ผู้ส่ง |
ข้อความ |
DangSalaya |
ตอบ: 13/07/2013 7:51 am ชื่อกระทู้: |
|
..........END Part....more & more |
|
|
k9anake2007 |
ตอบ: 24/07/2010 10:36 am ชื่อกระทู้: |
|
หลังจากไปที่ไร่ลุงคิม ทำให้ทราบว่า "บอดด้านเกษตร" หลาย ๆ อย่างด้านเกษตรที่ทราบมา หรือเคยทำมา
ต้องทิ้งไป เพราะถ้าไม่ทิ้งของเก่าก็ไม่เจอของใหม่ ...สิ่งที่เปลี่ยนไป สำหรับ ผม+ภรรยา คือ
- ฟังรายการ สีสัน (AM 594 + FM สวพ. 91 ) ....เพื่อเปิดโลกทัศน์ เรียนรู้ประสพการณ์ อื่น ๆ
- อ่านข้อมูลจาก Internet/หนังสือ เรื่องของพืช ที่คาดว่าจะ ทำการปลูก (มะนาว, มะละกอ,มะเขือ, กล้วย, ผักสวนครัว บางอย่าง, นาข้าว )
จากหลาย ๆ แหล่งเพื่อ เปรียบเทียบข้อเท็จจริงต่าง ๆ บางอย่าง
- ศึกษา เรื่อง ดิน น้ำ ปุ๋ย ศัตูรพืช (ตามที่ คุณมงคล/พงษ์ศิริ แนะนำ ) จะได้เข้าใจกระบวนการพื้นฐานของพืช
ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหา หรือ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ตามคำที่ลุงคิมบอก คือ "อ่าน Line ธรรมชาติ" ให้ออก และ ใช้ให้เป็น
- ทดลองปลูกพืช ทดลองปุ๋ย ทดลองอาหารเสริม (ที่ได้มาจากไร่กล้อมแกล้ม) เพื่อเรียนรู้และศึกการเจริญเติบโตของพืช
ตอนนี้มี ผักบุ้ง ผักคะน้า ในกระถางเล็ก ๆ
-จัดหา เครื่องมือวัดทางการเกษตร มาทดลองใช้งาน ( มีแล้วคือ วัด pH ในดิน, วัด pH ในน้ำ, ที่ต้องการต่อไป คือ วัดปริมาณป๋ยรวม ในดิน
เพื่ออนาคต ผมจะได้ พัฒนาขึ้นมาใช้งานเอง)
เป็นการ "เริ่มต้นเดินทาง" สู่ก้าวที่ 2 ต่อจากก้าวที่ 1 เมื่อเดินออกมาจาก ไร่กล้อมแกล้ม ของลุงคิม ครับผม ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา
นานในการการเรียนรู้ ครับ
แหล่งข้อมูลที่กำลัง อัดเข้าไปเพิ่มรอยหยักของสมอง
พื้นที่ทดลอง เล็ก ๆ |
|
|
Aorrayong |
ตอบ: 24/07/2010 6:53 am ชื่อกระทู้: |
|
kimzagass บันทึก: | หลายคนนะที่เรียนแล้ว "หายซับ หายสอย" ไปเลย
ลุงคิมก็เลยกลายเป็นคน "สอนทิ้ง สอนขว้าง" ไปด้วย
ส่งข่าวคราวหน่อยนะ อยากรู้ข่าวน่ะ
ลุงคิมครับผม |
ถ้ากล้อมแกล้มดอตเน็ตรุ่น 1 อีกหลายคนนะที่ยังไม่ได้รายงานตัว โดยเฉพาะคลื่นลูกใหม่สระบุรี
กลุ่มนี้เค้าก็รวมตัวกันได้เหนียวแน่นนะ ได้มีโอกาสคุยกับคุณพงษ์ที่ปลูกน้อยหน่า รู้สึกว่าเร็วๆนี้กำลังจะไปออกงานแสดง
สินค้าที่เซ็นทรัล ปรึกษาหารือเรื่องเทคนิคการนำเสนอสินค้า เพื่อให้ลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมาสนใจ แวะเยียมชม
เรื่องแบบนี้เป็นประโยชน์กับพวกเราอีกหลายๆ คน น่าจะมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน........ว่ามั้ย ? |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 23/07/2010 6:44 pm ชื่อกระทู้: |
|
หลายคนนะที่เรียนแล้ว "หายซับ หายสอย" ไปเลย
ลุงคิมก็เลยกลายเป็นคน "สอนทิ้ง สอนขว้าง" ไปด้วย
ส่งข่าวคราวหน่อยนะ อยากรู้ข่าวน่ะ
ลุงคิมครับผม |
|
|
eawbo |
ตอบ: 12/07/2010 12:23 am ชื่อกระทู้: |
|
eawbo=เอี๋ยวบ่อ ได้รับข่าวสารทางเน็ตเหมือนทุกท่านครับผม
ที่ตอบช้าเพราะ......ตั้งแต่อบรมเสร็จพึ่งกลับถึงบ้าน.....เมื่อสามทุ่มวันที่ 11
ดีใจที่ได้พบและรู้จักทุกคน |
|
|
Aorrayong |
ตอบ: 11/07/2010 7:41 pm ชื่อกระทู้: |
|
ott_club บันทึก: | หลงทางก็แค่เสียเวลา แต่ถ้าหลงนักศึกษาเสียค่าเทอมนะครับ.....จะบอกให้ |
ลุงคิม.........มีสมาชิกชมรมคนหลงทางเพิ่มอีกคน
จะ...รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร.... ค่ะ |
|
|
somchai |
ตอบ: 10/07/2010 7:19 pm ชื่อกระทู้: |
|
ปีหน้าผมต้องไปชิมรสชาด ทุเรียนกระจิบ กับ มังคุด ถึงสวน คุณอ้อ แน่นอนครับ
ปีนี้ ลุง ก็บอกให้ผมไป แต่กลัวหลงทาง ตอนนี้คิดว่าไม่หลงแล้วครับ |
|
|
Aorrayong |
ตอบ: 07/07/2010 7:15 pm ชื่อกระทู้: |
|
k9anake2007 นึกเสียตั้งนานว่าใคร คู่นี้ทำหน้าที่ "dom"...ของลุง
เป็นกำลังใจให้นะ ดูจากแววตาและความมุ่งมั่นของคุณจุ๋ม งานนี้สำเร็จแน่นอน
ประทับใจสิ่งที่คุณจุ๋มออกไปพูด เธอพูดได้ดีมาก
"วิศวกรหนุ่มผู้ผันชีวิตมาเป็นชาวนา" แผ่นดินไทยคงไม่สิ้นทายาทเกษตรแล้วหละ |
|
|
k9anake2007 |
ตอบ: 07/07/2010 8:25 am ชื่อกระทู้: |
|
http://www.uppicweb.com/x/i/ig/k9anake2007.jpg
?-8 = ชื่อ "ต่อ" ครับ ทำหน้าที่เป็น มือ เ้ท้า และ หลาย ๆ หน้าที่ตามแต่การร้องขอ จาก คุณจุ๋มครับ ทำงานเป็นพนักงานบริษัท สวมหัวโขน เป็นวิศวกร ( ด้านพัฒนาแและประยุกค์งาน ด้านอิเล็กทรอนิคส์ )
เข้ามาอ่านแบบเงียบๆ เพราะไม่รู้อะไรเลย พอไปร่วมอบรม ที่ไร่ฯ ยิ่งมึนตึ้บเข้าไปอีก แต่ก็ได้กำลังใจจากลุงคิม และ เห็นสมากชิก ท่านอื่น ๆ ที่ทำได้แล้ว ทำให้เห้นชัดเจนเลยว่า การทำเกษตร
ไม่ใช่เรื่องยาก และสำเร็จได้ ถ้าหมั่นศึกษา หมั่นทดลอง และ ลงมือทำอย่างจริงจัง
ก่อนกลับ ลุงคิม บอกมาคำหนึ่ง "จุ๋ม.. กลับไปทำนาข้าวแบบประณีต เพื่อทำพันธุ์ข้าวจำหน่าย จะเหมาะ" แสดงว่า ลุงคิม ต้องเห็นอะไรบางอย่าง และมีความเป็นไปได้ ซึ่งมาคิดแล้วก็จริงครับ แถว ๆ อ.ประโคนชัย ขายข้าวเปลือกได้ กก. ละ 10 ~ 13 บาท เท่านั้น
*ผืนนาที่บ้านตอนนี้ แม่(ยาย)ให้ญาติ ๆ เช่าทำอยู่เข้าไปทำอะไรตอนนี้ ลำบากครับ ดังนั้นแผนการณ์ ที่คิดไว้ คือ จะเข้าไปศึกษา วิธีทำนา ที่ไร่กล้อมแกล้ม เอาตั้งแต่ 0-10-100 เพื่อจะได้ยึดเป็นต้นแบบนำไปใช้ครับ
ขอบคุณลุงคิม และ เพื่อน ๆ สมาชิก
k9anake2007 ( ต่อ ) |
|
|
Pitipol |
ตอบ: 06/07/2010 10:16 pm ชื่อกระทู้: |
|
แต่ละคนที่เคยผ่านการอบรมมาแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดูลุงมีความสุขจัง...... |
|
|
Aorrayong |
ตอบ: 06/07/2010 2:12 pm ชื่อกระทู้: |
|
เป็นอีกรุ่นที่ทำให้ประทับใจมาก เสียดายที่เวลามีน้อย ไม่มีโอกาสได้ฟังที่มาที่ไปและความรู้สึกส่วนตัวได้ครบทุกคน
แปลกนะ...แต่ละคนมีแนวคิดที่ต่างกัน แต่พอมาเจอกัน เหมือนเป็นหนึ่งเดียวกันได้
"กลับไปบ้านแล้ว ถ้าพวกคุณทำได้ ผมจะไปกราบ" อันนี้ลุงพูด เพื่อให้ทุกคนมีความพยายาม
"กลับไปบ้านแล้ว ถ้าพวกคุณทำได้ เราจะภูมิใจมาก" อันนี้พูดเอง
มีความสุข.... ที่เห็นลุงมีความสุขจากการที่ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
มีความสุข.... ที่พี่ๆ น้องๆ เห็นคุณค่าของสิ่งที่ลุงมอบให้
มีความสุข.... ที่ได้เห็นว่า ยังมีคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถ พยายามหันเหชีวิตเข้าสู่วิถีเกษตรกรรม
จะมีความสุขที่สุด..... ถ้าเกษตรกรไทยทุกคน รู้ตัวว่า นี่ไม่ใช่หรือ คือทางรอด
คิดถึงทุกคน...
ปล. ถามจริงๆ ลุงไม่เหนื่อยเหรอ ไปกี่รอบก็เห็นยืนทั้งวัน พูดไม่เคยหยุด แถมยังต้องใส่อารมณ์อีกด้วย
ลุงทำเพื่อใคร? |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 12:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
ส่วนท้ายนี้ผมอยากให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ ได้แสดงความคิดเห็น ต่อท้ายเลยดีไหมครับ ท่านใดว่างๆช่วยต่อเติมเรื่อยๆก้ได้ครับ
ขอบคุณครับ
สมชาย กลิ่นมะพร้าว |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 9:56 am ชื่อกระทู้: |
|
|
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 9:41 am ชื่อกระทู้: |
|
ช๊อดเด็ด ของผมอยู่ที่นี่ครับ การทำแคลเซี่ยม โบรอน ซุปเปอร์.โดยผู้จัดการไร่กล้อมแกล้ม (คนงาน) เองเลยครับ
ขนาดคนงานยังทำได้เลยครับ แสดงว่าง่ายมากๆ
วิธีทำ
เตรียมน้ำสะอาด 20 ลิตร ปรับน้ำให้เป็นกรดอ่อนๆ เพื่อให้เหมาะสมต่อการละลายของเคมีบางชนิด....ค่ากรดด่าง
ลุงบอกว่าถ้าน้ำเป็นกรดจัดมากๆ แคลเซียม โบรอน.ที่ได้ เก็บนานจะเกิดตะกอน แต่ถ้าน้ำเป็นกรดอ่อนๆ อันนี้เก็บ
นานไม่ตกตะกอน
ใส่โบรอนพืช (เกรด 10 โมเลกุลน้ำ) ลงไป โดยใส่ลงไปทีละน้อยแบบช้าๆ ค่อยๆ กวนหรือคนไปเรื่อยๆจนกระทั่ง
โบรอนพืชละลายหมด ทิ้งไว้สักครู่จะเห็นว่าส่วนผสมเข้ากันดี ใสแวววาว ไม่มีตะกอน
ขั้นตอนต่อไปใส่ แคลเซี่ยม ไนเตรท(15-0-0 จี. เกรด), ธาตุรอง/ธาตุเสริม (เกรด เอบีซี.), อะมิโน. ลงไป
การใส่ให้ใส่ทีละน้อยๆ เช่นเดียวกับโบรอนพืช แล้วกวนหรือคนไปเรื่อยๆ เพื่อละลายแบบช้าๆ เมื่อส่วนผสมเข้ากัน
ดีแล้ว สังเกตความใสของส่วนผสม ถ้าใสแววาวกับสังเกตุ สี. กลิ่น. กาก. ฝ้า. ฟอง. ตะกอน. ถ้าไม่มีก็เป็นอันว่าใช้ได้
หากต้องการสีสวยๆ ก็เติมสีลงไป เลือกสีตามอัทธยาศรัย เป็นสี อย. ฟู้ดเกรด มีขายตามท้องตลาดทั่วไป
สีไม่ใช่สารอาหารพืช แต่ทำให้แคลเซียม โบรอน.ตัวนี้ดูขลังเท่านั้น |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 8:59 am ชื่อกระทู้: |
|
2 เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่แห่ง กองคาราวานสีสันชีวิตไทย ครับ พี่ชาตรีกับลุงอู๊ด |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 8:58 am ชื่อกระทู้: |
|
ใกล้เวลาจะแยกย้ายกลับบ้านแล้วครับ |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 8:57 am ชื่อกระทู้: |
|
ครั้งหนึ่งที่ไรกล้อมแกล้ม |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 8:56 am ชื่อกระทู้: |
|
การเรียนการสอน จบลงแล้ว รับของแจกกันครับ พวงกุญแจไร่กล้อมแกล้ม สวยๆ |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 8:52 am ชื่อกระทู้: |
|
(ต้นแบบ....ทดสอบระบบการทำงาน) หม้อปุ๋ยประจำต้น แบบ 1 ต้น/1 หม้อ ขวดแก้วทำมาจากขวดโซดา
ตราสิงห์ยกขาหลัง (ขนาด 2 นิ้ว) ความจุเท่ากับน้ำโซดาที่ขาย ตัดก้นขวดแต่เหลือส่วนปากขวดไว้ ประหยัด
ตัดครั้งเดียว.... วันนี้ได้พัฒนาเอาขวดเครื่องดื่มสปอนเซอร์ขนาด 1.5 นิ้ว มาทำบ้าง ทดสอบแล้วระบบ
การทำงานปกติทุกรายการ ขั้นต่อไปจะใช้ขวดแก้วขนาด 1 นิ้วบ้าง เพราะดูแล้วเล็กกระทัดรัดสวยดี
ผมได้ยินมาว่า ต้นไม้จะออกดอกติดผลได้ ก็ต่อเมื่อได้รับการสะสมสารอาหารกลุ่มนั้นมาเต็มที่จึงจะออกดอก เช่นกัน
ถ้าหากจำนวนสวนนั้น ต้นไม้ทุกๆต้นมีความสมบูรณ์ของต้นแตกต่างกัน การให้ปุ๋ยทางใบสูตรเดียวกัน อาจจะทำให้
การออกดอกติดผลแตกต่างกันไปด้วย
ที่นี่ จึงทดลองให้ปุ๋ยแต่ละต้น แต่ละสูตร โดยแยกกันอย่างชัดเจน จากเดิมๆใช้หม้อปุ๋ยหน้าโซน หม้อเดียวกัน
เมื่อเปิดสปริงเกอร์ ทุกๆต้นก็จะได้รับ ธาตุอาหารตัวเดียวกัน
ทำอย่างไรจึงจะแยกให้แต่ละต้นได้ ?
ในภาพที่เห็น จะเห็นว่า หม้อปุ๋ยที่ทำขึ้นแบบง่ายๆ เพื่อให้แต่ละต้นได้รับสารอาหารที่ตรงกับระยะของต้นนั้นๆๆ |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 8:41 am ชื่อกระทู้: |
|
หม้อปุ๋ยหน้าโซน แบบ 1 หม้อ/1 โซน (40 ต้น...เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 3 ม.) ขวดแก้วทำมาจากขวด
น้ำปลา (ตัดหัวตัดท้าย) ขนาดขวด 2.5 นิ้ว ความจุ 1.5 ล.
หม้อนี้ทำมาจากฝาปิดท่อขนาด 5 นิ้ว ปัญหาคือ มองไม่เห็น น้ำ+ปุ๋ย ในหม้อ กับความจุ 5 ล. ถือว่ามากเกิน
ความจำเป็น เตรียมถอดเก็บเข้าพิพิธภัณท์
ภาพบน คือ หม้อปุ๋ย ตัวเดิม ๆ ความคิดไม่ได้หยุดนิ่งแค่นี้ครับ หม้อปุ๋ยตัวใหม่เลยออกมา เช่น ภาพล่าง |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 8:39 am ชื่อกระทู้: |
|
สังเกตุ : ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเป็นของเขาทั้งสิ้น นั่นคือ การนำชิ้นส่วนที่รื้อมาจากของเดิม นำมา REUSE จน
สามารถใช้งานได้เหมือนของใหม่ ที่ไร่กล้อมแกล้ม ชิ้นส่วนอุปกรณ์ทุกชนิด ทุกชิ้น ไม่มีการทิ้ง เรียกว่า
"ซาเล้งร้องไห้" เลยเชียวแหละ
เคยมีเว้บหนึ่ง พาสมาชิกไปเที่ยวไร่กล้อมแกล้มโดยไม่แจ้งล่วงหน้า จึงไม่พบลุงคิม ทั้งนี้เพราะลุงคิมไม่ได้
อยู่ที่นั่นทุกวัน กลุ่มคนที่ไป ถ่ายรูประบบสปริงเกอร์กลับมาแล้วโพสต์ลงเน็ตที่เว้บของพวกเขา ลุงคิมจึง
รู้ว่าเขาไปที่ไร่กล้อมแกล้ม
นี่ไม่ใช่ประเด็น.....ประเด็นอยู่ที่เว้บมาสเตอร์เขียนบรรยายว่า "สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ" ต่างหาก จึงอยาก
จะบอกว่า การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ตัวใหม่เป็นการสิ้นเปลืองด้วยหรือ มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ลุงคิมคิดขึ้นมาเอง
ถึงขนาดจดทะเบียนลิขสิทธิ์ได้ เพราะไม่ใช่ลอกเลียนแบบใครมา ลุงคิมไม่ได้ร่ำเรียนทางวิศวะใดๆทั้งสิ้น
ทุกขั้นตอนเกิดจากมันสมองตัวเองแท้ๆ นี่คือศักดิ์ศรี นี่คือความภาคภูมิใจ เพื่อสิ่งนี้ลุงคิมยินดีทุ่มทุนไม่อั้น
ระดับเว้บมาสเตอร์อินเตอร์เน็ต คิดเป็นแค่นี้.....เจริญเถอะประเทศไทย
ผมเข้าไปดูระบบน้ำอีกรอบ สภาพของอุปกรณ์ เมื่อเทียบกับระยะเริ่มของไร่นี้ จะเห็นความแตกต่างชัดเจนมาก
โดยสิ่งที่แตกต่างคือ ความเก่าของ อุปกรณ์เช่น มอเตอร์ ท่อพีวีซี แล้ว ก็หม้อปุ๋ยจากมอเตอร์ ดูเก่าไปมาก
ส่วนจำพวก หัวสปริงเกอร์ น่าจะได้รับการปรับปรุงตามสภาพ |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 7:59 am ชื่อกระทู้: |
|
ระเบิดเถิดเทิง ชื่อ ของมัน เกิดจาก การคัดสรรวัตถุดิบที่มีสารอาหารพืชที่พืชต้องการ เพื่อนำมาหมักถ้าเปรียบ
เทียบ ก็คือน้ำหมักชีวภาพ แต่น้ำหมักชีวภาพที่ใครๆส่งเสริมกัน เขาทำอย่างไร หลายๆคน คงพอทราบกัน
แต่ของที่นี่ไม่ใช่แบบนั้น ดูส่วนผสมของวัตถุดิบที่นำมาทำนะครับ
แล้วแบบนี้ น้ำหมักที่ได้จะมีคุณภาพเช่นไร
ส่วน 30-10-10 คือ การเติมปุ๋ยเคมีเข้าไปด้วยตามแต่ละระยะที่พืชต้องการ เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพ
ของน้ำหมัก หากเป็นการปลูกกินในครัวเรือน อาจไม่ต้องเติมเข้าไป แต่เมื่อใดที่ ปลูกขาย เราอยากได้ผล
ผลิตดีๆเราก็ต้องให้พืชที่เราปลูกมีคุณภาพตามที่ตลาดต้องการ ไหมละ
นี่ละครับ แนว อินทรีย์ เคมี ตามความเหมาะสม |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 7:52 am ชื่อกระทู้: |
|
ร.บ คือ อะไรครับ สมาชิกใหม่ๆอาจจะยังไม่เข้าใจ
"ร.บ." ย่อมาจากคำว่า "ระเบิดเถิดเทิง" ส่วน "30-10-10" นั่นคือ "ธาตุหลัก
(N. P. K.) ซึ่งต้องตรงตามชนิดและระยะพัฒนาการของพืช.... ที่เห็นในแกลลอน
คือ เตรียมส่งเอเย่นต์ตามออร์เดอร์ครับ.....ลุงคิม ตอบ |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 7:50 am ชื่อกระทู้: |
|
อเมริการู้จักน้ำหมักชีวภาพมานานกว่า 50 ปี ปัจจุบันเขาพัฒนาไปถึงระดับ "นาโน" แล้ว....ที่น่าสงสัยก็คือ
คนไทยที่เรียนมาจากอเมริกา เขาไปเรียนอะไรมากัน เท่าที่เห็น พ่อ-แม่-ญาติพี่น้อง ของอดีตนักเรียนจาก
อเมริกาก็ยังเผาฟางอยู่เหมือนเดิม
นำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง....ขั้นตอนนี้ยังไม่เรียกว่า "ปุ๋ย" เพราะเปอรเซ็นต์ปุ๋ยน้อยมาก (ประมาณ 1-2-3
เปอร์เซ็นต์เท่านั้น) ครั้นเมื่อได้ใส่เติมเพิ่มปุ๋ยเคมีลงไปแล้วนั่นแหละ จึงจะเรียกว่า "ปุ๋ยน้ำชีวภาพ" ได้อย่าง
เต็มปากเต็มคำ และอย่างสมศักดิ์ศรี
บรรจุแกลลอน 20 ล. เตรียมส่งเอเย่นต์....ที่เขียนว่า "ร.บ. 30-10-10" หมายถึง "ปุ๋ยน้ำชีวภาพ
ระเบิดเถิดเทิง + ปุ๋ยเคมีสูตร 30-10-10 + ฯลฯ" สำหรับบำรุงต้น/เรียกใบอ่อน
ช่วงเวลา ลุงคิม พูดออกอากาศทางสถานีวิทยุ AM คลื่น ปตอ.594 นั้น ผมชะแว้ปๆๆๆ เข้ามาที่ โรงผลิตปุ๋ยอีกครั้ง |
|
|
somchai |
ตอบ: 06/07/2010 7:44 am ชื่อกระทู้: |
|
'' เฟอะฟะนี่ไม่มีใครเกินตาคิม " แสดงว่าคนพูดคนแรก น่าจะอายุ รุ่นราวคราวเดียวกันกับลุง
ทุกๆเช้าวันอาทิตย์ 8.30 น. ลุงจะต้องโทรเข้าไปจัดรายการที่สถานีวิทยุ สงสัยวันนี้มีอะไรดี ถึงกับ
ลืมไปเลย
......เช่นเคยครับรายการเรา........ |
|
|