 ตอบ: 24/09/2009 9:59 pm ชื่อกระทู้: |
|
| ขอบคุณค่ะลุงคิม หนูจะรีบปฏิบัติการด่วนเลยค่ะ | |
| ตอบ: 24/09/2009 4:34 pm ชื่อกระทู้: |
|
| 1.... มีลิตรเดียว เอาไปวางไว้หัวแปลงด้านเหนือลมตอนกลางคืน
คงได้ผลนะ.....สูตรที่ให้ไปน่ะเป็น "สูตรรวมมิตร" ป้องกัน/กำจัด หนอน-แมลง-โรค แบบเหมาจ่ายทั้ง 3 อย่างเลย......ถ้าจะกำจัด หนอน น่าจะเลือกสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ต่อหนอนโดยตรงหรือ โดยเฉพาะ จะได้ผลกว่า 2... ข้าวโพดแอ้. เริ่มให้ฮอร์โมนไข่ครั้งแรกเมื่อก่อนถึงช่วงแทงดอก ยอด 7-10 วัน จากนั้นให้ต่อไปเรื่อยๆ อาทิตย์ละครั้ง หลังจากมีดอก ยอด แล้วก็ถอดยอดแล้ว ดอกไหมหรือฝักจะเริ่มออก คราวนี้แหละ ให้ฮอร์โมนไข่ 1 ครั้ง จะออก 1 ฝัก ทุกครั้ง ระวัง...... ในฮอร์โมนไข่.มีอะมิโนโปรตีน. จาก ไข่-นม-ยิสต์. จะทำให้ต้นสมบูรณ์ เมื่อต้นสมบูรณ์ก็จะออกฝักต่อไปได้เรื่อยๆ ทำให้จำนวนฝักต่อต้นเพิ่มขึ้น ในฮอร์โมนไข่. มีไซโตคินนิน. ไคตินไคโตซาน. จากไข่ขาว. น้ำมะพร้าว. จะทำให้ผล (ฝัก) ใหญ่เกินไซด์ตลาด จะขายไม่ออก ในฮอร์โมนไข.มี เอสโตรเจน. จากน้ำมะพร้าวแก่. สาหร่ายทะเล. 0-52-34. จะทำให้ออกฝักไม่หยุด ไม่เลิก ไม่เกรงใจข้างบ้าน ในฮอร์โมนไข่. มีสาร TOXIG ที่เกิดจาก B.S. ช่วยจำจัดโรคและแมลงได้ แต่.....ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ "ดิน" ต้อง O.K. ...... ยิบซั่ม. กระดูกป่น. ขี้ไก่แกลบ. อย่าขาด ใช้ควบกับ "ระเบิดเถิดเทิง (ดิบ) สูตรสะสมตาดอก" น้ำไม่ขังค้าง ไม่แฉะหนียว หน้าดินไม่ถูกแดดเผา ไม่ยาฆ่าหญ้า ลุงคิมครับผม |
|
| ตอบ: 24/09/2009 11:27 am ชื่อกระทู้: |
|
| 1. ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะคะ เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ
จะรีบนำไปใช้อย่างด่วนเลยค่ะ ตอนนี้มีหนอนเต็มเลย น่ากลัวมากค่ะ พอดีวันก่อนที่ไปเรียนกับลุงคิมที่ไร่กล้อมแกล้มได้น้ำสกัดสมุนไพร มาขวดนึง เด๋วจะรีบเอาขวดนั้นไปฉีดก่อนเลยคะ แล้วจะรีบทำสารสกัด หัวกลอยเพิ่มเองด้วยคะ ขอบคุณมากกกกกกกกคร้าาาาาาาาา 2. แล้วตกลงว่า ฮอร์โมนไข่ ฉีดข้าวโพดช่วงไหนคะ ลินดา เกษตรกรหัดคลาน |
|
| ตอบ: 24/09/2009 7:21 am ชื่อกระทู้: |
|
| JAM........
1.....สมุนไพรกำจัดหนอนที่มีสารออกฤทธิ์รุนแรงเทียบเท่า สารเคมีประเภทยาน็อค หัวกลอย. เมล็ดมันแกว. เมล็ด น้อยหน่า. เปลือกต้นซาก. 2.....สมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ทำให้ไข่แมลงฝ่อ ฝักคูน. แมงลักคา. 3.....ในน้ำหมักชีวภาพ (ระเบิดเถิดเทิง. ฮอร์โมนไข่.) อายุ หมักนานข้ามปี มีสาร TOXIC ซึ่งเกิดจากจุลินทรีย์กลุ่ม B.S. สารนี้เป็นพิษต่อแมลง/หนอนโดยตรง 4.....แสงล่อ ใช้หลอดไฟแบล็คไลท์ ติดตั้งเหนือน้ำ (กะละมัง. บ่อ) ล่อแมลงให้เข้าไปเล่นแสงไฟแล้วตกลงน้ำตาย 5....แสงไล่ ใช้หลอดไฟสีส้มติดตั้งในแปลง แสงนี้จะไล่แมลง ไม่ให้เข้าหา 6....บำรุงต้นให้สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อให้เกิดภูมิต้านทานสู้กับศัตรู พืชได้ 7... ฯ ล ฯ หมายเหตุ : ทุกวิธีการจะได้ผลสูงสุดต่อเมื่อ 1.... เลือกสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับชนิดของศัตรูพืช 2.... ใช้สมุนไพรช่วงหลังค่ำจะได้ผลกว่าช่วงกลางวันมีแสงแดด เพราะแมลงเข้าสวนช่วงหลังมืด และหนอนออกหากินช่วงไม่มี แสงแดดมากกว่าช่วงมีแสงแดด 3.... ฉีดพ่นบ่อยๆ เช้ารอบ-ค่ำรอบ สามารถทำได้ด้วยสปริงเกอร์ เท่านั้น 4.... ทำสารสกัดสมุนไพรด้วยวิธีพิเศษเพื่อให้ได้สารฤทธิ์แรงขึ้น 5.... ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรอย่างประณีตที่สุดเท่าที่จะทำได้ 6..... ฯ ล ฯ 7.... หลักการนี้ใช้ได้กับทุกพืช ลุงคิมครับผม |
|
| ตอบ: 23/09/2009 11:07 pm ชื่อกระทู้: |
|||
kimzagass
ที่ลุงคิมกล่าวมานั้นเป็นคุณสมบัติของสารสกัดสมุนไพร ''สะเดา'' แต่ว่าจะขอเพิ่มเติมให้อีกนิดนะเพราะว่าใช้อยู่คือ 1 เป็นสารไล่ตัวอ่อนและตัวเต็มวัย ทำให้แมลงไม่วางไข่เมื่อใช้เป็นประจำแมลงศัตรูพืชจะไม่เข้ามาในแปลงปลูก 2 เป็นสารยับยั้งการกิน การเจาะ การดูด จึงลดการเสียหายของพืช 3 เป็นสารยับยั้งการเจริญเติบโตของไข่ หนอน ดักแด้ ทำให้ตัวเต็มวัยลดปริมาณลง 4 ทำให้ตัวอ่อนของแมลงหรือหนอนลอกคราบไม่ได้ จะตายในที่สุด 5 เป็นสารยับยั้งการสร้างสารไคติน ซึ่งเป็นโครงสร้างของแมลง 6 ทำให้การผลิตไข่และการฟักตัวน้อยลงหรือเป็นหมัน 7 ไม่ทำให้แมลงดื้อยา 8 ไม่ทำลายแมลงและสัตว์ที่มีประโยชน์เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียน แมลงผสมเกษรและสัตว์เลี้ยง ทำให้เกิดความสมดุลของแมลง ที่สวนก่อนหน้าที่จะใช้สารสะเดาก็มีปัญหาเรื่องของแมลงในสวนทุเรียนอยู่มากและที่สำคัญคือแมลงที่มีประโยชน์ไม่เคยได้เห็นตัวมันเลย แต่เมื่อเริ่มลดการใช้สารเคมีลงและเพิ่มการใช้สมุนไพรควบคู่กับการใช้เชื้อรากำจัดแมลงแล้วเริ่มค่อยๆ เห็นผลไปในทางที่ดีขึ้นคือ แมลงศัตรูพืชเริ่มลดการระบาดและการทำลายลง และมีเพื่อนๆแมลงทีดีๆมาช่วยเราทำงานมากขึ้น แต่ว่าจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การใช้สมุนไพรนั้นอาจจะไม่ทันใจเหมือนกับสารเคมีแม้ว่าจะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการฆ่าก็ตาม โดยส่วนใหญ่แล้วสมุนไพรกลุ่มที่มีฤทธิ์ในการขับไล่และควบคุมจะมีมากกว่ากลุ่มที่มีฤทธิ์ในการฆ่าและหาง่ายกว่า ดำ ระยอง |
|||
| ตอบ: 23/09/2009 9:50 pm ชื่อกระทู้: |
|
| แงแง พี่อ๊อดใจร้าย แซวแรงนะคะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ การที่ทำให้ข้าวโพดขมและเหม็น หมายถึงให้ฉีดสารสกัดสมุนไพรหรือเปล่าคะ | |
| ตอบ: 23/09/2009 8:53 pm ชื่อกระทู้: |
|
| แสดงว่าน้องลินดาเคยหลอกแต่ผู้ชาย ไม่เคยหลอกแม่ผีเสื้อละซิ (อ่ะล้อเล่นนน) ข้าวโพดแอ้มันมีรสชาติหวานก็ทำให้มันขมซิ ทำได้ไหม ข้าวโพดมันหอม ก็ทำให้มันเหม็นซิ ทำได้เปล่า ที่มันมีอยู่แสดงว่ามันกินกันอย่างอร่อย ทำให้มันกินไม่อร่อยซิ รับรองเผ่นกันหมด
อ็อด ระยองครับ |
|
| ตอบ: 22/09/2009 7:33 pm ชื่อกระทู้: |
|
| เย่.....ใครรู้ช่วยตอบที ข้าวโพดแอ้.ก็คือ ข้าวโพดฝักอ่อน.นั่นแหละ.....
ส่วน "หนอน" เกิดจากไข่แม่ผีเสื้อ หนอนพวกนี้ชอบรสชาติข้าวโพด แม่ผีเสื้อมันรู้ว่า นี่คือแหล่งอาหารของทายาทมัน มันจึงวางไข่ตามต้น ข้าวโพดไง ถ้าแม่ผีเสื้อไม่เข้าวางไข่...ถ้าไม่มีไข่แม่ผีเสือ..ย่อมไม่มีหนอน....จริงไหม ? ถ้าใช้มาตรการ ไม่ให้แม่ผีเสื้อเข้าวางไข่...ทำให้ไข่ฝ่อฟักออกเป็นตัว ไม่ได้ หรือทำให้หนอนไม่ลอกคราบ ไม่เข้าดักแด้......แบบนี้หนอน จะสิ้นชาติไหม ใครก็ได้ ช่วยตอบที |
|
| ตอบ: 22/09/2009 6:29 pm ชื่อกระทู้: ข้าวโพดแอ้ ฉีดฮอร์โมนไข่ช่วงไหนคะ |
|
| 1.ข้าวโพดแอ้ ฉีดฮอร์โมนไข่ช่วงไหนคะ
2.ตอนนี้มีปัญหาเรื่องมีหนอนคล้ายๆบุ้ง สีดำๆ มีขน จะแก้ไขยังไงดีคะ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ น้องลินดา |
|