-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม ปลูกข้าวหอมที่เชียงราย................. Sombutt
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม ปลูกข้าวหอมที่เชียงราย................. Sombutt

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11557

ตอบตอบ: 08/10/2011 3:12 pm    ชื่อกระทู้: ถาม ปลูกข้าวหอมที่เชียงราย................. Sombutt ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จาก : Sombutt
ถึง : kimzagass

ตอบ : 07/10/2011 8:53 pm
ชื่อกระทู้ : จะปลูกข้าวหอมที่เชียงรายครับ

--------------------------------------------------------------------------------------




เรียน ลุงคิมทราบ

ขอรายงายผลการปลูกข้าวหอมที่เชียงรายให้ลุงทราบ ดังนี้




1.
จะเห็นความเจริญเติบโตข้าว กข.15 อายุ 70 วันครับ ใบเขียวไม่มีเหลือง นาข้าง
เคียงถาม ข้าวเขียวดีแต๊ ใจ๊ยูเรียไปกี่กระสอบ (ข้าวเขียวดีจริง ๆ ใช้ยูเรียไปกี่
กระสอบ) ก็บอกว่า ใช้ ยูเรีย 46-0-0 + 16-16-16 ซาวกิโล (20 กิโล) เค้ายิ้ม
แล้วบอกว่า จุ๊ก๊า เค้าว่าผมโกหก... เออ ไม่เชื่อก็ช่างเอ็งปะไร






2.
เป็นข้าวขึ้นปน (แม่ยายบอก เป็นข้าวดอ) ข้าวพวกนี้คงแก่ก่อน ผมจะเกี่ยวทิ้ง แม่
ยายบอกปล่อยให้แก่ ฮาจะเกี่ยวเอาไปเลี้ยงไก่ (แต่ผมเดาตามประสา งูเห็นนมไก่
ว่าถ้ามีแยะเป็นหลายถัง ไก่คงไม่ได้กินเพราะแกอาจจะเอามานวดแล้วก็เอาไปโม่
เป็นข้าวกล้อง ก็หุงกินได้หลายมื้อเหมือนกัน) สำหรับข้าวปนนี้ แม่แกเอาไม้ไผ่มาผ่า
เป็นซีกเล็กๆ ยาวเมตรกว่า ๆ ปักตามกอข้าวที่ปนน่ะครับ ถึงเวลาแกคงเกี่ยวของแกเอง






3.
เทียบต้นข้าวกับนิ้วมือ - ต้นโตขนาดาลูกลื่น เป็นผลมาจากข้าวที่ใช้ 30-10-10 +
แคลเซี่ยม-โบร่อน + ไปโออิ + (ยูเรีย46-0-0 +16-16-16 อย่างละ 10 กก./
ไร่) …..ใช้อยู่เท่าที่ลุงบอกแค่นี้จริง ๆ ครับ ...พูดแล้วจะว่าคุย นี่ขนาดว่าเตรียมดิน
ไม่ดีเท่าที่ควรนะครับ






4.
เป็นข้าวที่ดำ 2 ต้น อายุ 70 วัน






5.
เป็นข้าวที่ดำ 2 ต้น อายุ 70 วัน




6.
ข้าวอายุ 70 วันเหมือนกัน แต่เป็นข้าวที่พี่สาวกับพี่เขยมาช่วยดำ เห็นแกจับดำทีนึง
เป็นขยุ้มตามแบบที่เคยทำ ไม่แน่ใจว่าใช้กี่ต้น แตกกอเบียดกันแอ่ดเลย ถ้าออกรวง
จะมีถึงสิบเมล็ดต่อรวงหรือเปล่าก็ไม่รู้






7.
ขออภัย ซ้ำกับรูปที่ 1 กรุณาตัดออกครับ ส่งทีเดียวมาเบิ้ลได้แฮะ






8.
เป็นภาพข้าวเคยบอกลุงว่า ใบไหม้ คนเหนือเรียกว่า เพี๊ยงลง แต่ลุงบอกว่าเป็นเชื้อ
รา ต้นที่ใบแห้งมากผมถอนเผาทิ้ง ที่แห้งน้อยตัดใบแล้วเผาทิ้ง ฉีดสมุนไพรรสขม
จัด ๆ + น้ำส้มควันไม้ + ไบโออิ นิดหน่อย เสียตังค์ไปไม่ถึงร้อย ถ้าซื้อยาฉีดกัน เพี๊
ยง ตามชาวบ้านบอกก็ชุดละ 600 บาท ผมฉีดสมุนไพร 2 วันครั้ง ประมาณ สี่ ห้า
ครั้ง ทุกอย่างกลับคืนสภาพเดิม ต้นที่ตัดใบไหม่ทิ้งแตกใบใหม่






9.
ตรงที่สาวน้อยชี้มือคือบริเวณที่ข้าวเกิดอาการใบเหลืองตามรูปที่ 8 ซึ่งตอนนี้หาย
เป็นปกติแล้วครับ ออกหางแย้แล้ว






10.
เป็นรูปข้าวไม่ดอกับข้าวดอของนาข้างเคียง ลุงดูทั้งต้นและรวงของเขาซีครับต้นสูง
จะท่วมหัวรวงของเขาตั้งเด่ ส่วนข้าวดอของผมที่สาวน้อยชี้มือต้นเตี้ย(ได้รับปุ๋ยสูตร
ของลุง)เมล็ดแน่นตึ๊ก รวงห้อยย้อยเลยแหละ (ดูรูปที่ 2) สาวน้อยที่ชี้มือนั้น กำลัง
ใจครับชี้มือบอกว่า ป้อข้าวของเฮาอยู่ทางเพ้ (พ่อข้าวของเราอยู่ทางนี้).....






11.
เป็นข้าวดอที่ขึ้นปนครับ ต้นเตี้ย รวงห้อย ด้วยเหตุนี้แม่ยายถึงไม่ให้ถอนทิ้ง






12.
เป็นข้าวดอที่ขึ้นปนครับ ต้นเตี้ย รวงห้อย ด้วยเหตุนี้แม่ยายถึงไม่ให้ถอนทิ้ง






13.
ซ้ำกับรูปที่ 5 ...ส่งมาเบิ้ลได้ไงหว่า ตัดออกครับ ส่งรูป 13 มาให้ใหม่แล้วครับ - เป็นรูปรวงข้างดอครับ



ขอเรียนว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.54 ข้าวอายุครบ 65 วัน ผมฉีด ไทเป + ไบโออิ ไป 1 ครั้ง มาวันนี้ 7 ต.ค.54
ข้าวอายุ 70 วัน ฉีด ไทเป 40 ซีซี. + ไบโออิ 20 ซีซี. + สมุนไพร + น้ำส้มควันไม้ อย่างละ 20 ซีซี./ น้ำ
20 ลิตร (ต้องลุยดงกอข้าวลงไปฉีด ขนาดใส่เสื้อแขนยาว ยังคันสุด ๆ )....

มาวันนี้ 7 ต.ค.54 แม่ยายกลัวผมจะถอนข้าวดอของแกทิ้ง แกอุตส่าห์ลงไปเกี่ยวเอามาตาก ตามรูปที่ 13 ครับ


อากาศตอนเช้าเย็นนิดหน่อย ตอนสาย ๆ แดดแรง ตอนบ่ายมีฝนปรอย ๆ สามฤดูในวันเดียวครบเลยแหละลุง
จะต้องเพิ่ม แม๊กสปีด กับ สังกะสี เพียวๆ อย่างละ 1 ช้อนชา/น้ำ 20 ลิตรมั๊ยครับ หรือเมื่อครบ 75 วัน จะใช้
ไทเป + ไบโออิ + แคลเซียม-โบร่อนอย่างละ 20 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร หรือจะทำสารลมเบ่ง ....น้ำส้มสายชูไม่มี
ไม่เป็นไร ที่นี่น้ำหมักผักกาดดองหาได้ไม่ยาก หรือไม่ก็ใช้น้ำหม่าข้าว (น้ำแช่ข้าวเหนียวค้างคืนก่อนเอาข้าว
มานึ่ง) ใส่กากน้ำตาลไปหน่อย ทิ้งไว้อีกสองวัน เปรี้ยวปรื๊ดเลยครับ



ลุงถามว่า ลูกเขยเห็นอะไรแม่ยาย .... ก็งูเห็นนมไก่ไปแล้วไงล่ะครับ แต่ว่า ความตั้งใจของผมตั้งแต่แรก คือ
ข้าวครั้งแรกที่ผมทำนี้ จะคิดแต่เพียงว่าได้ลงทุนไปทั้งหมดเท่าไหร่จะได้เป็นแรงใจในการทำครั้งต่อไป (คือจะ
ปลูกข้าวหอมนิลครับ เค้าว่า อากาศเย็นเมล็ดข้าวจะสีออกดำดี มีพันธุ์แล้ว ประมาณ 20 กิโล / 2 ไร่ (นาดำ)
ส่วนว่า ครั้งนี้ขายข้าวได้ทั้งหมดเท่าไหร่ ผมจะยกให้แม่แกทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพราะแกช่วยเลี้ยง
สาวน้อยที่ยืนชี้มือนั่นแหละครับ หลานข้าใครอย่าแตะ ....

ความจริง หลานเป็นสื่อน่ะครับลุง เข้าตำรา ให้ท่าน ท่านจักให้ตอบสนอง ฯ แต่อาจจะแบ่งเอาไปสีเป็นข้าวกล้อง
จะส่งให้พ่อของผม ทางกรุงเทพฯซักครึ่งกระสอบ พ่ออายุ 95 แล้วครับ น้ำกำลังว่าจะขึ้นแถวสะพานกรุงเทพ ฯ
บ้านพ่ออยู่แถวนั้นครับ ถ้าข้าวออกรวงเมื่อไหร่ จะเรียนให้ลุงทราบต่อไป


ขอบคุณครับ




http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Private_Messages&file=index&folder=inbox&mode=read&p=1824&sid=5a175d8cf531e7937ee14762e6614552







.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 23/10/2011 6:52 am, แก้ไขทั้งหมด 9 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11557

ตอบตอบ: 22/10/2011 1:22 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)


จาก : Sombutt

ถึง : kimzagass

ตอบ : 22/10/2011 12:06 am
ชื่อกระทู้ : จะปลูกข้าวหอมที่เชียงรายครับ

-------------------------------------------------------------------------------------


เรียน ลุงคิมทราบ
สมบัติ – เชียงราย ขอรายงานความคืบหน้าของการปลูกข้าวหอมที่เชียงรายให้ทราบครับ

ขอเรียนว่า
เนื่องจากการส่งรูปทางโทรศัพท์ บางครั้งรูปภาพไม่เรียงลำดับกัน ทำให้เนื้อเรื่องกับรูปกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน ดูแล้วไม่ต่อเนื่องกัน ผมก็เลยขออนุญาตส่งรูปผ่านทางคุณน้ำส้มนะครับ ส่วนคำอธิบายประกอบภาพผมจะส่งมาทางเน็ต kasetloongkim.com ลุงคงไม่ว่ากะไรนะครับ (จะว่าไปแล้วค่าส่งรูปทางโทรศัพท์ 18 รูปก็ซื้อ ระเบิดฯ 30-10-10 ได้ 1 ลิตรแล้วครับลุง)


รูปชุดนี้ ว่าด้วยเรื่อง ข้าวที่ขึ้นปนในแปลงนา อันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก การปลูกข้าวครั้งแรก จึงขาดประสบการณ์ และ น้ำท่วมปาก ทำให้...

- ได้เมล็ดพันธุ์ไม่ดีเท่าที่ควร มีข้าวลีบปน 10 % มีข้าวอย่างอื่นเจือปน 5 % ญาติทางฝ่าย ผบ.ทบ. เอามา (บอกว่าแบ่ง) ขายให้ ก็นึกว่า คงไม่เอาแมวมาย้อมสี ...กข.15 ถังละ 300 บาท ยังพูดเอาบุญเอาคุณซะอีก ด้วยความเกรงใจแม่ยายก็เป็นงี้แหละ รู้ยังงี้ซื้อพันธุ์ข้าวหอมนิล หรือสุโขทัย 1 หรือ 2 มาปลูกซะดีกว่า ให้มันรู้ดีรู้ชั่วกันไปเลย ของชัวร์ๆ ราคา กก.ละ 30 บาทเท่ากัน …เผลอ ๆ ฤดูนาคราวหน้า อาจปลูก ไรซ์เบอรี่ ติดต่อพันธุ์คุณชัชวาลย์เอาไว้แล้วครับ ทั้งหอมนิลและไรซ์เบอรี่ ชอบอากาศเย็น เมล็ดจะดำปี๋เลยครับ

- ผมกำลังว่าจะคัดแยกเมล็ดพันธุ์ ด้วยความหวังดี แม่ยายเอาเมล็ดข้าวแช่ทั้งกระสอบ แล้วเอามาบ่มต่อตามที่แกเคยทำมา (ชั่วชีวิต) พอเทออกมา มีเมล็ดที่ไม่มีรากงอกแยะเลย บีบดูแล้วจึงรู้ว่าเป็นข้าวลีบที่ปนมากับข้าวดี ไม่มีเวลาคัดทิ้ง เอาหว่านในแปลงตกกล้าไปพร้อมกับข้าวที่งอกราก ส่วนเมล็ดข้าวอื่น ๆ ที่เป็นข้าวปน ตอนที่ตกกล้ายังไม่รู้จักว่าเป็นยังไงครับ

ปลูกข้าวไม่ยาก เอาเมล็ดจิ้มดินแฉะๆ สองวันก็งอกเป็นต้นแล้ว แต่การดูแล มดไม่ไต่ ไรไม่ตอม จนถึงออกรวงได้ผลดี (รวงละ 300 เมล็ด) ไม่ง่ายอย่างที่คิด อุปสรรคทั้งมาจากสารพัดศัตรูรบกวน แล้วยังมาจาก (ปาก) คนรอบข้าง นอกจากนี้ยิ่งเป็นการปลูกข้าวอินทรีย์ชีวภาพเสริมเคมี (ตามไสตล์ลุงคิม) ด้วยแล้ว เหนื่อยกว่าปลูกข้าวที่ (นาข้างเคียง) ใส่ปุ๋ยบ้าเลือด กับฉีดสารพัดสารพิษเป็นสามเท่า ต้องพ่นกันทุก 3 วัน 5 วัน 7 วัน จนคนเค้าว่า ฉีดพ่นอะหยังปะล้ำปะเหลือ นักแต๊นักบอด .... ผมขอเรียนรายงานผลดังนี้ครับ






1.
เป็นรูปข้าว กข.15 อายุ 85 วัน (21 ต.ค.54) เริ่มออกรวง เป็นช่อเห็นแหลม ๆ
ออกมา ฉีดพ่นไทเป แล้วสองครั้ง วันนี้ฉีดพ่นเป็นครั้งที่สาม ...ตั้งแต่ตกกล้า จนถึง
วันนี้ นอกจากเกิดใบไหม้เพราะ (เพี๊ยงลง) เชื้อราแล้ว ใบข้าวเขียวยังกับพระอินทร์
จนคนคิดว่า ผมใส่ ยูเรีย หลายกระสอบ ความจริงใช้ 46-0-0 + 16-16-16 ตาม
ที่ลุงบอกว่า ใช้แทน 16-8-8 หว่านไร่ละ 10 กก. รวม 2 ไร่ ก็ 20 กก.





3.
เป็นข้าวที่ขึ้นปนในแปลงนาของผม ชาวบ้านเรียกว่า ข้าวดอ ดอไม่ดอผมไม่รู้จัก รู้
แต่เพียงว่า ที่ต้นงามออกรวงแน่นแบบนี้เป็นผลมาจาก ระเบิด 30-10-10 ตามด้วย
แคลเซี่ยม โบรอน + ไบโออิ ตั้งแต่ระยะกล้า + สมุนไพรและน้ำส้มควันไม้ + น้ำ
ต้มจากเปลือกสะเดา .... เมื่อเราฉีดพ่นข้าวดีทุก 5 วัน ข้าวดอก็ได้รับผลจากปุ๋ย
ของลุงคิมไปด้วย มันก็เลยแตกกอออกรวงห้อยระย้าอย่างที่เห็น






4.
รูปที่ 4, 5, และ 6 เป็นรูปข้าวดอ อายุ 75 วันที่ขึ้นปน ผมเคยคุยกับลุง ๆ บอกให้
ถอนทิ้ง แต่ แม่ยายบอกไม่ต้องถอน ปล่อยให้แก่ จะเกี่ยวเอาไว้ให้ไก่กิน พอมันเริ่ม
จะแก่ (80 วัน) ผมเห็นว่าเมล็ดมันแปลก ไม่เหมือนข้าวทั่วไป คือสั้น ๆ ป้อม ๆ มีสี
ออกม่วงปน กลัวว่าถ้าปล่อยให้แก่ เมล็ดจะร่วง จะมีปัญหาในการทำนาครั้งต่อไป ผม
เลยเกี่ยวเอามาตากแดดทั้งรวง

ผมเคยบอกลุงว่าจะเกี่ยวแล้วส่งฝาก (พี่ชาย) มาให้ลุงช่วยดูซิว่า มันเป็นข้าวอะไร
แต่ผมอยากบอกว่า ลักษณะเหมือนข้าวไร่ที่ชาวเขาปลูกบนดอย ซึ่งมีโอกาสเป็นไป
ได้ที่เมล็ดจะปลิวตามลมมาตกลงในแปลงนาแล้วงอกก็เป็นได้ นอกจากนี้ มีข้าวไร่
ของเชียงรายอยู่พันธุ์หนึ่ง ชื่อ ซิวแม่จัน มีคนปลูกในพื้นที่ที่เรียกว่า หนองบัว อ.
เมืองเชียงราย อยู่ห่างจากบ้านที่ผมอยู่ประมาณ 10 กม และบางคนบอกว่า อาจเป็น
ข้าวญี่ปุ่น เพราะมีคนเชียงรายเคยปลูก ข่าวว่าเกวียนละ 15,000 ขณะที่ข้าวอย่าง
อื่นเกวียนละ 7,500-8,500 แต่ที่แน่ ๆ คือ น่าจะปนมากับข้าว กข.15 ที่ผมซื้อ
พันธุ์จากญาติ แม่ยาย



5.





6.





7.
เป็นเมล็ดข้าวปนที่เกี่ยวตากเอาไว้ คราวนี้ผมบอกแม่ยายว่า ขอไว้ก่อนอย่าเพิ่งเอา
ไปให้ไก่กิน เพราะถ้าเป็นข้าวญี่ปุ่น จะมีราคาแพง แม่ยายเลยเงียบ และที่เกี่ยวมา
ตากเอาไว้ ผมก็มีคนเฝ้าคอยไล่ไก่ไม่ให้เข้ามากิน






8.
เป็นเมล็ดข้าวปนที่แกะเปลือกออกดู เยื่อหุ้มเมล็ดจะมีสีออกแดงปนน้ำตาล ผมได้
ส่งรวงข้าวปน พร้อมเมล็ดข้าวและข้าวที่แกะเปลือก (อยู่ในซองพลาสติคครับ) ผ่าน
พี่ชาย ฝากคุณน้ำส้มเพื่อส่งต่อให้ลุง (หลายส่ง หลายผ่าน หลายฝากจังครับ





9.
รูปที่ 9, 10 เป็นข้าวไร่แท้ๆ ที่ชาวเรา (คนพื้นราบ) ไปปลูกแข่งกับชาวเขาบนดอย
(ข้อมูลที่ทราบ ใส่ปุ๋ย ฉีดยาฆ่าแมลง เก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อประกาศในเน็ตว่า มีเมล็ด
พันธุ์ข้าวไร่จำหน่าย คือ มันงามเกินกว่าข้าวไร่ที่ชาวดอยปลูกไว้กินเองครับ)
ลักษณะเมล็ดมีส่วนคล้ายเมล็ดข้าวที่ขึ้นปนในนาที่ผมปลูก


10.



2.
เป็นข้าวไร่แท้ๆ ที่ชาวเรา (คนพื้นราบ) ไปปลูกแข่งกับชาวเขาบนดอย


-----------------------------------------------------------------------------------

บทแทรก :

ขอความกรุณาลุงช่วยพิจารณาดูด้วยว่าเป็นข้าวอะไร ...พี่ชายบอกว่าได้รับรวงข้าวที่ผมส่งมาแล้วจะเอาออกมาให้ลุง แต่ที่บ้านน้ำกำลังขึ้นสูงกว่าริมฝั่ง เอากระสอบทรายกั้นเอาไว้ 5 ชั้น น้ำขึ้นถึงกระสอบทรายชั้นที่ 2 ต้องติดเครื่องสูบน้ำออกทั้งวันทั้งคืน ขอความกรุณาลุงรอดูข้าวของจริงหน่อยนะครับ......

ขอเรียนเพิ่มเติมอีกนิด หลังจากที่ข้าวถูกฉีดพ่นด้วย ไบโออิ + ไทเป ไป 3 รอบ ห่างกันรอบละ 5 วัน ณ วันนี้ 23 ตุลา (วันปิยะมหาราช) ข้าวโผล่รวงออกมาเกือบเต็มแปลงแล้วครับลุง ถือเป็นมหามงคลอย่างสูงสุดเลย ว๊าว เห็นข้าวคนอื่นออกรวงมาแยะก็แค่เฉย ๆ แต่ไม่ดีใจเท่าข้าวที่เราปลูกออกรวงเลย กูทำกับมือโว๊ย ได้กินข้าวฝีมือเราแน่นอนละคราวนี้ ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก ขอบคุณอย่างที่สุดเลยครับลุง ...แล้วตอนนี้เอาอะไรฉีดพ่นต่อล่ะครับ จะเอายูเรก้าฉีดพ่นตอนไหนครับ จะให้ทำยังไงต่อกรุณาบอกด้วยครับ คืนนี้ขอเอามุ้งไปกางนอนที่ตูบ (กระต๊อบ) ริมแปลงนาละครับ เปิดสีสันชีวิตไทยที่อัดเสียงเอาไว้ฟังเสียงลุงไปด้วย ก่อไฟปิ้งข้าวจี่กินกับกาแฟร้อน ๆ ท่ามกลางอากาศที่เริ่มเย็น เอา KFC มาแลก .... เอาข้าวจี่ไป เอา KFC มา เฮ




ตอบ ..... ให้ไทเป.จนข้าวออกรวงมาแล้ว ถ้ามีโอกาสให้ เอ็นเอเอ.เดี่ยวๆ อัตรา 1
ซีซี./น้ำ 1 ล. (อุณหภูมิปกติ 1 ซีซี./น้ำ 1 ล. .... อุณหภูมิสูง 1 ซีซี./น้ำ 1 ล.
ครึ่ง....อุณหภูมิต่ำ 1 ซีซี.ครึ่ง/น้ำ 1 ล. .... หรือ อากาศร้อนใส่ลด อากาศหนาว
ใส่เพิ่ม 25% ของอากาศปกติ) ซัก 1 ครั้ง จะช่วยให้เกสรของทุกดอกผสมติดดี ส่ง
ผลให้ได้จำนวนเมล็ดในรวงมากขึ้น สุดท้ายจริงๆ คือ ผลผลิตรวมต่อไร่เพิ่มขึ้นด้วย

หลังจากเกสรผสมติด ข้าวเริ่มเป็นเมล็ด เรียกว่า "น้ำนม" เพราะแป้งในเมล็ดยังเป็น
น้ำเหลวๆอยู่เลย ระยะนี้เริ่มให้ ยูเรก้า เดี่ยวๆ โดยสลับครั้งกับ ไบโออิๆ (แยกให้) ทุก
7-10 วัน หรือ ยูเรก้า+ไบโออิ (รวมมิตร) ทุก 7-10 วันก็ได้ ถนัดอย่างไหนเอา
อย่างนั้น

ระยะน้ำนม หาโอกาสให้ แคลเซียม โบรอน เดี่ยวๆ อัตรา 20 ซีซี./น้ำ 20 ล. ซัก 1-
2 รอบ ให้เมื่อขยัน ข้าวจะแกร่ง บดไม่แตก เมล็ดใสไม่เป็นท้องปลาซิว

ก่อนเกี่ยว 5-7 วัน ให้ "น้ำ 20 ล.+ นมสด 20 ซีซี." ซัก 1 รอบ จะช่วยลด
ความชื้นได้ดี

ทุกครั้งที่ฉีดพ่นทางใบ ให้ +สารสมุนไพรร่วมเข้าไปด้วย ประหยัดเวลา แรงงาน.........................ลุงคิมครับผม

--------------------------------------------------------------------------------------




ขอความกรุณาลุงช่วยพิจารณาดูด้วยว่าเป็นข้าวอะไร ส่วนข้าว กข.15 ใช้ปุ๋ยตามสูตรของลุงต้านแดด ต้านลม ต้นแข็ง โดนลมพายุไม่มีล้ม สมกับที่แม่ยายบอก “ข้าวใส่ปุ๋ยตาคิมมันแข็งแต๊“ ในขณะที่ข้าวคนอื่น รวมทั้งของพี่สาว โดนพายุล้มระเนระนาด

เกือบลืม ข้าวดอ (พิษณุโลก) ของแม่ยายอีกแปลงหนึ่ง 4 ไร่ เกี่ยวขายไปแล้ว ได้ 35,000 บาท เฉลี่ยแล้วตกไร่ละ 8,750 บาท เวลานี้ข้าวพิษณุโลก กก.ละ 12 บาท(เกวียน หรือตัน ละ 12,000 บาท ก็ไม่เลวนะครับ) ตกได้ข้าวไร่ละประมาณ 730 ถัง .... ผมพยายามแอบถามพี่สาว พี่เขย และคนใกล้ชิดว่า ลงทุนไปไร่ละเท่าไหร่ ก็ไม่ได้คำตอบที่แน่นอน .... แต่ไม่ยากที่จะรู้ ผมก๊อบอกวิธีให้ลูกสาวเค้าถามแม่เค้าเองว่า “อีแม่ขายข้าวปี๋นี้รวยเน้อ ได้จ๊าดนัก ตั้งสามหมื่นห้า” .... ”นักตี้ไหน เหลือสองหมื่น” (แม่ขายข้าวปีนี้รวยน๊า ได้ตั้งแยะ สามหมื่นห้า.... แยะที่ไหน เหลือสองหมื่น) นี่คือคำตอบสุดท้าย 555 ..... ก็แสดงว่า 4 ไร่ ลงทุนไป 15,000 หารด้วย 4 ก็เท่ากับ ไร่ละ 3,750 บาท โดยประมาณ .... ส่วนของผมไม่น่าจะเกิน สองพัน (ถ้าจะเกินก็อยู่ที่เจ้าตัวเล็กที่มาช่วยนั่นแหละ ซื้อขนมทั้งวัน) จะได้กินข้าวหรือเปล่าครับลุง 85 วันแล้วเพิ่งจะออกดอกแพลมๆ จะเฝือใบซะก็ไม่รู้ ใบเขียวปี๋ เอาเป็นว่า...

วันที่ 21 ต.ค. 54 ผมฉีดพ่น "ไทเป" ไปอีกรอบแล้ว คงไม่เกิน 10 วันนี้แหละ ถ้ายังไม่ออกรวง ลุงก็คอยแก้ต่างกับแม่ยายของผมเอาเองก็แล้วกัน ถ้าข้าวออกรวงพร้อมกันเมื่อไหร่ จะเรียนให้ลุงทราบต่อไป

พี่ชายบอกบ้านลุงน้ำกำลังขึ้น (ให้รีบตัก) ยังไงๆ ก็ขอให้บ้านลุงรอดพ้นจากอุทกภัยนะครับ อยู่ใกล้ร่มพระบารมี ไม่ค่อยน่ากลัวครับ แต่สวนผักชีฝรั่งของพี่ชาย ห่างพุทธมณฑล 10 กม. ออกไปทางลำพญา. จมบาดาลไปแล้ว ดูจากรูปถ่ายที่พี่ส่งให้ มีกระสอบทรายกั้นรอบบ้าน ผมว่าปีนี้แถบพุทธมณฑล ศาลายา น้ำยังน้อยกว่าปี 2526 ปีนั้นน้ำถึงเอว ต้องใช้เรือครับ กินปลาจนเบื่อ

ขอถามอีกนิดครับ ต่อจากที่ข้าว (85 วัน) ออกดอกตามในรูปที่ 1 แล้ว ต่อไปใช้อะไรฉีดล่ะครับ

เวลานี้ ปุ๋ยของลุงที่หมดแล้วก็มี ไบโออิ. แคลเซี่ยม โบรอน .(รอพี่ชายส่งให้คงต้องรอหลังน้ำลด)

ของที่เหลือก็มี 30-10-10 ประมาณ 2 ลิตร ยูเรก้าเกือบ ๆ 1 ลิตร แมกซ์สปีด 1/2 กก. สังกะสี 1/2 กก. น้ำส้มควันไม้ 2 ลิตร สมุนไพร 2 ลิตร ไทเป 1/2 ลิตร หัวกลูโคสน้ำ 1 ลิตร

สำหรับ NAA กับ จิ๊บ. และ ไคโตซาน. จำเป็นต้องใช้หรือไม่ครับ พอหาซื้อได้ ...ส่วน แคลเซี่ยม โบร่อน. ผมบอกให้พี่ชายซื้อสูตรที่ผสมเองส่งไปให้ เค้าก็ไม่ซื้อส่งไปให้ซักที แต่มันมีขาย ชื่อเรียกว่า [Pro C-BN] มีส่วนผสมคือ CaO 5.7%, B 1.0 %, มี Protein as amino acid 23.0 % อัตราการใช้ 20-30 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร คงจะพอกล้อมแกล้มซื้อใช้ไปก่อน .... ตัวแทนผลปุ๋ยรุ้งที่ เชียงรายไม่มีซะด้วย ขออภัยที่เขียนมาค่อนข้าวยาว ...


ขอบคุณครับ




http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Private_Messages&file=index&folder=inbox&mode=read&p=1840&sid=964b8ac9d6c51fb19bb826a6e7a12c46


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 23/10/2011 4:46 pm, แก้ไขทั้งหมด 3 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©