-
MySite.com :: ทบทวนกระทู้ - ฮม.ไข่ + ฮม.น้ำดำ + ฮม.สมส่วน = ?
ผู้ส่ง ข้อความ
Pitipol
ตอบตอบ: 17/02/2010 12:47 am    ชื่อกระทู้:

มีลมในกระเพาะ............กินน้ำอัดลม
ลดความอ้วน...............หลีกเลี่ยงของมัน หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม
ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ.....กินโปรตีนมากจำพวกเนื้อสัตว์
มีปัญหาการขับถ่าย........กินผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์ หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์
ลดน้ำตาล..................หลีกเลี่ยงของหวาน
เป็นโรคตับ.................กินของหวานบำรุง
เด็กอยากตัวโต............กินนมวัว
คนแก่ไม่เคยกินนมวัว.....ห้ามกินนมวัว
mangotree
ตอบตอบ: 16/02/2010 10:50 am    ชื่อกระทู้:

ก่อนจะใช้จินตนาการสร้างอะไรขึ้นมาซักอย่าง....ได้รู้ถึงหน้าที่ต่างๆ ของสารอาหารแต่ละตัวและ
การนำมาใช้แต่ละระยะ ถี่ถ้วนพอหรือยังครับ ก็อย่างเช่น ที่ลุงคิมบอกเรื่อง ฮม.ไข่.... ถ้าสูตร
ธรรมดาไม่มีปุ๋ยเคมีผสมร่วม ก็นำมาประยุกต์ใช้ได้อีกหลายวิธี แต่ก็ต้องใส่ใจ เรื่อง สารอาหารที่มี
อยู่ใน ฮม.ไข่หรือปุ๋ยอื่นๆ นั้นว่า มันเป็นกลุ่มไหนใช้อย่างไร พืชในระยะนั้นๆ ต้องการในระดับ
ไหน มากน้อยอย่างไร สังเกตุ มันเกี่ยวข้องกับการสร้างคุณภาพผลผลิต ด้วยเหมือนกัน ต้นไม้
ให้อะไรมันกิน มันก็ให้ผลตอบกลับมาแบบนั้นล่ะครับไม่เชื่อลองให้มันกินแต่น้ำกับ ไนโตรเจนสิ
เอิ๊กกก

ฯลฯ
kritsadalampang
ตอบตอบ: 15/02/2010 9:00 pm    ชื่อกระทู้: ฮม.ไข่ + ฮม.น้ำดำ + ฮม.สมส่วน = ?

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่านและลุงคิม


จินตนาการเรื่องการรวมโฮโมนหมักรวมกันนี้ มันเกิดจากผมดูผลประโยชน์ของแต่ละสูตรซึ่งมัน
ต่างกัน แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเราลองเอาทั้ง 3 อย่างมาปรุงรวมกัน มันจะดีไหม ผ ลที่ได้มัน
ก็ทำให้ใช้ง่ายดี พ่นครั้งหนึ่ง พืชมันก็ได้สารอาหารต่างๆ ทีเดียวครบถ้วน ตามประโยชน์ของโฮ
โมนแต่ละประเภท

ผมคิดเปรียบเทียบว่าการที่เราปรุงอาหารกินประจำวัน เช่น ปรุงต้มยำกินสักชามหนึ่ง มันก็มี
ทั้ง รสเผ็ด เปรี้ยว หวานนิด เค็มหน่อยๆ ส่วนวัตถุดิบต่างๆ ที่ใส่ลงในการปรุงต้มยำชามนี้ ก็แล้ว
แต่ความชอบของแต่ละคน เช่น คนชอบกินกุ้งก็ใส่กุ้ง ชอบหมึกก็ใส่หมึก แต่ถ้าชอบหลายอย่างก็
ใส่ลงไปหลายๆ อย่างตามใจปาก แต่ทั้งหมดมันก็ไปรวมที่กระเพาะอาหาร แล้วกระเพาะอาหารก็
ทำหน้าที่มันไปจนได้สารอาหารต่างๆ ที่ได้จากต้มยำ แล้วร่างกายเราก็นำสารอาหารนี้ไปหล่อ
เลี้ยงสังขารเรา ซึ่งในการที่เราได้สารอาหารจากต้มยำชามนี้ มันก็มีหลายๆ อย่าง เราก็ไม่จำ
เป็นต้องแยก กินเป็นอย่างๆ ไป เช่น อยากได้โปรตีนก็กินหมู อยากได้ไอโอดีนก็กินกุ้งทะเล
หรือ เกลือไอโอดีน อยากได้วิตามิน ซี.ก็กินมะนาว พริก แต่ในต้มยำชามนี้มันรวมวัตถุดิบหลาก
หลายไว้แล้วสามารถปรุงพร้อมกันทีเดียวได้เลย แล้วสารอาหารต่างๆ มันก็จะถูกกลไกของร่าง
กายนำไปใช้งานเองตามที่ระบบร่างกายมันต้องการ

แต่นี่เป็นแค่จินตนาการของคนที่ไม่มีพื้นฐานการเกษตรนะครับ ผมไม่รู้ว่าระหว่างจินตนาการกับ
ความเป็นจริงมันจะเป็นดังเช่นเดียวกันหรือไม่ เพราะผมไม่เคยหมักโฮโมนทั้ง 3 แบบมาก่อนเลย
แต่กำลังคิดจะหมัก ก็อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าไหนๆ ก็จะหมักครั้งแรก เลยอยากลองหมักทั้ง 3 รวม
กันในถังเดียวกัน มันจะเป็นเช่นไรหนอ

ผมจึงปรึกษาจากเพื่อนๆ ทุกท่านและคุณลุงคิมว่า ตามหลักการเกษตรมันจะมีผลเช่นไร ถ้านำ
เจ้าโฮโมนทั้ง 3 สูตร หมักรวมกันถังเดียวเลย


ขอบคุณครับผม
kimzagass
ตอบตอบ: 15/02/2010 8:40 pm    ชื่อกระทู้: Re: หากผมจะหมักโฮโมนโดยใช้ส่วนผสมฮอร์โมนไข่สูตรไต้หวัน+ฮอร์โ

kritsadalampang บันทึก:


คือผมจะนำวัตถุดิบต่างๆจากการทำ "ฮอร์โมนไข่ไต้หวัน+ฮอร์โมนน้ำดำ+ฮอร์โมนสมส่วน" มา
ร่วมทำเป็นโฮโมนตัวเดียวในภาชนะเดียวกันเลย หวังผลให้ได้ข้อดีทั้ง หมดของโฮโมน 3 อย่างมา
รวมในตัวเดียวกันเลยครับ


ตอบ :
รวมกันได้ แต่ผลอันเกิดจาก "ประสิทธิภาพเฉพาะ" ที่มีต่อพืชจะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องใช้
หลัก "ไม่ลอง - ไม่รู้" นั่นแหละ....

ลุงคิมพูดเสมอๆ ต่อการคิดแบบโดยรวม เช่น คิดนอกกรอบ..... แผลงแต่สร้างสรรค์..... คิด
แบบนักวิทยาศาสตร์ ทำไม ? ได้ไหม ? เพราะอะไร ? ...... หรือแม้แต่การคิดแบบเฉพาะ
เช่น เอาปุ๋ย 1 ตัว ละลายน้ำฉีดพ่นให้แก่ต้นไม้ ได้หรือไม่ ตอบว่าได้ ..... เอาปุ๋ย 2 ตัวรวมกัน
ละลายน้ำ ฉีดพ่นให้แก่ต้นไม้ ได้หรือไม่ ตอบว่าได้ ..... เอาปุ๋ย 10 ตัวรวมกัน ละลายน้ำ ฉีด
พ่นให้แก่ไม้ ได้หรือไม่ ตอบว่าได้ ...... แนวคิดแบบนี้ คือ "จินตนาการ" แต่หากจะนำแนวคิด
นี้มาสู่การปฏิบัติก็จำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือเป็นพื้นฐานซึ่งก็คือ "ความรู้" เช่น ปุ๋ยแต่ละตัว
รวมกันแล้วเกิดปฏิกิริยาเคมีอย่างไร ? มีการเปลี่ยนรูปทางเคมีหรือไม่ ? อัตราส่วนหรือปริมาณ
ระหว่างปุ๋ยแต่ละตัวควรเป็นเท่าไร ? และปัจจัยอื่นๆ เป็นต้น

กรณี "ฮอร์โมนไข่ + ฮอร์โมนน้ำดำ + ฮอร์โมนสมส่วน" สามารถรวมกันได้ แต่เมื่อรวมกัน
แล้วจะเกิดประสิทธิภาพในทางใดต่อพัฒนาการของพืช..... หลักการรวม

1.... ตัดตัวซ้ำซ้อนกัน เช่น ในฮอร์โมนไข่มีแคลเซียม โบรอน. ในฮอร์โมนน้ำดำก็มี แคล
เซียม โบรอน อันนี้ถือว่ารวมกันได้...... ในฮอร์โมนไข่มี เอ็นเอเอ. ในฮอร์โมนน้ำดำก็มี เอ็นเอ
เอ. อันนี้ถือว่ารวมกันได้..... กับอีกหลายๆ ตัวที่เป็นตัวเดียวกันก็ถือว่ารวมกันได้

2.... ตัดออกหรือเก็บไว้ เช่น ในฮอร์โมนไข่มี 0-52-34 แต่ในฮอร์โมนน้ำดำมี 46-0-0 ถ้า
ปุ๋ยคู่นี้รวมกันแล้วจะกลายเป็นสูตรอะไร หรือจะเลือกสูตรไหนไว้ สูตรไหนตัดออก เพราะแต่ละ
ตัวต่างก็มี "ประสิทธิภาพเฉพาะ" ต่อพัฒนาการของพืชไม่เหมือนกัน

3.... ซี/เอ็น เรโช. ในฮอร์โมนไข่ ทำให้พืชออกดอก หยุดการแตกใบอ่อน แต่ ซี/เอ็น เรโช. ใน
ฮอร์โมนน้ำดำ ทำให้พืชแตกใบอ่อน.... ถ้าเอา 2 ตัวนี้มารวมกันแล้วให้แก่พืช พัฒนาการของพืช
จะไปทางใด

4.... ฮอร์โมนไข่ ใช้ร่วมกับปุ๋ยทางรากสูตร 8-24-24 แต่ฮอร์โมนน้ำดำ ใช้ร่วมกับปุ๋ยทางราก
สูตร 30-10-10 ..... ถ้าเอา 2 สูตรนี้รวมกันให้ทางใบ แล้วจะให้ปุ๋ยทางรากสูตรใด


นี่เป็นเพียง "เสี้ยว" หนึ่งของหลักการ "รวมกันได้" หรือ "รวมกันไม่ได้" ทั้งนี้ขอให้อยู่ภายใต้
ความต้องการของพืชตามระยะพัฒนาการให้ได้เท่านั้น


อย่าท้อ....ความล้มเหลว คือ ความสำเร็จ
ลุงคิมครับผม
mixfeed
ตอบตอบ: 15/02/2010 8:07 pm    ชื่อกระทู้:

แนวคิดนี้นอกจากเกิดจากจินตนาการแล้ว อีกส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากการที่ไม่อยากฉีดพ่นยาหลาย
ครั้ง กะจะใช้แบบ One For All ม้วนเดียวจบ ผมว่าน่าจะทำแยกกันเวลาจะใช้ค่อยนำมาผสมรวม
กันตามระยะที่พืชต้องการ แต่ก็ไม่แน่น่ะครับ พี่เขาอาจจะค้นพบสูตรใหม่ที่เจ๋งๆเลยก็ได้ ลอง
ทดสอบตามที่คุณอ๊อดแนะนำดูก็ดีน่ะครับ เพราะในหนังสือสูตรฟันธงก็นำหลายๆสูตรผสมรวมกัน
แล้วฉีดพ่นเหมือนกัน
Aorrayong
ตอบตอบ: 15/02/2010 4:54 pm    ชื่อกระทู้:


คล้ายๆ กับจินตนาการของลุงคิมว่ามั้ย ที่อยากพัฒนา
สูตรฮอร์โมนต่างๆ จนกระทั่งถึงสูตร BIO DREAM


ที่มา คัดลอกจากhttp://www.cstc.ac.th/?q=node/161

จินตนาการสำคัญกว่าความรู้

อาทิตย์, 2008-03-23 17:41 — smith

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ แนะนำเคล็ดลับ ในการเรียนเก่ง

ตัดตอนมาจากหนังสือ "เดอะท็อปซีเคร็ต"


อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ พยายามจะอธิบายความลับสุดยอดนี้ เขาย้ำว่า การค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ทุกอย่าง
ของเขา มาจากจินตนาการ และถ้าจะเทียบระหว่างความรู้ กับ จินตนาการ เขาบอกว่า จินตนาการ
สำคัญกว่า จินตนาการเป็นเชาว์ปัญญาขั้นสูงสุด และมันจะนำไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ๆได้อย่างไม่สิ้น
สุด ขณะที่มีชีวิตอยู่ เขาย้ำนักย้ำหนาหลายต่อหลายครั้งกับนักศึกษาที่เขาสอน และต่อที่ประชุมนัก
วิทยาศาสตร์อยู่บ่อยๆว่า “จินตนาการ สำคัญมากกว่าความรู้” แต่เขาก็ไม่อธิบายต่อว่า เพราะอะไร
จินตนาการจึงสำคัญกว่าความรู้


ภาพในจินตนาการที่จะมีพลังดึงดูดให้ประสบความสำเร็จจะต้องใส่ความรู้สึก เข้าไปด้วย เช่น นัก
เรียนสองคน สามารถจินตนาการภาพ F=ma ได้ แต่คนหนึ่งใส่ความรู้สึกเข้าไปว่า ....อ้อ F มัน
เป็นแรงนะ เราเคยรู้สึกตอนถูกผลัก m เป็นมวล รู้สึกได้เลยเพื่อนที่ตัวใหญ่มวลจะมาก ส่วนความ
เร่ง a เคยรู้สึกตอนเล่นรถไฟเหาะ ฯลฯ ซึ่งความรู้สึกที่ใส่เข้าไป จะต่างกันไปตามประสบการณ์
และความสามารถในการบิ๊วด์ความรู้สึกของแต่ละคน เทคนิคนี้สามารถนำไปใช้ได้ในทุกสาขาวิชา
ไม่ว่า จะเป็นฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ฯลฯ (ในหนังสือเดอะท็อปซีเคร็ต ใช้คำว่า "ภาพแห่งความรู้สึก”)


นักเรียนที่เรียนเก่ง ก็ค้นพบความลับนี้ เขาจะกลับมานั่งคิดและจินตนาการต่อที่บ้านเสมอ นักเรียน
ทุกคนในห้อง เรียนกับอาจารย์คนเดียวกัน บรรยากาศเดียวกัน แต่ความสามารถในการจินตนาการ
ต่างกัน สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในหมู่เด็กที่เรียนเก่งคือ จะมีจินตนาการสูงมาก ความลับนี้เขาไม่ได้
บอกใคร อาจเพราะไม่อยากบอก หรือ ไม่รู้ว่าจะบอกอย่างไร เด็กที่เรียนเก่งทุกคนจะมีพรสวรรค์
ทางด้านนี้ คือเมื่อเห็นภาพปุ๊บ เขาจะใส่ความรู้สึกเข้าไปปั๊บ เกิดขึ้นเกือบจะพร้อมๆกัน โดยที่ตัว
เขาเองก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไม แต่สิ่งเหล่านี้สามารถฝึกได้


ประสบการณ์ที่เหมือนกันเปี๊ยบระหว่างคนสองคน จึงส่งอิทธิพลต่อวิถีชีวิตได้ไม่เท่ากัน เพราะความ
สามารถในการจินตนาการต่างกัน แน่นอนว่า อุปนิสัย ความชอบ ความสนใจ ความถนัด ฯลฯ เป็น
ส่วนสำคัญที่จะทำให้มีพลังแห่งจินตนาการสูงขึ้นหลังจากได้พบกับ ประสบการณ์จริง พวกเขาจะ
เห็นภาพแห่งความสำเร็จในเรื่องที่ตนเองชอบหรือถนัด ชัดเจนกว่าคนอื่น จึงมีโอกาสบรรลุเป้า
หมายได้ง่ายกว่า


ประสบการณ์จากชีวิตจริง จะประทับลงในจิตใต้สำนึกได้ ต้องมีจินตนาการ เราอาจจะเคยตี
แบดมินตัน แต่ผ่านแล้วก็ผ่านเลยไป ไม่เคยจินตนาการต่ออีก ประสบการณ์ในครั้งนั้นก็สูญเปล่า
การตีในครั้งต่อไปเราจะไม่เก่งขึ้น เพราะจิตใต้สำนึกจะเข้าใจภาพแห่งจินตนาการเท่านั้น มันไม่มี
ส่วนเชื่อมต่อโดยตรงกับทวารทางกายทั้งห้า เหมือนอย่างจิตสำนึก


อัจฉริยะของโลกทุกคน ทุกสาขา ค้นพบความลับสุดยอดนี้แล้ว นักศึกษาแพทย์ที่เก่งๆ จะ
จินตนาการลักษณะของเส้นเลือดร่างกายแต่ละระบบ พยายามบิวด์ความรู้สึกเขาไป แล้วค่อยไป
เรียนรู้ลักษณะย่อยของเส้นเลือดแต่ละเส้นในระบบนั้น นิสิตวิศวกรรมที่เก่งๆ สามารถพิสูจน์สมการ
ทางแคลคูลัสได้ โดยคิดย้อนจากคำตอบขึ้นมา ทำให้ไม่ว่าอาจารย์จะกำหนดสมการแบบไหนมา
เขาก็ตอบถูกเสมอ เพราะเอาคำถามของอาจารย์นั่นแหละ เป็นตัวตั้งคิดย้อนขึ้นไปพิสูจน์ ทั้งหลาย
เหล่านี้ไม่ใช่เพราะพวกเขามีมันสมองที่ใหญ่กว่าคนอี่น แต่เพราะพวกเขาพบความลับนี้ อาจจะด้วย
พรสวรรค์ หรือ การเรียนรู้ แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ไม่มีใครที่สามารถเปิดเผยความลับนี้ให้คนอื่น
ได้รับรู้


ถ้าเราไปถามศิลปินนักวาดภาพที่เก่งๆ ว่าทำไมถึงวาดภาพได้ขนาดนี้ เขาจะตอบไม่ได้ ทั้งๆที่ ภาพ
นั้นฝังอยู่ในใจตั้งแต่แรกแล้ว มือเขาเพียงแต่วาดไปตามความรู้สึกเท่านั้นเอง ศิลปินระดับนี้ จึงต้อง
บิวด์อารมณ์ก่อนทำงานเสมอ เพราะอารมณ์จะทำให้ภาพในใจชัดเจนยิ่งขึ้น วันไหนไม่มีอารมณ์ จะ
ทำงานไม่ได้เลย


สมองคนเราถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างไม่แตกต่างกัน สิ่งที่ต่างกันคือความสามารถในการ
จินตนาการ ไอน์สไตน์ จึงบอกว่า จินตนาการสำคัญมากกว่าความรู้ จงพยายามจินตนาการไป
แล้วอย่าลืมใส่ความรู้สึกเข้าไปด้วย ในที่สุดมันจะมีพลังมหัศจรรย์จากจิตใต้สำนึก มาขับดันให้คุณ
เกิดการหยั่งรู้โดยอัตโนมัติ
ott_club
ตอบตอบ: 15/02/2010 2:19 pm    ชื่อกระทู้:

โอก็พูดเกินไปเดี๋ยวพี่เขาหมดกำลังใจกันพอดี จากที่อ่านๆ กระทู้ของพี่ทั้งหมดมาเนี่ยรู้สึกว่าพี่
จินตนาการดีมากๆ คิดค้นคว้าหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่ตลอด ผมว่าน่าลองนะ ลองดูซิ ได้ผล
อย่างไรอย่าลืมเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ
ott_club
Pitipol
ตอบตอบ: 15/02/2010 1:30 pm    ชื่อกระทู้:

เอาข้าวหอมมะลิร้อนๆ ไอร้อนขึ้นกรุ่นๆ ราดนมสดพาสเจอไรซ์เย็นๆ ผสมคลุกเคล้าด้วยผัดผักบุ้ง
ไฟแดงที่มีรสเผ็ดหน่อยๆ แถมเอาเม็ดวิตามินซีโรยหน้าซัก 10-20 เม็ด คงจะอร่อยน่าดูนะครับ

ที่ใดมีคุณอนันต์ ที่นั้นมีโทษมหันต์ จักเลือกให้ถูกกาลเทศะก็เป็นพอ
kritsadalampang
ตอบตอบ: 15/02/2010 12:46 pm    ชื่อกระทู้: หากผมจะหมักโฮโมนโดยใช้ส่วนผสมฮอร์โมนไข่สูตรไต้หวัน+ฮอร์โมนน้

คือผมจะนำวัตถุดิบต่างๆจากการทำ "ฮอร์โมนไข่ไต้หวัน+ฮอร์โมนน้ำดำ+ฮอร์โมนสมส่วน" มา
ร่วมทำเป็นโฮโมนตัวเดียวในภาชนะเดียวกันเลย หวังผลให้ได้ข้อดีทั้ง หมดของโฮโมน 3 อย่างมา
รวมในตัวเดียวกันเลยครับ
kritsadalampang
ตอบตอบ: 15/02/2010 12:40 pm    ชื่อกระทู้: ฮม.ไข่ + ฮม.น้ำดำ + ฮม.สมส่วน = ?

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกท่านและลุงคิม

คือผมมาทบทวนอ่านความรู้เรื่องทำโฮโมน จากหน้าหลักที่ลุงคิมเมตตาลงไว้เรื่องการทำโฮโมน
ต่างๆ ผมเกิดความคิดว่าหากผมจะลองนำส่วนผสมของแต่ละชนิดตามหัวข้อ นำมาหมักรวมกันใน
ภาชนะเดียวกันรวดเดียวเลย มันจะมีผลดีหรือผลเสียเช่นไรครับ มันจะเป็นสิ่งที่ใช้ได้ผลอนันต์
ไหม หรือมันจะขัดกันตามส่วนผสมต่างๆ ทำให้คุณภาพไม่ดี

ขอบคุณครับผม




หวังจะใช้บำรุงดอก ให้ทั้ง ออกนานๆ และขนาดใหญ่ น้ำหนักดี ระยะเก็บดอกนานขึ้น ตามข้อดีของ
โฮโมน แต่ละชนิดตามหัวข้อ และหากส่วนผสมต่างๆจากโฮโมนทั้ง 3 ชนิดมาหมักรวมกันจริง ผม
ควรดำเนินขั้นตอนในการหมักอย่างไรดีที่สุด ให้ผลออกมาเสร็จสมบูรณ์ ไม่รู้ว่าวิธีที่ผมจินตนา
การครั้งนี้มันโง่ไปไหม มันก็เพราะผมไม่มีความรู้ด้านเกษตรมาก่อนครับแต่แบบว่าชอบลองค้น
คว้า พิสูจน์ มันทำให้ชีวิตเกษตรหัดใหม่แบบผมไม่ย่ำเท้าอยู่กับที่ จะได้พัฒนาให้ผลผลิตของผมมี
คุณภาพดีที่สุด ต่อสู้กับคู่แข่งด้านตลาดไม้ดอกได้สูสีกับคนที่เขาทำมาก่อนนานๆแล้ว

ขอบคุณครับผม