-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ไม้บอนไซ......
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ไม้บอนไซ......

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 19/01/2011 11:08 pm    ชื่อกระทู้: ไม้บอนไซ...... ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ไม้บอนไซ......




































































































http://www.google.co.th/imglanding?q=%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%8B%20%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E&imgurl=http://www.byedee.com/image.php%3Fd%3D3%26file%3D09-03-05-rgbhyn.jpg&imgrefurl=http://www.byedee.com/default.php%3Fds%3Dpreview%26id%3D3ANXZWYFROK7nM04%26mid%3DYVgJaPyLWbMsF4Dq&usg=__Aq1TdZ7mZJa_npT1bUUucKSg6Dg=&h=400&w=300&sz=32&hl=th&zoom=1&um=1&itbs=1&tbnid=y72i7sML4J9LxM:&tbnh=124&tbnw=93&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%258B%2B%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259E%26um%3D1%26hl%3Dth%26sa%3DX%26tbs%3Disch:1&ei=2oE3TaiKGIiuvgO8mLC3Aw&um=1&sa=X&tbs=isch:1&start=6#tbnid=-D-tRQrAq4f1PM&start=678


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 20/01/2011 9:28 am, แก้ไขทั้งหมด 3 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 19/01/2011 11:10 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ปัจจัยที่ทำให้ไม้แคระ


ท่านผู้สนใจคงทราบดีแล้วว่า ต้นไม้ตามธรรมชาติจะเจริญเติบโตได้ดีเพียงใดขึ้นอยู่กับ
ราก ซึ่งเปรียบเสมือนท่อลำเลียง ทำหน้าที่หาอาหารส่งไปเลี้ยงลำต้น กิ่งและใบ
ตลอดจน ดอกและผล ส่วนใต้ดินจำเป็นต้องได้รับการดูแลเช่นเดียวกับการดูแลชื่นชม
ส่วนบนดิน คือลำต้น รูปทรง กิ่งก้าน สาขา ความสัมพันธ์ของทั้งสองส่วนที่กล่าวเกี่ยว
ข้องกันโดยตรง คือถ้า รากเจริญแข็งแรงดีก็จะสามารถหาอาหารได้มาก รากก็ต้องงอก
ยาวออกไปหาอาหารได้ เพียงพอแก่ความต้องการของต้นไม้ แต่บอนไซเป็นศิลปะที่
มนุษย์สร้างสรรค์ปั้นแต่งให้แคระแกรนฝืนธรรมชาติ จึงต้องใช้วิธีบังคับ การบังคับ
ต้นไม้ให้เจริญเติบโตอยู่ในสภาพที่ต้องการ จึงต้องพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

1 . กระถาง ดิน ราก
กระถางที่ใช้ใส่บอนไซ ที่นิยมกันและถือเป็นรูปแบบคือเป็นกระถางตื้นแบนคล้ายถาด
ตรงกับคำญี่ปุ่นว่า บอน ซึ่งแปลว่าถาด ส่วนรูปแบบนั้นอาจจะเป็นสี่เหลี่ยม กลม รูปไข่
ขนาดเล็กใหญ่ตามความเหมาะสมของไม้บอนไซ เมื่อกระถางเล็กพื้นที่จำกัด ดินที่
บรรจุในกระถางมีปริมาณน้อย ความจุของกระถางจึง สัมพันธ์กับปริมาณของดินและราก
ของต้นไม้ที่ปลูก ก่อนปลูกจึงต้องประมาณให้ได้สมส่วนกัน คือ ให้ได้ปริมาณพอเพียง
ที่รากจะหาอาหารได้พอที่จะอยู่ได้ ไม่มากเกินจนไม้เติบโตงอกงามเกินไป หรือน้อย
เกินไปจนต้นไม้ขาดอาหาร ไม้จึงถูกบังคับให้ต้นแคระแกรนได้อย่างคงที่ ดังนั้นเมื่อ
ปลูกไว้นานๆ จนรากกินดินไปเกือบหมด ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนกระถางเปลี่ยนดิน ตัดเล็ม
รากให้น้อยลง

2. การตัดแต่ง
การตัดแต่งบอนไซเป็นการบังคับมิให้ต้นไม้โตเกินไป และป้องกันมิให้เกิดการผิดสัด
ส่วน เสียหรือเปลี่ยนรูปทรง การดูแลตัด เล็ม กิ่งใบจึง ต้องกระทำอยู่เสมอ

3. การรดน้ำ
การให้น้ำบอนไซจะต้องรดน้ำบอนไซทุกวัน และควบคุมปริมาณน้ำที่ใช้รดแต่ละ
กระถางให้พอเหมาะ เพราะการวางกระถางบอนไซต้องอยู่ในที่โล่ง เพื่อรับแสงแดด
อย่างพอเพียง มีลม อากาศถ่ายเทอย่างดี ดังนั้นเมื่อไม้ตากแดดตากลม ตลอดวัน ดิน
ในกระถางก็จะแห้งเร็ว การให้น้ำมากเกินไปก็จะทำให้บอนไซโตเร็วหรือดินอาจแฉะ
เกินไปทำให้รากเน่าได้ แต่ถ้าขาดน้ำบอนไซก็จะเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด

4. แสงแดด
บอนไซที่ปลูกจนอยู่ตัวแล้ว ควรตั้งไว้ในที่ๆแสงแดดส่องได้ตลอดวัน แสงแดดช่วย
เจริญเติบโตของต้นไม้ก็จริง แต่ในเวลาเดียวกันก็ช่วยบังคับมิให้สูงเร็วเกินไป และทั้ง
จะเป็นการช่วยให้ลำต้นแข็งแกร่งใบเขียวจัดและขนาดใบจะเล็กลง ควรทำชั้นสำหรับ
วางโดยให้ความสูงของแต่ละชั้นลดหลั่นกันไป หรือมีแท่นรองสูงพอประมาณ จะเป็น
การสะดวกต่อการดูแลตรวจตราต้นไม้แต่ละต้นได้ทั่วถึง และยังทำให้ไม้ดูเด่นสวยงาม
อีกด้วย ต้นไม้ที่อยู่ในที่ร่มมาก ย่อมสูงชะลูด ทำให้รูปลักษณะบอนไซเสียไป

5. ลม
ควรตั้งบอนไซไว้ในที่ๆ มีลมโกรกอยู่เสมอ จะสังเกตได้ว่าต้นไม้ที่ขึ้นอยู่บนเขา และริม
ฝั่งทะเล ยืนต้านลมแรง ต้นไม้เหล่านี้มักไม่ใคร่สูงและมีรูปทรงผิดธรรมชาติ ฉะนั้นลม
จึงช่วยควบคุมให้บอนไซไม่ให้โตเกินไป แต่การที่มีลมโกรกอยู่ตลอดเวลาก็จะทำให้
ดินแห้งเร็ว จึงต้องคอยสังเกตและแก้ปัญหาด้วยการพรมน้ำให้เมื่อเห็นว่าหน้าดินเริ่มแห้ง



http://www.bonsaibaan.com/index.php?mo=3&art=212228


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 21/01/2011 4:06 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 20/01/2011 7:52 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข่อยบอนไซ.....


ดินปลูก
ข่อยสามารถขึ้นอยู่ในพื้นที่ๆเดียวกันกับมะสัง ทั้งยังสามารถขึ้นในดินเหนียวหรือดิน
สวนได้ด้วย เมื่อนำมาปลูกเลี้ยงในกระถางแล้วจะไม่ชอบแฉะ ส่วนผสมของดินที่ใช้
ปลูกข่อยคือ ดินร่วนระบายน้ำได้ดี 6 ส่วน ทราย 3 ส่วน ใบไม้ผุหรือปุ๋ยคอกหนึ่ง
ส่วน หรือจะเพิ่มทรายให้มากกว่านี้อีกเล็กน้อยก็ได้





การปลูกลงกระถาง
ปัญหาใหญ่ที่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ประสบอยู่ก็คือ ในระยะการเข้ากระถาง เมื่อข่อยถูกขุดตัด
รากแก้วหรือรากใหญ่แล้วมักจะไม่รอด เป็นสาเหตุหนึ่งที่นักเพาะเลี้ยงบอนไซไม่นิยม
ปลูกเท่าที่ควร ในการปลูกบอนไซแล้วทำต้นไม้ตายไปเช่นนี้ ทำให้เกิดการท้อแท้ เบื่อ
หน่าย อาจถึงกับการเลิกเลี้ยงบอนไซไปในที่สุด

การปลูกข่อยลงกระถางบอนไซซึ่งมีความลึกไม่มากนัก ไม่ว่าจะเป็นข่อยจากตุ้มดินหรือ
ข่อยที่เลี้ยงอยู่ในกระถางดินเผามาก่อน ก็มักจะประสบกับปัญหาเดียวกัน คือจะต้องตัด
รากแก้วให้สั้น จึงจะปลูกลงในกระถางบอนไซได้

ตามธรรมชาติของต้นข่อยนั้นเป็นพันธุ์ไม้ที่มียางสีขาวมากคล้ายต้นไม้ตระกูลไทร เมื่อ
ตัดรากยางจะไหลออกมามาก จนอาจทำให้ผิวที่ต้นเหี่ยว อีกประการหนึ่งใบข่อยระเหย
น้ำออกจากต้นได้เร็วมาก ฉนั้นควรระวังการเสียยางที่ต้นและการสูญเสียน้ำเลี้ยงจากลำ
ต้น อาจจะทำให้ข่อยไม่แตกใบให้เห็นอีกเลยก็เป็นได้

วิธีการเริ่มแรกขณะที่ใบข่อยแก่จัด ก็จัดการเด็ดใบออกให้หมด (ข่อยที่แตกใบใหม่ไม่
ควรปลูกลงในกระถางหรือเปลี่ยนดิน) หลังจากนั้นก็รื้อดินออกอย่างระมัดระวัง แล้วตัด
รากใหญ่ออกให้เหลือแต่รากฝอยไว้พอประมาณ ไม่ควรตัดรากจนไม่มีรากฝอยเหลืออยู่
เลย ซึ่งก็เท่ากับเป็นการชำ ต้นไม้มักจะไม่รอด เมื่อตัดรากออกต้องรีบนำปูนแดง (ปูน
กินหมาก) ทาแผลโดยเร็วหรือถ้าไม่มีปูนแดง จะใช้ดินเหนียวอุดรอยแผลแก้ขัดก็พอ
ใช้ได้ แต่อาจจะทำให้เชื้อราในดินเข้าสู่ลำต้นได้ง่ายในระยะพักฟื้นต้นไม้ หลังจากนั้น
ก็นำตะแกรงรองก้นกระถาง นำกรวดใส่ก้นกระถางเพื่อให้ระบายน้ำได้ดี ใส่ดินผสมลง
ไป แล้ววางต้นข่อยที่ตัดรากลง กลบด้วยดินปลูก รดน้ำให้ชุ่ม แล้วพักต้นไม้ไว้ในที่ร่ม
รำไร ในระหว่างพักฟื้นต้องคอยดูแลเรื่องการให้น้ำ อย่าให้ดินแฉะมากจะทำให้รากเน่า
ได้ และจะต้องระบายน้ำได้ดี ต้นข่อยในระยะพักฟื้นต้องการความชื้นในอากาศสูง








การเปลี่ยนดิน
สำหรับต้นข่อยแล้วไม่ค่อยจะมีปัญหามากนัก ควรทำการเปลี่ยนดินให้ข่อยในต้นฤดูฝน
หรือปลายฤดูแล้ง ประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม เมื่อทำการนำดินออก
จากกระถางแล้ว เขี่ยดินออกให้เหลือดินติดต้นไว้พอควร ตัดรากแขนงบางเส้นที่แก่
ออก เพื่อให้มีการแตกรากใหม่ ไม่ควรตัดรากแก้วหรือรากใหญ่อีก ถ้าหากรากที่โคนต้น
ในดินสวยควรเขี่ยดินออก การทำรากลอยเหนือดินซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อรากข่อยแต่
อย่างใด นำกรวดขนาดเล็กรองก้นกระถาง ใส่ดินผสมลงไปพอสมควร วางต้นข่อยที่ตัด
แต่งรากแล้วลงในกระถาง เติมดินปลูกให้เต็มกระถาง รดน้ำให้ชุ่ม แล้วนำไปพักไว้ในที่
มีความชื้นสูง รอจนต้นข่อยออกใบใหม่ แล้วนำออกเลี้ยงตามปกติ






การให้ปุ๋ย เหมือนกับการให้ปุ๋ยต้นมะสัง
การดูแลทั่วไป
สถานที่ตั้งต้นข่อยควรตั้งกลางแสงแดดประมาณครึ่งวันก็เป็นการเพียงพอ โดยรดน้ำวัน
ละสองครั้งตามปกติ ถ้าหากเลี้ยงในที่ๆมีแสงแดดเต็มวันควรรดน้ำบ่อยครั้งกว่า แต่
อย่างไรก็ตามเมื่อข่อยรับแสงแดดมาก ใบข่อยจะเป็นสีเขียวอ่อนอมเหลือง ถ้าเลี้ยง
ข่อยไว้ในที่ๆแสงแดดไม่เพียงพอหรือในที่รำไร ข่อยจะมีกิ่งยาวเก้งก้าง ใบโตสีเขียวเข้ม

การป้องกันโรคและแมลง
ควรฉีดยาป้องกันเพลี้ยแป้ง และเพลี้ยเกล็ด ประมาณหนึ่งถึงสองครั้งต่อเดือน



อ่านต่อ การปลูกบอนไซในประเทศไทย ไทร

คัดจากวารสาร บอนไซ 03 ของชมรมบอนไซ(ไม้แคระ) แห่งประเทศไทย ปี 2521

ขออนุญาตเผยแพร่ ด้วยจิตคารวะ



http://www.bonsaibaan.com/index.php?mo=3&art=357270


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 21/01/2011 4:08 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 20/01/2011 10:08 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แบบของไม้บอนไซ....


กลุ่มที่ 1 เป็นไม้ลำต้นเดี่ยว มีทั้งที่เป็นลำต้นตั้งตรงที่เรียกว่าไม้ทรงต้น หรือเอียงไป
ข้างๆ ที่เรียกว่าไม้เอนชาย รวมทั้งไม้ที่โน้มยอดลงต่ำกว่าปากกระถาง ที่เรียกกันว่า
ไม้ตกกระถาง แบ่งออกได้เป็น 15 แบบ

Chokkan (ชอคคัง) หรือ Formal Upright Style ลักษณะลำต้นตรง ตั้งฉากกับพื้น

Tachiki (ทาชิกิ) หรือ Informal Upright Style ลักษณะลำต้นตรง แต่เอียงไป
ด้านข้างเล็กน้อย

Shakan (ชาคัง) หรือ Slanting Style ลำต้นเอียง ทำมุมประมาณ 45 องศากับ
พื้น ยอดตั้งตรง

Hom-Kengai (ฮอม-เคงไก) หรือ Semi-cascade Style เป็นแบบที่ลำต้น
โน้มเอียงลงมาเกือบชิดขอบกระถาง

Kengai (เคงไก) หรือ Cascade Style ลำต้นจะเอนห้อยลงไปต่ำกว่า
ขอบกระถาง ยอดโน้มลงสู่พื้น

Bunjingi (บุนจิงงิ) หรือ Literati Style ลำต้นเอนออกจากแนว วกโค้งลงสู่พื้น
ปลายยอดวกขึ้นข้างบน

Hokidachi (โฮคิดาชิ) หรือ Broom Style ลำต้นตั้งตรง กิ่งก้านจะแตกออกไป
โดยรอบ ดูคล้ายไม้กวาด

Sabamiki (ซาบามิกิ) หรือ Split-trunk Style เกิดจากลำต้นเดียว แต่แตก
โคนออกมาเป็นหลายลำ

Sharimiki (ชาริมิกิ) หรือ Drift-wood Style ลำต้นมีลักษณะคล้ายตอไม้ตาย
มีปุ่มและตาไม้สวยงาม

Fukinagashi (ฟูกินางาชิ) หรือ Wind-swept Style ลำต้นและกิ่งก้านเอนไป
ทางเดียวกันหมดเหมือนต้องลม

Neugari (นิวงาริ) หรือ Exposed-root Style มีล่วนรากที่ติดกับโคนต้นอยู่พ้น
ดินขึ้นมา

Sekijeoju (เซกิจิวจู) หรือ Root over rock Style ลำต้นอยู่บนก้อนหิน ราก
เลื้อยผ่านก้อนหินลงสู่ดิน

Ishitsuki (อิชิตซูกิ) หรือ Cling to the rock Style ลำต้นอยู่บนก้อนหิน ราก
ยึดติดแน่นอยู่กับหิน

Neijikan (เนอิจิคัง) หรือ Twisted trunk Style มีลักษณะลำต้นบิดพันติดกัน
เป็นเกลียว

Takozukuri (ทาโกะซูกูริ) หรือ Octopus Style ทรงลำต้นมีลักษณะเป็นพุ่มใหญ่





กลุ่มที่ 2 เป็นไม้ตอที่มีไม้หลายๆ ต้นบนตอเดียวกัน และใช้รากร่วมกัน จำนวนต้นใน
แต่ละกออาจมีได้ตั้งแต่ 2, 3, 5, 7 และ 9 นอกจาก 2 แล้วจะไม่นิยมจำนวนต้นที่
เป็นเลขคู่ อันเป็นความเชื่อถือด้านโชคลางของชาวญี่ปุ่น ไม้กลุ่มนี้แบ่งออกเป็น 5
แบบ คือ

Sokan (โซคัง) หรือ Twin Trunk Style มีลำต้นคู่ ตั้งตรง ขนาดอาจเท่าหรือไม่
เท่ากันก็ได้ แต่จะต้องมีสัดส่วนที่สัมพันธ์กัน

KAabudachi (คาบุดาชิ) หรือ Clump Style เป็นไม้ตอเดียวที่แตกเป็นหลายลำ
ต้น มีขนาดลดหลั่นกัน

Karabuki (คาราบูกิ) หรือ Stump Style ลำต้นเป็นตอนูนคล้ายหลังเต่า มีกิ่ง
แตกออกจากโคนหลายๆ กิ่ง

Ikadabuki (อิคาดาบูกิ) หรือ Raft Style เป็นลักษณะลำต้นที่นอนราบไปกับ
พื้น มีกิ่งก้านแตกชึ้นข้างบนเหมือนเป็นลำต้น

Netsunagari (เนทซึนางาริ) หรือ Sinuous Style เป็นไม้กอที่แยกออกมาจาก
กอเดิม มีลำต้นหลายรูปแบบ มองดูเหมือนป่า





กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มของไม้แคระที่ปลูกรวมกันอยู่หลายๆ ต้น แต่ละต้นอาจมีลักษณะ
เหมิอนหรือต่างกันก็ได้ แต่จะต้องมีความประสานกลมกลืนกัน ทำให้มองดูเหมือนป่า
ในธรรมชาติ แบ่งเป็น 8 แบบ คือ

Soju (โซจู) เป็นกลุ่มไม้จำนวน 2 ต้น

Saambon-Yose (ซัมบอง-โยเซะ) กลุ่มของไม้จำนวน 3 ต้น

Gohon-Yose (โกฮอง-โยเซะ) กลุ่มไม้จำนวน 5 ต้น

Nanohon-yose (นาโนฮอง-โยเซะ) กลุ่มของไม้จำนวน 7 ต้น

Kyuhon-Yose (คิวฮอง-โยเซะ) กลุ่มไม้จำนวน 9 ต้น

Yose-Ue (โยเซะ-ยูเอะ) กลุ่มไม้ที่มีจำนวนมากกว่า 9 ต้น

Yamayori (ยามาโยริ) กลุ่มไม้ที่ปลูกในลักษณะธรรมชาติ

Tsukanmi-Yose (ซูกันมิ-โยเซะ) เป็นกลุ่มไม้ที่ปลูกแบบรวมกอ (clustered group)





กลุ่มที่ 4 เป็นไม้ที่ไม่ใช่ไม้แคระโดยแท้จริง แต่เป็นการนำเอาไม้ที่มีขนาดเล็กๆ มา
ปลูกรวมกันเป็นกลุ่มในกระถางเดียว ส่วนมากจะใช้กระถางที่มีหน้ากว้างมากๆ
ลักษณะเหมือนถาด และมีสิ่งตกแต่งอื่น เช่น ก้อนหิน เก๋งจีน บ้านเล็กๆ หรือตุ๊กตาที่
ทำด้วยกระเบื้องหรือดินเผา หรืออื่นๆ เข้าไปด้วย แบ่งเป็น

Bonkei (บอนเคอิ) ภาษาไทยเรียกว่า "สวนถาด" เป็นการนำเอาไม้เล็กหรือบอน
ไซขนาดเล็กหลายๆ ต้น มาปลูกรวมกันในกระถางแบนที่มีลักษณะเหมือนถาด โดย
มีก้อนหินและสิ่งประดับอื่นๆ เป็นส่วนประกอบ โดยตกแต่งให้กลมกลืนคล้ายสภาพ
จริงในธรรมชาติ

Kusamono (คูซาโมโน) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ชิตาคุซ่า (SHITAKUSA)
เป็นการปลูกพรรณไม้รวมกันเป็นกลุ่ม โดยใช้พืชประเภทที่เป็นไม้พุ่ม (shrub) และ
พวกที่เป็นไม้เนื้ออ่อน (herb) ปลูกรวมกันในกระถางแบบถาด พวกนี้ไม่ใช่บอนไซ
ที่แท้จริง แต่จะให้ความสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง





http://www.kroobannok.com/blog/18242
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©