ค้านค้านค้าน ฝ่ายรัฐบาลทำอะไรผิดไปหมดแล้วที่ถูกควรทำอย่างไร ทำไมไม่พูด หรือว่า เหยียบเรือสองแคม ยังแบ่งแยกดินแดนไม่ได้ กูอยู่ฝ่ายนี้ พอแบ่งแยกดินแดนได้ กูไปอยู่ฝ่ายโน้น .... ยังงั้นมั้ย ?

- อยากเปลี่ยนชื่อฝ่ายค้านเป็น “ฝ่ายตรวจสอบ” หัวหน้าฝ่ายรัฐบาลนั่งคุยกับฝ่ายตรวจสอบ ฝ่ายตรวจสอบส่งเสริมให้บอกฝ่ายรัฐบาลสร้างโน่นสร้างนี่ซิครับ แล้วผมจะตรวจสอบให้ .... ฝ่ายค้านของรัฐบาลญี่ปุ่น ค้านเพราะฝ่ายรัฐบาลทำช้า ไม่ใช่ให้ยกเลิก แต่ฝ่ายค้านเสนอตัวขอทำเองเพราะทำได้เร็วกว่า .... รัฐบาลพม่า ฝ่ายรัฐบาลให้ ออง ซาน ซูจี. ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตัวแทนประเทศซึ่งก็คือรัฐบาล ไปเจรจากับต่างประเทศได้

– ฝ่ายค้านประเทศไทย ค้านลูกเดียว ไม่ให้ทำ ไม่ให้สร้าง ค้านแบบมึงลงกูจะขึ้น แม้แต่การทำหน้าที่ตรวจสอบก็ล้มเหลวทั้งเพ กล่าวว่าฝ่ายรัฐบาลทำผิด ทำผิด ทำผิด พอเอาจริงเข้าก็เอาผิดฝ่ายรัฐบาลไม่ได้

- ไม่ได้หมายถึงฝ่ายรัฐบาลฝ่ายค้านในรัฐบาลชุดนี้ แต่หมายถึงรัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมาในประวัติศาตร์การเมืองไทย เหมือนกันหมด จนกลายเป็น “ประชาธิปไตยแบบไทยไทย” ที่ผ่านมามันฟ้อง รักชาติอย่างผูกขาด รักชาติจนน้ำลายหก นี่แหละสาเหตุที่ทำให้ประเทศชาติโตช้าล้าหลังเกาหลี สิงค์โปร ไต้หวัน ทั้งๆที่ประเทศพวกนี้เพิ่งเกิดเมื่อหลังสงครามโลกครั้งทuj 2 ที่เอง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (089) 259-18xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ซื้อกล้าผักหวานป่ามา 100 ถุง หมดไปหลายตังค์ เจ้าของบอกว่า ชำมานาน 6-8 เดือน รากเดินดีแล้ว เปอร์เซ็นต์รอดสูงมาก ปลูกได้ 3 เดือน ตายไปครึ่ง หนึ่ง อีก 3 เดือนตายอีกครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เหลือแค่ 4 ต้น ทำท่าจะตายมิตายแหล่ ยืนต้นนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่อยากไปต่อว่าคนขายต้นพันธุ์ ไม่งั้นชกกันแน่ อยากเปลี่ยนมาเป็นปลูกแบบเพาะเมล็ด แต่ไม่รู้ว่าเพาะแบบไหน ผู้พันช่วยด้วยครับ....

ตอบ :
@@ จุดอ่อน (ธรรมชาติ) ของผักหวานป่า 2 ระยะ คือ 1) ระบบราก 2) ไม้พี่เลี้ยง

* ระบบราก .... ต้นกล้าผักหวานป่าที่ได้จาก กิ่งตอนหรือเพาะเมล็ด ระยะแรกต้องอนุบาลในถุงชำ ในเรือนเพาะชำ เลี้ยงกระทั่งโตได้ตามต้องการแล้ว จะย้ายจากถุงชำลงในหลุมปลูกจริง ระหว่างขั้นตอนการถอดต้นกล้าที่ยังมีวัสดุปลูกห่อหุ้มรากอยู่แล้วนำลงหลุมปลูก กับลงหลุมแล้วกดดินในหลุมนี้นี่แหละ “กระทบกระเทือนราก” แม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลเสียต่อต้นกล้า ทำให้ต้นกล้าไม่เจริญเติบโต แล้วยืนตายหรือนั่งหลุมตาย

– แนวทางแก้ปัญหาระบบราก :
* การตอนกิ่ง : เลือกกิ่งกระโดง กลางอ่อนกลางแก่ สมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคแมลง, ควั่นกิ่ง ขูดเยื่อเจริญ เหมือนตอนกิ่งไม้ยืนต้นทั่วไป ณ จุดรอยต่อระหว่างระหว่างกิ่งอ่อนต่อกิ่งแก่, ใช้ภู่กันจุ่มฮอร์โมนเร่งราก (น้ำสอาด 1 ถ้วยกาแฟ ละลายกะปิ 1 ก้อนเท่าปลายก้อย) ทาบนแผลที่ควั่นกิ่ง แล้วหุ้มด้วยตุ้มตอนตามปกติ (ตุ้มตอน : ขุยมะพร้าวเก่า แช่น้ำผสมน้ำมะพร้าวแก่ 24 ชม.) .... เทคนิคเฉพาะกิ่งตอนผักหวานป่า

- แม้กิ่งจะออกรากไม่ยาก แต่การเลี้ยงรากในตุ้มตอนต้องระยะเวลานาน 6 เดือนถึง 1 ปี จึงต้องทำตุ้มตอนให้แข็งแรง พร้อมที่จะอยู่ได้นานๆ

– ระหว่างที่ตุ้มตอนยังอยู่บนต้น ยังไม่ได้ตัดลงมา อาจมีการให้น้ำที่ตุ้มตอนบ้าง ไม่ให้ขุยมะพร้าวแห้งมากเกินไป

- เลี้ยงรากในตุ้มตอนขณะยังอยู่บนต้นให้แก่จัด รากส่วนโคนเป็นสีน้ำตาลไหม้ ส่วนปลายรากโชว์ความสมบูรณ์ชัดเจน

– ตัดกิ่งตอนลงมาแล้วนำลงถุงเพาะชำตามปกติ เลี้ยงในเรือนเพาะชำ (แสงแดด 30-50%) เป็นระยะเวลานาน 6 เดือนถึง 1 ปี ให้รากเจริญเต็มที่ภายในถุง จนปลายรากส่วนหนึ่งแทงทะลุออกมานอกถุงให้เห็นได้

– ระหว่างอนุบาลในเรือนเพาะชำ บำรุงด้วย “น้ำ 20 ล. + น้ำหมักชีวภาพสูตรไหนก็ได้ 10-20 ซีซี.” 2-3 รอบ ห่างกันรอบละ 1-2 เดือน


* การเพาะเมล็ด :
- เลือกผลผักหวานป่า แก่จัด สุกคาต้น สมบูรณ์ ไม่มีโรคแมลง นำมาแล้วล้าง “เนื้อ+เปลือก” ออกให้หมด ด้วยการขยำเบาๆ อย่าให้เมล็ดในช้ำ เสร็จแล้วเมล็ดจมน้ำไปเพาะ เมล็ดลอยไม่สมบูรณ์ทิ้งไป

- นำเมล็ดล้างเสร็จใหม่ๆลงเพาะทันที เพาะในถุงชำ เลี้ยงในเรือนเพาะชำจนต้นโตเต็มที่ (ระยะเวลาข้ามปี) แล้วจึงนำไปปลูกในแปลงจริง หรือหยอดเมล็ดในแปลงจริง ณ จุดที่กำหนดไว้ก่อน เลี้ยงต้นกล้าจนเป็นต้นโต ไม่มีการขุดย้ายอีก .... การเพาะเมล็ด ณ จุดที่ต้องการปลูกจริง แนะนำให้หยอดเมล็ด 2-3-4 เมล็ด เผื่องอกเผื่อไม่งอกไปในตัว เมล็ดงอกขึ้นมาให้แล้ว อาจะเลี้ยง 2-3 ต้นในหลุมเดียวกัน แล้วปล่อยให้โตไปด้วยกันก็ได้ ทั้งนี้ธรรมช่าติของผักหวานป่า นอกจากเป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็กแล้ว ยังโตช้าอีกด้วย อายุต้น
10-15 ปี ลำต้นที่คอดินโตประมาณหน้าแข้งคนเท่านั้น


@@ ไม้พี่เลี้ยง ....
– ธรรมชาติผักหวานป่าที่เกิดเองในป่า มักเกิดไต้ร่มไม้ใหญ่ มีแสงแดดส่องลงมาได้ 30-50% เท่านั้น

- ก่อนย้ายกล้าจากถุงเพาะชำลงปลูก หรือจะหยอดเมล็ดลงปลูก ณ จุดที่ต้องการปลูกกจริงเลย ควรปลูกไม้ยืนต้นประเภทโตเร็ว เช่น สะเดา มะขามเทศ สำหรับป็นไม้พี่เลี้ยง (อายุ 3 ปี สูงท่วมหัวคน) หรือไม้ยืนต้นชนิดอื่นๆเลียนแบบธรรมชาติ จากนั้นจึงปลูกผักหวานป่าลงแทรกระหว่างใม้พี่เลี้ยง .... เทคนิคการปลูกกล้วย ณ จุดที่ต้องการปลูก (ทั้งกล้าจากถุง และหยอดเมล็ด) ให้ปลูกกล้วยลงไปก่อน เมื่อกล้วยโตขึ้นให้ปลูกต้นกล้าลงที่ใจกลางกอกล้วย หรือหยอดเมล็ดที่ใจกลางกอกล้วย กล้าผักหวานป่านอกจากจะได้รากกล้วยสร้างความชุ่มชื้นแล้ว ยังได้ประโยชน์จากจุลินทรีย์กลุ่มแอ๊คติโนมัยซิส.เป็นพี่เลี้ยงตรึงไนโตรเจนให้อีกด้วย .... เลี้ยงปลูกผักหวานป่าจนโตเก็บผลผลิตได้แล้ว (นาน 3-5 ปี) จึงตัดแต่งกิ่งควบคุมทรงพุ่มไม้พี่เลี้ยง


@@ บำรุงผักหวานป่า
- ทางใบ : ให้ไบโออิ + ยูเรีย จี 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 10-15 วัน
- ทางราก : ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, ขี้วัว, ใบไม้แห้งคลุมโคนต้น ทุก 6 เดือน, ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 เดือนละครั้ง .... ปุ๋ยเคมีไม่ต้องให้

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------


.

[Verda7788]

น่าสนใจจัง ขอบคุณนะค่ะ

[kimzagass]

.

บอกหน่อย.....อะไรที่ว่า "น่าสนใจ" มีตัั้งหลายน่าสนใจ

โพสข้อความน้อยๆ ประหยัดพลังงานเหรอ ?


.